เกมวิวาห์เจ้าสาวมาเฟีย
8.0
เขียนโดย ศิริพารา
วันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 22.33 น.
15 ตอน
1 วิจารณ์
17.45K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2559 11.35 น. โดย เจ้าของนิยาย
15) เกมวิวาห์เจ้าสาวมาเฟีย ตอนที่ 8 50%
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ คอนเนลิโอขับเชลบี้ คอบร้าคู่ใจไปถึงคอฟฟี่ช็อปก่อนเวลานัดหมายราวสิบห้านาที เขาดูเท่เหลือร้ายในแบบผู้ชายอันตรายเมื่อก้าวลงมาจากรถแรงม้าสูงในตำนาน ใบหน้าคร้ามคมมีเคราผุดขึ้นตามแนวสันคาง การก้าวเดินนั้นดูมั่นใจจนสามารถดึงดูดความสนใจของผู้คนที่นั่งอยู่หน้าร้านคอฟฟี่ช็อปให้มองตามได้เป็นสายตาเดียว
ร่างสูงใหญ่ทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ หนึ่งในชุดโต๊ะเล็กๆ ที่ทางร้านจัดไว้ต้อนรับลูกค้า เอสเพรสโซ่ยังเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมของชาวอิตาเลียนไม่เว้นแม้แต่เขา ถุงแบรนด์เนมสีส้มที่วางไว้บนเก้าอี้ใกล้ๆ นั้นยังทำให้สาวน้อยใหญ่รู้ว่าผู้ชายอันตรายคนนี้มีฐานะทางการเงินอันมั่งคั่ง
สาวๆ หลายคนต้องอมยิ้มเมื่อเห็นผู้ชายท่าทางอันตรายถอดแว่นกันแดดแล้วสอดมันไว้ในสาบเสื้อเชิ้ต เปิดเผยใบหน้าจริงให้เห็นเต็มตา สายตาหลายคู่ที่มองมาอย่างให้ความสนใจนั้นทำให้คอนเนลิโอยิ้มที่มุมปาก หากนั่นไม่ใช่เพราะเขินหรือไม่คุ้นชินกับสายตาของสาวๆ ที่ทอดสะพานให้อย่างเปิดเผยเช่นนี้ แต่กำลังคิดว่าการเสียเวลาแต่งตัวมากกว่าปกติก็ได้ผลน่าดูชมไม่น้อย
ความจริงแล้วเขาไม่ต้องหล่อขนาดนี้ก็ได้ถ้าแค่จะเอาของขวัญมาให้ใครสักคน แต่เป็นเพราะหลังจากจบเรื่องนี้เขาตั้งใจจะไปหานางโชว์เวอร์จิ้นต่างหาก
แค่คิดถึงเธอยังต้องยิ้มกว้างราวกระชุ่มกระชวยไม่ต่างจากสองชั่วโมงหลังมีเซ็กซ์เป็นครั้งแรกในชีวิต ทั้งที่ความจริงแล้วรู้อยู่เต็มอกว่านั่นเป็นเพียงแค่ความชอบ มันอาจจะรุนแรงมากกว่าปกติเพราะชอบจนเข้าขั้นคลั่งไคล้ในรูปร่าง สรีระของเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น นั่นยังไม่รวมถึงใบหน้าและสิ่งที่ทำลายไปโดยไม่ได้ตั้งใจ
มันอาจจะเป็นโชคดีที่เธอไม่มีสติครบถ้วนในตอนที่เขาได้ทำลายเยื่อบางๆ นั่น แต่มันก็เป็นโชคร้ายที่เขาไม่ได้แสดงชั้นเชิงที่สั่งสมมาตลอดวัยหนุ่มให้เธอเต็มอิ่มถึงอารมณ์
แม้จะกวาดสายตาไปรอบๆ บริเวณแต่ก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะเห็นร่างของเทพีนำโชค แต่การคิดถึงผู้หญิงอีกคนก็ทำให้ลืมเลือนอารมณ์หงุดหงิดที่เกิดจากการรอคอยไปชั่วขณะ อุปกรณ์สื่อสารเครื่องบางที่ให้ประโยชน์การใช้สอยได้มากกว่าการติดต่อสื่อสารกับใครสักคนถูกดึงออกมาจากกระเป๋าด้วยความอยากรู้ว่าในเวลานี้ เธอจะอยู่จุดไหนในนิวยอร์ก
แอปพลิเคชันติดตามตัวที่สร้างขึ้นมาเพื่อติดตามผู้นำของกลุ่มเวนโตล่าโดยเฉพาะ ถูกเปิดขึ้นมาเช็กหาพิกัดในทันที ทว่าจุดสีเขียวที่กะพริบให้เห็นในหน้าจอนี้อยู่ไม่ไกลกับตำแหน่งที่เขานั่งอยู่สักนิด ความจริงเธออยู่ด้านข้างของตึกนี้เอง
พราวพุธกระชับสาบเสื้อคาร์ดิแกนตัวโคร่งเข้าหากัน เมื่อเดินมาถึงร้านคอฟฟี่ช็อปที่ตนเป็นคนนัดหมาย หญิงสาวเดินเข้ามาในบริเวณที่มีโต๊ะหลายๆ ชุดตั้งไว้หน้าร้าน ในขณะที่กวาดสายตาหาร่างของผู้สูงวัย
ทิศทางที่เขานั่งอยู่นั้นหันหลังให้เธอ แต่จุดสีเขียวที่อยู่หน้าจอเคลื่อนผ่านจากตำแหน่งที่เขาอยู่เพียงแค่นิดเดียว มันใกล้กันมากจนจุดทั้งสองนั้นเกยทับกัน แน่นอนว่าการแสดงผลดังกล่าวทำให้มาเฟียหนุ่มต้องเงยหน้าขึ้นมองร่างของผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งยืนหันหลังให้เขาอยู่ห่างออกไปเพียงแค่เอื้อมมือ
ถึงแม้จะไม้ได้เห็นสร้อยบนข้อมือบางแต่เขาก็จดจำเสี้ยวใบหน้าของเธอได้เป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าตอนนี้เส้นผมสีดำขลับนั้นจะถูกเจ้าตัวมัดเอาไว้เป็นทรงโดนัท โชว์ให้เห็นศีรษะได้รูปไม่มีคราบนางโชว์สุดเฉี่ยวเช่นเมื่อคืน แต่ลูกผมที่ตกลงมานั้นยังทำให้เธอเป็นผู้หญิงเซ็กซี่ในสายตาเขาอยู่เช่นเคย
“เฮ้...” เสียงทักทายนั้นทำให้เธอหมุนตัวกลับไปยังต้นกำเนิดเสียง แม้จะเป็นคำทักทายสั้นๆ แต่เสียงห้าวนั้นลากยาว ซึ่งเจ้าตัวเองก็ยังรับรู้ได้ว่าไม่เคยใช้น้ำเสียงเช่นนี้ทักทายใคร เขายอมรับว่าประหลาดใจไม่น้อยที่ได้เจอเธอและไม่ทันได้เตรียมคำทักทายอื่นใดนอกเสียจากคำพูดโง่ๆ ซึ่งดังขึ้นทำลายความเงียบงัน “ไม่คิดว่าจะได้เจอคุณ เซ็กซี่”
มีสายตามากกว่าสิบคู่กำลังจ้องมองเหตุการณ์ดังกล่าวแต่ตอนนี้พราวพุธไม่ได้สนใจใครนอกเสียจากผู้ชายที่ยิ้มให้เธออยู่ตรงหน้า!
“คะ...คุณ ไอ้...” พราวพุธแทบจะพูดไม่เป็นภาษาเพราะไม่คิดว่าจะเจอผู้ชายที่ทำให้ต้องเสียน้ำตามาหลายชั่วโมง นิ้วชี้ที่ยกขึ้นนั้นยังสั่นซึ่งคนมองไม่อาจจะเข้าใจความรู้สึกที่แท้จริงจากปฏิกิริยาที่เธอแสดงออกมาเลย
“ทำไมทำหน้าอย่างนั้น อย่าบอกนะว่าจำผมไม่ได้” สาบานได้ว่าถามดีๆ ไม่มีเจตนาเยาะเย้ยหรือยั่วยุอารมณ์ให้ขุ่นข้องหมองใจ
“ไอ้คนเลว” คำด่าว่านั้นยังน้อยไปในความรู้สึกของพราวพุธ ฝ่ามือบางจึงกระแทกเข้าข้างใบหน้าคร้ามคมเต็มแรงแล้วหมุนตัวกลับวิ่งหนีออกไปโดยไม่สนใจผู้คนรอบกายเพราะตอนนี้ม่านน้ำตาทำให้ภาพรอบตัวพร่ามัวไปเสียหมด และไม่อาจสั่งให้มันหยุดได้เลย
ความเลวร้ายทุกอย่างตกอยู่ที่มาเฟียหนุ่มซึ่งยืนงงงันอยู่ท่ามกลางสายตานับสิบคู่ นั่นยังไม่รวมถึงเสียงอุทานของใครหลายคนที่ดังขึ้นแล้วเจ้าตัวรีบเอามือปิดปากเพราะไม่ใช่มารยาทที่ดีนักหากไปสนใจเรื่องของคนอื่น
อับอาย!
คงมีเพียงครั้งนี้ที่เข้าถึงและรู้ซึ้งกับความรู้สึกเช่นนั้นได้มากที่สุด ในขณะที่ไม่เข้าใจว่าถูกผู้หญิงประทุษร้ายร่างกายเพราะเหตุใดนั้น มาเฟียหนุ่มต้องขบฟันแน่นจนเห็นกรามเป็นสันนูนพร้อมล้วงกระเป๋าเข้าไปหยิบธนบัตรใบหนึ่งมาวางไว้บนโต๊ะ ก่อนจะหยิบถุงของขวัญและเดินข้ามถนนตรงไปยังรถยนต์ของตน
“บ้าเอ๊ย!” สบถออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ ในขณะที่วนรถไปยังถนนอีกเส้นหนึ่งเพื่อดักหน้าผู้หญิงที่เพิ่งทำให้เขารู้สึกเฉียดใกล้กับคำว่าอับอายขายขี้หน้าได้มากที่สุดในชีวิต ถ้าคิดว่าจะโกรธเรื่องที่เขาทำลายเยื่อพรหมจรรย์แล้วล่ะก็... มันเป็นเรื่องตลกร้ายสิ้นดี
ในเมื่อว่าเธอเต็มใจขายแล้วเขาก็ตกลงซื้อ มันใช่ความผิดของเขาด้วยเรอะ?!
พราวพุธรีบปาดน้ำตาออกจากสองแก้ม ไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าจะต้องมาเผชิญหน้ากับผู้ชายที่ปล้นเอาสิ่งที่หวงแหนของตนไป ทั้งที่ตั้งใจมาเป็นอย่างดีแล้วว่าจะไม่กลับไปคิดถึงเรื่องที่พลาดไปเพราะคงไม่อาจจะย้อนเวลากลับไปแก้ไขอะไรได้แต่จนแล้วจนรอดเธอก็ยังต้องร้องไห้เมื่อเห็นแววตาคู่คมนั้นจ้องมองอย่างเป็นประกาย เปิดเผยความเสน่หาต่อเธออย่างโจ่งแจ้ง
ยอมรับอย่างอดสูใจว่า แววตาเช่นนั้นที่ทำให้เธอเผลอไผลปล่อยตัวเองให้เข้าใกล้ความอันตราย
การหยุดร้องไห้ หยุดการก้าวเดินแล้วขบคิดนั้นทำให้เริ่มมีสติแล้วคำบอกกล่าวเกี่ยวกับผู้ชายคนนั้นก็ดังก้องขึ้นมาในหู
‘เขาเป็นหนึ่งระดับหัวหน้าของแก๊งมาเฟียในลิตเติ้ลอิตาลี’
อันธพาล นักเลงหรือมาเฟีย แม้แท้จริงแล้วจะมีความหมายที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงแต่คนที่อยู่ในวงโคจรเหล่านี้จริงๆ แล้วแทบจะจำแนกฝ่ายดีหรือเลวไม่ได้เลยเสียด้วยซ้ำ
ก่อนที่ความคิดจะเลยเถิดไปไกล เสียงรถยนต์ที่เลี้ยวออกมาจากมุมถนนก็ดึงพราวพุธหลุดออกมาจากห้วงความคิดเพื่อพบกับหนึ่งในระดับหัวหน้าแก๊งอาชญากรที่กำลังจอดรถ
ใช่! เธอจะไม่เรียกมันว่ามาเฟียเพราะมันดูสวนทางกับสิ่งที่เขาช่วงชิงไปจากเธอยิ่งนัก
พราวพุธกะพริบตาถี่ๆ แล้วหมุนตัวกลับสั่งตัวเองให้วิ่งจนสุดชีวิต แต่เชื่อเถอะว่าได้ระยะทางไม่ถึงครึ่งบล็อกก็รู้สึกได้ว่าข้อศอกถูกรั้งเอาไว้แล้วกระชากเธอให้เข้าไปปะทะกับแผงอกกว้าง
“กรี๊ด... ปล่อยเดี๋ยวนี้ อุ๊บ” เสียงหวีดร้องและคำบริภาษทุกอย่างเลือนหายเข้าไปในลำคอ เมื่อริมฝีปากหนาบดลงมาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
พราวพุธดิ้นรนสุดชีวิต ทุบตีเนื้อตัวเขาไม่เลือกที่ ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อถูกปล้นจูบอยู่ข้างถนนที่มีผู้คนเดินผ่านไปมาแล้วมองยิ้มๆ ไม่ต่างจากคู่รักกำลังงอนง้อหรือแสดงความรักต่อกัน
คอนเนลิโอเลิกคิ้วอย่างแปลกใจเมื่อสาวในอ้อมกอดไม่ได้หัวอ่อนยอมให้จูบง่ายๆ แต่เธอหยุดดิ้นรนแล้วหันมาเล่นงานเขาด้วยการไล่กัดจนต้องถอนริมฝีปากออกมาแทบไม่ทัน
“มีกัดด้วย” ถามทั้งที่ยังสอดฝ่ามือรั้งท้ายทอยได้รูปให้อยู่ใกล้ๆ เช่นเดิม
“ลองจูบฉันดูอีกทีสิ คราวนี้จะกัดให้ลิ้นขาดเลย” ความโมโหผสมอับอายทำให้ท้าทายเขาออกไปเช่นนั้น
“จูบแน่ จูบอีกหลายๆ ทีด้วย... แต่ที่ขาดน่ะไม่ใช่ลิ้นผมหรอก คนสวย” คราวนี้ถึงเธอจะดิ้นสักแค่ไหนก็ไม่เป็นผลเพราะถ้าเทียบกับร่างกายของเขาแล้วดูด้อยและเสียเปรียบทุกประตู
มือที่เคยตรึงท้ายทอยเลื่อนมาบีบที่ขากรรไกร นั่นเป็นการทำให้เธอเผยอปากออกเพราะความเจ็บ “ไอ้อนเอว อังแออู้อิ๋ง (ไอ้คนเลว รังแกผู้หญิง)”
แม้ความจริงแล้วอยากจะถามเธอให้รู้เรื่องกันไปว่าเขาชั่วเขาเลวตรงไหน แต่ดูเหมือนว่าคนเลวกำลังตกอยู่ในห้วงเสน่หาบาดจิตเมื่อได้มองริมฝีปากที่น่าจูบที่สุดใกล้ๆ คอนเนลิโอดูดเม้มริมฝีปากล่างค้างไว้อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะปล่อยแล้วจ้องมองด้วยดวงตาเป็นประกาย
ริมฝีปากเธอมีสีเข้มขึ้นอีกเฉดหนึ่งเมื่อเทียบกับข้างบน นั่นสามารถเรียกรอยยิ้มจากเขาได้เป็นอย่างดี แล้วอาการสั่นระริกของกลีบปากนุ่มละมุนตามการตอบสนองตามธรรมชาตินั้น กำลังเรียกร้องให้เขามอบจุมพิตเร่าร้อนเต็มรูปแบบสินะ
“เอ็บอ่ะ (เจ็บนะ)” คนที่ถูกบีบขากรรไกรล่างอยู่นานครางประท้วง
ไม่ใช่แค่เสียงเว้าวอนของเธอหรอกแต่รวมไปถึงดวงตาสีดำขลับนั้นต่างหากที่ทำให้ใจอ่อน “ผมจะปล่อยถ้าเราจะจูบกันดีๆ เหมือนเมื่อคืน”
ร่างสูงใหญ่ทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ หนึ่งในชุดโต๊ะเล็กๆ ที่ทางร้านจัดไว้ต้อนรับลูกค้า เอสเพรสโซ่ยังเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมของชาวอิตาเลียนไม่เว้นแม้แต่เขา ถุงแบรนด์เนมสีส้มที่วางไว้บนเก้าอี้ใกล้ๆ นั้นยังทำให้สาวน้อยใหญ่รู้ว่าผู้ชายอันตรายคนนี้มีฐานะทางการเงินอันมั่งคั่ง
สาวๆ หลายคนต้องอมยิ้มเมื่อเห็นผู้ชายท่าทางอันตรายถอดแว่นกันแดดแล้วสอดมันไว้ในสาบเสื้อเชิ้ต เปิดเผยใบหน้าจริงให้เห็นเต็มตา สายตาหลายคู่ที่มองมาอย่างให้ความสนใจนั้นทำให้คอนเนลิโอยิ้มที่มุมปาก หากนั่นไม่ใช่เพราะเขินหรือไม่คุ้นชินกับสายตาของสาวๆ ที่ทอดสะพานให้อย่างเปิดเผยเช่นนี้ แต่กำลังคิดว่าการเสียเวลาแต่งตัวมากกว่าปกติก็ได้ผลน่าดูชมไม่น้อย
ความจริงแล้วเขาไม่ต้องหล่อขนาดนี้ก็ได้ถ้าแค่จะเอาของขวัญมาให้ใครสักคน แต่เป็นเพราะหลังจากจบเรื่องนี้เขาตั้งใจจะไปหานางโชว์เวอร์จิ้นต่างหาก
แค่คิดถึงเธอยังต้องยิ้มกว้างราวกระชุ่มกระชวยไม่ต่างจากสองชั่วโมงหลังมีเซ็กซ์เป็นครั้งแรกในชีวิต ทั้งที่ความจริงแล้วรู้อยู่เต็มอกว่านั่นเป็นเพียงแค่ความชอบ มันอาจจะรุนแรงมากกว่าปกติเพราะชอบจนเข้าขั้นคลั่งไคล้ในรูปร่าง สรีระของเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น นั่นยังไม่รวมถึงใบหน้าและสิ่งที่ทำลายไปโดยไม่ได้ตั้งใจ
มันอาจจะเป็นโชคดีที่เธอไม่มีสติครบถ้วนในตอนที่เขาได้ทำลายเยื่อบางๆ นั่น แต่มันก็เป็นโชคร้ายที่เขาไม่ได้แสดงชั้นเชิงที่สั่งสมมาตลอดวัยหนุ่มให้เธอเต็มอิ่มถึงอารมณ์
แม้จะกวาดสายตาไปรอบๆ บริเวณแต่ก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะเห็นร่างของเทพีนำโชค แต่การคิดถึงผู้หญิงอีกคนก็ทำให้ลืมเลือนอารมณ์หงุดหงิดที่เกิดจากการรอคอยไปชั่วขณะ อุปกรณ์สื่อสารเครื่องบางที่ให้ประโยชน์การใช้สอยได้มากกว่าการติดต่อสื่อสารกับใครสักคนถูกดึงออกมาจากกระเป๋าด้วยความอยากรู้ว่าในเวลานี้ เธอจะอยู่จุดไหนในนิวยอร์ก
แอปพลิเคชันติดตามตัวที่สร้างขึ้นมาเพื่อติดตามผู้นำของกลุ่มเวนโตล่าโดยเฉพาะ ถูกเปิดขึ้นมาเช็กหาพิกัดในทันที ทว่าจุดสีเขียวที่กะพริบให้เห็นในหน้าจอนี้อยู่ไม่ไกลกับตำแหน่งที่เขานั่งอยู่สักนิด ความจริงเธออยู่ด้านข้างของตึกนี้เอง
พราวพุธกระชับสาบเสื้อคาร์ดิแกนตัวโคร่งเข้าหากัน เมื่อเดินมาถึงร้านคอฟฟี่ช็อปที่ตนเป็นคนนัดหมาย หญิงสาวเดินเข้ามาในบริเวณที่มีโต๊ะหลายๆ ชุดตั้งไว้หน้าร้าน ในขณะที่กวาดสายตาหาร่างของผู้สูงวัย
ทิศทางที่เขานั่งอยู่นั้นหันหลังให้เธอ แต่จุดสีเขียวที่อยู่หน้าจอเคลื่อนผ่านจากตำแหน่งที่เขาอยู่เพียงแค่นิดเดียว มันใกล้กันมากจนจุดทั้งสองนั้นเกยทับกัน แน่นอนว่าการแสดงผลดังกล่าวทำให้มาเฟียหนุ่มต้องเงยหน้าขึ้นมองร่างของผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งยืนหันหลังให้เขาอยู่ห่างออกไปเพียงแค่เอื้อมมือ
ถึงแม้จะไม้ได้เห็นสร้อยบนข้อมือบางแต่เขาก็จดจำเสี้ยวใบหน้าของเธอได้เป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าตอนนี้เส้นผมสีดำขลับนั้นจะถูกเจ้าตัวมัดเอาไว้เป็นทรงโดนัท โชว์ให้เห็นศีรษะได้รูปไม่มีคราบนางโชว์สุดเฉี่ยวเช่นเมื่อคืน แต่ลูกผมที่ตกลงมานั้นยังทำให้เธอเป็นผู้หญิงเซ็กซี่ในสายตาเขาอยู่เช่นเคย
“เฮ้...” เสียงทักทายนั้นทำให้เธอหมุนตัวกลับไปยังต้นกำเนิดเสียง แม้จะเป็นคำทักทายสั้นๆ แต่เสียงห้าวนั้นลากยาว ซึ่งเจ้าตัวเองก็ยังรับรู้ได้ว่าไม่เคยใช้น้ำเสียงเช่นนี้ทักทายใคร เขายอมรับว่าประหลาดใจไม่น้อยที่ได้เจอเธอและไม่ทันได้เตรียมคำทักทายอื่นใดนอกเสียจากคำพูดโง่ๆ ซึ่งดังขึ้นทำลายความเงียบงัน “ไม่คิดว่าจะได้เจอคุณ เซ็กซี่”
มีสายตามากกว่าสิบคู่กำลังจ้องมองเหตุการณ์ดังกล่าวแต่ตอนนี้พราวพุธไม่ได้สนใจใครนอกเสียจากผู้ชายที่ยิ้มให้เธออยู่ตรงหน้า!
“คะ...คุณ ไอ้...” พราวพุธแทบจะพูดไม่เป็นภาษาเพราะไม่คิดว่าจะเจอผู้ชายที่ทำให้ต้องเสียน้ำตามาหลายชั่วโมง นิ้วชี้ที่ยกขึ้นนั้นยังสั่นซึ่งคนมองไม่อาจจะเข้าใจความรู้สึกที่แท้จริงจากปฏิกิริยาที่เธอแสดงออกมาเลย
“ทำไมทำหน้าอย่างนั้น อย่าบอกนะว่าจำผมไม่ได้” สาบานได้ว่าถามดีๆ ไม่มีเจตนาเยาะเย้ยหรือยั่วยุอารมณ์ให้ขุ่นข้องหมองใจ
“ไอ้คนเลว” คำด่าว่านั้นยังน้อยไปในความรู้สึกของพราวพุธ ฝ่ามือบางจึงกระแทกเข้าข้างใบหน้าคร้ามคมเต็มแรงแล้วหมุนตัวกลับวิ่งหนีออกไปโดยไม่สนใจผู้คนรอบกายเพราะตอนนี้ม่านน้ำตาทำให้ภาพรอบตัวพร่ามัวไปเสียหมด และไม่อาจสั่งให้มันหยุดได้เลย
ความเลวร้ายทุกอย่างตกอยู่ที่มาเฟียหนุ่มซึ่งยืนงงงันอยู่ท่ามกลางสายตานับสิบคู่ นั่นยังไม่รวมถึงเสียงอุทานของใครหลายคนที่ดังขึ้นแล้วเจ้าตัวรีบเอามือปิดปากเพราะไม่ใช่มารยาทที่ดีนักหากไปสนใจเรื่องของคนอื่น
อับอาย!
คงมีเพียงครั้งนี้ที่เข้าถึงและรู้ซึ้งกับความรู้สึกเช่นนั้นได้มากที่สุด ในขณะที่ไม่เข้าใจว่าถูกผู้หญิงประทุษร้ายร่างกายเพราะเหตุใดนั้น มาเฟียหนุ่มต้องขบฟันแน่นจนเห็นกรามเป็นสันนูนพร้อมล้วงกระเป๋าเข้าไปหยิบธนบัตรใบหนึ่งมาวางไว้บนโต๊ะ ก่อนจะหยิบถุงของขวัญและเดินข้ามถนนตรงไปยังรถยนต์ของตน
“บ้าเอ๊ย!” สบถออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ ในขณะที่วนรถไปยังถนนอีกเส้นหนึ่งเพื่อดักหน้าผู้หญิงที่เพิ่งทำให้เขารู้สึกเฉียดใกล้กับคำว่าอับอายขายขี้หน้าได้มากที่สุดในชีวิต ถ้าคิดว่าจะโกรธเรื่องที่เขาทำลายเยื่อพรหมจรรย์แล้วล่ะก็... มันเป็นเรื่องตลกร้ายสิ้นดี
ในเมื่อว่าเธอเต็มใจขายแล้วเขาก็ตกลงซื้อ มันใช่ความผิดของเขาด้วยเรอะ?!
พราวพุธรีบปาดน้ำตาออกจากสองแก้ม ไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าจะต้องมาเผชิญหน้ากับผู้ชายที่ปล้นเอาสิ่งที่หวงแหนของตนไป ทั้งที่ตั้งใจมาเป็นอย่างดีแล้วว่าจะไม่กลับไปคิดถึงเรื่องที่พลาดไปเพราะคงไม่อาจจะย้อนเวลากลับไปแก้ไขอะไรได้แต่จนแล้วจนรอดเธอก็ยังต้องร้องไห้เมื่อเห็นแววตาคู่คมนั้นจ้องมองอย่างเป็นประกาย เปิดเผยความเสน่หาต่อเธออย่างโจ่งแจ้ง
ยอมรับอย่างอดสูใจว่า แววตาเช่นนั้นที่ทำให้เธอเผลอไผลปล่อยตัวเองให้เข้าใกล้ความอันตราย
การหยุดร้องไห้ หยุดการก้าวเดินแล้วขบคิดนั้นทำให้เริ่มมีสติแล้วคำบอกกล่าวเกี่ยวกับผู้ชายคนนั้นก็ดังก้องขึ้นมาในหู
‘เขาเป็นหนึ่งระดับหัวหน้าของแก๊งมาเฟียในลิตเติ้ลอิตาลี’
อันธพาล นักเลงหรือมาเฟีย แม้แท้จริงแล้วจะมีความหมายที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงแต่คนที่อยู่ในวงโคจรเหล่านี้จริงๆ แล้วแทบจะจำแนกฝ่ายดีหรือเลวไม่ได้เลยเสียด้วยซ้ำ
ก่อนที่ความคิดจะเลยเถิดไปไกล เสียงรถยนต์ที่เลี้ยวออกมาจากมุมถนนก็ดึงพราวพุธหลุดออกมาจากห้วงความคิดเพื่อพบกับหนึ่งในระดับหัวหน้าแก๊งอาชญากรที่กำลังจอดรถ
ใช่! เธอจะไม่เรียกมันว่ามาเฟียเพราะมันดูสวนทางกับสิ่งที่เขาช่วงชิงไปจากเธอยิ่งนัก
พราวพุธกะพริบตาถี่ๆ แล้วหมุนตัวกลับสั่งตัวเองให้วิ่งจนสุดชีวิต แต่เชื่อเถอะว่าได้ระยะทางไม่ถึงครึ่งบล็อกก็รู้สึกได้ว่าข้อศอกถูกรั้งเอาไว้แล้วกระชากเธอให้เข้าไปปะทะกับแผงอกกว้าง
“กรี๊ด... ปล่อยเดี๋ยวนี้ อุ๊บ” เสียงหวีดร้องและคำบริภาษทุกอย่างเลือนหายเข้าไปในลำคอ เมื่อริมฝีปากหนาบดลงมาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
พราวพุธดิ้นรนสุดชีวิต ทุบตีเนื้อตัวเขาไม่เลือกที่ ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อถูกปล้นจูบอยู่ข้างถนนที่มีผู้คนเดินผ่านไปมาแล้วมองยิ้มๆ ไม่ต่างจากคู่รักกำลังงอนง้อหรือแสดงความรักต่อกัน
คอนเนลิโอเลิกคิ้วอย่างแปลกใจเมื่อสาวในอ้อมกอดไม่ได้หัวอ่อนยอมให้จูบง่ายๆ แต่เธอหยุดดิ้นรนแล้วหันมาเล่นงานเขาด้วยการไล่กัดจนต้องถอนริมฝีปากออกมาแทบไม่ทัน
“มีกัดด้วย” ถามทั้งที่ยังสอดฝ่ามือรั้งท้ายทอยได้รูปให้อยู่ใกล้ๆ เช่นเดิม
“ลองจูบฉันดูอีกทีสิ คราวนี้จะกัดให้ลิ้นขาดเลย” ความโมโหผสมอับอายทำให้ท้าทายเขาออกไปเช่นนั้น
“จูบแน่ จูบอีกหลายๆ ทีด้วย... แต่ที่ขาดน่ะไม่ใช่ลิ้นผมหรอก คนสวย” คราวนี้ถึงเธอจะดิ้นสักแค่ไหนก็ไม่เป็นผลเพราะถ้าเทียบกับร่างกายของเขาแล้วดูด้อยและเสียเปรียบทุกประตู
มือที่เคยตรึงท้ายทอยเลื่อนมาบีบที่ขากรรไกร นั่นเป็นการทำให้เธอเผยอปากออกเพราะความเจ็บ “ไอ้อนเอว อังแออู้อิ๋ง (ไอ้คนเลว รังแกผู้หญิง)”
แม้ความจริงแล้วอยากจะถามเธอให้รู้เรื่องกันไปว่าเขาชั่วเขาเลวตรงไหน แต่ดูเหมือนว่าคนเลวกำลังตกอยู่ในห้วงเสน่หาบาดจิตเมื่อได้มองริมฝีปากที่น่าจูบที่สุดใกล้ๆ คอนเนลิโอดูดเม้มริมฝีปากล่างค้างไว้อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะปล่อยแล้วจ้องมองด้วยดวงตาเป็นประกาย
ริมฝีปากเธอมีสีเข้มขึ้นอีกเฉดหนึ่งเมื่อเทียบกับข้างบน นั่นสามารถเรียกรอยยิ้มจากเขาได้เป็นอย่างดี แล้วอาการสั่นระริกของกลีบปากนุ่มละมุนตามการตอบสนองตามธรรมชาตินั้น กำลังเรียกร้องให้เขามอบจุมพิตเร่าร้อนเต็มรูปแบบสินะ
“เอ็บอ่ะ (เจ็บนะ)” คนที่ถูกบีบขากรรไกรล่างอยู่นานครางประท้วง
ไม่ใช่แค่เสียงเว้าวอนของเธอหรอกแต่รวมไปถึงดวงตาสีดำขลับนั้นต่างหากที่ทำให้ใจอ่อน “ผมจะปล่อยถ้าเราจะจูบกันดีๆ เหมือนเมื่อคืน”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ