short time ผ่านมาให้จำ
8.0
เขียนโดย เสี่ยงชือหั่วกัว
วันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2559 เวลา 08.33 น.
9 ตอน
1 วิจารณ์
11.55K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 29 กันยายน พ.ศ. 2559 18.39 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) เพื่อน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 3
เรายังคงอยู่ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเหมือนเดิม แล้วเขาก็ถามขึ้น
“เธอน่ะ ชื่ออะไร”
“...”
ในยุคนี้ สมัยนี้ ฉันควรจะใช้ชื่ออะไรดี ยุคตอนแม่ยังสาวนี่เขานิยมใช้ชื่อแบบไหนนะ สมศรี สมปอง สายสมร อิงอร วันเพ็ญ???
“แค่ชื่อนี่คิดนานจริงนะ”
“อ๋อ ชื่อปิ่นน่ะ”
แม่ที่อยู่บนสวรรค์ลูกขอยืมชื่อก่อนนะคะ
“ปิ่นปักผมเหรอ”
“ปิ่นโต”
“อื้ม ก็ดี^^” เห็นชัดๆว่าเขาแอบขำ ชื่อปิ่นโตนี่มันน่าขำตรงไหน
ไอ้คนเส้นตื้นเอ้ย!!!
“แล้วคุณชื่ออะไร”
“เอาชื่อจริงหรือชื่อเล่น”
“ชื่อไหนก็เอามาเถอะค่ะ”
“ชื่อจริงธนิน”
“ชื่อเล่นล่ะ”
“ก็ธนินนั่นแหละ”
“อื้อ ก็ดี^^”
“ชื่อฉันมันตลกหรือไง”
“แล้วชื่อฉันมันตลกตรงไหน คุณเองก็หัวเราะ”
“ฉันแค่อารมณ์ดี^^”
“ฉันก็แค่อารมณ์ดีเหมือนกัน”
“เธอนี่ กวนดีจริง”
“จะถือว่าชมนะคะ”
“แล้วบ้านเธออยู่ไหน”
“อืม เรื่องนั้น”
พูดยากแฮะ
“เอ่อ...ขอโทษที่ยุ่งเรื่องส่วนตัว ลืมคำถามของฉันไปแล้วกัน”
“ไม่หรอก อืม...ความจริงฉันหนีออกจากบ้านมาน่ะ แถมบ้านฉันยังอยู่ต่างจังหวัด เลยคิดว่าชุมนุมเสร็จค่อยกลับไป”
โกหกคำโต...
ฮืม ขอโทษนะธนิน จะให้บอกเขาว่าบ้านฉันอยู่ในอีก 40 ปีข้างหน้าเขาคงได้ช็อกตายพอดี
“แล้วเธอจะไปพักที่ไหน”
“...”
เออ นั่นดิฉันควรจะพักที่ไหน?
เงินก็ไม่มีเลยเนี่ย ถ้าขอไปอยู่บ้านธนินนี่ฉันจะดูหน้าด้านไปรึเปล่าวะ
“ถ้ายังไม่มีที่อยู่ไปอยู่บ้านฉันก็ได้นะ”
ข้อเสนอดี....แต่ศักดิ์ศรีมันค้ำคอนี่สิ
“นี่เราเพิ่งรู้ชื่อกันไม่กี่นาที คุณกล้าชวนเข้าบ้านแล้วหรอ ฮ่าๆ”
ฉันเลยแกล้งหัวเราะกลบเกลื่อนไปอย่างนั้น
.
.
.
ถึงได้ชวดข้อเสนอดีๆไป
เพราะหลังจากกินก๋วยเตี๋ยวเสร็จเราก็แยกย้ายกัน
และฉันก็มาเดินตากลมข้างทางแบบนี้ไง ลมเดือนตุลามันหนาวจริงๆ เสื้อกราวน์ที่สวมอยู่มันจะทำให้ฉันดูเหมือนหมอเร่ร่อนรึเปล่านะ ทำร้ายสถาบันหมออีกแล้วฉัน
เดินจนรองเท้ากัดหมดแล้วเนี่ย ไอ้คัตชูบ้านี่ถ้ามีเงินซื้อรองเท้าฉันคงเขวี้ยงทิ้งไปแล้ว เดินไม่ไหวแล้วโว้ย!!!
ฮืออออออออ
แล้วฉันก็ยอมแพ้ต่อแผลที่ส้นเท้าจึงนั่งลงที่ม้านั่งริมทาง
พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เจ้าคะ ถ้าหนูกลับไปได้หนูจะตักบาตรบ่อยๆค่ะ
.
.
.
ในตอนที่ฉันกำลังนั่งคิดหาที่นอนอยู่ ฝีเท้าใครบางคนก็มาหยุดอยู่ต่อหน้า
“เธอเป็นคนเร่ร่อนรึไง”
“ธนิน...”
“ฉันก็ไม่มีที่ไปเหมือนกัน เลยเดินตามเธอมาเรื่อยๆ อย่าลืมสิว่าฉันเพิ่งโดนพ่อต่อยมา” เขาโชว์รอยช้ำตามหน้าให้ดู คือไม่ต้องโชว์ก็เห็นตั้งนานแล้วย่ะ
“อือ...” แต่ฉันก็ไม่รู้จะพูดกับเขายังไงดี
“ฉันจะถามอีกครั้งนะ...เธอจะไปกับฉันมั๊ย”
“...” ฉันมองหน้าที่ดูใจดีนั่น แล้วชั่งใจ เขาจะไว้ใจได้เหรอ แล้วเขาไว้ใจฉันเหรอ
.
.
.
ด้วยความที่ไม่มีทางเลือกฉันจึงเลือกที่จะคว้าฟางเส้นสุดท้ายเอาไว้ ฉันตอบตกลงเขาไป แล้วเราก็มาถึงบ้านหลังหนึ่ง เขาไขกุญแจรั้วเข้าไปแล้วตรงไปยังตัวบ้าน หลังจากเคาะประตูสองสามที ประตูก็ถูกเปิดออกโดยเด็กสาวอายุราวๆ 16-18 หน้าตาเหมือนกับธนินมากเพียงแค่เธอเป็นผู้หญิงเท่านั้นเอง ฉันนี่ถึงกับมองไปทางธนินแล้วจินตนาการตอนเขาแต่งตัวเป็นหญิงเลย
“พี่”
“พี่ขออยู่ที่นี่ด้วยได้มั๊ย”
“...ได้สิ แล้วพี่คนนี้ใครคะ”
“อ้อ คนนี้เพื่อนพี่เอง ชื่อปิ่น ส่วนนี่น้องสาวฉันชื่อธาร” ธนินแนะนำฉันกับน้องสาวเขาให้รู้จักกัน
“ขอรบกวนด้วยนะคะ” ฉันพูดแล้วโค้งตัวให้ธาร ติดมาจากการดูซีรีส์แหงๆเลย
“เข้าบ้านเถอะค่ะ^^”
แล้วธารก็เดินนำเราเข้าบ้าน ฉันกับธนินเดินตามหลังเล็กๆไปเงียบๆ
ทำไมพี่น้องครอบครัวนี้ถึงแยกกันอยู่ แล้วธนินกล้าปล่อยน้องอยู่บ้านคนเดียวได้ไง
และพอเราเดินเข้าไปอีกนิดก็ได้พบกับเด็กชายอายุไล่เลี่ยกับธาร กำลังนอนอ่านหนังสืออยู่พอเขาเห็นเราก็รีบผุดลุกขึ้น
“พี่” เขาเรียกธนินอย่างตื่นๆ แล้วมองมาทางฉันอย่างสงสัย
“พี่เขาชื่อปิ่นเป็นเพื่อนพี่นิน ส่วนเจ้านี่ชื่อธนนค่ะเรียกมันว่านนเฉยๆก็ได้ค่ะ”ธารแนะนำ
.
.
ธนนมองหน้าฉันนิ่ง ก่อนจะพูดขึ้น
“^^พี่เรียนหมอหรอครับ”
“อ่ะ จ้ะ”
“ปลื้ม><”
อะไรคือเด็กปลื้มฉัน???
ดูทำหน้าเข้าสิอย่างกับเห็นดาราช่อง 8 สี อย่างนั้นแหละ
แล้วเราก็ทำข้อตกลงกันว่าฉันนอนกับธาร ส่วนธนินกับน้องชายนอนด้วยกัน
.
.
.
.
.
กลางดึกคืนนั้น
.
.
ความคอแห้งก็มาเยือน
สมัยนี้เปิดไฟฟ้าพร่ำเพรื่อไม่ได้ ฉันจึงเดินคลำทางลงมาที่ครัวเพื่อหาน้ำดื่ม ปรากฏว่าในครัวมีคนอยู่ก่อนแล้ว ถ้าฉันไม่ได้ตาฝาดเหมือนฉันเห็นว่าเขาเพิ่งเช็ดน้ำตาไป แต่ฉันไม่ควรที่จะถาม
“ฉันลงมาหาน้ำดื่มน่ะ”
“ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย”
“อืม...เดี๋ยวนะ” ฉันว่าแล้วถอดสร้อยคอทองคำมูลค่าเกินสองหมื่นให้เขา แอบเสียดายอยู่นะ แต่ว่ามาอาศัยบ้านเขาอยู่นี่นา
“เก็บไว้ดีๆนะ ฉันไม่มีอะไรตอบแทน ถ้าคุณเก็บไว้อีกสัก 30-40 ปีตอนนั้นสร้อยนี่คงขายได้หลายหมื่นเลยล่ะ”
“ไม่ต้องให้ฉันก็ได้ ยังไงเราก็คนร่วมการชุมนุมเหมือนกัน”
“เอาไว้เถอะน่าฉันจะได้สบายใจ โอ๊ย คอแห้งน้ำอยู่ไหน” ฉันรีบเปลี่ยนเรื่อง
“เธอไม่ได้ขโมยสร้อยพ่อแม่มานะ?”
“อือ ค่ะ”
“ของแท้รึเปล่า”
“ปลอมมั้ง!!!”
เรายังคงอยู่ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเหมือนเดิม แล้วเขาก็ถามขึ้น
“เธอน่ะ ชื่ออะไร”
“...”
ในยุคนี้ สมัยนี้ ฉันควรจะใช้ชื่ออะไรดี ยุคตอนแม่ยังสาวนี่เขานิยมใช้ชื่อแบบไหนนะ สมศรี สมปอง สายสมร อิงอร วันเพ็ญ???
“แค่ชื่อนี่คิดนานจริงนะ”
“อ๋อ ชื่อปิ่นน่ะ”
แม่ที่อยู่บนสวรรค์ลูกขอยืมชื่อก่อนนะคะ
“ปิ่นปักผมเหรอ”
“ปิ่นโต”
“อื้ม ก็ดี^^” เห็นชัดๆว่าเขาแอบขำ ชื่อปิ่นโตนี่มันน่าขำตรงไหน
ไอ้คนเส้นตื้นเอ้ย!!!
“แล้วคุณชื่ออะไร”
“เอาชื่อจริงหรือชื่อเล่น”
“ชื่อไหนก็เอามาเถอะค่ะ”
“ชื่อจริงธนิน”
“ชื่อเล่นล่ะ”
“ก็ธนินนั่นแหละ”
“อื้อ ก็ดี^^”
“ชื่อฉันมันตลกหรือไง”
“แล้วชื่อฉันมันตลกตรงไหน คุณเองก็หัวเราะ”
“ฉันแค่อารมณ์ดี^^”
“ฉันก็แค่อารมณ์ดีเหมือนกัน”
“เธอนี่ กวนดีจริง”
“จะถือว่าชมนะคะ”
“แล้วบ้านเธออยู่ไหน”
“อืม เรื่องนั้น”
พูดยากแฮะ
“เอ่อ...ขอโทษที่ยุ่งเรื่องส่วนตัว ลืมคำถามของฉันไปแล้วกัน”
“ไม่หรอก อืม...ความจริงฉันหนีออกจากบ้านมาน่ะ แถมบ้านฉันยังอยู่ต่างจังหวัด เลยคิดว่าชุมนุมเสร็จค่อยกลับไป”
โกหกคำโต...
ฮืม ขอโทษนะธนิน จะให้บอกเขาว่าบ้านฉันอยู่ในอีก 40 ปีข้างหน้าเขาคงได้ช็อกตายพอดี
“แล้วเธอจะไปพักที่ไหน”
“...”
เออ นั่นดิฉันควรจะพักที่ไหน?
เงินก็ไม่มีเลยเนี่ย ถ้าขอไปอยู่บ้านธนินนี่ฉันจะดูหน้าด้านไปรึเปล่าวะ
“ถ้ายังไม่มีที่อยู่ไปอยู่บ้านฉันก็ได้นะ”
ข้อเสนอดี....แต่ศักดิ์ศรีมันค้ำคอนี่สิ
“นี่เราเพิ่งรู้ชื่อกันไม่กี่นาที คุณกล้าชวนเข้าบ้านแล้วหรอ ฮ่าๆ”
ฉันเลยแกล้งหัวเราะกลบเกลื่อนไปอย่างนั้น
.
.
.
ถึงได้ชวดข้อเสนอดีๆไป
เพราะหลังจากกินก๋วยเตี๋ยวเสร็จเราก็แยกย้ายกัน
และฉันก็มาเดินตากลมข้างทางแบบนี้ไง ลมเดือนตุลามันหนาวจริงๆ เสื้อกราวน์ที่สวมอยู่มันจะทำให้ฉันดูเหมือนหมอเร่ร่อนรึเปล่านะ ทำร้ายสถาบันหมออีกแล้วฉัน
เดินจนรองเท้ากัดหมดแล้วเนี่ย ไอ้คัตชูบ้านี่ถ้ามีเงินซื้อรองเท้าฉันคงเขวี้ยงทิ้งไปแล้ว เดินไม่ไหวแล้วโว้ย!!!
ฮืออออออออ
แล้วฉันก็ยอมแพ้ต่อแผลที่ส้นเท้าจึงนั่งลงที่ม้านั่งริมทาง
พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เจ้าคะ ถ้าหนูกลับไปได้หนูจะตักบาตรบ่อยๆค่ะ
.
.
.
ในตอนที่ฉันกำลังนั่งคิดหาที่นอนอยู่ ฝีเท้าใครบางคนก็มาหยุดอยู่ต่อหน้า
“เธอเป็นคนเร่ร่อนรึไง”
“ธนิน...”
“ฉันก็ไม่มีที่ไปเหมือนกัน เลยเดินตามเธอมาเรื่อยๆ อย่าลืมสิว่าฉันเพิ่งโดนพ่อต่อยมา” เขาโชว์รอยช้ำตามหน้าให้ดู คือไม่ต้องโชว์ก็เห็นตั้งนานแล้วย่ะ
“อือ...” แต่ฉันก็ไม่รู้จะพูดกับเขายังไงดี
“ฉันจะถามอีกครั้งนะ...เธอจะไปกับฉันมั๊ย”
“...” ฉันมองหน้าที่ดูใจดีนั่น แล้วชั่งใจ เขาจะไว้ใจได้เหรอ แล้วเขาไว้ใจฉันเหรอ
.
.
.
ด้วยความที่ไม่มีทางเลือกฉันจึงเลือกที่จะคว้าฟางเส้นสุดท้ายเอาไว้ ฉันตอบตกลงเขาไป แล้วเราก็มาถึงบ้านหลังหนึ่ง เขาไขกุญแจรั้วเข้าไปแล้วตรงไปยังตัวบ้าน หลังจากเคาะประตูสองสามที ประตูก็ถูกเปิดออกโดยเด็กสาวอายุราวๆ 16-18 หน้าตาเหมือนกับธนินมากเพียงแค่เธอเป็นผู้หญิงเท่านั้นเอง ฉันนี่ถึงกับมองไปทางธนินแล้วจินตนาการตอนเขาแต่งตัวเป็นหญิงเลย
“พี่”
“พี่ขออยู่ที่นี่ด้วยได้มั๊ย”
“...ได้สิ แล้วพี่คนนี้ใครคะ”
“อ้อ คนนี้เพื่อนพี่เอง ชื่อปิ่น ส่วนนี่น้องสาวฉันชื่อธาร” ธนินแนะนำฉันกับน้องสาวเขาให้รู้จักกัน
“ขอรบกวนด้วยนะคะ” ฉันพูดแล้วโค้งตัวให้ธาร ติดมาจากการดูซีรีส์แหงๆเลย
“เข้าบ้านเถอะค่ะ^^”
แล้วธารก็เดินนำเราเข้าบ้าน ฉันกับธนินเดินตามหลังเล็กๆไปเงียบๆ
ทำไมพี่น้องครอบครัวนี้ถึงแยกกันอยู่ แล้วธนินกล้าปล่อยน้องอยู่บ้านคนเดียวได้ไง
และพอเราเดินเข้าไปอีกนิดก็ได้พบกับเด็กชายอายุไล่เลี่ยกับธาร กำลังนอนอ่านหนังสืออยู่พอเขาเห็นเราก็รีบผุดลุกขึ้น
“พี่” เขาเรียกธนินอย่างตื่นๆ แล้วมองมาทางฉันอย่างสงสัย
“พี่เขาชื่อปิ่นเป็นเพื่อนพี่นิน ส่วนเจ้านี่ชื่อธนนค่ะเรียกมันว่านนเฉยๆก็ได้ค่ะ”ธารแนะนำ
.
.
ธนนมองหน้าฉันนิ่ง ก่อนจะพูดขึ้น
“^^พี่เรียนหมอหรอครับ”
“อ่ะ จ้ะ”
“ปลื้ม><”
อะไรคือเด็กปลื้มฉัน???
ดูทำหน้าเข้าสิอย่างกับเห็นดาราช่อง 8 สี อย่างนั้นแหละ
แล้วเราก็ทำข้อตกลงกันว่าฉันนอนกับธาร ส่วนธนินกับน้องชายนอนด้วยกัน
.
.
.
.
.
กลางดึกคืนนั้น
.
.
ความคอแห้งก็มาเยือน
สมัยนี้เปิดไฟฟ้าพร่ำเพรื่อไม่ได้ ฉันจึงเดินคลำทางลงมาที่ครัวเพื่อหาน้ำดื่ม ปรากฏว่าในครัวมีคนอยู่ก่อนแล้ว ถ้าฉันไม่ได้ตาฝาดเหมือนฉันเห็นว่าเขาเพิ่งเช็ดน้ำตาไป แต่ฉันไม่ควรที่จะถาม
“ฉันลงมาหาน้ำดื่มน่ะ”
“ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย”
“อืม...เดี๋ยวนะ” ฉันว่าแล้วถอดสร้อยคอทองคำมูลค่าเกินสองหมื่นให้เขา แอบเสียดายอยู่นะ แต่ว่ามาอาศัยบ้านเขาอยู่นี่นา
“เก็บไว้ดีๆนะ ฉันไม่มีอะไรตอบแทน ถ้าคุณเก็บไว้อีกสัก 30-40 ปีตอนนั้นสร้อยนี่คงขายได้หลายหมื่นเลยล่ะ”
“ไม่ต้องให้ฉันก็ได้ ยังไงเราก็คนร่วมการชุมนุมเหมือนกัน”
“เอาไว้เถอะน่าฉันจะได้สบายใจ โอ๊ย คอแห้งน้ำอยู่ไหน” ฉันรีบเปลี่ยนเรื่อง
“เธอไม่ได้ขโมยสร้อยพ่อแม่มานะ?”
“อือ ค่ะ”
“ของแท้รึเปล่า”
“ปลอมมั้ง!!!”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ