พี่ชาย...ที่รัก

7.0

เขียนโดย วีรนันท์

วันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2559 เวลา 07.52 น.

  4 ตอน
  0 วิจารณ์
  7,250 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 2 กันยายน พ.ศ. 2559 08.33 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) คนเย็นชา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เวลาเที่ยงคืนโดยประมาณ


ภูริภัทรก็ขับรถเข้ามาจอดหน้าบริเวณเรือนหลังเล็ก ชายหนุ่มดับเครื่องยนต์แล้วออกจากรถเดินตรงเข้าไปยังตัวบ้านด้วยความอ่อนล้าจากการทำงานมาทั้งวัน ภีมหยิบลูกกุญแจออกมาไขประตูบ้านแล้วเปิดออกพร้อมกับก้าวเท้าเข้าไปยังด้านใน แล้วจึงเอื้อมมือไปกดสวิทต์ไฟข้างประตูเพื่อทำลายความมืด และเมื่อห้องทั้งห้องสว่างขึ้น เขาก็ต้องตกใจกับเสียงคุ้นหูของใครบางคน

"กลับดึกจังเลยนะคะพี่ภีม" ชายหนุ่มยังคงหันหลังให้เจ้าของเสียงนั้น ร่างสูงเหยียดตรงเต็มความสูงนิ่งงันด้วยความตกตะลึง เพราะไม่คิดว่ารัตติกาลจะเข้ามายังสถานที่แห่งนี้ได้ เมื่อตั้งสติได้แล้ว ชายหนุ่มจึงค่อยๆ หันหน้ามาเผชิญกับหญิงสาว "น้องรุ้งเข้ามาในนี้ได้ยังไงครับ"

คนถูกถามหัวเราะในลำคอพร้อมลุกขึ้นยืนและเดินตรงเข้ามาหาชายหนุ่มช้าๆ เงยดวงหน้าสวยหมดจดขึ้นมองสบตากับชายหนุ่มตรงหน้า เหมือนพยายามค้นหาอะไรบางอย่างในดวงตาคมดุคู่นั้น

"พี่ภีมคิดว่ามีส่วนไหนของบ้านที่รุ้งไม่สามารถเข้าถึงด้วยเหรอคะ"

ชายหนุ่มหลุบตาลงมองริมฝีปากบางได้รูปที่เอื้อนเอ่ยวาจาถือดีใส่เขาอยู่ตอนนี้ด้วยความรู้สึกที่บรรยายไม่ได้ กรามถูกบดจนขึ้นเป็นสันนูนเหมือนพยายามสะกดความรู้สึกอะไรบางอย่างเอาไว้

"แต่ที่นี่เป็นพื้นที่ของพี่นะครับ ยังไงพี่คงต้องขอความเป็นส่วนตัว" ชายหนุ่มกล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

"ทำไมล่ะคะ ก็เราเป็น "พี่น้อง" กันนี่คะ น้องสาวจะเข้ามาในห้อง พี่ชาย ก็ไม่เห็นจะแปลกอะไรนี่คะ.. จริงมั้ย?" หญิงสาวเน้นเสียงหนักตรงคำว่า พี่ชาย อย่างมีนัยยะ และยังคงจ้องสบสายตาเย็นชาของชายหนุ่มร่างสูงตรงหน้าอย่างไม่ลดละ

ทั้งชายหนุ่มและหญิงสาวต่างรู้ดีว่าทั้งคู่นั้นไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดเลยแม้แต่น้อย รัตติกาลได้แต่แปลกใจในท่าทีของ พี่ชาย ที่แสดงต่อเธอมานานมากแล้ว ตั้งแต่ก่อนที่เธอจะถูกมารดาส่งไปเรียนที่ต่างประเทศเสียอีก และเธอบอกกับตัวเองว่าจะต้องหาคำตอบนั้นให้ได้

"นี่ก็ดึกมากแล้ว พี่ว่าน้องรุ้งกลับขึ้นไปนอนเถอะ ถ้ามีอะไรเอาไว้คุยกันพรุ่งนี้นะครับ"

ชายหนุ่มพูดพร้อมกับเดินไปยังประตูบ้านและเปิดมันออกให้กว้างขึ้น เป็นการ ไล่ กลายๆ หญิงสาวรู้สึกหน้าชากับสิ่งที่ชายหนุ่มกำลังแสดงอยู่ต่อหน้า แต่คนหัวดื้ออย่างรัตติกาลน่ะเหรอจะยอมแพ้ง่ายๆ

เธอสาวเท้าเข้าไปหาภูริภัทร จนทั้งเขาและเธอห่างกันเพียงนิ้ว แล้วหญิงสาวก็เขย่งตัวขึ้นจนริมฝีปากบางอยู่ชิดริมหูของชายหนุ่มพร้อมกับกระซิบแผ่วเบา "พี่ภีม กลัว ที่จะอยู่ตามลำพังกับรุ้งเหรอคะ"

หญิงสาวจงใจบดเบียดทรวงอกอวบหยุ่นเข้ากับแผงอกแข็งแกร่งของชายหนุ่มอย่างจัง สองแขนเรียวงามถูกยกขึ้นโอบรอบลำคอของชายหนุ่ม กลิ่นน้ำหอมอันเย้ายวนลอยมาเตะจมูกโด่งคมสัน ภูริภัทรต้องกลั้นหายใจ ยืนนิ่ง มือทั้งสองข้างถูกกำเข้าหากันแน่น เหมือนจะพยายามห้ามมันเอาไว้ไม่ให้ยกขึ้นรวบร่างคนเอวบางตรงหน้า เขาพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะสะกดอารมณ์ที่อยู่ในก้นบึ้งเอาไว้

หญิงสาวพูดจบก็ขยับร่างบางออกห่างเพียงนิด และตอนนี้ดวงหน้าหวานของรัตติกาลก็อยู่ห่างจากใบหน้าคมคายของภูริภัทรเพียงคืบ หญิงสาวช้อนดวงตาคู่สวยขึ้นสบกับนัยตาสีน้ำตาลเข้มคู่นั้นนิ่ง เหมือนกับว่าเธอกำลังค้นหาคำตอบให้กับคำถามที่เธอเพิ่งจะเอ่ยมันออกไป

ชายหนุ่มก้มลงมองริมฝีปากบางได้รูปของหญิงสาวที่เผยอขึ้นเล็กน้อยอย่างเผลอไผล มือใหญ่ที่ถูกกำไว้แน่นในตอนแรกค่อยๆ คลายออกช้าๆ พร้อมกับยกขึ้นอย่างลืมตัว ชายหนุ่มเคลื่อนมือหนาขึ้นมาได้เพียงครึ่งทาง และก่อนที่มันจะถูกวางลงบนเอวบางของรัตติกาล เขาก็ทิ้งมันกลับลงมาข้างลำตัวดังเดิม

และในขณะที่ชายหนุ่มกำลังสับสนกับการกระทำของตัวเองอยู่นั้น เขาก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง เมื่อหญิงสาวที่กำลังยั่วอารมณ์ดิบของเขาให้ลุกโชน ได้เคลื่อนดวงหน้าสวยไปจรดริมฝีปากบางลงจูบที่ข้างหูของเขา "ราตรีสวัสดิ์นะคะพี่ชาย" พูดจบหญิงสาวก็ก้าวเท้าพาร่างบางที่สวยไปทุกสัดส่วนพ้นอาณาเขตของชายหนุ่มไป ทิ้งภูริภัทรให้ทรมานด้วยความร้อนรุ่มที่หญิงสาวเป็นผู้ก่อ

ชายหนุ่มทิ้งตัวยืนพิงประตูคล้ายกับหมดแรง แล้วหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อนพร้อมทั้งถอนหายใจเฮือกใหญ่ ชายหนุ่มนั้นรู้ตัวดี ว่าเขา คิด อย่างไรกับน้องสาวต่างสายเลือดคนนี้ ความรู้สึกนี้มันก่อตัวขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาเองก็จำมันไม่ได้ แต่ก็นั่นแหละ ระหว่างเขากับเธอ ก็เหมือนกับเส้นขนานที่มันไม่มีวันมาบรรจบกันได้

มันจะเป็นไปได้อย่างไร ก็ในเมื่อเธอนั้นเป็นบุตรสาวของผู้ที่มีพระคุณต่อเขาอย่างล้นเหลือ ถ้าคุณหญิงรำไพไม่เมตตารับเขามาเลี้ยงดูในวันนั้น เขาเองก็ยังคิดไม่ออกเหมือนกันว่า ในวันนี้เขาจะเป็นตายร้ายดีเช่นไร

ชายหนุ่มพยายามทำทุกอย่างเพื่อเป็นการตอบแทนพระคุณของคุณหญิง พยายามตั้งใจเล่าเรียนจนจบออกมา เพื่อมาช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่การงาน จนคุณหญิงนั้นไว้เนื้อเชื่อใจ ให้เขาสามารถดูแลบริหารจัดการเรื่องต่างๆ ของทางบริษัทเองได้

ภูริภัทรรู้ดีว่าเขาไม่ควรแม้แต่จะคิด เขาจะเนรคุณต่อผู้มีพระคุณได้อย่างไร ชายหนุ่มลืมตาขึ้นพร้อมกับสลัดศรีษะไปมา เมื่อดวงหน้าสวยหวานของรัตติกาลกลับเข้ามาในห้วงคิดคำนึงของเขาอีกหน

ต้องทำได้ จะต้องห้ามใจตัวเองให้ได้ ชายหนุ่มพร่ำบอกกับตัวเอง

ด้านบนของคฤหาสน์ตรีกีรติ ภายในห้องนอนกว้างขวาง ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีชมพูหวาน ซึ่งเป็นสีที่เจ้าของห้องโปรดปราน

ที่เตียงใหญ่กลางห้อง รัตติกาลอยู่ในชุดนอนเนื้อดี กำลังนอนหงายทอดดวงตาคู่สวยจ้องมองเพดานห้องนิ่งนาน เหมือนกับว่ามันเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ในหัวของเธอนั้นกำลังคิดถึง ใครบางคน ด้วยความรู้สึกที่สับสนหาข้อสรุปไม่ได้

เขาคิดยังไงกับเรากันแน่นะ? เราคืออะไรในสายตาเขา? น้องสาวยังงั้นหรือ?


รัตติกาลพยายามหาคำตอบให้ตัวเอง พลันให้หวนไปถึงเหตุการณ์เมื่อสักครู่ในเรือนหลังเล็ก ที่เธอ จงใจ เข้าใกล้ชายหนุ่ม ในขณะที่เธอแนบร่างบางของเธอลงบนร่างสูงแข็งแกร่งของชายหนุ่ม เธอรู้สึกได้ว่าชายหนุ่มมีอาการ สั่นเทา แล้วเธอยังรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนของหัวใจของชายหนุ่มที่เต้นแรงรัวในยามที่เธอแนบชิด

มันคืออะไร? เขารู้สึกอย่างไรหรือ?

หญิงสาวได้แต่คิดกลับไปกลับมาในหัว เธอจะต้องทำอย่างไร?

 

แปดโมงเช้าของวันใหม่

บนโต๊ะอาหารของคฤหาสน์หลังงาม มีคุณหญิงรำไพ ประมุขของบ้านนั่งอยู่ที่หัวโต๊ะ ถัดไปเป็นชายหนุ่มร่างสูง บุตรบุญธรรม ของคุณหญิงรำไพนั่นเอง ห่างออกไป ป้าแจ่มกำลังสาละวนอยู่กับการจัดการอาหารที่มีกลิ่นหอมโชย ชวนเรียกน้ำย่อยให้ทำงาน

"ยัยรุ้งตื่นหรือยังล่ะแจ่ม" คุณหญิงรำไพทำลายความเงียบด้วยการถามถึงบุตรสาวสุดที่รัก

"เดี๋ยวแจ่มขึ้นไปดูที่ห้องคุณหนูก่อนนะคะ" ป้าแจ่มพูดตอบคุณหญิงพร้อมกับหมุนตัวไปทางบันไดชั้นบน

"รุ้งตื่นนานแล้วล่ะค่ะป้าแจ่ม" ชายหนุ่มชะงักมือที่กำลังยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ เมื่อได้ยินเสียงของต้นเหตุที่ทำให้เขานอนไม่หลับทั้งคืน ภูริภัทรเหลือบตาขึ้นมองร่างบางที่กำลังวิ่งลงบันได หญิงสาวอยู่ในชุดเดรสเข้ารูปสีหวาน ยาวเหนือเข่าเล็กน้อย ผมดกดำยาวสลวยสะท้อนขึ้นลงตามจังหวะยามที่เจ้าของร่างบางเยื้องย่างกาย ชายหนุ่มถอนสายตาจากภาพตรงหน้า หันมาจัดการกับกาแฟในมือ

"อ้าว มาพอดีเลยลูก มานั่งข้างๆ แม่นี่มา" คุณหญิงเอ่ยกับบุตรสาวด้วยใบหน้าและน้ำเสียงที่สดใส

หญิงสาววิ่งเข้าไปจรดจมูกโด่งรั้นลงบนแก้มของผู้เป็นมารดาเป็นการทักทาย แล้วจึงทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้ข้างๆ มารดา ซึ่งอยู่ในตำแหน่งตรงข้ามกับชายหนุ่มที่เอาแต่ก้มหน้ามองอาหารตรงหน้า

"อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่ภีม" หญิงสาวเอ่ยทักทายชายหนุ่ม พร้อมจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาที่มีรอยเคราจางๆ ส่งให้ใบหน้านั้นแลดูน่าค้นหาขึ้นไปอีก

ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นสบตากับหญิงสาว "อรุณสวัสดิ์ครับน้องรุ้ง"

"รุ้ง แม่มีเรื่องจะบอกลูกสักหน่อยน่ะ" คุณหญิงหันไปพูดกับบุตรสาว

"มีอะไรเหรอคะคุณแม่" หญิงสาวเอ่ยถามด้วยความสงสัย

"ก็ตอนนี้ แม่ก็เห็นว่าลูกเรียนจบแล้ว ก็เลยคิดว่าลูกควรจะไปเรียนรู้งานในโรงแรมของเรากับพี่ภีมเขานะ" คำพูดของคุณหญิงรำไพ เหมือนฟ้าที่ผ่าเปรี้ยงลงมากลางใจของชายหนุ่มที่กำลังจะตักอาหารเข้าปาก ภูริภัทรวางช้อนลง แล้วหันมาทางคุณหญิง

"แม่เห็นว่าพี่ภีมเขาเหนื่อยมาก ต้องกรำงานคนเดียว ถ้าได้หนูไปช่วยอีกแรงก็น่าจะดีนะจ๊ะ" คุณหญิงยังคงพูดต่อไป

"แต่คุณหญิงครับ ตอนนี้ผมยังไหว ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง คุณหญิงสบายใจได้ครับ คือผมเห็นว่าน้องรุ้งเพิ่งจะกลับมาเหนื่อยๆ น่าจะได้พักผ่อนสักระยะน่ะครับ" ชายหนุ่มรีบชี้แจงกับคุณหญิงรำไพถึงเรื่องงาน เขารู้ดีว่า สุดท้ายแล้ว รัตติกาลจะต้องเข้ามาทำงานตรงนี้ เพราะเธอคือทายาทที่แท้จริง

แต่... ตัวเขาเองยังไม่พร้อมที่จะต้องเผชิญหน้ากับหญิงสาวตรงหน้านี้ ถ้าเธอต้องเข้าไปที่โรงแรม นั่นก็หมายความว่าเขาจะต้อง "เจอ" กับเธอทุกวัน เขาอยากจะขอเวลาอีกสักนิด

"ไม่เป็นไรค่ะพี่ภีม รุ้งคิดว่ารุ้งพร้อมแล้วล่ะค่ะ รู้สึกร้อนวิชาที่ร่ำเรียนมาน่ะค่ะ ให้รุ้งไปเรียนรู้งานกับพี่ภีมนะคะ"

ก่อนที่คุณหญิงจะทันได้ตอบอะไรชายหนุ่ม ร่างบางตรงหน้าก็เอ่ยขึ้น พร้อมทั้งจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่คมของชายหนุ่มนิ่งนาน นึกว่ารุ้งไม่รู้เหรอคะ ว่าพี่ภีมคิดอะไรอยู่ หญิงสาวได้แต่คิดอยู่ในใจ

"อ่ะ! ถ้างั้นก็ดีเลยนะยัยรุ้ง" "ภีม ถ้างั้นแม่ฝากสอนงานให้น้องด้วยนะลูก" คุณหญิงพูดกับบุตรสาวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความดีใจ แล้วหันมาเอ่ยกับชายหนุ่มในประโยคสุดท้าย

"ครับ คุณหญิง" ภูริภัทรพูดตอบด้วยเสียงที่แผ่วเบาแทบจะกลายเป็นเพียงเสียงกระซิบ

ชายหนุ่มจะทำอะไรอื่นได้ นอกจากรับคำจากหญิงสูงวัย ชายหนุ่มดึงสายตากลับมาที่ดวงหน้าหวาน แล้วมันก็ทำให้เขาได้เห็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมของรัตติกาลที่ตั้งใจส่งมาให้เขา

รถหรูคันงามถูกจอดอยู่บริเวณด้านหน้าคฤหาสน์ ภายในรถ ภูริภัทรกำลังนั่งรอหญิงสาวที่เขาพยายามนักหนาที่จะผลักไสตนเองให้ไกลจากเธอ ด้วยเหตุผลบางอย่างที่เขาไม่สามารถเปิดเผยให้ใครได้รับรู้ ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกมาอย่างแผ่วเบา เพื่อเป็นการระบายความรู้สึกหนักหน่วงในใจของเขาเวลานี้

ก่อนหน้านี้ที่โต๊ะอาหาร รัตติกาลยืนยันหนักแน่นว่าเธอนั้นต้องการติดตามเขาไปยังที่ทำงานในวันนี้ เพื่อเริ่มต้นเรียนรู้ ไม่ว่าเขาจะพยายามต่อรองกับเธอว่าขอเป็นสัปดาห์หน้า แต่ก็ไม่เป็นผล จนเป็นเหตุให้เขาต้องมานั่งรอหญิงสาวอยู่ตรงนี้

ไม่นานนัก ร่างบางของหญิงสาวที่ชายหนุ่มกำลังรอก็ปรากฎกายตรงหน้า เธอกำลังก้าวเท้าเรียวลงบันไดตรงมายังรถของชายหนุ่มที่จอดรออยู่ ภูริภัทรก้าวออกจากตัวรถแล้วเดินอ้อมไปทางฝั่งผู้โดยสารก่อนที่หญิงสาวจะเดินมาถึง เขาเปิดประตูพร้อมกับรอให้หญิงสาวก้าวเข้าไปภายใน

"ขอบคุณค่ะพี่ภีม" หญิงสาวเอ่ยขอบคุณพร้อมกับยิ้มกว้างให้ชายหนุ่มที่กำลังมองเธออยู่ ใบหน้าเรียบเฉยที่เธอไม่สามารถคาดเดาอารมณ์ได้ของชายหนุ่มนั้นช่างขัดใจเธอยิ่งนัก

หญิงสาวมองตามร่างสูงของภูริภัทรที่เดินกลับมาทำหน้าที่พลขับอย่างไม่วางตา เขาคงไม่รู้หรอกว่า เธอรู้สึกตื่นเต้นมากเพียงใด ที่วันนี้เธอจะได้มีโอกาสได้อยู่กับเขา

ชายหนุ่มพารถเคลื่อนตัวไปข้างหน้าออกจากคฤหาสน์ตรีกีรติ จุดหมายปลายทางคือโรงแรมดาราวัณเทวี โรงแรมระดับห้าดาวที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวงที่มีการจราจรคับคั่งและหนาแน่นไม่เว้นแต่ละวันอย่างกรุงเทพมหานคร

ภายในรถ ชายหนุ่มจับจ้องสายตาไปยังถนนตรงหน้าอย่างตั้งใจ และไม่มีทีท่าว่าจะเอ่ยวาจาใดๆ กับหญิงสาวข้างกายที่เวลานี้เธอหันไปจ้องเสี้ยวหน้าของชายหนุ่มตรงๆ

"เมื่อคืนพี่ภีมนอนหลับมั้ยคะ"

คำถามแบบไม่อ้อมค้อมของหญิงสาวมีผลทำให้หัวใจของชายหนุ่มเต้นผิดจังหวะ และหญิงสาวก็รับรู้ได้ว่ารถที่เธอนั่งอยู่เกิดอาการชะงักและเสียจังหวะไปเล็กน้อยหลังจากที่เธอเอ่ยคำถามนั้นออกมา

ภูริภัทรหันไปมองรัตติกาลเพียงครู่ แต่มันก็ทำให้เขาเห็นว่าเธอกำลังใช้ฟันคมสวยกัดริมฝีปากบางพร้อมกับส่งสายตาล้อเลียนมาให้เขา ชายหนุ่มรู้สึกว่าภาพที่เห็นนั้นกำลังจะทำให้เขาคลั่ง

ชายหนุ่มจะบอกเธอได้อย่างไรว่า เมื่อคืนเขาต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหนที่จะข่มตาให้หลับลงได้ และเธอคือสาเหตุที่ทำให้เขารู้สึกว้าวุ่น

"ครับ" ชายหนุ่มตอบออกมาไม่ตรงกับความคิด

ภูริภัทรอยากจะถามเธอกลับด้วยคำถามเดียวกันนั้นบ้าง แต่เขาก็ทำได้เพียงแค่ชำเลืองหางตาไปที่ดวงหน้าหวานของหญิงสาวเพียงเสี้ยววินาที

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา