Love Return ขอพิชิตใจเธออีกครั้ง

8.0

เขียนโดย pimlovely_pm

วันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2559 เวลา 20.53 น.

  33 ตอน
  0 วิจารณ์
  34.70K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2559 18.25 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) สถานที่เดิม

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

        หลังจากวันนั้น วันที่เขาคนนั้นทำให้ฉันต้องสลบไป เราทั้งสองก็ไม่ได้เจอกันอีกเลยมันกลับทำให้หัวใจฉันเหงา ทำให้สมองฉันคิดแต่เรื่องพวกนี้

        “ยัยฝัน!” ฉันสะดุ้งเมื่อได้ยินผู้ชายข้างๆตะโกนเรียกฉัน

        “ตะโกนทำไมเล่า ฉันไม่ได้หูหนวกนะพี่ลี”

        “ก็เรียกอยู่นานแล้วยังไม่หันอีก”

        ตอนนี้ฉันพี่ลี และเพื่อนๆของพี่ลี กำลังนั่งปิ๊กนิคกันที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ที่นี่สบายมากมีสนามหญ้าอยู่ข้างๆตรงกลางเป็นถนนเล็กๆให้พอเดิน หรือปั่นจักรยานได้ ไม่มีร้านขายของข้างๆ มีสระน้ำให้มาว่ายน้ำเล่นกันด้วย ส่วนที่สนามหญ้าตอนนี้นอกจากกลุ่มของฉันที่นั่งอยู่แล้วก็มีทั้งเด็กๆ ผู้ใหญ่ และสัตว์เลี้ยงต่างๆมานั่งเล่นหรือเด็กบางคนก็กำลังวิ่งเล่นอยู่กับสัตว์เลี้ยงอย่างสนุกสนาน มีดอกไม้ที่แปลกตาฉันมากมายแต่มันล้วนทั้งสวยงามและมีกลิ่นหอมเป็นอย่างมาก

        เรานั่งกันเรื่อยๆพอทานกันเสร็จก็แยกกันไปเดินย่อยอาหารแต่นั่นมันไม่ใช่นิสัยของฉัน ถ้ากินเสร็จฉันก็นอนแต่ก็แปลกใจที่ฉันไม่อ้วนขึ้นเลยแต่มันก็ดีแล้ว ฉันหยิบหนังสือที่ใส่ไว้ในกระเป๋ามาด้วยออกมานอนอ่านสบายๆท่ามกลางบรรยากาศที่สดชื่น

        ฉันรู้สึกได้ว่ามีใครคนหนึ่งมานอนอยู่ข้างๆฉันพอหันไปก็ใช่จริงๆด้วยพี่เฟรมกำลังนอนแล้วหันหน้ามามองฉันอยู่ ส่วนคนอื่นๆก็หายกันไปหมดแล้ว

        “ทำอะไรอยู่”

        “อ่านหนังสือค่ะ”

        ไหนๆก็อยู่กันสองคนแล้วฉันลองถามเรื่องที่ฉันกำลังสงสัยอยู่ดีกว่าเผื่อเขาพอจะรู้ข้อมูลอะไรบ้างถามใครเขาก็เอาแต่เงียบกันทั้งนั้นรวมถึงพี่ลีด้วยไม่แม้แต่จะปริปากพูดออกมาเลย

        “เอ่อ…พี่เฟรมน่าขอถามอะไรหน่อยได้มั้ยค่ะ” ฉันต้องเปลี่ยนชื่อโดยอัตโนมัติเมื่อคุยอยู่กับพี่เฟรมเพราะฉันมีสองชื่อในฝันเป็นชื่อภาษาไทยส่วนลิน่าเป็นชื่อที่ใช้เรียกกันที่นี้ ส่วนใหญ่แล้วคนที่นี้จะเรียกชื่อในฝันก็ดูจะยากไปเลยเปลี่ยนเป็นลิน่าจะได้ง่ายต่อการออกเสียงอีกอย่างในฝันก็เป็นชื่อที่เรียกกันในครอบครัวเท่านั้นมีน้อยคนที่ได้เรียกฉันว่าในฝัน(ที่นี่)

        “ได้สิถามมาเลย”

        “คนที่ชื่อไวท์เขาเป็นอะไรกับน่าเหรอค่ะ” ใช่เรื่องนี้แหละที่ฉันสงสัยมานานทำไมไวท์ถึงเอาแต่ตามฉันแล้วแถมยังเรียกฉันว่าในฝันแปลว่าเขาต้องสำคัญกับฉันมากแน่ๆ

        “อยากรู้ไปทำไมเหรอ” พี่เฟรมหน้าเปลี่ยนทันทีเมื่อได้ยินคำถามของฉัน

        “น่ารู้สึกคุ้นๆแบบคุ้นมากๆอ่ะค่ะมันไม่เหมือนกับคนอื่นๆที่แค่รู้สึกคุ้นธรรมดา แต่กับคนนี้ไม่รู้สิคะมันบอกไม่ถูกเหมือนกัน” ฉันก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงให้พี่เฟรมเข้าใจ

        “อย่าไปรู้เลย เราไม่ควรไปรู้จักกับเขา” พี่เฟรมพูดด้วยน่าตาที่นิ่งเฉยแต่น้ำเสียงถ้าฟังดีๆเหมือนรู้สึกโกรธแค้นอะไรบางอย่าง

        “ไป ไปเดินเล่นกัน” พี่เฟรมลุกขึ้นยืนแล้วยื่นมือมาตรงหน้าฉันที่กำลังนอนอยู่ แต่ก็ดีเหมือนกันฉันยังไม่เคยเดินเที่ยวสวนสาธารณะของที่นี่เลย หรือเคยแล้วแต่จำไม่ได้ ชั่งเถอะไปเดินใหม่ก็ได้

        เราเดินคุยกันไปเรื่อยๆ คุยส่วนมากก็พวกเรื่องที่ความจำฉันหายไป ถามสารทุกข์สุขดิบกันบ้าง ส่วนมากจะเป็นพี่เฟรมที่พูดเพราะฉันขอร้องให้พี่เฟรมเล่าเรื่องเมื่อสองปีก่อนให้ฟัง แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะพูดเรื่องของไวท์เลย ดูเหมือนว่าพี่เฟรมจะเลี่ยงไม่พูดถึง แต่ไม่เป็นไรไว้สืบเองก็ได้ แต่ตอนนี้ลองฟังที่พี่เฟรมเล่าดีกว่าเผื่อจะจำอะไรได้บ้าง

        แต่เดินแบบนี้มันก็ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนฉันเคยมาที่นี่เคยทำแบบนี้ แต่ทำกับใครล่ะ ยิ่งเดินไปเท่าไหร่ความรู้สึกมันก็ยิ่งเพิ่มขึ้นมันเป็นความรู้สึกดีๆถ้าฉันรับรู้ไม่ผิดละก็ใช่เลย ฉันรู้สึกดีมาก แต่ไม่ได้รู้สึกดีกับพี่เฟรมนะ ไม่รู้สิเหมือนกับว่าความรู้สึกนี้มันเกิดขึ้นระหว่างฉันกับใครซักคน

        “รู้มั้ยว่าเมื่อก่อนเราอ่ะซนมากเลยนะ ทำให้ไอ้ลีปวดหัวไม่เว้นแต่ละวันเลยล่ะ บางทีก็แกล้งเพื่อน หรือไม่ก็แกล้งครู เราอ่ะถูกเรียกเข้าห้องปกครองเป็นว่าเล่นไอ้ลีก็วิ่งวุ่นไปทั้งห้องเรียน ห้องปกครองเพราะต้องเคลียร์เรื่องเราด้วยนึกแล้วก็สงสารมัน ฮ่าๆๆ แล้วมีอยู่วันนึง…” พี่เฟรมเล่าไปขำไปแรกๆฉันก็ฟังอยู่หรอกแต่ฉันเห็น…

        เห็นผู้ชายคนนั้น คนที่ฉันรู้สึกคุ้นเคย ไวท์ไงล่ะ แต่เขาไม่ได้มาคนเดียวเขามากับผู้หญิงคนหนึ่ง หน้าตาสวย ตัวผอม สูงไล่เลี่ยกับเขาเลยล่ะ แต่ยังไงไวท์ก็สูงกว่าอยู่ดี ปากที่เป็นกระจับได้รูปทรง จมูกเป็นสันโด่ง ผมขาว ตานี่เหมือนจะฆ่าคนได้ยิ่งมองยิ่งใจสั่นนี่ขนาดฉันเป็นผู้หญิงด้วยกันนะ เขาเดินมาด้วยกันแล้วตอนนี้ฉันก็หยุดฝีเท้าทันทีเขาทั้งสองก็ด้วยเช่นกัน มือของเขาทั้งสองที่จับอยู่มันทำให้หัวใจฉันปวดร้าว

        แต่ฉันรู้สึกคุ้นหน้าผู้หญิงคนนั้นแปลกๆ ในใจฉันก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้น นี่ฉันมาอยู่ที่นี่มันทำให้หัวใจฉันอ่อนแอลงเยอะเลยล่ะ

         “ไปกันเถอะลิน่า” พี่เฟรมที่ยืนอยู่ข้างๆ พูดกระแทกเสียงแล้วรีบดึงมือฉันเดินไปอย่างเร็ว แต่ก็ไม่เร็วเท่าอีกคน

        มีมือปริศนาอีกมือมาจับมือฉันเอาไว้อีกข้าง เมื่อหันไปก็เจอกับไวท์ที่ยืนอยู่ตรงหน้า แล้วมือนุ่มๆของฉันก็ถูกมือของไวท์จับอยู่

        “ฝัน…” เขาพูดเสียงเบาเหมือนจะกระซิบ แววตาดูเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก แถมเสียงของเขาก็ดูสั่นคลอ

        “กลับมาแล้วเหรอ” ผู้หญิงที่มากับไวท์พูดขึ้นบ้างแล้วเดินมาที่ที่มือของฉันและไวท์จับกันอยู่ น้ำเสียงของเธอคนนั้นดูไม่พอใจ “ปล่อยมือกันได้แล้ว” ไม่พูดเปล่าเธอรีบแกะมือไวท์ออกจากฉัน

        “นี่คริสตัลหยุดนะ!” ไวท์หันไปขึ้นเสียงกับผู้หญิงที่กำลังแกะมือเขาออกจากฉัน เธอเลยหยุดชะงักและอึ้งไปเลย

        “ลิน่าไปลีมันรอแย่แล้ว” พี่เฟรมพูดแล้วมองสายตาดุไปที่ไวท์แล้วรีบแกะมือฉันกับเขาออกจากกันจากนั้นก็ลากฉันออกไปจากตรงนั้น โดยไม่เหลียวหลังไปมองอีก

        “อ่าวไปไหนกันมา จะโทรอยู่พอดี” เราทั้งสองเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าพี่ลีที่พูดด้วยน้ำเสียงธรรมดาโดยไม่รู้เลยว่าฉันไปเจออะไรมา

        “ไปเดินเล่นมาน่ะ” พี่เฟรมชิงตอบพี่ลีก่อนที่ฉันจะได้ตอบไปสงสัยกลัวว่าฉันจะบอกพี่ลีว่าไปเจอใครมา

        แล้วเราทั้งหมดก็แยกย้ายกันกลับบ้านฉันนั่งรถกลับบ้านกับพี่ลีสองคน รถพี่ลีเป็นรถMaybachที่ราคาแพงหูฉี่  พอรู้ราคาแล้วอดเสียดายเงินไม่ได้

        ฉันหลับตลอดทางที่นั่งมาถึงบ้านด้วยความที่เหนื่อยด้วยละมั้ง แถมเมื่อเช้าก็ดันตื่นซะเช้าตรู่เลย จะไม่ให้ง่วงได้ไงล่ะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา