Love Return ขอพิชิตใจเธออีกครั้ง
8.0
เขียนโดย pimlovely_pm
วันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2559 เวลา 20.53 น.
33 ตอน
0 วิจารณ์
34.09K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2559 18.25 น. โดย เจ้าของนิยาย
25) ต่างบ้าน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ “Morning Kiss” ไม่ทันที่ฉันจะได้ตั้งตัวก็มีคนมาจุ๊ปปากฉัน
“พี่ไวท์มาได้ไงอ่ะ แล้วมานอนเตียงฝันได้ไง”
“ก็มาหาไอ้ลีไง แล้วมันบอกให้พี่ขึ้นมาปลุกฝัน ขี้เซาเหมือนเดิมเลย” พี่ไวท์พูดแล้วยีหัวฉันอย่างหมั่นเขี้ยว “ไปอาบน้ำได้แล้วไป”
ฉันเข้าไปอาบน้ำเรียบร้อยพอออกมาก็ไม่เห็นพี่ไวท์แล้วสงสัยจะลงไปข้างล่างแล้วมั้งฉันเลือกใส่เสื้อสีขาวแขนกุดมีไข่มุกติดอยู่ที่คอเสื้อกระโปรงสีขาวมีสีดำตัดเป็นลายสี่เหลี่ยมชุดแบบนี้คงไม่ต้องขึ้นมาเปลี่ยนอีกใช่มั้ย
ฉันลงไปข้างล่างเห็นพี่ๆทุกคนคุยกันอย่างสนุกสนาน
“ไปคุณหญิงเสด็จแล้ว” พี่ลีที่เห็นฉันลงมาพูดขึ้น
“พี่ลี!”
“พี่ล้อเล่นๆไปวันนี้กินข้าวนอกบ้านนน” พี่ลีพูดเหมือนตื่นเต้น แล้วทุกคนก็เฮดังลั่นบ้าน
ป้านิ่มไม่ค่อยอยู่บ้านหรอกออกไปตั้งแต่เช้าเข้ามาอีกทีก็ดึกๆตลอดเห็นป้านิ่มบอกว่าช่วงนี้งานเยอะเราป้าหลานเลยไม่ค่อยได้คุยกัน ถ้าฉัน พี่ลีและพี่คนอื่นไม่มาบ้านหลังนี้คงเหงาน่าดู
“วันนี้กินข้าวเสร็จไปบ้านไอ้ไวท์ก่อนนะยังไม่ได้ไปไหว้แม่แกเลยไวท์” พี่ลีหันไปพูดกับพี่ไวท์ด้านหลัง
เรานั่งกันอยู่ในรถโดยที่พี่ลีเป็นคนขับ พี่เจลนั่งข้างคนขับแล้วที่เหลือนั่งข้างหลังบางทีฉันก็สงสัยนะว่าพี่ลีกับพี่เจลเป็นอะไรกันตัวติดกันตลอด แต่พอถามทั้งสองคนก็บอกว่าแค่เพื่อนกันแต่ตอนตอบหน้าตาดูลังเลยังไงก็ไม่รู้ฉันก็ไม่อยากไปเซ้าซี้อะไรมากมาย
เราทั้งหมดกินข้าวกันเสร็จก็มุ่งหน้าไปที่คฤหาสน์พี่ไวท์
พอเข้าไปข้างในก็เจอกับพ่อและแม่ของพี่ไวท์นั่งดูโทรทัศน์กันอยู่เราทั้งหมดทยอยเดินเข้าไปสวัสดีแล้วนั่งลงข้างๆ
“มากันเยอะเลยไม่บอกแม่ก่อน” แม่พี่ไวท์พูดคุยกับทุกคน
“ไม่เป็นไรหรอกครับแค่จะมาเยี่ยมเฉยๆไม่ได้มานานเลย”
“นั่นใช่ในฝันรึเปล่า” พ่อพี่ไวท์ถามขึ้น
“เอ่อ ใช่ค่ะ”
“แม่คิดถึงหนูมากเลยไม่ได้เจอกันนาน” แม่พี่ไวท์ลุกขึ้นมากอดฉัน
ทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำกิจกรรมต่างๆฉันเข้าครัวมาช่วยแม่(พี่ไวท์)ทำของว่าง
“แล้วนี่ลูกจำแม่ได้แล้วยังเนี่ยได้ข่าวว่าความจำเสื่อม” แม่ชวนคุยไปเรื่อย
ฉันไม่พูดอะไรเพียงแต่เข้าไปใกล้ๆแล้วเขย่งตัวขึ้นเพื่อกระซิบบางอย่างกับแม่ เรื่องนี้ถือเป็นความลับขั้นสุดยอด
“โอเคนะคะ” ฉันทำมือโอเคแล้วเอียงคอไปทางแม่
“จ้าๆแสบจริงๆเลย” แล้วก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง
แม่ยกของว่างซึ่งเป็นขนมพร้อมน้ำส้มมาให้พี่ๆทุกคน เราทั้งหมดทานกันเสร็จก็แยกย้ายกันไปเล่นนู่นเล่นนี่จนถึงตอนค่ำที่เราจะต้องกลับบ้านกัน
“ฝันวันนี้นอนที่นี่สิแม่คิดถึงหนูมากเลย” แม่พูดกับฉัน
“แต่ฝันยังไม่ได้พาเสื้อมาเลยนะคะ”
“เดี๋ยวเอาเสื้อไวท์มาใส่ก็ได้เมื่อก่อนลูกก็ทำแบบนี้ไม่ใช่เหรอ”
และท้ายที่สุดด้วยความเกรงใจของฉันเลยต้องยอมนอนที่นี่คืนนึงฉันรู้ว่าทำไมแม่ถึงให้ฉันนอนที่นี่ไม่ใช่เพราะอยากคุยหรอก ว่าฉันแสบแม่ก็แสบเหมือนกันนะเนี่ย
ฉันไม่ได้นอนห้องเดียวกับพี่ไวท์หรอกฉันนอนห้องข้างพี่ไวท์ ที่บ้านหลังนี้อ่ะมีตั้งหลายห้องออก เมื่ออาบน้ำเสร็จก็แต่งตัวฉันหยิบชุดพี่ไวท์ที่แม่บ้านคนหนึ่งเอามาให้ลองใส่ดูนี่คือชุดที่เล็กที่สุดของพี่ไวท์แล้ว แต่เมื่อฉันใส่ดูก็พบว่ามันใหญ่มากเสื้อแขนยาว ที่ยาวปิดมือเล็กๆของฉัน กางเกงขายาวที่ยาวลากพื้น แต่ฉันก็ต้องใส่มันฉันลงมือพับขากับแขนเสื้อขึ้นเพื่อให้มันสั้นลงหน่อย
ฉันล้มตัวลงนอนบนเตียงแต่พลิกตัวไปพลิกตัวมายังไงก็นอนไม่หลับ ฉันลุกขึ้นจากเตียงกะจะลงไปเดินเล่นที่สระน้ำ
ฉันลงมาที่สระน้ำยืนสูดอากาศอยู่ตรงนั้น
“ทำไมยังไม่นอนอีก”
ฉันหันไปก็เจอกับผู้ชายตัวสูงใส่ชุดนอนแขนยาว ขาวยาว มีสีน้ำเงินเป็นแถบเล็กๆ
“นอนไม่หลับ”
พี่ไวท์เดินมายืนอยู่ตรงหน้าฉันแล้วเอาแต่จ้องหน้าฉันไม่ยอมพูดจาใดๆ เราสบตากันอยู่อย่างนั้นแล้วพี่ไวท์ก็โน้มตัวลงมาเรื่อยๆจนตอนนี้หน้าเราทั้งสองอยู่ใกล้กันมากจมูกของเราทั้งสองจนชนกันแล้วพี่ไวท์ก็ค่อยๆเข้ามาเรื่อยๆแล้วปากของเราทั้งสองก็ประกบกันมันเป็นจูบที่หวานละมุน ไม่ร้อนแรงเหมือนครั้งนั้นจูบนี้มันทำให้ฉันแทบละลายเลยทีเดียวพี่ไวท์ค่อยๆละเลงจูบอย่างเชื่องช้าฉันที่ตอนนี้ใกล้ละลายต้องจับไหล่พี่ไวท์เอาไว้ไม่งั้นมีหวังฉันได้ล้มลงตรงนี้แน่พี่ไวท์ก็พยุงร่างฉันไว้แล้วพี่ไวท์ก็ถอนจูบที่แสนหวานนั้นออก
เราทั้งสองยังคงอยู่ในอ้อมกอดกันและกันไม่มีใครผละออกจากกันเรายังคงจ้องหน้ากันอยู่อย่างนั้นถ้าเป็นปลากัดคงท้องไปนานแล้ว ฉันสู้สายตาพวกนั้นของพี่ไวท์ไม่ได้เลยต้องเป็นฝ่ายยอมแพ้แล้วผละพี่ไวท์ออกจากตัว ฉันเดินออกไปจากตรงนั้นนิดนึงยืนสูดอากาศอยู่ซักพักลมที่ก็ไม่รู้ว่าพัดมาจากไหนก็เริ่มหนาวขึ้นเรื่อยๆเลยเอามือตัวเองทั้งสองข้างโอบไหลเอาไว้
“หนาวเหรอ” พี่ไวท์เดินมาข้างหลังแล้วโอบตัวฉันเอาไว้
“พี่ไวท์มาได้ไงอ่ะ แล้วมานอนเตียงฝันได้ไง”
“ก็มาหาไอ้ลีไง แล้วมันบอกให้พี่ขึ้นมาปลุกฝัน ขี้เซาเหมือนเดิมเลย” พี่ไวท์พูดแล้วยีหัวฉันอย่างหมั่นเขี้ยว “ไปอาบน้ำได้แล้วไป”
ฉันเข้าไปอาบน้ำเรียบร้อยพอออกมาก็ไม่เห็นพี่ไวท์แล้วสงสัยจะลงไปข้างล่างแล้วมั้งฉันเลือกใส่เสื้อสีขาวแขนกุดมีไข่มุกติดอยู่ที่คอเสื้อกระโปรงสีขาวมีสีดำตัดเป็นลายสี่เหลี่ยมชุดแบบนี้คงไม่ต้องขึ้นมาเปลี่ยนอีกใช่มั้ย
ฉันลงไปข้างล่างเห็นพี่ๆทุกคนคุยกันอย่างสนุกสนาน
“ไปคุณหญิงเสด็จแล้ว” พี่ลีที่เห็นฉันลงมาพูดขึ้น
“พี่ลี!”
“พี่ล้อเล่นๆไปวันนี้กินข้าวนอกบ้านนน” พี่ลีพูดเหมือนตื่นเต้น แล้วทุกคนก็เฮดังลั่นบ้าน
ป้านิ่มไม่ค่อยอยู่บ้านหรอกออกไปตั้งแต่เช้าเข้ามาอีกทีก็ดึกๆตลอดเห็นป้านิ่มบอกว่าช่วงนี้งานเยอะเราป้าหลานเลยไม่ค่อยได้คุยกัน ถ้าฉัน พี่ลีและพี่คนอื่นไม่มาบ้านหลังนี้คงเหงาน่าดู
“วันนี้กินข้าวเสร็จไปบ้านไอ้ไวท์ก่อนนะยังไม่ได้ไปไหว้แม่แกเลยไวท์” พี่ลีหันไปพูดกับพี่ไวท์ด้านหลัง
เรานั่งกันอยู่ในรถโดยที่พี่ลีเป็นคนขับ พี่เจลนั่งข้างคนขับแล้วที่เหลือนั่งข้างหลังบางทีฉันก็สงสัยนะว่าพี่ลีกับพี่เจลเป็นอะไรกันตัวติดกันตลอด แต่พอถามทั้งสองคนก็บอกว่าแค่เพื่อนกันแต่ตอนตอบหน้าตาดูลังเลยังไงก็ไม่รู้ฉันก็ไม่อยากไปเซ้าซี้อะไรมากมาย
เราทั้งหมดกินข้าวกันเสร็จก็มุ่งหน้าไปที่คฤหาสน์พี่ไวท์
พอเข้าไปข้างในก็เจอกับพ่อและแม่ของพี่ไวท์นั่งดูโทรทัศน์กันอยู่เราทั้งหมดทยอยเดินเข้าไปสวัสดีแล้วนั่งลงข้างๆ
“มากันเยอะเลยไม่บอกแม่ก่อน” แม่พี่ไวท์พูดคุยกับทุกคน
“ไม่เป็นไรหรอกครับแค่จะมาเยี่ยมเฉยๆไม่ได้มานานเลย”
“นั่นใช่ในฝันรึเปล่า” พ่อพี่ไวท์ถามขึ้น
“เอ่อ ใช่ค่ะ”
“แม่คิดถึงหนูมากเลยไม่ได้เจอกันนาน” แม่พี่ไวท์ลุกขึ้นมากอดฉัน
ทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำกิจกรรมต่างๆฉันเข้าครัวมาช่วยแม่(พี่ไวท์)ทำของว่าง
“แล้วนี่ลูกจำแม่ได้แล้วยังเนี่ยได้ข่าวว่าความจำเสื่อม” แม่ชวนคุยไปเรื่อย
ฉันไม่พูดอะไรเพียงแต่เข้าไปใกล้ๆแล้วเขย่งตัวขึ้นเพื่อกระซิบบางอย่างกับแม่ เรื่องนี้ถือเป็นความลับขั้นสุดยอด
“โอเคนะคะ” ฉันทำมือโอเคแล้วเอียงคอไปทางแม่
“จ้าๆแสบจริงๆเลย” แล้วก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง
แม่ยกของว่างซึ่งเป็นขนมพร้อมน้ำส้มมาให้พี่ๆทุกคน เราทั้งหมดทานกันเสร็จก็แยกย้ายกันไปเล่นนู่นเล่นนี่จนถึงตอนค่ำที่เราจะต้องกลับบ้านกัน
“ฝันวันนี้นอนที่นี่สิแม่คิดถึงหนูมากเลย” แม่พูดกับฉัน
“แต่ฝันยังไม่ได้พาเสื้อมาเลยนะคะ”
“เดี๋ยวเอาเสื้อไวท์มาใส่ก็ได้เมื่อก่อนลูกก็ทำแบบนี้ไม่ใช่เหรอ”
และท้ายที่สุดด้วยความเกรงใจของฉันเลยต้องยอมนอนที่นี่คืนนึงฉันรู้ว่าทำไมแม่ถึงให้ฉันนอนที่นี่ไม่ใช่เพราะอยากคุยหรอก ว่าฉันแสบแม่ก็แสบเหมือนกันนะเนี่ย
ฉันไม่ได้นอนห้องเดียวกับพี่ไวท์หรอกฉันนอนห้องข้างพี่ไวท์ ที่บ้านหลังนี้อ่ะมีตั้งหลายห้องออก เมื่ออาบน้ำเสร็จก็แต่งตัวฉันหยิบชุดพี่ไวท์ที่แม่บ้านคนหนึ่งเอามาให้ลองใส่ดูนี่คือชุดที่เล็กที่สุดของพี่ไวท์แล้ว แต่เมื่อฉันใส่ดูก็พบว่ามันใหญ่มากเสื้อแขนยาว ที่ยาวปิดมือเล็กๆของฉัน กางเกงขายาวที่ยาวลากพื้น แต่ฉันก็ต้องใส่มันฉันลงมือพับขากับแขนเสื้อขึ้นเพื่อให้มันสั้นลงหน่อย
ฉันล้มตัวลงนอนบนเตียงแต่พลิกตัวไปพลิกตัวมายังไงก็นอนไม่หลับ ฉันลุกขึ้นจากเตียงกะจะลงไปเดินเล่นที่สระน้ำ
ฉันลงมาที่สระน้ำยืนสูดอากาศอยู่ตรงนั้น
“ทำไมยังไม่นอนอีก”
ฉันหันไปก็เจอกับผู้ชายตัวสูงใส่ชุดนอนแขนยาว ขาวยาว มีสีน้ำเงินเป็นแถบเล็กๆ
“นอนไม่หลับ”
พี่ไวท์เดินมายืนอยู่ตรงหน้าฉันแล้วเอาแต่จ้องหน้าฉันไม่ยอมพูดจาใดๆ เราสบตากันอยู่อย่างนั้นแล้วพี่ไวท์ก็โน้มตัวลงมาเรื่อยๆจนตอนนี้หน้าเราทั้งสองอยู่ใกล้กันมากจมูกของเราทั้งสองจนชนกันแล้วพี่ไวท์ก็ค่อยๆเข้ามาเรื่อยๆแล้วปากของเราทั้งสองก็ประกบกันมันเป็นจูบที่หวานละมุน ไม่ร้อนแรงเหมือนครั้งนั้นจูบนี้มันทำให้ฉันแทบละลายเลยทีเดียวพี่ไวท์ค่อยๆละเลงจูบอย่างเชื่องช้าฉันที่ตอนนี้ใกล้ละลายต้องจับไหล่พี่ไวท์เอาไว้ไม่งั้นมีหวังฉันได้ล้มลงตรงนี้แน่พี่ไวท์ก็พยุงร่างฉันไว้แล้วพี่ไวท์ก็ถอนจูบที่แสนหวานนั้นออก
เราทั้งสองยังคงอยู่ในอ้อมกอดกันและกันไม่มีใครผละออกจากกันเรายังคงจ้องหน้ากันอยู่อย่างนั้นถ้าเป็นปลากัดคงท้องไปนานแล้ว ฉันสู้สายตาพวกนั้นของพี่ไวท์ไม่ได้เลยต้องเป็นฝ่ายยอมแพ้แล้วผละพี่ไวท์ออกจากตัว ฉันเดินออกไปจากตรงนั้นนิดนึงยืนสูดอากาศอยู่ซักพักลมที่ก็ไม่รู้ว่าพัดมาจากไหนก็เริ่มหนาวขึ้นเรื่อยๆเลยเอามือตัวเองทั้งสองข้างโอบไหลเอาไว้
“หนาวเหรอ” พี่ไวท์เดินมาข้างหลังแล้วโอบตัวฉันเอาไว้
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ