Love Return ขอพิชิตใจเธออีกครั้ง
เขียนโดย pimlovely_pm
วันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2559 เวลา 20.53 น.
แก้ไขเมื่อ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2559 18.25 น. โดย เจ้าของนิยาย
12) จิ๊กซอร์ที่หายไป
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความปี๊นๆ…
เสียงบีบแตรดังสนั่นหวั่นไหวอยู่หน้าบ้านฉัน ฉันที่เพิ่งแต่งตัวเสร็จจึงรีบเดินลงไปดูว่าใครกล้าทำแบบนี้ไม่เกรงใจชาวบ้านชาวช่องเลย
หน้าบ้านฉันมีรถยี่ห้อดังอย่างMG6จอดอยู่ รถคันสีขาวสะอาดเกลี้ยง ที่กระจดมือทึบ ผู้ชายในรถเปิดประตูลงมา
ร่างสูงที่อยู่ในชุดนักเรียนถูกระเบียบ แต่งตัวเนี้ยบ สะอาดทุกระเบียบนิ้วเขาเดินมาตรงหน้าฉันเราสองคนสบตาอยู่ครู่หนึ่งแล้วเขาก็เดินผ่านฉันเข้าไปในบ้านโดยที่ไม่ได้ขออนุญาตจากฉัน ในมือก็ถือปิ่นโตเล็กๆเข้าไปด้วย เขาถือวิสาสะอย่างกับว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านของเขา ฉันก็ได้แต่ยืนงุนงง
กว่าจะเรียกสติกลับมาได้ก็ใช้เวลาพอสมควรฉันเข้ามาในบ้านก็พบกับอาหารที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ เรียงรายกันอยู่เยอะแยะโดยมีผู้ชายคนเดิมนั่งอยู่ที่โต๊ะด้วย
“กินสิจะได้ไปโรงเรียนกันเดี๋ยวสาย”
ฉันนั่งตรงข้ามเขาด้วยสติที่ยัง งงๆ อยู่ว่ามันคืออะไรกันแน่ทำไมอยู่ๆพี่ไวท์คนนี้ถึงมาจัดเรื่องทุกอย่างให้ฉันจานที่ถูกวางอยู่เต็มเตรียมรอการล้างตอนนี้ก็ไม่เหลือแล้ว แถมอาหารพวกนี้อีกดูเหมือนว่าเขาจะทำมาก่อนแล้ว
พี่ไวท์ที่เห็นว่าฉันนั่งนิ่งเงียบไม่ตักอะไรเข้าปากเลยก็พูดขึ้นว่า “รีบกินเข้าสิ เราไม่ชอบกินอาหารสำเร็จรูปไม่ใช่เหรอนี่ไม่ใช่อาหารสำเร็จรูปนะอันนี้พี่ทำเองหมดเลย”
ด้วยความที่หิวก็ไม่รอช้าเมื่อสติกลับมาครบแล้วก็ตักข้าวเข้าปาก มันคือข้าวต้มเปล่าๆที่เครื่องเคียงแยกออกมาอยากกินอะไรก็ตักกินกับข้าวต้มได้ตามสะดวก ฝีมือพี่ไวท์นี่ยังอร่อยเหมือนเดิมไม่มีผิด ‘เหมือนเดิม’ ฉันเผลอนึกคำนี้ออกมาได้ยังไง ในเมื่อฉันไม่เคยกินข้าวฝีมือพี่ไวท์จะกินก็กินแค่ครั้งเดียวก็คือโจ๊กช่วงที่ฉันไม่สบาย หรือฉันเคยกินมาก่อนหน้านี้แล้วงั้นเหรอ
อยู่ๆในหัวฉันก็มีภาพผุดขึ้นมาเหมือนกับฉันได้ย้อนเวลากลับไปอีกแล้วภาพที่มีฉัน พี่ลี และพี่ไวท์กำลังนั่งกินข้าวกันอยู่ในชุดนักเรียนถูกระเบียบทุกอย่าง ภาพมันกำลังหัวเราะ มันกำลังสื่อให้ฉันรู้ว่าตอนนั้นมันมีความสุขแค่ไหน อยู่ๆฉันก็อดคิดถึงเสียงหัวเราะพวกนั้นไม่ได้ ภาพที่พวกเราหัวเราะร่ากันอย่างสนุกสนานพวกนั้นค่อยๆหายไปอย่างช้าๆแล้วฉันก็ไม่เห็นมันในหัวอีกเลย
“ไปโรงเรียนกัน เดี๋ยวค่อยกลับมาล้างก็ได้” เราทั้งคู่กินข้าวกันเสร็จเรียบร้อยแล้วฉันที่กะจะเอาจานใส่เครื่องล้างจานถึงกับต้องหยุดนิ่ง ไปโรงเรียนกับพี่ไวท์เนี่ยนะ
“เอ่อ…แต่ว่า” ฉันกะจะปฏิเสธแต่ไม่รู้จะสรรหาคำพูดแบบไหนที่มันจะดูดีไม่กระทบกับจิตใจคนฟัง
“ไม่มีแต่ไปขึ้นรถได้แล้ว” เขาดันตัวฉันออกจากครัวไปหยุดอยู่ที่หน้าประตูบ้านจากนั้นก็ทำการล็อกประตูแล้วจูงมือฉันออกไปนอกรั้วบ้านแล้วก็ล็อกประตูรั้ว คนตัวสูงเปิดประตูรถของตัวเองดันฉันให้นั่งลงที่เบาะข้างๆคนขับ แล้วเขาก็ขึ้นมานั่งหลังจากนั้นรถก็เคลื่อนที่ออกจากบ้านฉันอย่างช้าๆ
การกระทำอุกอาจของเขาทำให้ฉันได้แต่นั่งเงียบไม่พูดไม่จา เขาทำทุกอย่างได้กระฉับกระเฉงว่องไวและถูกต้องทุกอย่างก่อนออกจากบ้านของฉัน อย่างกับที่นี่คือบ้านของเขาอีกหลังหนึ่ง
“พี่ไวท์…มารับฝันทำไม”
“ก็กลัวว่าจะไปโรงเรียนไม่ได้ ไม่ชอบขึ้นรถโดยสารไม่ใช่เหรอ แถมยังขี้เกียจเดินอีกให้พี่ไปรับไปส่งอ่ะถูกแล้ว” คนที่กำลังขับรถอยู่ยีหัวฉันเบาๆ
“พี่ไวท์เราสองคนเป็นอะไรกัน” ฉันตัดสินใจถามคำถามที่คาใจออกไปทำเอาคนข้างๆหยุดยีหัวฉันทันควันหน้าเริ่มเปลี่ยนจากที่เมื่อกี้ยิ้มก็กลายเป็นหน้านิ่ง
“เราเป็นเอ่อ…พี่น้องกันไง” คำว่าพี่น้องจากปากพี่ไวท์ทำเอาฉันใจหล่นวูบไปเลยทีเดียวฉันรู้สึกเจ็บที่อกข้างซ้ายอย่างบอกไม่ถูก เราก็ควรเป็นพี่น้องกันถูกแล้วแต่ทำไมฉันถึงได้เจ็บแบบนี้นะ
แล้วเราก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีกเลยถ้าฉันตาไม่ฝาดฉันเห็นเหมือนที่ตาพี่ไวท์แดงกล่ำเหมือนกำลังจะร้องออกมา น้ำตาคลอเบ้าแต่ฉันก็ไม่ได้ด้านพอที่จะถามออกไป
“ไวท์!มากับยัยนี่ได้ยังไง” เสียงแหลมๆที่ไม่ต้องเห็นหน้าก็รู้ว่าใคร
พอฉันกับพี่ไวท์ลงจากรถก็เจอเข้ากับคำถามที่ไม่ทันตั้งตัว ไม่มีใครปริปากพูดเลยเอาแต่มองหน้ากันไปมา ยัยนกหงส์หยกที่เริ่มจะไม่สบอารมณ์เอามือมาจับที่ข้อมือฉันแล้วลากออกไปทันทีโดยที่มีพี่ไวท์วิ่งตามมาด้วย
ยัยนั่นที่เห็นว่าพี่ไวท์วิ่งตามมาก็รีบวิ่งมาที่สวนและหลอกล่อให้พี่ไวท์ไปอีกทาง “นี่เธอจะอะไรนักหนากับไวท์” ยัยนั่นเริ่มเปิดศึกกับฉัน
“ก็ไม่ได้อะไร”
“ตอบดีๆไม่เป็นเหรอฉันเป็นรุ่นพี่เธอนะ”
“รุ่นพี่ที่ไม่รู้จักโตนะเหรอ”
“ฉันถามดีๆนะ” ยัยนั่นพยายามจะข่มตัวเองสุดขีด “เธอก็เลิกกับไวท์แล้วไม่ใช่เหรอหรือหวงก้าง อ่อลืมไปเธอความจำเสื่อมหนิ” ยัยนั่นหัวเราะร่าเหมือนคนบ้า “ฉันจะบอกอะไรให้นะเธออ่ะเคยคบกับไวท์แต่อยู่ๆเธอก็ทิ้งไวท์ไปหาผู้ชาคนอื่น ทำให้ไวท์เสียใจ”
แต่ฉันคิดว่ามันไม่ได้เป็นแบบนี้นะ ภาพในหัวกำลังมาอีกแล้วคราวนี้เป็นภาพที่ฉันเห็นแล้วใจแทบแตกออกเป็นเสี่ยงๆไวท์ที่ยืนอยู่ในสวนกับยัยนี่สองคนนั่นพูดอะไรกันซักอย่างแล้วอยู่ๆยัยนี่ก็กอดคอไวท์และเขย่งตัวขึ้นจากนั้นก็ประกบปากกัน โอ๊ย!ภาพนี้มันไม่เหมือนกับภาพอื่นๆเมื่อภาพนี้เข้ามาในหัว ฉันก็ปวดหัวขึ้นมาทันทีโดยไม่มีสัญญาใดๆเตือน ใจก็เต็มเร็วขึ้นกว่าปกติ มันเต้นเหมือนกับจะทะลุออกมาจากอก ฉันพยายามควบคุมสติอารมณ์เอาไว้แต่ด้วยความเจ็บปวดมันทำให้สติของฉันหายตะเลิดเปิดโปงไปหมด ฉันได้แต่เอามือกุมที่หัวเอาไว้เพราะตอนนี้ความเจ็บปวดมันยิ่งทวีคูณขึ้นเรื่อยๆใจที่เต้นเร็วอยู่แล้วกลับทำให้มันเต้นเร็วขึ้นไปอีก
“ทำไม ปวดหัวขึ้นมารึไง!เรื่องแค่นี้ทำเป็นรับไม่ได้” เสียงยัยนี่ยังคงพูดกรอกหูฉันไปมาเรื่อยๆ
“นี่เธอทำอะไรฝัน!” เสียงที่คุ้นเคยดังกึกก้อง
พี่ไวท์พาฉันออกไปจากตรงนั้นโดยไม่ได้สนใจคำพูดของยัยนกหงส์หยกอีกเลย เขาพาฉันเดินมาเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่ที่ขอบสระแล้วเขาก็ทำในสิ่งที่ฉันไม่คาดคิดนั่นก็คือแถอดรองเท้าและถุงเท้าฉันออกแล้วก็กดให้ฉันนั่งห้อยขาลงไปในสระน้ำที่กว้างขวางนั่น
พี่ไวท์ถอดรองเท้าและถุงเท้านั่งลงข้างๆฉันพลางห้อยเท้าลงไปในน้ำ เขาเอามือคู่นั้นมานวดที่หัวใจเบาๆเพื่อคลายความเจ็บปวดและหนักอึงของสมองเขาค่อยๆนวดไปเรื่อยๆ
You gotta go and getAngry at all of my honestyYou know I try but I don’t do too well with apologiesI hope I don’t run out of Time could someone call the refereeCause I just need one more shot at forgiveness
I know you know that IMade those mistakes maybe once or twiceAnd by once or twice I MeanMaybe a couple a hundred timesSo let me oh let meRedeem oh redeem oh my self tonightCause I just need one more shot at second chances
เพลงนี้มันหลุดมาจากปากพี่ไวท์เขาร้องไปเรื่อยๆเสียงก็เริ่มสั่นคลอเรื่อยๆ เมื่อฉันหันไปมองหน้าพี่ไวท์ตอนนี้น้ำตากำลังรินไหลอาบแก้มพี่ไวท์เรื่อยๆแต่พี่ไวท์ก็ยังคงร้องเพลงนี้ต่อไปไม่มีทีท่าว่าจะหยุดนิ่ง แล้วน้ำใสๆที่ฉันอดกลั่นมานานมันก็เอ่อล้นมาบ้างแล้วเราทั้งสองนั่งร้องไห้
พี่ไวท์พยายามจะสื่อถึงอะไรกันแน่ ในหัวฉันก็มีภาพมากมายเข้ามาเรื่อยๆมันไม่ได้ผ่านไปเร็วเหมือนครั้งก่อนๆมันผ่านไปช้าๆเหมือนจะให้ฉันรับรู้ทุกอย่างความเจ็บจี๊ดในสมองก็ค่อยๆคลายออกไปเหลือเพียงรูปภาพในหัวที่มีแค่ฉันกับพี่ไวท์
ภาพที่ฉันเบียดพี่ไวท์ตกน้ำ ภาพที่พี่ไวท์เข้าห้องปกครองเพราะฉัน ภาพที่ไปเที่ยวกับพี่ไวท์และภาพอื่นๆอีกมากมายภาพเหล่านั้นฉันรับรู้ได้เพียงความรู้สึกที่มีในตอนนั้นว่ามันมีความสุขมากมันเป็นช่วงเวลาที่ที่ฉันอยากหยุดเอาไว้แค่นั้นไม่อยากให้มันเลยผ่านไป
จิ๊กซอร์แต่ละชิ้นเริ่มเผยขึ้นมาเรื่อยๆประติดประต่อเป็นภาพได้เกือบสมบูรณ์เหลือเพียงแค่ชิ้นเดียว และชิ้นเดียวที่ว่ามันก็กำลังผ่านเข้ามาในหัวฉัน มันเป็นภาพภาพเดียวกับที่ฉันเห็นตอนที่ยัยนกหงส์หยกพูด ภาพที่พี่ไวท์ยืนอยู่ท่ามกลางหญ้าเขียวๆมียัยนั่นยืนอยู่ด้วยแล้วเธอคนนั้นก็จูบพี่ไวท์ฉันเห็นภาพว่าตัวฉันเองวิ่งออกไปจากตรงนั้นทันทีแล้วพี่ไวท์ที่เห็นฉันก็วิ่งออกมาตามฉันเราหยุดอยู่ที่สระน้ำนี่แล้วเราสองคนก็ทะเลาะกันหนักมากเราทั้งคู่ร้องไห้เหมือนกันจนในที่สุดฉันก็วิ่งออกไปกะจะกลับบ้านระหว่างข้ามถนนอยู่ๆภาพในหัวก็ดับวูบไป
เมื่อฉันเห็นทุกอย่างแล้วความรู้สึกเจ็บจี๊ดก็แทรกเข้ามาทั่วทั้งร่างกายฉันรู้สึกเจ็บไปหมดไม่ใช่เจ็บแค่หัวแต่มันเจ็บไปทั้งร่างฉันแทบรับมือกับความเจ็บนี้ไม่ไหวภาพตรงหน้าฉันดับลงไปฉันมองอะไรไม่เห็นอีกเลย ฉันไม่รู้สึกตัวอีกเลย
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เครดิตเพลง : Sorry-Justin Bieber
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ