Love Return ขอพิชิตใจเธออีกครั้ง
เขียนโดย pimlovely_pm
วันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2559 เวลา 20.53 น.
แก้ไขเมื่อ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2559 18.25 น. โดย เจ้าของนิยาย
11) ฤทธิ์ไข้ ฤทธิ์รัก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความฉันตื่นมาตอนเช้าหันไปมองรอบๆตัวก็พบว่านี่มันคือห้องของฉัน ฉันจำได้ว่าเมื่อวานฉันจมน้ำแล้วพอฟื้นมาก็เห็นผู้ชายร่างสูงอุ้มร่างฉันอยู่เขาวางฉันที่เบาะในรถของใครบางคน ฉันไม่มีแรงแม้จะต่อสู้ใดๆได้แต่นั่งเงียบๆและเผลอหลับไปอีกรอบ แล้ว ทำไมชุดฉันถึงเปลี่ยนไป
“ตื่นแล้วเหรอ” เสียงนี้มันคือเสียง…เสียง…ไวท์ไม่ใช่เหรอเขามาทำอะไรที่นี่ “กินข้าวก่อนแล้วกัน” ฉันพยายามดันตัวเองขึ้นจากเตียงแต่แรงที่เหลือน้อยนิดของฉันก็ไม่อาจทำให้ร่างขึ้นมาได้ผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆเลยเข้ามาช่วยฉันแล้วก็เอาหมอนตั้งให้ฉันพิงไว้
“นายทำอะไรฉัน” ฉันหันไปมองหน้าผู้มาใหม่ด้วยความหวาดระแวง
“เปล่า พี่แค่เปลี่ยนชุดให้ฝันแต่ยังไม่เห็นอะไรนะ ก็เห็นว่าชุดมันเปียกเดี๋ยวจะไม่สบายหนักขึ้นไปอีกเมื่อคืนก็ตัวร้อนมากเลยนะ”
พอฉันได้ยินเท่านั้นฉันก็กะจะเอาหมอนขว้างไปแต่ก็ไม่มีแรงเหลือเลย ได้แต่นอนนิ่งๆแล้วทำหน้าทำตาแบบไม่ได้สนใจอะไรแต่ในใจฉันคิดไปไหนต่อไหนแล้ว แต่ลึกๆฉันก็ยังเชื่อว่าเขาไม่มีทางทำอะไรฉัน แล้วเรื่องเมื่อวานที่ห้องพักนักกีฬาล่ะ (เอ่อ ยังไงฉันก็เชื่อลึกๆแบบเอ่อลึกมากๆอ่ะนะ)
เขานั่งลงที่เตียงข้างๆตัวฉันพร้อมถ้วยที่ใส่อะไรซักอย่างอยู่ เขาตักโจ๊กที่อยู่ในถ้วยขึ้นมาจ่อปากฉันแต่ฉันก็ไม่แม้แต่จะอ้าปากฉันเป็นคนที่กินเยอะนะแต่ถ้าฉันไม่สบายขึ้นมาก็อย่าหวังว่าฉันจะกินอะไร ฉันกินอะไรไม่ลงเลยแถมถ้าฉันได้กลิ่นอาหารแล้วเหมือนจะรู้สึกจะอ้วก เหมือนคนท้องเลยใช่มั้ยล่ะแต่นี่มันคืออาการของฉันเวลาไม่สบาย
“พี่รู้ว่าฝันไม่อยากกินแต่กินหน่อยนะ เดี๋ยวจะไม่มีแรง” คนตัวสูงยังคงพูดโน้มน้าวฉัน แต่ฉันกลับเบือนหน้าหนีไปทางอื่น
อยู่ๆไวท์ก็หอมแก้มฉัน ฉันจึงหันหน้าไปหาเขาโดยอัตโนมัติแล้วโจ๊กก็เข้าไปอยู่ในปากฉันเรียบร้อยฉันไม่รู้ว่าฉันเผลออ้าปากตอนไหน ฉันกำลังจะอ้วกออกมาไวท์เห็นแบบนั้นจึงรีบเอามือมาปิดปากฉันเอาไว้ ฉันจำใจต้องกลืนมันเข้าไปด้วยสีหน้าที่พะอืดพะอมสุดๆ
“อีกคำนะ” ได้ยินคำนั้นฉันหันหน้าหนีทันทีโดยไม่รีรอ
“มาได้ยังไง” ฉันถามทั้งที่หน้าก็หันไปทางอื่น
“ก็อุ้มฝันมาส่งไงแล้วคิดขึ้นได้ว่าวันนี้ไอ้ลีไม่อยู่เลยเป็นห่วงอุตส่าห์มาอยู่เป็นเพื่อนนะ”
“ไม่ต้องการ”
“พี่เอาของไปเก็บก่อนนะเดี๋ยวขึ้นมา” เขาไม่สนใจที่ฉันพูด
ฉันนั่งอยู่ในห้องอยู่คนเดียวก็เผลอคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย โจ๊กนั่นรสชาตินี้ฉันรับรู้ได้ว่าเป็นรสชาติที่ฉันชอบและหวนหาตลอดสองปี วิธีการป้อนข้าวแบบนั้นฉันรู้สึกได้ว่าเคยมีคนทำแบบนี้กับฉัน อยู่ๆในหัวก็ปรากฏภาพภาพหนึ่งเป็นภาพที่ฉันนอนป่วยอยู่ในห้องนี้แล้วก็มีไวท์ที่มาคอยดูแล คอยป้อนข้าว คอยอยู่ด้วย
แอด…
ผู้ชายร่างสูงที่ฉันคุ้นเคยเข้ามาในห้องอีกครั้งพร้อมถ้วยแก้วใหญ่ๆใส่น้ำ มีผ้าผืนเล็กพอประมาณ พาดอยู่ที่ขอบ หน้าตาเขาดูนิ่งเฉยจนฉันคาดเดาไม่ได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ บางทีเขาคนนี้ก็ยากที่จะเข้าหา หรือบางทีเขาคนนี้ก็เข้าหาเราด้วยตัวเอง แต่ถ้าตัวตนจริงๆของเขาแล้วเขาเป็นคนน่าค้นหา และจะปิดกั้นตัวเองตลอดถ้ามีคนเข้ามา น้อยคนนักที่จะพังทลายกำแพงพวกนั้นของเขาได้ เอ๊ะ!ว่าแต่ฉันรู้ได้ยังไงกัน นี่ไม่ใช่สมองของฉันคิดหรอกแต่มันเป็นหัวใจมากกว่าที่คิด
“มาเช็ดตัว” เขานั่งข้างๆฉันอีกครั้งทั้งยังถือวิสาสะจับแขนฉันแล้วเอาผ้าที่ชุบน้ำแล้วมาเช็ดที่แขนฉัน
ความอบอุ่นพวกนี้มัน…อะไรกันนะ…ฉันรู้สึกคุ้นเคยกับมันอย่างปฏิเสธไม่ได้ ความอบอุ่นที่น้อยคนนักจะเข้าใจมันเป็นความอบอุ่น ที่ลึกซึ้งกินใจซะเหลือเกิน
“นอนพักผ่อนเถอะ” ไวท์เช็ดตัวให้ฉันเสร็จก็เดินออกไปนอกห้อง
ฉันได้แต่นอนคิดว่าทำไมสิ่งพวกนี้มันถึงทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ แล้วเมื่อไหร่ฉันจะจำได้ ภาพเหตุการณ์ต่างๆก็เริ่มมาทีละภาพเหมือนจิ๊กซอร์ที่เริ่มเผยให้เห็นภาพใหญ่ ภาพที่ฉันจะเข้าใจแจ่มแจ้งทุกอย่างฉันต้องทรมานปวดหัวแบบนี้ถึงเมื่อไหร่กัน เมื่อไหร่เรื่องพวกนี้จะจบลง นี่มันเป็นเวรเป็นกรรมอะไรของฉันทำไมถึงต้องความจำเสื่อมฉันไปดักทุบหัวใครมารึไง
ในฝันที่หลับลงไปแล้วแต่ไวท์ก็ยังไม่ได้พักผ่อนตั้งแต่เมื่อคืนพอเขาเปลี่ยนชุดของในฝันเรียบร้อยก็เช็ดตัวให้ในฝันแล้วเขาก็ต้องซักเสื้อผ้าที่เปียกของเธอ กว่าจะได้นอนก็เกือบเช้าเขานอนได้แค่สองสามชั่วโมงก็ต้องตื่นมาทำอาหารเช้าแล้วตอนนี้เขาก็กำลังจัดโต๊ะ กวาดขยะ ถูพื้นนี่ไม่ใช่บ้านของเขาเลยแต่เขาก็ยอมทำให้เพราะผู้หญิงคนนี้ก็ถือเป็นหนึ่งในชีวิตของเขา
คนหนึ่งกำลังนอนหลับตาพริ้มอย่างสบายด้วยฤทธิ์ไข้ อีกคนทำงานบ้านอย่างขันแข่งด้วยฤทธิ์รัก ชั่งเหมาะสมกันเสียนี่กระไร ฤทธิ์รักที่เมื่อใครๆได้รับก็ต้องยอมทำทุกอย่างให้กับคนที่เรารัก ทำโดยไม่รู้ถูกผิด ทำด้วยความเต็มใจ มันมีทั้งด้านดีและด้านไม่ดีในตัวเดียวกัน
ไวท์ที่ทำงานบ้านเสร็จแล้วก็ไปทำอาหารเตรียมไว้สำหรับตอนเที่ยงนี่อาจเป็นช่วงเวลาหนึ่งที่เขาจะได้ใกล้ชิดในฝันมากที่สุด ลีโอ เฟรม เบลล์ หรือแม้แต่เจลก็ไม่อยู่ ไวท์คิดกับตัวเองว่าจะใช้ช่วงเวลานี้ในการรื้อฟื้นความทรงจำให้กับในฝันเขาสัญญากับตัวเองว่าเขาจะทำให้ในฝันจำเรื่องราวทั้งหมดให้ได้ จำความรักของเขาทั้งสองที่มีความสุขให้ได้ แต่เหมือนฟ้าจะเข้าข้างในฝันเริ่มจำขึ้นมาบ้างแล้วถึงแม้จะจำได้แค่เล็กน้อยก็ตามแต่
ฉันรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกครั้งและมองไปที่นาฬิกาก็พบว่านี่เป็นเวลาสิบเอ็ดโมง กลิ่นอาหารจากข้างล่างโชยขึ้นมาแตะจมูกฉัน แต่ฉันก็ไม้ได้รู้สึกเหม็นอะไรมากมายต่างจากเมื่อเช้าโดยสิ้นเชิง ฉันพยายามดันตัวเองขึ้นมาให้ลุกขึ้นนั่งแต่ด้วยฤทธิ์ไข้มันเลยทำให้ฉันยังรู้สึกมึนๆหัวอยู่บ้าง ฉันลองลุกขึ้นยืนแต่กะจะเดินออกจากตรงนี้แต่สมองฉันมันหนักอึงมันมึนไปหมด เหมือนกับโลกกำลังหมุนอย่างเร็วจนฉันรู้สึกได้รอบห้องหมุนไปหมด ฉันทนดูไม่ได้ แล้วร่างฉันก็ล้มลงไปที่พื้น
ตุ๊บ…
ฉันพยายามดันตัวเองขึ้นอีกครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผลอยู่ๆก็มีมือที่อบอุ่นคู่หนึ่งมาช่วยอุ้มฉันขึ้นมาพอเงยหน้าขึ้นไปก็เจอกับผู้ชายที่ฉันอยู่ด้วยเมื่อไหร่ก็รู้สึกปลอดภัยขึ้นมาทันที
“ไม่สบายก็นอนเฉยๆสิจะเดินทำไมเรานี่จริงๆเลยเหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิด” ได้ยินคำว่า ‘เหมือนเมื่อก่อน’ จากปากคนคนนี้ทีไรหัวใจฉันก็สั่นขึ้นมาทันควัน คำคำนี้มันมีอิทธิพลต่อใจฉันมากขนาดนี้เลยเหรอ
‘พี่ไวท์ หิววว’
‘พี่ไวท์มารับหน่อย’
‘พี่ไวท์รอด้วย’
และคำอื่นๆอีกมากมาย
อยู่ๆคำพูดพวกนี้ก็ลอยเข้ามาในหัวฉัน พี่ไวท์? ใช่ฉันจำได้!ฉันเรียกคนตรงหน้าว่า ‘พี่ไวท์’ นี่ฉันเริ่มจำได้แล้วงั้นเหรอ
“แล้ววันนี้เอ่อ…เอ่อ…พี่ไวท์ไม่ไปเรียนเหรอ” ฉันลองทดสอบดูว่าฉันจำไม่ผิดใช่มั้ยตอนแรกก็คิดว่ามันจะแปลกๆไปแต่ที่ไหนได้ฉันไม่รู้สึกแปลกเลยแถมยังรู้สึกคุ้นเคยขึ้นมาอีกด้วย
“เมื่อกี้ฝันเรียกพี่ว่าอะไรนะ” คนตรงหน้าพูดด้วยท่าทางดีใจปากก็ฉีกยิ้มกว้าไปถึงหู
“พี่ไวท์ หรือเมื่อก่อนเอ่อ…เอ่อ…ฝันไม่ได้เรียกแบบนี้เหรอ” ฉันแทนตัวเองว่า ‘ฝัน’
“ใช่สิฝันเรียกพี่ว่า พี่ไวท์ แทนตัวเองว่า ฝัน หรือบางทีฝันก็เรียกแค่คำว่าพี่อย่างเดียว ฝันจำได้แล้วเหรอ ฝันจำพี่ได้แล้วใช่มั้ย”
“ก็แค่…เอ่อ…แค่คำพูดนี้มันลอยเข้ามาในหัวแล้วรู้สึกคุ้นก็เลยลองเรียกดู แล้วมันก็…ชั่งมันเถอะ” ฉันหลีกเลี่ยงที่จะพูดคำว่า คุ้นเคย ออกไป
“ฝันจะลงไปข้างล่างมั้ยเดี๋ยวพาไป เวลาฝันไม่สบายฝันไม่ชอบอยู่ห้องที่มันอุดอู้ไม่ใช่เหรอ” นี่เขาเอ่อ…ไม่ใช่สิ พี่ไวท์รู้เรื่องของฉันทั้งหมดเลยเหรอ
“เอ่อ ก็ได้”
แล้วพี่ไวท์ก็ช่วยพยุงฉันเดินออกจากห้องช้าๆเดินลงมานั่งข้างล่างที่ห้องนั่งเล่น แต่ก็มีกระจกให้มองออกไปข้างนอกสนามหญ้าสีเขียว ดอกไม้สีสดดูสดชื่น ผู้คนที่เดินกันขวักไขว่ดูแล้วเพลินตาไม่ต้องนอนดูแต่ผนังสีครีม
“มาแล้วเริ่มหายยังเราไหนดูซิ” พี่ไวท์ถือวิสาสะเอาหลังมือมาแตะหน้าผากฉัน “ไข้ลดแล้วนี่ อ้วกยังอ่ะ” ฉันก็ยังทำหน้าสงสัยอยู่เขาถามอะไร ทำไมฉันงง
นึกออกแล้ว!ใช่ เวลาฉันไม่สบายฉันจะไม่ทานยาอะไรทั้งสิ้น ถ้าถึงเวลาของมันแล้วพิษไข้พวกนี้จะออกมาในรูปแบบของอ้วกถ้าฉันอ้วกเมื่อไหร่แสดงว่าฉันหายแล้ว พออ้วกเสร็จก็เหมือนไม่เคยเป็นไข้มาก่อนเดิน เล่น วิ่งได้สบายปร๋อเลยแต่เวลาเป็นไข้นี่ฉันแทบยืนไม่ไหวเลยล่ะ
ฉันได้แต่ส่ายหัวไปมาแทนคำตอบ ผู้ชายคนนี้เวลาอยู่ใกล้มันทำให้ใจฉันอยู่ไม่เป็นสุขเลย เขาคอยดูแลเอาใจใส่ฉันถึงแม้ว่าฉันจำอะไรไม่ได้เลย
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ