ภรรยาสายแข็ง
7.7
เขียนโดย tidadin
วันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2559 เวลา 17.53 น.
8 ตอน
0 วิจารณ์
10.73K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2559 18.00 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) ตอนที่ 3 เกลือจิ้มเกลือ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ตอนที่ 3 เกลือจิ้มเกลือ
หลังจากปรัตถกรแต่งตัวเสร็จก็รีบลงมาที่โต๊ะอาหาร ตามธรรมเนียมคนที่มาช้าสุดก็ต้องโดนมาเฟียประจำบ้านอย่างคุณนายรุ้งแก้วบ่นอย่างไม่สิทธิ์หลีกเลี่ยง แต่ด้วยวันนี้เจอเรื่องชวนอารมณ์เสียแต่เช้าจึงได้แค่นิ่งฟัง ไม่ได้โต้เถียงเหมือนทุกครั้งซึ่งมันก็ทำให้ทุกคนมองว่ามันผิดปกติ มีเพียงเอิ้นขวัญเท่านั้นที่รู้ว่าเขาเป็นอะไรถึงนั่งหน้าบึ้งไม่ยอมพูดจา
“ตากร รสชาติอาหารวันนี้เป็นไงบ้าง”
“อร่อยดีครับ วันนี้น้อยกินอะไรผิดหรือเปล่าทำไมถึงทำอาหารอร่อยผิดปกติ”
เขาก็ว่าจะถามตั้งแต่ได้ลิ้มรสคำแรกแล้วล่ะ อาหารมันอร่อยผิดแปลกไป แถมรสชาติกลมกล่อมกว่าฝีมือของน้อยสาวใช้ แต่เพราะมัวแต่นั่งอารมณ์เสียเลยไม่ได้ถามขึ้น
“ไม่ใช่ฝีมือน้อยหรอกกร ฝืมือของหนูเอิ้นน่ะ” ชลดาบอกลูกชาย
ข้าวที่พึ่งตักเข้าปากแทบจะสำลักออกมา ทั้งพ่อทั้งลูกหันมองหน้ากันอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่คาดคิดว่าอาหารรสชาติอร่อยที่ทำให้ทั้งคู่ทานอาหารได้มากกว่าทุกวันจะเป็นฝีมือของเอิ้นขวัญ ปรัตถกรแอบชำเลืองมองแม่ครัวเฉพาะกิจเป็นจังหวะเดียวกันกับที่เอิ้นขวัญมองเขาอยู่เช่นกันจึงทำให้สายตาของคนทั้งคู่ผสานกันโดยบังเอิญ แถมเธอยังส่งยิ้มหวานให้เขาอีกต่างหาก
‘ใส่เสน่ห์ยาแฝดไปเรียบร้อยค่ะ ผัวรักผัวหลง’ เอิ้นขวัญคิดในใจ
“ถ้าอร่อยก็ทานเยอะๆนะคะ เดี๋ยวเอิ้นจะทำให้ทานทุกวันเลย”
ปรัตถกรวางช้อนทันที ยกน้ำขึ้นมาดื่มเป็นสัญญาณว่าเขาอิ่มแล้ว “ก็แค่แกล้งพูดไปงั้นๆแหละ ที่จริงรสชาติไม่ค่อยได้เรื่องเท่าไหร่ เอาจริงๆรสชาติแบบนี้เอาให้หมากินหมามันคงชอบ”
“ฉันก็ชอบแสดงว่าฉันเป็นหมาใช่ไหม” คุณนายรุ้งแก้วเป็นเดือดเป็นร้อนขึ้นมาทันที “แม่แกก็หมา พ่อแกก็เป็นหมา เพราะทุกคนชมว่าอาหารอร่อยทั้งนั้น เอ้าหอนสิทุกคนรออะไรล่ะ คุณปรัตถกรดาราดังเขาว่าเราเป็นหมานี่ หอนเร็ว บรู๊ว…”
จำเป็นต้องประชัดขนาดนั้นไหมย่าผม ปรัตถกรกุมขมับอย่างปวดหัว
“ผมไม่ได้หมายความว่ายังงั้นนะครับคุณย่า” ผู้เป็นหลานชายถึงกับหน้าซีด เขาก็แค่อยากทำลายความมั่นใจของเอิ้นขวัญไม่ได้เจตนาว่าทุกคนเป็นหมาอย่างที่คุณย่ามาเฟียเข้าใจ
“แกเนี่ยนะชอบเอาอคติเป็นที่ตั้ง พึ่งชมไปหยกๆว่าอาหารอร่อยมาก แต่พอรู้ว่าหนูเอิ้นทำก็มากลับคำพูด ขอโทษหนูเอิ้นเดี๋ยวนี้”
“โธ่คุณย่า ขอโทษอะไรล่ะครับ ผมก็แค่พูดความจริง”
“ตากร!” คุณนายรุ้งแก้วโมโห ยิ่งทำให้บรรยากาศในโต๊ะอาหารเคร่งเครียด
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณย่า ถ้าคุณกรทานแล้วไม่อร่อยมันก็ไม่ใช่เรื่องผิดนี่คะถ้าจะบอกว่าอาหารไม่อร่อยจริงๆ ก็ดูข้าวในจานคุณกรสิคะ ไม่เหลือสักเม็ด อาหารคงไม่อร่อยจริงๆนั่นแหละ ใช่ไหมคะคุณกร”
ปรัตถกรถึงกับหน้าเหวอ ก้มมองจานข้าวตัวเองไม่เหลือข้าวติดจานสักเม็ดจริงๆ ที่จริงเขาอยากเติมข้าวเพิ่มด้วยซ้ำแต่พอรู้ว่าอาหารเป็นฝีมือของเอิ้นขวัญจึงต้องระงับความอยากเอาไว้ ยุติการรับประทานด้วยการวางช้อนและยกน้ำขึ้นดื่ม
หลังจากรับประทานอาหารเช้ากันอิ่มแล้ว ทั้งหมดก็พากันนั่งรถตู้มุ่งหน้าสู่วัดแห่งหนึ่งในตัวเมืองจังหวัดนครราชสีมา เพื่อขอฤกษ์งานแต่งระหว่างปรัตถกรกับเอิ้นขวัญ จริงๆว่าที่เจ้าบ่าวไม่อยากมาด้วยซ้ำแต่ขัดใจคุณย่ามาเฟียของเขาไม่ได้จึงต้องก้มหน้ารับชะตากรรม นั่งเคียงข้างมากับเจ้าสาวที่นั่งสัปหงกเอนศีรษะมาซบไหล่เขาครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งๆที่เขาก็ดันเธอออกห่างไปทุกครั้ง
“นี่คุณ นั่งดีๆหน่อยได้ไหม จะเอนมาซบผมทำไมเนี่ย”
“ฉันหลับนี่คะ จะไปรู้ได้ไงว่าหัวมันจะเอนไปฝั่งไหน”
“หลับก็เอนไปฝั่งโน้นก็ได้ ไม่ต้องมาซบไหล่ผม ผมกลัวคัน”
“ฉันไม่ใช่หมามุ่ยนะคะที่โดนแล้วจะคัน แต่ถึงโดนแล้วจะคันคุณกรก็ต้องเรียนรู้ไว้ เพราะอีกเดี๋ยวเราแต่งงานกันเราก็ต้องทำอะไรที่มากกว่าการซบไหล่แล้วนะคะ”
“ทำอะไร” ถามทั้งๆที่รู้ความหมาย แค่คิดก็ขนลุกขึ้นทั้งตัวแล้วแม่คุณเอ๊ย!
“ก็ทำเหมือนที่สามีภรรยาคู่อื่นเขาทำกันไงคะ” เอิ้นขวัญกัดริมฝีปากทำหน้าเซ็กซี่ถ้าจินตนาการไม่ออกคิดถึงหน้าอั้มต้องกินมาม่านะคะเซ็กซี่ประมาณนั้น “เป็นสามีภรรยากันก็ต้องเล่นจ้ำจี้มะเขือเปราะ กะเทาะหน้าแว่น พายเรืออ้อนแอ้น กระแท่นต้นกุ่ม สาวๆหนุ่มๆ อาบน้ำท่าไหน อาบน้ำท่าวัด เอาแป้งที่ไหนผัด เอากระจกที่ไหนส่อง เยี่ยมๆมองๆนกขุนทองร้องกรู้!”
ปรัตถกรเกือบจะหลุดหัวเราะออกไปแล้ว หากไม่กลั้นเอาไว้เสียก่อนเพราะกลัวเธอจะได้ใจ เขาหันมองเธอที่ยิ้มแฉ่งมองหน้าเขาด้วยสายตาหวานหยาดเยิ้ม
“ อย่าหวังให้มาก งานแต่งงานยังไม่เกิด มันอาจจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงก็ได้ แต่ถึงแม้จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ก็อย่าหวังว่าจะได้เข้าใกล้ตัวผม ขาอ่อนผมคุณก็ไม่เห็นหรอกจะบอกให้”
“แต่ฉันว่าฉันเห็นมากกว่าขาอ่อนแล้วนะ” เอิ้นขวัญยิ้มร้าย “เข้าเมืองทั้งทีคงต้องซื้อแว่นขยายติดไม้ติดมือไปด้วย”
“คุณ!”
ปรัตถกรเผลอตวาดเธออย่างเหลืออด จนทุกสายตาในรถต่างหันมอง โดยเฉพาะสายตาคุณย่ามาเฟียของเขานั้นโหดร้ายกว่าเพื่อน เขาจึงรีบแก้สถานการณ์ก่อนจะโดนเทศนายาวเหยียด
“นอนดีๆสิครับ เดี๋ยวก็หล่นลงไปคอหักตายหรอก”
เอิ้นขวัญหลับตาอมยิ้ม พลางส่ายหน้า ใครบอกว่ามารยามีเฉพาะผู้หญิง วันนี้เธอคงค้านหัวชนฝา ผู้ชายบางคนมารยาก็มีไม่น้อยเลย หนึ่งในนั้นก็คือว่าที่เจ้าบ่าวของเธอ
“คุณเชื่อไหมถ้าผมเข้าป่าแล้วเจอคุณกับงูพร้อมกัน ผมจะตีคุณก่อนงูโดยไม่ลังเล” ปรัตถกรหันมากระซิบข้างหูของเธออย่างอดไม่ได้
“คุณใจร้ายจังถ้าคุณเลือกตีฉัน ฉันก็คงเจ็บตัว เจ็บหลัง ร้าวมายังหัวใจ เคลื่อนไปยังกระเพาะ เลาะมาทางลำไส้ ย้ายไปที่ม้าม ลุกลามถึงถุงน้ำดี มาหยุดอยู่ที่เธอ” รออะไรละคะปรบมือสิ แปะ แปะ
ใครก็ได้เอากระโถนมาให้ที ปรัตถกรพะอืดพะอมเต็มทีแล้วตอนนี้ “ถ้าคิดจะจีบผมคงยากหน่อยนะ”
“ไม่เป็นไรค่ะฉันจะจีบจนคุณจะสนใจ จะไม่ไปไหนจนกว่าคุณจะสมยอม”
ปรัตถกรคลี่ยิ้มมุมปากยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้หญิงสาวในระยะประชิดและรวดเร็วจนเอิ้นขวัญตั้งตัวไม่ทัน แน่นอนว่ามันทำให้เธอใจสั่นและหน้าเผือดสีลงจนเห็นได้ชัด ลมหายใจร้อนๆที่ราดรดหน้าเธอมันทำให้เธอขนลุกซู่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“รอชาติหน้าตอนบ่ายๆนะครับ” ชายหนุ่มกระดิกคิ้วให้เธอพลางยิ้มเยาะ
“ถ้าภรรยาข่มขืนสามีตัวเองมันไม่ผิดกฎหมายใช่ไหมคะ เอ๊ะ! เราจะได้ฤกษ์แต่งงานกันเดือนไหนนะอยากรู้จัง”
แรงมาแรงกลับนะคะ อย่าหวังว่าจะทำให้เธอสะเทือนใจแค่ฝ่ายเดียวได้ เอิ้นขวัญคลี่ยิ้มเมื่อเห็นรอยยิ้มของเขาหุบหาย ก่อนที่เธอจะกระดิกคิ้วล้อเลียนชายหนุ่ม เคยได้ยินไหมคะว่าที่สามี กระดิกคิ้วที่หลังดังกว่า!
หัวเราะกลบเกลื่อนน้ำตา ฝืนฮาทั้งที่รู้ว่าเสียใจ…มันเจ็บโครตๆเลยเนอะ
หลังจากปรัตถกรแต่งตัวเสร็จก็รีบลงมาที่โต๊ะอาหาร ตามธรรมเนียมคนที่มาช้าสุดก็ต้องโดนมาเฟียประจำบ้านอย่างคุณนายรุ้งแก้วบ่นอย่างไม่สิทธิ์หลีกเลี่ยง แต่ด้วยวันนี้เจอเรื่องชวนอารมณ์เสียแต่เช้าจึงได้แค่นิ่งฟัง ไม่ได้โต้เถียงเหมือนทุกครั้งซึ่งมันก็ทำให้ทุกคนมองว่ามันผิดปกติ มีเพียงเอิ้นขวัญเท่านั้นที่รู้ว่าเขาเป็นอะไรถึงนั่งหน้าบึ้งไม่ยอมพูดจา
“ตากร รสชาติอาหารวันนี้เป็นไงบ้าง”
“อร่อยดีครับ วันนี้น้อยกินอะไรผิดหรือเปล่าทำไมถึงทำอาหารอร่อยผิดปกติ”
เขาก็ว่าจะถามตั้งแต่ได้ลิ้มรสคำแรกแล้วล่ะ อาหารมันอร่อยผิดแปลกไป แถมรสชาติกลมกล่อมกว่าฝีมือของน้อยสาวใช้ แต่เพราะมัวแต่นั่งอารมณ์เสียเลยไม่ได้ถามขึ้น
“ไม่ใช่ฝีมือน้อยหรอกกร ฝืมือของหนูเอิ้นน่ะ” ชลดาบอกลูกชาย
ข้าวที่พึ่งตักเข้าปากแทบจะสำลักออกมา ทั้งพ่อทั้งลูกหันมองหน้ากันอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่คาดคิดว่าอาหารรสชาติอร่อยที่ทำให้ทั้งคู่ทานอาหารได้มากกว่าทุกวันจะเป็นฝีมือของเอิ้นขวัญ ปรัตถกรแอบชำเลืองมองแม่ครัวเฉพาะกิจเป็นจังหวะเดียวกันกับที่เอิ้นขวัญมองเขาอยู่เช่นกันจึงทำให้สายตาของคนทั้งคู่ผสานกันโดยบังเอิญ แถมเธอยังส่งยิ้มหวานให้เขาอีกต่างหาก
‘ใส่เสน่ห์ยาแฝดไปเรียบร้อยค่ะ ผัวรักผัวหลง’ เอิ้นขวัญคิดในใจ
“ถ้าอร่อยก็ทานเยอะๆนะคะ เดี๋ยวเอิ้นจะทำให้ทานทุกวันเลย”
ปรัตถกรวางช้อนทันที ยกน้ำขึ้นมาดื่มเป็นสัญญาณว่าเขาอิ่มแล้ว “ก็แค่แกล้งพูดไปงั้นๆแหละ ที่จริงรสชาติไม่ค่อยได้เรื่องเท่าไหร่ เอาจริงๆรสชาติแบบนี้เอาให้หมากินหมามันคงชอบ”
“ฉันก็ชอบแสดงว่าฉันเป็นหมาใช่ไหม” คุณนายรุ้งแก้วเป็นเดือดเป็นร้อนขึ้นมาทันที “แม่แกก็หมา พ่อแกก็เป็นหมา เพราะทุกคนชมว่าอาหารอร่อยทั้งนั้น เอ้าหอนสิทุกคนรออะไรล่ะ คุณปรัตถกรดาราดังเขาว่าเราเป็นหมานี่ หอนเร็ว บรู๊ว…”
จำเป็นต้องประชัดขนาดนั้นไหมย่าผม ปรัตถกรกุมขมับอย่างปวดหัว
“ผมไม่ได้หมายความว่ายังงั้นนะครับคุณย่า” ผู้เป็นหลานชายถึงกับหน้าซีด เขาก็แค่อยากทำลายความมั่นใจของเอิ้นขวัญไม่ได้เจตนาว่าทุกคนเป็นหมาอย่างที่คุณย่ามาเฟียเข้าใจ
“แกเนี่ยนะชอบเอาอคติเป็นที่ตั้ง พึ่งชมไปหยกๆว่าอาหารอร่อยมาก แต่พอรู้ว่าหนูเอิ้นทำก็มากลับคำพูด ขอโทษหนูเอิ้นเดี๋ยวนี้”
“โธ่คุณย่า ขอโทษอะไรล่ะครับ ผมก็แค่พูดความจริง”
“ตากร!” คุณนายรุ้งแก้วโมโห ยิ่งทำให้บรรยากาศในโต๊ะอาหารเคร่งเครียด
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณย่า ถ้าคุณกรทานแล้วไม่อร่อยมันก็ไม่ใช่เรื่องผิดนี่คะถ้าจะบอกว่าอาหารไม่อร่อยจริงๆ ก็ดูข้าวในจานคุณกรสิคะ ไม่เหลือสักเม็ด อาหารคงไม่อร่อยจริงๆนั่นแหละ ใช่ไหมคะคุณกร”
ปรัตถกรถึงกับหน้าเหวอ ก้มมองจานข้าวตัวเองไม่เหลือข้าวติดจานสักเม็ดจริงๆ ที่จริงเขาอยากเติมข้าวเพิ่มด้วยซ้ำแต่พอรู้ว่าอาหารเป็นฝีมือของเอิ้นขวัญจึงต้องระงับความอยากเอาไว้ ยุติการรับประทานด้วยการวางช้อนและยกน้ำขึ้นดื่ม
หลังจากรับประทานอาหารเช้ากันอิ่มแล้ว ทั้งหมดก็พากันนั่งรถตู้มุ่งหน้าสู่วัดแห่งหนึ่งในตัวเมืองจังหวัดนครราชสีมา เพื่อขอฤกษ์งานแต่งระหว่างปรัตถกรกับเอิ้นขวัญ จริงๆว่าที่เจ้าบ่าวไม่อยากมาด้วยซ้ำแต่ขัดใจคุณย่ามาเฟียของเขาไม่ได้จึงต้องก้มหน้ารับชะตากรรม นั่งเคียงข้างมากับเจ้าสาวที่นั่งสัปหงกเอนศีรษะมาซบไหล่เขาครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งๆที่เขาก็ดันเธอออกห่างไปทุกครั้ง
“นี่คุณ นั่งดีๆหน่อยได้ไหม จะเอนมาซบผมทำไมเนี่ย”
“ฉันหลับนี่คะ จะไปรู้ได้ไงว่าหัวมันจะเอนไปฝั่งไหน”
“หลับก็เอนไปฝั่งโน้นก็ได้ ไม่ต้องมาซบไหล่ผม ผมกลัวคัน”
“ฉันไม่ใช่หมามุ่ยนะคะที่โดนแล้วจะคัน แต่ถึงโดนแล้วจะคันคุณกรก็ต้องเรียนรู้ไว้ เพราะอีกเดี๋ยวเราแต่งงานกันเราก็ต้องทำอะไรที่มากกว่าการซบไหล่แล้วนะคะ”
“ทำอะไร” ถามทั้งๆที่รู้ความหมาย แค่คิดก็ขนลุกขึ้นทั้งตัวแล้วแม่คุณเอ๊ย!
“ก็ทำเหมือนที่สามีภรรยาคู่อื่นเขาทำกันไงคะ” เอิ้นขวัญกัดริมฝีปากทำหน้าเซ็กซี่ถ้าจินตนาการไม่ออกคิดถึงหน้าอั้มต้องกินมาม่านะคะเซ็กซี่ประมาณนั้น “เป็นสามีภรรยากันก็ต้องเล่นจ้ำจี้มะเขือเปราะ กะเทาะหน้าแว่น พายเรืออ้อนแอ้น กระแท่นต้นกุ่ม สาวๆหนุ่มๆ อาบน้ำท่าไหน อาบน้ำท่าวัด เอาแป้งที่ไหนผัด เอากระจกที่ไหนส่อง เยี่ยมๆมองๆนกขุนทองร้องกรู้!”
ปรัตถกรเกือบจะหลุดหัวเราะออกไปแล้ว หากไม่กลั้นเอาไว้เสียก่อนเพราะกลัวเธอจะได้ใจ เขาหันมองเธอที่ยิ้มแฉ่งมองหน้าเขาด้วยสายตาหวานหยาดเยิ้ม
“ อย่าหวังให้มาก งานแต่งงานยังไม่เกิด มันอาจจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงก็ได้ แต่ถึงแม้จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ก็อย่าหวังว่าจะได้เข้าใกล้ตัวผม ขาอ่อนผมคุณก็ไม่เห็นหรอกจะบอกให้”
“แต่ฉันว่าฉันเห็นมากกว่าขาอ่อนแล้วนะ” เอิ้นขวัญยิ้มร้าย “เข้าเมืองทั้งทีคงต้องซื้อแว่นขยายติดไม้ติดมือไปด้วย”
“คุณ!”
ปรัตถกรเผลอตวาดเธออย่างเหลืออด จนทุกสายตาในรถต่างหันมอง โดยเฉพาะสายตาคุณย่ามาเฟียของเขานั้นโหดร้ายกว่าเพื่อน เขาจึงรีบแก้สถานการณ์ก่อนจะโดนเทศนายาวเหยียด
“นอนดีๆสิครับ เดี๋ยวก็หล่นลงไปคอหักตายหรอก”
เอิ้นขวัญหลับตาอมยิ้ม พลางส่ายหน้า ใครบอกว่ามารยามีเฉพาะผู้หญิง วันนี้เธอคงค้านหัวชนฝา ผู้ชายบางคนมารยาก็มีไม่น้อยเลย หนึ่งในนั้นก็คือว่าที่เจ้าบ่าวของเธอ
“คุณเชื่อไหมถ้าผมเข้าป่าแล้วเจอคุณกับงูพร้อมกัน ผมจะตีคุณก่อนงูโดยไม่ลังเล” ปรัตถกรหันมากระซิบข้างหูของเธออย่างอดไม่ได้
“คุณใจร้ายจังถ้าคุณเลือกตีฉัน ฉันก็คงเจ็บตัว เจ็บหลัง ร้าวมายังหัวใจ เคลื่อนไปยังกระเพาะ เลาะมาทางลำไส้ ย้ายไปที่ม้าม ลุกลามถึงถุงน้ำดี มาหยุดอยู่ที่เธอ” รออะไรละคะปรบมือสิ แปะ แปะ
ใครก็ได้เอากระโถนมาให้ที ปรัตถกรพะอืดพะอมเต็มทีแล้วตอนนี้ “ถ้าคิดจะจีบผมคงยากหน่อยนะ”
“ไม่เป็นไรค่ะฉันจะจีบจนคุณจะสนใจ จะไม่ไปไหนจนกว่าคุณจะสมยอม”
ปรัตถกรคลี่ยิ้มมุมปากยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้หญิงสาวในระยะประชิดและรวดเร็วจนเอิ้นขวัญตั้งตัวไม่ทัน แน่นอนว่ามันทำให้เธอใจสั่นและหน้าเผือดสีลงจนเห็นได้ชัด ลมหายใจร้อนๆที่ราดรดหน้าเธอมันทำให้เธอขนลุกซู่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“รอชาติหน้าตอนบ่ายๆนะครับ” ชายหนุ่มกระดิกคิ้วให้เธอพลางยิ้มเยาะ
“ถ้าภรรยาข่มขืนสามีตัวเองมันไม่ผิดกฎหมายใช่ไหมคะ เอ๊ะ! เราจะได้ฤกษ์แต่งงานกันเดือนไหนนะอยากรู้จัง”
แรงมาแรงกลับนะคะ อย่าหวังว่าจะทำให้เธอสะเทือนใจแค่ฝ่ายเดียวได้ เอิ้นขวัญคลี่ยิ้มเมื่อเห็นรอยยิ้มของเขาหุบหาย ก่อนที่เธอจะกระดิกคิ้วล้อเลียนชายหนุ่ม เคยได้ยินไหมคะว่าที่สามี กระดิกคิ้วที่หลังดังกว่า!
หัวเราะกลบเกลื่อนน้ำตา ฝืนฮาทั้งที่รู้ว่าเสียใจ…มันเจ็บโครตๆเลยเนอะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ