ภรรยาสายแข็ง

7.7

เขียนโดย tidadin

วันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2559 เวลา 17.53 น.

  8 ตอน
  0 วิจารณ์
  10.88K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2559 18.00 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) ตอนที่ 1 คู่หมั้นคู่หมาย ให้ผมตายดีกว่า

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่ 1 คู่หมั้นคู่หมาย ให้ผมตายดีกว่า

 

คุณนายรุ้งแก้วอมยิ้ม แอบภูมิใจนิดๆถึงความโด่งดังของหลานชายที่คนทั้งประเทศต่างรู้จักในนามดาราซุปเปอร์สตาร์เบอร์ต้นๆของเมืองไทย

          “ใช่แล้วจ้ะหนูเอิ้น นี่แหละปรัตถกรพระเอกละคร นี่หนูก็เป็นแฟนคลับของตากรเหมือนกันใช่ไหม”

          “ค่ะ เป็นพระเอกคนโปรดเลยล่ะ ตัวจริงหล่อกว่าในทีวีอีกนะคะ” ปากตอบคำถามหญิงชรา หากสายตากลับจับจ้องปรัตถกรราวกลับจะกลืนกินเขาทั้งตัว

          คุณนายรุ้งแก้วปรบมือเปาะที่เอิ้นขวัญปลื้มหลานชายอยู่ก่อนแล้ว คราวนี้ก็เหลือเพียงพ่อดาราซุปเปอร์สตาร์เบอร์หนึ่งว่าจะปลื้มเอิ้นขวัญเหมือนกันไหม

          “งั้นย่าขอแนะนำอย่างเป็นทางการเลยแล้วกันนะ หนูเอิ้นนี่ตากรหลานชายคนโตของย่า…ตากรนี่น้าอุไร ส่วนนั่นหนูเอิ้นหลานสาวเพื่อนของย่า และเป็นว่าที่เจ้าสาวของเรา”

          “อะไรนะครับ!”

          ปรัตถกรแทบลมจับ ทั้งมือทั้งขาอ่อนยวบลงเมื่อสิ่งที่เขาหวั่นกลัวมันกลายเป็นจริง ผู้หญิงที่มีแผลเป็นบนใบหน้าคนนี้คือว่าที่เจ้าสาวที่คนเป็นย่ายกใส่พานมาถวายจริงๆ ให้ตายเถอะ! คุณนายรุ้งแก้วเสียสติหรือผีสางนางไม้เข้าสิงกันแน่ ถึงคิดจะให้เขาแต่งงานกับผู้หญิงที่หาความสวยไม่ได้อย่างเธอคนนี้

          “ฟังชัดๆนะตากร นี่หนูเอิ้นผู้หญิงที่ย่าจะให้แกแต่งงานด้วย”

          “คุณแม่ไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหมครับ” บดินทร์เองก็คาดไม่ถึงว่าผู้หญิงที่มารดาเลือกให้เป็นเจ้าสาวหลานชายจะหาความสวยไม่เจอเลยสักนิด

          “ใช่ ฉันไม่ได้ล้อเล่น หนูเอิ้นคือว่าที่หลานสะใภ้คนโตของฉัน”

          ปรัตถกรยกมือขึ้นกุมขมับ เวลานี้เขาอยากจะเอาหัวโขกเสาบ้านตายให้รู้แล้วรู้รอด “คุณย่าครับ ผมขอคุยเป็นการส่วนตัวด้วยครับ”

          คุณนายรุ้งแก้วหันมองหลานชายก่อนยกยิ้มมุมปาก “ได้เสมอหลานชาย”

 

          “ผมขอไม่แต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น!”

          “ไม่ได้ แกต้องแต่ง” ทั้งย่าทั้งหลานยืนจ้องตากันอย่างไม่มีใครยอมลดราวาศอก “หนูเอิ้นคือผู้หญิงที่ฉันดูแล้วว่าเหมาะสมกับแกทุกประการตากร”

          “เหมาะสม” หลานชายหัวเราะในลำคอเบาๆ “หน้าตา เอ่อ…แผลเป็นบนหน้าใหญ่กว่าจานดาวเทียมขนาดนั้น แถมชาติตระกูลก็ไม่ใช่ผู้รากมากดีมาจากไหน ตรงไหนเหรอครับที่เหมาะสมกับผมช่วยบอกผมที”

          “จิตใจไงล่ะตากร แกอย่าตัดสินคนอื่นแค่เปลือกนอก หนูเอิ้นอาจจะไม่ใช่คนสวยเพราะมีแผลเป็นที่ใบหน้า แต่ย่ากล้ารับรองเอาหัวเป็นประกันเลยก็ได้ว่าหนูเอิ้นเป็นคนจิตใจดี เอาการเอางาน แล้วย่าก็มั่นใจว่าหนูเอิ้นจะป็นศรีภรรยาที่แสนดีของแกแน่ๆ”

          “แต่ผมเป็นดารานะครับ คนอื่นจะมองยังไงถ้ารู้ว่าเจ้าสาวของผมหน้าตาเป็นแบบนั้น”

          “ใครจะมองยังไงก็ช่างหัวมันสิ มันหาข้าวให้แกกินหรือไง” คุณนายรุ้งแก้วตวาดกลับ เริ่มไม่พอใจหลานชายที่ตัดสินคนแค่เปลือกนอก นี่เป็นสิ่งที่นางไม่ชอบที่สุด

          “ไม่รู้แหละ ยังไงผมก็ไม่มีวันแต่งงานกับแม่เอิ้นขงเอิ้นขวัญอะไรนั่นเด็ดขาด”

          “แม้ว่าฉันจะตัดชื่อแกออกจากกองมรดก แกก็จะไม่สนใช่ไหม”

          ปรัตถกรหันไปสบตากับหญิงชราอย่างท้าทาย “เชิญเลยครับคุณย่า อาชีพของผมวันๆหนึ่งหาเงินได้เฉียดล้าน แค่ไม่ได้มรดกของคุณย่าผมคงไม่อดตาย”

          หญิงชราแสยะยิ้มมุมปาก “แต่แกลืมไปแล้วเหรอว่าฉันเป็นใคร ผู้บริหารช่องที่แกสังกัดอยู่ก็เป็นลูกของเพื่อนฉัน ผู้จัดละครทั้งหลายฉันก็รู้จักแทบทุกคน การจะทำให้แกกลายเป็นดาราตกกระป๋อง มันง่ายแค่ปลายนิ้ว ฉันแค่กดเบอร์ต่อสายไปที่ช่อง รับรองได้เลยว่าดาราที่ชื่อปรัตถกรจะต้องถูกถอดชื่อออกจากละครทุกเรื่องที่ถูกวางตัวไว้ ลองไหมล่ะพ่อหลานชายคนเก่ง”

          ปรัตถกรอ้าปากค้าง ไม่คิดว่าย่าจะเอาจริงเอาจังถึงขนาดจะตัดอนาคตหลานชายที่กำลังไปได้สวย เขามั่นใจว่าคนอย่างคุณนายรุ้งแก้วอดีตผู้จัดละครมือทองสามารถทำได้อย่างที่พูดจริงๆ เพราะนางรู้จักคนในแวดวงบันเทิงอย่างกว้างขวางด้วยครั้งหนึ่งก็เคยไปคลุกคลีอยู่กับวงการนี้ จนผันตัวออกมาดูแลไร่องุ่นเมื่อสามีสิ้นใจ แต่ก็ยังติดต่ออยู่กับผู้จัดของช่องต่างๆอยู่เรื่อยๆ

          ที่เขาได้ก้าวเข้าสู้วงการกลายเป็นพระเอกซุปเปอร์สตาร์ได้จนถึงทุกวันนี้ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นเพราะย่าของเขาเป็นคนฝากฝังและสนับสนุน  อีกทั้งยังช่วยสอนการแสดง การวางตัว จนเขากลายเป็นดาราเจ้าบทบาทและเป็นขวัญใจของมหาชนได้ในระยะเวลาที่เข้าวงการมาไม่นานนัก

          “โธ่ คุณย่า ได้โปรดสงสารผมเถอะ” เมื่อเห็นคุณย่ามาเฟียเอาจริง ผู้เป็นหลานชายจึงยอมอ่อนลงเปลี่ยนเกมสู้รบเป็นการออดอ้อนขอความเมตตา

          “เชื่อสายตาย่าสิกร หนูเอิ้นถึงตัวจะเป็นกาแต่จิตใจเป็นหงส์ หลานจะไม่เสียใจที่ได้แต่งงานกับผู้หญิงคนนี้”

 

          เอิ้นขวัญออกมาเดินรับลมเล่นที่หน้าบ้านหลังจากพลิกตัวไปมาเพราะนอนไม่หลับ อาจจะเป็นเพราะแปลกที่แปลกทาง ส่วนอุไรผู้เป็นแม่นั้นหลับตั้งแต่ทิ้งหัวลงหมอนคงจะเพลียกับการเดินทาง วันนี้ทั้งเธอและแม่ค้างที่ไร่รุ้งแก้ว ด้วยพรุ่งนี้มีภารกิจสำคัญคือการไปขอฤกษ์แต่งงานกับพระอาจารย์ชื่อดังที่คุณนายรุ้งแก้วนับถือ  

          ท้องฟ้าวันนี้สว่างจ้าเพราะเป็นคืนเดือนเพ็ญ หญิงสาวทอดสายตามองหมู่ดาวระยิบระยับที่อยู่เคียงข้างพระจันทร์ดวงใหญ่ สายลมเย็นๆพัดผ่านมาต้องกายทำให้สาววัยกำดัดยกมือขึ้นกอดตัวเองเพิ่มไออุ่น แม้นี่จะยังไม่ใช่ฤดูหนาวแต่ด้วยอยู่ใกล้กับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จึงทำให้อากาศเย็นกว่าที่บ้านของเธอมาก

          “นอนไม่หลับเหรอ”

          เอิ้นขวัญสะดุ้ง เมื่อมีเสียงของใครบางคนดังขึ้นทำลายความเงียบ หญิงสาวหันกลับไปหาต้นเสียงแล้วหัวใจก็สั่นไม่เป็นจังหวะเมื่อพบดาราคนโปรดพ่วงตำแหน่งว่าที่สามีของเธอกำลังเดินตรงเข้ามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเธอ

          “ค่ะ ยังไม่ง่วงก็เลยออกมาเดินรับลมสักหน่อย ที่นี่บรรยากาศดีจังเลยนะคะ”

          “ดูคุณจะไม่เดือดร้อนอะไรเลยนะ”

          เอิ้นขวัญเลิกคิ้วสูง หันมองชายหนุ่มอย่างไม่เข้าใจในความหมายที่เขาเอ่ย “ไม่เดือดร้อนอะไรคะ”

          “ก็เรื่องที่เราถูกผู้ใหญ่จับคลุมถุงชนให้แต่งงานกันโดยไม่ได้รักกัน ไม่รู้จักกันมาก่อนเลยด้วยซ้ำ ถามจริงๆเถอะ คุณไม่เดือดเนื้อร้อนใจอะไรเลยเหรอ”

          “ตอนแรกก็มีคิดมากค่ะ แต่พอมารู้ว่าเจ้าบ่าวคือคุณปรัตถกร ดาราคนโปรดของเอิ้น ความกังวลทั้งหลายแหล่ก็หายไป เหลือไว้แต่ความยินดีปรีดา” เอิ้นขวัญยิ้มร่า

          ปรัตถกรเป็นดาราคนโปรดที่เธอหลงเสน่ห์และติดตามผลงานของเขามาตั้งแต่เล่นละครเรื่องแรก เรียกว่าเป็นผู้ชายในอุดมคติที่เธออยากได้มาเป็นสามีเลยก็ว่าได้ เธอแอบวาดฝันว่าถ้าได้ผู้ชายแบบนี้มาเป็นพ่อพันธุ์รับประกันได้เลยว่าลูกที่เกิดมาจะต้องน่ารักน่าชังมากๆ

          และวันนี้ความฝันของเธอมันกำลังจะกลายเป็นจริงอย่างไม่น่าเชื่อ

          งานเข้าอย่างจังล่ะสิ ความตั้งใจของปรัตถกรคือการมาหว่านล้อมให้เอิ้นขวัญปฏิเสธการแต่งงาน แต่ตอนนี้มันคงเป็นไปไม่ได้เมื่อเธอนั้นออกตัวว่าปลื้มเขามาก่อนจะรู้จักกันอย่างเป็นทางการเสียอีก

          “ผมพูดตรงๆนะว่าผมไม่ได้ชอบคุณ”

          “มันก็ไม่แปลกค่ะเพราะเราพึ่งรู้จักกัน”

          “ต่อให้เรารู้จักกันนานมากกว่านี้ ผมก็มั่นใจว่าผมก็ไม่มีวันรักคุณ” ปรัตถกรปฏิเสธแบบตัดเยื่อขาดใยไม่ให้ฝ่ายนั้นหวังลมๆแล้งๆ แต่ดูเหมือนหญิงสาวจะไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด เพราะเธอยังยิ้มร่าแถมตอบกลับมาอย่างฉะฉาน

          “คุณกรเคยดูละครจักรๆวงศ์ๆเรื่องแก้วหน้าม้าไหมคะ พระปิ่นทองก็เคยปฏิเสธความรักของนางแก้วหน้าม้าแบบนี้แหละ แต่สุดท้ายพระปิ่นก็รักนางแก้วหน้าม้าหัวปักหัวปำ” เอิ้นขวัญทำตาแพรวพราว ก่อนจะร่ายบทกลอนไม่ให้เสียชื่อคณะครุศาสตร์ เอกภาษาไทยที่พึ่งเรียนจบมาหมาดๆ

“ถึงนางแก้วหน้าม้าจะขี้เหล่

   ไม่สวยเท่ห์เหมือนใครๆอย่าหัวเสีย

                    แม้นพี่ปิ่นได้น้องแก้วไปเป็นเมีย  

                    น้องก็ทำให้พี่เพลียได้เหมือนกัน

     อย่าพึ่งตัดสินกันที่หน้าตา          

    แม้นไม่สวยเหมือนนางฟ้าอย่าหุนหัน

     สวยแต่รูปจูบไม่หอมเขาว่ากัน    

                    ส่วนน้องนั้นยืนยันพร้อมหอมทุกตรง”

          กระโถนอยู่ไหนครับ เอามาด่วนๆ ปรัตถกรแอบเบ้ปากอย่างหมั่นไส้ ไม่ต้องรอให้ได้เธอไปเมียหรอก เพราะลำพังแค่รู้ว่าจะได้เธอเป็นเจ้าสาวเขาก็เพลียจนแทบเอาเท้าก่ายหน้าผากแล้ว

                             “โอ้น้องแก้วหน้าหมา เฮ๊ย! หน้าม้า                                                น้องช่างกล้าพูดมาได้ไม่อายผม

                      แค่เห็นหน้าแทบแดดิ้นสิ้นเป็นลม         

     ถ้าให้หอมคงขื่นขมล้มทั้งยืน

                     บอกทำให้พี่เพลียได้ไม่อายปาก           

     หน้าเหมือนทากเมาสุราแล้วไม่ฟื้น

                     แม้นพี่เมาแสนเมาจนโครตหื่น              

     เห็นหน้าน้องพี่คงตื่นรีบสร่างเมา”

          แทนที่เอิ้นขวัญจะโกรธหรือไม่พอใจที่เขาแต่งกลอนด่าว่าเธอขนาดนั้น แต่ก็เหมือนโรคจิตยิ่งเขาด่าเธอก็ยิ้มคลี่ยิ้มอย่างสุขใจ ไม่ใช่มีความสุขที่เขาด่าว่าเธอเหมือนทากเมาสุรา แต่ที่ยิ้มแป้นเพราะไม่คาดคิดว่าคนสมัยใหม่อย่างปรัตถกรจะแต่งกลอนเป็นด้วย

          “อุ๊ย! พรหมลิขิตชัดๆ”

          ปรัตถกรเลิกคิ้วมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความงุนงง “พรหมลิขิตอะไร”

          “ก็เอิ้นแต่งกลอนได้ คุณกรก็แต่งกลอนได้ แบบนี้เขาเรียกว่าพรหมลิขิตชัดๆเลย คุณกรแต่งกลอนเป็นได้ไงคะ”

          “เป็นธรรมดาของคนหล่อและเก่งมาก”

          ไม่กระดากปากสักนิดที่ชมตัวเอง แต่ไม่ได้บอกความจริงไปว่าที่เขาแต่งกลอนเป็นก็เพราะตอนเป็นเด็กคุณนายรุ้งแก้วผู้เรียนจบอักษรศาสตร์และเก่งกาจในเรื่องบทกวีมักแต่งกลอนกรอกหูเขากับชญานนท์เช้า กลางวัน เย็น สามเวลาหลังอาหาร จึงไม่แปลกที่เขากับน้องชายจะซึมซับจนสามารถแต่งกลอนได้จนถึงขั้นที่เรียกว่ามีฝีมือเลยทีเดียว  

จำได้ว่าตอนที่เรียนมัธยมเวลามีการประกวดแต่งกลอนที่ไหนเขากับน้องชายก็ล้วนแล้วแต่ได้รับเลือกเป็นตัวแทนและได้รางวัลมาทุกเวที พึ่งจะห่างหายจากการการฝึกฝนตอนที่เรียนมหาวิทยาลัยนี่เอง

“นอกจากหล่อแล้วยังหลงตัวเองอีกนะคะ เป็นคนมั่นใจในตัวเอง แบบนี้สเปคเอิ้นเลย คุณกรคะเอิ้นขอยืมโทรศัพท์หน่อยสิ”

“ไม่ได้ถือมา คุณจะเอาไปทำอะไร”

“จะเอามาโทรบอกแม่ว่าเอิ้นเจอเนื้อคู่แล้ว”

ปรัตถกรเกือบยิ้มออกไปแล้ว แต่นึกขึ้นได้จึงรีบตีหน้าขรึมเช่นเดิม เธอล่ะยอมใจผู้หญิงคนนี้จริงๆ หยอดนิดหยอดหน่อยเหมือนแม่ค้าขนมครก   

“สรุปว่าคุณกรเคยดูเรื่องแก้วหน้าม้าหรือเปล่าคะ”

          “เคยดูสิ รู้ด้วยว่านางแก้วหน้าม้าซ่อนรูปงามเอาไว้ข้างใน แต่คุณล่ะถอดคราบเป็นแก้วมณีได้หรือเปล่า ถ้าถอดได้ลองถอดให้ดูหน่อยสิ”

ปรัตถกรยิ้มเจ้าเล่ห์ พลางเดินเข้าไปหาตวัดเอาร่างบางเข้ามาสวมกอด พยายามแสดงความหื่นให้เธอเห็น เป็นสุภาพบุรุษให้น้อยที่สุด เธอจะได้กลัวจนไม่กล้าแต่งงานกับเขา

 “ถ้าถอดคราบไม่ได้ ก็ลองถอดเสื้อผ้าหน่อยเป็นไร มันอาจจะทำให้คุณน่ามองขึ้นมาบ้าง”

          เอิ้นขวัญสั่นไปทั้งเนื้อทั้งตัว เมื่อถูกชายหนุ่มจู่โจมอย่างถึงเนื้อถึงตัว แต่เธอก็ฉลาดพอที่จะรู้ว่าสิ่งที่เขาทำอยู่นี้ไม่ใช่เพราะพิศวาสอะไรเธอหรอก แค่มองตาที่เขาพยายามแสดงมันออกมาเธอก็เดาได้ว่าเขาต้องการกลั่นแกล้งให้เธอเกรงกลัวและปฏิเสธการแต่งงานเท่านั้น จึงฝืนยิ้มและข่มใจให้เป็นปกติที่สุด

          “ถ้าจะให้เอิ้นถอดเสื้อถอดผ้า ก็ปล่อยก่อนสิคะ กอดเอิ้นอยู่แบบนี้จะถอดได้ไง”

          เพล้ง! ไม่ใช่เสียงแก้วที่ไหนแตกหรอกครับ เสียงหน้าของผมเองแหละ นึกว่าเธอจะขยาดแต่ที่ไหนได้ยังยินยอมพร้อมใจอีก ปรัตกรโอดครวญในใจ

          รอยยิ้มอย่างผู้ชนะหายไปจากใบหน้าของหนุ่มหล่อฉับพลัน เมื่อหญิงสาวไม่ได้มีท่าทีเกรงกลัวอย่างที่เขาคาดหวัง แถมยังบ้ายอจะทำตามที่บอกอีกต่างหาก ปรัตถกรจึงรีบคลายอ้อมแขนออกทันที

          เอิ้นขวัญลอบยิ้มเมื่อเห็นชายหนุ่มหน้าบึ้ง “ตกลงจะให้เอิ้นถอดไหมคะ ถ้าให้ถอดคงต้องเข้าห้องก่อน เพราะตรงนี้มันโล่งเกินไป เอิ้นเขิน”

          “ไม่ต้อง!” ปรัตถกรรีบห้ามแทบไม่ทัน เพราะกลัวว่าเธอจะถอดจริงๆ ผู้หญิงคนนี้อันตรายกว่าที่เขาคิด “ผมว่าเรามาตกลงกันดีกว่า ผมมีข้อเสนอให้คุณ”

          “ว่ามาเลยค่ะ”

          “ผมจะให้เงินคุณห้าแสน แต่คุณต้องปฏิเสธการแต่งงานครั้งนี้”

          “แล้วทำไมคุณไม่ปฏิเสธเองละคะ ถ้าคุณไม่อยากแต่งก็แค่บอกคุณย่าของคุณไป มันก็จบ คุณก็ไม่ต้องเสียเงินห้าแสนมาจ้างเอิ้นแบบนี้”

          “ผมปฏิเสธไปแล้ว แต่คุณย่าไม่ยอม ผมขัดท่านไม่ได้”

          “เอิ้นเองก็ขัดแม่เอิ้นไม่ได้เหมือนกัน”

          “คุณไม่อยากขัดความต้องการของแม่หรือคุณอยากแต่งงานกับผมกันแน่”

          “หลงตัวเองอีกแล้ว แต่ก็ใช่แหละ เอิ้นขัดแม่เอิ้นไม่ได้และก็ไม่อยากขัดใจตัวเองด้วย” เธอบอกก่อนจะฮัมเพลงขึ้น

 

          “ไม่อยากจะขัดใจตัวเอง ที่มันชอบเธอไม่ให้ชอบเธอ ก็คงเป็นไปไม่ได้เพราะใจมันคิดไปไกล ยากที่จะดึงกลับแล้วจำเป็นต้องขัดใจตัวเอง ข่มตาลงแล้วหันหลังกลับปลอบใจว่าไม่เป็นไร คิดว่าเป็นความสุขเล็กๆ น้อยๆ ไป”

                                      **เพลงขัดใจ ศิลปิน  คัลเลอร์พิทช์

 

          “คุณไม่อายบ้างเหรอที่บอกรักผู้ชายก่อนเต็มปากเต็มคำ”

          “ความรักไม่ใช่เรื่องน่าอายนี่คะก็แค่บอกรักไม่ได้แก้ผ้าอ้าขาให้ผู้ชายซะหน่อย”  เธอส่งยิ้มหวานให้เขาหากฝ่ายนั้นตีหน้าบึ้งส่งกลับคืน  “อย่าเครียดเลยค่ะคุณกรถ้าเราเป็นเนื้อคู่กันแล้วต่อให้คุณหนียังไงมันก็ไม่พ้นหรอก แต่ถ้ามันไม่ใช่แม้คุณไม่ได้ทำอะไรเลย มันก็จะมีเหตุให้เราต้องพลัดพรากกันอยู่ดี เอิ้นง่วงแล้ว ขอตัวไปนอนก่อนนะคะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ ว่าที่สามี”

          บอกเสร็จก็ส่งจูบไปให้เขาหนึ่งครั้งก่อนจะเดินกลับเข้าบ้านด้วยรอยยิ้ม อยากจะแกล้งให้เธอกลัวดีนักเจอเธอสวนคืนบ้างเป็นไง เงิบเลยไหมพ่อพระเอกหน้าหล่อ รู้จักคนอย่างเอิ้นขวัญน้อยไปแล้ว

          “ผู้หญิงอะไรหน้ามึนชะมัด” เขาสบถอย่างหัวเสีย

          “ผู้ชายอะไรน่ารักจริงๆ” เอิ้นขวัญหันกลับมาตอบเมื่อได้ยินที่เขาเอ่ยเมื่อครู่ ก่อนจะส่งยิ้มหวานทำตาแพรวพราวก่อนเดินเข้าไปในบ้าน ทิ้งให้ปรัตถกรยืนหัวเสียอยู่เพียงลำพัง

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา