BUGS_01 นักเรียนทุนและคนไข้พิเศษ
เขียนโดย ALINYOU
วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2559 เวลา 22.44 น.
แก้ไขเมื่อ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2559 23.18 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) เรื่องจริงในนิยาย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“เป็นไรมากไหม” ไอยรัณหยุดหัวเราะ หันกลับไปทางผู้มาเยือนดวงตาแดงก่ำ เลียริมฝีปากอย่างกระหาย ลินเริ่มหวั่น ร่างสูงก้าวเข้ามาใกล้ ร่างบางเริ่มถอย จนหลังติดกำแพง
“เอ่อ... ไอยรัณ นายเป็นอะไรไปนะ” คนถูกถามยิ้มให้แทนคำตอบ เข้ามาจับฉีกเสื้อลินอย่างไม่ใยดี ร่างบางตกใจ ทำอะไรไม่ถูก มือที่ถูกไอยรัณจับไว้เริ่มดิ้นรน ร่างสูงเลียใบหน้าสิ่งที่เขาคิดว่าเป็นอาหารอันเลิศรส
“นี่หยุดก่อน ฉันไม่ได้ชอบแบบนี้นะ” ร่างบางดิ้นไม่ยอมลดละ ไอยรัณหยุดเหล่มองลินแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ เนคไทถูกใช้แทนเชือกในการพันธนาการลินไว้กับเสา ชายหนุ่มร่างบางไม่อยากเชื่อว่าเขาจะต้องมาถูกผู้ชายด้วยกันข่มขืน นี่เป็นครั้งที่สองแม้ครั้งนั้นจะรอดมาได้ แต่ครั้งนี้คงไม่โชคดีอย่างครั้งก่อนก็ได้ เมื่อมัดลินเสร็จไอยรัณเริ่มเล้าโลมทั่วร่างจนลินเสร็จไปก่อน เขาคิดว่ามันคงจบแล้ว หากแต่ไม่เป็นอย่างที่คิดเมื่อเขารู้สึกได้ถึงของบางอย่างทางด้านหลังของตน
“นะ...นี่นาย...” คำพูดที่อยากพูดกลืนเข้าปอดไปเมื่อริมฝีปากบางถูกประทับอย่างรุนแรง ทว่าเขารู้สึกได้ถึงบางอย่างเบื้องหลัง มีดสั้นเล่มหนึ่งเฉียดใบหน้าของเขาไปเพียงนิ้วเศษ
“คิดไว้ไม่ผิดว่าต้องเกิดเรื่อง แต่แบบนี้มันดูจะโหดร้ายไปหน่อยนะ น้องห้า” ไอยรัณจ้องผู้มาเยือนเขม็ง
“พี่สาม ตอนนี้รัณไม่มีอารมณ์จะพูดด้วย ไว้วันหลัง” ไอวเรณไม่รอช้าจับไอยรัณแยกออกมาจากลิน เขาอุ้มลินขึ้นยิ้มให้น้องชาย
“พี่คงปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้ ไปช่วยตัวเองให้เสร็จแล้วตามพี่ไปที่หอ” ไอยรัณยืนนิ่ง แล้วตัดสินใจเข้าห้องน้ำหลังโรงยิม
เมื่อมาถึงห้องไอวเรณบรรจงวางเหยื่อของน้องชายไว้บนเตียง เขาส่งยากระปุกหนึ่งให้น้องชายที่นั่งหอบอยู่ข้างๆ ไอยรัณยัดยาใส่ปากตนเองไม่สนใจน้ำที่พี่ชายวางไว้ให้ ดวงตาเริ่มคลายเป็นสีดำดังเดิม เขารู้สึกผ่อนคลายขึ้น
“น้องสี่คงพูดอะไรให้สะเทือนใจอีกละสิ อาการถึงกำเริบ” ไอยรัณส่ายหน้า
“รัณรู้สึกเองไม่เกี่ยวกับพี่สี่หรอก” ชายหนุ่มมองไปที่คนนอนหลับตาพริ้มข้างๆ
“ถ้าเด็กคนนี้ฟื้นขึ้นนายคงต้องหาข้ออ้างดีๆ แล้วละ แต่อย่าบอกโรคที่ตัวเองเป็นเด็ดขาดนะ พี่คงต้องไปแล้วเขียนนิยายค้างไว้ ตอนนี้รู้สึกว่าได้ตอนใหม่ละ” เขาบอกออกมามองคนที่หลับอยู่สลับกับไอยรัณ
“เอาเรื่องคนอื่นไปเขียนนี่ ฉลาดดีนะครับ ไม่ต้องใช้สมองคิดให้มาก” ไอวเรณยักไหล่ให้น้องชาย ลับหลังพี่ชายไอยรัณก้มมองลินใกล้ๆรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าอย่างเคย ข้ออ้างดีๆ คงต้องคิดหนักซะแล้วกับคนที่ท่าทางไม่ยอมใครแบบนี้จะเชื่อเรื่องที่เขาโกหกหรือไม่นะ คิดได้ดังนั้นก็รู้สึกว่าตัวเองมีกลิ่นแปลกๆออกมา เขาถอดเสื้อผ้าออกทิ้งไว้หน้าห้องน้ำด้วยความเคยชิน
ลินรู้สึกตัว เขาพยายามปรือตามองไปรอบๆเป็นห้องของตนเอง เสียงน้ำไหลดังเข้ามา เขากระพริบตาถี่เริ่มมีสติมากขึ้น ภาพเก่าที่โรงยิมฉายย้อนเข้ามา ร่างบางลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ข้อมือที่เคยถูกมัดไว้เกิดความรู้สึกเจ็บ เขาเห็นเสื้อผ้ากองหนึ่งที่ไม่ใช่ของตนกองอยู่หน้าห้องน้ำ พร้อมกับที่ร่างเปลือยของใครคนหนึ่งยืนยิ้มอยู่ ลินเห็นแล้วทั้งใจเต้นแรงและหน้าแดง ทั้งที่ผู้ชายด้วยกันทำไมต้องหน้าแดง เขาตบหน้าตัวเองเบาๆ
“ร่างกายท่อนบนของรัณมันทำให้คุณลินใจเต้นขนาดนั้นเลยหรือ?” ไอยรัณพูดพร้อมยื่นหน้าเข้าใกล้ลิน
“ไม่ใช่ซะหน่อย ทำไมฉันต้องใจเต้นด้วย อีกอย่างเมื่อเย็นนี้นายขืนใจฉัน นายมันไอ้เกย์โรคจิต ” ไอยรัณหัวเราะเสียงดัง เดินเหยียบเสื้อผ้าที่กองอยู่ไปที่ตู้เสื้อผ้า โดยไม่ได้ฟังว่าลินต่อว่าอะไรบ้าง
“รัณจำไม่เห็นได้เลยว่าทำอะไรอย่างนั้นด้วย คิดดีๆสิครับว่าเมื่อเย็นมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่” ร่างสูงโน้มหน้าเข้ามาใกล้จนลินใจเต้นแรง ชกหน้าไอยรัณอย่างลืมตัว คนถูกชกยิ่งขยับใกล้กว่าเดิม
“ถะ...ถอยไป อยะ..อย่าเข้ามาใกล้” ลินลุกหนีเข้าห้องน้ำอย่างเร็ว ไอยรัณยิ้มเย็นเลียเลือดที่ริมฝีปาก
“น่ารักจริงๆ ถ้ากินได้คงอร่อยน่าดู หึ หึ” ลินออกมาจากห้องพร้อมสะพายเป้ออกไป โดยไม่บอกเพื่อนร่วมห้อง ไอยรัณลืมตาหันตามเสียงประตูที่ปิดเสียงดัง
ลินมาที่ห้องของอินดากับคิง เสียงหนังเอวีของคิงดังมาเป็นระยะ สร้างความรำคาญให้ลินเขาเดินไปปิดพร้อมหักแผ่นหนังทิ้งโดยไม่ไยดี คิงน้ำตาแทบไหลพรากจ้องเศษดีวีดี
“แกเป็นไรของแกวะลิน อยู่ๆมาทำลายคอลเล็คชั่นใหม่ของฉันเนี้ยเพิ่งซื้อมาเมื่อกี้เลยนะ อุตส่าห์ไม่กลับบ้านนะเนี้ย” คิงโวยวาย เขาไม่กลับบ้านเพราะคิดจะอยู่เป็นเพื่อนลินกับอินดา
“ฉันไม่ชอบ อย่าให้เห็นอีก” ลินกระทืบเศษดีวีดีซ้ำราวกับมันเป็นหน้าของใครบางคน
“ลินไม่สบายหรือเปล่าครับ ผมว่าไปให้หมอตรวจหน่อยก็ดีนะ” ลินหยุดเท้า เข้าไปนั่งใกล้อินดา
“ฉันไม่ได้เป็นไรหรอกแค่ซ้อมหนักไปหน่อย แล้วก็เครียดเรื่องการแข่งเลยหงุดหงิด” อินดากับคิงมองหน้ากัน ปกติลินไม่เคยเป็นแบบนี้พวกเขาถึงกับแปลกใจแต่ไม่กล้าถาม
“เฮ้อ ฉันว่าวันนี้กลับบ้านดีกว่า ขอโทษที่ทำให้พวกนายเสียเวลานะ” ลินกำลังเดินออกไปแต่คิงถามขึ้น
“เฮ้ แล้วเรื่องซ้อมละ อย่าลืมสิว่าแกเป็นเด็กทุนอ่ะ” คิงพูดพร้อมเก็บเศษซากดดีวีดีลงขยะอย่างอาลัยอาวรณ์
“เออจริงวะ ลืมเลย โธ่เว้ยบ้านก็กลับไม่ได้ ห้องก็ไปไม่ได้” ลินขว้างกระเป๋าขึ้นเตียงกลับไปนอนที่เตียงของคิงที่เดิม
“ผมถามจริงเถอะ มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่” อินดาที่ละสายตาจากบทเรียนเล่มหนาหันมาถามเพื่อน
“จริงด้วย หรือว่าไอ้เพื่อนร่วมห้องมันทำอะไรแก” คิงที่ล้มตัวนอนข้างๆถามบ้าง ลินตาโตถืบคิงตกเตียง
“ไม่มีอะไร มันไม่ได้ทำอะไร แกอย่าถามแบบนี้อีกนะ” คิงสะบัดหน้าเรียกสติ ตอนนี้เขารู้สึกตัวเองมองเห็นดาวหลายดวงในห้อง
“ลิน วันนี้รุนแรงจังครับ” อินดาขำคิงจนลืมเรื่องที่อยากรู้ไปเลย เสียงเคาะประตูดังมา ทั้งสามคนเงียบฟัง
“ใครกันนะ คิง แฟนนายหรือเปล่า” คิงส่ายหน้า
“น้องเชอรี่หรือ ไม่มั้ง วันนี้เราไม่ได้นัดกันนี่” คิงว่าแล้วไปเปิดประตู ชายหนุ่มคนหนึ่งยืนยิ้มให้เขา คิงจำได้ว่าเป็นนักเรียนที่ย้ายมาใหม่ที่มีข่าวว่าเป็นเกย์ เพื่อนร่วมห้องลิน
“แกมาทำไม” ไอยรัณส่องเข้าไปข้างในตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“รัณมาหาคุณลิน” คิงได้ยินสรรพนามที่ไอยรัณเรียกลินก็กลั้นขำ
“คุณลิน ไอ้ลินน่ะหรือ เฮ้ลินมีคนมาหา...” ลินเดินมาที่หน้าประตูเห็นเป็นคนที่ไม่อยากเจอมากที่สุดจะปิดประตู แต่ไอยรัณเร็วกว่าเดินเข้ามาในห้องก่อน
“มาทำไมวะ ออกไปเลย” ไอยรัณโน้มหน้าใกล้ลินไม่สนว่ามีคนอื่นอยู่ในห้อง
“รัณมาคุยเรื่องเมื่อเย็นนี้ครับ เรื่องที่เรา...อุ๊ป” ยังไม่ทันที่ร่างสูงจะพูดจบลินก็อุดปากแล้วลากออกไปจากห้องทันที เพื่อนทั้งสองมองหน้ากัน
“มันเป็นอะไรกันไปหมดวะ” อินดาส่ายหน้าเบาๆ แล้วก้มอ่านหนังสือต่อ คิงหาดีวีดีแผ่นใหม่ดูฆ่าเวลา ส่วนลินลากไอยรัณมาถึงห้องตัวเอง เขาจ้องเพื่อนร่วมห้องไม่วางตา
“นายคิดจะทำอะไร ทำไมไปพูดแบบนั้นต่อหน้าเพื่อนของฉัน” ไอยรัณเงยหน้ามองลินหัวเสียโดยไม่สะทกสะท้าน
“ทำไมละครับ รัณว่ามันก็เป็นเรื่องธรรมดาออก หรือคุณลินคิดว่าไม่ใช่” ลินกระชากคอเสื้อไอยรัณอย่างแรง
“ก็ไม่ใช่น่ะสิ เรื่องแบบนั้น สำหรับนายที่เป็น... มันปกติ แต่ฉันไม่ได้เป็นแบบนายมันเลยเป็นเรื่องที่ไม่ปกติ นั่นน่ะนายบังคับฉัน” ไอยรัณยิ้มถือโอกาสหอมแก้มเนียน ลินชกหน้าเขาแล้วผละออกมา
“นี่นาย เฮ้อ...เอางี้นะ ลืมเรื่องเมื่อตอนนั้นไปซะดีกว่านะ มันดีต่อตัวนายและฉัน ตอนนี้เราทำตัวตามปกติเหมือนว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นดีกว่า เรื่องที่แล้วมาฉันจะไม่ถือละกัน แค่อย่ามายุ่งกับฉันอีก ที่พูดมานายเข้าใจไหม” ไอยรัณเอียงศีรษะยิ้มให้ลินอีกครั้ง
“แต่เราก็มีอะไรกันแล้วนะ” ลินเหนื่อยใจ ทั้งโกรธทั้งรำคาญ ตอนนั้นถ้าเขาไม่คิดสงสารแล้วเข้าไปถามคงไม่เกิดเรื่องหรอกนะ ไม่น่าเลยจริงๆ
“เรื่องนั่นช่างเถอะน่า ถึงได้บอกให้ลืมไง ทำไมเมื่อเย็นนายยังจำไม่ได้ว่าทำอะไรไว้เลย แล้วตอนนี้ทำไมจำได้ละ” คนถูกถามยังคงยิ้ม จนลินอยากฉีกปากนั่นออกให้ยิ้มไม่ได้ไปตลอดชีวิต
“เรื่องเมื่อเย็นคือเมื่อเย็น ตอนนี้คือตอนนี้ มันคนละพาร์ทกันครับ” พูดแล้วยิ้มหวานให้ลินอีกครั้ง ร่างบางเริ่มเดือด เขาไม่รู้ว่าคนตรงหน้าแกล้งหรือไม่แต่ที่แน่ๆ เขาจะทนไม่ไหวแล้ว
“เฮ้อ นี่ไอยรัณฟังนะ ฉันรู้ความลับนายเรื่องนามสกุล เรามาแลกเปลี่ยนกัน นายลืมเรื่องนั้นฉันก็จะลืมเรื่องนามสกุลที่นายบอกใครไม่ได้ โอเค๊” ไอยรัณพยักหน้า ลินโล่งใจ
“ห้ามพูดเรื่องที่เรามีอะไรกันต่อหน้าทุกคน แต่กับคุณลินพูดได้สินะ” ลินกระทืบเท้ารำคาญ
“ต่อหน้าใครก็ห้ามพูด ไม่งั้นฉันจะแฉนามสกุลนาย คนจะได้รู้ว่า คุณชายเล็กตระกูลดังอย่างอธิการเป็นเกย์ เข้าใจไหม” สีหน้าของร่างสูงเปลี่ยนไป จ้องลินด้วยสายตาดุดันที่เขายังไม่เคยเห็นมาก่อน ร่างสูงลุกขึ้นเดินเข้าไปหาลินซึ่งสูงเพียงไหล่ ใบหน้าคมเคลื่อนเข้าใกล้ จนลินต้องถอยร่นติดผนังห้อง
“อย่าพูดถึงนามสกุลนั่นให้รัณได้ยินอีก เรื่องตอนนั้นรัณจะเก็บเป็นความลับระหว่างเรา แต่รัณจะไม่เลิกยุ่งกับคุณลิน” ราวกับดวงตาจริงจังของร่างสูงสะกดให้ลินทำได้เพียงพยักหน้า ใบหน้าไอยรัณกลับมาเปื้อนยิ้มอย่างเดิม
“รัณจะกลับบ้านนะครับ เจอกันวันจันทร์ครับคุณลินที่รัก” ลินที่ได้แต่นิ่งทรุดลง เมื่อไอยรัณเอ่ยคำสุดท้ายเขาโยนหมอนใส่ร่างสูงทันที
“ทำไมกลายเป็นอย่างนี้ละเนี้ย ลินคชา เวรของกรรมอะไรของนายกัน เจอแต่พวกโรคจิต เฮ้อ” ลินนอนพักสายตาและใจจนหลับไป ที่หน้าหอไอยรัณออกมาพร้อมกระเป๋าใบเล็ก ไอวเรณที่รออยู่ในรถถามขึ้นเมื่อเห็นกระเป๋าน้องชายใบเล็กเกินไป
“นี่จะกลับบ้านเอาของไปแค่นี้หรือ ไม่ได้นั่งรถเมล์ซะหน่อย” ไอยรัณไม่ตอบมองไปที่หน้าต่าง โบกมือให้ลินที่มองลงมา
“หาข้อแก้ตัวดีๆได้แล้วสินะ” คราวนี้ผู้เป็นน้องชายยิ้มกริ่ม
“ไม่เชิง นิยายของพี่สามจะเสร็จตอนไหน” ไอวเรณแปลกใจ
“ทำไม จะซื้อรึไง” ไอยรัณหันกลับไปทางหออีกครั้งก่อนหันมาบอกจุดประสงค์ของตนกับพี่ชาย
“รัณอยากให้พี่เปลี่ยนจากเรื่องจริงเป็นเรื่องเท็จเรื่องเมื่อตอนนั้น ได้ไหม” ว่าแล้วก็ยิ้มหวานให้
“ขอคิดดูก่อนนะ พี่ชอบเรื่องจริงมากกว่าเมคขึ้นน่ะ” เฟยหลิวที่กลับมาจากห้องน้ำขับรถออกไปโดยไม่รอช้า
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ