[Annie Annali Diary]อันนาเลไดอารี่

   เช้าวันแรก 19/5

 

   สวัสดีฉันชื่อ Annie Annali(แอนนี่ อันนาเล) จะเรียกฉันว่า แอนนี่

ก็ได้ไม่ถือกัน ฉันเป็นคนสวีเดน อาศัยที่สตอกโฮล์ม คุณแม่และคุณพ่อ

ของฉันทำงานต่างประเทศ ฉันจึงอาศัยกับคุณน้าและตอนนี้ฉันก็ย้ายมา

อยู่หอแทนแล้ว ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ได้ว่าฉันเลยหล่ะ ฉันเองก็ไม่ได้

ใส่ใจอะไรหรอก แถมนานๆทีจะได้อยู่เงียบๆด้วย ที่บ้านคุณน้าก็มีน้องๆ

เล็กๆและเสียงก็ดังด้วย

 

 

   ฉันย้ายมาอยู่ที่หอนี้ตามคำแนะนำของคุณน้า ที่เคยมาอยู่ก่อน

เป็นหอที่มีทุกอย่างยกเว้น.... เฟอร์นิเจอร์ เป็นห้องโล่งๆพื้นไม้สภาพดี

แต่ขาดเฟอร์นิเจอร์....ยังดีที่ฉันพกหมอนมาด้วย.... คุณเจ้าของเป็น

คนดีมาก ช่วยเหลือทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องเฟอร์นิเจอร์นี่แหละ 

 

 

   ฉันย้ายมาจากโรงเรียนหญิงล้วนในสวีเดน ซึ่งตอนนี้ฉันก็ต้องย้ายมา

ที่โรงเรียน มินิน แทนเป็นโรงเรียนเหมือนโรงเรียนต่างจังหวัดซึ่งมีทั้ง

ชายและหญิง 

 

 

   มาถึงวันแรกฉันยังไม่ต้องเข้าโรงเรียน แต่ต้องไปซื้อเฟอร์นิเจอร์

แทนซะก่อน ไม่งั้นมันคงจะโล่งเกินไป 

 

 

   ฉันไปที่ห้างสรรพสินค้าที่ชื่อว่า Autumn เป็นห้างที่ไม่ได้โดดเด่น

อะไรแต่ก็ไม่ได้กระจอกงอกง่อย มีการตกแต่งแนวฤดูใบไม้ร่วง

คนเดินกันให้ขวัก ร้านต่างๆนานา และลานกิจกรรมที่วันนี้มีกิจกรรม

อะไรก็ไม่รู้

 

 

   'Handmade'ป้ายงานที่ใช้ฟอนต์สวยงาม เป็นงานที่มีคนมาขาย

ของซึ่งล้วนแล้วแต่ทำเองหมดเลย มีทั้ง ตะกร้า งานเย็บปักทักร้อย 

ฯลฯ

 

 

   ฉันแวะดูงานนี้สักพักแม้ว่าฉันจะเคยเห็นมันมาแล้วก็เถอะแต่ก็อด

สนใจไม่ได้ แต่ของส่วนใหญ่ก็เป็นของจุกจิก เครื่องแต่งกายอะไร

ทำนองนี้ ซึ่งมันก็คงไม่น่ามีใครเอาเฟอร์นิเจอร์มาขายมากมายถ้า

ไม่ใช่พวกงานสร้างบ้านอะไรอย่างงี้

 

 

   สุดท้ายฉันก็เลือกที่จะซื้อ ตะกร้าที่มีดอกไม้ประดับมา ผ้าพันคอไหม

พรมสีขาวสลับดำ เคสโทรศัพท์มือถือลายหมาบลูด๊อกสีขาว-ดำ

กระเป๋าสะพายข้างสีขาวและกระเป๋าเงินสีดำ แล้วเดินเล่นต่อสักพัก

ก่อนให้ทั่วๆ เพราะคงจะมาที่นี่บ่อยใช่ย่อย อีกอย่างมันก็อีกนานกว่า

ห้องและหอจะปิด

 

 

   ฉันเดินเจอทั้งร้านอาหารต่างๆ เช่น ร้านอาหารไทย ร้านอาหารญี่ปุ่น

สตาร์บัค ดูน่ากิน 

 

 

   แล้วฉันก็สะดุดตากับร้านหนังสือขนาดใหญ่ฉันไม่รีรอเดินตรงดิ่งเข้า

ไป ร้านๆนี้มันช่างเหมือนสวรรค์หนังสือมากมาย ร้านที่เงียบสงบ มี

คอมพิวเตอร์เพื่อหาของ และ...พนักงานหล่อๆสวยๆทั้งนั้นเป็นอาหาร

ตาที่ดีมากเลย~

 

 

   ฉันแวะเข้าไปที่ชั้นหนังสือประเภทนิยาย แต่ส่วนใหญ่ฉันก็เคยอ่าน

ผ่านๆมาบ้างแล้วล่ะ สุดท้ายแล้วฉันก็เลือกที่จะไปดูพวกหนังสือแนะนำ

สถานที่มากกว่า เพราะที่นี่ฉันไม่เคยมาเลยไง ฮ่าๆ 

 

 

   สุดท้ายแล้ว...ฉันก็ซื้อหนังสือมา หนังสือแนะนำสถานที่พร้อมแผนที่

และนิยายผจญภัย1เล่ม ก่อนจะเดินออกจากร้านและแวะเข้า สตาร์บัค

แล้วนั่งลงจิบกาแฟอย่างผู้ดีสักพักแล้วไปตามหาร้านเฟอร์นิเจอร์

 

 

   'Furr'ถึงแล้วร้านเฟอร์นิเจอร์เล็กๆ แต่ของก็ไม่ได้กระจอก ฉัน

เดินเข้าไปดูซึ่งก็จัดเหมือนร้านทั่วไป ฉันเลือกที่จะเดินดูโซฟาก่อน

มีหลากหลายแบบเลยแหละ แต่ราคาเองก็หลากหลายเหมือนกัน

 

 

   หลังจากนั้นก็ไปดู เก้าอี้และโต๊ะทำงาน แต่ก็เดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว

เพราะว่าห้องนอนฉันเล็กพอควร และราคาก็แพงซะด้วยเอาเป็นโต๊ะพับ

น่าจะสะดวกกว่าและราคาน่าจะถูกด้วย อีกอย่างฉันก็ใช้แค่โน๊ตบุ๊คเอง

ไม่ได้ใช้PCขนาดใหญ่มหึมา 

 

 

   ห้องครัวก็เลือกที่จะเอาพวกกระทะ อะไรงี้ก่อน อ้อ! ใช่ฉันลืมบอก

ไปอย่าง ห้องครัวกับห้องน้ำยังมีเฟอร์นิเจอร์อยู่ ซึ่งก็ถือว่าดีไปไม่งั้น

ฉันคงต้งจ้างช่างมาต่อท่อประปาอีกแน่ ฉันเลือกเอากระทะ ตะหลิว หม้อ

และอุปกรณ์ในครัวอย่างเดียวใส่รถเข็น แล้วไปต่อกันที่ห้องนอน!

 

 

   เตียงมากมาย หลากหลายแบบแต่สำหรับฉันจะเอาเป็นเตียงเดียวมี

ลิ้นชักใต้เตียง เพื่อจะได้เก็บของได้สะดวก และตู้เก็บเสื้อผ้าไม่ใหญ่

มาก 

 

 

   ฉันจดลิสต์ของที่ต้องฝากคนเอาไปให้เสร็จก็เดินไปที่ อินฟอร์เมชั่น

เพื่อที่จะยื่นลิสต์พวกนั้นให้ แล้วไปจ่ายเงินพวกของเบาๆถือง่ายๆ ซึ่ง

ฉันเหมือนพวกบ้าหอบฟางมาก ฮ่าๆ

     คงจะประมาณนี้ล่ะนะ ฮ่าๆ

   ฉันก็วาดรูปไม่ค่อยเก่งหรอกที่จริง ฉันหอบหิ้วของพวกนั้นกลับบ้าน

ซึ่งตอนนี้ก็แค่ บ่าย3โมงเอง ถือซะว่ายังเหลือเวลาเดินเล่นและเล่นเกม

 

 

   กว่าของจะมาส่งฉันเลยออกไปเดินเล่นตรงบริเวณสวนสาธารณะใกล้ๆ

หอพัก ก็เหมือนสวนสาธารณะปกติทั่วไป คนให้อาหารนก พาสุนัขเดิน

นั่งพัก และออกกำลังกายอะไรอย่างนี้ มีเกาะเล็กๆล้อมรอบไปด้วยน้ำ

และมีสะพานเดินข้ามไป

 

 

   ฉันก็ไม่ได้เตรียมการอะไรมามากมาย แค่ผ้าพันคอ แจ๊คเก็ตสีดำ ยีนส์

สีมืดเข้มๆ หูฟังกับไอพอดอันเล็กๆในกระเป๋ากางเกง แค่นั้นแหละแค่มา

เดินเล่นเท่านั้นแหละ และก็มีเงินติดตัวมานิดหน่อย 

 

 

   ที่นี่เงียบสงบดีมากๆ ลม...ที่พัดใบไม้ปลิวไสว...แดดอุ่นๆที่สอดส่อง

ลงมา...เสียงนกขับขานทำนองไพเราะ...พลอยทำให้สมองโล่งสบาย

ไปซะอย่างงั้นเลยล่ะ...

 

 

   ฉันเห็นกระต่ายด้วยล่ะ ไม่รู้ว่าใช่กระต่ายป่าหรือป่าว สีขาวนวล ขนฟู

ดูน่าจับ แววตาสีแดงเหมือนทับทิม น่ารักมากเลยล่ะ

 

 

   ประมาณ4โมงเย็นฉันก็กลับหอพักเพื่อมารอของที่จะมาในอีก30นาที

ระหว่างนั้นฉันก็นั่งอ่านหนังสือที่ซื้อมา แถวๆหอพักฉันนี่ทำเลก็พอใช้ได้

มีร้านสะดวกซื้อ ห้าง สวนสาธารณะ และอื่นๆมาก 

 

 

   ระหว่างรอไปซักพักรถขนของก็มาถึงแล้วขนมาที่ห้องของฉัน โดย

อันดับแรกห้องนอนฉันจัดเตียงไว้ที่หัวมุมหันหน้าออกประตูห้อง และทีวี

วางไว้ด้านหน้า และพรมสีขาว ตู้เสื้อผ้าสีขาวขนาดเล็กไว้มุมอีกฝั่ง โต๊ะ

พับอันเล็กหน้าตู้พร้อมโน๊ตบุ๊คสีดำของฉัน

 

 

   อันดับ2ห้องนั่งเล่น โซฟาที่วางไว้เป็นโซฟานั่งเรียงซึ่งนั่งกันได้2-3

คน และเก้าอี้อีกตัวหนึ่ง พรม โต๊ะกระจกอันเล็กมีตะกร้าดอกไม้วางไว้

ทีวีอยู่ด้านหน้าโต๊ะ ชั้นวางของและทีวี ที่ยังโล่งเพราะฉันไม่ได้ใส่อะไรไง

และเครื่องทำความร้อนตั้งไว้ ชั้นวางหนังสือซึ่งตอนนี้ก็มีไม่กี่เล่มแต่อีก

ไม่นานคงจะเต็มชั้นวาง ก็แค่นั้นแหละที่จะบอกกล่าว 

 

 

   เมื่อพวกเขากลับไป ฉันก็เดินเข้าห้องนอนพร้อมกับเตรียมชุดนักเรียน

กระเป๋า ตารางสอน และตกแต่งห้องนิดหน่อย 

 

 

   ฉันเอา 'แอนเดรีย' ตุ๊กตาหมีสีขาวติดโบว์หูกระต่ายสีดำและอีกตัว

'แอนโทนี่'ตุ๊กตาหมีสีน้ำตาล โบว์หูกระต่ายสีขาวที่ฉันได้ตอนวันเกิดครบ

รอบ10ปี จากคุณพ่อและคุณแม่ ฉันรักมันมากเลยล่ะ และวางพวกมัน

ไว้บนเตียงของฉัน 

 

 

   เอาบอร์ดมาติดตรงหัวโต๊ะ มีรูปครอบครัวด้วยล่ะ รูปตอนถ่ายกับเพื่อน

โรงเรียนเก่า เป็นความทรงจำที่ดีนะ ฉันว่า... 

 

 

   แล้วก็เอาไฟติดผนังไว้ที่หัวเตียง เป็นไฟแสงสีเหลืองเพราะถ้าขาวล่ะ

ก็นะ ฉันคงนอนไม่หลับแน่ๆ...

 

 

   ห้องนั่งเล่น ฉันก็เอารูปครอบครัวไปตั้งในตู้แค่นั้นซึ่งเดี๋ยวฉันค่อยไป

ซื้อของมาเพิ่มทีหลัง ประเดิมโซฟาใหม่ด้วยการไปนอนเล่น ก่อนจะวิ่ง

เข้าห้องนอนเหมือนเดิม ซึ่งน่าจะเป็นห้องที่ฉันใช้มากสุดๆละ

 

 

   เวลาประมาณ1ทุ่ม ฉันเปลี่ยนชุดเป็นชุดเสื้อยืดสีขาว เสื้อคลุมสีเขียว

และเลกกิ้งสีเนื้อ เพื่อออกไปหาอะไรกิน ซึ่งคุณเจ้าของแนะนำร้านมา

ว่าให้ไปที่ Lycka ร้านอาหารที่ดังที่สุดแถวนี้ 

 

 

   แต่...ตอนนี้หนาวสุดๆไปเลยหล่ะ ข้างนอกนี่ไม่รู้สิ ติดลบหรือไม่แต่ฉัน

วิ่งเลยหล่ะ บางทีไปถึงฉันอาจจะกินได้เยอะด้วยล่ะ ฮา แต่หิมะไม่ตกก็

ถือว่าโชคดีแล้วล่ะ วันนี้ฉันว่าฉันคิดผิดที่ใส่มาแค่นี้ วันหลังคงต้องใส่

หมวกไหมพรม ถุงมือ ถุงเท้า แล้วก็บู๊ตสีน้ำตาลด้วยล่ะนะ มาแค่นี้มัน

น้อยเกินไป ความหนาวยังเข้ามาถึงตัวฉันด้านในเลย มือก็ซีดมากเลย

ไม่ต่างกับไก่ต้ม 

 

 

   ร้านLyckaที่คุณเจ้าของแนะนำเป็นร้านที่ไม่ได้กว้างโตเท่าไหร่แต่คน

ก็ไม่ได้เยอะนะ สงสัยฉันอาจจะมาเร็วไป แต่ก็ดีแล้วล่ะ...ไม่งั้นฉันคง

ประสาทเสียแน่ ถ้าคนมาเยอะๆน่ะเสียงพูดจ้อกแจ้กคงตีกันในสมอง

 

 

   เจ้าของร้านLyckaมาต้อนรับอย่างดีเลยล่ะ และไม่มีท่าทางดุร้ายด้วย

แถมยังแนะนำอาหารด้วยล่ะ ฉันเลยเลือกซุปเห็ดและกาแฟอุ่นๆซักที่

แล้วก็ขนมปังทาเนย 

 

 

   ระหว่างรอคนก็เริ่มเยอะขึ้นแต่ไม่ถึงกับมาก ฉันนั่งฟังเพลงและลืม

ความหนาวไปหมดในร้านนี่มันเพียบพร้อมทุกอย่างเลยล่ะ แต่ยังฟันธง

ไม่ได้ว่า100%

 

 

   รอไปซักพัก อาหารมาเสิร์ฟ ซุปเห็ด กาแฟ และขนมปัง นี่มันสวยงาม

คำแรกที่กินเข้าไป...มันช่าง...สวรรค์ เพราะอย่างนี้สินะถึงเรียกว่า

Lycka(ความสุข) ราคาก็ไม่แพงเสียด้วยคุ้มมาก คุณเจ้าของร้านก็ใจดี

การบริการสุดยอด อาหารอร่อย และต้อนรับด้วยอากาศอบอุ่นสบาย

 

 

   หลังจากนั้นเวลาประมาณ2ทุ่มฉันเดินกลับหอพักด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย

บนใบหน้า และแวะซื้อโกโก้แบบผง ผลไม้ ขนมที่ร้านสะดวกซื้อก่อนจะ

เข้าหอพัก ประมาณ20นาที

 

 

   บางทีฉันคงจะแอบหลงรักเมืองๆนี้แล้วก็ได้ ฉันต้มโกโก้กินสักหน่อย

และวิ่งไปอาบน้ำ แล้วนั่งดื่มอย่างมีความสุขพร้อมรายการทีวีแสนโปรด

ก่อนจะเข้าห้องไปเขียนไดอารี่สักพัก ก่อนนอนพร้อมตุ๊กตาหมีทั้ง2

 

 

   อ่า... ฝันดีนะทุกคน

 

                                                                              Annie Annali

                                                                                                                                                               15 May

                                                                               love you all

 

 

 

 

**เรื่องนี้ไม่ได้อ้างอิงถึงใครทั้งสิ้น ทุกอย่างล้วนแต่สมมติขึ้นมาทั้งนั้น