รักวุ่นวายของยัยsตัวแม่

8.3

เขียนโดย yandere_sama

วันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2559 เวลา 12.41 น.

  8 ตอน
  3 วิจารณ์
  11.04K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2559 13.38 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

8) บทที่8

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

"หึ๋ยให้ตายสิน่าหงุดหงิดชะมัดคนอะไรน่ารำคาญที่สุดฉันชักจะทนเธอไม่ไหวแล้วนะยัยฝรั่งดองเอ๊ย!!!"ฉันสบถคำด่าสารพัดออกมาอย่างลืมตัวขณะที่กำลังเดินอยู่บนระเบียงซึ่งตอนนี้กำลังร้างผู้คนจนรู้สึกเงียบเหงา
ทั้งๆที่ถ้าเป็นตอนเที่ยงตรงนี้จะเป็นที่ๆจอแจที่สุดแท้ๆขนาดมุมอับยังไม่มีใครมานั่งโดดเรียนเลยสภานักเรียนนี่ร้ายชะมัด
พอพูดถึงสภานักเรียนขนแขนของฉันก็พากันตั้งชูชันขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ
'ปาล์ม'ประธานนักเรียนสุดโรคจิตคนเพียงคนเดียวที่ทำให้ชั้นกลัวขนาดนี้ได้...อะไรกันไม่ชอบเลยความรู้สึกนี้เหมือนตัวเองกำลังแพ้อยู่อย่างนั้นแหล่ะ
"เฮ้อดันไปตอบปากรับคำอะไรยากๆมาซะได้ให้ตายสิยัยประธานนักเรียนหน้าตายนั่น.."
"ฉัน...ทำไมหรอ"เสียงเย็นเอ่ยขึ้นจากทางด้านหลัง
"กรี๊ด!!!"ย...ยัยนี่มีพลังเทเลพอทหรือว่าเป็นพวกจืดจางแบบคุ--โกะรึไงกันโผล่มาไม่ให้สุ่มให้เสียงแบบนี้ตกใจหมด
"หึๆๆๆๆเห็นฉันเป็นผีรึไงยัยเปี๊ยกตกใจซะโอเว่อร์เชียว"ปาล์มแสยะยิ้มก่อนจะเหยียดมือมาวางบนหน้าผากของฉัน
"ท...ทำอะไรน่ะคะ"ฉันปัดมืออกอย่างร้อนรนย..ยัยบ้านี่ทำอะไรเนี่ยถ้ายัยหื่นเกรซนั่นมาเห็นฉันจะทำยังไง...
เอ๊ะ!แต่เดี๋ยวนะถึงยัยนั่นจะเห็นหรือไม่เห็นก็ไม่เกี่ยวซะหน่อย
"วัดไข้ไงไม่เคยมีคนทำให้รึ?"รอยยิ้มกวนประสาทถูกระบายตรงมุมปากของปาล์มแบบพองาม(จนน่าขนลุก)
"ก..ก็เคยอยู่หรอกค่ะ"
"หืมงั้นก็ไม่เห็นต้องกลัวอะไรขนาดนั้นซักหน่อยหรือว่าเธอกลัวแฟนของเธอโกรธล่ะสาวน้อย"ปาล์มยื่นหน้าเข้ามาใกล้ก่อนจะเหยียดยิ้มนิดๆอย่างมีเลศนัย
ยัยนี่น่ากลัวชะมัด= =
"แล้วเรื่องที่ตกลงน่ะว่าไง"ฉันหันมามองหน้าปาล์มเขม็งเมื่ออยู่ๆสาวเจ้าก็ดันเปลี่ยนหัวข้อการสนทนาแบบไม่ให้เธอตั้งตัว
"เรื่องคดีคุณออมอย่างนั้นหรอคะ"ปาล์มพยักหน้าเบาๆเป็นคำตอบใบหน้าถูกปรับมาเป็นเรียบนิ่งเหมือนเดิมไม่สิดูนิ่งกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ
"สองคนนั้นเป็นพี่น้องที่รักกันมากนะ"ปาล์มเอ่ยออกมาช้าๆอย่างแผ่วเบาสายตาเลื่ยนลอยราวกับกำลังหวนนึงถึงภาพในอดีต
"ฉันออม ออยเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ช่วงประถมแล้วล่ะพวกเราสามคนเล่นด้วยกันอยู่ห้องเดียวกันไปไหนก็ไปด้วยกันตลอดเรียกได้ว่าแทบจะตัวติดกันเลยดังนั้นฉันถึงได้กล้าพูดอย่างเต็มปากว่าคนอย่างออยไม่มีวันที่จะฆ่าพี่สาวแท้ๆที่ตัวเองรักมากได้ลงหรอกนะ"ปาล์มเว้นช่วงไว้เล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ
"วันนั้นวันที่เกิดเหตุการณ์บ้าๆนั่นฉันมัวแต่ยุ่งอยู่กับงานสภานักเรียนจนไม่ได้อยู่กับสองคนนั้นเหมือนทุกทีกว่างานจะเสร็จก็เกือบสี่ทุ่มแล้วไฟในบ้านปิดเงียบหน้าต่างกับประตูถูกลงกลอนไว้แน่นหนาอย่างน่าสงสัย แต่ฉันก็ไม่ได้ติดใจอะไรเพราะในตอนนั้นก็ได้แต่คิดว่าทั้งสองคนจะเพลียกับการแสดงละครจนหลับไปแล้วเลยถือวิสาสะเข้ามาในบ้านด้วยกุญแจสำรองที่ออยให้ไว้เข้ามา"
"เกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้นคะ"ฉันเร่งถามเมื่อรู้สึกว่าอยู่ๆคนข้างตัวก็เงียบไปปาล์มนั่งลงตรงพื้นระเบียงแบบไม่แคร์สื่อก่อนจะเล่าต่อ
"ที่ห้องนอนของทั้งคู่เละไปหมดตามผนังและพื้นห้องมีแต่รอยเลือดกลิ่นคาวคละคลุ้งจนฉันต้องรีบปิดจมูก บนเตียงนอนสีขาวสะอาดมีหัวของออมวางอยู่บนหมอนพร้อมกับชื้นส่วนแต่ละชิ้นของร่างกายตามลำดับว่าองย่างเป็นระเบียบเป็นภาพที่น่าสยดสยองที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอเลยล่ะ"
ติ๊งตองต๊องต่อง เสียงออดคาบเที่ยงดังขึ้นปาล์มลุกขึ้นก่อนจะปัดกระโปรงสีกรมท่าของตัวเองไปมา
"หึๆๆๆไว้คุยกันวันหลังแล้วกันฉันไปล่ะอ้อแล้วก็วันหลังอย่าแกล้งป่วยอีกล่ะเพราะเท่าที่ฉันวัดไข้ดูเมื่อกี้เธอไม่เห็นจะมีไข้ซักแอะกลั้นใจไปเรียนคาบห้าซะเถอะยัยเผือก"ปาล์มมองมาที่ฉันด้วยหางตารอยยิ้มดุจมัจจุราชกระตุกขิ้นเล็กน้อยพอเป็นพิธีแต่ก่อนที่ฉันจะทันได้กล่าวลายัยปีศาจโรคจิตนี่ก็หายเข้าไปในหลืบตึกเรียนเสียแล้ว
ไวชะมัดประธานนักเรียนอะไรนี่มันโจรชัดๆขืนยัยนั่นอยากจะเป็นขึ้นมาจริงๆงานนี้ต่อให้จ้างโค--มาสืบก็คงจะจับตัวยากในระดับพอๆกับจอมโจรสีขาวนั่นแน่ๆ
"ราตรีอยู่นี่เองฉันตกใจแทบแย่ที่พอจะไปเยี่ยมเธอที่ห้องพยาบาลก็หาไม่เจอ"อีฟวิ่งเข้ามาสวมกอดฉันจากทางด้านหลังมิวายขณะที่กำลังกอดกันนัวเนียอยู่นั้นเจ้าหล่อนก็ใช้เวลาในการตะโกนแหกปากใส่หูฉันหลายนาทีจนฉันกับคนอื่นๆที่เดินผ่านไปมาคงคิดไม่ต่างกันว่า ถ้าคบกับแม่นี่อีกซักสิบปีหูฉันคงหาไม่กับเสียงนรกทะลุเดซิเบลของเพื่อนสาวแน่ๆ

"อ..อีฟคะหยุดตะโกนก่อนสิอยู่กันแค่นี้เอง..."หูชั้นจะแตกแล้วโว้ย= = คิดไปพลางแกะมือเหนียวหนึบของอีฟไปพลางยัยนี่ตุ๊กแกมาเกิดรึไงเนี่ยมือเกาะแน่นเป็นบ้า
"อ้าวที่รักหายปวดท้อง ปวดหัว เป็นไข้ ไม่สบาย ปวดเนื้อปวดตัว เมายาดม อยากอาเจียนแล้วหรอจ๊ะ"เสียงนรกดังขึ้นจากด้านหลังพร้อมกับมือนุ่มที่ยื่นมาจับไหล่ของฉันอย่างเบามือ
"นอนหน่อยเดียวก็หายแล้วล่ะค่ะ"หันไปมองเกรซด้วยใบหน้ายิ้มแย้มซึ่งพอทำอย่างนั้นเจ้าหล่อนก็เหยียดยิ้มอย่างพออกพอใจ
"เห็นหน้าชั้นแล้วหายก็บอกมาเถอะพ่อแม่ให้อภัย"หายกับผีสิอยู่กับหล่อนแล้วจะเป็นหนักกว่าเดิมล่ะไม่ว่ายัยตัวเชื้อโรคเอ๊ยว่างๆให้พวกแพทย์มาผ่าพิสูจหน่อยเถอะว่าในร่างกายมีไวรัสกี่ชนิดจะได้รู้ซักทีว่าทำไมเวลาฉันอยู่ใกล้หล่อนที่ไรถึงได้รู้สึกเหมือนจะเป็นไข้ทุกที ไหนๆก็โดนเจี๋ยนไม่ตายอยู่แล้วแค่โดนผ่าซักฉึกสองฉึกคงไม่ระคายผิวเธอหรอกเชื่อสิ
"เฮอะเธอน่ะเงียบไปเลย"อีฟทำหน้ายู่ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงร่าเริง
"อ้อจะว่าไปฉันมีอะไรมาเซอร์ไพรเธอด้วยล่ะแท่นแท๊น~"พูดพร้อมกับผายมือไปทางด้านข้าง
ภาพของเด็กสาวที่ค่อยๆออกมาจากหลังต้นไม้ไม่ใกล้ไม่ไกลจากตรงที่ฉันยืนอยู่มากนักปรากฎให้เห็นในสายตาฉันแบบภาพสโลโมชั่น
เป็นไปไม่ได้ทำไมเธอถึงใส่ชุดนักเรียนของฉันล่ะ...
"ตะวัน!?"

"สวัสดีค่ะพี่เห็นอีฟกับเกรซบอกว่าพี่ไม่สบายเป็นอะไรรึเปล่าคะ"ตะวันเลิกคิ้วถามด้วยสายตาเป็นห่วง
"พี่ไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ"พี่แค่จะหาเรื่องไม่เข้าเรียนเฉยๆเท่านั้นแหละคาบแรกยังไม่ได้ทำการบ้านเลยเหอะๆๆ ประโยคหลังแม้อยากจะพูดออกไปใจจะขาดแต่ก็ต้องรักษาภาพพจที่สร้างไว เฮ้อการแสดงทำนิสัยดูดีนี่มันยากจังถึงจะทำมาเป็นปีๆแล้วก็เถอะ
"ตะวันต้องขอโทษพี่จริงๆนะคะที่โกหกพี่ว่ามาเที่ยวเหมือนทุกทีพอดีว่าคุณพ่อท่านมีเรื่องนิดหน่อยเลยส่งตะวันมาอยู่กับพี่น่ะค่ะยังไงก็ฝากตัวด้วยนะคะ"แฝดน้องคลี่ยิ้มด้วยใบหน้าที่ดูไร้เดียงสาสุดๆ รอยยิ้มที่ดูจริงใจแบบนั้นซักวันฉันจะทำได้มั๊ยนะทำไมถึงเป็นน้องสาวที่น่าอิจฉาขนาดนี้เนี่ย
"แล้วเรื่องยุ่งนิดหน่อยของคุณพ่อนี่คืออะไรงั้นหรอ"เดี๋ยวนี้บ้างานขนาดยอมทิ้งลูกสาวมาอยู่กับลูกที่โดนเขี่ยทิ้งแล้วรึไง
"งานแต่งของคุณพ่อน่ะค่ะ..."ตะวันพูดเสียงสั่น
"ห๊ะเมื่อกี้ตะวันพูดว่าอะไรนะคะ!?"เมื่อกี้ฉันหูฝาดใช่มั๊ยไม่จริงน่า...
"พ่อเค้ามาขอตะวันว่าอยากแต่งงานใหม่น่ะค่ะแล้วเหมือนแม่ใหม่จะไม่ค่อยชอบตะวัน ตะวันก็เลยโดนพ่อจับมาอยู่ที่ไทยกับพี่แบบนี้"น้ำใสๆเริ่มไหลเอ่อออกมาจากนัยตาคู่สวย อะไรกันเดาอารมณ์ไม่ออกเลย เสียใจ สะใจ ดีใจ แค้นใจ น้อยใจ ทำไมใบหน้าของตะวันถึงได้มีหลากหลายอารมณ์ขนาดนี้นี่ฉันเป็นพี่ภาษาอะไรกันทำไมถึงไม่เคยสังเกตน้องเลย
 ฉันเข้าไปสวมกอดตะวันที่ตอนนี้เอาแต่ร้องไห้
ครั้งสุดท้ายที่ตะวันร้องไห้เนี่ยมันเมื่อไหร่กันนะทำไมฉันถึงจำไม่ได้เลย...

"พี่คะหนูดีขึ้นแล้วล่ะเราไปทานข้าวกันเถอะค่ะ"ตะวันพูดพร้อมกับปั้นหน้ายิ้มให้ดูดีที่สุดในตอนนี้ก่อนจะจูงมือฉันให้เดินตามมาที่โรงอาหาร
"เดี๋ยวฉันกับเกรซจะไปซื้อข้าวราตรีกับตะวันจะเอาอะไรมั๊ย"อีฟมองมาที่ตะวันด้วยสายตาเป็นห่วง
"อืมขอเป็นก๋วยเตี๋ยวก็แล้วกันค่ะเอาของตะวันเหมือนของฉันนะคะ"พูดไปพลางก็ลูบหัวน้องสาวตัวเองไปพลาง
เด็กคนนี้ตลอดหลายปีมานี่แบกรับอะไรไว้ภายใต้หน้ากากรอยยิ้มนี้บ้างนะ...
"ขอบคุณนะคะพี่"
"ไม่เป็นไรหรอกก็พี่เป็นพี่นี่นาขอชดเชยกับเรื่องที่พี่ไม่เคยสังเกตตะวันเลยก็แล้วกันนะ"
"อะไรกันคะนั่นแค่หนูได้อยูากับพี่หนูก็ดีใจจะแย่แล้วคาะไม่ต้องมาชดเชยอะไรหรอกตอนนี้หนูมีความสุขดีนะ"ตะวันยืนยันเสียงแข็งถ้าใครได้มาเห็นฉันกับน้องคุยกันอย่างสนุกสนานในตอนนี้คงจะไม่เชื่อภาพเมื่อไม่ถึงห้านาทีก่อนที่ฉันกับตะวันกำลังกอดกันกลมเพราะคุณเธอร้องไห้แน่ๆ
"แล้วตะวันเรียนอยู่ห้องไหนล่ะว่างๆพี่จะได้ไปหาบ่อยๆ"
"อ๋อเรื่องนั้นพี่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะเพราะหนูอยู่ห้องเดียวกับพี่เลยแถมนั่งติดกันด้วยพี่จะได้อยู่กับหนูจนเบื่อเลยล่ะ"ตะวันฉีกยิ้ม
"Hi สบายดีมั๊ยจ๊ะที่รักไม่นึกเลยนะว่าพรมลิขิตจะทำให้เราได้พบกันในเวลาใกล้เคียงกันเช่นนี้~"มีนพุ่งเข้ามาเกาะขอบโต๊ะที่ฉันกับตะวันนั่งอยู่พร้อมกับทำท่าน่าคลื่นไส้
"คนนี้ใครหรอคะ"ใบหน้าของตะวันเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามจนฉันอดขำกับท่าทีของน้องตัวเองไม่ได้
"โถ่อะไรกันทั้งๆที้เราก็เคยเจอกันแล้วแท้ๆทำไมถึงพูดตัดเยื้อใยกันอย่างนี้ล่ะ"มีนทำหน้ายู่
"เอ่อใช่คนที่ท่าทางบ้าๆบอๆที่เข้ามาป่วนบ้านตอนพี่กำลังทำความสะอาดอยู่รึเปล่าคะ"ตะวันถามด้วยใบหน้าใสซื่อ
ฉึก!! เสียงแทงใจดำเสียบทะลุอกมีนจนเจ้าตัวแทบทรุดลงไปกองกับพื้นโรงอาหาร
"บ้าๆบอๆ..."มีนพูดเสียงอ่อย
"มีนคะมาอยู่อะไรตรงนี้เรานัดคนของเราให้ไปเจอที่ห้องชมรมไม่ใช่หรอ"ขิงเดินเข้ามาหามีนด้วยสายตาเพชรฆาตร
"หยึ๋ย!"ยังไม่ทันที่ตัวปัญหาจะได้กล่าวลาก็โดนขิงลากไปไกลจากสายตาซะแล้ว
"คู่นั้นตลกดีนะคะ"ตะวันหันมายิ้มให้ฉัน
"ฮะๆๆๆงั้นหรอ..."ยิ้มแบบเจื่อนสนิท
ครู่ใหญ่หลังจากที่มีนโดนขิงลากไปเก็บ(?)อีฟกับเกรซก็เดินมาพร้อมกับถาดอาหาร
พวกเรานั่งคุยนั่งกินกันซักพักก่อนจะพากันขึ้นห้องเรียนที่อยู่ชั้นห้าของตึก
"เฮ้อบันไดนี่ขึ้นกี่ทีๆก็สูงมากๆเลยนะคะเนี่ย"ฉันหันไปพูดกับอีฟที่ตอนนี้เธอกำลังพูดคุยอยู่กับตะวันอย่างออกรสข้างๆ
ชิส์อะไรกันได้น้องแล้วลืมพี่เรอะ=*=
"ฮะๆๆไม่ใช่ว่าเพราะขาเธอสั้นหรอฉันขึ้นไม่เห็นจะเหนื่ิย"เมื่อโดนเกรซแขวะเข้าให้ฉันจึงได้แต่ทำแก้มป่องแล้วหันหน้าหนีเจ้าหล่อนไปอีกทาง
เออไอ้สูงฉันมันเตี๊ยหนิใครจะไปสูงปรี๊ดผิดมนุษย์เหมือนเธอล่ะแขนขาก็ยาวชะมัดหึ๋ยอิจฉา!!
"อ้าวงอนแล้วหรอฮ่าๆๆ"เกรซวิ่งขึ้นบันไดมาดักหน้าฉันก่อนจะเชยคางของฉันขึ้น
ย...ยัยนี่อะไรอีกล่ะ=//=
"ไม่ได้งอนค่ะ"ฉันตอบพลางเสหน้ามองมาทางอื่นเพราะเจ้าหล่อนดันยื่นหน้าเข้ามาใกล้ซะจนจะจูบกันอยู่แล้วน่ะสิ
"ไม่ได้งอนก็หันมามองทางนี้สิ"พูดท้าคนอย่างฉันได้ยังไงกันยัยนี่รู้จักราตรีน้อยไปซะแล้ว
คิดปุ๊บก็หันปั๊บการกระทำปุบปับของฉันนั้นทำให้เกรซที่ยังไม่ทันได้เอาหน้าออกจากรัศมีอันตรายโดนปากของฉันประกบเข้าทีีแก้มอย่างจัง
"เฮือก!!!"เกรซผงะใบหน้าสีขาวแบบลูกครึ่งของเธอปรากฎรอยแดงเป็นปื้นที่พวกแก้มทั้งสองข้าง
"ข..ขอโทษค่ะ"ฉันทำตาลอกแลกมาซ้ายมองขวาอย่างอายๆ
ว๊ากให้ตายเถอะตะวันกับอีฟจะเห็นมั๊ยเนี่ย!
"อ..อะไรกันอยากหอมแก้มก็ไม่บอก"เกรซยิ้มยี่ยวน"จะเอามากกว่าแก้มก็ได้นะ"พูดไปพลางก็แลบลิ้นใส่ชั้นด้วยท่าทางกวนของต่ำสุดฤธิ
"บ้า..."คำที่คิดไว้หลุดออกมาจากปากอย่างไม่ได้ตั้งใจใบหน้าร้อนผ่าวไปหมดภายในใจหวังเพียงว่าอย่าให้คนตรงหน้าได้ยิน
"หืมเมื่อกี้ว่ายังไงนะ"ทำเสียงยานคาง
"ไม่มีอะไรค่ะข..เข้าเรียนกันเถอะ!!"ผลักเกรซออกให้พ้นทางก่อนจะวิ่งจ้ำอ้าวขึ้นชั้นห้าสุดชีวิต
อ๊าอายจะตายอยู่แล้วอย่างจะเอาปี๊ปมาคลุมหัวสุดๆเลยไม่สิหายตัวไปจากตรงนี้เลยยิ่งดีน่าอายที่สุดๆๆๆ
ยัยเกรซ ยัยฝรั่งดอง ยัยบ้า ยัยตัวซวย!!!

ขณะเดียวกันนั้นทางด้านของเกรซหลังจากที่ราตรีวิ่งไปแล้ว
"อ้าวพี่ล่ะคะ"ตะวันถามขึ้นหลังจากที่พอลืมตัวคุยกับเพื่อนเก่าเพลินไปหน่อยจนลืมพี่สาวตัวเองชั่วขณะพอนึกได้พี่ตัวเองก็ดันหายไปซะแล้ว
"เค้าล่วงหน้าไปที่ห้องเรียนน่ะสงสัยจะรักเรียนกระทันหัน"เกรซยิ้ม
"อ้าวไหงงั้นล่ะเธอไปทำอะไรให้ราตรีงอนรึเปล่ายะยัยเกรซ"อีฟหันมาดุเกรซบ้าง
"เอ๋เปล่าซะหน่อยแค่หยอกเล่นหน่อยเดียวเองแถมได้ของดีตอบแทนมาซะด้วยคุ้มสุดๆเลยล่ะ'"อีฟกับตะวันหันมามองหน้ากันด้วยสายตาไม่เข้าใจ
"ฮะๆๆนั่นสินะอีกไม่นานหรอกเดี๋ยวยัยนั่นก็คงจะเริ่มรู้ตัวเองนั่นแหละและอีกไม่นานฉันจะเปิดตัว'แฟน'ของฉันให้พวกเธอรู้ก็แล้วกันนะ"
เจ้าตัวพูดไปหัวเราะไปอย่างมีความสุข
"แล้วเกรซคะ..ไม่สิฟ้าใสเมื่อไหร่เธอจะบอกเรื่องราวในอดีตให้พี่รู้ล่ะคะ"ตะวันถามเสียงสลดเพราะตอนนี้เธอก็อายุสิบห้าแล้วอีกแค่ครึ่งปีเท่านั้นที่คำทำนายนั้นจะเป็นจริง
"ขอเวลาให้ฉันหน่อยได้มั๊ยตะวันเมื่อถึงเวลานั้นฉันจะบอกอย่างแน่นอนทุกๆเรื่องเลยล่ะรวมถึงดวงตาคู่นั้นของราตรีด้วย...."เกรซตอบเสียงแผ่ว
"จะทำอะไรก็รีบๆเข้าล่ะเพราะมันเป็นเรื่องของพวกเธอสองคนอะไรต่อจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับเธอแล้วล่ะอย่าให้มันสายเกินไปก็แล้วกัน"อีฟพูดเตือน
"นั่นสินะ...เฮ้อทำไมเวลาแห่งความสุขนี่มันผ่านไปไวจังน้าถ้าทำได้ฉันก็อยากจะอายุสิบห้าตลอดไปเลยล่ะ"
 กลับมาที่นางเอกบ้าง
โถ่เอ๊ยบ้าๆๆๆๆๆ หึ๋ยยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิดคนอะไรหน้าหนาชะมัดตอนเจอกันแรกๆออกจะน่ารักแท้ๆ ถึงจะมัดมือชกอยู่ๆก็บังคับให้ฉันตอบตกลงในการมาอยู่ที่บ้านเป็นเวลาสามปีก็เถอะแต่ยังไงตอนนั้นนิสัยยัยเกรซก็ยังดูน่านักกว่าตอนนี้เป็นกอง ทั้งๆที่ตอนนั้นออกจะเป็นความรู้สึกที่คุ้ยเคยแท้ๆ!!
เอ๊ะคุ้นเคยงั้นหรอ....
"ไงทำไมมานั่งหน้ามุ่ยอยู่ตรงนี้ล่ะจ๊ะที่รัก^^ "หึคิดแล้วก็มาเลยนะตายยากชะมัดเป็นเพราะใครล่ะยะที่ทำให้ชั้นเป็นแบบนี้น่ะยัยฝรั่งซื่อบื้อ
"ไม่ตอบ...อะไรกันๆฉันสิต้องเป็นฝ่ายโกรธเธอเป็นคนขโมยซิงค์แก้มฉันนะ"เกรซยิ้มทะเล้น แต่เดี๋ยวก่อนนะพอพูดถึงขโมยซิงค์แก้มคนที่ขโมยของฉันก่อนมันเธอไม่ใช่รึไง
"ถ้าไม่ตอบฉันจะจูบเธอตรงนี้เลยนะ"เกรซกระซิบที่ข้างหูจนฉันสะดุ้งโหยงใบหน้าร้อนผ่าวจนเหมือนกับจะสุกอยู่รอมร่อ
หนอยยัยหน้าม่อเดี๋ยวนี้แผนสูงนักนะ=[]=!!
"จะให้ตอบว่าอะไรล่ะคะ"ถึงแม้ฉันจะพยายามกดเสียงให้ดูเป็นปกติแต่เสียงที่ลอดออกไปนั้นก็แสดงถึงความหงุดหงิดออกมาอย่างปิดไม่มิด
"ห๊ะๆๆอะไรกันกลัวหรอไม่นึกเลยนะว่าเธอก็มีมุมนี้กับเค้าด้วย"เกรซหัวเราะร่วน
"ขำอะไรคะเงียบไปเลย"ฉันเอื้อมมือไปทุบท้องคนตัวสูงกว่าอย่างอายๆหนอยแน่ะขำนักใช่มั๊ยกลับบ้านไปจะเอาคีมถอนฟันให้หมดปากเลยคอยดู!!
"นี่พวกเธอน่ะเลิกสวีทกันก่อนได้มั๊ย"เสียงเย็นเอ่ยทักจากทางด้านหลังพร้อมกับเสียงผิวปากบวกกับเสียงกรี๊ดของคนในห้องที่ดังมาเป็นระยะๆ ฉันกับเกรซหันไปหาต้นเสียงสายตาประสานเข้ากับนัยตาสีน้ำตาลอ่อนที่ดูคุ้นเคย เหอะๆๆจะไม่ให้ชั้นคุ้นเคยได้อย่างไรก็เพิ่งจะเจอกับยัยหัวรุ้งนี่เมื่อเช้านี่นา
"คุณ/ออย!!"
"เหอะอย่าตกใจให้มันเว่อร์นักสิยัยเตี๊ยเห็นแล้วมันน่ารำคาญ"ออยกอดอกทำตาขวางแบบเย็นชาสุดๆจนทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบราวกับว่าที่นี่ไม่เคยมีคนอยู่อย่างไรอย่างนั้นแน่ะ
"ออกมากับฉันหน่อยอ้อพายัยฝรั่งมาด้วยนะเรามีเรื่องต้องคุยกันต่อจากเมื่อเช้า"ออยพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะเดินนำออกไปจากห้องปล่อยให้ฉันกับเกรซมองหน้ากันอย่างงงๆว่าคุณเธอจะมาไม้ไหน
"ตามมาสิ!"ไม่ใช่เสียงตะโกนแต่กลับดูน่าเกรงขามอย่างประหลาดคนๆนี้มันปีศาจชัดๆ

ฉันเดินตามยัยเรนโบวมาเรื่อยๆจนถึงหน้าตึกกรรมการนักเรียนที่แยกจากตึกเรียนและตึกอื่นๆอย่างสิ้นเชิง
แต่จะว่าไปที่นี่หรูชะมัดอย่างกับบริษัทอะไรซักอย่างแน่ะทั้งดีไซด์ตึกที่ดูหรูหราออกแนวตะวันตกกับระบบป้องกันภัยโดยใช้คีย์การ์ดเฉพาะพวกกรรมการนักเรียน แถมภายในยังมีแอร์และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันอีกต่างหาก(มีห้องนอนให้ด้วยแน่ะ)ให้ตายสินี่มันอะไรกันพวกกรรมการนักเรียนน่าอิจฉาเกินไปแล้ว
"ยืนรอตรงนี้"ออยพูดเสียงเรียบก่อนจะเดินไปทางเครื่องรูดบัตรเข้าออกพลางกดออดเรียกกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ให้เจ้าคนข้างในกดเปิดประตู
'นั่นใครคะ'เสียงกรรมการนักเรียนดังลอดออกมาจากลำโพงตัวจิ๋วที่ถูกติดตั้งอยู่บริเวณประตูเลื่อน
"ออยฉันจะขึ้นไปหาปาล์มเปิดประตูเร็วเธอคงไม่อยากให้ประธานโกรธใช่มั๊ย"สิ้นเสียงมัจจุราชประตูเลื่อนนั้นก็เปิดออกอย่างรวดเร็วฉันได้แต่มองการกระทำของออยตาปริบๆ
ยัยนี่บางทีอาจจะน่ากลัวกว่าปาล์มก็ได้แหะ....
"ยืนบื้ออยู่ทำไมเข้ามาสิยัยโง่"ออยสั่งพร้อมกันหันมามองฉันกับเกรซด้วยหางตา
บรื้อ!!ออยกับปาล์มสองคนนี้จะเป็นคู่สุดท้ายที่ฉันจะต่อกรด้วยอย่างแน่นอนไม่อยากจะรู้เลยจริงๆว่าถ้าออมยังไม่ตายแล้วอยู่กันครบทีมพอเดินไปเดินมาด้วยกันบรรยากาศจะมาคุขนาดไหน
แค่คิดก็ขนลุกแล้ว

คิดไปพลางก็ค่อยๆก้าวเท้าเข้ามาในตัวตึกด้วยท่าทีกล้าๆกลัวๆ
ฉันกับเกรซเดินเงียบมาตลอดทางจนถึงห้องที่อยู่ลึกที่สุดของตัวอาคารหน้าประตูไม้เนื้อหนามีการสลักชื่อห้องอย่างสวยงามว่า'ห้องประธานนักเรียน'
ออยเคาะประตูนั้นเบาๆสามครั้ง ประตูแผ่นหนาค่อยๆเปิดออกรับผู้มาเยือนเสียงเอี๊ยดอ๊าดจากแผ่นไม้ดังขึ้นเบาๆเหมือนซาวน์หนังสยองขวัญที่ฉันเคยโดนบังคับให้ดูบ่อยๆ นี่มันห้องประธานนักเรียนแน่รึเปล่านะทำไมความรู้สึกฉันถึงได้เหมือนกับว่ากำลังจะเข้าไปในบ้านผีสิงอย่างนี้ล่ะ
พริบตาที่ก้าวเข้ามาในห้องลมหนาวก็พัดโบกใส่ร่างกายขอฉันจนรู้สึกสั่นสะท้านเผลอลูบแขนไปมาอย่างลืมตัว
น..หนาวชะมัดนี่มันห้องทำงานหรือช่องฟรีสเนี่ยหนาวเป็นบ้า
"มากันแล้วหรอ..."เสียงเย็นเอ่ยทักฉันกับเกรซหันไปมองทางต้นเสียงอย่างรวดเร็ว ปาล์มสบตากับออยพร้อมกับพยักเพยิดหน้าไปทางเก้าอี้ที่อยู่ตรงข้ามกับโต๊ะทำงานของเธอเป็นการเชื้อเชิญซึ่งดูเหมือนว่าออยดูเหมือนจะเข้าใจจึงลากฉันกับเกรซไปนั่งตรงนั้นแบบเซ็งๆ
"ฉันหนาวนะเปิดให้มันอุ่นกว่านี้ไม่ได้รึไง"ออยขมวดคิ้วแต่ก็ไม่เพียงพอที่จะสื่ออารมณ์อันขุ่นมัวในตอนนี้ของเธอได้หมดอยู่ดี
"ทำไมล่ะมันก็เย็นสบายดีออก"ปาล์มคลี่ยิ้มอย่างพอใจที่สามารถทำให้เพื่อนสาวแสดงสีหน้าออกมาได้บ้างแต่ตัวเจ้าหล่อนเองตอนยิ้มก็แค่กระตุกยิ้มที่มุมปากเท่านั้นทำให้สองคนนี้ดูไม่ค่อยแตกต่างกันซักเท่าไหรเป็นคู่ที่แปลกจริงๆ
"เหอะช่างมันเถอะมาคุยเรื่องที่ค้างกันต่อดีกว่าพาแม่สองคนนี้มานานๆคงไม่ดีใช่มั๊ยล่ะถึงเธอจะเป็นประธานก็เถอะ"ออยพูดเหมือนไม่ค่อยหยี่ระกับการกระทำเมืิ่อครู่ของปาล์มทั้งๆที่เหมือนว่าตอนนี้เจ้าหล่อนกำลังหงุดหงิดจนแทบเดือดเลยล่ะ
เก็บอารมณ์เก่งชะมัด
"โกรธหรอก็ได้ๆงั้นจะขอคุยต่อจากเมื่อเช้าเลยล่ะนะ"ปาล์มหันกลับมามองที่ฉันกับเกรซด้วยแววตาว่างเปล่า
"ก็อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้พอดีว่าฉันมีผู้ต้องสงสัยอีกคนที่อยากจะให้เธอไปสืบให้หน่อย"
"ใครหรอคะ"
"ชื่อกร อยู่ม.6 คนๆนี้เคยมาสารภาพรักกับออมแล้วก็โดนปฎิเสธไป"ปาล์มพูดก่อนจะเลื่อนรูปภาพของรุ่นพี่ม.6มาวางให้ฉันกับเกรซดู คนๆนี้เท่าที่ฉันดูก็เป็นคนที่หน้าตาดีระดับนึงเลยล่ะถึงผิวจะออกแทนจนดูคล้ำๆไปนิดก็เถอะ
"แต่แค่นี้ก็เป็นผู้ต้องสงสัยแล้วหรอคะ"ถ้าแค่นี้แล้วจะโดนสงสัยว่าจะเป็นฆาตรกรผู้ต้องสงสัยในคดีนี้คงมีเป็นร้อย เหอะๆๆแค่คิดก็ปวดหัวแล้ว
"หมอนี่เคยลอบทำร้ายออมตอนออยไม่อยู่แล้วก็เคยแอบเข้าบ้านไปขโมยของๆออมด้วยทีนี้น่าสงสัยพอรึยัง"หยึ๋ยหมอนี่มันโรคจิตชัดๆแต่เดี๋ยวนะแอบเข้าบ้านไปขโมยของนี่มันผิดกฎหมายแล้วนะเฮ้ยแถมมีทำร้ายร่างกายอีก
"แล้วทำไมไม่แจ้งตำรวจล่ะคะ"
"ยัยนั่นขอไว้น่ะสิไม่รู้ทำไม"ออยพูดแบบไม่ค่อยสบอารมณ์นัก
อะไรล่ะนั่นทั้งโดนขโมยของ โดนลอบทำร้ายแต่ไม่ยอมแจ้งตำรวจ
"ยัยนั่นมีนิสัยแปลกๆน่ะคิดให้ตายก็ไม่ออกหรอกปวดหัวเปล่าๆ"ปาล์มไขข้อข้องใจให้ฉันราวกับว่าอ่านความคิดของฉันออก
"เรื่องของคุณออมน่ะช่างก่อนดีกว่าค่ะแต่จะให้ฉันไปสืบอะไรจากรุ่นพี่คนนี้หรอคะ"จะให้ฉันเข้าไปทุบโต๊ะไอ้โรคจิตนี่แล้วถามว่า'เฮ้ยเอ๊งเป็นฆาตรกรที่ฆ่าออมดาราดังคนนั้นรึเปล่า'อย่างงี้หรออืมไม่สิๆวิธีนั้นให้ตายยังไงก็ไม่ทำเด็ดๆโง่สิ้นดี
"ฉันจะให้เธอหาวิธีง้างปากไอ้โรคจิตให้พูดความจริงออกมาให้ได้ยังไงล่ะ"ปาล์มแสยะยิ้มชั่วร้าย
เหอะๆๆวิธีที่ว่านี่จะให้ฉันไปเจี๋ยนไอ้บ้านั่นแล้วบังคับขู่เข็ญให้มันบอกรึไง แต่ก็น่าสนกว่าวิธีแรกล่ะนะ(อ่าว)
"วิธีการล่ะคะ"ถามเพื่อความชัวซักนิด
"แล้วแต่เธอเลยแล้วกันจะเอาถึงตายเลยก็ได้นะหึๆๆๆ"ปาล์มหัวเราะในลำคออย่างชั่วร้าย เดี๋ยวนะแล้วแต่งั้นหรอแล้วไอ้คำว่าก็ได้สำหรับเธอมันคือ'ต้อง'ชัดๆเลยไช่รึไง=[]=!!
"หมดธุระแล้วสินะคะงั้นฉันขอตัวแล้วกัน"ฉันพยายามบอกปัดเพื่อให้ออกจากห้องนี้ให้เร็วที่สุด จะแข็งตายอยู่แล้วโว้ย!ยัยนี่นั่งอยู่ในห้องนี้ได้ยังไงเป็นชั่วโมงๆ
"หึๆๆๆฝากด้วยละกันนะยัยเปี๊ยก"
เหอะๆๆเท่าที่ฉันดูพวกหล่อนสองคนดูเหมือนฆาตรกรยิ่งกว่าไอ้โรคจิตในรูปนั่นซะอีกนะฉันว่า......
 
....................................................................................................................

ติดตามเรื่องอื่นๆหรือตอนที่ไวกว่าได้ที่เพจได้เลยค่ะขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ

https://www.facebook.com/%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B8%A3%E0%B8%B4QwQ-%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%96%E0%B8%AD%E0%B8%B0-127421940992898/

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา