I am wife เมื่อผมเป็นเจ้าสาว [YAOI]
เขียนโดย อันธพาล
วันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 15.47 น.
แก้ไขเมื่อ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 15.49 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) แรกพบ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความEpisode 2 แรกพบ
เช้าของวันต่อมา ลาเนียจ้องเลวี่ที่นั่งหัวเราะงอหงายอยู่ที่ชานบ้านเขม็ง เส้นเลือดกระตุกยิกๆ จนต้องยันโครมส่งให้ไอ้เพื่อนตัวดีลงไปกลิ้งอยู่บนพื้น
“เจ้าจะหัวเราะอีกนานไหม?” เสียงหวานเอ่ยดุๆ ส่งให้คนหัวเราะต้องกลั้นขำแล้วว่า
“นี่คงเป็นเหตุผลที่เจ้าคิ้วพันกันมาเป็นอาทิตย์สินะ? หึหึ”
“เออ!!”
“หึหึ แล้วน้าเทียร่าทำยังไงเจ้าถึงได้ตกลงล่ะ?” ร่างบางส่งค้อนให้
“เจ้านี่ชอบยุ่ง!!”
“เอ้า ก็ข้าอยากรู้ เจ้าเป็นเพื่อนข้า ข้าอยากรู้แล้วผิดตรงไหน?” หนุ่มผมแดงยักคิ้วกวนๆ ก่อนหลบฝ่ามือพิฆาตมังกรจากเพื่อนตัวน้อย ซึ่งถ้าเขาเอาคืน คนตัวเล็กคงตีลังกาหงายท้องไปหลายตลบ
“ตกลงได้ไงก็ช่างเถอะ เฮ่อ” แล้วเจ้าตัวก็ล้มกลิ้งไปกับพื้นไม้
“เอางี้ เจ้าก็พาข้าไปด้วยสิ!” คนฟังตาโต
“เจ้าจะไปทำไม!?”
“เอ้า เจ้าจำไม่ได้เหรอว่าข้าอยากเป็นอัศวิน!!? ข้าจะไปเป็นอัศวินให้เจ้าไง ไม่ดีใจเหรอ? เจ้าจะได้มีเพื่อน!” คนฟังกระพริบตาปริบๆ ก่อนยิ้มร่า
“จริงด้วย!!! เอ้อ แล้วพ่อแม่เจ้า..”
“ให้พี่ข้าดูแล ข้าไปเป็นอัศวินเงินเดือนดีๆ ส่งกลับมาให้แม่ ดีกว่าเป็นไหนๆ แถมข้ายังช่วยเจ้าหลังแต่งงานแล้วได้ด้วยนะ” ลาเนียเลิกคิ้ว
“ยังไง?”
“ฮึ่ม ก็ช่วยกีดกันบวกคิดแผนไม่ให้เจ้าโดนกดไงล่ะ หรือเจ้าอยาก?” ร่างบางส่ายหน้าพรืด แล้วสองหนุ่มก็หัวเราะ
........................................................
“โฮ๊ะ หน้าเหมือนแม่เจ้าไม่มีผิด!!” เสียงทุ้มของเจ้าของเรือนผมสีดำสนิทยาวถึงกลางหลัง ใบหน้าหล่อเหลายื่นเข้าใกล้ลาเนียจนต้องเอนหลังออกห่าง
นะ นี่หรือพระราชา!!?
หล่อชะมัด!!!
“เฮ้ย ราชาโคตรหนุ่มเลยว่ะ อายุเท่าไหร่แล้ววะ?” เลวี่กระซิบกระซาบ คนถูกถามหันไปตอบเสียงเบาพอกัน
“ไม่แน่ใจ แต่ไม่น่าต่ำกว่าห้าพันปี” คนฟังตาโต
“ห้าพันปี!!!!?”
“ก็ปีศาจนี่หว่า”
“เจ้าเตรียมตัวพร้อมหรือยัง เราจะออกเดินทางกันแล้ว” พระราชาหนุ่มรูปหล่อเอ่ย คนตัวเล็กพยักหน้าหงึกหงักเกาข้างแก้มเบาๆ ก่อนหันไปกอดน้า
“ท่านน้าดูแลตัวเองด้วย ห้ามย้ายบ้านหนีข้า ข้าส่งจดหมายมาก็ต้องตอบ สัญญา!” แล้วก็ยื่นนิ้วก้อยส่งให้ผู้เป็นน้าเกี่ยวก้อยสัญญา
“เจ้าเด็กน้อย ไปอยู่กับเจ้าชายดันทาเลี่ยนก็อย่าดื้ออย่าซน เข้าใจมั้ย เลวี่ น้าฝากเจ้าช่วยดูแลลาเนียด้วยนะ!” น้าสาวกล่าวก่อนจะกอดเด็กทั้งสองเอาไว้ก่อนจะถามต่อว่า “แล้วพ่อกับแม้เจ้าไม่มาหรือ?”
“โอ๊ย ข้าลาท่านพ่อกับท่านแม้ตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วท่านน้า!!” เสียงทะเล้นกล่าวตอบก่อนที่ทั้งสองหนุ่มน้อยจะถูกต้อนให้ขึ้นรถม้าคันงาม
“เทียร่า ข้าคงต้องไปก่อน ไม่ต้องห่วงหลานชายเจ้า ข้าจะดูแลอย่างดี รักษาตัวด้วย” ว่าแล้วพระราชาหนุ่มรูปหล่อก็ยิ้มให้กับร่างบางที่ก้มคำนับให้ ก่อนจะก้าวขึ้นม้า แต่ยังไม่ทันที่ขบวนเสด็จจะเคลื่อนตัว เสียงเย้วๆ ของใครบางคนก็ขัดขึ้นมาก่อน
“เดี๋ยว!!! รอก่อน เลวี่ เลวี่ โอย แฮกๆ แม่ฝากของกินมาให้” พูดจบ ลาวี่พี่ชายของเลวี่ก็ชูกล่องไม้สำหรับใส่อาหารส่งให้คนเป็นน้อง
“โอ๊ะ พี่ ดูแลท่านพ่อกับท่านแม่ดีๆ นะ!!!” หลังจากล่ำลาครั้งสุดท้าย ขบวนเสด็จก็ได้ฤกษ์เคลื่อนออกเดินทาง มุ่งหน้าสู่พระราชวังแอสเทรีย
................................................................
ว่าง........
ว่างมาก...มากถึงมากที่สุด!!!!!
ตั้งแต่ออกจากบ้านเดินทางมาจนถึงเมืองหลวง ณ พระราชวังแอสเทรียแห่งนี้ ผ่านมาแล้วสองวัน นอกจากกิน นั่ง นอน และหายใจ ลาเนียยังไม่ทันจะได้ทำอะไรซักกะนิ๊ด!!!! เลวี่เพื่อนคนดีก็ถูกจับแยกไปฝึกดาบฝึกเวท ซึ่งตัวเขาถูกสั่งห้ามไปยังลานฝึกเด็ดขาด เนื่องจากพระราชากลัวผิวนวลเนียนของว่าที่ลูกสะใภ้จะเสียและกลัวจะโดนลูกหลงจากหอกและดาบของอัศวินผู้ใช้สนาม
เซ็งมาก!
อยู่มาสองวันคนที่จะต้องแต่งด้วยก็ยังไม่เห็นหน้าสักแว้บ พระราชาบอกว่าเจ้าชายกำลังเดินทางจากปราสาทโฟร์เซนที่อยู่เมืองฟรอซในภาคเหนือที่เจ้าชายดันทาเลี่ยนเป็นผู้ดูแล
ชิ!!!
ข้ามาถึงตั้งนาน แต่ไอ้บ้าเจ้าชายนั่นกลับยังมาไม่ถึง รู้งี้ไม่รีบมาหรอก!!!
คิดพลางสองเท้าเปลือยเปล่าก็ตีน้ำใต้สะพานจนฟุ้งกระจายเกิดเสียงจ๋อมแจ๋ม คิ้วเรียวขมวดมุ่นด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะทนไม่ไหวลุกขึ้นยืนเต็มความสูงอันน้อยนิด สวมรองเท้าแล้วตรงดิ่งสูลานฝึกอัศวินที่เพื่อนรักฝึกอยู่
แต่ด้วยเพราะเสียงแว่วๆ ลอยขึนมาในหัวว่า ‘ลาเนียลูกสะใภ้ข้า เจ้าอย่าเที่ยวไปวิ่งเล่นในลานฝึกเพราะมันอันตราย ข้าเป็นห่วง’ ตามด้วยเสียงเข้มๆ สั่งอัศวินในระแวกนั้นว่า ‘เจ้าอย่าให้ว่าที่พระชายามาเล่นแถวนี้ มันอันตราย เข้าใจที่ข้าสั่งหรือไม่!!!?’ ส่งผลให้ร่างบางต้องยืนหลบมุมอยู่ที่เสาหินอ่อนต้นหนึ่ง สองตากวาดมองซ้ายขวาล่อกแล่กไม่ต่างจากหัวขโมย
ก่อนจะวิ่งปรู๊ดไปหลบอยู่หลังพุ่มไม้แล้วเดินลัดเลาะไปยังลานฝึกอย่างระมัดระวัง มองซ้ายมองขวา ทางสะดวก ไม่มีทหารยามและไม่มีอัศวินคนใดอยู่แถวนี้ เขารีบวิ่งดุ๊กๆ ไปหลบมุมที่ข้างกำแพงกั้นลานฝึก ตาสวยมองเข้าไป เห็นเพื่อนรักกำลังฝึกดาบอย่างเอาเป็นเอาตายกับอคิน อัศวินประจำกายของว่าที่สามีเขา
เชอะ!!!!
สามีบ้าอะไรล่ะ คอยดูเถอะ ข้าจะไม่ยอมตกเป็นเมียเจ้าแน่ แต่เป็นเจาที่ต้องตกเปนเมียข้า ฮ่าๆๆๆ
“หึหึหึ” ความคิดชั่วร้ายแล่นขึ้นสมอง พร้อมกับเสียงหัวเราะที่เจ้าตัวเผลอปล่อยออกมาอย่างเก็บกลั้นไว้ไม่อยู่
“เจ้ามายืนทำลับๆ ล่อๆ อะไรแถวนี้” เสียงทุ้มนุ่มลึกเอ่ยขึ้นอย่างเรียบสนิทจากทางด้านหลัง เล่นเอาคนทำตัวลับๆ ล่อๆ ถึงกับสะดุ้งเฮือกหันกลับมามองคนที่ทำให้ตกใจ
คนตรงหน้าเป็นชายหนุ่มร่างสูง ดูแข็งแรงกำยำ ใบหน้าหล่อเหลาหาที่ใดเปรียบ ผมสีดำยาวถึงกลางหลัง ผิวสีขาวซีด ดวงตาสีโลหิตจ้องเขานิ่งๆ แต่แฝงเอาไว้ด้วยความไม่ไว้วางใจ
“ข้าไม่ได้ทำอะไรลับๆ ล่อๆ สักหน่อย เจ้านั่นแหละ แอบย่องมาด้านหลังข้า ต้องการอะไร?” ร่างบางถามเสียงแข็ง ไม่พอใจที่อีกฝ่ายมาขัดจังหวะการแอบย่องมาเล่นสนุกของเขา
“ข้าไม่ต้องการอะไรจากเจ้า ตอบคำถามข้ามาก่อนที่คอของเจ้าจะไม่ได้ตั้งอยู่บนบ่าอีกต่อไป” ไม่ว่าเปล่า ดาบเล่มยาวสีเงินทอประกายแสงวิบวับยามต้องกับแสงของดวงอาทิตย์ก็ถูกยกขึ้นมาจ่อที่ลำคอระหง ร่างบางถึงกับเกร็งร่างก่อนที่เสียงใสจะตวาดขึ้นเมื่อรวบรวมสติได้
“เจ้าคิดว่าข้าเป็นใคร!!!!! กล้าทำกับข้าเช่นนี้ไม่อยากตายดีใช่มั้ย!!!!?” ว่าพลางก็ชักมีดสั้นที่ข้างเอว แต่ยังไม่ทันที่มันจะได้ออกจากฝัก ดาบคมก็ตวัดฉับผ่านลำคอระหง ดีที่ร่างบางหลบทัน ความโกรธแล่นริ้วขึ้นทันที ก่อนที่ริมฝีปากสวยจะร่ายเวทสร้างเกราะกันคมดาบที่ฟันมา
ลาเนียชักมีดสั้นออกมาเมื่อคมดาบของคนแปลกหน้ากระแทกบล็อกของตนจนเกิดรอยร้าว ไม่รู้ต้องใช่กำลังมหาศาลขนาดไหนคนตรงน้าถึงได้สร้างรอยร้าวให้กับบล็อกที่แข็งแกร่งของเขาได้
เพียงชั่วพริบตาที่มีดสั้นพ้นจากฝัก คนตรงหน้าก็หมุนตัวแล้วกระแทกฝีกดาบทะลุบล็กเข้ามาปะทะเข้ากับท้องของร่างเล็กอย่างจังโดยที่ไม่ทันตั้งตัว เล่นเอาร่างบางถึงกับทรุด มีดหลุดออกจากมือ สายตาได้แต่มองคมดาบวาววับที่เงื้อขึ้นสูงกำลังจะปลิดชีวิตเขา
“ฝ่าบาท!!!! อย่าพะย่ะค่ะ!!!!!” เสียงร้อนรนของอคินร้องขึ้นพร้อมๆ กับเสียงของโลหะปะทะกันจนเกิดประกายไฟ ก่อนที่มือแกร่งของเลวี่จะมาช่วบพยุงตัวเขาให้ยืนขึ้น อัศวินหลายคนต่างแห่มาเพราะได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย ซึ่งลาเนียคิดในใจว่าเจ้าพวกนี้มาชาชะมัด ต้อรอให้เขขาตายก่อนกระมังถึงจะได้ฤกษ์เสด็จ!!!
“อคิน..” เสียงเรียบเอ่ยขึ้น ก่อนที่ทั้งคู่จะเก็บดาบเข้าฝัก ตามด้วยร่างของอัศวินทั้งหมดจะคุกเข่าลงทำความเคารพ
“เจ้าขัดขวางข้าทำไม?” เมื่อทุกคนยืนขึ้น สายตานิ่งๆ ก็ปลายตามองอัศวินของตนอย่างขอคำตอบ ก็เจ้าเดกนี่มาทำลับๆ ล่อๆ ถ้าไม่ใช่ขโมยก็ต้องเป็นนักฆ่าแน่ๆ
“ประทานอภัยพะย่ะค่ะฝ่าบาท แต่ท่านผู้นี้คือพระคู่หมั้นของพระองค์ ท่านล่าเนียพะย่ะค่ะ!!” ทันทีที่คนสนิทกล่าวจบ นัยน์ตาสีโลหิตก็ตวัดไปมองคู่หมั้นตนเองตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ปลายเท้าจรดหัวด้วยสายตานั่งๆ ร่างบางกัดปากแน่น มือก็กุมท้องบอกให้รู้ว่ายังเจ็บ ที่หางตามีน้ำใสปริ่มๆ แม้จะฉายชัดว่ากำลังโกรธ
“ท่านลาเนีย นี่คือเจ้าชายดันทาเลี่ยนพะย่ะค่ะ” ทันทีที่อัศวินคนเก่งเอ่ยจบ ร่างบางก็แหวขึ้นเสียงดัง “ข้าจะฟ้องพระราชา!!!! พาข้าไปเลวี่!!” กล่าวจบก็ให้เพื่อนรักพาเดินออกไปจากที่ตรงนี้ ปล่อยให้คู่หมั้นคนสำคัญต้องมองตามนิ่งๆ แม้ในใจจะรู้สึกว่าต้องรับศึกหนักแน่ๆ
“เอ่อ ขอประทานอภัยที่กระหม่อมมิได้ไปรับพระองค์ ไม่คิดว่าจะทรงเสด็จมาถึงเร็วกว่ากำหนด” อคินเอ่ยแต่คนเป็นนายแค่พูดตัดบทเสียงเรียบ “ช่างเถอะ” แล้วเดินนำออกไป
“เจ็บมากรึเปล่า?” เลวี่ถามเพื่อนอย่างห่วงๆ แต่คนตัวเล็กกลับชักสีน้าแล้วว่า “ ไม่ลองมาโดนเองล่ะ โว๊ย ไอ้เจ้าชายนั่น บ้าๆๆๆๆ” ว่าจบก็ทุบหมอนตุบๆ อย่างคนโกรธจัด
“ท่าจะเจ็บหนัก”
“ฮึ่ม เลิกพูดเถอะ คนอะไรไม่รู้ แรงควายมาก เจ้าคิดดูสิ เขาใช้แรงที่สามารถทลายบล็อกของข้าได้กระแทกใส่ท้องข้าเต็มๆ ข้าว่าบางทีข้าควรจะตามหมอมาตรวจภายใน!!!” กล่าวจบก็ทุบปุลงบนหมอนอีกคราอย่างอดไม่ได้ นี่ถ้าเขาสร้างบล็อกอีกสองชั้นไม่ทัน เครื่องในเขาคงเละไม่เหลือชิ้นดีเป็นแน่!!
ไม่ได้การ! เขาต้องรีบไปฟ้องพระราชา!!!
“ไป เลวี่”
“ไปไหหน?”
“เข้าเฝ้าพระราชา!!!!!”
หลังจากที่ร่างบางตีหน้าเศร้าเล่าความจริงบวกเท็จหน่อยๆ จบ ไม่นานร่างสูงของเจ้าชายดันทาเลี่ยนก็ก้าวเข้ามาในห้องทรงงานขององค์ราชาที่มีเอกสารกองสูงท่วมหัวเนื่องด้วยถูกเรียกตัวเข้าเฝ้าอย่างกะทันหัน
เจ้าชายดันทาเลี่ยน มองผู้เป็นบิดาที่ทำหน้าบึ้งและใบหน้าสวยเจ้าของเรือนผมสีทองของคู่หมั้นที่ยกยิ้มชอบใจ เขาได้แต่ลอบถอนหายใจ เด็กนี่ขี้ฟ้องจริงๆ ถึงเขาจะเป็นคนทำให้อีกคนเจ็บแต่ร่างเล็กก็ผิดที่ไม่ยอมตอบเขามาตามจริง
“ดันทาเลี่ยน เจ้าคงรู้ว่าที่ข้าเรียกเจ้ามาเพราะสาเหตุอะไร ฮึ่ม เจ้าตีน้องทำไม? ฮึ? ถ้าเหตุผลของเจ้าไม่ดีพอ ข้าจะลงโทษเจ้าหนักๆ”
“ท่านพูดแบบนี้ได้ยังไง ถ้าเขาอ้างเหตุผลดีพอ ท่านก็จะไม่ลงโทษเขาหรือ จะให้ข้าเจ็บตัวฟรีหรือไง?” ร่างเล็กแหว พระราชายกยิ้มอ่อนโยนก่อนจะลูบผมสีทองของว่าที่ลูกสะใภ้อย่างรักใคร่เอ็นดู
“ใครบอก ต่อให้เหตุผลเขาดีแค่ไหน พ่อก็จะลงโทษเขาหนักๆ” กล่าวจบ ร่างเล็กก็ยกยิ้ม แล้วยักคิ้วให้คนฟังอีกคนที่ยังยืนนิ่ง
ไอ้บ้านี่เกิดมาจากอิฐจากปูนรึไง นิ่งตลอดอ่ะ!!
“ท่าพ่อจะถามเหตุผลข้าไปไย ในเมื่อข้าจะตอบอะไรไป ท่านก็ลงโทษข้าอยู่ดี” เสียงเรียบเอ่ยออกมา ทำเอาคนตัวเล็กหน้าบูดหน้าบึ้ง
“เจ้านี่นะ ข้าถามเจ้าก็ตอบมาเถอะน่า” คนเป็นราชาเอ่ย ก่อนที่น้ำเสียงเรียบๆ ของคนเป็นลูกจะเอ่ย
“ข้านึกว่าเขาเป็นโจรรึไม่ก็นักฆ่า” คำตอบเล่นเอาร่างบางถึงกับแหวลั่น
“โจรบ้านเจ้าสิ ตาของเจ้าเป็นตาตุ่มรึไงถึงมองเห็นข้าเป็นโจร!!! เจ้าคนไร้แวว!!!”
“เจ้าก็ไม่เห็นจะมองข้าว่าเป็นเจ้าชายเลยสักนิด เช่นนั้นตาเจ้าก็ไร้แวว” เสียงเรียบเอ่ยออกมา แต่มุมปากกลับยกยิ้มเล็กๆ กับการแกล้งให้ร่างบางโมโห
“รังสีเจ้าชายของเจ้ามันไม่ออกต่างหาก!!”
“ว่าแต่ข้า เจ้าเองก็ผิดที่ไปยืนทำตัวลับๆ ล่อๆ แถวลานฝึกไม่ใช่รึ?”
“อุ้ย!” ร่างเล็กอุทานพร้อมๆ กับสะดุ้งหน่อยๆ ตาสวยแอบเหล่มองพระราชาที่นั่งอย่างขวามือ ก่อนกลืนน้ำลายลงคอ พระราชาห้ามเขาไปเล่นแถวนั้น ไอ้บ้าปากไม่ดี!!!
“ขะ ข้าแค่หลงเข้าไป เจ้านั้นแหละ ไปถึงไม่พูดไม่จาจะเอาดาบฟันคอข้าเกือบขาด แถมยังกระแทกท้องข้า!! เจ้าต้องรับผิดชอบ!!!” ร่างบางแถก่อนเปลี่ยนเรื่อง
“ข้าก็กำลังจะแต่งงานกับเจ้าอยู่นี่ไง ข้าไม่รับผิดชอบเจ้าตรงไหน?” คนฟังอ้าปากค้าง
“ข้าไม่แต่งกับเจ้า ท่านจ้าว ข้าไม่แต่งกับเขา ท่านไม่มีลูกสาวเหรอ? ข้าไม่แต่งกับคนพรรค์นี้หรอก เขาทำร้ายข้าไม่ขอโทษข้าแล้วยังหาว่าข้าผิด จะแต่งงานกับข้ามันรับผิดชอบตรงไหนกัน!!!” ร่างเล็กโอดครวญส่งให้เจ้าชายลอบยิ้มในใจ
เจ้าสะกิดใจท่านพ่อแล้วเด็กน้อย...
ร่างสูงคิด ก่อนมองสีหน้าของราชาปีศาจที่หมองลงอย่างเห็นได้ชัด ร่างเล็กกระพริบตาปริบๆ มองสีหน้าเศร้าสร้อยของผู้เป็นราชา
“ข้าเคยมี...” เสียงแหบแห้งเอ่ยออกมาอย่างยากลำลำบาก
“หมายความว่ายังไง?” ร่างเล็กแม้จะเสียใจที่พูดกระทบจิตใจอีกฝ่ายแต่ก็ยังไม่วายอยากรู้จึงได้เอ่ยถามออกไป
“เจ้าเลิกถามเถอะ เจ้าต้องการอะไรจากข้าก็ว่ามา” เสียงเรียบของว่าที่สามีเอ่ยอย่างตัดรำราญ เพราะพูดถึงน้องสาวคนเล็กที่หายตัวไปทีไร คนเป็นพ่อมักจะทำหน้าซึมเศร้าหงอยเหงาลงทันตาเห็น
“เหอะ ไม่ต้องเร่งข้าหรอก ถ้าอยากถูกลงโทษนักข้าก็จัดให้ อย่างแรกเจ้าต้องขอโทษข้ามาก่อน!!!” ร่างเล็กกอดอกพูดอย่างคนเหนือกว่า
“ข้าขอโทษเจ้า” เสียงนิ่งเอ่ยออกมาแบบไม่ต้องคิด เล่นเอาร่างบางที่หวังจะได้เห็นสีหน้าลำบากใจของอีกฝ่ายต้องผิดหวังเม้มริมฝีปากแน่น
ไอ้บ้านั่นมันไม่รู้สึกเจ็บใจบ้างรึไงวะ!!!?
ฮึ่ม
“ข้าไม่ได้ยิน!” เอาดิ๊ เขาจะแกล้งเจ้าให้หนักๆ เลยคอยดู!!
“ข้าขอโทษเจ้า” เจ้าชายคนสำคัญก็ยังคงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบสนิทดังเดิม เพราะเขาเป็นคนไม่ชอบใช้น้ำเสียงให้ฟุ่มเฟ้อแต่อีกใจหนึ่งก็หวังจะแกล้งคนตัวเล็กให้โมโห
“เจ้า!!! ฮึ่ม เส้นเสียงเจ้ามีโทนเดียวรึไง?” ร่างเล็กว่าอย่างคนกำลังโมโห แต่คนถูกว่าหาได้สนใจไม่ เขาแค่กว่าว่า “จะว่าอย่างนั้นก็ได้ มีแค่นี้ใช่มั้ย ข้าไปล่ะ ท่านพ่อข้าทูลลา” ว่าแล้วก็หันหลังเดินจากไปทิ้งให้ลาเนียอ้าปากค้าง ก่อนหันไปมองว่าทีสามีที่ยังไม่เลิกซึมเศร้า
โอ๊ยยยย!!!!!!!!!!
ข้าอยากจะบ้า!!!
ท่านจ้าวช่วยอะไรข้าไม่ได้เลย!!!
ฮึ่ม!!!!
“ฮึ่ม ท่านนี่ไร้ประโยชน์ ข้าไปแล้ว!!” ว่าจบอย่างอารมณ์เสียแล้วเดินกระทืบเท้าปึงปังออกไป ทิ้งให้ท่าจ้าวปีศาจที่ออกจากภวังค์มองตาปริบๆ ก่อนอุทานว่า
“อ้าว!”
*****************************************
To be continued
Next Episode 3 เตรียมตัว
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ