ลิขิตโลกา - One World

8.0

เขียนโดย CatMoNo

วันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 11.20 น.

  13 บท
  2 วิจารณ์
  13.78K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 23.36 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

9) ตอนพิเศษ รินรดา นวนิต

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
ตอนพิเศษรินรดา นวนิต
 
          ย้อนกลับไปเมื่อ 8 ปีที่ผ่านมา ก่อนที่ฉันจะได้รู้จักกับเอก และโทยะ ฉันตามคุณพ่อคุณแม่มาที่ทำงานเป็นครั้งแรก ฉันไม่รู้หรอกคะ ว่าที่นี่เรียกว่าที่ไหน แค่รู้ว่าเป็นที่ทำงานของคุณพ่ออีกที่หนึ่งนอกจากการเดินทางไปตรวจการทำงานของโรงแรมที่เป็นสาขาในตระกูลเรา บนอาคารแห่งนี้มีตราของสภาโลกติดอยู่ที่ตัวตึกด้วย
 
          วันนี้เป็นวันพิเศษของครอบครัวเราเลยแหละ ก็เพราะว่าเป็นวันเกิดครบรอบ 15 ปีของฉันไงล่ะ คุณพ่อและคุณแม่เลยจะพาฉันไปเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันเกิดที่สวนสนุกในตอนบ่ายของวันนี้ค่ะ แต่ทันทีที่มาถึงที่ทำงาน คุณพ่อก็บังเอินพบเพื่อนของท่านทั้ง 2 คน คือน้าเคียวยะ และน้าไพรวัลย์
 
          " สวัสดีค่ะ น้าเคียวยะ น้าไพรวัลย์ " ฉันกล่าวทักทายผู้ใหญ่ทั้งสองคน ตามที่คุณแม่สะกิดบอก
 
          " สวัสดีจ๊ะหนูริน โตเป็นสาวแล้วนะเรา น้าขอจองหนูรินไว้ให้ลูกของน้าได้รึเปล่าเนี้ย " น้าเคียวยะพูดเสร็จก็หัวเราะร่า คำพูดนั้นดูเหมือนจะเป็นคำพูดหยอกเล่นของพวกผู้ใหญ่เสียมากกว่า เพราะพ่อของฉันก็หัวเราะไปกับเค้าด้วยอีกคน
 
          " โอ้ย....นี่ถ้าลูกแกจะเอานะ ฉันคงเบาใจกว่านี้เยอะแหละ ยัยรินเนี้ย ซนอย่างกับลิง เห็นเรียบร้อยแบบนี้ก็เพราะมีแม่มาด้วยหรอก " ไม่ทันไร คุณพ่อสุดที่รักของฉันก็เริ่มปฏิบัติการเผาลูกสาวให้เพื่อนฟังแบบต่อหน้าต่อตาฉันทันที
 
          " ว้า.....เจ้าเคียวยะจองซะแล้ว แบบนี้ฉันคงต้องรีบไปบอกเจ้าเอกลูกฉันให้ทำใจซะตั้งแต่ตอนนี้เลยดีมั้ยเนี้ย " น้าไพรวัลย์แซวฉันเพิ่มไปด้วยอีกคน
 
          จากนั้นเหมือนว่าพวกผู้ใหญ่จะคุยกันเรื่องงานของสภาโลกต่อ ฉันนั่งฟังได้ซักพักก็รู้สึกเบื่อ ๆ เลยขอตัวคุณแม่ไปเดินเที่ยวดูรอบ ๆ ซึ่งคุณแม่ก็อนุญาต แถมน้าเคียวยะ กับน้าไพรวัลย์ บอกให้ไปเล่นกับลูก ๆ ของพวกแกที่สนามหญ้าด้านข้างก่อน จะได้รู้จักกันไว้
 
          ฉันเดินดูการทำงานของเจ้าหน้าที่สภาโลกไปด้วยระหว่างที่เดินไปที่สนามหญ้า แล้วฉันก็เห็นผู้ชายสองคนที่น่าจะอายุพอ ๆ กับฉัน กำลังเล่นขว้างลูกเบสบอลให้กันอยู่ จากนั้นเขาทั้งสองคนก็มองมาที่ฉัน ทำให้ฉันเกิดอาการประหม่าขึ้นมานิด ๆ
 
          " เห้ยเอก.....มีเด็กคนอื่นนอกจากเราด้วยแหะ ชวนมาเล่นด้วยกันดีมะ "
 
          " เอาสิ....ฉันก็เล่นกับแกจนเบื่อแล้วเนี้ยโทยะ "
 
          ฉันเดิน ๆ หยุด ๆ อย่างกล้า ๆ กลัว ๆ เพราะไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวยังไงดีกับเพศตรงข้าม ปกติฉันไม่ค่อยมีเพื่อนกับเค้าด้วยสิ เพราะต้องตามคุณพ่อคุณแม่เดินทางไปตรวจดูงานโรงแรมของตระกูลบ่อย ๆ ทำให้ไม่ค่อยมีสังคมเหมือนคนอื่นนัก
 
         ชายทั้งสองเดินมา พร้อมกับยิ้มกว้าง น่าแปลกที่พอฉันเห็นรอยยิ้มของทั้งสองคนแล้วทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่น หายประหม่าได้อย่างน่าประหลาดใจ
 
          " เธอมาเล่นรับลูกเบสบอลกับพวกเรามั้ย เล่นกันสองคนแบบนี้มันเซ็งอะ " ชายคนที่มีผมสีทอง ดวงตาสีน้ำตาล ลักษณะเป็นคนร่าเริงอยู่เสมอ โดยสังเกตได้จากรอยยิ้มทะเล้น ๆ เหมือนป้ายยี่ห้อของเขาพูดขึ้นมาเมื่อยืนต่อหน้าฉัน
 
          " เห้ยโทยะ.....ปกติเค้าต้องแนะนำตัวก่อนสิ นายเนี้ยน้า " ชายอีกคนที่เดินมาทีหลังบ่นออกมาเบา ๆ เขามีผมสีดำเหมือน ๆ กับสีของดวงตา ลักษณะของเขาดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าคนที่เรียกว่าโทยะซะอีก แต่ถึงแม้จะพูดบ่น ๆ แบบนั้น เขาก็ยังมีรอยยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปาก ซึ่งมันทำให้เขาดูเปล่งประกายพอ ๆ กับชายที่ชื่อโทยะ
 
          " เออจริง....โทษทีรีบไปหน่อย แหะ ๆ ถ้าอย่างนั้นก็........สวัสดีนะขอรับคุณผู้หญิง กระผมนั้นมีนามว่าฮิบาริ  โทมิยะ จะเรียกว่าโทยะก็ได้ขอรับ และไอ้หนุ่มที่ทำหน้าเบื่อ ๆ อยู่ข้างผมนี่ก็ชื่อ.." โทยะพูดแนะนำตัวขึ้่นมา (อย่างเป็นทางการไปมั้ยคะ?) แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบก็ถูกชายอีกคนเบรกเสียก่อน
 
          "พอเลยโทยะ เล่นตลอดเลยนะนายเนี้ย.........อ่า....สวัสดีนะ เราชื่อเอกราช จะเรียกว่า เอก ก็ได้เพราะอายุเราน่าจะพอ ๆ กัน........คือว่า พ่อของพวกเราทั้งสองคนทำงานอยู่ที่นี่แหละ เธอชื่ออะไรเหรอ? " ชายที่ชื่อเอก แนะนำตัว และถามฉันทันทีที่เขาพูดจบ
 
          " สะ....สวัสดีคะ  ฉันชื่อรินรดา คุณพ่อกับคุณแม่ก็ทำงานที่นี่เหมือนกัน ยะ...ยินดีที่ได้รู้จักคะ " ฉันแนะนำตัวแบบประหม่านิด ๆ แต่หลังจากที่เราได้พูดคุย และเล่นขว้างลูกเบสบอลกันไม่นาน ฉันก็พบว่าเราทั้งสามคนกลายเป็นเพื่อนกันไปซะแล้ว น่าแปลกที่เราสามารถสนิทกันได้ ภายในเวลาแค่ไม่กี่นาที
 
          " อ้าวเห้ยเอก ไหงขว้างบอลไปไกลซะแบบนั้นล่ะ แบบนี้ใครมันจะไปรับได้กันห๊ะ " โทยะวิ่งตามลูกเบสบอลที่ลอยสูงไปเกินกว่าจุดที่เขายืนอยู่ ลูกเบสบอลมันลอยเข้าไปตกในริมป่าด้านข้าง
 
          " โทษที ๆ พอดีมันหลุดมือน่ะ เดี๋ยวฉันไปเก็บเอง " เอกพูดพลางวิ่งตามโทยะไป ก็ในเมื่อทั้งสองคนไปกันหมด ฉันเลยวิ่งตามไปด้วย
 
          " หาลูกเบสบอลไม่เจออะ มาช่วยกันหาหน่อยสิ " โทยะตะโกนบอก หลังจากที่เขาก้ม ๆ เงย ๆ มองดูในจุดที่คิดว่าลูกบอลตกลงมา แต่ฉันว่ามันไม่ได้ตกอยู่แถว ๆ นี่หรอก ฉันเลยเดินห่างออกมาเพื่อหาอีกจุด
 
          " อะคึ  อะคึ  อะคึ เจอเด็กผู้หญิงด้วยล่ะ ฮี่ ๆ ๆ ๆ " เสียงดังออกมาจากพุ่มไม้ข้างหน้าฉัน ทำให้ฉันตกใจจนเผลอหกล้มทันทีที่ได้ยินเสียง จากนั้นก็มีระยางคล้าย ๆ หนวดปลาหมึกแหวกพุ่มไม้ออกมาคว้าข้อเท้าของฉันไว้ และดึงฉันเข้าไปข้างใน " มามะ เรามาเล่นสนุกกันดีกว่านะจ๊ะ สาวน้อย อะคึ อะคึ อะคึ....."
 
          " กรี๊ด!!............. โทยะ เอก ช่วยด้วยยยยย......... " ฉันหวีดร้องออกมาสุดเสียงก่อนที่หนวดปลาหมึกนั้นมันจะเลื้อยมาปิดปากฉันไว้ ฉันมองเห็นใบหน้าของชายแก่ ๆ คนหนึ่ง ที่มีร่างกายเป็นสายระยางของหนวดปลาหมึกอยู่เต็มตัว มันขยับไป ๆ มา ๆ อยู่รอบกายของเขา น้ำตาฉันไหลออกมาพร้อม ๆ กับตัวที่กำลังสั่นด้วยความกลัว
 
          " เห้ย....ตัวอะไร!! แกปล่อยรินเดี๋ยวนี้นะ " เอก คว้าท่อนไม้วิ่งมาฟาดหนวดปลาหมึกให้ปล่อยตัวฉัน ส่วนโทยะ หยิบก้อนหินก้อนใหญ่ขว้างเข้าใส่ใบหน้าชายแก่ที่ฉันคิดว่าเป็นอสูรกาย จนเกิดเสียงดังเหมือนก้อนหินแตก
 
          " ยี้.......เด็กผู้ชาย ข้าไม่ชอบ ออกไป ๆ ๆ " ใบหน้าของชายแก่พูดขึ้นมา มันใช้ระยางบนตัวบังหน้ามันไว้ส่วนหนึ่งทำให้ก้อนหินไม่โดน และยังใช้หนวดปลาหมึกที่เหลือเหวี่ยงตีโทยะ และเอกให้กระเด็นออกไป แล้วหันหน้ามามองฉันด้วยแววตาที่น่ากลัว
 
          " มามะ แม่สาวน้อยของฉัน เรามาสนุกกันดีกว่า อะคึ อะคึ อะคึ "
 
          จู่ ๆ หนวดปลาหมึกก็เลื้อยมาพันรอบขารอบแขนฉัน มันยกฉันลอยค้างอยู่บนอากาศข้างหน้าของมัน จากนั้นก็ดึงขาฉันแยกออก แล้วเลื้อยหนวดปลาหมึกเข้ามาในกระโปรงเรื่อย ๆ จนถึงโคนขาอ่อน ฉันดิ้นสุดแรงไปพร้อม ๆ กับร้องไห้ด้วยความกลัว แต่ไม่สามารถออกเสียงได้เพราะปากถูกปิดไว้อยู่
 
          " หยุดเดี๋ยวนี้!!!! " เสียงตะโกนดังขึ้นมาจากปากของเอก เป็นเสียงที่ดังก้องสะท้อนไปทั่วทั้งป่า เอกค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนหลังจากโดนซัดปลิวไป ชายแก่ในร่างปลาหมึกหยุดทันทีเหมือนกับถูกสั่ง มันมองไปที่เอก พร้อมกับจ้องตาค้าง
 

          อากาศรอบ ๆ ตัวเอกตอนนี้เหมือนกำลังถูกบิดไปบิดมา ทำให้ภาพรอบ ๆ ตัวดูพร่ามัว คล้าย ๆ กับมิติถูกบิดจนเบี้ยว โทยะ ที่ยื่นอยู่ไม่ห่างจากเอก รีบถอยออกมา พร้อมกับบ่น " เอาแล้วไง.......เจ้าเอกของขึ้นอีกแล้ว....." จากนั้นโทยะก็ค้นกระเป๋ากางเกง และหยิบขวดสเปรย์เล็ก ๆ ออกมาถือ
 
          เอกเงยหน้าขึ้นมามองชายแก่ปลาหมึก จากนั้นก็ยิ้มเหยียดอย่างหน้ากลัว แล้วพูดออกมาเบา ๆ ว่า [ ตายซะ ]
 
          ทันทีที่เอกพูดจบ หนวดปลาหมึกที่พันร่างของฉันถูกตัดออกด้วยอะไรซักอย่างที่ฉันมองเห็นเพียงเงาราง ๆ เหมือนมีมีดล่องหนบินไปมาด้วยความเร็วสูง พร้อม ๆ กับเฉือนชิ้นส่วนร่างกายของชายแก่ปลาหมึกไปด้วย
 
          " อ๊าก....นี่มัน....อะไรกัน....แก่ทำได้ยังไง......โอ็ย..... " มันร้องออกมาอย่างเสียงดัง แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่สามารถหลบไปไหนได้ ร่างของมันถูกเฉือนตัดแบ่งออกเป็นชิ้นส่วนเล็ก ๆ ไปอย่างรวดเร็ว จนเหลือเพียงกองเนื้อและเลือดที่กระจายเต็มไปหมด
 
          ฉัน ที่ยังอยู่ในอาการตกใจกลัวจนไม่สามารถขยับได้ มองภาพที่เกิดขึ้นข้างหน้าด้วยร่างกายที่สั่นสะท้าน จากนั้น เอกก็มองมาที่ฉันด้วยสายตาที่ดูว่างเปล่า
 
          แต่ก่อนที่จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป โทยะรีบกระโดดมาหาเอก แล้วกดพ่นสเปรย์ในมือไปที่หน้าของเขา ทำให้สายตาของเอกมีอาการเหมือนคนเมา จากนั้นเอกก็สลบไปในทันที
 
          พวกผู้ใหญ่ต่างก็รีบลงมาดูเหตุการณ์ คุณพ่อคุณแม่ของเราทั้งสามคน ต่างพาเราไปนั่งพักในห้องทำงานของพวกเขา และให้โทยะเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง เพราะฉันยังอยู่ในอาการตกใจกลัวอยู่ ส่วนเอกก็ยังไม่ฟื้น
 
          พอคุณน้าเคียวยะ (พ่อของโทยะ) ได้ฟังเหตุการณ์ ก็พูดปรึกษากับคุณน้าไพรวัลย์ (พ่อของเอก) และคุณพ่อคุณแม่ของฉัน
 
          " เป็นไปได้มั้ยว่านี่เป็นฝีมือของพวกสมุนเงา ที่ออกตามล่าเด็กที่น่าจะมีพรสวรรค์ "
 
          " ไม่ผิดแน่นอน เจ้าตัวที่ลงมือ มันมีลักษณะเหมือนกับที่เกิดขึ้นในทวีปอเมริกาตามที่เราคุยกันเมื้อกี้แหละ แบบนี้ก็แสดงว่ายังมีอีกหลายตัวแน่นอน " พ่อของเอกพูดขึ้นมา ฉันได้ยินก็ยิ่งเกิดอาการกลัวเข้าไปใหญ่ นี่หมายถึงยังมีตัวแบบนี้อีกหลายตัวเลยอย่างงั้นเหรอ ไม่จริงนะ...........
 
          " พอจะเดาเป้าหมายของพวกมันได้รึเปล่า ว่าเพราะอะไรพวกมันถึงจ้องเล่นงานแค่เฉพาะเด็ก " พ่อของฉันถามน้าเคียวเฮ
 
          " จากข้อมูลตรวจสอบ ส่วนใหญ่เด็กที่ถูกจู่โจม จะเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์ทั้งนั้น เหตุการณ์ในครั้งนี้ แสดงว่า ลูกของพวกเราทั้ง 3 คนน่าจะมีพรสวรรค์แน่นอน "
 
          พวกผู้ใหญ่ก็คุยกันต่อเกี่ยวกับวิธีป้องกันพวกเราให้ปลอดภัยในอนาคต พอดีกับที่โทยะเดินออกจากห้องไป ฉันเลยตามเขามาด้วย
 
          " เอกฟื้นแล้วนะ หมอนั้นมันถามถึงเธอด้วยแหนะว่าปลอดภัยดีรึเปล่า " โทยะพูดแล้วหันมายิ้มอย่างอบอุ่นให้ฉัน
 
          " อื่ม.....แล้วเธอล่ะโทยะ บาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า ฉันขอบคุณเธอทั้งสองคนมากนะ ที่มาช่วยฉัน ถ้าไม่ได้เธอทั้งสองคน ฉันคง............. "
 
          หมับ.....มือของโทยะ วางลงบนหัวฉันเบา ๆ " ไม่เอาน่า เรื่องมันผ่านมาแล้ว เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ อย่าพูดขอบคุณอะไรเลย ไปเยี่ยมเจ้าเอก ด้วยกันดีกว่า "
 
          ความหวาดกลัวในใจฉันค่อย ๆ จางหายไปพร้อม ๆ กับคำพูดที่โทยะบอกกับฉัน ฉันยิ้มขึ้นมาอย่างมีความสุขให้โทยะ พอดีกับที่สายตาของฉันที่เห็นโทยะถือสเปรย์อยู่ในมืออีกข้าง
 
          " โทยะ สเปรย์ที่เธอพ่นใส่เอก เป็นยาสลบเหรอ ฉันเห็นว่าพอเอกโดนสเปรย์ ก็มีอาการเหมือนเมา ๆ แล้วก็สลบไปซะอย่างนั้นน่ะ "
 
          " อ้อ.......สเปรย์นั้นไม่ใช่ยาอะหรอก ก็แค่น้ำธรรมดาผสมกับต้นตำแยแมว หรือต้นแคทนิป ที่เอาไปปั่นละเอียด แค่นั้นแหละ ไม่ได้อันตรายหรอก.......หมายถึงกับคนน่ะนะ " โทยะพูดอย่างขำ ๆ แล้วเราก็มาถึงห้องรับรองพอดี
 
          " เอก เธอเป็นยังไงบ้าง เจ็บตรงไหนบ้างรึเปล่า " ฉัน และโทยะ เดินเข้าไปหาเอกที่กำลังลุกขึ้นจากโซฟา
 
          " อ่า......ไม่เป็นอะไรหรอก แค่รู้สึกสติมันเคลิ้ม ๆ อยุ่นิดหน่อยเท่านั้นแหละ " เอก พูดตอบมาในสภาพที่เห็นได้ชัดว่ากำลังเบลอ ๆ
 
          " พอดีฉันฉีดไอ่นี้ใส่นายน่ะ ซักพักก็หายแล้วแหละ แหะ ๆ " โทยะ ยกขวดสเปรย์มาให้เอกเห็น ทำให้ฉันแปลกใจว่าทำไมเอก ถึงถอยหนีไปไกลขนาดนั้น
 
          จากนั้นฉันถึงได้รู้ว่า เอก มีจุดอ่อนเหมือนกับแมวเปี้ยบ คือแพ้กลิ่นของต้นแคทนิป ทุกครั้งที่ได้กลิ่นจะมีอาการเคลิ้ม ๆ และหากถูกพ่นใส่หน้าก็จะทำให้สลบได้เลย และพอฉันรู้ ฉันก็อดขำไม่ได้ ทำให้โทยะหัวเราะไปด้วยอีกคน แต่กับเอก คงขำไม่ออกเพราะถอยหนีไปติดมุมห้องแล้ว
 
          คุณพ่อและคุณแม่ พร้อมกับน้าเคียวเฮ น้าไพรวัลย์ ก็เดินเข้าห้องมา บอกกับฉันว่าจะส่งให้ฉันไปทดสอบพรสวรรค์กับทางสภาโลก ซึ่งมีวิทยาการในการตรวจพรสวรรค์ที่ปลอดภัย ไม่มีความเสี่ยงเหมือนกับการดึงพรสวรรค์โดยใช้ชีวิตเข้าแลก แบบที่คนส่วนใหญ่ทำกัน
 
          ทั้งฉัน เอก และโทยะ ได้คุยกันอีกนิดหน่อย ก่อนที่ฉันจะกลับบ้านพร้อมกับคุณพ่อคุณแม่ และเพราะเกิดเหตุร้ายขึ้นมาแบบนี้ ทริปการเที่ยวสวนสนุกในวันเกิดของฉันก็ถูกเลื่อนไปทันที
 
          " ไม่เป็นไรนะจ๊ะริน เดี๋ยวแม่กับพ่อค่อยพารินไปเที่ยวทีหลังเนอะ " คุณแม่พูดปลอบฉันพร้อมกับดึงฉันมากอดแนบอก
 
          " ไม่เป็นไรค่ะคุณแม่ ถึงจะไม่ได้เที่ยวตามที่หวังไว้ แต่วันเกิดของหนูปีนี้ หนูได้เพื่อนที่ดีตั้งสองคนเลยนะคะ เป็นของขวัญที่วิเศษรองจากคุณพ่อและคุณแม่เลยล่ะค่ะ "
 
          ฉันพูดแล้วหันไปยิ้มให้กับท่านทั้งสอง ซึ่งกำลังยิ้มอย่างมีความสุขเพราะคำพูดของฉันเหมือนกัน
 
-------------------------------------------------------------------

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา