ลิขิตโลกา - One World

8.0

เขียนโดย CatMoNo

วันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 11.20 น.

  13 บท
  2 วิจารณ์
  13.77K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 23.36 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

8) หิมะสีเลือด

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
บทที่ 7 หิมะสีเลือด
 
          ทันทีที่ฉันเห็นเอกปลิวไป ฉันก็พอเดาได้ทันทีว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวฉัน เจ้าอสูรกายทั้ง 2 ตัวนั้นต้องเข้ามาโจมตีฉันต่อแน่นอน ฉันเสี่ยงดวงกระโดดไปด้านตรงข้ามกับเอกอย่างรวดเร็ว
 
          ยังดี ที่ฉันเดาไม่ผิด เจ้าอสูรกายโจมตีฉันโดยหวังให้กระเด็นไปคนละทิศกับเอก เพราะเหตุนี้ แม้ว่าจะโดนฝาดปลิวออกไปก็ตาม แต่ส่วนหนึ่งเป็นเพราะฉันผ่อนแรงกระแทกถูกทิศทาง เลยไม่ค่อยบาดเจ็บอะไรนัก......แต่เอาจริง ๆ ก็จุกแหล่ะค่ะ ดันโดนฝาดเข้าที่ท้องพอดีเลย
 
          กับอสูรกายแบบนี้ ฉันแพ้ทางพวกมันจริง ๆ เป็นเพราะความกลัวที่มันอยู่เหนือร่างกาย ทำให้ไม่สามารถต่อสู้ได้เหมือนตอนที่สู้กับคน ฉันอยากจะลุกขึ้นสู้อยู่เหมือนกันนะ ทั้งเพื่อตัวเองและเพื่อช่วยเอก แต่ว่าตอนนี้ จะขยับตัวยังไม่ไหวเลยเนี้ยสิ ได้แต่นอนกุมท้องหายใจไม่ออก พร้อมกับมองเห็นเจ้าอสูรกายเดินเข้ามาหา และอ้าปากกว้าง อา.....ตกลงนี่มันกำลังจะกินฉันสินะ ดูจากเขี้ยวในปากมันแล้วต้องเจ็บมาก ๆ แน่ ๆ เลย.........ขยับสิร่างกายฉัน อย่างน้อยก่อนตายได้ตบมันซักครั้งก็ยังดี
 
          แต่แล้วจู่ ๆ มันก็หยุด เจ้าอสูรกายทั้งสองตัวต่างหันมองไปที่เอก นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันนะ....ฉันเห็นเอกแขนบิดผิดรูป เขาแขนหักไปแล้วงั้นเหรอ? แถมรอยเลือดไหลออกจากหูอีก การโจมตีครั้งแรกของอสูรกายทำให้เอกบาดเจ็บมากสินะ แต่........ทำไมเอกยื่นขึ้นได้เหมือนไม่เจ็บปวดอะไรเลยล่ะ หรือว่าเอกจะคลั่งขึ้นมาเหมือนกับในเหตุการณ์วันนั้น
 
          " โฮก....... " อสูรกายทั้งสองตัววิ่งเข้าหาเอก ตอนนี้เหมือนว่าเอกจะพูดอะไรซักอย่าง แต่ฉันไม่ได้ยินเพราะปลิวมาไกล สิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้น ทำให้ฉันมั่นใจได้ทันทีว่า เอกกำลังคลั่งเหมือนกับวันที่ฉันโดนอสูรกายทำร้าย วันที่ฉันอายุได้ 15 ปี ซึ่งมันก็เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ฉันหวาดกลัวอสูรกายมาจนถึงทุกวันนี้
 
          แต่ตอนนี้ฉันลืมความกลัวที่มีต่ออสูรกายไปในทันที เพราะสิ่งที่เอกเป็นอยู่มันกระตุ้นให้ฉันรีบค้นหาของในกระเป๋าใบเล็ก ๆ ที่ติดอยู่ตรงเอวทุกครั้ง แต่......ครั้งนี้มันไม่มี กระเป๋าฉันหายไป ดูเหมือนว่าตอนโดนโจมตีเมื่อกี้ มันจะทำให้กระเป๋าฉันขาดและกระเด็นไปตกอยู่ที่ไหนแล้วก็ไม่รู้
 
          "คว้าก....." เสียงเหมือนอะไรถูกฉีกออกจากกันหลาย ๆ ครั้ง ฉันไม่กล้าแม้จะเงยหน้าขึ้นมองว่าเกิดอะไรขึ้น จากนั้นอีกไม่นาน ฉันก็ได้ยินเสียงเหมือนกับก้อนอะไรซักอย่างตกกระทบพื้นติดต่อกัน "ตุ๊บ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ"
 
          นานนับนาทีที่ฉันนอนก้มหน้ามองพื้น แล้วเสียงดังกล่าวก็หายไป ฉันค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมอง และพูดออกมาเบา ๆ เหมือนกับพูดอยู่กับตัวเองว่า " เอก.........เธอยังจำฉันได้ใช่มั้ย? "
 
          บัดนี้อสูรกายทั้ง 2 ตัวได้หายไปแล้ว และแน่นอนว่ามันทั้งสองตัวได้กลายเป็นเศษเนื้อ ด้วยฝีมือของเพื่อนเธอ ที่กำลังยืนนิ่งอยู่กลางกองเลือดและเศษเนื้อที่กระจัดกระจายรอบบริเวณแขนซ้ายของเอก กลับมาเป็นเหมือนปกติ เท่าที่ฉันเห็น เอกไม่มีอาการบาดเจ็บใด ๆ คงเหลืออยู่อีก เพียงแต่ตอนนี้ร่างกายของเอกเต็มไปด้วยเลือดสีแดงสด คล้ายคนที่ลงไปจุ่มบ่อเลือดมาอย่างนั้น
 
          เอก หันมามองที่ฉัน พร้อมกับทำสีหน้าเบื่อ ๆ อีกครั้ง แล้วก้าวเดินมาหาฉันอย่างช้า ๆ แต่ทันใดนั้นเอง เอก ก็ล้มลงไปพร้อมกับสีหน้าที่แสดงออกถึงความตกใจ และความอึดอัดเหมือนหายใจไม่ออก
 
          " เหอะ.....แกขวางวิถีที่มันควรจะเป็นไปได้ไม่นานหรอก " เอกพูดขึ้นมา แม้ว่าเสียงจะไม่ดังนัก แต่ในครั้งนี้ฉันได้ยินอย่างชัดเจน กระนั้นฉันก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าคำพูดนี้มันมีความหมายว่าอะไร
 
          " พลัก...... " เอกล้มลงไปนอนกับพื้นทันทีที่พูดจบ ฉันต้องรอซักพักกว่าจะค่อย ๆ ลุกขึ้นมายืนได้ เพราะอาการจุกมันทุเลาลงแล้ว จากนั้นฉันก็เดินเข้าไปหาเอก เพื่อดูว่าเพื่อนของฉันหายจากอาการคลั่งนั้นรึยัง แต่สิ่งที่ฉันเห็น กลับทำให้ฉันเกือบจะคลั่งซะเอง
 
          ฉันค้นหาโทรศัพท์ของเอกได้ไม่ยากเท่าไหร รู้สึกดีอยู่บ้างที่มันไม่เปื้อนเลือด ฉันกดโทรศัพท์หาเจ้าโทยะทันที เพื่อขอความช่วยเหลือ
 
          " ว่าไงเอก โทรมามีอะไรด่วนรึไงห่ะ " เสียงโทยะรับสายพร้อมกับการพูดแหย่แบบขำ ๆ
 
          " ไม่ตลกนะโทยะ รีบมารับฉันกับเอกด่วนเลย เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นกับเอกแล้ว "
 
          " ห่ะ....นั้นรินเหรอ ไหงเอามือถือเอกโทรมาล่ะ แต่ว่าเมื่อกี้ว่าไงนะ ไอ้เอกมันเป็นอะไร แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหน ฉันจะรีบไปด่วนเลย "
 
          " ฉันกับเอกอยู่ในป่า ใกล้ ๆ กับศูนย์วิจัย เช็คสัญญาณสถานที่ตามมือถือของเอกก็แล้วกัน รีบมานะ เรื่องอื่นค่อยเล่าให้ฟังทีหลัง............เออ......เอาถังน้ำใหญ่ ๆ เติมน้ำให้เต็มมาด้วยซัก 2 - 3 ถังนะ เพราะไปสภาพนี้คงไม่เหมาะ "
 
          " โอเค ฉันได้สถานที่มาแล้ว จะรีบไปทันที ตกลงถังน้ำน่ะเอาจริงเหรอ จะเอาไปทำไมห่ะ "
 
          " บอกว่าอย่าพึ่งถาม รีบมาด่วน อ๊ะ จริงด้วยสิ....มีอีกอย่างนะโทยะ.....คือ......เอาเสื้อผ้าเด็กผู้หญิง....น่าจะซักม.ปลาย มาด้วยนะ เผื่อไว้น่ะ "
 
          " อะไรกันฟะยัยริน ยิ่งฟังยิ่งงง ตกลงแค่นี้ใช่มั้ย ฉันจะได้รีบไป แต่ขอถามคำเดียว เอกเป็นอะไรมากมั้ย มันปลอดภัยรึเปล่า เอาน้ำไปทำใม แกจะแต่งตัวแอ็ปเป็นเด็กม.ปลายเหรอ "
 
          " ไหนว่าคำเดียวไงไอ้โทยะ.......คือ....จะว่ายังไงดีล่ะ......เอกน่ะ.....มัน..."
 
          " มันอะไร.....บอกสิเฟ้ยยยยย "
 
          " เอก....มันกลายเป็นผู้หญิงไปแล้วอะ "
 
          " โครม........ " ตื้ด ๆ ๆ ๆ ๆ เสียงสัญญาณโทรศัพท์ถูกตัดไป
 
          ถึงแม้ว่าร่างกายจะเปื้อนเลือดอยู่เต็มตัวก็ตาม แต่รินก็ดูออก ว่าเด็กสาวที่สลบอยู่นี่ มีหน้าตาสวยขนาดไหน ผมยาวสีดำ ยิ่งตอนนี่ที่มีเลือดพรมอยู่ด้วยแล้วยิ่งดูเปล่งประกาย อายุน่าจะซัก 16 ปี หน้าอกคัพ B อันนี้ฉันมั่นใจ ขนตาดูงอนงามแม้จะเปื้อนเลือดไปบ้างก็ตาม หน้าท้องแบนราบไม่มีไขมันส่วนเกิน อะไร ๆ ก็ดูสมบูรณ์แบบไปหมด ยกเว้นก็แค่ความสูง ที่จะต่ำกว่ามาตรฐานไปบ้าง แต่แค่ที่เห็นนี้ก็อาจจะละลายใจใครหลายคนแล้วแหละ เด็กสาวที่สวยงามท่ามกลางกองเลือดเนื้อของอสูรกาย ฟังดูแปลก ๆ แหะ ทำให้รู้สึกว่าสวยสยองยังไงชอบกล
 
          ฉันนั่งมองดูเธออยู่นาน โดยที่ไม่เข้าใจตัวเองว่าเพราะอะไร กระทั่งได้ยินเสียงใบพัดของเฮลิคอปเตอร์ดังขึ้นด้านบน ฉันรีบถอดเสื้อคลุมประจำตำแหน่งฑุตของฉันออกมาปกปิดเรือนร่างเด็กสาวของเอกเอาไว้ เพราะชุดที่เอกใส่ตอนนี้มันแนบเนื้อจากความเปียกเลือดไปทั้งตัวแล้ว ทำให้แม้ว่าจะใส่เสื้อผ้าอยู่ก็ตาม ก็ให้ความรู้สึกเหมือนโป้ได้ไม่ต่างกัน ที่สำคัญ เอกมันไม่ได้ใส่บราอยู่ด้วย
 
          เฮลิคอปเตอร์เปลี่ยนจากระบบใบพัด กลายเป็นระบบไอพ่น โดยพับเก็บใบพัดที่มีขนาดใหญ่เข้าแนบติดกับตัวเครื่องบิน (?) ด้านบน เพื่อทำการลงจอดในแนวตั้งที่แคบแบบในป่านี้ได้ จากนั้นโทยะก็กระโดดลงมาเพียงคนเดียว แสดงว่าหมอนี่มันขับมาเองเลยเหรอ ดีเหมือนกัน จากนั้นฉันรีบไปเบรคโทยะก่อนที่จะมาเห็นเอกในสภาพนี้
 
          "โทยะ นายมาคนเดียวเหรอ พอดีเลย ยกถังน้ำที่ฉันสั่งไว้ลงมาวางตรงนี้ให้หมด เสื้อผ้าด้วยนะ " ฉันวิ่งเข้าไปดึงโทยะที่กำลังจะเข้าไปหาเอกที่นอนอยู่
 
          " เห้ย...เดี๋ยวค่อยยกก็ได้ ไปดูไอ้เอกมันก่อน ไหงเลือดกระจายแบบเนี้ย มันเป็นผู้หญิงนี่หมายความว่ายังไง........ปล่อยก่อนสิยัยริน ดึงอะไรนักหนาเนี้ย " โทยะ พยายามต้านแรงดึงของฉันเพื่อที่จะเข้าไปดูสภาพเอก
 
          " ไอ้โทยะ.....ตอนนี้เอกน่าจะปลอดภัยแล้วในระดับหนึ่ง แต่รบกวนแกทำตามที่ฉันบอกก่อนได้มั้ย อย่าให้ฉันต้องออกแรงทุ่มแกไปหาเฮลิคอปเตอร์ หรือเครื่องบินนั้นนะ " ฉันพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็น ๆ ส่งผลให้โทยะหยุดในทันที
 
          จากนั้นโทยะก็แบกถังน้ำขนาดใหญ่ 2 ถังลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ และถุงเสื้อผ้าใบเล็ก ๆ หนึ่งถุง ฉันบอกให้โทยะเดินออกไปให้ห่างจากจุดที่ฉันกับเอกอยู่ประมาณ 800 เมตร จากนั้นฉันก็ย้ายร่างของเอกออกมาจากกองเลือดดังกล่าว แล้วจัดการถอดชุดเอกออกจนหมดเพื่อที่จะล้างคราบเลือดออกไปจากร่างกาย แต่ทันทีที่ล้างคราบเลือดเสร็จหมดแล้ว ฉันก็ต้องตกตะลึงอีกครั้ง
 
          ไม่มีแล้ว ไอ่อะไรที่ผู้ชายเคยมีมันหายไปหมด กลายเป็นมีในสิ่งที่ผู้หญิงแบบฉันมีกันทุกคนแทน แถมรูปร่างแบบนี้ด้วยแล้ว มันดูน่าลูบไล้ซะยิ่งกว่าที่เห็นเมื้อกี้ซะอีก ผิวที่ขาวราวกับหิมะที่กำลังกับแสงแดดตอนนี้มันช่างดูเปล่งประกายออกมาอย่างน่าหลงไหล หน้าอกที่ทรงสวยได้รูป ไล่ลงมายังเอวที่คอดกิ่ว และสะโพกที่ดูโค้งเว้าเย้ายวนใจ ส่วนจุดนั้น.....ก็เด็กม.ปลายแหละ เรียวขาที่ดูกระชับสวยพอ ๆ กับนางแบบ....นี้ขนาดฉันเป็นผู้หญิงด้วยกันนะ ยังอยากจะลูบไล้จนต้องห้ามมือไว้หลาย ๆ ครั้ง นี่ถ้าโทยะ หรือว่าผู้ชายคนไหนเอกในสภาพนี้ คงช๊อคตาค้างแน่เลย
 
          อ๊ะ........ไม่สิ ฉันต้องรีบเช็ดตัว แล้วก็แต่งตัวให้เอกก่อนที่โทยะจะกลับมานี่น่า มัวแต่จ้องจนลืมไปเลยแหะเรา ฉันค้นถุงเสื้อผ้าที่โทยะเอามาให้ จากนั้นก็หยิบชุดออกมา แต่ทันทีที่เห็นว่าเป็นชุดอะไร ฉันอยากจะวิ่งไปกระโดดถีบหน้าเจ้าโทยะทันที ฉันบอกให้เอาชุดเด็กม.ปลายมาให้ แล้วไหงเอาชุดนักเรียนหญิงม.ปลายมาเนี้ย
 
          ฉันสวมชุดให้เอก ถึงแม้มันจะเป็นชุดนักเรียนก็เถอะ ยังดีกว่าให้ใส่ชุดอาบเลือด หรือว่าให้โป้ต่อไปแหละนะ น่าแปลกที่โทยะเอายกทรง กับกางเกงในผู้หญิงมาด้วย คงไม่ใช่ของตัวเองที่แอบเอามาใส่เองที่หน้ากระจกทุกวันหรอกนะ เอ๊ะ....หรือว่าใช่?
 
          ตอนนี้ เอกอยู่ในชุดนักเรียนหญิงม.ปลาย กระโปรงสั้นสีน้ำเงินตัดขาว =_= สวมเลกกิ้งสีดำลายลูกไม้ เสื้อแขนนั้นสีน้ำเงินตัดขาวเหมือนกระโปรง แต่มีเสื้อคลุมแขนยาวที่มีตราโรงเรียนใส่ทับด้านนอกอีกที โบว์ชุดนักเรียน และกิ๊บติดผม ฉันใส่ไว้ในถุงเหมือนเดิม (โทยะเอามาทำไมเนี้ย?)
 
          จากนั้น ฉันก็โบกมือเรียกโทยะให้เข้ามาช่วยกันพาเอกไปตรวจอาการบาดเจ็บกันที่อื่น เพราะไม่แน่ว่าพวกสมุนเงาอาจตามมาเพิ่มอีกก็ได้ แต่พอโทยะมาเห็นเอกที่กลายเป็นผู้หญิง จู่ ๆ เจ้าหมอนี่ก็ลงไปคุกเข่า พร้อมกับกุมมือทั้งสองข้างไว้ที่หน้าอกเงยหน้าขึ้นฟ้าพร้อมกับน้ำตาที่ไหลปริ่ม ๆ อยู่ในดวงตาทั้งสองข้าง แล้วพูดเบา ๆ
 
          " ข้าแด่องค์เทพเทวาทั้งหลาย ข้อขอขอบพระคุณในความเมตตาของท่าน ที่นำพาข้าให้ได้พบเจอกับเธออีกครั้ง โอ้ว........ท่านช่วงมีความกรุณากับคนหล่อเช่นข้ายิ.........แอ๊ก! "
 
          ก่อนที่เจ้าโทยะจะร่ายยาวมากกว่านี่ ฉันถีบหลังเพื่อนสนิทเบา ๆ เพื่อเร่งให้ออกจากจุดอันตรายนี้ไว ๆ โทยะที่หน้าถูพื้นดินไปประมาณ 1 เมตรรีบวิ่งมาประจำที่คนขับ จากนั้นเราทั้ง 3 คนก็บินจากไป โดยมีเป้าหมายอยู่ที่บ้านของโทยะเอง
 
_________________________________
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา