ลิขิตโลกา - One World
8.0
เขียนโดย CatMoNo
วันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 11.20 น.
13 บท
2 วิจารณ์
13.78K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 23.36 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) วางแผนการ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ 5 วางแผนการ
" แกเป็นอะไรรึเปล่าเอก " รินเอ๋ยถามผมทันทีที่ผมยืนขึ้นมาจากพื้นห้อง
" ไม่เป็นอะไรหรอก แค่ปวดหัวอยู่นิดหน่อยเท่านั้นเอง ว่าแต่ไอ้โทยะมันเป็นอะไรของมัน จู่ ๆ ก็พุ่งเข้ามา แถมทำหน้าตาหื่น ๆ แบบนั้นอีก " ผมพูด พลางมองไปทางโทยะ ที่กำลังสลบเหมือดกองอยู่ข้างกำแพง ทำน้ำลายฟูมปากอยู่
" นี้ถ้าเธอมาช้ากว่านี้อีกนิด ไอ่หมอนี่คงโดนมวยจนหยอดน้ำข้าวต้มแน่นอน "
" ฉันก็ว่างั้นแหละ แต่ปกติโทยะมันไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลยนี่น่า เดี๋ยวรอมันฟื้น ค่อยถามมันละกัน " รินเดินหาโทยะ แล้วเอาเท้าเขี่ย ๆ ให้ตื่น
" โอเค งั้นฉันไปเปลี่ยนชุดก่อนละกัน เมื่อวานก็มีเรื่อง จนลืมเปลี่ยนเสื้อเลยแหะ "
จากนั้นไม่นาน โทยะก็ฟื้นขึ้นมาด้วยอาการงง ๆ เบลอ ๆ ทั้งสามคนเลยได้เริ่มคุยกันจริง ๆ จัง ๆ เป็นครั้งแรกนับแต่เกิดเรื่อง
" แล้วไงล่ะ โทยะ ไหงหน้ามืดตามัวไปจับกดเจ้าเอกมันได้ล่ะเนี้ย หรือว่ารู้ถึงตัวตนที่แท้จริงแล้ว? " รินเริ่มถามโทยะเป็นคนแรก
" จะบ้าหรือไง ใครมันจะไปมีอารมณ์กับเพศเดียวกันได้ฟะ แต่คิดดูก็แปลก ตื่นมาฉันเห็นเด็กสาวคนหนึ่ง หน้าตาสวยโฮก ๆ คือแบบ ถ้าเทียบกับแกนะริน แกกลายเป็นลิงอุรังอุตังไปเลยอะ " โทยะตอบโดยไม่ดูสีหน้าคนฟัง ว่าตอนนี้เจ้าหล่อนกำลังทำท่าจะกระโดดถีบคนข้างหน้าอยู่ " แต่เรื่องแปลกก็คือ พอเธอทุ่มฉันปลิวไป น้องคนนั้นก็หายไปเลยเนี้ยสิ อีกอย่างนะ น้องคนนั้นแต่งตัวเหมือนแกเลยหว่ะเอก "
ผมได้ฟังก็ทำหน้าแหยง ๆ ไปทางโทยะ ไอ้หมอนี่มันเป็นเอามากนะเนี้ย หรือว่าช่วงนี้งานมันหนักจนเก็บกดก็ไม่น่าใช่ เพราะเมื่อวานมันยังควงผู้หญิงไปกินข้าวที่ร้านอาหารหรู่อยู่เลยนี่น่า จากนั้นผมก็ส่ายหน้าเอื่อมระอาไปทางมัน และเลิกคิดเรื่องไร้สาระดีกว่า ขอเข้าเรื่องกันเถอะ
" แล้วเมื่อคืน หลังจากที่ฉันสลบไป ตกลงมันเกิดอะไรขึ้น ไหนแกบอกฉันหน่อยสิโทยะ " และพอรินได้ฟัง รินก็พยักหน้าพร้อมกับพูดออกมาว่า " เออใช่ เรื่องเมื่อคืน ที่แกเรียกให้ฉันรีบมาเนี้ย ตกลงมันคืออะไร ได้ยินว่าเป็นเรื่องคอขาดบาดตายเลยเหรอ "
พอโทยะได้ยินคำถาม ก็ทำหน้าซีดเป็นไก่ต้มขึ้นมาทันที พร้อมกับลงไปนั่งคุกเข่าอยู่หน้าผม แล้วก้มหัวลงพื้น
" สหายเอกเพื่อนรัก ข้าโทมิยะผู้นี้ได้กระทำความผิดพลาดอย่างร้ายแรงกับท่านไว้โดยไม่ได้ตั้งใจ ข้าขออภัยท่านด้วย หากท่านประสงค์ให้ข้าฮาราคีรีต่อหน้าท่าน ข้าจะกระทำทันทีขอรับ "
ความรู้สึกแรกของผมคือ มันทำอะไรของมัน ผมยังไม่รู้เรื่องเลย และดูเหมือนรินก็รู้สึกเหมือน ๆ กัน รินเลยบอกให้โทยะลุกขึ้นมานั่งอธิบายดี ๆ
โทยะเล่าว่า มันเห็นผมมีอาการปวดหัวเหมือนทุกครั้งที่ฝืนใช้พรสวรรค์เกินตัว ซึ่งทั้งริน ทั้งโทยะก็เห็นจนชาชินแล้ว และรู้ว่าผมต้องกินยาแก้อาการปวดสมองที่พกติดตัวไว้เสมอ แต่แล้วโทยะก็บอกว่ามันหยิบยาผิด เห็นกระปุกยาตกอยู่ใกล้ ๆ ก็นึกว่าเป็นยาแก้ปวด เลยเอาให้ผมกินก่อนสลบไป พอโทยะลองมาดูกระปุกยาอีกทีก็พบว่า ยาที่ให้กินไปมันชื่อยา X-Turn เป็นยาที่ศูนย์วิจัยได้สร้างขึ้นตามคำสั่งลับของสภาโลก ทำให้ตอนนี้เหลือยาอยู่แค่เม็ดเดียว ซึ่งก็วางอยู่บนโต๊ะเบื้องหน้าของเราทั้งสามคน
ตกลงตอนนี้ผมกินยาที่เป็นผลงานวิจัยของสภาโลกเข้าไปแล้วงั้นเหรอ? แต่ก็ไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลงนะ ปีกไม่ได้งอก หางก็ไม่ได้โผล่ออกมาซักหน่อย
" แล้วยาที่ว่าเนี้ย มันส่งผลอะไรบ้างรึเปล่า " ผมลองถามโทยะ เพราะผมยังไม่ได้อ่านเอกสารงานวิจัยที่พวกสมุนเงาเหลือทิ้งไว้
" เอกสารมันมีไม่ครบอะ แต่เท่าที่อ่าน ดูเหมือนจะเป็นยาที่ไปปรับโครงสร้างระดับเซลล์นะ หรือไม่ก็เกี่ยวกับพวกฮอร์โมนของต่อมไร้ท่ออะไรเนี้ยแหละ ข้อมูลที่เหลือถูกชิงไปหมด เลยบอกมากกว่านี้ไม่ได้ แต่ฉันสั่งลูกน้องไปสืบเพิ่มแล้วนะ อัพเดทยังไงเดี๋ยวบอกทันที "
ผมลองหยิบเอกสารงานวิจัยที่เหลือมาอ่านดู ก็พบว่ามันเป็นไปตามที่โทมิยะบอกจริง ๆ คือข้อมูลมีน้อยเกินไป ที่เห็นก็แค่บทอธิบายถึงการปรับการทำงานของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย แต่ปรับไปในแนวทางไหนก็ไม่ได้บอกไว้
พวกเราทั้งสามคนก็ลองค้นข้อมูลจากทุก ๆ ด้าน ทั้งจากคนรู้จัก ทั้งจากสายงานที่สนิท แต่ก็ไม่ได้ข้อมูลเพิ่มเติม แถมอีกฝ่ายยังถามว่างานวิจัยอะไร ซะงั้น? จนหมดสิ้นหนทางกันแล้วก็มานั่งปลงตกกัน โทยะ แนะนำให้พวกเราเก็บข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับงานวิจัยนี้ไว้ก่อน เพราะเขาระแวงว่าในสภาโลกน่าจะมีสายสืบขององค์กรเงาเข้ามาปะปน ไม่อย่างนั้นนักวิจัยคงไม่ต้องรีบหนีและถูกฆ่าตาย พวกเราจึงตกลงกันว่าจะปิดเรื่องนี้ไว้ก่อน ยังไม่รายงานขึ้นเบื้องบน
กระทั่งเวลา 10:30 น. โทยะก็ขอตัวไปที่ทำงานก่อน เพราะนัดลูกน้องให้ตามสืบเรื่องเมื่อคืนอยู่ ตอนนี้น่าจะมีข่าวเพิ่มบ้างแล้ว ถ้ายังไงโทยะมันบอกว่าจะติดต่อมาอีกที อาการปวดหัวของผมเริ่มกำเริบขึ้นอีกครั้ง รินเห็นแบบนั้นก็บอกให้ผมไปนอนพักเสีย และรินก็มีธุระเรื่องงานนิดหน่อย ยังไงก่อนเที่ยงจะมารับผมไปกินข้าว ผมตกลงกับทั้งสองคนแล้วเข้าห้องไปนอนเพราะปวดหัวยังไม่หาย
------------------------------------------
ในห้อง ๆ หนึ่งซึ่งตอนนี้ถูกใช้เป็นฐานลับชั่วคราวขององค์กรเงา แต่หากไม่บอกแบบนี้ ต่อให้ใครมาเห็นก็ไม่คิดว่าเป็นฐานลับ เพราะจากการตกแต่งห้อง และจากเฟอร์นิเจอร์ที่เต็มไปด้วยหนังสือและชั้นวางแล้วมันดูเหมือนเป็นห้องสมุดเสียมากกว่า ตอนนี้สมุนเงา 2 คนที่ปฏิบัติงานเมื่อคืนกำลังยืนอยู่ต่อหน้าชายผู้หนึ่ง ดูจากอายุแล้วไม่น่าจะเกิน 30 ปี สมุนเงาทั้งสองส่งมอบเอกสารงานวิจัยที่มีให้แก่ชายคนดังกล่าว แล้วยืนรอฟังคำสั่งต่อไป แม้ว่าพวกเขาจะบาดเจ็บเพราะสู้ (?) กับเอก แต่ทั้งสองคนก็ไม่แสดงออกถึงความเจ็บปวดแต่อย่างใดชายคนนั้นเปิดเอกสารอ่านดูเพียงไม่นาน ก็วางเอกสารลงบนโต๊ะข้างกาย แล้วพูดกับสมุนเงาทั้งสอง
" ผมขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ ที่คนในทีมคุณต้องเสียไป 1 คน " เขาเว้นจังหวะนิ่งไปซักพัก คล้ายกับไว้อาลัยให้แก่สมุนเงาผู้เสียชีวิต แล้วเดินเข้ามาหาสมุนเงาทั้งสองคน
" และผมก็จำเป็นต้องบอกกับคุณทั้งสองว่า พวกคุณทำงานพลาด เอกสารงานวิจัยนี้ยังขาดไปบางส่วน และที่สำคัญคือตัวยาที่เป็นผลงานการวิจัย คุณไม่ได้นำมันมาให้ผมด้วย "
สมุนเงาทั้งสองทราบความผิดพลาดจากการทำงานของตัวเอง ก็ก้มลงคุกเข่าทันที " ท่านครับ กรุณามอบโอกาสให้กับผมทั้งสองคน เพื่อที่จะแก้ตัวและทำงานให้กับท่านอีกครั้งด้วยเถอะครับ " พวกเขาทั้งสองคนเกิดความละอายใจต่อเพื่อนร่วมงานที่เสียชีวิตไป เพื่อนของเขาต้องไม่ตายเปล่า พวกเขาจะเอาคืนมาซึ่งเกียรติของกลุ่มและองค์กรเงา
" หากพวกคุณเลือกแบบนี้ มันจะหมายถึงการจบชีวิตของพวกคุณเลยนะ ผมไม่ต้องการให้ลูกน้องของผมต้องสูญเสียไปมากกว่านี้ ทางองค์กรสามารถส่งทีมอื่นไปปฏิบัติงานแทนได้ขอให้คิดให้ดีก่อนนะครับ" ชายผู้ถูกสมุนเงาทั้งสองคุกเข่าขอร้อง พูดขึ้นมาพร้อมกับส่ายหน้าถอนหายใจ
" ได้โปรดเถอะครับท่าน กรุณามอบพลังให้แก่เราทั้งสองคน แม้มันหมายถึงชีวิตของพวกเราก็ตาม แต่อย่างน้อยเมื่อผมตาย ผมก็สามารถร่วมเดินเคียงข้างกับเพื่อนที่จากไปก่อนได้ เราทั้งสองตัดสินใจกันมาก่อนแล้วครับ ขอความกรุณาด้วยครับท่าน "
ชายผู้ถูกเรียกว่าท่าน หลับตาลงอย่างจนปัญญา พร้อมกับใช้พรสวรรค์ของตนเองกับสมุนเงาทั้งสองคน ด้วยการประทับตราบนผ่ามือลงไปที่หน้าผากทั้งคู่ แล้วเปลี่ยนมือมาสัมผัสที่ไหล่ของทั้งสองคนเบา ๆ ทันทีนั้นเอง บาดแผลและความเจ็บปวดของสมุนเงาทั้งสองคนก็หายไป พวกเขารู้สึกแข็งแรงขึ้น แต่ในขณะเดียวกันนั้นเอง ทั้งคู่ก็รับรู้ได้ทันทีว่า พลังชีวิตของตนเองกำลังถูกสูบออกไปจากตราที่ประทับลงบนหน้าผาก
" ผมขอแสดงความนับถือในการตัดสินใจของพวกคุณในครั้งนี้ ด้วยการยินยอมตามที่พวกคุณขอ และขอให้พวกคุณทั้งสองมั่นใจได้ว่า ครอบครัวของทีมคุณทั้ง 3 ครอบครัวจะได้รับการดูแลจากองค์กรเงาเป็นอย่างดี เช่นที่พวกคุณเคยได้รับรู้มาเสมอเมื่อมีผู้ร่วมอุดมการณ์เราจากไป ขอให้พวกคุณทำงานสุดท้ายนี้ให้เต็มที่ นำผลงานวิจัยมาให้องค์กรเงาให้ได้ และขอให้ไปดีด้วยครับ "
สมุนเงาทั้งสองคนคุกเข่าทำความเคารพแก่หัวหน้าพวกตนเป็นครั้งสุดท้ายพร้อมน้ำตา ไม่ใช่น้ำตาแห่งความเสียใจ และไม่ใช่น้ำตาแห่งการจากลา แต่เป็นน้ำตาที่เกิดจากความซาบซึ้งกับองค์กรเงาที่มอบให้กับพวกเขา จากนั้นสมุนเงาทั้งสองก็เดินออกจากห้องไป พร้อมกับประตูห้องที่ปิดอย่างเชื่องช้าด้านหลัง
" พวกเราไปทำหน้าที่สุดท้ายกันเถอะสหาย เริ่มที่เจ้าหนุ่มคนนั้น คนที่ทำให้เราเกิดความกลัวขึ้นมาในจิตใจได้ " สมุนเงาคนหนึ่งพูดขึ้นมา จากนั้นทั้งสองก็เลือนหายไปพร้อมกับความมืดมิด
-----------------------------------------------------------
ที่ว่าการสภาโลก เขตสยาม ห้องทำงานของโทยะ
ภายในห้องทำงานที่ดูหรูหรา มีป้ายตำแหน่งผู้อำนวยการฯ สีทองเป็นประกายวางอยู่บนโต๊ะทำงาน ด้านหลังโต๊ะนั้นมีร่างของโทยะนั่งเก้าอี้อยู่ ตอนนี้เขากำลังอ่านเอกสารเกี่ยวกับผลการวิเคราะห์ส่วนประกอบทางวัตถุของแหวนที่ได้เก็บมาจากศพของนักวิจัย ด้วยสีหน้าหนักใจ
(ไม่สามารถระบุวัตถุต้นกำเนิดได้ หมายเหตุ : ไม่พบฐานข้อมูลธาตุที่เป็นส่วนประกอบของวัตถุที่ถูกตรวจสอบ)
นี่มันอะไรกัน ขนาดเครื่องคัดกรองส่วนประกอบระดับอะตอมก็ยังไม่สามารถระบุได้เลยเหรอ ว่าแหวนนี้คืออะไร แค่จะบอกว่ามันทำมาจากอะไรก็ยังบอกไม่ได้ ตกลงเครื่องมันเจ้ง หรือว่าแหวนมันเจ๋งกว่ากันแน่นะ? โทยะวางแหวนลงบนโต๊ะ และหยิบเอกสารอีกชุดขึ้นมาดู เขาใช้เวลาหลายชั่วโมงในการสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับตัวยา แต่แล้วก็ได้มาแค่ไม่กี่ข้อ
X-Turn ยาวิจัยลับสุดยอด (ข้อมูลส่วนใหญ่ถูกปกปิด)
คุณสมบัติ1. แก้ไขอาการเจ็บป่วยเบื้องต้นให้หายขาดได้ทันที
2. ปรับการทำงานของร่างกายในระดับเซลล์ ซึ่งผลที่ได้จะแตกต่างกันไปตามลักษณะพลังวิญญาณของผู้รับยา (ข้อมูลไม่ได้รับการยืนยัน)
3. ปรับระดับการเชื่อมต่อกับวัตถุรอบกาย (ข้อมูลไม่ได้รับการยืนยัน)
4. (ปกปิด)
- การวิจัย X-Turn เป็นคำสั่งลับของผู้นำสภาโลก มีผู้รู้เห็นเกี่ยวกับข้อมูลนี้เพียงแค่ ปราชญ์ทั้ง 4 ศาสตราจารย์ และทีมงานวิจัย เท่านั้น -
อันนี้ก็อีกอัน ตกลงมันคือยาอะไรกันแน่ ยาพาราฯ รึเปล่านะ เห็นบอกว่าแก้ปวด ถ้าผมกินไปตอนนี้จะหายปวดหัวรึเปล่าเนี้ย ยิ่งข้อ 2 - 4 นี้บอกก็เหมือนไม่ได้บอก ไม่ได้สร้างความเข้าใจอะไรขึ้นมาเลยให้ตายเถอะแต่ก่อนที่ผมจะได้หยิบยาขึ้นมากินจริง ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาเสียก่อน ผมเก็บเอกสาร พร้อมกับแหวนและตัวยาบนโต๊ะลงไว้ในลิ้นชักทันที พร้อมกับตอบรับให้เข้ามาได้
" ท่านครับ สมุนเงาที่ท่านให้ผมไปตามล่า ถูกผมเก็บได้เพียง 1 คน ส่วนอีกสองคนหนีไปได้เพราะมีคนมาช่วยเหลือครับ ผมได้ให้ สัน ตรวจสอบแล้ว แต่ไม่สามารถดึงความทรงจำของสมุนเงาคนนี้ออกมาได้เลยครับ " เสียงของวิล รายงานผลการทำงานให้ผมฟัง พร้อมยื่นเอกสารสรุปข้อเท็จจริงต่าง ๆ วางบนโต๊ะทำงานผม
" ส่วนที่เกี่ยวกับศพของนักวิจัย ผมดึงความทรงจำมาได้บางส่วนแล้วครับ พบว่าทางศูนย์ได้สร้างสัตว์ทดลอง C68 ขึ้นมา ซึ่งตอนนี้มันได้หลบหนีออกไปจากศูนย์วิจัยด้วยสาเหตุที่องค์กรเงาเข้าบุก ส่วนข้อมูลของตัวยา X-Turn ที่นอกเหนือจากเอกสารที่ผมให้ไปแล้ว คงต้องใช้เวลาเพิ่มเติมอีกหน่อยครับ " สัน รายงานเพิ่มเติ่ม จากที่ผมได้ตามผลมาก่อนหน้านี้แล้วหนึ่งครั้ง
ผมพยักหน้ารับ และสั่งให้วิล สัน ช่วยปิดเรื่องนี้เป็นความลับ ห้ามมิให้ผู้อื่นนอกจากนี้รับรู้ นอกจากว่าผมจะอนุญาต ซึ่งทั้งสองคนตอบรับคำสั่งในทันที แล้วทั้งสองคนก็ขอตัวไปสืบข้อมูลต่อ
" เอาล่ะ จากนี้จะหาข้อมูลเพิ่มเติมจากไหนได้อีกบ้างล่ะเนี้ย เฮ้อ............ คิดถึงเด็กสาวคนนั้นจัง.......... "
----------------------------------------------
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ