ลิขิตโลกา - One World

8.0

เขียนโดย CatMoNo

วันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 11.20 น.

  13 บท
  2 วิจารณ์
  13.63K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 23.36 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

13) ช๊อปปิ่ง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

บทที่ 12  ช็อปปิ้ง

 

            " คุณลูกค้าคะ  ได้โปรดทบทวนอีกครั้งเถอะค่ะ ไม่ว่าจะเรื่องเงิน หรือเรื่องอนาคตของคุณลูกค้า ทางเรารับรองได้ว่ารุ่งโรจน์แน่นอนนะคะ "

 

            นี่เป็นร้านที่ 4 แล้วล่ะครับ ที่ผมถูกตื้อประมาณนี้ เรื่องมันเกิดขึ้นตั้งแต่ผมเดินเข้าไปเลือกซื้อเสื้อผ้าพร้อมกับโทยะ ขณะที่ผมกำลังอึ้งอยู่กับปริมาณเสื้อผ้าของผู้หญิงในร้านอยู่นั้นเอง เจ้าของร้านก็เดินมาหาผม จากนั้นก็ร้องขอให้ผมมาเป็นนางแบบให้กับทางร้าน เพื่อจะได้ทำการโฆษณาดึงดูดลูกค้าให้เข้าร้านมากขึ้น

 

            ร้านแรกก็ไม่เท่าไหรหรอกครับ แต่พอเดิน ๆ ไปจนถึงร้านที่ 3 ซึ่งพอผมปฏิเสธเท่านั้นแหละ เจ้าของร้านเรียกพนักงานทุกคนให้ปิดทางเข้าออก เพื่อให้ผมยอมเซ็นสัญญาเป็นนางแบบให้ พร้อมกับแบกกระเป๋าเดินทางใบใหญ่มา 4 ใบซึ่งข้างในนั้นมีแต่เงินสดวางกองไว้เป็นตั้ง ๆ สำหรับเป็นค่ามัดจำเบื้องต้น.........ค่ามัดจำยังขนาดนี้ แล้วถ้าเซ็นสัญญาจะเป็นเงินขนาดไหนกันนะ แต่การให้เป็นนางแบบเนี้ย ผมขอเถอะครับ ถึงผมจะมีร่างกายเป็นผู้หญิงแบบนี้ แต่จิตใจผมมันเป็นผู้ชายอยู่นะ (แม้ว่าหลัง ๆ นี้ผมจะรู้สึกว่าต่อมน้ำตามันแตกได้ง่าย ๆ เพียงแค่ผมรู้สึกเศร้าก็เถอะ)

 

            ผมลากโทยะออกจากร้านเป็นรอบที่เท่าไหรก็จำไม่ได้แล้ว หมอนี้ก็เอาแต่หัวเราะขำอยู่ได้ ไม่คิดจะช่วยกันบ้างเลยหรือยังไง แล้วแบบนี้จะมาด้วยทำไมล่ะเนี้ย เฮ้อ.......เหนื่อยใจจริง ๆ แต่ถึงยังไงตอนนี้ผมก็ได้เสื้อผ้ามาหลายชุดแล้วล่ะนะ รวมไปถึงชุดชั้นในด้วย อ๊ะ.....ตอนนี้ผมรู้ขนาดไซส์ของตัวเองแล้วนะ หลังจากโดนพนักงานในร้านแรกจับวัดขนาด เหมือนจะเป็นตัวเลข 33-24-34 นะ พนักงานบอกให้จำไว้ แต่เลขตัวบนอาจเปลี่ยนไปตามอายุ ผมก็รับคำส่ง ๆ ไปเพราะอยากให้เสร็จเร็ว ๆ

 

            และก็ร้านสุดท้าย เป็นชุดราตรี ซึ่งทางสถาบันอีเดนบังคับให้เตรียมไว้ทุกคน (เพื่อ?) ลำบากผมต้องมาเลือกชุดอีก อีกอย่างนะครับ ผมเคยใส่แต่ชุดสูทอะ จะให้มาเลือกชุดผู้หญิงให้ตัวเอง บอกตรง ๆ เลยว่าเลือกไม่เป็นครับ และแล้วตัวช่วยของผมก็เริ่มสำแดงประโยชน์ให้สมกับที่พกมาด้วย โทยะ เดินไปคุยกับเจ้าของร้านที่เป็นผู้หญิงวัยรุ่น จากนั้นเจ้าของร้านก็หายไปซักพักหนึ่งพร้อมกับเดินออกมาด้วยชุดราตรีแบบเปิดไหล่ทั้งสองข้าง (ชุดเหมือนในรูปแนะนำตัวละครเลยนะคร้าบ : ไรท์เตอร์เองจ้า) ก็ดูสวยดีหรอกครับ ถ้ามันไม่เปิดหน้าอกซะกว้างขนาดนั้น

 

            เจ้าของร้านเดินมาทางผม และขอร้องให้ผมใส่ชุดนี้เพื่อเป็นแบบให้กับชุดดังกล่าว เธอบอกว่าเป็นชุดที่เธอออกแบบด้วยตัวเอง แต่เธอยังขาดนางแบบเพื่อสร้างความประทับใจให้กับผลงานชุดนี้ ผมกำลังจะบอกปฏิเสธไปเหมือนกับครั้งก่อน ๆ แต่ก็ต้องถอนคำพูด เพราะเจ้าของร้านบอกว่าพ่อของเธอกำลังป่วยด้วยโรคร้ายแรง หากว่าผลงานชุดนี้ไม่เป็นที่ถูกใจเหล่าสปอนเซอร์ เธอคงไม่มีเงินไปรักษาพ่อ จนทำให้พ่อของเธอต้องตายแน่นอน

 

            ก็ถ้าถึงขนาดนี้แล้วผมไม่ช่วยก็คงเป็นคนใจจืดใจดำเกินไปแหละครับ ผมเลยยอมเป็นนางแบบให้กับเจ้าของร้านไปนิดหน่อย ซึ่งก็ไม่ค่อยเข้าใจซักเท่าไหรว่าทำไมต้องโพสท่าแปลก ๆ อะไรแบบนั้นด้วย (เหมือนท่าในรูปเลยครับ : ไรท์เตอร์เองจ้า) พอถ่ายแบบเสร็จแล้วเจ้าของร้านก็ดีใจมาก และสัญญาว่าหากชุดได้รับความนิยม เธอจะแบ่งผลกำไร 10% มาให้ผมทุก ๆ เดือน ที่ผมช่วยก็ไม่ได้คิดอะไรมากขนาดนั้นอยู่แล้ว เลยบอกกับเธอว่าไม่เป็นไร แต่เหมือนว่าเธอจะไม่ฟังเนี้ยสิ แถมยังให้ชุดที่ผมใส่เป็นแบบมาแบบฟรี ๆ อีกต่างหาก ผมเลยฝืนใจยอมรับของฟรีด้วยรอยยิ้มและคำขอบคุณ จากนั้นออกจากร้านมาอย่างรวดเร็วเพราะกลัวเธอเปลี่ยนใจมาเก็บเงิน

 

            เอาเป็นว่าตอนนี้ได้ชุดครบแล้ว แต่เพราะรีบออกจากร้านสุดท้ายเกินไปจนลืมเปลี่ยนชุดเป็นชุดเดิม ทำให้ตอนนี้คนทั้งห้างกำลังมองดูผมด้วยสายตาที่แตกต่างกัน ผมเลยรีบเดินไปห้องน้ำเพื่อที่จะได้เปลี่ยนชุดนี้ออกซักที

 

            " เห้ย.....แกว่าน้องเค้าเป็นดารารึเปล่าวะ สวยมากเลยอะ "

            " โอ้ย....สวยขนาดนี้ยังต้องถามอีกเหรอวะ น้องเค้าต้องเป็นดาราแน่นอน ดูสิ มีบอดี้การ์ดเดินระวังหลังด้วยนั้นไง "

            " อุ๊ย....เธอดูเด็กผู้หญิงคนนั้นสิ สวยมากเลยนะ ทำยังไงให้สวยได้ขนาดนี้เนี้ย ผู้ชายที่เดินตามข้างหลังนั้นก็ดูดีสุด ๆ ......... แต่ทำไมทำหน้าดุก็ไม่รู้สิ "

            " โห..คนอะไรจะสวยขนาดนี้เนี้ย ที่รักดูสิคะ ผู้หญิงคนนั้นสวยเหมือนฉันเลยนะคุณว่ามั้ย..........ที่รักคะ.......ที่รัก........ไอ่คุณที่รัก แกจะจ้องผู้หญิงคนนั้นมากเกินไปแล้วนะ "

 

            " เดี๋ยวมานะโทยะ นายจะไปเดินเล่นก่อนก็ได้นะ ไอ่ชุดนี้ฉันจำไม่ค่อยได้ว่าถอดยังไงด้วยสิ เดี๋ยวค่อยไปลองถอดมั่ว ๆ ในห้องน้ำดูก่อน แล้วเดี๋ยวยังไงฉันจะโทรหานะ " ว่าแล้วผมก็รีบเดินเข้าห้องน้ำไป โดยฝากถุงเสื้อผ้าส่วนใหญ่ไว้กับโทยะ ส่วนผมถือไปแค่ถุงเสื้อผ้าที่ข้างในมีชุดเดิมที่มาใส่ออกมาจากบ้านเท่านั้น

 

            เป็นอย่างที่คิดไว้เลย ชุดนี้มันถอดยากจริง ๆ รูดซิบด้านหลังเกือบจะไม่ถึงแนะ ผมใช้เวลาเปลี่ยนชุดอยู่ในห้องน้ำอยู่นานหน่อย จากนั้นก็เดินออกมาด้วยเสื้อยืดกางเกงยีนส์เหมือนเดิม และพยายามมองหาโทยะ ว่าอยู่แถว ๆ นี้รึเปล่า เผื่อว่าอยู่จะได้ไม่ต้องโทร แต่จู่ ๆ ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเรียกผมจากทางด้านหลัง

 

            " น้องครับ..........น้องนั้นแหละครับ พอดีพี่มีเรื่องรบกวนน้องนิดหน่อย ยังไงขอน้องช่วยพี่ทีนะครับ พี่ตามหาเพื่อนพี่ไม่เจอ "

 

            " อ๊ะ......ได้ขะ......ค่ะ ว่าแต่เพื่อนของพี่หน้าตาเป็นยังไงเหรอขะ.....คะ เพื่อว่าหะ.......หนูจะเคยเห็นตอนเดินผ่าน " ผมพูดรับออกไปแบบติด ๆ ขัด ๆ ไม่ใช่เพราะอะไรหรอกนะ แค่มันรู้สึกอายเวลาต้องพูดคะ ค่ะ ไม่ก็เวลาที่ต้องเรียกตัวเองว่าหนู อะไรแบบนั้น

 

            " พี่มั่นใจนะครับ ว่าน้องต้องเคยเห็นแน่นอน " เขาพูดพร้อมกับยื่นรูปมาให้ผมดู ซึ่งมันทำให้ผมตกใจและเดินถอยห่างออกมาจากผู้ชายคนนี้ทันที " เพื่อนที่พี่ตามหา เค้าชื่อว่า เอกราช  รัฐประชา อายุ 25 ปี ชื่อเล่นว่า เอก และตอนนี้ดูเหมือนจะกลายเป็นผู้หญิง ที่ใช้ชื่อว่า อาเคมิ   ยูกิโกะ อยู่น่ะครับ " เขาพูดยิ้ม ๆ ก่อนที่จะปรากฎชายชุดสูทสีดำอีก 2 คนค่อย ๆ เดินมาล้อมผมไว้ ผมเริ่มแปลกใจนิด ๆ ว่ากลุ่มคนเดินห้างที่ปกติจะผ่านมาบ้างประปรายเดี๋ยวนี้กลับไม่มีซักคน เจ้าพวกนี้ทำยังไงกันนะ

 

            " นายเป็นใคร....มีธุระอะไรกับผม และเพื่อนของผมอยู่ที่ไหน " ในเมื่อรู้กันขนาดนี้แล้ว คงไม่มีอะไรที่จะต้องปิดบังกันอีก ผมพูดออกมาด้วยภาษาของผู้ชายที่ผมถนัด

 

            " ว้า.....ไม่เอาสิครับ พูดแบบเดิมดีกว่านะ ถึงมันจะดูติด ๆ ขัด ๆ ไปบ้าง แต่มันก็น่ารักกว่าการพูดแบบผู้ชายนะครับ "  เขาพูดพร้อมกับส่ายหน้า " แต่ถ้าคณจะพูดกันแบบผู้ชายจริง ๆ ผมก็โอเคอยู่นะ คุณคงไม่ลืมนะครับคุณเอก ว่าพวกผมคือใคร ก็คุณเป็นคนฆ่าคนของเราไปตั้งหลายคน ถึงจะอยู่คนละสายงานกับผมก็เถอะนะ " เขายกมือข้างหนึ่งขึ้นมา จากนั้นก็มีละอองสีม่วงบาง ๆ ลอยขึ้นมารอบมือของเขา แล้วเขาก็มองตรงมาที่ผม ก่อนจะพูดอีกครั้ง " ผมชื่อหลงเซียงหยู เป็นหนึ่งในจอมพลขององค์กรเงา และคุณคือภารกิจของผมครับคุณเอก "

            ผมพยายามลองใช้พลังสมาธิเร่งอัตราการทำงานของสมอง แต่กลับทำไม่ได้ เหมือนกับว่าทันทีที่สมองถูกกระตุ้นให้ทำงานเกิดจำกัด มันจะถูกตัดให้กลับมาทำงานตามปกติทันที......แล้วแบบนี้ผมจะเอาอะไรไปสู้ล่ะเนี้ย จะใช้มวยไชยาในร่างแบบนี้ก็ไม่น่าจะไหว ร่างกายที่ไม่เคยฝึกฝนความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหากฝืนใช้คงได้พิการแน่นอน

 

            จู่ ๆ ชายข้างหน้าก็มาหยุดยืนอยู่ต่อหน้าผมในระยะประชิด ผมพยายามเหวี่ยงหมัดเข้าชกใส่ใบหน้าของอีกฝ่าย แต่เป็นอย่างที่คิด ชายที่ชื่อหลงเซียงหยูยกฝ่ามือขึ้นมารับและจับมือผมค้างไว้อยู่แบบนั้นอย่างง่ายดาย ผมพยายามดึงมือตัวเองออกมา แต่ก็สู้แรงอีกฝ่ายไม่ได้อยู่ดี

 

            จากนั้นเขาก็ชี้นิ้วที่มีไอสีม่วงซึ่งขึ้นรูปเป็นเข็มแหลมมาจิ้มที่หัวไหล่ผมอย่างรวดเร็วจนเลือดไหล ผมรีบกระโดดถอยหลังออกห่างจากเขา พร้อม ๆ ความปวดของหัวไหล่ ผมดึงแขนเสื้อตรงหัวไหล่ขึ้นไปดู ก็พบว่ามีไอสีม่วงกระจายออกมาจากบาดแผลเหมือนโดนมีดบาดบนหัวไหล่

 

            " นี่นาย.....นายทำอะไร โอ้ย....ทำไมปวดอย่างนี้นะ " ผมกัดฝันทนกับความเจ็บปวด พร้อมกับจ้องมองไปยังหลงเซียงหยู เห็นเขาเก็บเลือดที่ติดอยู่ปลายนิ้วลงหลอดแก้วเล็ก ๆ แล้วมองมาทางผมอย่างยิ้ม ๆ

 

            " อย่ากังวลไปเลยครับ อาการปวดนั้นเดี๋ยวซักพักก็หาย คิดซะว่าเป็นการตีตราจองตัวคุณ เพื่อแสดงให้คนอื่นรู้ว่าคุณเป็นของผมคนเดียวก็ได้ งานของผมครั้งนี้มีเพียงแค่เอาตัวอย่างเลือดของคุณไปทดสอบกับตัวยาที่เราผลิตขึ้นมาเท่านั้น ถึงแม้ผมจะอยากพาคุณไปด้วย แต่ก็ขัดคำสั่งไม่ได้ น่าเสียดายจริง ๆ ที่ต้องปล่อยคนสวยแบบคุณไป "

 

            เปรี้ยง!!.....เสียงดังขึ้นมาจากด้านข้าง ผมเห็นโทยะ วิ่งมาอย่างเร่งรีบพร้อม ๆ กับชกพวกสมุนเงาที่ขวางทางไปด้วย " พวกแก......ออกมาให้ห่างจากเธอเดี๋ยวนี้นะ ย้าก........... "

 

            " ดูเหมือนเวลาของเราจะหมดลงแล้วสินะครับ " หลงเซียงหยูหันหน้าไปมองโทยะที่กำลังวิ่งมา และดูเหล่าสมุนเงาที่แตกกระเจิงเพราะถูกแรงเหวี่ยง " เอาเป็นว่าครั้งหน้าเมื่อเราเจอกันอีกครั้ง ผมหวังว่าตอนนั้นคงได้ยินคำว่าคะ หรือหนูได้อย่างเต็มปาก กว่านี้นะครับ เอาไว้ตอนนั้นเราค่อยมาเดทกันนะ น้องคนสวย "

 

            สมุนเงาคนหนึ่งโยนก้อนอะไรซักอย่างลงพื้น เกิดเป็นแสงสว่างจ้าจนทำให้ตาบอดไปชั่วขณะ ผมรู้สึกเหมือนมีคนมาจูบเบา ๆ ที่หน้าผาก และได้ยินเสียงกระซิบข้าง ๆ หู " ขอตัวก่อนนะครับคุณยูกิโกะ คุณน่ารักมากครับ ถึงแม้จะใส่ชุดแบบนี้อยู่ก็เถอะนะ ฮ่ะ ๆ ๆ "

 

            และกว่าผมจมองอะไรได้ตามปกติ ก็พบว่าหลงเซียงหยู และสมุนเงาทุกคนได้หายตัวไปหมดแล้ว เพียงแต่อาการปวดไหล่ผมมันยังมีอาการอยู่ แต่น่าแปลกใจ เพราะผมมองเห็นว่าแผลมันค่อย ๆ สมานกันอย่าช้า ๆ แต่ว่าละอองสีม่วงมันยังลอยค้างอยู่บนแปล และดูเหมือนว่าละอองดังกล่าวจะต่อต้านการสมานแผลของร่างกายผมอยู่

 

            " ยูกิ เธอเป็นอะไรรึเปล่า พวกนั้นทำอะไรเธอมั้ย " โทยะวิ่งมาถามผมด้วยสภาพบาดแผลเต็มตัว ตอนแรกผมก็จะถามว่าหายไปไหนมา แต่ดูสภาพแบบนี้ หมอนี่ก็คงเจอมาไม่เบาเหมือนกันสินะ แต่แล้วจู่ ๆ หัวไหล่ของผมก็ปวดอย่างรุนแรงขึ้นมาอีกครั้ง ไอสีม่วงเปลี่ยนเป็นเงาสีดำจนกลายเป็นกลุ่มความมืด จากนั้นมันก็เหมือนจะพยายามรวมตัวกันเพื่อซึมเข้าไปในร่างกายผม โทยะ เห็นดังนั้นก็กำลังจะสะบัดมือเพื่อปัดกลุ่มเงาดำนั้นออกไป แต่ก็ได้เกิดแสงออกมาจากบาดแผลของผมขึ้นก่อน ทำให้ละอองสีดำดังกล่าวสลายตัวหายไปในที่สุด

 

            " โอ้ย.....ปะ....ปวด " ผมเผลออุทานออกมา โทยะทำท่าเหมือนจะอุ้มผมในท่าอุ้มเจ้าหญิง แต่ผมส่ายหน้าบอกไม่เอา จากนั้นก็ค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน ถึงแม้จะยังงง ๆ กับร่างกายตัวเอง และมีอาการยืนเซอยู่บ้างนิดหน่อย แต่ก็พอไหว มองดูหัวไหล่ก็พบว่าบาดแผลได้หายไปหมดแล้ว ทั้งผมและโทยะเลยรีบกลับบ้าน เพราะอยู่ที่นี้คงไม่ปลอดภัยกับเราทั้งสองคนเท่าไหร่นัก

-----------------------------------

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา