Chocolate & Despair
7.7
เขียนโดย [NNS]
วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 19.30 น.
13 chapter
1 วิจารณ์
15.16K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 17.17 น. โดย เจ้าของนิยาย
13) Yuuki Lovers(ตอนพิเศษ)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ “กลับมาแล้ว”
ผมเปิดประตูเข้ามาในบ้านของตัวเองถึงจะบอกว่าบ้านแต่ก็เป็นห้องคอนโดระดับกลางที่พี่ของผมเป็นเจ้าของอยู่แต่เขาไม่ได้ใช้ผมเลยขอมาซะเลยแต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่ได้อยู่คนเดียว
ยานากิ ซาซากิ หรือคุณซากะผมกับเขาคบกันมาได้5ปีกว่าๆแล้วตอนนี้เราอยู่ด้วยกันไม่สิพูดให้ถูกคืออยู่ด้วยกันตั้งแต่ผมเข้ามหาลัยปีสองแล้วตอนนี้เราทำงานกันทั้งคู่ ผมเป็นรองศาสตราจารย์ เขาเป็น บรรณนาธิการสำนักพิมพ์ชื่อดังเราสองคนต่างไม่ค่อยมีเวลาให้กันในหนึ่งวันการเจอหน้ากันก็ค่อนข้างยากผมไปทำงานแต่เช้ากลับมาตอนมืดๆหน่อยเขาไปทำงานตอนบ่ายกลับมาก็เกือบรุ่งสางเราเจอหน้ากันแต่ตอนอีกฝ่ายหลับเท่านั้นเอง
เฮ้อ ว่าไปช่วงนี้งานเยอะจริงๆแฮะ ช่วงนี้ใกล้สอบแล้วด้วย
รู้สึกว่าช่วงนี้จะเป็นช่วงใกล้ปิดต้นฉบับด้วยสินะคงไม่ได้เจอกันหรอก
ผมคิดยังงั้นแล้วเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อตรวจสอบงานของตัวเองต่อการเอาเรื่องส่วนตัวปนกับงานสุดท้ายมันจะล้มเหลวทั้งคู่เปล่าๆ
ว่าไปเราไปเจอเค้าได้ไงนะ
จริงสิวันนั้นเองสินะ
หลังจากผมที่โดนเรย์ปฏิเสธผมก็เดินออกมาจากคอนโดของเขา
ผมเดินไปเรื่อยๆปล่อยให้สายฝนจากพายุกระหน่ำลงมาเรื่อยปล่อยให้น้ำฝนไหลผ่านใบหน้าปะปนไปกับน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุดผมปฏิญาณไว้แล้วว่าจะไม่ให้ใครเห็นน้ำตานอกจากคนที่ตัวเองรักเท่านั้นผมเดินไปบนถนนที่ไม่ผู้คนเดินไปเรื่อยๆโดยไม่มีจุดหมาย
ในอีกมุมหนึ่งคือผมไม่มีที่จะไปพอผมรู้ข่าวเรย์ก็หาเรื่องมาที่นี่ทันทีไม่ได้เตรียมของมาสักนิดในตอนแรกผมคิดว่าจะขอค้างที่บ้านของเรย์แต่ผมตอนนี้ไม่มีอารมณ์ที่จะทำแบบนั้นอีกแล้วทั้งๆที่ผมคิดว่าตลอดว่าเขาไว้ใจผมที่สุดแท้ๆเราอยู่ด้วยกันเสมอตั้งแต่เด็กเขามักจะคอยจับชายเสื้อผมเดินตามผมไปไหนมาไหนตลอด
แต่ ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว
“...”ผมที่หยุดยืนกับที่เพิ่งรู้สึกตัวว่าไม่มีฝนหยดลงมาถึงตัวแล้ว
“ถ้าไม่รังเกียจเอาไปใช้สิครับ”ผมหันกลับไปมองต้นเสียงทันที
เขาเป็นผู้ชายตัวค่อนข้างสูงกว่าผมพอสมควรน่าจะสัก170ก็ได้ดวงที่ดูแหลมคมไม่เป็นมิตรมองมาที่ผม
“!!!”
แย่แล้ว
ผมรีบหันกลับมาเช็ดตาของตัวเองทันที
บ้าเอ้ย ตั้งใจไม่ให้ใครเห็นแล้วแท้ๆ
“ผม ยานากิ ซากากิ ครับคุณละ”
“มินาคามิ ยูคิ”
“กำลังจะไปไหนเหรอครับ”
“ไป...ไหน...งั้นเหรอ”
“ไม่รู้สิ”
“งั้น....ไปที่ห้องของผมมั้ยครับ”
“หาาาาา”
ผมดดนจับแขนแล้วดึงให้เดินตามเขาไปทันทีเลย
“ไม่ต้องห่วงครับห้องผมอยู่ใกล้ๆนี่เอง”
“ชั้นไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้นเฟ้ย”เขาไปตอบผมดึงผมเดินไปเรื่อยๆ5นาทีต่อมาเราก็หยุดที่หน้าอพาทเมนต์หนึ่งมันดูเก่าๆซ่อมซ่อพอสมควร
“เข้าไปกันเถอะครับ”เขาเดินจึ้นไปทันทีมาถึงตรงนี้ผมคงต้องตามเค้าไปเท่านั้น
ช่างเถอะ ถ้าวางแผนอะไรไว้ ค่อยสั่งสอนให้เข็ด
ภายในห้องของเขาแม้จะดูค่อนข้างเก่าแต่สะอาดพอสมควร
“นี่ผ้าขนหนูครับเชิญใช้ห้องน้ำได้ตามสบายเลยเดี๋ยวผมหาเสื้อผ้าให้เปลี่ยนนะครับเสื้อผ้าถอดวางไว้ตรงไหนก็ได้เลย
“อืม”ผมยืนถอดเสื้อผ้าตรงนั้นเสื้อยืด กางเกงขาสั้น ผมในตอนนี้เหลือแต่กางเกงชั้นในแล้ว
ผมใช้ผ้าขนหนูพันตัวไว้แล้วถอดกางเกงชั้นในช้า
เขากำลังค้นหาเสื้อผ้าอยู่แต่ก็แอบเหลียวตามองผมแกล้งมองไม่เห็นแล้วเดินเข้าไปห้องอาบน้ำ
ผมอาบน้ำไปประมาณ10นาทีก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“เสื้อผ้าผมวางไว้หน้าห้องนะครับ”
“อ่าขอบใจ”
ผมเปิดประตูออกไปเจอเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นอยู่มันเป็นเสื้อผ้าธรรมดาเสื้อยืดสีขาวกางเกงขาสั้นสีดำแต่
หลวมแฮะ หลวมขนาดถ้าผมขยับตัวแรงๆจะหลุดทันทีเลยแฮะแถมเสื้อคอก็กว้างเกินไปจนเปิดไหล่ผมอีกแต่ช่วยไม่ได้แฮะยังดีกว่าเปียกนั้นแหละผมแต่งตัวเสร็จก็เดินออกมา
“อะ จะเอาน้ำอะไรดีครับมีน้ำอัดลมน้ำส้มหรือจะเอาพวกกาแฟหรือน้ำชาดีครับ”
“งั้นขอชาละกัน”
“รอสักครู่นะครับ”เขาจุดไฟต้มน้ำทันที
“ไปรอที่ห้องก่อนก็ได้นะครับพอดีข้างนอกไม่มีโต๊ะหรือโซฟาไว้รับแขกเข้าไปนั่งที่เตียงได้ตามสะดวกเลยนะครับอาจรกไปสักหน่อย”
“อ่า”พูดมากแฮะ
ผมเดินเข้าไปในห้องทันที
อืมมมมม จะวางไงดีละรกมันก็รกละนะแต่น่าจะเป็นวางของไม่เป็นที่มากกว่าไม่มีขยะสักชิ้นเดียวมีพวกหนังสือกระจายเต็มไปหมดทั้งวรรณกรรมทั้งการ์ตูนแม้แต่พวกนิยาย
เก็บใส่ชั้นสักหน่อยละกัน
“ขอโทษที่ให้รอครับ อะ!!!”
“หืม”ผมเงยหน้าจากหนังสือของเขาที่หยิบมาอ่านโดยพลการ
“ขอโทษทีนะที่หยิบมาอ่านโดยไม่ขอ”
“อะเปล่าครับเรื่องนั้นไม่ได้ว่าอะไรแต่ต้องให้คุณยูคิที่เป็นแขกช่วยเก็บห้องให้อีกนาอายจริงๆ”
“ไม่หรอกแค่เอาพวกหนังสือไปวางบนชั้นนะ ชั้นบนชั้นใส่พวกวรรณกรมนิยายอยู่รองมาแล้วด้านล่างสุดเป้นการ์ตูนนะ”
“อะครับขอบคุณครับ”
ผมหยิบชาขึ้นมาจิบเล็กน้อย อร่อยดีแฮะ
“ว่าไปคุณยูคิชอบอ่านหนังสือเหรอครับ”
“อย่าเรียกคุณเลยนายนะอายุมากกว่าชั้นอีกนะ”
“เอ๋ จริงเหรอครับ!!!”
“นายจะบอกว่าชั้นหน้าแก่หรือไง หะ”
“อะ เปล่าครับ แค่เห็นคุณดูเป็นผู้ใหญ่ดีแค่นั้นเองละครับ”
“เหรอ”ผมปิดหนังสือแล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้เขา
“แล้วอะไรของชั้นที่ดูเป็นผู้ใหญ่ละ หน้าตา ท่าทาง การวางตัว คำพูด หรือว่า [ร่างกายล]ละ”
“!!!”
“ตอนชั้นถอดเสื้อผ้านายแอบบมองชั้นนะชั้นรู้อยู่แค่แกล้งทำเป็นไม่รู้แค่นั้น”
“...”
“แล้วที่เรียกชั้นเข้ามาบ้านแล้วให้เข้ามานั่งถึงในห้องเนี่ยจะวางยาชั้นหรือไง”
“ผมไม่คิดว่าคุณคิดอย่างนั้นนะครับ”
“เห ดูมั่นใจดีนี่ทำไมละ”
“ก็ถ้าคุณคิดอย่างนั้นคุณคงไม่จิบชาหรอกครับ”
ว่าไป....จริงด้วยแฮะ ผมจิบชาไปแล้ว อึกใหญ่ซะด้วยแต่ตอนนี้ไม่มีอาการอะไรแปลกๆเลยสงสัยจะระแวงไปแฮะ
“ขอโทษด้วยละกันนะครับคุณซากากิสงสัยผมจะเล่นแรงไป”
“ไม่เป็นไรครับ”
“กับผมที่เด็กกว่าไม่ต้องเติมคุณกับครับตอนคุยด้วยก็ได้นะครับ”
“งั้นเหรอ แต่ผมชินแบบนี้นะครับ”
“ครับอย่างนั้นก็ได้ครับ”
“นายไม่ต้องสุภาพก็ได้นะครับ ยะ...ยูคิ....เรียกยังงี้ได้ไหมครับ”
“ตามสบายเลยคุณซากะ”
“คุณซากะ???”
“ก็ซากากิมันยาวนี่พอย่อเลยกลายเป็นซากะหรือว่าไม่ชอบ”
“เปล่า เอาแบบนั้นก็ได้”
“ว่าไปนายอ่านอะไรอยู่นะครับยูคิ”
“นี่เหรอ [ตะวันสุดขอบฟ้า] ของอาจารย์มาซาโอมิไงเป็นผลงานแรกๆของเขาชั้นเลยไม่มีนะ”
“นายชอบเหรอ”
“ก็นิดหน่อย”
“ยืมเอาไปอ่านก็ได้นะครับ ไว้วันหลังค่อยคืน”
“ไม่ละตอนนี้ยังไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งเลย”
“เอ๋!!!”
“พอดีมาจากกียวโตกะทันหันนะเลยยังไม่ได้หาที่พัก”
“งั้นที่ร้องไห้นั้นก็....”
ปึก ผมขว้างปากกาไปปักที่กำแพงด้านหลังเขา
“ใครจะไปร้องไห้เพราะเรื่องแค่รั้รวะ”
“ขะ ขอ โทษครับแล้วเรื่องอะไรเหรอครับ”
“...”
“พอจะบอกผมได้ไหมครับ”
“...”ผมเบนหน้าหลบเขาผมรู้สึกว่าตาของผมอุ่นขึ้นอีกแล้วแต่ผมจะร้องไห้ต่อหน้าคนอื่นไม่ได้ไม่ว่ายังไงก็จะไม่อ่อนแอต่อหน้าแต่ในตอนนั้นเอง
“ไม่เป็นไรนะครับ ถ้าอยากจะร้องก็ร้องออกมาเถอะครับ”มือใหญ่ๆของเขากำลังลูบที่หัวของผม มือนั่นทั้งใหญ่ทั้งอบอุ่น
ผมโดนมือคูนั้นดึงเข้าไปหน้าของผมซบที่หน้าอกของเขา
“ถ้าไม่อยากให้ผมเห็นละก็แบบนี้เป็นยังไงครับ”
“เป็นยังไง จะเป็นยังละไอ้บ้าเอ้ย”ผมได้แต่ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาแล้วด่าเขาไปแบบนั้นแต่แขนของเขายังคงโอบกอดผมไว้มือของเขาลูบหัวของผมเบาๆ
เวลาผ่านไปไม่รู้ว่านานแค่ไหน
หลับไปเหรอ ร้องไห้แล้วหลับไปเหมือนเด้กเลยแฮะผมค่อยๆลุกขึ้นมา
“ตื่นแล้วเหรอครับ”
“ชั้นหลับไปนานแค่ไหน”
“ชั่วโมงหนึ่งได้มั้งครับจะทานอะไรหน่อยครับไหมทำอาหารไว้ให้แล้ว”
“ขอบคุณเดี๋ยวชั้นออกไป”ข้างนอกฝนยังคงตกอยู่เหมือนเดิม
ผมเดินออกมาบนโต๊ะมีอาหารวางอยู่
“มีอะไรที่กินไม่ได้มั้ยตรับ”
“ชั้นไม่เลือกกินนะ”
“ตรับ”
เราเริ่มกินกันทันที
“ก็ใช้ได้นะ”
“ขอบคุณครับผมไม่ได้ทำอาหารเองนานไม่ค่อยมั่นใจเหมือนกัน”
“นี่คุณซากะ”
“ครับ???”
“ขอยืมไอ้นั้นได้ไหม”
ผมชี้ไปที่คีย์บอร์ดที่ตั้งอยู่มุมห้อง
“ก็ได้หรอกครับถึงจะไม่ได้ใช้นานก็น่าจะยังไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับว่าแต่จะร้องเพลงเหรอครับ”
“ร้องไห้อย่างเดียวมันไม่ค่อยโล่งนะ”ใช่ผมเป็นแบบนี้ตลอดพอร้องไห้เสร็จเริ่มสงบสติก็จะร้องเพลงออกมาเสียงดังพอทำแบบนั้นแล้วมันจะรู้สึกโล่ง
“งั้นเดี๋ยวผมไปติดตั้งให้นะครับชามฝากเอาไปไว้ที่ล้างหน่อยได้ไหมครับ”
“ได้สิ”
เขาลุกขึ้นไปเสีบปลั๊กแล้วเริ่มปรับอะไรต่างผมก็ยกชามไปเก็บพออกมาก็
“ใช้ได้แล้วครับ”
“ขอบใจนะ”ผมเดินเข้าไปลองกดที่ลิ่มแต่ละตัวดูไม่มีปัญหาอะไรเสียงไม่เพี้ยนผมเงยหน้ามองเขาที่กำลังจ้องผมอย่างสนใจ
“มะ มองอะไรเล่า”เมื่อถูกจ้องแบบนั้นผมจึงรู้สึกเขินจนใบหน้าเริ่มรู้สึกร้อนผ่าว
“เอ๋!!!ไม่ได้เหรอครับ”
“ฟังได้แต่ห้ามดูไปล้างชามเลยไป”
ผมดันเขาเข้าไปในห้องครัวทันที
ผมเดินกลับมาที่หน้าคีย์บอร์ดอีกครั้งเริ่มบรรเลงเพลงที่คุ้นเค้ย Rolling Girl ผมเปล่งเสียงร้องของผมออกมาสุดที่เสียงของผมจะร้องออกมาได้
ローリンガールはいつまでも 届かない夢見て
Lonely girl wa itsu made mo todoka nai yume mite
สาวน้อยผู้โดดเดี่ยวคนนั้น ได้แต่เฝ้ามองความฝันที่ไม่อาจเอื้อมถึง
騒ぐ頭の中を掻き回して,掻き回して。
sawagu atama no naka o kaki mawashite kaki mawashite
เสียงข้างในหัวดังก้องจนหัวปั่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า 「問題ない。」と呟いて,言葉は失われた?
mondai nai to tsubuyaite kotoba wa ushina wareta?
พึมพำว่า “ไม่มีปัญหา”แต่เหมือนกับว่าคำเหล่านั้นได้หล่นหายไป? もう失敗,もう失敗。
mou shippai mou shippai
ผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า
間違い探しに終われば,また,回るの!
machigai sagashi ni owa reba mata mawaru no!
ถ้าหาข้อผิดพลาดนั่นได้ จะขอลงไปกลิ้งอีกครั้ง!
もう一回,もう一回。
mou ikkai mou ikkai
อีกครั้ง ขออีกซักครั้ง
「私は今日も転がります。」と,
watashi wa kyou mo korogari masu to
“วันนี้ฉันจะกลิ้งอีกครั้ง”
少女は言う 少女は言う
shoujo wa iu shoujo wa iu
เด็กสาวบอกอย่างนั้น เธอเอ่ยเช่นนั้น
言葉に意味を奏でながら!
kotoba ni imi o kanade nagara!
ขณะที่คำพูดกำลังแสดงความหมายของมันออกมา「もう良いかい?」
mou ii kai?
“พอได้รึยัง?”
「まだですよ,まだまだ先は見えないので。息を止めるの,今。」
mada desu yo mada mada saki wa mie nai node iki o tomeru no ima
“ยัง... ยังไม่เห็นเส้นทางข้างหน้าเลย เก็บลมหายใจของเธอไว้ซะ” ローリンガールの成れの果て 届かない,向こうの色
Rolling girl no nare no hate todoka nai mukou no iro
เด็กสาวผู้สับสนซึ่งไม่อาจไปถึงปลายทาง อีกฟากฝั่งของสีสัน
重なる声と声を混ぜあわせて,混ぜあわせて。
kasanaru koe to koe o maze awase te maze awase te
ผสานเสียงที่กังวาลก้องให้ซ้อนทับกับความสุข ผสมมันขึ้นมา
「問題ない。」と呟いた言葉は失われた。
mondai nai totsubuyaita kotoba wa ushina wareta
ที่เคยพึมพำไว้ว่า “ไม่มีปัญหา” มันไม่มีอีกต่อไปแล้ว
どうなったって良いんだってさ,
dou nattatte iin datte sa
จะทำยังไงดีล่ะเนี่ย
間違いだって起こしちゃおうと誘う,坂道。
machigai datte okoshi chaou to sasou sakamichi
พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ความผิดนั้นเอียงหายไปもう一回,もう一回。
mou ikkai mou ikkai
อีกครั้ง ขออีกซักครั้ง
私をどうか転がしてと
watashi o douka korogashite to
กลิ้งไปกันเถอะ
少女は言う 少女は言う
shoujo wa iu shoujo wa iu
เด็กสาวบอกอย่างนั้น เธอเอ่ยเช่นนั้น
無口に意味を重ねながら!
mukuchi ni imi o kasane nagara!
ความเงียบกำลังเปิดเผยตัวตนออกมา「もう良いかい?」
mou ii kai?
“พอได้หรือยัง?”
「もう少し,もうすぐ何か見えるだろうと。息を止めるの,今。」
mou sukoshi mou sugu nanika mieru darou to iki o tomeru no ima
“อีกนิด... รู้สึกเหมือนจะเห็นอะไรบ้างแล้วล่ะ เก็บลมหายของเธอไว้สำหรับตอนนั้นด้วยนะ” もう一回,もう一回。
mou ikkai mou ikkai
อีกครั้ง ขออีกซักครั้ง
「私は今日も転がります。」と,
watashi wa kyou mo korogari masu to
“วันนี้ฉันก็จะกลิ้งอีกครั้ง”
少女は言う 少女は言う
shoujo wa iu shoujo wa iu
เด็กสาวบอกอย่างนั้น เธอเอ่ยเช่นนั้น
言葉に笑みを奏でながら!
kotoba ni emi o kanade nagara!
ขณะที่คำพูดกำลังแสดงความหมายของมันออกมา「もう良いかい?もう良いよ。そろそろ君も疲れたろう,ね。」
mou ii kai? mou ii yo soro soro kimi mo tsukareta roune
“พอได้รึยัง? พอเถอะนะ... เธอเองก็เหนื่อยมากแล้วนะ”
息を止めるの,今。
iki o yameru no ima
ถ้าอย่างนั้น หยุดลมหายใจไปตรงนี้เลยแล้วกัน!!
เมื่อผมร้องจบผมก็เห็นเขายืนปรบมืออยู่หน้าห้องครัวผมรู้สึกเขินจนใบหน้าร้อนผ่าวจึงรีบหันหน้าหนีทันที
เขาเดินตรงเข้ามากอดผมไว้
“ชั้นรักนายบูคิ”
“เอ๋!!!”ผมรู้สึกตกใจมากที่เขาบอกผมตรงๆแบบนี้ดดยที่เรารู้จักกันไม่ถึงหนึ่งวันด้วยซ้ำ
“ใบหน้าของนายที่เปื้อนน้ำตานะดูดึงดูดมากก็จริงแต่นายเมื่อกี๋ดูดีมากเลยละชั้นอยากเห็นอยากเห็นนายมากกว่านี้อยากเห็นนายยิ้มแย้มอยากเห็นนายมีความสุขอยากสนุกไปกับนาย”
เขาจูบที่หน้าผากผมเบาๆ
“นายละว่าไง”
“...”ผมรู้สึกเขินมากจนเบือนหน้าหนีแต่
ผมหน้ากลับมาดึงคอเสื้อของเขาแล้วจูบที่ริมฝีปากของเขา
“นะ...นี่แหละคำตอบ...ขะ ของชั้นละ”
“ยูคิ นายนี่น่ารักจริงๆ”
กร๊อบ (เหมือนจะเป็นเสียงกระดูกข้อต่อเคลื่อนนะครับ-NNS)
“นายว่าใครน่ารัก หาาาาาา”
“ขะ ขอโทษครับ”
.
.
.
.
หนัก
ผมดีดตัวลุกขึ้นทันทีเหมือนผมจะหลับไปทันทีหลังทำงานเสร็จข้างๆของผมมีคุณซากะที่ท่าทางตกใจที่ผมตื่นขึ้นมา
“ขะ ขอโทษนะ กลัวนายหนาว ทำให้ตื่นหรือเปล่านะ ยูคิ”
“ไม่หรอกพอดีคิดอะไรเพลินๆแล้วหลับไปนะ”
“ระ เหรอ”
“นายนะ”
“อะ อะไรเหรอ”
“ทำไมหลบตาชั้น”
“ปะ เปล่านี่”เขาหันหน้าหลบตาผมจริงๆ
“นายแอบจูบชั้นตอนหลับเหรอ”
หน้าของเขาซีดลงทันทีดูง่ายจริงๆแฮะ
“ซากะ ซาาาาาง”
ผมเดินไปหาเขาเขาหลับตาลงเพราะกลัวทันทีแน่นอนละถ้าเป็นผมตอนโกรธละก็ฆ่าเขาได้เลยทีเดียวแต่
“...”ผมก้มลงไปจูบเขาเบาๆ
“!!!”เขาท่าทางจะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
“ถ้าอยากจูบละก็บอกหันมาตรงๆสิ”ผมยิ้มให้เขา
“ยูคิ”เขาพุ่งเข้ามากอดผมทันที”ทำกันเถอะ”
“!!!”ขอดื้อๆเลยแต่ช่างมันเถอะ
“ครั้งนี้จะยอมให้ละกันนะ”เขายิ้มอย่างเบิกบานแล้วอุ้มผมไปที่ห้องทันที
“ดะ เดี๋ยวคุณซากะผะผมเดินเองได้นะ เหวอ”เขาโยนผมลงบนที่นอนนุ่มๆทันทีเขาครึ้มมาค่อมตัวผมไว้เขาในตอนนี้ดูดุดันจนผมทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียวเขาจูบผมใช้มือค่อยๆปลดกระดุมเสื้อผมออก
“ยูคิ นี่ นาย”
“อะ อะไรเหรอ”
“กล้ามนายจะเกินหน้าเกินตาไปแล้วนะเขาจ้องมองมาที่กล้ามหน้าท้องของผม
“กะ ก็ช่วยไม่ได้นี่ที่บ้านหลักเขาให้ฝีกทุกวันนี่”
“เหรอแต่ตัวเองเป็นรับแต่เกินหน้ารุกแบบชั้นคงต้องลงโทษสักหน่อยแล้ว”
เขาใช้มือและลิ้นไล่ไปตามส่วนต่างๆของและแล้วคืนที่ยาวนานนั้นพบก็พบความจริงที่ว่าตอนทำกับคุณซากะไม่ควรทำให้เขาไม่พอใจ
ไม่งั้นละก็จะโดนเล่นงานอย่างรุนแรงเลยทีเดียว
END
ผมเปิดประตูเข้ามาในบ้านของตัวเองถึงจะบอกว่าบ้านแต่ก็เป็นห้องคอนโดระดับกลางที่พี่ของผมเป็นเจ้าของอยู่แต่เขาไม่ได้ใช้ผมเลยขอมาซะเลยแต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่ได้อยู่คนเดียว
ยานากิ ซาซากิ หรือคุณซากะผมกับเขาคบกันมาได้5ปีกว่าๆแล้วตอนนี้เราอยู่ด้วยกันไม่สิพูดให้ถูกคืออยู่ด้วยกันตั้งแต่ผมเข้ามหาลัยปีสองแล้วตอนนี้เราทำงานกันทั้งคู่ ผมเป็นรองศาสตราจารย์ เขาเป็น บรรณนาธิการสำนักพิมพ์ชื่อดังเราสองคนต่างไม่ค่อยมีเวลาให้กันในหนึ่งวันการเจอหน้ากันก็ค่อนข้างยากผมไปทำงานแต่เช้ากลับมาตอนมืดๆหน่อยเขาไปทำงานตอนบ่ายกลับมาก็เกือบรุ่งสางเราเจอหน้ากันแต่ตอนอีกฝ่ายหลับเท่านั้นเอง
เฮ้อ ว่าไปช่วงนี้งานเยอะจริงๆแฮะ ช่วงนี้ใกล้สอบแล้วด้วย
รู้สึกว่าช่วงนี้จะเป็นช่วงใกล้ปิดต้นฉบับด้วยสินะคงไม่ได้เจอกันหรอก
ผมคิดยังงั้นแล้วเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อตรวจสอบงานของตัวเองต่อการเอาเรื่องส่วนตัวปนกับงานสุดท้ายมันจะล้มเหลวทั้งคู่เปล่าๆ
ว่าไปเราไปเจอเค้าได้ไงนะ
จริงสิวันนั้นเองสินะ
หลังจากผมที่โดนเรย์ปฏิเสธผมก็เดินออกมาจากคอนโดของเขา
ผมเดินไปเรื่อยๆปล่อยให้สายฝนจากพายุกระหน่ำลงมาเรื่อยปล่อยให้น้ำฝนไหลผ่านใบหน้าปะปนไปกับน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุดผมปฏิญาณไว้แล้วว่าจะไม่ให้ใครเห็นน้ำตานอกจากคนที่ตัวเองรักเท่านั้นผมเดินไปบนถนนที่ไม่ผู้คนเดินไปเรื่อยๆโดยไม่มีจุดหมาย
ในอีกมุมหนึ่งคือผมไม่มีที่จะไปพอผมรู้ข่าวเรย์ก็หาเรื่องมาที่นี่ทันทีไม่ได้เตรียมของมาสักนิดในตอนแรกผมคิดว่าจะขอค้างที่บ้านของเรย์แต่ผมตอนนี้ไม่มีอารมณ์ที่จะทำแบบนั้นอีกแล้วทั้งๆที่ผมคิดว่าตลอดว่าเขาไว้ใจผมที่สุดแท้ๆเราอยู่ด้วยกันเสมอตั้งแต่เด็กเขามักจะคอยจับชายเสื้อผมเดินตามผมไปไหนมาไหนตลอด
แต่ ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว
“...”ผมที่หยุดยืนกับที่เพิ่งรู้สึกตัวว่าไม่มีฝนหยดลงมาถึงตัวแล้ว
“ถ้าไม่รังเกียจเอาไปใช้สิครับ”ผมหันกลับไปมองต้นเสียงทันที
เขาเป็นผู้ชายตัวค่อนข้างสูงกว่าผมพอสมควรน่าจะสัก170ก็ได้ดวงที่ดูแหลมคมไม่เป็นมิตรมองมาที่ผม
“!!!”
แย่แล้ว
ผมรีบหันกลับมาเช็ดตาของตัวเองทันที
บ้าเอ้ย ตั้งใจไม่ให้ใครเห็นแล้วแท้ๆ
“ผม ยานากิ ซากากิ ครับคุณละ”
“มินาคามิ ยูคิ”
“กำลังจะไปไหนเหรอครับ”
“ไป...ไหน...งั้นเหรอ”
“ไม่รู้สิ”
“งั้น....ไปที่ห้องของผมมั้ยครับ”
“หาาาาา”
ผมดดนจับแขนแล้วดึงให้เดินตามเขาไปทันทีเลย
“ไม่ต้องห่วงครับห้องผมอยู่ใกล้ๆนี่เอง”
“ชั้นไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้นเฟ้ย”เขาไปตอบผมดึงผมเดินไปเรื่อยๆ5นาทีต่อมาเราก็หยุดที่หน้าอพาทเมนต์หนึ่งมันดูเก่าๆซ่อมซ่อพอสมควร
“เข้าไปกันเถอะครับ”เขาเดินจึ้นไปทันทีมาถึงตรงนี้ผมคงต้องตามเค้าไปเท่านั้น
ช่างเถอะ ถ้าวางแผนอะไรไว้ ค่อยสั่งสอนให้เข็ด
ภายในห้องของเขาแม้จะดูค่อนข้างเก่าแต่สะอาดพอสมควร
“นี่ผ้าขนหนูครับเชิญใช้ห้องน้ำได้ตามสบายเลยเดี๋ยวผมหาเสื้อผ้าให้เปลี่ยนนะครับเสื้อผ้าถอดวางไว้ตรงไหนก็ได้เลย
“อืม”ผมยืนถอดเสื้อผ้าตรงนั้นเสื้อยืด กางเกงขาสั้น ผมในตอนนี้เหลือแต่กางเกงชั้นในแล้ว
ผมใช้ผ้าขนหนูพันตัวไว้แล้วถอดกางเกงชั้นในช้า
เขากำลังค้นหาเสื้อผ้าอยู่แต่ก็แอบเหลียวตามองผมแกล้งมองไม่เห็นแล้วเดินเข้าไปห้องอาบน้ำ
ผมอาบน้ำไปประมาณ10นาทีก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“เสื้อผ้าผมวางไว้หน้าห้องนะครับ”
“อ่าขอบใจ”
ผมเปิดประตูออกไปเจอเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นอยู่มันเป็นเสื้อผ้าธรรมดาเสื้อยืดสีขาวกางเกงขาสั้นสีดำแต่
หลวมแฮะ หลวมขนาดถ้าผมขยับตัวแรงๆจะหลุดทันทีเลยแฮะแถมเสื้อคอก็กว้างเกินไปจนเปิดไหล่ผมอีกแต่ช่วยไม่ได้แฮะยังดีกว่าเปียกนั้นแหละผมแต่งตัวเสร็จก็เดินออกมา
“อะ จะเอาน้ำอะไรดีครับมีน้ำอัดลมน้ำส้มหรือจะเอาพวกกาแฟหรือน้ำชาดีครับ”
“งั้นขอชาละกัน”
“รอสักครู่นะครับ”เขาจุดไฟต้มน้ำทันที
“ไปรอที่ห้องก่อนก็ได้นะครับพอดีข้างนอกไม่มีโต๊ะหรือโซฟาไว้รับแขกเข้าไปนั่งที่เตียงได้ตามสะดวกเลยนะครับอาจรกไปสักหน่อย”
“อ่า”พูดมากแฮะ
ผมเดินเข้าไปในห้องทันที
อืมมมมม จะวางไงดีละรกมันก็รกละนะแต่น่าจะเป็นวางของไม่เป็นที่มากกว่าไม่มีขยะสักชิ้นเดียวมีพวกหนังสือกระจายเต็มไปหมดทั้งวรรณกรรมทั้งการ์ตูนแม้แต่พวกนิยาย
เก็บใส่ชั้นสักหน่อยละกัน
“ขอโทษที่ให้รอครับ อะ!!!”
“หืม”ผมเงยหน้าจากหนังสือของเขาที่หยิบมาอ่านโดยพลการ
“ขอโทษทีนะที่หยิบมาอ่านโดยไม่ขอ”
“อะเปล่าครับเรื่องนั้นไม่ได้ว่าอะไรแต่ต้องให้คุณยูคิที่เป็นแขกช่วยเก็บห้องให้อีกนาอายจริงๆ”
“ไม่หรอกแค่เอาพวกหนังสือไปวางบนชั้นนะ ชั้นบนชั้นใส่พวกวรรณกรมนิยายอยู่รองมาแล้วด้านล่างสุดเป้นการ์ตูนนะ”
“อะครับขอบคุณครับ”
ผมหยิบชาขึ้นมาจิบเล็กน้อย อร่อยดีแฮะ
“ว่าไปคุณยูคิชอบอ่านหนังสือเหรอครับ”
“อย่าเรียกคุณเลยนายนะอายุมากกว่าชั้นอีกนะ”
“เอ๋ จริงเหรอครับ!!!”
“นายจะบอกว่าชั้นหน้าแก่หรือไง หะ”
“อะ เปล่าครับ แค่เห็นคุณดูเป็นผู้ใหญ่ดีแค่นั้นเองละครับ”
“เหรอ”ผมปิดหนังสือแล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้เขา
“แล้วอะไรของชั้นที่ดูเป็นผู้ใหญ่ละ หน้าตา ท่าทาง การวางตัว คำพูด หรือว่า [ร่างกายล]ละ”
“!!!”
“ตอนชั้นถอดเสื้อผ้านายแอบบมองชั้นนะชั้นรู้อยู่แค่แกล้งทำเป็นไม่รู้แค่นั้น”
“...”
“แล้วที่เรียกชั้นเข้ามาบ้านแล้วให้เข้ามานั่งถึงในห้องเนี่ยจะวางยาชั้นหรือไง”
“ผมไม่คิดว่าคุณคิดอย่างนั้นนะครับ”
“เห ดูมั่นใจดีนี่ทำไมละ”
“ก็ถ้าคุณคิดอย่างนั้นคุณคงไม่จิบชาหรอกครับ”
ว่าไป....จริงด้วยแฮะ ผมจิบชาไปแล้ว อึกใหญ่ซะด้วยแต่ตอนนี้ไม่มีอาการอะไรแปลกๆเลยสงสัยจะระแวงไปแฮะ
“ขอโทษด้วยละกันนะครับคุณซากากิสงสัยผมจะเล่นแรงไป”
“ไม่เป็นไรครับ”
“กับผมที่เด็กกว่าไม่ต้องเติมคุณกับครับตอนคุยด้วยก็ได้นะครับ”
“งั้นเหรอ แต่ผมชินแบบนี้นะครับ”
“ครับอย่างนั้นก็ได้ครับ”
“นายไม่ต้องสุภาพก็ได้นะครับ ยะ...ยูคิ....เรียกยังงี้ได้ไหมครับ”
“ตามสบายเลยคุณซากะ”
“คุณซากะ???”
“ก็ซากากิมันยาวนี่พอย่อเลยกลายเป็นซากะหรือว่าไม่ชอบ”
“เปล่า เอาแบบนั้นก็ได้”
“ว่าไปนายอ่านอะไรอยู่นะครับยูคิ”
“นี่เหรอ [ตะวันสุดขอบฟ้า] ของอาจารย์มาซาโอมิไงเป็นผลงานแรกๆของเขาชั้นเลยไม่มีนะ”
“นายชอบเหรอ”
“ก็นิดหน่อย”
“ยืมเอาไปอ่านก็ได้นะครับ ไว้วันหลังค่อยคืน”
“ไม่ละตอนนี้ยังไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งเลย”
“เอ๋!!!”
“พอดีมาจากกียวโตกะทันหันนะเลยยังไม่ได้หาที่พัก”
“งั้นที่ร้องไห้นั้นก็....”
ปึก ผมขว้างปากกาไปปักที่กำแพงด้านหลังเขา
“ใครจะไปร้องไห้เพราะเรื่องแค่รั้รวะ”
“ขะ ขอ โทษครับแล้วเรื่องอะไรเหรอครับ”
“...”
“พอจะบอกผมได้ไหมครับ”
“...”ผมเบนหน้าหลบเขาผมรู้สึกว่าตาของผมอุ่นขึ้นอีกแล้วแต่ผมจะร้องไห้ต่อหน้าคนอื่นไม่ได้ไม่ว่ายังไงก็จะไม่อ่อนแอต่อหน้าแต่ในตอนนั้นเอง
“ไม่เป็นไรนะครับ ถ้าอยากจะร้องก็ร้องออกมาเถอะครับ”มือใหญ่ๆของเขากำลังลูบที่หัวของผม มือนั่นทั้งใหญ่ทั้งอบอุ่น
ผมโดนมือคูนั้นดึงเข้าไปหน้าของผมซบที่หน้าอกของเขา
“ถ้าไม่อยากให้ผมเห็นละก็แบบนี้เป็นยังไงครับ”
“เป็นยังไง จะเป็นยังละไอ้บ้าเอ้ย”ผมได้แต่ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาแล้วด่าเขาไปแบบนั้นแต่แขนของเขายังคงโอบกอดผมไว้มือของเขาลูบหัวของผมเบาๆ
เวลาผ่านไปไม่รู้ว่านานแค่ไหน
หลับไปเหรอ ร้องไห้แล้วหลับไปเหมือนเด้กเลยแฮะผมค่อยๆลุกขึ้นมา
“ตื่นแล้วเหรอครับ”
“ชั้นหลับไปนานแค่ไหน”
“ชั่วโมงหนึ่งได้มั้งครับจะทานอะไรหน่อยครับไหมทำอาหารไว้ให้แล้ว”
“ขอบคุณเดี๋ยวชั้นออกไป”ข้างนอกฝนยังคงตกอยู่เหมือนเดิม
ผมเดินออกมาบนโต๊ะมีอาหารวางอยู่
“มีอะไรที่กินไม่ได้มั้ยตรับ”
“ชั้นไม่เลือกกินนะ”
“ตรับ”
เราเริ่มกินกันทันที
“ก็ใช้ได้นะ”
“ขอบคุณครับผมไม่ได้ทำอาหารเองนานไม่ค่อยมั่นใจเหมือนกัน”
“นี่คุณซากะ”
“ครับ???”
“ขอยืมไอ้นั้นได้ไหม”
ผมชี้ไปที่คีย์บอร์ดที่ตั้งอยู่มุมห้อง
“ก็ได้หรอกครับถึงจะไม่ได้ใช้นานก็น่าจะยังไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับว่าแต่จะร้องเพลงเหรอครับ”
“ร้องไห้อย่างเดียวมันไม่ค่อยโล่งนะ”ใช่ผมเป็นแบบนี้ตลอดพอร้องไห้เสร็จเริ่มสงบสติก็จะร้องเพลงออกมาเสียงดังพอทำแบบนั้นแล้วมันจะรู้สึกโล่ง
“งั้นเดี๋ยวผมไปติดตั้งให้นะครับชามฝากเอาไปไว้ที่ล้างหน่อยได้ไหมครับ”
“ได้สิ”
เขาลุกขึ้นไปเสีบปลั๊กแล้วเริ่มปรับอะไรต่างผมก็ยกชามไปเก็บพออกมาก็
“ใช้ได้แล้วครับ”
“ขอบใจนะ”ผมเดินเข้าไปลองกดที่ลิ่มแต่ละตัวดูไม่มีปัญหาอะไรเสียงไม่เพี้ยนผมเงยหน้ามองเขาที่กำลังจ้องผมอย่างสนใจ
“มะ มองอะไรเล่า”เมื่อถูกจ้องแบบนั้นผมจึงรู้สึกเขินจนใบหน้าเริ่มรู้สึกร้อนผ่าว
“เอ๋!!!ไม่ได้เหรอครับ”
“ฟังได้แต่ห้ามดูไปล้างชามเลยไป”
ผมดันเขาเข้าไปในห้องครัวทันที
ผมเดินกลับมาที่หน้าคีย์บอร์ดอีกครั้งเริ่มบรรเลงเพลงที่คุ้นเค้ย Rolling Girl ผมเปล่งเสียงร้องของผมออกมาสุดที่เสียงของผมจะร้องออกมาได้
ローリンガールはいつまでも 届かない夢見て
Lonely girl wa itsu made mo todoka nai yume mite
สาวน้อยผู้โดดเดี่ยวคนนั้น ได้แต่เฝ้ามองความฝันที่ไม่อาจเอื้อมถึง
騒ぐ頭の中を掻き回して,掻き回して。
sawagu atama no naka o kaki mawashite kaki mawashite
เสียงข้างในหัวดังก้องจนหัวปั่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า 「問題ない。」と呟いて,言葉は失われた?
mondai nai to tsubuyaite kotoba wa ushina wareta?
พึมพำว่า “ไม่มีปัญหา”แต่เหมือนกับว่าคำเหล่านั้นได้หล่นหายไป? もう失敗,もう失敗。
mou shippai mou shippai
ผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า
間違い探しに終われば,また,回るの!
machigai sagashi ni owa reba mata mawaru no!
ถ้าหาข้อผิดพลาดนั่นได้ จะขอลงไปกลิ้งอีกครั้ง!
もう一回,もう一回。
mou ikkai mou ikkai
อีกครั้ง ขออีกซักครั้ง
「私は今日も転がります。」と,
watashi wa kyou mo korogari masu to
“วันนี้ฉันจะกลิ้งอีกครั้ง”
少女は言う 少女は言う
shoujo wa iu shoujo wa iu
เด็กสาวบอกอย่างนั้น เธอเอ่ยเช่นนั้น
言葉に意味を奏でながら!
kotoba ni imi o kanade nagara!
ขณะที่คำพูดกำลังแสดงความหมายของมันออกมา「もう良いかい?」
mou ii kai?
“พอได้รึยัง?”
「まだですよ,まだまだ先は見えないので。息を止めるの,今。」
mada desu yo mada mada saki wa mie nai node iki o tomeru no ima
“ยัง... ยังไม่เห็นเส้นทางข้างหน้าเลย เก็บลมหายใจของเธอไว้ซะ” ローリンガールの成れの果て 届かない,向こうの色
Rolling girl no nare no hate todoka nai mukou no iro
เด็กสาวผู้สับสนซึ่งไม่อาจไปถึงปลายทาง อีกฟากฝั่งของสีสัน
重なる声と声を混ぜあわせて,混ぜあわせて。
kasanaru koe to koe o maze awase te maze awase te
ผสานเสียงที่กังวาลก้องให้ซ้อนทับกับความสุข ผสมมันขึ้นมา
「問題ない。」と呟いた言葉は失われた。
mondai nai totsubuyaita kotoba wa ushina wareta
ที่เคยพึมพำไว้ว่า “ไม่มีปัญหา” มันไม่มีอีกต่อไปแล้ว
どうなったって良いんだってさ,
dou nattatte iin datte sa
จะทำยังไงดีล่ะเนี่ย
間違いだって起こしちゃおうと誘う,坂道。
machigai datte okoshi chaou to sasou sakamichi
พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ความผิดนั้นเอียงหายไปもう一回,もう一回。
mou ikkai mou ikkai
อีกครั้ง ขออีกซักครั้ง
私をどうか転がしてと
watashi o douka korogashite to
กลิ้งไปกันเถอะ
少女は言う 少女は言う
shoujo wa iu shoujo wa iu
เด็กสาวบอกอย่างนั้น เธอเอ่ยเช่นนั้น
無口に意味を重ねながら!
mukuchi ni imi o kasane nagara!
ความเงียบกำลังเปิดเผยตัวตนออกมา「もう良いかい?」
mou ii kai?
“พอได้หรือยัง?”
「もう少し,もうすぐ何か見えるだろうと。息を止めるの,今。」
mou sukoshi mou sugu nanika mieru darou to iki o tomeru no ima
“อีกนิด... รู้สึกเหมือนจะเห็นอะไรบ้างแล้วล่ะ เก็บลมหายของเธอไว้สำหรับตอนนั้นด้วยนะ” もう一回,もう一回。
mou ikkai mou ikkai
อีกครั้ง ขออีกซักครั้ง
「私は今日も転がります。」と,
watashi wa kyou mo korogari masu to
“วันนี้ฉันก็จะกลิ้งอีกครั้ง”
少女は言う 少女は言う
shoujo wa iu shoujo wa iu
เด็กสาวบอกอย่างนั้น เธอเอ่ยเช่นนั้น
言葉に笑みを奏でながら!
kotoba ni emi o kanade nagara!
ขณะที่คำพูดกำลังแสดงความหมายของมันออกมา「もう良いかい?もう良いよ。そろそろ君も疲れたろう,ね。」
mou ii kai? mou ii yo soro soro kimi mo tsukareta roune
“พอได้รึยัง? พอเถอะนะ... เธอเองก็เหนื่อยมากแล้วนะ”
息を止めるの,今。
iki o yameru no ima
ถ้าอย่างนั้น หยุดลมหายใจไปตรงนี้เลยแล้วกัน!!
เมื่อผมร้องจบผมก็เห็นเขายืนปรบมืออยู่หน้าห้องครัวผมรู้สึกเขินจนใบหน้าร้อนผ่าวจึงรีบหันหน้าหนีทันที
เขาเดินตรงเข้ามากอดผมไว้
“ชั้นรักนายบูคิ”
“เอ๋!!!”ผมรู้สึกตกใจมากที่เขาบอกผมตรงๆแบบนี้ดดยที่เรารู้จักกันไม่ถึงหนึ่งวันด้วยซ้ำ
“ใบหน้าของนายที่เปื้อนน้ำตานะดูดึงดูดมากก็จริงแต่นายเมื่อกี๋ดูดีมากเลยละชั้นอยากเห็นอยากเห็นนายมากกว่านี้อยากเห็นนายยิ้มแย้มอยากเห็นนายมีความสุขอยากสนุกไปกับนาย”
เขาจูบที่หน้าผากผมเบาๆ
“นายละว่าไง”
“...”ผมรู้สึกเขินมากจนเบือนหน้าหนีแต่
ผมหน้ากลับมาดึงคอเสื้อของเขาแล้วจูบที่ริมฝีปากของเขา
“นะ...นี่แหละคำตอบ...ขะ ของชั้นละ”
“ยูคิ นายนี่น่ารักจริงๆ”
กร๊อบ (เหมือนจะเป็นเสียงกระดูกข้อต่อเคลื่อนนะครับ-NNS)
“นายว่าใครน่ารัก หาาาาาา”
“ขะ ขอโทษครับ”
.
.
.
.
หนัก
ผมดีดตัวลุกขึ้นทันทีเหมือนผมจะหลับไปทันทีหลังทำงานเสร็จข้างๆของผมมีคุณซากะที่ท่าทางตกใจที่ผมตื่นขึ้นมา
“ขะ ขอโทษนะ กลัวนายหนาว ทำให้ตื่นหรือเปล่านะ ยูคิ”
“ไม่หรอกพอดีคิดอะไรเพลินๆแล้วหลับไปนะ”
“ระ เหรอ”
“นายนะ”
“อะ อะไรเหรอ”
“ทำไมหลบตาชั้น”
“ปะ เปล่านี่”เขาหันหน้าหลบตาผมจริงๆ
“นายแอบจูบชั้นตอนหลับเหรอ”
หน้าของเขาซีดลงทันทีดูง่ายจริงๆแฮะ
“ซากะ ซาาาาาง”
ผมเดินไปหาเขาเขาหลับตาลงเพราะกลัวทันทีแน่นอนละถ้าเป็นผมตอนโกรธละก็ฆ่าเขาได้เลยทีเดียวแต่
“...”ผมก้มลงไปจูบเขาเบาๆ
“!!!”เขาท่าทางจะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
“ถ้าอยากจูบละก็บอกหันมาตรงๆสิ”ผมยิ้มให้เขา
“ยูคิ”เขาพุ่งเข้ามากอดผมทันที”ทำกันเถอะ”
“!!!”ขอดื้อๆเลยแต่ช่างมันเถอะ
“ครั้งนี้จะยอมให้ละกันนะ”เขายิ้มอย่างเบิกบานแล้วอุ้มผมไปที่ห้องทันที
“ดะ เดี๋ยวคุณซากะผะผมเดินเองได้นะ เหวอ”เขาโยนผมลงบนที่นอนนุ่มๆทันทีเขาครึ้มมาค่อมตัวผมไว้เขาในตอนนี้ดูดุดันจนผมทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียวเขาจูบผมใช้มือค่อยๆปลดกระดุมเสื้อผมออก
“ยูคิ นี่ นาย”
“อะ อะไรเหรอ”
“กล้ามนายจะเกินหน้าเกินตาไปแล้วนะเขาจ้องมองมาที่กล้ามหน้าท้องของผม
“กะ ก็ช่วยไม่ได้นี่ที่บ้านหลักเขาให้ฝีกทุกวันนี่”
“เหรอแต่ตัวเองเป็นรับแต่เกินหน้ารุกแบบชั้นคงต้องลงโทษสักหน่อยแล้ว”
เขาใช้มือและลิ้นไล่ไปตามส่วนต่างๆของและแล้วคืนที่ยาวนานนั้นพบก็พบความจริงที่ว่าตอนทำกับคุณซากะไม่ควรทำให้เขาไม่พอใจ
ไม่งั้นละก็จะโดนเล่นงานอย่างรุนแรงเลยทีเดียว
END
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ