Chocolate & Despair

7.7

เขียนโดย [NNS]

วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 19.30 น.

  13 chapter
  1 วิจารณ์
  15.20K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 17.17 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

11) Last light

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
5 เดือนมาแล้วตั้งแต่วันนั้นผมจบชั้นมัธยมปลายตอนนี้กำลังเรียนมหาวิทยาลัยด้านวรรณกรรมที่มหาลัย เซนชู สาเหตุที่เลือกมหาลัยนี้คงแค่เพราะมันอยู่ใกล้กับโรงพยาบาล นากาเระ ที่ฮารุอยู่
            “นี่ๆมานาเสะคุงนัดบอดวันนี้ไปไม่ได้จริงๆเหรอ”
            “ขอโทษนะ คงไม่ได้หรอกชั้นต้องไปโรงพยาบาลอีก”
            “เสียดายจัง มีผู้หญิงโรงเรียนอื่นบอกว่าอยากเจอมานาเสะคุงตั้งเยอะ”
            “ขอโทษจริงๆ ชั้นนะ มีคนที่รักอยู่แล้ว”
            “งะ งั้นเหรอ”
            “ขอตัวก่อนนะ”
            “จะ จ๊ะ”
            ผมเดินไปตามทางมีคนยืนโบกมือเรียกผมอยู่
            “ปฏิเสธอีกแล้วเหรอ”
            “นายก็รู้นี่”
            “หมอนั้นไม่ได้สติมา5เดือนแล้วนะ”
            “แต่ยังมีหวังอยู่นี่”
            “เฮ้อ นายนี่น้า ว่าแต่ถามอะไรหน่อยสิ”
            “อะไร”เราสองคนเดินออกมาจากอาคารเรียนสายลมเย็นๆพัดผ่านมา
            “ทำไมนายใส่ผ้าพันคอตลอดละหน้าร้อนก็ใส่นะ”
            “นี่นะเหรอ”ผมใช้มือจับผ้าพันคอสีแดงที่อยู่บนคอ
            “ช่นายไม่ได้ซื้อเองใช่ไหมละ”แน่นอนยูคิรู้ดีอยู่แล้วเพราะเวลาผมซื้อเสื้อผ้าจะซื้อแค่สีดำไม่ก้น้ำเงินเท่านั้น
            “ฮารุให้มานะ ตอนเข้าย้ายมาอยู่บอกว่าให้ในฐานะที่คบกัน”
            “เหรอนั้นแสดงให้เห็นว่านายไม่อยากลืมเขาสินะ”
            “อืม...คงจะอย่างนั้น”
            “เฮ้ ยูคิ”มีผู้ชายที่ผมไม่รู้จักกำลังเรียกยูคิอยู่ดูแล้วน่าจะมหาลัยปีสามได้แล้ว
            “คะ คุณซากะ”ผมเห็นยูคิผงะถอยหลังไปหนึ่งก้าวหน้าเขาแดงนิดหน่อย
            “ใครเหรอยูคิ”
            “คะคุณ ยานากิ ซากากิ นะอยู่อีกมหาลัยหนึ่งนะ”
            “แฟนนายเหรอ”
            “ทะ ทำ ทำไมถึงรู้ละ”
            “ก็นายกระอักกระอ่วนขนาดนั้นนี่นา”
            “อะ เอ๋ ปะ เปล่านี่”
            “นายไปเถอะชั้นไปโรงพยาบาลคนเดียวได้”
            “อะ อืม งั้นไปก่อนนะ”
            “เจอกันพรุ่งนี้”ยูคิโบกมือแล้ววิ่งไปหาคุณยานากิทันที
            ผมเดินเลี้ยวซ้ายไปตรงทางผ่านจะมีร้านขายดอกไม้อยู่ผมมักจะแวะซื้อไปเปลี่ยนให้เขาเสมอซื้อแอปเปิลเขาไปสักสามสี่ลูกผมขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้น5ตรงไปที่ห้องที่หน้าห้องเขียนว่า นานาชิมะ ฮารุ ผมเปิดเข้าไปห้องสีขาวที่ได้รับการดูแลทำความสะอาดอย่างดีที่ข้างเตียงมีโต๊ะอยู่บนโต๊ะจะมีจานแอปเปิลที่ปอกแล้วกับแจกันดอกไม้อยู่ผมจะคอยเปลี่ยนดอกไม้ปอกแอปเปิลวางไว้ทุกวันเผื่อเขาตื่นขึ้นทาแล้วรู้สึกหิวข้างใต้แจกันดอกไม้มีโน๊ตอยู่ใบหนึ่งที่ผมเขียนไว้
            ถ้าตื่นแล้วรีบติดต่อมานะชั้นจะมาหา มินาเสะ เรย์
ผมเปิดผ้าม่านให้แสงแดดส่องเข้ามาวางของไว้บนเก้าอี้เปลี่ยนน้ำในแจกันเอาดอกไม้ชุดใหม่เปลี่ยนแทนที่ของเก่าที่ยังดูสดอยู่เพราะผมเอามาเปลี่ยนทุกวันปอกแอปเปิลใส่จานวางไว้เสร็จแล้วก็นั่งลงข้างๆเตียงเขาใช้มือของข้างประกบมือของเขาไว้แล้วเล่าเรื่องต่างๆให้เขาฟังเหมือนทุกที
            “ไงฮารุ5เดือนแล้วนะ”
            “ขอโทษทีนะช่วงนี้ชั้นมาอยู่กับนายได้ไม่นานพอดีงานที่มหาลัยค่อนข้างยุ่งนะ”
            “จริงสิยูคิเองก็มีแฟนแล้วนะแถมเป็นรุ่นพี่ต่างมหาลัยอีกตกใจหมดเลยละ”
            “หมอนั้นเองดูมีความสุขดีจังเลยนะ”พูดมาถึงตรงนี้น้ำตาของผมก็เริ่มเอ่อล้นออกมา
            “นายต้องเป็นห่วงไม่ว่าจะนานแค่ไหนชั้นจะรอ”
            “ชั้นจะรอนายเสมอไว้ว่าจะนานแค่ไหน”
            “เพราะฉะนั้นนายพักผ่อนให้เต็มที่เลยนะ”
            “พอนายตื่นขึ้นมาชั้นจะพานายไปที่ต่างๆให้สนุกจนนายลืมทุกอย่างเลยละ”
            “เพราะงั้นนายไม่ต้องกังวลอะไรนะ”
            เพียงไม่นานในความรู้สึกผมท้องฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว
            “ขอโทษนะชั้นต้องไปแล้ว”
ผมทำแบบนี้ทุกวันๆมาตั้งแต่ฮารุไม่ได้สติแล้ว
            “เรย์คุง วันนี้ก็มาเหรอ”
            “ครับ คุณชิโนนะ”ชิโนนะ มายะ นางพยาบาลที่รับผิดชอบฮารุอยู่เธอเจอกับผมทุกครั้งตอนผมกลับช่วงหมดเวลาเยี่ยมไข้แล้ว
            “ฮารุคุง หวังว่าจะฟื้นเร็วๆนี้นะนี่ก็ตั้ง5เดือนแล้ว”
            “ไม่เป็นไรหรอกครับ ให้เขาได้พักบ้างก็ดี ยังไงพอเขาตื่นคงโวยวายอยากทำนู้นทำนี่แหละครับ”
            “จ๊ะ”คุณชิโนนะใช้ผ้าเช็ดที่ตาของผม
            ทำให้ผมรู้สึกตัวว่าร้องไห้อีกแล้ว
            “ขะ ขอโทษครับผมเอาอีกแล้ว”
            “ไม่เป็นไรจ๊ะชั้นเข้าใจ”
            “ครับงั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”ผมเดินออกจากโรงพยาบาลกลับไปที่บ้านสิ่งเหล่านี้เหมือนกิจวัตรประจำวันของผมไปแล้วทุกอย่างนี้จะดำเนินไปเรื่อยๆกระทั่ง
            7 วันหลังจากนั้นมีเมล์จากคุณชิโนนะส่งมาให้ผมที่กำลังเรียนอยู่ที่มหาลัยพอผมอ่านข้อความนั้นแล้วผมก็รีบวิ่งทันทีไม่สนใจอาจารย์ที่ตะโกนหรือเสียงของยูคิที่เรียกผมอีกแล้วผมรับวิ่งไปที่โรงพยาบาลนากาเระทันทีผมไม่สนแม้แต่การเสียเวลาใช้ลิฟต์ผมรีบวิ่งขึ้นบันไดไปเหมือนกับวันที่รู้ข่าวฮารุประสบอุบัติเหตุ
            ผมใช้เวลาประมาณ5นาทีมาถึงชั้น5ผมวิ่งตามทางที่คุ้นเคยไปที่ห้องๆนั้นห้องที่ฮารุอยู่ผมรีบเปิดประตูอย่างรวดเร็วสิ่งที่ผมเห็นคือ
            “รอยยิ้มที่สดใสเหมือนพระอาทิตย์ขึ้นกลางทุ่งน้ำแข็งขั้วโลกน้ำตาของผมไหลนองทันทีผมรีบกระดดไปที่ดวงอาทิตย์ดวงนั้นทันที
            “ฮารุ ฮารุ ฮารุ”ฮารุเขาฟื้นแล้วนั้นคือข้อความที่คุณชิโนนะส่งมาให้ผม
            “อ้าวๆเรย์คุงฮารุคึงยังไม่หายดีเลยกระโดเข้าไปแบบนั้นมันไม่ดีนะจ๊ะ”
            “ฮึก ขะ ขอโทษครับ”ผมกล่าวคำขอโทษพร้อมน้ำตาแห่งความยินดีที่ไหลนองเต็มใบหน้าของผม
            “เชิญกันตามสะดวกนะจ๊ะอีกสักพักคุณหมอจะมาตรวจอีกรอบระหว่างนั้นก็คุยกันตามสบายนะ”
            ““ครับ””ผมกับฮารุพูดพร้อมกัน
            “เอ้าๆพ่อหนุ่มน้อยไม่ได้เห็นหน้ากันตั้งนานขี้แยซะแล้วนะเนี่ย”ผมผละออกจากฮารุโดยที่น้ำตายังไหลอยู่
            “ก็ ก้ เพราะใครละเจ้าบ้านึกจะหลับก็หลับตั้งนานอยู่ๆก็ตื่นขึ้นมาเจ้าบ้า”
            “เรย์”ฮารุดึงผมเข้ามากอดทันที
            “ขอโทษนะชั้นทำให้เป้นห่วงสินะ”
            “ว่าแต่เรย์ผมนายยาวขึ้นหรือเปล่าเนี่ย”
            “ชั้นไม่ได้ตัดนะ”ผมหยุดร้องไห้แล้วนั่งคุยกับเขาอยู่ข้างเตียง
            “นายใส่ผ้าพันคอที่ชั้นให้ด้วยนะ”
            “นะ นี่นะ คะ แค่ แค่”
            “แค่อะไรเหรอ”
            “แค่อะไรไม่ต้องสนใจหรอก”ผมหันหน้าหลบสายตาเขา
            “เรย์”เขาดึงผมเข้าไปริมฝีปากของเราสองคนประกบกันริมฝีปากของเขายังนุ่มนวลอ่อนโยนเหมือนเดิม
            “ชั้นอยากรู้นะ”ใบหน้าของผมร้อนผ่าวผมหลบสายตาเขาแล้วพูดออกไป
            “แค่อยากให้นายอยู่ใกล้ๆแค่นั้นเอง”
            “เรย์เขากอดผมไว้ด้วยแรงที่เขาในตอนนี้มี
            “เอ้า จ้า จ้า ฮารุคุงแรงดีจังนะเดี๋ยวเราต้องไปตรวจกันแล้วนะ”
            “ครับ”ฮารุหันไปหาคุณชิโนนะ
            “ชั้นรออยู่นี่นะ”ผมจับมือฮารุแล้วบอกเขา
            “ขอโทษนะทั้งๆที่นายรอชั้นตลอดแต่ได้คุยนิดเดียวเอง”
            “เดี๋ยวนายก็กลับมาแล้วนี่ไม่เป็นไรหรอก”
            ผมนั่งหยิบงานที่อาจารย์สั่งมาทำผมนั่งทำได้สัก30นาทีประตูห้องก็เปิดคุณชิโนนะกลับมาพร้อมคุณหมอแล้วก็เรย์
            “อาการดูคร่าวๆแล้วไม่มีปัญหาอะไรแต่ต้องอยู่โรงพยาบาลดูอาการสักระยะแล้วก็ต้องทำกายภาพบำบัดด้วยนะ
            “ครับ”ฮารุหันไปตอบแบบง่ายๆ
            “ผลตรวจแบบละเอียดจะมาในสองสามวันตอนนี้พวกเธอสองคนคุยกันตามสบายเลยนะชั้นกับคุณหมอขอตัวก่อนนะ”
            “ครับขอบพระคุณมากครับ”ผมยืนขึ้นแล้วโค้งให้คุณหมอกับคุณชิโนนะ
            “ชั้นได้ยินแล้วนะเรย์นายมาหาชั้นทุกวันตั้งแต่ชั้นหมดสติเลยเหรอ”
            “ก็ ก็ ช่วยไท่ได้นี่นายหมดสติอยู่ไม่มีคนดูแลไม่ได้หรอก”
            “ว่าไปเรย์นายทำอะไรอยู่เหรอ”
            “อะ นี่นะงานที่มหาลัยนะ”
            “เหนายเข้ามหาลัยแล้วสินะชั้นเองพอหายดีคงต้องไปสอบเทียบชั้นเข้าบ้างแล้วสิ”
            “ถึงตอนนั้นชั้นจะช่วยติวให้นะ”
            เราสองคนคุยกันไปเรื่อยๆเหมือนจะชดเชยเวลา5เดือนที่เขาหลับอยู่ผมเล่าเรื่องต่างๆให้เขาฟังทั้งเรื่องตอนนี้เรื่องที่ผมเล่าให้เขาฟังตอนหมดสติเรื่องที่ยูคิย้ายมาเมื่อสามเดือนก่อนจนเวลาล่วงเลยจนจวนถึงหมดเวลาเยี่ยมไข้แล้ว”
            “สงสัยชั้นต้องกลับแล้วละนะ”
            “อืม ไว้พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ก็ได้”
            “วันนี้ก้ได้จ๊ะ”
            “คะ คุณชิโนนะ”
            “จ้า ชั้นเอาฟูกมาหนะคืนนี้เรย์คุงค้างที่นี่ก็ได้นะ”
            “จะ จริงเหรอครับ”
            “จ้าชั้นขอคุณหมอให้แล้วละ”
            “ขอบคุณมากครับ”
            “ไม่เป้นไรหรอกเทียบกับที่เรย์คุงมานั่งจับมือฮารุคุงแล้วร้องไห้ทุกวันแค่นี้คงไม่พอหรอกมั้ง”
            “คะ คุณ ชินาโนะ”ผมเขินจนหน้าแดงทันทีที่โดนแฉเรื่องตัวเอง
            “ขี้แยจังน้า”
            “นายเงียบไปเลย”ผมจัดการปูฟูกให้เรียบร้อยแล้วนั่งทำงานไปคุยกับฮารุไป
            “3ทุ่มแล้วเข้านอนได้แล้ว”
            “เอ๋แต่ชั้นยัง”
            “ไม่ต้องอ้อนนายเพิ่งฟื้นต้องพักผ่อนให้มากๆ”
            “แต่ชั้นนอนมา5เดือนแล้วนะ”
            “ตอนนี้กับตอนนั้นมันต่างกันเอ้านอน”ผมปิดไฟทันที
            “เรย์นี่เข้มงวดจังน้า”
            “ถ้านายยอมนอนดีๆอีกสักสองวันชั้นจะขอคุณชิโนนะพานายนั่งรถเข็นไปดูทะเลหลังโรงพยาบาลให้”
            “จริงเหรอสัญญานะ”
            “อืม”ผมยิ้มให้เขาท่าทางเขาดูดีใจมากๆเลย
            “...”
            “....”
            ตอนนี้เวลาเกือบ4ทุ่มแล้ว
            “ฮารุ”
            “...”ไม่มีเสียงตอบกลับเขาคงหลับไปแล้ว
            ผมลุกขึ้นมองขึ้นไปบนเตียงของเขาเขากำลังนอนหลับอยู่ตอนนี้เขาไม่มีสายน้ำเหลือหรืออะไรอยู่เลยผมเอื้อมมือไปจับที่ไหล่ของเขาแต่
            มือของผมโดนจับผมดดนดึงขึ้นไปบนเตียงทันที
            “ฮะ ฮารุ ทำอะไรนะ”
            “ชั้นกลัวนี่”
            “กลัว???”เขาดึงผมมากอดบนเตียง
            “กลัวตื่นขึ้นมาจะไม่เจอนายนะสิ”
            “บะ บ้าหรือไงนายนะ”
            “นิดหน่อยนะ”
            “ชั้นสิกลัวกว่านายอีก”เสียงของผมเบาลงเรื่อยๆ
            “เอ๋”
            “ชั้นกลัว พรุ่งนี้พอชั้นตื่นขึ้นมาแล้วนายจะไม่ยอมตื่นอีก”
            “เรย์”เขากอดผมแน่นขึ้น
            “คืนนี้นอนด้วยกันนะ”
            “อืม”ผมตอบกลับปแล้วกอดเขาไว้
รุ่งเช้า
            “อ้าวๆตายจริง”นางพยาบาลผู้มาดูกำลังเห็นภาพเด็กหนุ่มสองคนกำลังนอนกอดกันหลับสนิทบนเตียงเล็กๆทำให้เธอรู้ทันทีว่าสองคนนี้รักกันมากแค่ไหน
            สองวันแล้วหลังจาที่ฮารุฟื้นวันนี้ก็เป็นวันที่ผมสัญญากับเขาว่าจะพาไปดูทะเลแถมคุฯชินาโนะก็อณุญาติแล้วด้วยผมรีบไปหาฮารุทันทีตอนที่ผมจะเปิดประตูนั้นประตูก็เปิดพอดีผมเจอกับนางพยาบาลชินาโนะที่คอยช่วยเหลือมาตลอด
            “สวัสดีครับคุณชินาโนะ”
            “จะ จ๊ะ สวัสดีจะพาฮารุคุงไปทะเลสินะชั้นเตรียมรถเข็นไว้ในห้องแล้วเชิญตามสบายเลยจ๊ะ”คุณชิโนนะพุดโดยไม่สบตาผมแล้วเดินออกไปทันที
            มีอะไรกันนะ ผมเดินเข้าไปในห้องทันที
            “ไงเรย์”ฮารุยิ้มทักทายผมตามปกติ
            “จะไปทะเลกันหรือยัง”
            “อืม เร็วๆสิชั้นอยากออกไปสูดอากาศข้างนอกบ้าง”
            “ครับๆ”ผมดึงรถเข็นออกมาแล้วประคองฮารุนั่งลงไปเอาเสื้อคลุมคลุมเขาตอนนี้เริ่มเข้าฤดูหนาวอากาศจึงเย็นพอสมควร
            ผมพาเขามาที่ทะเลเรายืนกันอยู่ตรงนั้นโดยที่ฮารุไม่ยอมพูดอะไรในตอนนั้นเอง
            หิมะก็เริ่มตกลงมาพอดี
            “ทะเลตอนที่หิมะตกเนี่ยสวยจังนะ”
            “นั้นสินะ”ผมถอนผ้าพันคอออกแล้วพันมันไว้รอบคอฮารุ
            “เรย์”
            “เดี่ยวนายจะหนาวนะ”
            “หึ นายนี่นะ”
            “เรย์ ช่วยหลับตาแล้วก้มลงมาหน่อยสิ
            ผมยอมทำตามอย่างง่ายดายในตอนนั้นก็มีอะไรมาพันที่คอของผม
            “มันยาวนะแบ่งกันคนละข้างนะ”
            ผ้าพันคอด้านหนึ่งอยู่ที่ผมอีกด้านอยู่ที่ฮารุผ้าพันคอสีแดงที่ช่วยเชื่อมเราสองคนเป็นหนึ่งตาสีแดงและตาสีแซฟไฟร์ประสานกันเราสองคนจูบกันเบาก่อนที่ผมจะยืดตัวยืนตามปกตจับที่ไหล่ของเขามือของฮารุจับที่มือของผมอย่างอ่อนโยน
            “เรย์”
            “มีอะไร”
            “ขอบคุณนะที่มอบความรักให้ชั้น”
            “ชั้นควรเป้นคนพูดคำนั้นมากกว่าถ้าเป็นชั้นเมื่อก่อนที่ไม่ได้เจอนายคงเป็นแบบตอนนี้ไม่ได้หรอก”
            “เรย์ ชั้น ชั้น”
            “ฮารุ”
            “ชั้นมีเรื่องขอร้อง”
            “อะไรเหรอ”
            “ช่วยลืมชั้นไปได้มั้ย”
            “หา!!!”
            “นะ นายพูด อะไรของนายนะฮารุ”
            “ชั้นนะนะ”
            “อะไรละบอกชั้นมาสิไม่งั้นชั้นไม่ยอมรับหรอก”ผมเดินไปด้านหน้าของฮารุสบตากับเขาตรงๆ
            “ถ้านายฟังแล้วจะยอมรับสินะ”
            “...”ผมตอบไม่ได้ได้แค่ยืนกัดฟันทนอยู่ตรงนั้น
            “ผลการตรวจโดยละเอียดออกมาแล้ว”
            “ผลคือชั้นนะมีอาการก้อนเลือดแข็งตัวในสมองขนาดใหญ่ด้วยถ้าไม่ผ่าตัดออกอีกสองปีจะตายอยู่ดี”
            “งั้นนายก็ผ่าสิ”
            “โอกาสผ่าสำเร็จต่ำมากถ้าหากสำเร็จก็มีโอกาสสูงมากที่ชั้นจะขยับร่างกายไม่ได้อีกเลย”
            “ก็ไม่เห็นเป็นอะไรนี่”
            “ชั้นไม่อยากเป็นภาระของนายอีกแล้ว”
            “นายพูดบ้าอะไรของนายสำหรับชั้นแล้วนายไม่เคยเป็นภาระสักหน่อย”
            “ถึงนายจะคิดแบบนั้นแต่ชั้นไม่ได้คิดนะ”
            “ฮารุ”
            “ก็ได้ นายอยากจะทำอะไรก็ตามใจนายเลย”ผมถอดผ้าพันคอออกปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอีกครั้ง
            “แต่ชั้นจะไม่ลืมนายเด็ดขาดไม่ว่ายังไงก็ไม่ลืม”ผมวิ่งออกไปทันทีวิ่งไปโดยไม่หันกลับมาอีกเลย
            “จะดีเหรอฮารุคุง”
            “ครับคุณชิโนนะ”
            “เวลาของเขาเหลือมากกว่าผมมากจะให้เขาจมปลักกับผมได้ยังไงละครับ”ฮารุเงยหน้าขึ้นมายิ้มโดยที่ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา
            ทำไมละ ฮารุ ทำไม ทำไม ยังไงชั้นก็ลืมนายไม่ได้หรอกแต่ทำไมทำไมมม
            หลังจากวันนั้นก็สองเดือนแล้วผมไม่ไปหาเขาอีกเลยไม่ได้ติดต่อไปด้วยแต่บางครั้งผมก็เดินไปทางดรงพยาบาลมองไปที่หน้าต่างห้องเขาแต่ผ้าม่านห้องเขาก็ปิดไว้ตลอดวันนี้มหาลัยหยุดเรียนผมจึงกำลังทำความสะอาดบ้านที่ห้องชั้นสองห้องข้างๆห้องผมห้องของฮารุผมเข้ามาทำความสะอาดและจัดการข้าวของไว้เหมือนเดิมตลอดแม้จะไม่ได้ใช้มาเกินครึ่งปีแล้วกลิ่นอายของเขาก็ยังคงอยู่เมื่อก่อนผมก้ทำความสะอาดได้เฉยๆแต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมแล้วน้ำตาของผมเอ่ล้นออกมาอีกครั้ง
            ผมอยากเจอเขา อีกครั้ง อยากได้ยินเสียงอยากสัมผัสเขา อยากอยู่ด้วยกันอีกครั้ง
ในตอนนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นผมรีบเช็ดน้ำแล้วเดินลงมาข้างล่างเพื่อรับสาย
            เวลาแบบนี้ใครโทรมากันนะ
            “ครับ มานาเสะ เรย์ครับ”
            “เรย์คุงแย่แล้วละฮารุคุงเค้า”
            ในตอนนั้นในหัวของผมว่างเปล่าไปหมดต้องรีบไปผมหยิบเสื้อคลุมที่วางอยู่แล้ววิ่งออกไปทันทีโทรศัพท์ที่หลุดมือผมปล่อยมันวางไว้ที่พื้อนผมใช้เวลาร่วม20นาทีกว่าจะมาถึงโรงพยาบาลรีบวิ่งขึ้นไปที่ห้องของฮารุทันทีแต่เมื่อผมมาถึง
            เย็นบรรยากาศในห้องช่างเย็นยะเยือกความอบอุ่นในห้องนี้ไม่เหลืออีกแล้วร่างของฮารุนอนนิ่งไม่ยอมขยับร่างกายของผมเหมือนไม่มีแรงแต่ขาของผมกลับเดินต่อไปเข้าไปใกล้เพื่อมองเขามือของผมยื่นออกไปจับที่มือของเขา
            เย้น มือที่เคยอบอุ่นตอนนี้กลับเย็นยะเยือกน้ำตาของผมไหลลงมาอาบแก้มของผมแล้วทุกอย่างก้มือดลงเมื่อผมลืมตาขึ้นผมหวังแค่ว่าให้นี่กลายเป้นฝันร้ายอันหนึ่งเท่านั้น
            ผมลืมตาขึ้นเพดานสีขาว
            “ตื่นแล้วเหรอมานาเสะคุง”
            “คุณชินาโนะ”
            “เธอเป็นลมไปนะ”
            “ครับ”
            ไม่ใช่ฝัน...สินะ
            “ฮารุคุงเค้าลื่นลมแล้วหัวกระแทกพื้นเมื่อเช้าทำให้อารกของเค้าเข้าขั้นวิกฤษทันทีเลยชั้นรีบติดต่อเธอไปแต่มันช้าเปินไป”
            ผมทำอะไรไม่ได้เลยได้แต่นั่งกอดเข่าปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเรื่อยๆผมมันบ้าเองทั้งที่อยากเจอเขาแต่ก็ยึดแต่ความหยิ่งยโสของตัวเองไม่มาหาเขาสุดท้ายสุดท้าก้ทำไม่ได้แม้แต่สัมผัสเขาหรืออยู่เคียงข้างเขาในวาระสุดท้ายด้วยซ้ำผมมันแย่ที่สุด
            “เรย์จัง”พ่อกับแม่ของฮารุเดินตรงมาที่ผมใบหน้าของพวกเขามีหยดน้ำตาไหลอยู่
            “ของพวกนี้ฮารุเขาฝากมาให้เธอ”
            มีของอยู่สองชิ้นคือจดหมายและผ้าพันคอสีแดงที่เขาได้ให้ผมไว้ผมรับของทั้งสองอย่างมา
            “ยังไงผม...ขอตัวกลับก่อนนะ...ครับ”
            “ให้เราไปส่งไหม”
            “ไม่เป็น....ไรครับ”ผมลุกขึ้นเดินออกจากโรงพยาบาลใช้เวลาประมาณ1ชั่วโมงก็มาถึงคอนโดของผม
            ผมวางจดหมายและผ้าพันคอไว้บนโต๊ะ ผมต้องอ่านมัน
            ไม่ว่าจะเป็นคำสาปแช่งอวยภรหรือข้อความอะไรผมก็ต้องอ่านผมนำผ้าพันคอมาพันไว้ที่คอของผมแกะซองจดหมายออกที่ร่วงออกมาจากซองจดหมายคือแหวนสองวงมันเป็นแหวนเงินที่สลักเป็นรูปกามเทพสองคนหันหน้าเข้าหากันที่ตรงกลางเป็นอัญมณีสีฟ้าหนึ่งวงอีกวงเป้นสีแดง
            ทับทิม กับแซฟไฟร์
            ผมกุมแหวนสองวงไว้ในมือแล้วเริ่มอ่านจดหมาย
            ถึงเรย์  
                        ขอโทษนะที่ชั้นพูดไปแบบนั้นแต่ชั้นต้องทำจริงๆชั้นเหลือเวลาไม่มากไม่เหมือนกับนายชั้นดีใจนะที่นายมาคอยดูแลชั้นแต่ว่าขอร้องละแม้นายจะไม่ลืมชั้นแต่อย่างน้อยนายก็ปล่อยชั้นเป็นอดีตที่ผ่านไปแล้วเถอะนะนายต้องรับคนอื่นเข้ามาในชีวิตนายอีกแหวนสองวงนี้ชั้นทำไว้ให้นายนายคงเข้าใจความหมายของแต่ละวงสินะช่วยเก็บมันไว้ด้วยนะแต่นายอย่ายึดติดกับชั้นเลยปล่อยให้มันเป็นอดีตที่ผ่านไปเถอะนะ
                                                                                                                                    ฮารุ
            ขอโทษ ขอโทษนะฮารุชั้นคงทำไม่ได้หรอกชั้นปล่อยนายไม่ได้หรอกไม่มีทางผมกอดแหวนกับจดหมายแล้วนอนลงไปไม่นานสติผมก้จมลงสู่ความมืด
            “...ราจารย์”
            “ศาสตราจารย์ มินาเสะ”มีของบางอย่างตีที่หัวไม่ใช้แฟ้มเอกสารแบบในหนังการ์ตูนมันเป็นหนังสือวรรณกรรมเล่มหนาเลยทีเดียว
            “ทำอะไรของนายนะ ยูคิ”
            “นายนั้นแหละเรย์เป็นถึงศาสตราจารย์แต่มาหลับที่มหาลัยแบบนี้คนอื่นมาเห็นจะเป็นยังไงหา”
            “หนวกหูน่า นายเป้นรองศาสตราจารย์แต่มาตีหัวศาสตราจารย์แบบนี้ได้ที่ไหนละ”
            “เฮ้อ นายทำงานที่นี่ทั้งคืนเลยเหรอ”
            “อืม”
            “ปีนี้ก็จะไปสินะ”
            “อืม”
            “การที่นายยังสวมผ้าพันคอผืนนั้นแสดงว่านายยังลืมเขาไม่ได้สินะ”
            “อืม ไม่คิดจะลืมด้วย”
            “เฮ้อรีบไปรีบมาละกัน”ยูคิพูดแล้วเดินออกไป
            ผมหยิบบางสิ่งในเสื้อของผมออกมาแหวนสองวง ทับทิม และ แซฟไฟร์ ผมและฮารุ หลังจากวันนั้นนี่ก็ผ่านไป5ปีแล้วผมในตอนนี้เป็นศาสตราจารย์มนมหาลัยและวันนี้จะเดินทางไปที่นั้น
            ผมเดินขึ้นบันได้ไปพร้อมช่อดอกไม้ ที่นั้นมีหลุมศพอยู่เต็มไปหมดผมเดินออกไปด้านข้างเดินผ่านทางดินเข้าไปด้านในที่นั้นมีจุดหมายของผมอยู่ในที่สุดผมก็มาถึง
            หน้าแผ่นหินที่สลักไว้ว่า [นานาชิมะ ฮารุ]ผมเป็นขอให้ทำหลุมศพเขาที่นี่ด้วยตัวเองให้หลุมศพหันหน้าออกไปทางทะเลผมวางดอกไม้แล้วนั่งข้างๆหลุมศพ
            “ไงฮารุชั้นมาแล้วนะ”
            “5ปีแล้วสินะตั้งแต่วันนั้น”
            “ตอนนี้ชั้นได้เป็นศาสตราจารย์ในมหาลัยแล้วยูคิเองก็มาเป็นรองศาสตราจารยืช่วยชั้นอยู่หมอนั้นตอนนี้อยู่ด้วยกันกับคุณ ยานากิแล้วนะนายจำได้ใช้มัย คุณยานากิ ซากากินะตอนนี้เข้าเป็นบรรณนาธิการอยู่ละสำนักพิมพ์ชื่อดังซะด้วย”
            “แล้วก็นะฮารุขอโทษจริงๆชั้นลืมนายไม่ได้หรอกแต่ไม่ต้องห่วงชั้นไม่ปล่อยให้ชีวิตตกต่ำหรอกไม่งั้นนายคงเป็นห่วงชั้นแย่เลยนะแล้วก็”ผมหยิบแหวนออกมาจากเสื้อ
            “ชั้นยังเก็บไว้อยู่เลยนะ แต่ว่า”ผมดึงแหวนทัยทิมออกแล้วใส่ลงในสร้อยอีกเส้น
            “อันนี้นะของนายนะ”ผมนำสร้อยไปแขวนไว้ที่หลุมศพของเขาใช้ริมฝีปากจูบแล้วลูบมันเบาๆ
            “ชั้นรักนายนะฮารุ ชั้นรักนายคิดถึงนายมาตลอด ตอนนั้นชั้น ชั้น ชั้นขอโทษชั้นไม่ได้อยู่เคียงข้างนายชั้นขอโทษ”ผมปล่อยให้น้ำตาเอ่อล้นออกมา
            “ชั้นต้องไปแล้วปีหน้าจะมาใหม่นะ”ผมยืนขึ้นเช็ดน้ำตาแล้วเดินออกไป
            [เรย์]
            ผมมาที่ต้นเสียงสิ่งที่ผมเห็น
            ฮารุกำลังยืนอยู่ข้างหลุมศพที่นิ้วของเขาสวมแหวนทับทิมอยู่
            [พยายามเข้านะ]รอยยิ้มอันอ่อนโยนเหมือนพระอาทิตย์จากนั้นลมก็พัดเข้ามาอย่างแรงผมหลับตาลงพอลืมตาขึ้นอีกครั้งภาพของฮารุก็ไม่อยู่แล้ว
            แต่ช่างมันสิต่อให้เป้นภาพลวงตามันก็ทำให้ผมมีความสุขมากผมจัดผ้าพันคอสีแดงแล้วเดินออกไปอีกครั้ง
                                                                                                         Ending

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา