Chocolate & Despair
7.7
เขียนโดย [NNS]
วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 19.30 น.
13 chapter
1 วิจารณ์
15.17K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 17.17 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) Boy And Despair
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเด็กหนุ่มผู้ไม่เคยเพ้อฝัน เด็กหนุ่มผู้อยู่กับโลกแห่งความเป็นจริง
แม้ฟังดูดีแต่ในความจริงโลกแห่งความจริงที่เขามองเห็นมีแต่ความโหดร้ายโหด การเอาเปรียบ คนต่างทำอะไรเพื่อตัวเอง
คนที่เข้ามาหาต้องหวังผลประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่มีคนดีอยู่บนโลกนี้หรอก เพราะงั้นอยู่คนเดียวดีที่สุดไม่ต้องการใครทั้งนั้น เพื่อนร่วมห้องก็แค่นที่เรียนห้องเดียวกันไม่มีอะไรมากกว่านั้นไม่จำเป็นต้องพูดคุยไม่จำเป็นต้องเข้าหา
เขาคิดประโยคนี้ในใจทุกวันซ้ำแล้วซ้ำอีกเหมือนการท่องคาถา เด็กหนุ่มผู้ไม่ยอมเข้าหาใครและไม่ให้ใครได้เข้าหา เด็กหนุ่มผู้ปลีกตัวจากนรอบข้าง เด็กหนุ่มผู้ทำสีหน้าไร้อารมณ์ตลอดทั้งวัน
ตื่นเช้า อาบน้ำ สระผม กินข้าวเช้า แปรงฟัน สวมเครื่องแบบเหมือนเดิมๆเดินไปที่สถานที่ที่เรียกว่าโรงเรียนเจอหน้าผู้คนเดิมๆกำหนดการการเรียนเหมือนเดิมชีวิตที่ไม่ต่างกับสายพานดำเนินต่อไปเรื่อยๆเด็กหนุ่มผมสีดำเดินเข้ามาในโรงเรียนพร้อมสีหน้าไร้อารมณ์ทรงผมยาวพอสมควรเป็นการปล่อยยาวไปตามธรรมชาติไม่ได้ตัดผมทรงอะไรเลยเนื่องจากโรงเรียนปล่อยให้ไว้ผมยาวได้เสื้อนักเรียนสีขาวกางเกงสีดำยาวรองเท้าผ้าใบตามระเบียบโรงเรียนทุกอย่าง วันนี้เป็นวันเปิดภาคเรียนและเป็นภาเรียนสุดท้ายสำหรับเขาเป็นปีสุดท้ายที่ต้องอะไรวนเวียนเหมือนเดิมซ้ำไปมา
เขาเดินตรงไปเรื่อยๆสวมหูฟังสีขาว กระเป๋าเป้สีดำเดินตรงไปที่หน้าบอร์ดเพื่อตรวจดูห้องเรียนหน้าบอร์ดมีคนยืนดูอยู่เต็มไปหมดเขาจึงหยิบแว่นมาสวมเพื่อให้มองรยะไกลได้ชัดขึ้นเมื่อเห็นชื่อกับชั้นเรียนแล้วจึงเดินไปที่ห้องทันทีใช้เวลาประมาณห้านาทีก็เดินมาถึงห้องเรียนเขาเปิดประตูเขาก็พบนักเรียนที่จับกลุ่มคุยกันทำความรู้จักกันมีหลายคนมองมาที่เขาที่เพิ่งมาถึงเขาปิดประตูแล้วเดินไปที่หลังห้องโต๊ะริมหน้าต่างซึ่งวางอยู่พอดีวางกระเป๋าแล้วแล้วนั่งลง ไม่นานก็มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาเพื่อพูดกับเขา
“สวัสดี นายชื่ออะไรเหรอ???”
“ก่อนถามนอื่นก็บอกชื่อตัวเองมาก่อนสิ”
“อะ อ่อ อืม ผมชื่อ โนโมริ โนโมริ อากิ นายละ”
“มานาเสะ เรย์”
“เห ชื่อเพราะจังเหมือนผู้หญิงเลย”
“....”
“อะ เอ่อ ถ้าไม่รังเกียจมาคุยกับพวกเราไหม”
“ไม่ละ”
เขาพูดแล้วนั่งมอองออกไปนอกหน้าต่างรู้สึกเหมือนจะมีเสียงเรียกจากบุคคลที่มาชวนคุยด้วยกับกลุ่มของเขาแต่ผมตัดสินใจไม่สนใจและไม่รับฟังในที่สุดเขาก็เดินออกไป
เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก2-3รั้งแต่ผมก็เมินคนที่มาชวนคุยทั้งหมดเวลาผ่านไปจนถึงช่วงที่อาจารย์ใกล้เข้ามาทักทายแล้วตอนนั้นเองก็มีเหตุการณ์อย่างหนึ่งเกิดขึ้น
อยู่ๆประตูห้องก็ถูกเปิดอย่างแรงส่งเสียงดังจนทุกคนในห้องเงียบกันทันทีแล้วคนที่เข้ามาก็คือ
“สวัสดี คร้าบบบบบบบ ผม นานาชิมะ ฮารุ คร้าบ เพิ่งย้ายมาวันนี้ทุกคนฝากตัวด้วยนะครับ”
คนร่าเริงที่น่ารำคาญสุดๆเลย
เขาเป็นผู้ชายตัวสูงปกติดูๆแล้วน่าจะสัก170กว่าๆเห็นจะได้หน้าตาดูดีพอสมควรผมยาวพอๆกับตัวผมแต่น่าจะซอยผมบ้างนิดน้อยเครื่องแบบทุกอย่างดูเป็นปกติดีพอมาถึงก็เดินเข้าไปคุยกับกลุ่มนั้นกลุ่มนี้เรื่อยๆโดยที่ถือกระเป๋าไว้เขาเดินทักทายไปทั่วจนกระทั่ง
“โย่ว นายทำไมนั่งอยู่ตรงนี้คนเดียวละไม่ไปคุยกับคนอื่นเหรอ”
“...”ผมเหลือบมองเขาแล้วหันกลับไปที่หน้าต่างต่อ
“เอ่อออออ ที่นั่งข้างหน้านายนี่ว่างวะ”
“ไม่รู้”ผมตอบโดยไม่หันมามอง
“งั้นขอนั่งตรงนี้นะ”
“...”ผมไม่ตอบแล้วเขาก็นั่งลงไปทันที
“นายชื่ออะไรเหรอ”
“ก่อน...”จะถามบอกชื่อตัวเองก่อนผมจะพูดแบบนั้นแต่หมอนั่นตะโกนชื่อตัวเองซะดังลั่นเลยนี่
“ก่อนอะไรเหรอ”
“ป่าว มานาเสะ”
“ชื่อละ”
“เรย์”
“มานาเสะ เรย์ สินะ งั้นเรียกเรย์จังละกัน”
“...”ผมเหลือบตามองแล้วหันหน้าออกนอกหน้าต่างอีกครั้ง
เขาเงียบไปผมจึงคิดว่าเขาไปแล้วเลยหันกลับมาเพื่อเตรียมตัวโฮมรูมและเรียนวิชาแรก
รู้สึกจะเป็นประวัติศาสตร์สินะหน้าเบื่อจัง
ผมคิดยังงั้นแล้วหันกลับมาแต่
“/”@!#”ผมเผลอร้องออกมาเสียงไม่ได้ดังมากแต่ก็พอให้คนหันมามองและตัวผมไม่มีเวลารู้สึกตัวด้วยซ้ำว่าเสียงร้องนั้นเป็นยังไงส่วนสาเหตุก็เพราะ
คนที่นั่งอยู่หน้าผมได้ยื่นหน้าเข้ามาใกล้มากและเมื่อผมหันกลับมาจึงทำให้หน้าของผมกับเขาเกือบชนกันเลยทีเดียวผมรีบตั้งสติปรับอารมณ์อย่างรวดเร็วแล้วพูดกับเขาไปว่า
“ทำอะไร”
“แค่สงสัยว่านายมองอะไรอยู่”
“แค่มองไปข้างอกเรื่อยๆเฉยๆไม่ได้มองอะไรเป็นพิเศษ”
“เมื่อกี๋เสียงนายน่ารักดีนะ”
“...”
“นี่”
“หุบปากไปซะ”
“หา”
“อยากตายรึไงหุบปากแล้วหันกลับไปซะ”ผมทาขวางมองเขากลับไปปล่อยความรู้สึกมุ่งร้ายออกไปเต็มที่
“น่าๆแค่นี่เองเพื่อนกันไม่...”
“ไม่ต้องการ”
“หา”
“ผมไม่ต้องการเพื่อนเพราะงั้นกรุณาอย่ามาตีสนิทกับผมแล้วช่วยหันกลับไปซะ”
“แ...”
“นายมันน่ารำคาญหนวกหู”ผมไม่ปล่อยให้เขาพูด
“...”
แล้วเขาก็หันกลับไปเป็นช่วงเวลที่อาจารย์เข้ามาในห้องพอดีแล้วเริ่มให้แนะนำตัวทีละคน
การแนะนำตัวเริ่มขึ้นมีทั้งชื่องานอดิเรกของที่ชอบแต่ผมไม่ได้คิดจะฟังมันเลย
“ต่อไปเธอริมหน้าต่างคนหลังสุด”แล้วก็มาถึงผม
“มานาเสะ เรย์”ผมพูดแค่นั้น
“เอ่อ มานาเสะคุงไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้วเหรอ”
“ไม่มี”
“งั้นงานอดิเรกละ”
“ไม่มี”
“อาหารที่ชอบ”
“ไม่มี”
“ความสามารถพิเศษ”
“ไม่มี”
“งะ งั้นเหรอ”
เหมือนว่าการพยายามทำตัวให้คนเข้าหาน้อยที่สุดของผมจะทำให้อาจารย์หนุ่มเพิ้งบรรจุคนนี้ลำบากซะแล้วแต่ไม่ใช่อะไรที่ผมต้องสนใจ
“งั้นเชิญคนถัดไปครับ”
“ครับ ผมนานนาชิมะ ฮารุ งานอดิเรก เล่นกีฬาครับแต่ช่วงนี้ไม่ค่อยอยากเล่นเลยพักไปก่อน ชอบอ่านหนังสือนวนิยาย กับคุยกับนอื่นๆครับ ของที่ชอบเป็นเนื้อครับของที่เกลียดคงเป็นผักมั้งครับ”
“โอ้เป็นคนดูดีนี่นาแล้ว...สนใจใครในห้องนี้บ้างหรือปล่าวน้าดูจากผลการเรียนของเธอก็ดีมากอยู่แล้วด้วยสิหนุ่มเพอร์เฟคแบบนี้หายากนะเนี้ย”
มีเสียงกรี๊ดของผู้หญิงดังขึ้นมาทันที
“555ผมไม่ได้เพอร์เฟคอะไรหรอกครับนั้นสินะครับคนที่สนใจก็มีอยู่นะรับ”
“เหใครเหรอบอกหน่อยได้มั้ยเอ่ย”
“ได้ครับ”
“จริงดิไม่คิดปิดบังเลยเหรอหรือว่าคบกันอยู่”
“ป่าวครับผมเพิ่งมาถึงเมืองนี้ครั้งแรกไม่รู้จักใครหรอกครับ”
“รักแรกพบเหรอครับเนี่ย ใครกันน้าที่ว้าใจชายหนุ่มนนี้ไปเอ่ย”อาจารย์ไม่เลิกพูดเชิงล้อเล่นเพื่อรักษาบรรยากาศที่หดหู่เพราะผม
“มานาเสะ เรย์ครับ”
“ครับมานาเสะคุงนี่เอง”
“เหหหหหหหหหหหหหหหหหห”มีเสียงแสดงความตกใจจากคนทั้งห้องยกเว้นผมที่ทำหน้าไร้อารมณ์มองดูเขาด้วยความหงุดหงิดและรังสีมุ่งร้ายอย่างเต็มที่
เขา นานาชิมะฮารุแค่หันมามองผมแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยนแต่ผมก็ตอบกลับรอยยิ้มนั้นด้วยตาที่หรี่ลงครึ่งหนึ่งแสดงความเป็นศัตรู
แต่ผมไม่รู้เลยว่าหลังจากนั้นประตูที่ผมไม่เคยเปิดจะถูกเปิดออกมา
Chapter 1 End
แม้ฟังดูดีแต่ในความจริงโลกแห่งความจริงที่เขามองเห็นมีแต่ความโหดร้ายโหด การเอาเปรียบ คนต่างทำอะไรเพื่อตัวเอง
คนที่เข้ามาหาต้องหวังผลประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่มีคนดีอยู่บนโลกนี้หรอก เพราะงั้นอยู่คนเดียวดีที่สุดไม่ต้องการใครทั้งนั้น เพื่อนร่วมห้องก็แค่นที่เรียนห้องเดียวกันไม่มีอะไรมากกว่านั้นไม่จำเป็นต้องพูดคุยไม่จำเป็นต้องเข้าหา
เขาคิดประโยคนี้ในใจทุกวันซ้ำแล้วซ้ำอีกเหมือนการท่องคาถา เด็กหนุ่มผู้ไม่ยอมเข้าหาใครและไม่ให้ใครได้เข้าหา เด็กหนุ่มผู้ปลีกตัวจากนรอบข้าง เด็กหนุ่มผู้ทำสีหน้าไร้อารมณ์ตลอดทั้งวัน
ตื่นเช้า อาบน้ำ สระผม กินข้าวเช้า แปรงฟัน สวมเครื่องแบบเหมือนเดิมๆเดินไปที่สถานที่ที่เรียกว่าโรงเรียนเจอหน้าผู้คนเดิมๆกำหนดการการเรียนเหมือนเดิมชีวิตที่ไม่ต่างกับสายพานดำเนินต่อไปเรื่อยๆเด็กหนุ่มผมสีดำเดินเข้ามาในโรงเรียนพร้อมสีหน้าไร้อารมณ์ทรงผมยาวพอสมควรเป็นการปล่อยยาวไปตามธรรมชาติไม่ได้ตัดผมทรงอะไรเลยเนื่องจากโรงเรียนปล่อยให้ไว้ผมยาวได้เสื้อนักเรียนสีขาวกางเกงสีดำยาวรองเท้าผ้าใบตามระเบียบโรงเรียนทุกอย่าง วันนี้เป็นวันเปิดภาคเรียนและเป็นภาเรียนสุดท้ายสำหรับเขาเป็นปีสุดท้ายที่ต้องอะไรวนเวียนเหมือนเดิมซ้ำไปมา
เขาเดินตรงไปเรื่อยๆสวมหูฟังสีขาว กระเป๋าเป้สีดำเดินตรงไปที่หน้าบอร์ดเพื่อตรวจดูห้องเรียนหน้าบอร์ดมีคนยืนดูอยู่เต็มไปหมดเขาจึงหยิบแว่นมาสวมเพื่อให้มองรยะไกลได้ชัดขึ้นเมื่อเห็นชื่อกับชั้นเรียนแล้วจึงเดินไปที่ห้องทันทีใช้เวลาประมาณห้านาทีก็เดินมาถึงห้องเรียนเขาเปิดประตูเขาก็พบนักเรียนที่จับกลุ่มคุยกันทำความรู้จักกันมีหลายคนมองมาที่เขาที่เพิ่งมาถึงเขาปิดประตูแล้วเดินไปที่หลังห้องโต๊ะริมหน้าต่างซึ่งวางอยู่พอดีวางกระเป๋าแล้วแล้วนั่งลง ไม่นานก็มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาเพื่อพูดกับเขา
“สวัสดี นายชื่ออะไรเหรอ???”
“ก่อนถามนอื่นก็บอกชื่อตัวเองมาก่อนสิ”
“อะ อ่อ อืม ผมชื่อ โนโมริ โนโมริ อากิ นายละ”
“มานาเสะ เรย์”
“เห ชื่อเพราะจังเหมือนผู้หญิงเลย”
“....”
“อะ เอ่อ ถ้าไม่รังเกียจมาคุยกับพวกเราไหม”
“ไม่ละ”
เขาพูดแล้วนั่งมอองออกไปนอกหน้าต่างรู้สึกเหมือนจะมีเสียงเรียกจากบุคคลที่มาชวนคุยด้วยกับกลุ่มของเขาแต่ผมตัดสินใจไม่สนใจและไม่รับฟังในที่สุดเขาก็เดินออกไป
เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก2-3รั้งแต่ผมก็เมินคนที่มาชวนคุยทั้งหมดเวลาผ่านไปจนถึงช่วงที่อาจารย์ใกล้เข้ามาทักทายแล้วตอนนั้นเองก็มีเหตุการณ์อย่างหนึ่งเกิดขึ้น
อยู่ๆประตูห้องก็ถูกเปิดอย่างแรงส่งเสียงดังจนทุกคนในห้องเงียบกันทันทีแล้วคนที่เข้ามาก็คือ
“สวัสดี คร้าบบบบบบบ ผม นานาชิมะ ฮารุ คร้าบ เพิ่งย้ายมาวันนี้ทุกคนฝากตัวด้วยนะครับ”
คนร่าเริงที่น่ารำคาญสุดๆเลย
เขาเป็นผู้ชายตัวสูงปกติดูๆแล้วน่าจะสัก170กว่าๆเห็นจะได้หน้าตาดูดีพอสมควรผมยาวพอๆกับตัวผมแต่น่าจะซอยผมบ้างนิดน้อยเครื่องแบบทุกอย่างดูเป็นปกติดีพอมาถึงก็เดินเข้าไปคุยกับกลุ่มนั้นกลุ่มนี้เรื่อยๆโดยที่ถือกระเป๋าไว้เขาเดินทักทายไปทั่วจนกระทั่ง
“โย่ว นายทำไมนั่งอยู่ตรงนี้คนเดียวละไม่ไปคุยกับคนอื่นเหรอ”
“...”ผมเหลือบมองเขาแล้วหันกลับไปที่หน้าต่างต่อ
“เอ่อออออ ที่นั่งข้างหน้านายนี่ว่างวะ”
“ไม่รู้”ผมตอบโดยไม่หันมามอง
“งั้นขอนั่งตรงนี้นะ”
“...”ผมไม่ตอบแล้วเขาก็นั่งลงไปทันที
“นายชื่ออะไรเหรอ”
“ก่อน...”จะถามบอกชื่อตัวเองก่อนผมจะพูดแบบนั้นแต่หมอนั่นตะโกนชื่อตัวเองซะดังลั่นเลยนี่
“ก่อนอะไรเหรอ”
“ป่าว มานาเสะ”
“ชื่อละ”
“เรย์”
“มานาเสะ เรย์ สินะ งั้นเรียกเรย์จังละกัน”
“...”ผมเหลือบตามองแล้วหันหน้าออกนอกหน้าต่างอีกครั้ง
เขาเงียบไปผมจึงคิดว่าเขาไปแล้วเลยหันกลับมาเพื่อเตรียมตัวโฮมรูมและเรียนวิชาแรก
รู้สึกจะเป็นประวัติศาสตร์สินะหน้าเบื่อจัง
ผมคิดยังงั้นแล้วหันกลับมาแต่
“/”@!#”ผมเผลอร้องออกมาเสียงไม่ได้ดังมากแต่ก็พอให้คนหันมามองและตัวผมไม่มีเวลารู้สึกตัวด้วยซ้ำว่าเสียงร้องนั้นเป็นยังไงส่วนสาเหตุก็เพราะ
คนที่นั่งอยู่หน้าผมได้ยื่นหน้าเข้ามาใกล้มากและเมื่อผมหันกลับมาจึงทำให้หน้าของผมกับเขาเกือบชนกันเลยทีเดียวผมรีบตั้งสติปรับอารมณ์อย่างรวดเร็วแล้วพูดกับเขาไปว่า
“ทำอะไร”
“แค่สงสัยว่านายมองอะไรอยู่”
“แค่มองไปข้างอกเรื่อยๆเฉยๆไม่ได้มองอะไรเป็นพิเศษ”
“เมื่อกี๋เสียงนายน่ารักดีนะ”
“...”
“นี่”
“หุบปากไปซะ”
“หา”
“อยากตายรึไงหุบปากแล้วหันกลับไปซะ”ผมทาขวางมองเขากลับไปปล่อยความรู้สึกมุ่งร้ายออกไปเต็มที่
“น่าๆแค่นี่เองเพื่อนกันไม่...”
“ไม่ต้องการ”
“หา”
“ผมไม่ต้องการเพื่อนเพราะงั้นกรุณาอย่ามาตีสนิทกับผมแล้วช่วยหันกลับไปซะ”
“แ...”
“นายมันน่ารำคาญหนวกหู”ผมไม่ปล่อยให้เขาพูด
“...”
แล้วเขาก็หันกลับไปเป็นช่วงเวลที่อาจารย์เข้ามาในห้องพอดีแล้วเริ่มให้แนะนำตัวทีละคน
การแนะนำตัวเริ่มขึ้นมีทั้งชื่องานอดิเรกของที่ชอบแต่ผมไม่ได้คิดจะฟังมันเลย
“ต่อไปเธอริมหน้าต่างคนหลังสุด”แล้วก็มาถึงผม
“มานาเสะ เรย์”ผมพูดแค่นั้น
“เอ่อ มานาเสะคุงไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้วเหรอ”
“ไม่มี”
“งั้นงานอดิเรกละ”
“ไม่มี”
“อาหารที่ชอบ”
“ไม่มี”
“ความสามารถพิเศษ”
“ไม่มี”
“งะ งั้นเหรอ”
เหมือนว่าการพยายามทำตัวให้คนเข้าหาน้อยที่สุดของผมจะทำให้อาจารย์หนุ่มเพิ้งบรรจุคนนี้ลำบากซะแล้วแต่ไม่ใช่อะไรที่ผมต้องสนใจ
“งั้นเชิญคนถัดไปครับ”
“ครับ ผมนานนาชิมะ ฮารุ งานอดิเรก เล่นกีฬาครับแต่ช่วงนี้ไม่ค่อยอยากเล่นเลยพักไปก่อน ชอบอ่านหนังสือนวนิยาย กับคุยกับนอื่นๆครับ ของที่ชอบเป็นเนื้อครับของที่เกลียดคงเป็นผักมั้งครับ”
“โอ้เป็นคนดูดีนี่นาแล้ว...สนใจใครในห้องนี้บ้างหรือปล่าวน้าดูจากผลการเรียนของเธอก็ดีมากอยู่แล้วด้วยสิหนุ่มเพอร์เฟคแบบนี้หายากนะเนี้ย”
มีเสียงกรี๊ดของผู้หญิงดังขึ้นมาทันที
“555ผมไม่ได้เพอร์เฟคอะไรหรอกครับนั้นสินะครับคนที่สนใจก็มีอยู่นะรับ”
“เหใครเหรอบอกหน่อยได้มั้ยเอ่ย”
“ได้ครับ”
“จริงดิไม่คิดปิดบังเลยเหรอหรือว่าคบกันอยู่”
“ป่าวครับผมเพิ่งมาถึงเมืองนี้ครั้งแรกไม่รู้จักใครหรอกครับ”
“รักแรกพบเหรอครับเนี่ย ใครกันน้าที่ว้าใจชายหนุ่มนนี้ไปเอ่ย”อาจารย์ไม่เลิกพูดเชิงล้อเล่นเพื่อรักษาบรรยากาศที่หดหู่เพราะผม
“มานาเสะ เรย์ครับ”
“ครับมานาเสะคุงนี่เอง”
“เหหหหหหหหหหหหหหหหหห”มีเสียงแสดงความตกใจจากคนทั้งห้องยกเว้นผมที่ทำหน้าไร้อารมณ์มองดูเขาด้วยความหงุดหงิดและรังสีมุ่งร้ายอย่างเต็มที่
เขา นานาชิมะฮารุแค่หันมามองผมแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยนแต่ผมก็ตอบกลับรอยยิ้มนั้นด้วยตาที่หรี่ลงครึ่งหนึ่งแสดงความเป็นศัตรู
แต่ผมไม่รู้เลยว่าหลังจากนั้นประตูที่ผมไม่เคยเปิดจะถูกเปิดออกมา
Chapter 1 End
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ