ดวงใจจ้าว
เขียนโดย ขจรกลิ่น
วันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2559 เวลา 14.27 น.
แก้ไขเมื่อ 26 เมษายน พ.ศ. 2559 14.45 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) งานอภิเษก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 2
ห้องรับรองวังรังสกุลครึกครื้นมากเทียว วันนี้เป็นวันรวมตัวของบรรดาราชนิกุลสูงหลากสกุลยศไว้ถึง 6 พระองค์ นานเท่าใดแล้วที่ทรงไม่ได้ประทับรวมกันเช่นนี้ ตั้งแต่รับราชการงานล้นพระหัตถ์แทบทุกพระองค์ แลผู้เริ่มเปิดบทสนทนาเย้าทูลกระหม่อมกิตติ สมเด็จพระเชษฐาไม่ใช่ใครพระองค์ชายพบเจ้าของวังรังสกุลนั้นเอง
“เห็นที่หม่อมคงไม่เมาไวน์เสียแล้วกระมัง มองทูลกระหม่อมทรงลุกๆยืนๆ แลทรงพระดำเนินไปมาอยู่เช่นนี้มาร่วม 2 ชม.เศษแล้วกระหม่อม”
“ชายพบเย้าทูลกระหม่อมทำกระไรเหล่า ไม่ทรงบรรทมเป็นแน่คืนนี้” เสริมทับด้วยวิศวกรไฟแรงอย่างพระองค์ชายเปี่ยม
พระองค์ชายพบแลพระองค์ชายเปี่ยมทรงรักใคร่สนิทสนมกันมากที่สุดในบรรดาชายๆ ด้วยทั้งสองพระองค์ทรงเสด็จไปศึกษายังอังกฤษพร้อมกัน วีรกรรมของทั้งสองพระองค์สร้างความปวดพระเศียรให้สมเด็จลุงเอกอัครราชทูตสยามประจำอังกฤษผู้ดูแลเชื้อพระวงศ์แลลูกหลวงทุกพระองค์ที่พำนักอยู่ยังอังกฤษ แต่คงไม่เท่าเสด็จอาราชเลขาเอกอัครราชทูตจากสยามประจำอังกฤษ ด้วยพระองค์ทรงเป็นผู้จัดการดูแลเป็นส่วนใหญ่ จึงทรงทราบเรื่องวีรกรรมของเหล่าบรรดาชายๆก่อนความจะทราบถึงพระกัญของสมเด็จลุงเสียอีก ด้วยงานราชการของพระองค์ทรงมากล้นพระหัตถ์นั้นเอง
“ทูลกระหม่อมทรงตื่นเต้นมากกระนั้นเทียวหรือกระหม่อม” พระสุรเสียงสุขุมของพระองค์ชายเกริกทรงตรัสถามสมเด็จพระเชษฐา พระองค์ชายเกริกทรงสุขุมพระทัยเย็น ด้วยพระนิสัยทรงเหมาะแล้วกับตำแหน่งเจ้ากรมเกษตรากร ทรงสำรวจแลออกโฉนดที่ดินได้ไม่มีผิดเพี้ยนเลยเทียว ทูลกระหม่อมกิตติแลพระองค์ชายเกริกทรงมีพระชันษาใกล้เคียงกันที่สุดในเหล่าบรรดาชายๆทรงมีพระชันษาห่างกันเพียง 11 เดือนสมเด็จกิตติทรงมีพระชันษามากที่สุดในเหล่าบรรดา 6 พระองค์ทรงเป็นที่พึ่งของเหล่าพระอนุชาและพระนัดดาทั้งหมดในกลุ่ม
“มากอยู่ดอก เร่งทำงานเสียจนไม่ได้พบหน้าน้องหญิงพิณ ซ้ำคุณจอมนวลจันทร์ยังให้มาเก็บตัวที่วังรังสกุลอีก” ทูลกระหม่อนกิตติตรัสด้วยสุรเสียงเศร้าพระทัยนัก กว่าจะได้จัดพิธีอภิเษก ด้วยอุปสรรคที่ทรงผ่านมาชั่งมากมายเลยเกิน ทรงสนิทเสน่าหาพระองค์เจ้าหญิงปัทมาวดีพระขนิษฐาร่วมพระอุระของพระองค์ชายพบ ตั้งแต่คราแรกที่พบพระพักตร์ เมื่อทรงนิวัติสยามทรงเป็นธุระนำน้ำหอมที่พระองค์ชายพบเพียรทำงานพิเศษซื้อฝากคุณจอม ทูลกระหม่อมจึงเสด็จยังตำหนักคุณจอมแต่คุณจอมนวลจันทร์ไม่อยู่เป็นเหตุให้สมเด็จกิตติพบว่าที่พระชายาในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านั้นเอง
สมเด็จกิตติแลพระองค์ชายเกริกทรงนิวัติสยามก่อนพระองค์อื่นถึง 1 ปีด้วยทรงเสด็จยังอังกฤษก่อนพระองค์อื่นๆ จากนั้นก็ตามด้วยพระองค์ชายพบพระองค์ชายเปี่ยม แลท่านชายจักร ท่านชายปกตามลำดับ
“อีกไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นดอกกระหม่อม ทรงได้พบหญิงพิณเป็นแน่พบในฐานะพระชายาเสียด้วยทูลกระหม่อมอา” ท่านชายจักรสถาปกหนุ่มทรงเย้าสมเด็จอาเช่นพระองค์อื่นๆ
“ว่าแต่ชายปกเล่าใยยังไม่มา” ทูลกระหม่อมกิตติทรงรับสั่งถามท่านชายจักรถึงอนุชาร่วมอุระของพระองค์
“เก็บของอยู่กระมังกระหม่อมวันนี้คนไข้วังหลังคงมากอยู่ดอกไม่เช่นนั้นชายปกคงมาถึงเป็นคนแรกเทียวกระหม่อม” คำตอบของท่านชายจักรทำเอาบรรดาชายๆทรงพระสรวลพร้อมกันอย่างออกรสไม่ทันสิ้นเสียงพระสรวลท่านชายปกทรงวิ่งกระหืดกระหอบยกพระหัตถ์กราบทุกพระองค์ด้วยชันษาน้อยที่สุดแลทรงดำเนินไปยังเคาเตอร์บาร์ภายในห้องรับรอง
“นายเปลี่ยนขอน้ำเย็นฉันสักแก้วไม่ไหววันนี้คนไข้มากเหลือเกิน” ทรงหยิบแก้วน้ำมาประทับรวมกลุ่มยังโซฟา ครบแล้วทุกพระองค์ ยังไม่ทันที่ท่านชายปกจะเข้าบทสนทนา พระองค์ชายเปี่ยมก็ทรงรับสั่งถึงวีรกรรมของท่านชายปกให้ทูลกระหม่อมฟัง ท่านชายปกเสด็จกลับสยามเป็นองค์สุดท้ายในบรรดาชายๆ ทรงเสด็จกลับมาสยามเพียง 6 เดือนเศษทรงเป็นนักเรียนแพทย์ที่เรียนเก่งแลแสบสุดเช่นกัน
“ทูลกระหม่อมทรงทราบความในหัตถเลขาฉบับสุดท้ายที่สมเด็จลุงทรงเขียนถวายเล่าให้สมเด็จป้าฟังหรือไม่กระหม่อม” ทรงตรัสถึงพระมาตุจฉาต่างพระมาดราของหม่อมเจ้าชายทั้ง 2 พระองค์
สมเด็จป้าทรงอภิบาลพระภาคิไนยทั้งสองด้วยทรงสงสารในพระชะตาเมื่อเสด็จแม่ของท่านชายทั้งสองพระองค์สิ้นพระชนม์ไม่นาน เสด็จพ่อของท่านชายก็ทรงเสกสมรสใหม่ สมเด็จป้าจึงทูลขอท่านชายทั้งสองมาอภิบาลด้วยพระองค์เองทรงเกรงว่าถ้าหากมีพระโอสรพระธิดาด้วยชายาพระองค์ใหม่จะไม่ทรงรักใคร่พระภาคิไนยพระองค์จึงเข้ามาเป็นผู้อภิบาลท่านชายทั้งสองสมเด็จป้าไม่ทรงอภิเษกทรงรักท่านชายทั้งสองนักหนาเสมือนพระโอสรก็ไม่ปาน
“ทรงเขียนว่ากระไรหรือ” ทูลกระหม่อมกิตติทรงรับสั่งถามด้วยพระสุรเสียงที่ทรงตื่นเต้น
“ก็เขียนว่าเป็นนักเรียนแพทย์ที่แสบนัก” ยังไม่ทันที่พระองค์ชายเปี่ยมจะทรงเล่าต่อ สุรสียงเจ้าของเรื่องทรงรับสั่งแก้พระองค์โดยทันที “ป่าวนะกระหม่อมก็ Class นั้นน่าเบื่อกระหม่อม”
“ออเช่นนั้นเองสมเด็จลุงเลยถูกเรียกพบว่าหม่อมเจ้าชายจากสยามจะวางเพลิงในชั้นเรียนกระนั้นหรือ”
ไม่ใช่ใครสุรเสียงท่านชายจักรพระเชษฐาร่วมพระอุระนั้นเอง “ยังสงสัยอยู่เทียวว่าเกียรตินิยมอันดับ 1 ที่ได้มาเห็นทีคนตรวจข้อสอบตรวจผิดเสียกระมัง”
พระองค์ชายเกริกทรงเย้าพระนัดดา ท่านชายปกทรงปั้นปึ่งพระขนงขมวดกอดหัตถ์ตรงพาหาแน่นเหมือนเมื่อสมัยทรงพระเยาว์กิริยาของท่านชายปกทำเอาบรรดาชายๆทั้งหมดทรงพระสรวลออกมาพร้อมกันเสียงดังลั่นห้องรับรองเลยเทียว รวมปีเศษที่วังรังสกุลไม่ครึกครื้นเช่นนี้ นายเปลี่ยนมองเสด็จที่วันนี้ทิ้งงานราชการที่ทรงเครียดไว้เบื้องพระขนอง ทรงพระสรวลออกมาอย่างมีความสุขทำเอาบ่าวที่ติดตามมาตั้งแต่สมัยทรงพระเยาว์เช่นนายเปลี่ยนดีใจนัก
..........................................................................................................
อันที่จริงทรงดีพระทัยนับแต่มีการกำหนดวันอภิเษกด้วยทรงเห็นพระทัยพระขนิษฐาทรงโดนครหากินเวลานานถึงหลายปีว่าทูลกระหม่อมหาได้ทรงรักใคร่พระองค์หญิงพิณ ทูลกระหม่อนกิตติทรงเข้าออกตำหนักคุณจอมนวลจันทร์บ่อยครั้ง ทรงมีพระดำริเรื่องการอภิเษกนับแต่คราแรกที่ทรงทราบความทั้งหมด แต่ทรงทำไม่ได้ด้วยขณะนั้นบ้านเมืองระสำระส่ายเกิดวิกฤตการณ์มากมาย เริ่มด้วยวิกฤติ รศ.112 หลังจากนั้นเพียงสองเดือนเศษก็เกิดคดีพระยอดซ้ำอีก ร้ายกว่านั้นปากแม่น้ำเจ้าพระยาเกิดวิกฤตฝรั่งเศสนำเรือรบเข้ามายังทางปากแม่น้ำ
แลเรายังต้องนำเงินข้างที่ทั้งหมดไถ่บ้านไถ่เมืองทูลกระหม่อมจะทรงเห็นเรื่องส่วนพระองค์สำคัญกว่าสยามเห็นที่จะไม่ใช่วิสัยของทูลกระหม่อมกิตติพระองค์ทรงเป็นเศรษฐกรที่เก่งกาจแลทรงเป็นรองเจ้ากรมพระคลังขณะนั้นไม่ทรงนิ่งเฉยทรงร่วมรับอาสาแก้วิกฤติ ทรงงานหนักแลทรงเสียพระทัย ที่ทรงร่วมลงพระนามในสนธิสัญญาเพื่อปกป้องเอกราชให้สยามยังคงความเป็นสยาม สยามบอบช้ำหนักหนาส่งผลด้านภาษีอากร ทูลกระหม่อมทรงแค้นพระทัยนักทรงร่วมจัดระบบภาษีอากรอย่างหนักทรงมีพระดำริว่า เราเสียเงินพระคลังข้างที่ไปเท่าใดจะทรงเอากลับคืนมาให้มากที่สุด ให้สมกับที่ทำให้ทูลกระหม่อมพ่อเสียพระราชหฤทัยแลทรงพระประชวรหนัก ทรงแค้นนักที่ทรงทำได้เพียงเท่านี้ในฐานนะคนสยามในฐานะลูกหลวงจะเอาคืนมาให้มากที่สุดทูลกระหม่อมทรงเด็ดเดี่ยวยิ่งนัก เช่นกันกับนายทหารเช่นพระองค์ชายพบทรงอาสาร่วมประจำการอยู่ยังป้อมพระจุลนายเปลี่ยนอยู่เคียงข้างพระองค์ชายพบเห็นทั้งหมด ในวันที่เขาทำการปิดล้อมแลหันกระบอกปืนมาทางพระบรมมหาราชวัง เสด็จทรงกำพระหัตถ์ซ้ายแน่นพระหัตถ์ขวากำพระพาหาด้านซ้ายภายในมีถุงแดงตราประจำพระองค์ที่ทรงได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระชนก ทรงพระราชทานให้พระโอสรแลพระธิดาทุกพระองค์แลทรงขบพระทนต์ นายเปลี่ยนเห็นเสด็จทรงมีพระอัสสุชลไหลอาบพระปรางค์ทรงกัญแสงออกมาด้วยความกริ้ว
“ดูเอาเถิดไอ้เปลี่ยนแกอย่าได้ลืมเทียวเขากล้าเอาร่มโพธิ์ร่มไทรแลหัวใจชาวสยามมาขู่เราฉันแค้นหนักที่ทำกระไรไม่ได้วูบวาบไปก็เท่านั้นทูลกระหม่อมในพระบรมมหาราชวังบัดนี้จะทรงเป็นเช่นไรพระราชหฤทัยจะบอบช้ำสักเพียงไหนกัน” นายเปลี่ยนก้มเอามือจับพระบาทเสด็จเขาร้องไห้เช่นกันกับพระองค์
ในยามที่บ้านเมืองคับขันเช่นนี้ทูลกระหม่อมกิตติทรงมีข้อราชการมากล้นพระหัตถ์แต่พระองค์ไม่ทรงลืมพระอนุชาทรงทราบว่าเสด็จร่วมประจำการอยู่ป้อมพระจุล แลทรงประสบกับเหตุการณ์ใดอยู่คงเจ็บปวดเหลือขนาดทรงมีหัตถเลขาฉับบหนึ่งถึงพระองค์ชายพบ ความในจดหมายพระองค์ชายทรงรับสั่งให้นายเปลี่ยนฟังจำได้ไม่ลืมด้วยทรงอ่านจบทรงหลั่งพระอัสสุชลออกมาด้วยทรงซาบซึ้งในน้ำพระทัยแลความห่วยใยของสมเด็จกิตติที่มีต่อพระองค์แลพระขนิษฐา
ถึง ชายพบน้องพี่
พี่รู้แล้วว่าน้องหญิงพิณเจ็บช้ำเพียงไรกับคำครหาทั้งหลายพี่เสียใจนักทำได้เพียงเท่านี้แต่ดูเอาเถิดความมั่นคงของหัวใจพี่ต่อน้องหญิงมากมายเหลือเกินฝากบอกน้องพิณว่าพี่รักยิ่งกว่าสิ่งใด น่าขันนักอยู่ในพระนครด้วยกันแท้ๆเทียวยังต้องเขียนจดหมายถึง พี่รู้ว่าชายรับอาสาร่วมประจำการยังป้อมพระจุล พี่ขอให้ชายใจเย็นอย่าได้วูบวาบ วันนี้เราไม่ได้แพ้เราเพียงยอมเสียส่วนมากเพื่อคงความเป็นเอกราช เราชาวสยามทุกคนทำดีที่สุดแล้ว พี่ดีใจนักถึงเราต้องจ้างทหารต่างชาติด้วยเราไม่เชี่ยวการทหาร แต่ชายเลือกเรียนการทหารน้อยคนนักที่เรียนด้านนี้ อย่าได้เสียใจแลจงมองด้วยความเข้าใจ งานเบื้องหน้าที่รออยู่หนักหนานัก เขาทำอะไรเราได้เพียงครั้งนี้เท่านั้นสมเด็จพระชนก ทรงมีพระราชดำริด้านการศาลขึ้นใหม่ไม่นานดอกเราจะแข็งแกร่งพอที่จะสู้เขาได้ น้องพี่ทำดีที่สุดแล้ว
รัก
กิตติณรงค์
เมื่อบ้านเมืองเริ่มคลายวิกฤติลงสมเด็จกิตติทรงจัดงานอภิเษกโดยทันที แลความรักที่สมเด็จกิตติทรงมีต่อพระองค์หญิงพิณบัดนี้แสดงผลออกมาอย่างชัดเจน
วันสำคัญเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว เหล่าบรรดาชายๆทรงทำหน้าที่พาตัวเจ้าบ่าวไปยังวังสมเด็จเมื่อใกล้ถึงเวลาฤกษ์ยาม ส่วนพระองค์ชายพบขอพระองค์เสด็จล่วงหน้าด้วยมีของบ้างอย่างที่จะทรงประทานให้พระขนิษฐา เมื่อถึงวังสมเด็จเสด็จทรงพระดำเนินหาพระนมที่ดูแลความเรียบร้อยอยู่โถงด้านล่าง
“แม่อิ่ม น้องหญิงอยู่ที่ใดกัน”
“ทรงประทับอยู่กับคุณจอมนวลที่โถงชั้นบนเพคะ”
ทรงก้าวพระบาทขึ้นยังโถงชั้นบนอย่างรวดเร็ว ทรงทอดพระเนตรพระขนิษฐาด้วยความปิติพระทัยพระองค์หญิงทรงพระศิริโฉมยิ่งนัก สมแล้วที่จะเป็นพระชายาวังสมเด็จแลเจ้ากรมพระคลัง พระองค์หญิงหันพระพักตร์มาพบพระเชษฐาพอดี “เสด็จพี่เพคะ” ทรงกราบเสด็จก่อนทรงโผลเข้ากอดอยู่กลางพระพาหา เสด็จทรงลูบพระขนองเบาๆ ก่อนทรงค่อยๆคลายกอดออก
"เป็นกระไรค่ะน้องหญิง แล้วคุณแม่เล่าค่ะ”
“คุณแม่ลงไปเมื่อสักครู่กระมังเพคะเห็นว่าจะไปตรวจความเรียบร้อยสักหน่อยเพคะ” “วันนี้น้องหญิงของพี่งามพร้อมเหมาะนักที่จะเคียงข้างทูลกระหม่อมในฐานนะพระชายาแลคุณหญิงเจ้ากรม” เสด็จแย้มพระสรวลให้พระองค์หญิง
“ว่าอย่างไรเป็นกระไรจึงโผลกอดพี่ค่ะ”
“น้องเกรงเพคะผู้ใหญ่มากมายเกรงจะทำสิ่งใดผิดเพคะ” ทรงตรัสตอบพระองค์ชายพบพลางก้มพระพักตร์เล็กน้อยด้วยทรงไม่หมั้นพระทัยจริงดั่งที่ทรงรับสั่ง
“พุธโธ่พี่นึกว่าเรื่องอันใดน้องหญิงต้องกลัวอันใด เมื่ออยู่เคียงข้างทูลกระหม่อมพี่ไม่ทรงยอมปล่อยให้ดวงพระทัยของพระองค์อับอายหรือเพี้ยงพร้ำต่อหน้าธารกำนัลเป็นแน่มานี้ดีกว่าหลับตาสักครู่พี่มีกระไรจะให้” จริงดั่งคำพระเชษฐาค่อยทรงคลายกังวลลงแลทรงตื่นเต้นว่าพระเชษฐาทรงประทานสิ่งใดให้
“ยืนมือมาค่ะลืมตาได้ค่ะน้องหญิง” พระองค์หญิงทรงลืมพระเนตรพบถุงผ้ากำมยี่
สีแดงเล็กๆทรงเปิดถุงพบเข็มกลัดทับทิมล้อมเพรชน้ำงามชั่งงดงามนักเป็นแบบที่ทรงเปรยบ่อยๆว่าอยากได้นักหนาทรงสวมกอดพระเชษฐาอีกคราทรงยกพระหัตถ์กราบตรงพระพาหา
“ขอบพระทัยเพคะเด็จพี่”
“เห็นว่าอยากได้มานานแต่ติดกระไรอยู่หลายประการจึงเพิ่งจะมีโอกาสสั่งทำชอบหรือไม่ค่ะ”
“ชอบมากเพคะ”
พระอัสสุชลไหลออกมาด้วยทรงซึ้งน้ำพระทัยพระเชษฐาทรงใส่พระทัยเสมอในเรื่องเล็กน้อยไม่เคยทรงมองข้ามสักเรื่องของพระองค์หญิงทั้งที่งานราชการยุ่งนัก เสด็จทรงยกพระหัตถ์โอบพระอังสาพระองค์หญิงพิณ
"ผ่านเรื่องราวแลอุปสรรคมามากมายวันนี้น้องของพี่กำลังจะเป็นพระชายาในสมเด็จเจ้าฟ้ากิตติณรงค์อย่างเต็มภาคภูมิพี่ของให้น้องหญิงแลทูลกระหม่อมครองคู่กันตราบนานเท่านานออกเรือนแล้วจะทำสิ่งใดคิดให้มากแลเป็นหลังบ้านที่ส่งเสริมหน้าบ้านมีองค์น้อยๆเร็วๆนะค่ะ” คำอวยพรทายประโยคจากพระเชษฐาทำพระองค์หญิงทรงพระปรางค์แดงเล็กๆ
......................................................................................................................
เสร็จงานพิธีอภิเษกราวสามทุ่มเสด็จทรงพระดำเนินลงจากหน้ามุขวังสมเด็จมาประทับในรถยนต์ทรงทิ้งพระวรกายด้วยความเหน็ดเหนื่อยแต่ทรงปิติพระทัยไม่น้อย ทรงสุขล้นพระทัยจนทรงลืมกระไร บางประการไปเสียสนิท ก่อนนายเปลี่ยนออกรถยืนโถขนาดเท่าฝ่าพระหัตถ์ห่อด้วยผ้าขาวอบร่ำด้วยกลิ่นที่บังเอิญนักเป็นกลิ่นที่ทรงโปรดกลิ่นดอกมะลิลา
“อะไรหรือนายเปลี่ยน” ทรงรับสั่งถามพร้อมกับทรงเลิกพระขนง
“กลีบลำดวนบุตรีเจ้าพระยาพิสุทธิมนตรีกระไรเล่าฝ่าพระบาท ช่างบังเอิญหนังห่อด้วยผ้าอบร่ำกลิ่นมะลิลาที่ฝ่าบาททรงโปรดเสียด้วยกระหม่อม” ตอบเสด็จพร้อมกับยิ้มแบบมีเลศนัย
“กระไรของแกไอ้นพประเดี๋ยวเถอะ” ทรงตรัสเชิงขู่แบบไม่ทรงจริงจัง
ทรงค่อยๆแกะห่อผ้าออกพบกลีบลำดวนที่ทรงโปรดนักหนาถูกจัดเรียงอย่างสวยงาม กลีบลำดวนที่ทรงถูกพระทัยก็เห็นจะมีแต่ของคุณจอมแลพระนมเท่านั้นกระมัง แต่ทว่าใต้โถมีกระดาษแผ่นเล็กๆอยู่ด้วยทรงคลี่ดูภายในมีข้อความที่ทรงอ่านไปแลทรงแย้มพระสรวลไปพร้อมกัน
ถึง นายเปลี่ยน
ขนมกลีบลำดวนโถนี้ฉันฝากลุงกล่ำมอบให้ตามสัญญา นายเปลี่ยนทานระหว่างรอเสด็จพระองค์ชายของนายเปลี่ยนนะจ๊ะ เพิ่งฝึกทำเป็นคราแรกไม่แน่ใจว่ารสชาติพอทานได้หรือไม่ ขอบใจอีกครั้งที่นายเปลี่ยนเป็นธุระให้แลทำให้ฉันไม่ต้องเข้าเฝ้าเสด็จพระองค์ชาย
วารินทร์ เทพวาณิชย์
ทรงปรารภกับพระองค์เองออกมาโดยไม่ทรงรู้พระองค์ “ใครกันมองหนังสือให้ฉันหล่อนเองแท้เทียวนี้ถ้ารู้ว่าฉันไม่ใช่นายเปลี่ยนจะทำหน้ากระไรกัน” ทรงส่ายพระพักตร์ด้วยความเอ็นดูวารินทร์อยู่ไม่น้อย ทรงเปิดโถแลทรงลองเสวยกลีบลำดวนในทันที แปลกจริงนี้ทำคราแรกหรือรสมือเทียมคุณจอมที่ทำให้เสวยอยู่บ่อยเทียว
“ฝ่าพระบาททรงถูกพระโอษฐ์หรือไม่กระหม่อม”
“ก็พอกินได้” ทรงปดนายเปลี่ยนไม่ใช่แค่พอเสวยได้แต่ทรงถูกพระโอษฐ์อยู่ไม่น้อย
“ฝ่าพระบาทกระหม่อมขอทรงประทานอภัยกระหม่อมลืมถวายบัตรเชิญไปงานเลี้ยงตอนรับ
บุตรีเจ้าพระยาพิสุทธิกลับจากปีนังวันอาทิตย์นี้กระหม่อม” เสด็จทรงสำลักเล็กหน่อย
“แกว่ากระไรเห็นว่ากลับมาเกือบอาทิตย์แล้วไม่ใช่หรือเหตุใดเพิ่งจัดเลี้ยงเล่า”
“เห็นนายกล่ำว่าติดงานพิธีอภิเษกกระหม่อมเลยเพิ่งจัดเลี้ยงกระหม่อม”
ทรงขมวดพระขนงเล็กน้อยแลทรงพระดำริในพระทัยว่า ถ้าหล่อนรู้ว่าพระองค์ไม่ใช่นายเปลี่ยน แต่เป็นพระองค์เจ้าชายกฤตดนัยรังสกุลหล่อนจะทำหน้ากระไรกัน พุธโธ่ฉันไม่ได้ปดหล่อนก็หล่อนไม่เว้นช่องให้ฉันได้บอกเพียงสักหน่อย ฉันไม่ผิดหล่อนจะเคืองโกรธฉันไม่ได้ โธ่ถ้าหล่อนรู้สึกอับอายจนไม่กล้าพบหน้าฉันเล่าจะทำกระไร
“เสด็จทรงเป็นกระไรหรือป่าวกระหม่อมทรงเครียดข้อราชการหรือทรงขมวดพระขนง
จนผูกเป็นปมแล้วกระหม่อม” นายเปลี่ยนเย้าเจ้าชีวิต
“ไม่ใช่ดอกเพียงแต่...นายเปลี่ยนแกว่าผู้หญิงเขาจะโกรธหรือไม่ถ้าเขาคิดว่าเขาโดนปด”นายเปลี่ยนฉงนสิ่งที่ทรงรับสั่งถามก็นับแต่รับใช้เสด็จมาไม่เคยทรงปรึกษาเรื่องเกี่ยวกับสตรีแม้สักครา
“โกรธหรือไม่ขึ้นอยู่กับเรื่องที่โดนปดกระหม่อนหากทำให้รู้สึกไม่ใคร่ดีคงโกรธมากกระมังกระหม่อม”
“แล้วเวลาแม่แตงโกรธแกเล่าแกทำกระไร”
“ขอโทษแลอธิบายในเรื่องที่ทำให้โกรธกระหม่อม แลถ้าไม่หายโกธรก็ตามตื้อจนกว่าจะหายโกรธกระหม่อม” ทรงเผลอถอนพระอัสสาออกมายาวเทียวทั้งที่ทรงรู้ว่าเป็นการไม่สมควร
“ฝ่าพระบาทนะหรือจะมีสตรีใดทำเช่นนั้นกระหม่อม”
“แกผิดอีกแล้วมีอยู่ดอกหญิงที่ไม่แสดงที่ท่าชอบฉันไม่แม้นแต่ทำกิริยาโปรยเสน่ห์เช่นที่ฉันเคยพบ
หล่อนช่างสดใสนัก” ทรงตรัสพร้อมกับทรงแย้มมุมพระโอษฐ์เล็กน้อย
“ฝ่าพระบาททรงพอพระทัยเจ้าของกลีบลำดวนที่ทรงเสวยหรือกระหม่อม”
ไม่ทรงตอบนายเปลี่ยนแต่ทรงหลบพระเนตรจากสายตานายเปลี่ยนที่มองจากกระจกมาด้านหลัง
วันอาทิตย์นี้แล้วสินะที่จะพบหล่อน จะเป็นกระไรถ้าหล่อนพบฉันในฐานนะพระองค์เจ้าไม่ใช่นายเปลี่ยนที่หล่อนคิด ทรงปรารภอยู่ในพระทัยแลทรงค่อยๆหลับพระเนตรลงด้วยความเหนื่อยพระวรกาย
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ