เลห์โรงเรียนต้องคำสาป [ Lleh to hell]

7.8

เขียนโดย soploy

วันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2559 เวลา 20.00 น.

  2 ตอน
  4 วิจารณ์
  4,149 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 24 เมษายน พ.ศ. 2559 15.06 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) ห้องเรียนพิเศษ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
“ไวท์เมื่อวานตอนเรียนวิชาฟิสิกส์ประยุกต์ ฉันรู้แล้วนะว่าใครปากระดาษใส่เธอ” เสียงดังมาจากเตียงชั้นล่างมาดิต้ารูมเมทของฉันเอง
“ช่างเธอฉันไม่สนใจแล้วล่ะ”
“ต้องสนสิ”
“ทำไม”
“ก็แก๊งนางยักษ์น่ะสิ พวกนี้ถ้าได้เกลียดใครแล้วกัดไม่ปล่อยเลยนะ” เสียงไอริชรูมเมทอีกคนแทรกมา ห้องของเรามีกัน 4 คนประกอบด้วยฉัน มาดิต้าลูกสาวบรรณารักษ์นางนี้เก่งกาจที่สุดในห้องรู้ทุกเรื่อง อ่านหนังสทอมาจนหมดหอสมุดแล้ว อีกคนก็เปปเปอร์ลูกสาวเศรษฐีจากเมืองหลวงเธอใช้เงินฟุ่มเฟือยมากจนถูกจับส่งมาดัดนิสัย เพราะที่นี่ถ้าให้ฉันสร้างคำนิยามให้ขอเรียกสถานที่แห่งนี้ว่าคุกเถอะ ส่วนสุดท้าย ไอริช คนนี้ก็ลูกสาวชนเผ่าจากทางเหนือของประเทศเอลตัน ทางบ้านไม่ค่อยมีฐานะแต่อยากให้ลูกมีการศึกษาเลยส่งมาอยู่ที่นี่ ส่วนฉันมาที่นี่เพราะไม่ลงรอยกับพ่อ
“ต้องกลัวด้วยเหรอ ฉันไม่สนใจหรอกนะ ฉันมาที่นี่เพื่อเรียน เรียนให้จบๆ แล้วเอาชีวิตรอดกลับไปต่อมหาลัยให้ได้”
“พูดถึงเอาชีวิตรอดกลับไปให้ได้แล้ว พวกเธอรู้หรือยังเรื่องเด็กห้อง G ที่หายไปน่ะเจอแล้วนะ” เปปเปอร์ที่กำลังยุ่งอยู่กับการค้นหาอะไรสักอย่างที่โต๊ะเล็กๆ ตรงหัวเตียง หันมาพูดร่วมวง
“เจอที่ไหน” ไอริชทำท่าทางอย่างรู้อยากเห็นเป็นอย่างมาก ส่วนฉันได้แต่หันทางนั้นทีทางนี้ทีเพื่อฟังแล้วประติดประต่อเรื่องราว
“เจอเป็นศพอยู่ที่ผาพระจันทร์เมื่อวานตอนไปหาแม่ที่ห้องสมุดฉันก็ได้ยินบรรณารักษ์คุยกันอยู่” มาดิต้าทำสีหน้าไม่ค่อยดีนัก ฉันเองก็รู้สึกกลัวอย่างบอกไม่ถูก
“กลัวหรือป่าวไวท์” ไอริชแหงนหน้าขึ้นมาพูดกับฉัน
“ไม่หรอก ว่าแต่ผาพระจันทร์นี่มันอยู่ที่ไหนเหรอ”
“ลึกเข้าไปในป่าข้างๆ หอเรานี่แหละแต่ไม่มีเด็กนักเรียนเข้าไปถึงหรอกเห็นลุงภารโรงบอกว่าไกลมาก” มาดิต้าเป็นคนให้คำตอบ
“แล้วเคยมีใครไปหรือป่าว” ฉันยังคงถามไม่หยุดด้วยความสงสัย
“พวกที่แอบไปลองของก็มีบ้างแต่ก็จะมายามกันทางแถวๆ นั้นไว้นะ จะมีอีกพวกก็หน่วยค้นหาแล้วก็ภารโรงที่ต้องไปหาเด็กที่หายไป คือต้องหาให้ทั่วทั้งบริเวณโรงเรียนแล้วก็บริเวณรอบๆ ถ้าไม่เจอจริงๆ ก็ต้องเข้าไปค้นในป่า” มาดิต้าอธิบายให้ฉันฟัง
“แล้วเด็กตายแบบนี้ไม่เป็นข่าวเหรอ”
“ไม่หรอกเท่าที่ฉันอยู่ที่นี่มา การที่มีเด็กตายเป็นเรื่องปกติไปแล้วสิ่งที่ไม่ปกติคือการตายต่างหาก”
“ยังไงเหรอ” ยิ่งมาดิต้าเล่าให้ฟังฉันยิ่งอยากรู้ มันแปลกมากนะกับการที่มีคนตายแต่กลับถูกมองว่าปกติ
“ส่วนใหญ่จะพบศพที่บริเวณผาพระจันทร์สภาพศพถูกกรีดที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายแต่ไม่มีร่องรอยถูกทำร้ายอื่นๆ จริงๆ มองดูสภาพแผลแล้วเหมือนมันไม่ใหญ่มากแต่ถึงกับตายเลยมันแปลกๆ นะ”
“ฉันว่าเราจบนิทานสยองขวัญก่อนแล้วรีบไปเรียนกันดีกว่ามั้ย” ไอริชที่แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วหันมาพูดกับทุกคน จริงๆ ฉันกับมาดิต้ายังไม่ได้อาบน้ำเลยด้วยซ้ำ
“เธอไปก่อนเถอะเดี๋ยวฉันจะไปกับไวท์” มาดิต้าหันไปบอกกับเปปเปอรฺและไอริช
“ไปให้ทันข้าวเช้านะ จ่ายเงินแล้วแต่ถ้าช้าก็ไม่ได้กิน” เปปเปอร์หันมาพูดเหน็บข้าวเช้าใส่พวกเราที่ยังคงนั่งนิ่งไม่มีทีท่าว่าจะไปอาบน้ำ เลห์นี่มีแต่อะไรแปลกๆ จริงๆ
//////////////////////////////////////////////
ณ ห้องเรียนวิชาเคมีวิทยา
     วิชาเรียนส่วนใหญ่ในเลห์เป็นวิชาประยุกต์คือผสมวิชานั่นนี่รวมกันและที่สำคัญดูเหมือนจะเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันไม่ได้เลย
“สวัสดีเด็กใหม่” อิงกริด 1 ในสมาชิกแก๊งนางยักษ์ (ใครๆ ก็เรียกอย่างนั้น) เข้ามาทักทายฉันแต่ดูจากสีหน้าและท่าทางแล้วคงไม่ได้อยากจะมาผูกมิตรแน่ๆ
“สวัสดี”
“ตอบสั้นๆ แค่นี้เองเหรอ”
“สวัสดี สะวีดัด ละกันนะ” ฉันทิ้งประโยคผวนๆ ไว้กวนประสาทก่อนจะเดินเลี่ยงออกมาแต่กลับถูกเจนสมาชิกในแก๊งอีกคนกันไว้
“เดี๋ยวสิ คิดจะกวนแล้วเดินหนีไปเฉยๆ เหรอ”
“ฉันจะเอาอุปกรณ์ไปทำแล็ป” ฉันพูดไปด้วยเสียงสั่นๆ จากซ่าๆ เริ่มจะไม่โอเคแล้วล่ะ เจนดึงขวดทดลองจากมือฉันไปถือไว้
“ฉันขอนะ”
หืมม !!! ฉันถอนหายใจแล้วหมุนตัวหวังจะเดินกลับไปหยิบขวดทดลองมาใหม่แต่อิงกริดที่ยังยืนอยู่ทางด้านหลังก็เดินมากันฉันอีก
“ถอนหายใจ ไม่พอใจหรือไง”
“.....” ฉันยืนนิ่งไม่ตอบโต้อะไร
“พูดด้วยทำไมไม่พูด” เฟลล่าสมาชิกอีกคนที่ยืนล้อมฉันอยู่ตะคอกใส่ ทำเอาทุกคนในห้องหันมาโฟกัสตรงนี้หมด
“ขอโทษที่พูดกวนใส่ฉันเดี๋ยวนี้” อิงกริดออกคำสั่ง
“.....” แต่ฉันไม่เห็นว่าตัวเองผิดตรงไหนยังไง ก็เลยเลือกที่จะไม่พูดดีกว่า
“ยังเงียบอยู่อีก” เฟลล่าตะคอกใส่ฉันอีกครั้ง ฉันเริ่มหายใจแรงขึ้นด้วยความโมโห แต่ยังคงยืนนิ่งเงียบไม่พูดอะไร จังหวะของหัวใจเริ่มเต้นแรงขึ้นๆ ตัวฉันเริ่มสั่นและชา
“ทำไมจะร้องไห้หรือไง”
“โมโหหรอ”
“เงียบทำไม พูดสิ ตอบพวกฉันมาสิ”
“ก้มหน้าทำไมฮะมองหน้าสิ” ตอนนี้ฉันแยกไม่ออกแล้วว่าเสียงใครเป็นเสียงใคร ฉันรู้สึกร้อนและชาไปทั้งร่างกาย เสียงของยัยพวกนางยักษ์ที่แย่งกันพูดอยู่รอบๆ ตัวฉันดังก้องอยู่ในหูแต่ฉัน...ไม่รู้สิฉันรู้แค่ว่าฉันอยากจะระเบิดอารมณ์ให้พังไปทั้งห้องเลย
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด” ในที่สุดฉันก็ทำมันฉันกรี๊ดออกมาอย่างสุดเสียงก่อนจะเดินเข้าไปผลักอิงกริดที่อยู่ข้างหน้าแล้วหันไปดึงหลอดทดลองมาจากเจน
เพล้งงง ฉันปามันลงที่พื้นฉันคุมสติตัวเองไม่ได้อีกแล้ว
“กรี๊ดดดดด” ฉันเดินตรงไปที่โต๊ะของเพื่อนในห้องที่กำลังทำแล็ปพร้อมทั้งกวาดทุกอย่างบนโต๊ะลงด้วยแขนทั้ง 2 ข้าง
โครมมม สุดท้ายจบที่ล้มโต๊ะนั้นลง
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด” สุดท้ายฉันก็ล้มลงที่พื้นและกรี๊ดอย่างสุดเสียงก่อนจะหมดสติไป
////////////////////////////////////////////////////
            ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากทิ้งบอมไว้ในห้องเรียน ฉันรู้ว่าที่นี่ต้องเป็นห้องพยาบาลแน่ๆ เพดานสีครีมลายดอกกุหลาบสีขาวมองดูสบายตาดีจัง
“เธอเป็นเด็กใหม่ที่มีอาการทางจิตใช่มั้ย” เสียงทุ้มๆ ปลุกฉันให้ได้สติเต็มตื่น
“ฉันไม่ได้.....” พูดไปก็เท่านั้นพ่อใส่ประวัติในใบสมัครฉันว่าฉันมีอาการทางจิตที่รุนแรง ดีที่เรื่องนี้เป็นความลับรู้แค่ครูอาจารย์แต่นี่ไม่ห้องพยาบาลนี้ฉันมองเห็นโต๊ะทำงานฉันหนังสือ และที่ๆ ฉันนอนอยู่คือโซฟา
“ไม่ได้เป็นบ้าแต่อาละวาดจนห้องทดลองเละขนาดนั้น ให้เชื่อไม่ยากไปหน่อยหรือไง” คนที่กำลังพูดอยู่หน้าคุ้นมากๆ แต่ฉันนึกไม่ออกว่าเป็นใครตาสีแสดน่ากลัวคู่นั้นเย็นชาสุดๆ ขนาดไม่แสดงออกถึงอารมณ์ไหนเลยยังดูน่ากลัวขนาดนี้ แล้วถ้าเอาฉันว่าไว้ที่นี่เพื่อสั่งสอนลงโทษฉันคงอาละวาดอีกรอบแน่
“กลัวฉันหรือไง” ชายในชุดสูทสายตาน่ากลัวนั่งลงที่เก้าอี้อีกตัวในชุดรับแขก
“ป่าวค่ะ”
“ฉันชื่อดาร์กไนท์เป็นผู้ช่วย ผ.อ. ที่ฉันไปรับเธอมาที่นี่เพราะอยากจะถามอะไรสักหน่อย”
“ค่ะ” ฉันค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งเพื่อที่จะฟังคำถามรีบๆ ตอบแล้วก็รีบๆ กลับ
“เธออยากจะย้ายห้องมั้ย เพราะถ้ากลับไปเรียนห้องเดิมเพื่อนเธอคงรู้หมดแล้วว่าเธอมีความผิดปกติทางด้านอารมณ์” ทำถามแรกก็จี้ดขยี้ใจซะแล้ว
“คงไม่ขนาดนั้นมั้งคะ”
“ถ้าเธอไม่ย้ายเธอก็ยังต้องเจอกับเพื่อนกลุ่มที่กดดันเธอ แล้วเธอก็จะอาละวาดเหมือนเดิม” ย้ำจัง
“ถ้าย้ายก็ต้องย้ายไปตลอด” ฉันยังคงเถียงเสียงแข็ง
“ถ้าย้ายเธอจะถูกย้ายไปเรียนห้องพิเศษ” ห้องพิเศษหรือจะย้ายดี จะได้จบๆ
“แล้วห้องพิเศษเป็นยังไงคะ”
“มันพิเศษ แน่ๆ” คำตอบที่แสนจะสั้น ง่าย และไม่ได้ใจความทิ้งความฉงนไว้ให้ฉันนั่งงงเต้กมองดูใบหน้านิ่งแต่ดูดุลึกๆ เขาจ้องมาที่ฉันด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป ดวงตาคู่นั้นแสนจะชั่วร้ายดวงตาสีแสดประดุจเปลวเพลิงที่กำลังลุกโหมมอดไหม้ช่างดูน่ากลัวจริงๆ
“ย้ายค่ะ”  ฉันพลั้งปากพูดออกไปทั้งที่ไม่ได้ชั่งใจคิดอะไรเลย เขามองดูฉันด้วยสายตาที่เรียบนิ่งเปลวเพลิงในดวงตาคู่นั้นสงบลงแล้ว
 
“ไปพักได้แล้วล่ะ แล้วฉันจะส่งตารางไปให้ที่ห้องพักของเธอ” ฉันลุกขึ้นเดินออกมาโดยไม่พูดคำลาใดๆ จริงสิฉันยังติดค้างค่าเครื่องรางของคุณตาภารโรงอยู่นี่ ฉันรีบมุ่งหน้าไปที่สถานที่นัดหมายทำไมฉันต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยนะ....

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา