เลห์โรงเรียนต้องคำสาป [ Lleh to hell]
7.8
เขียนโดย soploy
วันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2559 เวลา 20.00 น.
2 ตอน
4 วิจารณ์
4,155 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 24 เมษายน พ.ศ. 2559 15.06 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) ภารโรงลึกลับ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเสียงหมู่มวลแมลงราตรีดังขึ้นในประสาทหู พวกมันมีไม่ต่ำกว่า10 หรือ 20 ชนิดแน่ๆ ช่างสิใครสนล่ะ ฉันมองไปรอบๆ ในตอนนี้ถ้าให้บอกเวลาคงยากฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร แต่ที่แน่ๆ ครั้งสุดท้ายที่ฉันจำได้คือฉันปิดไฟในห้องเพื่อที่จะนอน แม้พื้นที่โดยรอบจะไม่มีแสงไฟแต่ด้วยคืนนี้พระจันทร์เต็มดวงแสงจากพระจันทร์ก็สาดส่องทะลุจากการปกคลุมของต้นไม้ใหญ่มาให้พอได้เห็นบ้างว่าอะไรเป็นอะไร ฉันจำได้ว่านี่เป็นครั้งที่ 7 แล้วตั้งแต่ย้ายมาเรียนที่เลห์ (Lleh) ฉันไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องมีแอล 2 ตัว แต่การออกเสียงทุกคนเรียกที่นี่ว่าเลห์ ฉันเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ด้วยความระมัดระวัง ครั้งแรกที่ละเมอมาที่นี่ฉันตกใจมากถึงขั้นวิ่งเสียสติไปแบบไม่รู้ทิศรู้ทาง แต่ก็แปลกที่สุดท้ายแล้วฉันกลับวิ่งไปถึงหอพักและกลับเข้าไปโดยที่รูมเมทฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันออกมา หรือแม้กระทั่งยามหน้าหอและครูผู้คุมหอ อย่าเพิ่งสนใจเรื่องพวกนั้นเลย มาสนใจที่นี่ดีกว่า ในที่สุดฉันก็เดินตรงมาตามทางเดินเท้าที่หญ้าราบเตียนชัดเจนจนมาถึงกระท่อมกลางป่าถ้าให้อธิบายตามที่เห็นจากตรงที่ยืนอยู่ห่างออกไปราวๆ 300-500 เมตร ตัวกระท่อมอยู่ตรงกลางลานกว้างมีเพียงต้นไม้ต้นเดียวที่งอกงามสูงเด่นอยู่ข้างๆ กระท่อมหน้ากระท่อมมีตะเกียงที่ถูกจุดแขวนไว้ 2 ดวงตรงหน้าทางเข้าฉันเห็นทุกอย่างชัดเจนเพราะตรงนั้นเป็นจุดที่แสงจันทร์ตกเต็มที่ ฉันก้าวเท้าเดินเข้าไปเรื่อยๆ ทุกอย่างดูดึงดูดน่าสนใจไปหมดฉันก้าวเร็วขึ้นจนกระทั่งถึงหน้าประตู
“กลับดีกว่ามั้ย” ฉันชั่งใจกับตัวเอง เพราะคิดว่าจากตรงนี้ไปที่หอมันไกลเกินไปแล้ว อีกอย่างเรื่องที่รูมเมทฉันเล่าให้ฟังว่ามีเรื่องแปลกๆ เกี่ยวกับเด็กในโรงเรียนหายตัวไปในป่าบ่อยๆ อีกกระท่อมนี้มาตั้งอยู่ตรงนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะปกติสักเท่าไหร่ แล้วที่สำคัญที่สุด มันไม่เกี่ยวกับฉัน.... ฉันถอยออกมาพร้อมทั้งหันหลังหวังจะกลับไปที่หอพักแต่
“มีแขกเหรอ....เข้ามาก่อนสิ” ใช่ฉันหยุดชะงักการเคลื่อนไหวก่อนจะรีบหมุนตัวกลับไปหาปลายเสียงเป็นคุณตาแก่ๆ (เดาว่าเป็นผู้ชายนะจากเสียง) ฉันมองเห็นหน้าท่านไม่ชัดสักเท่าไหร่ด้วยแสงจากดวงจันทร์ที่ไม่ได้สว่างเท่ากับแสงไฟ แล้วคุณตาท่านก็ไว้ผมยาวรุงรังไปหมด
“ไม่ดีกว่าค่ะ มันดึกมากแล้ว” แต่แล้วความคิดบางอย่างกลับแทรกเข้ามาในหัวฉัน ถ้าคนๆ นี้เป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กๆ ใน โรงเรียนหายไปละ ฉันกำลังเป็นเหยื่อรายต่อไปงั้นเหรอ
“เด็กใหม่ใช่มั้ย” คุณตาค่อยๆ ขยับเดินออกมาช้าๆ ในมือถืออะไรสักอย่างเป็นดวงกลมๆ มีแสงสีเขียว
“อย่าเข้ามานะ” ฉันคิดอะไรไม่ออกจริงๆ ตัวฉันที่ค่อยๆ ถอยหนี แต่ตัวคุณตากลับค่อยๆ ขยับเข้ามา
“ไม่ต้องกลัวฉันหรอก แก่ขนาดนี้แล้วเรี่ยวแรงจะเดินก็ยังไม่ค่อยมีจะไปทำร้ายเธอได้ยังไงกันแค่จะเดินไปส่งเท่านั้นเอง” คุณตาหยุดขยับเข้ามาพร้อมทั้งยิ้มให้ฉันด้วยความจริงใจแต่ฉันกลับรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ปกติ
“ไปเถอะถ้ายามหรือครูคุมหอรู้หนูคงแย่แน่”
“คุณตารู้ด้วยเหรอคะ”
“ฉันเป็นภารโรงอยู่ที่เลห์น่ะ”
“แล้ว...” ฉันไม่กล้าต่อรองว่าคุณตาอย่าไปบอกใครเรื่องนี้ได้หรือป่าว
“ฉันไม่ใช่คนปากโป้งหรอก ไปกันเถอะ” คุณตาภารโรงเดินเลยฉันไปเพื่อที่จะเดินนำหน้า
“แล้วทำไมคุณตาถึงมาอยู่ไกลขนาดนี้ล่ะคะ”
“ไกลเรอะ”
“ไกลค่ะ จริงๆ บ้านพกภารโรงก็มีไม่ใช่เหรอคะ” ฉันยังคงเดินตามไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ อีกใจก็คิดว่าถ้าหลอกไปฆ่าทิ้งล่ะจะทำยังไง ฉันมองไปรอบๆ ซ้ายบ้าง ขวาบ้าง จนกระทั่งไปสะดุดตากับเงาอะไรสักอย่างบนต้นไม้
“เอ่อ...คุณตาคะ...”
“อย่าพูดถึงมันเชียวนะ รีบๆ เดินตามฉันมาเถอะช้ากว่านี้อาจจะสยองกว่าที่เธอคิดไว้ก็ได้” เหมือนกับว่าท่านรู้ว่าฉันจะพูดอะไรอย่างนั้นแหละ แต่ฉันก็ทำตามที่คุณตาบอกรีบเดินจ้ำไปจนจี้หลังคุณตา แต่แปลกแฮะรู้สึกเหมือนคุณตาท่านเดินเร็วขึ้นหรือป่าวนะ
“แล้วทำไมคุณตายังไม่นอนอีกล่ะคะ ดึกขนาดนี้แล้ว”
“แล้วเธอล่ะดึกขนาดนี้ออกมาจากที่พักทำไม” ฉันไม่ได้คำตอบแต่กลับได้คำถามมาแทน จะบอกยังไงดีล่ะ
“น่าจะละเมอ...ค่ะ”
“งั้นเหรอ” คุณตาจู่ๆ ก็หยุดเดินทำเอาฉันเกือบจะชนเข้าแล้ว
“หยุดทำไมคะ”
“เธอละเมอมานานแค่ไหนแล้ว” ทำไมถึงถามเหมือนกับว่ารู้ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรก
“เอ่อ...จะ..7ค่ะ” คุณตาหยุดนิ่งไม่พูดอะไรราวกับว่ากำลังคิดอะไรอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะแหวนหน้ามองไปบนฟ้า
“คืนนี้พระจันทร์เต็มดวงสินะ”
“ค่ะ มีอะไรหรือป่าว” คุณตาคล้ายๆ ว่าเอามือล้วงไปในกระเป๋าเสื้อคลุมเพื่อจะหยิบอะไรบางอย่าง
“รับนี่ไปสิ” มันน่าจะเป็นสร้อยนะมองเห็นไม่ชัดสักเท่าไหร่มีอะไรสักอย่างกลมๆ น่าจะเป็นจี้สีเขียวๆ เหมือนกับไอ้ที่คุณตาถือมาตอนแรก แล้วตอนนี้มันหายไปไหน
“มันจะช่วยให้เธอไม่ละเมออีก” ฉันรับมันมาอย่างงงๆ
“ใส่ไว้เหรอคะ”
“ใช่เอาคล้องคอไว้มันจะทำให้สิ่งชั่วร้ายทำร้ายเธอไม่ได้”
“ขอบคุณนะคะ”
“99 บาท” อะไรนะ !!!! นี่หลอกขายกันชัดๆ เลย
“เอ่อ...คือว่า”
“พรุ่งนี้ตอนพักเที่ยงเอาเงินไปให้ฉันที่แปลงผักหลังโรงเรียนตกลงตามนี้นะ เดินตรงไปก็ถึงแล้วฉันกลับก่อนล่ะ ปวดหลังอยากจะนอน” อ้าวไม่ส่งให้ถึงซะด้วย
“ขอบคุณนะคะ” ฉันหันไปขอบคุณคุณตาภารโรงก่อนจะหันหน้ามุ่งไปยังหอพักเอ๊ะ เมื่อกี้คุณตาบอกว่าเท่าไหร่นะ
“คุณ...ตา...”
“.....” คุณตาหายไปแล้ว ทิ้งไว้แค่ความเงียบและความว่างเปล่า ฉันไม่สนใจอะไรทั้งนั้นหลับหูหลับตาวิ่งไม่คิดชีวิตอย่างที่เคยๆ ทำจนกระทั่งถึงห้อง ให้ตายสิหายแวบไปแบบนั้นพรุ่งนี้ฉันจะกล้าไปเจอได้ยังไงกัน...
ฝากติดตามด้วยนะคะ ฝากวิจารณ์ด้วยค่ะ นักเขียนมือใหม่ค่ะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.3 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ