นางพญาไร้ใจ
7.9
เขียนโดย nightshadow
วันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2559 เวลา 08.27 น.
37 ตอน
1 วิจารณ์
40.52K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 19.13 น. โดย เจ้าของนิยาย
28) เผยตัวตนที่แท้จริง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความวันครบกำหนดวันสุดท้ายที่องค์หญิงหลี่เหวิน ทูลขออนุญาติอยู่ที่ตำหนักเกายู่อี้ก่อนจะต้องออกเดินทางในวันพรุ่งนี้ ไป๋เฟิงได้รับคำสั่งจากจินหย่งให้นางมาคอยรับใช้องค์หญิงเป็นวันสุดท้าย ไป๋เฟิงรีบมาทันทีเพราะอยากจะเอาใจเด็กชายที่นางมีใจ ตั้งแต่นางมีสถานะเป็นคู่หมายพระราชทานของจินหย่งในตอนแรกนั้น ไป๋เฟิงคิดอย่างเด็กๆว่านั่นเป็นเหมือนสิ่งที่ยืนยันได้ว่านางคือเจ้าของจินหย่งที่แท้จริงและได้ครอบครองเขา ไม่ใช่องค์หญิง นางคิดว่านางจะมีความสุข แต่กลับไม่ได้เป็นเช่นนั้นเพราะจินหย่งเย็นชาและไม่เคยพูดคุยกับนางดีๆเลยแม้แต่ครั้งเดียว สายตาที่มองมามีเพียงความเฉยชาว่างเปล่าไร้ความรู้สึก แววตาของเขาที่มองมาที่นางสามารถทำให้นางหนาวเหน็บได้ทั้งที่หัวใจแสนร้อนรุ่ม หากจะพูดกับนางสักคำก็เป็นคำพูดที่เป็นการออกคำสั่งให้นางต้องทำตามอย่างมิอาจขัดขืน และปฏิบัติกับนางอย่างเจ้านายสั่งทาสคนหนึ่ง และในตอนนี้นางก็ไม่ได้มีสถานะของธิดาบุญธรรมสกุลเหออีกแล้ว เพราะผลพวงจากเหตุการณ์ในคราวนี้ ทำให้มารดาบุญธรรมหรือฮูหยินสกุลเหอ และคนในตระกูลพากันเคียดแค้นชิงชังนาง เพราะองค์หญิงหลี่เหวินเป็นผู้ช่วยเหลืออนุเคราะห์ให้นางได้เลื่อนสถานะ แต่นางกลับเนรคุณหลงเชื่อคำยุยงของเหล่าขุนนางกังฉินให้ร้ายองค์หญิงหลี่เหวินที่คนสกุลเหอต่างยกย่องชื่นชม และนางยังเป็นต้นเหตุทำให้ เสนาธิการเหอจื่อหลงต้องโทษประหารฐานหลอกลวงเบื้องสูงอีก ทำให้สกุลเหอปลดนางออกจากตระกูล และนั่นทำให้จินหย่งใช้เป็นข้ออ้างปฏิบัติกับนางเยี่ยงทาส โดยเขาบอกว่า "ในเมื่อเจ้าใช้การเลื่อนสถานะมาครอบครองข้า ในตอนนี้ในเมื่อเจ้าไม่ใช่คุณหนูผู้สูงศักดิ์ฐานะของเจ้าก็คือ ข้ารับใช้ตามเดิม ในเมื่อเป็นข้ารับใช้ก็ต้องทำตัวให้สมกับฐานะของตัวเอง อย่าได้มักใหญ่ใฝ่สูงตีตนเสมอเจ้านาย และเจ้าจะต้องทำตามคำสั่งข้าเท่านั้น ไม่อย่างนั้นข้าจะไม่ให้เจ้าอยู่บ้านสกุลจินของข้าอีก เพราะแม้ว่าเจ้าจะได้ชื่อว่าเป็นคู่หมายพระราชทานจากองค์ฮ่องเต้แต่เจ้าก็มีสถานะเป็นแค่ข้ารับใช้ ดังนั้นหน้าที่ของเจ้าคือทำตามคำสั่งของข้าเท่านั้น" คำประกาศิตของจินหย่งในวันนั้นเหมือนแส้ที่ฟาดฟันให้นางเจ็บปวดโดยไม่ต้องเคี่ยนตี เพราะทุกวันนี้จินหย่งไม่ได้ทำให้นางรู้สึกว่าเขาเป็นของนางเลย และความสัมพันธ์ของเขากับนางก็คือเจ้านายกับข้ารับใช้เท่านั้นจริงๆ แต่ในเมื่อนางไม่อยากถูกเกลียดและอยากจะเอาใจเขาจึงมีแต่ต้องทำตามนั้น เพราะนางไม่อยากถูกเขาขับไล่ออกจากบ้านสกุลจินและนางก็มีเพียงจินหย่งที่นางจะยึดเหนี่ยวด้วยสถานะคู่หมายพระราชทานได้เท่านั้น เพราะคนอื่นในสกุลจินล้วนเกลียดชังนางด้วยเหตุผลเดียวกันกับคนสกุลเหอ โดยหารู้ไม่ว่าจินหย่งได้อยู่เบื้องหลังการถูกปลดสถานะคุณหนูสกุลเหอของนาง และยังได้สั่งให้คนสกุลจินกลั่นแกล้งใช้งานนางอย่างหนักดุจทาสรับใช้คนหนึ่ง ซึ่งทุกคนก็เกลียดชังในตัวของเด็กน้อยไป๋เฟิงอยู่แล้วจึงยินดีให้ความร่วมมือกันอย่างเต็มที่ ไป๋เฟิงมาที่ตำหนักเกายู่อี้ตามคำสั่งของจินหย่ง ไม่พบใครและนึกรู้ได้ในทันทีว่าองค์หญิงกับจินหย่งอยู่ในห้องบรรทม นางยกถาดน้ำชาและอาหารว่างมาตามคำสั่งของจินหย่ง ให้เอามาให้เขากับองค์หญิงหลี่เหวิน เมื่อมาถึงหน้าประตูก็ได้ยินเสียงดังออกมาจากห้องเด็กน้อยไป๋เฟิงจึงแอบลอดช่องมองดู และภาพที่เห็นก็คือองค์หญิงเอามือปัดป้องวุ่นวายให้พ้นจากการก่อกวน พร้อมโวยวายเสียงกร้าวดุดันข่มขู่แต่จินหย่ง ก็ไม่ได้มีทีท่าสลดกลัวเกรง และยังคงทำตามใจโดยไม่สนใจเสียงข่มขู่ด่าทอเหล่านั้นแต่อย่างใด
"นี่ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะเจ้าเด็กบ้า! เจ้าช่างบังอาจนัก อ๊ะ...ว๊าย นี่เจ้า...อื้อ... เสียงดุด่าข่มขู่ค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นเสียงคราง จินหย่งประกบปากจุมพิตอย่างดูดดื่มและเร่าร้อน มือไม้ก็ซุกซนไม่หยุดนิ่งเปลื้องอาภรณ์ขององค์หญิงพระองค์น้อยออกจนเปลือย ลูบไล้เคล้าคลึงไปทุกสัดส่วนผ่อนหนักผ่อนเบาอย่างรู้จังหวะราวกับจะกลั่นแกล้ง ให้องค์หญิงที่มักเฉยชาไร้อารมณ์ได้แสดงอารมณ์ความต้องการในตัณหาที่เขาป้อนให้ มือค่อยๆเลื่อนละเรื่อยไปจนไปหยุดอยู่ที่ช่องของกลีบเกสรดอกไม้ เด็กชายผู้เคยเป็นลูกไล่ที่บัดนี้ได้รับการชักนำจนมีความชำนาญ และทำท่าว่าจะร้ายกาจมากกว่าผู้สอนเสียด้วย นิ้วยาวเล็กของเด็กชายสอดเข้าไปในกลีบดอกไม้งาม ทำให้มี่เหยียนถึงกลับส่งเสียงครางดังลั่นอย่างระงับไม่อยู่ "ฮ๊า!! จ..จินหย่ง อ๊ะๆๆ โอ๊ย อ๊า" เสียงมี่เหยียนครางอย่างเสียวสะท้าน ด้วยสีหน้าทรมานเครียดเกร็ง แต่คนแกล้งกลับมีสีหน้าสนุกและหัวเราะอย่างเริงอารมณ์ "ฮิๆ องค์หญิงชอบหรือไม่พะยะค่ะ กระหม่อมจะถวายการปรนนิบัติองค์หญิงให้ดีเอง" ในขณะที่ภายในห้องเด็กชายกำลังเริงรัก กลั่นแกล้งเจ้าหญิงอันเป็นที่รักอย่างสนุกสนาน เด็กน้อยไป๋เฟิงที่ยืนมองภาพบาดตาอยู่ทนไม่ไหวอีกต่อไป ถาดอาหารหลุดร่วงลงพื้นกระจาย และวิ่งร้องไห้น้ำตานองหน้าด้วยความเจ็บปวดหัวใจออกจากตำหนักเกายู่อี้ มี่เหยียนที่ได้ยินเสียงถาดตกกระจายหน้าห้องก็วิเคราะห์คาดเดาได้ในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น ส่งเสียงเย็นชาเอ็ดเด็กชายผู้เหิมเกริมอย่างไม่จริงจังนัก "แฮก...เจ้าเด็กคนนี้นี่ เดี๋ยวนี้ถึงกลับกล้าใช้ข้าเป็นเครื่องมือในการแก้แค้นแล้วรึ ข้าคงไปปลุกปีศาจที่ร้ายกาจอย่างเจ้าให้ตื่นขึ้นแล้วใช่หรือไม่" แทนที่จะตกใจและสลดเด็กชายกลับหัวเราะและยอมรับหน้าตาเฉย "จะนึกเสียใจในตอนนี้ก็สายไปแล้วล่ะพะยะค่ะองค์หญิงของกระหม่อม ในเมื่อองค์หญิงได้เผยตัวตนของพระองค์ให้กระหม่อมได้รับรู้ กระหม่อมก็จะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงให้องค์หญิงได้ทรงรับรู้เอาไว้ด้วยเช่นกัน กระหม่อมมีหัวใจไว้เพื่อพระองค์และมีทั้งความเคารพในฐานะผู้เป็นนายและหญิงที่กระหม่อมรัก ในทางกลับกันกระหม่อมก็ไร้หัวใจและโหดร้ายได้มากที่สุด กับผู้ที่กระหม่อมเกลียดชังและเคียดแค้น กระหม่อมกับองค์หญิงนั้นล้วนไม่แตกต่าง ในเรื่องของอุปนิสัยและเป้าหมายแนวความคิด พระองค์จงเชื่อเถิดว่านอกจากกระหม่อมแล้ว ไม่มีผู้ใดจะรู้พระทัยและเข้าพระทัยในตัวของพระองค์ได้เท่ากระหม่อมอีกแล้ว"
มี่เหยียนไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองอะไรในตัวเด็กชายผู้นี้ เพราะสำหรับนางในฐานะของผู้ร่วมอุดมการณ์เดียวกัน การที่ได้เปิดเผยตัวตนของแต่ละฝ่ายให้ได้รับรู้ก็คือการแสดงความจริงใจอย่างหนึ่ง "หึ...ก็คงจริงดังเจ้าว่า เพราะสำหรับข้าจะไม่มีวันอภัยให้กับผู้ทรยศ ในเมื่อข้าเคยให้ความเมตตาและเห็นใจให้นางได้เลื่อนสถานะ แต่ไป๋เฟิงไม่เพียงแต่ไม่สำนึกบุญคุณยังกล้าทรยศต่อข้าจนเกือบทำให้ข้าต้องโทษกบฎ เดิมทีข้าอยากสังหารนางด้วยตัวเองแต่ข้าคิดว่ายกนางให้เจ้าน่าจะดีกว่า เพราะการเจ็บปวดและถูกทำลายด้วยมือของคนที่ตัวเองรักมันทรมานมากกว่าตายอย่างง่ายๆ และในเมื่อบิดาของเจ้าต้องตายเพราะความริษยาที่นางมีต่อข้าและความรักที่มีต่อเจ้า นางก็สมควรต้องถูกทำลายด้วยสาเหตุเดียวกัน" "หลังจากออกเดินทางไปอยู่ที่แคว้นจ้าวแล้ว ข้าอยากจะ ใช้นกพิราบสื่อสารส่งถึงเจ้าเพื่อทำตามแผนไปตามสถานการณ์และส่งข่าวและการเคลื่อนไหวของข้าให้เจ้าได้รับรู้ เจ้าคิดไว้แล้วหรือยังว่าจะอยู่ที่ไหนเป็นหลักแหล่งที่แน่นอน" "ทูลองค์หญิงจากดำริที่พระองค์ทรงอยากจะให้กระหม่อมฝึกฝน และเตรียมการเพื่อตำแหน่งแม่ทัพในอนาคตกระหม่อมจะขอทำเรื่องสมัครเข้าเป็นทหารในกองทัพที่ชายแดน เพื่อฝึกฝีมือให้แข็งแกร่ง และเพื่อโอกาสในการควบคุมกำลังพลอำนาจทางการทหารในภายภาคหน้า ในระหว่างฝึกฝนฝีมือความแข็งแกร่งกระหม่อมจะออกจากบ้านสกุลจินมาอยู่ลำพัง ปลูกบ้านเป็นที่พักและเพื่อเตรียมการฝึกฝนอบรมเหล่าเด็กกำพร้าที่องค์หญิงจะทรงส่งมาให้ เพื่อเป็นกองกำลังพิเศษ และสถานที่ ที่กระหม่อมได้เลือกก็คือ สถานที่เยื้องไปจากน้ำตกที่พวกเราเคยไปเที่ยวด้วยกันทางทิศตะวันตกพะยะค่ะ เพราะเป็นสถานที่ลับตาที่จะใช้ซ่องสุมกำลังโดยไม่เป็นที่สังเกตุนัก และในระหว่างนี้ก็จะฝึกฝนตนเองให้แข็งแกร่งเป็นที่น่าเชื่อถือและยอมรับต่อเหล่าทหารในกองทัพด้วย หากองค์หญิงอยากจะส่งพิราบสื่อสาร ก็ทรงส่งมาที่บริเวณน้ำตกทางทิศตะวันตกก็ได้พะยะค่ะ แต่องค์หญิงคงต้องรอเวลาอีกสักหนึ่งเดือนกว่าการย้ายออกจากสกุลและที่พักแห่งใหม่ของกระหม่อมจะสร้างเสร็จพะยะค่ะ" มี่เหยียนตบรางวัลให้เด็กน้อยอัจฉริยะด้วยการปรนเปรอสวาทให้อย่างเร่าร้อนถึงใจ จนทำให้คราวนี้จินหย่งเป็นฝ่ายต้องร้องครวญครางอย่างทรมานปนสุขสมเสียเอง
"นี่ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะเจ้าเด็กบ้า! เจ้าช่างบังอาจนัก อ๊ะ...ว๊าย นี่เจ้า...อื้อ... เสียงดุด่าข่มขู่ค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นเสียงคราง จินหย่งประกบปากจุมพิตอย่างดูดดื่มและเร่าร้อน มือไม้ก็ซุกซนไม่หยุดนิ่งเปลื้องอาภรณ์ขององค์หญิงพระองค์น้อยออกจนเปลือย ลูบไล้เคล้าคลึงไปทุกสัดส่วนผ่อนหนักผ่อนเบาอย่างรู้จังหวะราวกับจะกลั่นแกล้ง ให้องค์หญิงที่มักเฉยชาไร้อารมณ์ได้แสดงอารมณ์ความต้องการในตัณหาที่เขาป้อนให้ มือค่อยๆเลื่อนละเรื่อยไปจนไปหยุดอยู่ที่ช่องของกลีบเกสรดอกไม้ เด็กชายผู้เคยเป็นลูกไล่ที่บัดนี้ได้รับการชักนำจนมีความชำนาญ และทำท่าว่าจะร้ายกาจมากกว่าผู้สอนเสียด้วย นิ้วยาวเล็กของเด็กชายสอดเข้าไปในกลีบดอกไม้งาม ทำให้มี่เหยียนถึงกลับส่งเสียงครางดังลั่นอย่างระงับไม่อยู่ "ฮ๊า!! จ..จินหย่ง อ๊ะๆๆ โอ๊ย อ๊า" เสียงมี่เหยียนครางอย่างเสียวสะท้าน ด้วยสีหน้าทรมานเครียดเกร็ง แต่คนแกล้งกลับมีสีหน้าสนุกและหัวเราะอย่างเริงอารมณ์ "ฮิๆ องค์หญิงชอบหรือไม่พะยะค่ะ กระหม่อมจะถวายการปรนนิบัติองค์หญิงให้ดีเอง" ในขณะที่ภายในห้องเด็กชายกำลังเริงรัก กลั่นแกล้งเจ้าหญิงอันเป็นที่รักอย่างสนุกสนาน เด็กน้อยไป๋เฟิงที่ยืนมองภาพบาดตาอยู่ทนไม่ไหวอีกต่อไป ถาดอาหารหลุดร่วงลงพื้นกระจาย และวิ่งร้องไห้น้ำตานองหน้าด้วยความเจ็บปวดหัวใจออกจากตำหนักเกายู่อี้ มี่เหยียนที่ได้ยินเสียงถาดตกกระจายหน้าห้องก็วิเคราะห์คาดเดาได้ในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น ส่งเสียงเย็นชาเอ็ดเด็กชายผู้เหิมเกริมอย่างไม่จริงจังนัก "แฮก...เจ้าเด็กคนนี้นี่ เดี๋ยวนี้ถึงกลับกล้าใช้ข้าเป็นเครื่องมือในการแก้แค้นแล้วรึ ข้าคงไปปลุกปีศาจที่ร้ายกาจอย่างเจ้าให้ตื่นขึ้นแล้วใช่หรือไม่" แทนที่จะตกใจและสลดเด็กชายกลับหัวเราะและยอมรับหน้าตาเฉย "จะนึกเสียใจในตอนนี้ก็สายไปแล้วล่ะพะยะค่ะองค์หญิงของกระหม่อม ในเมื่อองค์หญิงได้เผยตัวตนของพระองค์ให้กระหม่อมได้รับรู้ กระหม่อมก็จะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงให้องค์หญิงได้ทรงรับรู้เอาไว้ด้วยเช่นกัน กระหม่อมมีหัวใจไว้เพื่อพระองค์และมีทั้งความเคารพในฐานะผู้เป็นนายและหญิงที่กระหม่อมรัก ในทางกลับกันกระหม่อมก็ไร้หัวใจและโหดร้ายได้มากที่สุด กับผู้ที่กระหม่อมเกลียดชังและเคียดแค้น กระหม่อมกับองค์หญิงนั้นล้วนไม่แตกต่าง ในเรื่องของอุปนิสัยและเป้าหมายแนวความคิด พระองค์จงเชื่อเถิดว่านอกจากกระหม่อมแล้ว ไม่มีผู้ใดจะรู้พระทัยและเข้าพระทัยในตัวของพระองค์ได้เท่ากระหม่อมอีกแล้ว"
มี่เหยียนไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองอะไรในตัวเด็กชายผู้นี้ เพราะสำหรับนางในฐานะของผู้ร่วมอุดมการณ์เดียวกัน การที่ได้เปิดเผยตัวตนของแต่ละฝ่ายให้ได้รับรู้ก็คือการแสดงความจริงใจอย่างหนึ่ง "หึ...ก็คงจริงดังเจ้าว่า เพราะสำหรับข้าจะไม่มีวันอภัยให้กับผู้ทรยศ ในเมื่อข้าเคยให้ความเมตตาและเห็นใจให้นางได้เลื่อนสถานะ แต่ไป๋เฟิงไม่เพียงแต่ไม่สำนึกบุญคุณยังกล้าทรยศต่อข้าจนเกือบทำให้ข้าต้องโทษกบฎ เดิมทีข้าอยากสังหารนางด้วยตัวเองแต่ข้าคิดว่ายกนางให้เจ้าน่าจะดีกว่า เพราะการเจ็บปวดและถูกทำลายด้วยมือของคนที่ตัวเองรักมันทรมานมากกว่าตายอย่างง่ายๆ และในเมื่อบิดาของเจ้าต้องตายเพราะความริษยาที่นางมีต่อข้าและความรักที่มีต่อเจ้า นางก็สมควรต้องถูกทำลายด้วยสาเหตุเดียวกัน" "หลังจากออกเดินทางไปอยู่ที่แคว้นจ้าวแล้ว ข้าอยากจะ ใช้นกพิราบสื่อสารส่งถึงเจ้าเพื่อทำตามแผนไปตามสถานการณ์และส่งข่าวและการเคลื่อนไหวของข้าให้เจ้าได้รับรู้ เจ้าคิดไว้แล้วหรือยังว่าจะอยู่ที่ไหนเป็นหลักแหล่งที่แน่นอน" "ทูลองค์หญิงจากดำริที่พระองค์ทรงอยากจะให้กระหม่อมฝึกฝน และเตรียมการเพื่อตำแหน่งแม่ทัพในอนาคตกระหม่อมจะขอทำเรื่องสมัครเข้าเป็นทหารในกองทัพที่ชายแดน เพื่อฝึกฝีมือให้แข็งแกร่ง และเพื่อโอกาสในการควบคุมกำลังพลอำนาจทางการทหารในภายภาคหน้า ในระหว่างฝึกฝนฝีมือความแข็งแกร่งกระหม่อมจะออกจากบ้านสกุลจินมาอยู่ลำพัง ปลูกบ้านเป็นที่พักและเพื่อเตรียมการฝึกฝนอบรมเหล่าเด็กกำพร้าที่องค์หญิงจะทรงส่งมาให้ เพื่อเป็นกองกำลังพิเศษ และสถานที่ ที่กระหม่อมได้เลือกก็คือ สถานที่เยื้องไปจากน้ำตกที่พวกเราเคยไปเที่ยวด้วยกันทางทิศตะวันตกพะยะค่ะ เพราะเป็นสถานที่ลับตาที่จะใช้ซ่องสุมกำลังโดยไม่เป็นที่สังเกตุนัก และในระหว่างนี้ก็จะฝึกฝนตนเองให้แข็งแกร่งเป็นที่น่าเชื่อถือและยอมรับต่อเหล่าทหารในกองทัพด้วย หากองค์หญิงอยากจะส่งพิราบสื่อสาร ก็ทรงส่งมาที่บริเวณน้ำตกทางทิศตะวันตกก็ได้พะยะค่ะ แต่องค์หญิงคงต้องรอเวลาอีกสักหนึ่งเดือนกว่าการย้ายออกจากสกุลและที่พักแห่งใหม่ของกระหม่อมจะสร้างเสร็จพะยะค่ะ" มี่เหยียนตบรางวัลให้เด็กน้อยอัจฉริยะด้วยการปรนเปรอสวาทให้อย่างเร่าร้อนถึงใจ จนทำให้คราวนี้จินหย่งเป็นฝ่ายต้องร้องครวญครางอย่างทรมานปนสุขสมเสียเอง
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.3 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ