นางพญาไร้ใจ

7.9

เขียนโดย nightshadow

วันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2559 เวลา 08.27 น.

  37 ตอน
  1 วิจารณ์
  40.48K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 19.13 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

18) ตัวแปรสำคัญ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
เรื่องแรกที่มี่เหยียนจัดการเร่งด่วนก็คือ  ปัญหาเรื่องโรคระบาด   หนึ่งในตำราที่ มี่เหยียนได้ศึกษามานั้น        คือเกี่ยวกับวิชาทางการแพทย์    เริ่มจากออกคำสั่งให้ผู้ว่าและนายอำเภอประจำเมือง  เรียกระดมหมอที่มีความสามารถทั่วแผ่นดินมาช่วยกัน  ดูแลคัดกรองผู้ป่วยและสอบถามอาการ  โดยไม่เกี่ยงว่าจะเป็นหมอชายหรือหมอหญิง         ให้ประกาศไปว่าหากหมอคนใดให้ความช่วยเหลือราชสำนัก จะมีสิทธิ์สอบเป็นหมอหลวงเข้าไปอยู่ในวังได้   เมื่อตรวจสอบดูแล้วพบว่า  โรคระบาดที่เกิดขึ้นคือ โรคห่าหรือ อหิวาตกโรคนั่นเอง แต่ด้วยเหตุที่ในสมัยนี้ ยังไม่มีใครรู้จักโรคนี้ เมื่อเกิดโรคระบาดขึ้นจึงทำให้มีคนล้มตายเป็นจำนวนมาก เพราะยังไม่มีแนวทางในการระงับรักษา  มี่เหยียนออกคำสั่งให้แยกผู้ป่วยที่เป็นโรค ออกจากคนที่ไม่ป่วย  ห้ามไม่ให้มีการเทของเสียที่ขับถ่ายลงในแหล่งน้ำ  นำสิ่งปฏิกูลของผู้ป่วยที่เป็นโรคไปเผาหรือฝังดิน ห้ามดื่มน้ำจากแหล่งน้ำที่มีการขับถ่ายของเสียหรือเทสิ่งปฏิกูลลงไป   ห้ามไม่ให้ผู้ใกล้ชิดหรือคนอื่นที่ไม่ป่วยสัมผัสหรือดื่มน้ำในภาชนะเดียวกันกับผู้ป่วย  มีคำสั่งให้หมอผู้ดูแลจัดยาแก้ท้องเสีย และหาเกลือแร่หรือสมุนไพรที่ช่วยชดเชยการขาดน้ำในร่างกายเอามาให้ผู้ป่วยดื่ม   ไม่นานปัญหาโรคระบาดก็สามารถถูกจัดการจนคลี่คลายไปได้  จนทำให้ผู้คนในเมืองที่เกิดโรคระบาด พากันชื่นชมสรรเสริญในพระปรีชาสามารถขององค์หญิงพระองค์เล็กหลี่เหวิน กันอย่างมากและข่าวนี้ก็แพร่ไปยังราษฎรในเมืองต่างๆ  จนเริ่มมีความกล้าที่จะมาร้องเรียนปัญหาความเดือดร้อนกับ ตำหนักเกายู่อี้ กันมากขึ้น  และเรื่องต่อมาก็คือการร้องเรียนเรื่องการถูกขุนนางขูดรีดเอารัดเอาเปรียบ  ซึ่งองค์หญิงหลี่เหวินใช้ป้ายอาญาสิทธิ์ออกคำสั่งว่า  หากสืบพบการติดสินบน ขูดรีดเอารัดเอาเปรียบและการทุจริตของขุนนางคนใด  ก็ให้นายอำเภอสั่งเจ้าหน้าที่ให้คุมตัวไปประหารได้ทันที  จนส่งผลให้มีขุนนางในราชสำนักที่เป็นพวกกังฉินต่างเริ่มถูกประหารตามหลักฐานที่สืบพบทยอยถูกสั่งประหารอย่างเด็ดขาด แต่ก็ยังคงมีแต่ขุนนางกังฉินชั้นผู้น้อยอยู่  ความเด็ดขาดและสติปัญญาความสามารถนี้ทำให้ราษฎรศรัทธายกย่องกันมาก
จินหย่งขมักเขม้นเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงให้กับองค์หญิงหลี่เหวินอย่างเต็มที่ โดยได้รับการสนับสนุนจากขุนนางตงฉินคนอื่นๆ   แม่ทัพจินหยางผู้เป็นบิดา      และเสนาธิการเหอจื่อหลง ร่วมด้วยช่วยกัน  และด้วยเหตุนี้ไป๋เฟิงเด็กหญิงตัวน้อยที่ได้ยินเรื่องที่คนในวังพูดกันว่า  องค์หญิงหลี่เหวินกับจินหย่งออกมาเที่ยวเล่นนอกวังกันสองคน โดยเล่นเป็นผู้แก้ปัญหาให้กับประชาชน  ก็เข้าใจว่าองค์หญิงหลี่เหวินกับจินหย่ง  ออกมาเที่ยวเล่นทำเรื่องสนุกกันอยู่สองคน นางขอตามมาด้วย แต่จินหย่งไม่ให้นางมา ซึ่งจินหย่งรับรู้ว่าเรื่องที่องค์หญิงกับเขาทำกันอยู่นั้นสำคัญมาก  ไม่ควรปล่อยให้เด็กที่ไม่รู้เรื่องอย่างไป๋เฟิงเข้ามายุ่งเพราะนางอาจก่อเรื่องจนทำให้งานใหญ่เสีย  แต่ไป๋เฟิงผู้เป็นเด็กหญิงธรรมดาเข้าใจไปว่า จินหย่งกีดกันนางและอยากเล่นกับองค์หญิงกันแค่สองคน จึงนึกน้อยใจ  นางแอบตามออกมานอกวังอย่างนึกเสียใจ  ที่ตอนนี้บิดามารดาบุญธรรมของนาง ที่เป็นครอบครัวสกุลเหอ  ต่างก็ชื่นชมองค์หญิงหลี่เหวินและพากันสนใจแต่เรื่องที่องค์หญิงกับจินหย่งทำร่วมกัน โดยไม่สนใจนางเลยทำให้นางรู้สึกริษยาและชิงชังองค์หญิงหลี่เหวินนัก  เมื่อไม่ให้นางตามมาด้วยนางก็แอบตามมาดู  ซึ่งเด็กน้อยไป๋เฟิงไม่ได้รู้ตัวเลยว่า นางกำลังจะเป็นตัวแปรสำคัญที่สร้างปัญหาใหญ่ให้กับ มี่เหยียน จินหย่ง แม่ทัพจินหยางและเสนาธิการเหอจื่อหลง บิดาบุญธรรมของนางเอง  จนนำมาซึ่งความสูญเสียและเจ็บแค้นชิงชังให้กับจินหย่ง เด็กชายที่นางหลงรัก

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา