นางพญาไร้ใจ
7.9
เขียนโดย nightshadow
วันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2559 เวลา 08.27 น.
37 ตอน
1 วิจารณ์
40.48K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 19.13 น. โดย เจ้าของนิยาย
12) บ่วงเสน่หา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตั้งแต่ตัดสินใจใช้แผนล่อลวงเพื่อควบคุมกับไป๋เฟิง จินหย่งก็คิดว่าเขาตัดสินใจได้ถูกเพราะพอเขาแค่เพียงแสร้งทำเป็นพูดคุยดีด้วยหน่อยเดียว และใช้ชั้นเชิงหลอกถามความคิดของนางที่มีต่อองค์หญิง จนได้รับรู้ว่ามีแต่ความคิดในแง่ร้ายที่เสี่ยงต่อเป้าหมายที่องค์หญิงกับเขาต้องการจะทำอย่างมาก และยิ่งฟังถ้อยคำที่กลั่นออกมาจากความคิดของนาง ก็ยิ่งทำให้เขาเกลียดชังและเดือดดาลอยู่ในใจ จนต้องพยายามข่มอารมณ์ของตัวเขาอย่างเต็มที่ไม่ให้เผลอหลุดความกรุ่นโกรธออกมาให้นางได้รู้ตัว ไป๋เฟิงรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่จินหย่งไม่ได้เฉยเมยและยอมพูดกับนาง ทำให้เด็กน้อยที่กำลังตกอยู่ในบ่วงเสน่หาที่ถูกหลอกล่อหลงระเริง จนยอมที่จะเปิดปากบอกเล่าความคิดเห็นในใจของนางที่มีต่อองค์หญิงออกมาจนหมดเมื่อถูกหลอกถาม เด็กน้อยพูดเสียงเจือยแจ้วอย่างร่าเริง "ข้าดีใจมากเลยนะที่ท่านหายโกรธข้าแล้วน่ะ เพราะองค์หญิงคนเดียวเลยที่หาเรื่อง แอบซนเอางานของฮ่องเต้มาอ่านเล่น จนทำให้ท่านต้องพลอยเดือดร้อนถูกลงโทษไปด้วย แถมยังมาตบหน้าข้าอย่างแรงมากๆด้วยนะใจร้ายที่สุดเลย" เด็กหญิงตัวน้อยพูดออกมาตามความคิดอย่างซื่อตรง โดยหารู้ไม่ว่ากำลังสร้างความชิงชังให้กับจินหย่งจนแทบทนนั่งฟังต่อไปไม่ได้ หึ! นางคิดว่าเขาแค่โกรธนางงั้นหรือ ไม่ใช่โกรธแต่เป็นเกลียดต่างหาก นางโง่งมซะจนไม่รู้ว่าองค์หญิงกับเขากำลังทำสิ่งใดกันอยู่ มันไม่ใช่ความซนอย่างที่นางค่อนขอดว่าร้ายองค์หญิง แต่มันคือการทำเพื่อประโยชน์ของราษฎรต่างหาก นางจะโง่ก็เรื่องของนางแต่กลับเอาความคิดในสมองโง่งมของนาง มาโยนบาปให้องค์หญิงและเขารู้ดีว่านางกำลัง จะยุยงให้เขาเกลียดชังองค์หญิง ชาติกำเนิดต่ำต้อยไม่พอจิตใจยังต่ำต้อยตามไปด้วย การที่องค์หญิงมีเมตตาช่วยให้นางได้เป็นธิดาบุญธรรมของสกุลเหอ มันไม่ได้ทำให้นางสำนึกในบุญคุณขององค์หญิงเลย นางคิดว่าอุดมการณ์ที่เขากับองค์หญิงมีเป้าหมายกันอยู่นั้นคือเรื่องเล่นแบบเด็กๆอย่างนั้นหรือ หากต่อไปเขากับองค์หญิงแอบทำเรื่องอะไรที่ใหญ่ยิ่งกว่านี้ แล้วนางคิดน้อยใจอย่างโง่งมจนไปทูลฟ้องโทษฐานกบฏที่หมายถึงชีวิตเสียด้วยซ้ำ แล้วยังมีหน้ามาโกรธองค์หญิงที่ตบหน้านางอีกหรือ นางเป็นข้ารับใช้ที่ทรยศต่อผู้เป็นนายจนทำให้นายของตนต้องถูกลงโทษ แค่โดนตบหน้ายังน้อยไป จินหย่งทนไม่ไหวตัดสินใจโพล่งออกมา "เจ้าเข้าใจผิดแล้ว! องค์หญิงไม่ได้ซน แต่พระองค์ห่วงใยราษฎรจนต้องแอบเอางานของฝ่าบาทมาอ่าน เจ้าก็ได้ยินไม่ใช่หรือ องค์หญิงยอมที่จะถูกลงโทษเพื่อให้ฝ่าบาทยอมสละเวลาอ่านเรื่องร้องเรียนจากราษฎร และหากไม่เอามาอ่านในเวลานี้จะรู้หรือว่า ตอนนี้เกิดโรคระบาดขึ้น ฝ่าบาทไม่ได้อ่านจึงไม่รู้เรื่องนี้ ถ้าโรคระบาดแพร่กระจาย ย่อมหมายถึงชีวิตคน ยังไม่รวมถึงปัญหาอื่นๆอีก เจ้าคิดว่ามันเป็นเรื่องเล่นหรือไร แล้วข้าเป็นข้ารับใช้ขององค์หญิงการถูกลงโทษไปด้วยก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แล้วเจ้าลืมไปแล้วหรือว่าใครช่วยให้เจ้าเลื่อนสถานะได้เป็นคุณหนูสกุลเหออยู่ตอนนี้น่ะ! และเจ้าก็เห็นอยู่นี่ว่าคนที่เดือดร้อนไม่ใช่แค่องค์หญิง แต่ยังรวมไปถึงข้าด้วย หรือเจ้าอยากเห็นข้าถูกลงโทษอย่างนั้นหรือ"
ไป๋เฟิงที่ได้ยินน้ำเสียงที่บ่งบอกอารมณ์โกรธก็ตกใจ รีบขอโทษอย่างเอาใจแต่ก็ยังรู้สึกแอบไม่พอใจ ที่จินหย่งโกรธแทนองค์หญิงที่ได้ยินคำพูดที่นางว่าร้ายพระองค์ ทั้งที่เขาต้องถูกลงโทษเพราะองค์หญิงแท้ๆ กลับไม่โกรธองค์หญิงเลยสักนิด "ข้าขอโทษ จริงอย่างที่ท่านพูดองค์หญิงช่วยให้ข้าเลื่อนฐานะ ต่อไปข้าจะไม่ฟ้องฮ่องเต้แล้ว เพราะถ้าองค์หญิงถูกลงโทษท่านจะเดือดร้อนตามไปด้วย ข้าไม่ทำให้ท่านเดือดร้อนหรอก อย่าโกรธข้าเลยนะ แต่ต่อไปนี้ท่านห้ามนอกใจข้านะ" จินหย่งคิดออกมาอย่างดูแคลน หนอย...แค่ข้าแสร้งทำเป็นพูดดีด้วยหน่อยถึงกับยึดข้าเป็นของเจ้าเลยหรือ ยังมีหน้ามาห้ามข้านอกใจ ช่างฝันเฟื่อง! จินหย่งข่มอารมณ์และปรับน้ำเสียงให้อ่อนลงและแก้สถานะของเขาเสียใหม่ "ข้าว่าเจ้าห้ามข้าผิดไปแล้วล่ะไป๋เฟิง เจ้าจะห้ามข้านอกใจเจ้าได้อย่างไร ในเมื่อเราเป็นแค่สหายกันเท่านั้น เจ้าคิดมากเกินไปแล้วล่ะ"
ไป๋เฟิงที่ได้ยินคำแก้ต่างนั้นก็นึกสลดลงหน่อย แต่ก็ยังมีความหวังเพราะคิดว่าอย่างน้อยในตอนนี้จินหย่งก็ยอมพูดกับนาง "ข้าจะไปหารือกับองค์หญิงสักหน่อย เผื่อองค์หญิงจะมีพระประสงค์เรื่องใด เจ้าอยู่นี่ล่ะ ข้าสังเกตุว่าเรื่องที่ข้าพูดคุยกับองค์หญิงทำให้เจ้าหน้ามุ่ยไม่เข้าใจ ไปนั่งฟังด้วยเจ้าจะปวดหัวเอาซะเปล่าๆ ข้าเป็นห่วงเจ้านะ" ไป๋เฟิงที่ได้ยินคำว่าเป็นห่วงของจินหย่งก็ลืมความน้อยใจทั้งมวล และยอมอยู่ที่นี่อย่างยินดี บ่วงเสน่หาที่หากใครได้หลงติดอยู่ในบ่วงนั้นก็ยากจะหลุดพ้น ไม่ใช่แค่ไป๋เฟิงคนเดียวที่ติดกับอยู่ในบ่วงเสน่หานี้ แต่ยังรวมไปถึงจินหย่ง ที่ตั้งแต่ได้รับจุมพิตอันเร่าร้อนของผู้ใหญ่เป็นครั้งแรกที่มี่เหยียนมอบให้ เขาก็ลุ่มหลงและคะนึงหาอยากได้รับมันอีกจนเหมือนเป็นสิ่งเสพติด ที่หากได้รับก็เป็นสุข พอไม่ได้รับก็ต้องการอยากที่จะได้รับอีก แม้จะเป็นเด็กฉลาดแต่ด้วยความที่ยังเป็นเด็กชายอายุเก้าขวบจึงรู้สึกแปลกใหม่ ที่ได้พบกับการล่อลวงด้วยกามรมณ์ของผู้ใหญ่ จนเด็กที่ฉลาดและกำลังอยู่ในวัยที่อยากรู้อยากลอง หลงติดใจ ได้รู้จักกับโลกแห่งกามารมณ์ที่จินหย่งไม่เคยได้พบเจอมาก่อน และมันทำให้เขาก็เป็นอีกคนที่ติดบ่วงเสน่หาที่ว่านี้ ระหว่างการแสร้งทำเป็นฝืนใจมีไมตรีที่เขามีให้กับไป๋เฟิง กับความรู้สึกของหัวใจที่มีให้กับองค์หญิงผู้สอนเชิงรักจนเขาลุ่มหลง ความรู้สึกจึงไม่อาจเทียบกันได้ เพราะไม่ว่าจะอย่างไรความจริงใจและความลวงก็ไม่อาจจะเสแสร้งได้อย่างแนบเนียนนัก เมื่อจินหย่งยังเป็นแค่เด็กชายตัวน้อยคนหนึ่ง
ไป๋เฟิงที่ได้ยินน้ำเสียงที่บ่งบอกอารมณ์โกรธก็ตกใจ รีบขอโทษอย่างเอาใจแต่ก็ยังรู้สึกแอบไม่พอใจ ที่จินหย่งโกรธแทนองค์หญิงที่ได้ยินคำพูดที่นางว่าร้ายพระองค์ ทั้งที่เขาต้องถูกลงโทษเพราะองค์หญิงแท้ๆ กลับไม่โกรธองค์หญิงเลยสักนิด "ข้าขอโทษ จริงอย่างที่ท่านพูดองค์หญิงช่วยให้ข้าเลื่อนฐานะ ต่อไปข้าจะไม่ฟ้องฮ่องเต้แล้ว เพราะถ้าองค์หญิงถูกลงโทษท่านจะเดือดร้อนตามไปด้วย ข้าไม่ทำให้ท่านเดือดร้อนหรอก อย่าโกรธข้าเลยนะ แต่ต่อไปนี้ท่านห้ามนอกใจข้านะ" จินหย่งคิดออกมาอย่างดูแคลน หนอย...แค่ข้าแสร้งทำเป็นพูดดีด้วยหน่อยถึงกับยึดข้าเป็นของเจ้าเลยหรือ ยังมีหน้ามาห้ามข้านอกใจ ช่างฝันเฟื่อง! จินหย่งข่มอารมณ์และปรับน้ำเสียงให้อ่อนลงและแก้สถานะของเขาเสียใหม่ "ข้าว่าเจ้าห้ามข้าผิดไปแล้วล่ะไป๋เฟิง เจ้าจะห้ามข้านอกใจเจ้าได้อย่างไร ในเมื่อเราเป็นแค่สหายกันเท่านั้น เจ้าคิดมากเกินไปแล้วล่ะ"
ไป๋เฟิงที่ได้ยินคำแก้ต่างนั้นก็นึกสลดลงหน่อย แต่ก็ยังมีความหวังเพราะคิดว่าอย่างน้อยในตอนนี้จินหย่งก็ยอมพูดกับนาง "ข้าจะไปหารือกับองค์หญิงสักหน่อย เผื่อองค์หญิงจะมีพระประสงค์เรื่องใด เจ้าอยู่นี่ล่ะ ข้าสังเกตุว่าเรื่องที่ข้าพูดคุยกับองค์หญิงทำให้เจ้าหน้ามุ่ยไม่เข้าใจ ไปนั่งฟังด้วยเจ้าจะปวดหัวเอาซะเปล่าๆ ข้าเป็นห่วงเจ้านะ" ไป๋เฟิงที่ได้ยินคำว่าเป็นห่วงของจินหย่งก็ลืมความน้อยใจทั้งมวล และยอมอยู่ที่นี่อย่างยินดี บ่วงเสน่หาที่หากใครได้หลงติดอยู่ในบ่วงนั้นก็ยากจะหลุดพ้น ไม่ใช่แค่ไป๋เฟิงคนเดียวที่ติดกับอยู่ในบ่วงเสน่หานี้ แต่ยังรวมไปถึงจินหย่ง ที่ตั้งแต่ได้รับจุมพิตอันเร่าร้อนของผู้ใหญ่เป็นครั้งแรกที่มี่เหยียนมอบให้ เขาก็ลุ่มหลงและคะนึงหาอยากได้รับมันอีกจนเหมือนเป็นสิ่งเสพติด ที่หากได้รับก็เป็นสุข พอไม่ได้รับก็ต้องการอยากที่จะได้รับอีก แม้จะเป็นเด็กฉลาดแต่ด้วยความที่ยังเป็นเด็กชายอายุเก้าขวบจึงรู้สึกแปลกใหม่ ที่ได้พบกับการล่อลวงด้วยกามรมณ์ของผู้ใหญ่ จนเด็กที่ฉลาดและกำลังอยู่ในวัยที่อยากรู้อยากลอง หลงติดใจ ได้รู้จักกับโลกแห่งกามารมณ์ที่จินหย่งไม่เคยได้พบเจอมาก่อน และมันทำให้เขาก็เป็นอีกคนที่ติดบ่วงเสน่หาที่ว่านี้ ระหว่างการแสร้งทำเป็นฝืนใจมีไมตรีที่เขามีให้กับไป๋เฟิง กับความรู้สึกของหัวใจที่มีให้กับองค์หญิงผู้สอนเชิงรักจนเขาลุ่มหลง ความรู้สึกจึงไม่อาจเทียบกันได้ เพราะไม่ว่าจะอย่างไรความจริงใจและความลวงก็ไม่อาจจะเสแสร้งได้อย่างแนบเนียนนัก เมื่อจินหย่งยังเป็นแค่เด็กชายตัวน้อยคนหนึ่ง
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.3 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ