โรงเรียนเปลี่ยนสาวน้อยเป็นนางเอก (เสื่อม)

7.7

วันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2559 เวลา 14.12 น.

  3 ตอน
  0 วิจารณ์
  5,413 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 เมษายน พ.ศ. 2559 14.42 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) ช่องว่างระหว่างมิติ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

2

ช่องว่างระหว่างมิติ

 

 

 

สถานีต่อไป โรงเรียนActing School'

 

          เสียงประชาสัมพันธ์ในรถไฟแสนหรูนี้ประกาศหลังจากรถออกจากสถานีแรกตั้งแต่ฉันมา แต่ว่าทำไม๊ทำไมวิวมันแปลกๆนะ ตอนที่ขึ้นรถไฟออกจากอุโมงก็ตระกุกตระกักแถมอุโมงยังมืดอีก ไม่มีไฟสลัวแบบที่อื่นเลย พอพ้นอุโมงมาก็เจอแต่ทุ่งหญ้าเขียวขจียามรุ่งเช้า มีลมพัดมาใบหญ้าพลิ้วลมแต่ละทีสวยสบายตามาก แสงที่ขึ้นมาจากทางตะวันออกที่มีภูเขาขวางอยู่เริ่มออกมามองไปไกลๆเห็นคนพาวัวพาแกะมากินหญ้าที่ทุ่ง อากาสก็ดีม แบบที่นี่ใช่ประเทศไทยอยู่มั้ยนี่ไม่ได้เอาพาสปอตท์มานะเนี่ย

 

 

 

กลับมาสู่ปัจจุบันหลังจากออกจากสถานีเมื่อกี๊

 

          "เเถวนี้สวยจังนะคะวิวแบบนี้ไม่เคยได้เห็นของจริงเลย เคยเห็นแต่ในหนังสือ" ฉันทนไม่ไหวที่จะไม่ชมวิวที่เห็นนอกหน้าต่างบานหนึ่งในรถไฟนี้

 

          "นั่นสิ ตั้งแต่เกิดคุณหญิงไม่เคยไปเที่ยวไหนบ่อยเลยนี่หนา" ผอ.หันหน้ามามองฉันแล้วกล่าวพร้อมรอยยิ้ม 

 

          "ว่าแต่ยังไม่ได้ทำความรู้จักกันเลยนี่หน่าทุกคน" ผอ.คะ ทำไมไม่พูดแบบนี้ชาติหน้าตอนบ่ายๆล่ะคะ

 

          "เอาหล่ะเดี๋ยวฉันจะแนะนำให้รู้จัก นี่คือคุณหญิงกลาง สว่างจันทร์ แห่งบ้านทรายเงิน" ผอ.เริ่มจากฉันคนแรก

 

           "ซ้ายมือของฉัน(ต่างหูแดง) คิทสึเนะ ไซโตะ"

 

           " คนถัดไป (กระเทย) คุณคราวน์ แชมรอส อีกคนถัดไป (ผู้หญิงสวยๆต่างหูอัญมณีชมพู)ออโรร่า เมลูซีน และสุดท้าย โยโกะ ออนนะ (ผู้หญิงน่ารักๆที่นั่งใกล้ฉันต่างหูเขียว) แต่ยังมีอีกคนนะครับ ชื่อจิน เฟนริล เขาติดธุระกระทันหันเดี๋ยวจะตามมาประมาณ 3วันข้างหน้านะครับ " ผอ.กล่าวจบ

 

            "และก็นะครับคุณหญิงกลาง พวกเขาเหล่านี้คือคนที่จะปกป้องดูแลคุณนะครับ สมมุติง่ายๆก็เหมือนกับบอดี้การ์ดล่ะครับ" ผอ.กล่าวทั้งรอยยิ้มที่สดใสเกินกว่าที่ฉันจะเดาความคิดของเขาได้

 

             " คะ? ทำไมต้องมีด้วยล่ะ " ฉันทำหน้าขมวดคิ้วแบบสงสัย

 

             "ไว้ผมจะอธิบายให้ฟังหลังจากถึงโรงเรียงแล้วกันที่นี่ไม่เหมาะน่ะครับ" ยิ้มอีกเเล้ว ผอ.คะคุณเคยไม่ยิ้มสักนาทีมั้ยคะ

 

             ฉันหันหน้าไปมองคนที่จะมาเป็นบอดี้การ์ด ตอนนั้นฉันก็เผลือสบตาเข้ากับหนุ่มผมแดงว่าไปหล่อจริงๆนะเนี่ยไม่แพ้ดาราพระเอกช่องไหนเลยได้มั้งเนี่ย จะว่าแต่ละคนดูแลตัวเองคงดีอย่างกะลูกคุณหนูแหนะ 'ถ้าเกิดเราพึ่งรู้จักใครจำเอาไว้นะคะคุณหญิงกลางเราต้องพูดว่า ยินดีที่ได้รู้จักด้วยรอยยิ้มนะเจ้าคะ' คำที่ครูสอนมารยาทที่ฉันไม่อยากจะเรียนไม่แพ้ภาษาต่างประเทศก้องอยู่ในหัวจนได้ลองดูดีมั้ยนะ(ยังจะต้องคิดอีกเหรอ) 

 

              "ยิ...ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ"ฉันกล่าวจบทุกคนถึงกับหันขวับมาพร้อมกันไม่ได้นัดหมายฉันถึงกับสดุ้งเลย 'เดี๋ยวนะ นี่ฉันไม่ควรพูดเหรอ ทำไงดีอายนะเนี่ย' อร๊ายยยทำอะไรไม่ถูกแล้ว หน้าแดงเป็นลูกตำลึงอยู่แล้วเนี่ย >///<

 

              "ยินดีที่ได้รู้จักเช่นเดียวกันนะจ๊ะ" คนที่ชื่อ...แครอทหรืออะไรนี่แหละที่เหมือนกระเทยกล่าวทั้งรอยยิ้มต่อมาก็เป็นเมนูซ่าหรืออะไรนี่แหละต่างหูสีชมพูน่ะ และก็ โยโกะ ต่างหูสีเขียวกล่าว แต่ไซโตะไม่พูดอะไรแต่จะไปทำไมเริ่มไม่ชอบขี้หน้าขึ้นมาเฉยๆก็ไม่รู้สิ

 

               ทันใดเสียงประชาสัมพันก็ดังขึ้น 'ขณะนี้รถไฟจะกำลังเข้าสู่ Dimension 3 (ไดเมนชั่น 3 แปลมาได้ว่ามิติ3) ขอให้ผู้โดยสานรัดเข็มขัดนิรภัยอย่างปลอดภัยหากเกิดอุบัติเหตุอันใดกับท่านทางเราจะไม่รับผิดชอบและถือว่าเตือนแล้วค่ะ ' ห๊ะนี่เขาพูดกับผู้โดยสารอย่างงี้เป็นประจำเหรอเนี่ย =_=

 

                 ว่าแต่เข็มขัดมันอยู่ไหนเนี่ยที่จะให้รัดน่ะ มองไปทางไหนก็ไม่เห็นมี 'กำลังจะเข้าสู่ Dimension3 โปรดคาดเข็มขัดนิรภัยเพราะอาจหลุดไปในห้วงเวลาได้ค่ะ' สิ้นคำปั๊ปฉันถึงกับขนลุกซู่ "คุณหญิงรีบคาดสิคะ" โยโกะกล่าว ถึงจะพูดงั้นก็เถอะมันอยู่ไหนล่า!!!

 

                  "แล้วมันยุ--"ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบมันก็เหมือนมีอะไรจะดูดฉันไปนอกหน้าต่าง และในเสี้ยววินาทีนั้นฉันก็ได้หลุดออกนอกตัวรถไฟแล้ว

 

                  "คุณหญิง!!!" ทุกคนต่างมองฉันแต่ขยับไม่ได้เพราะเขารัดเข็มขัด ทะว่า

 

                  "ยัยบ้า!!! " ไซโตะรีบกระโดดตามมาโอบฉันไว้กลางห้วงที่จะไปมิตินี่ ว่าไปเสียงหวานปนเข้มน่ารักจัก(ยังจะมาวิจารณ์อีกไม่ห่วงตัวเองหน่อยเร๊อะแอนนี่)

 

       ฟุบ!

                   ไซโตะกอดฉันไว้แน่นจนฉันแทบหายใจได้ลำบาก ชั่วพริบตานั้ยรถไฟก็หายไป ฉันและไซโตะได้ลอยห้วงนี้ ไซโตะยังคงกอดฉันแน่น แบบอดคิดไม่ได้ว่านี่ช่วยรอดหรือช่วยตายคะ

 

                    "ไซ..ไซโตะ หายใจไม่ออก"

 

                     "อ๊ะ ! ขอโทษ " ไซโตะรีบกอดหลวมพอที่ฉันจะหายใจได้สดวกขึ้น

 

                     " ไซโตะแล้วจะเอาไงต่อดีล่ะ ที่นี่ที่ไหน แล้วเราจะเป็นยังไงต่อไป" ครั้งที่สองที่ฉันสบตากับเขา ดวงตานี้งดงามและอ่อนโยนจริงๆถ้าดูใกล้ๆแบบนี้ ถ้าเขายิ้มสักหน่อยคงหล่อไม่เบาแน่

 

                     "ที่นี่น่ะคือห้วงเวลาหรือช่องว่างระหว่างมิติหากใครหลุดไปจะไม่สามารถเดาได้เลยว่าจะเป็นยังไงเพราะคนที่ถูกพัดมาห่วงเวลานี้ไม่เคยกลับไปยังที่เคยมาได้เลย หรือง่ายๆคือสาบสูญน่ะ

 

                      "สาบสูญ!!" ฉันนี่ถึงกับทะลึงตาเลย ตอนนี้หยาดน้ำใสๆออกจากตาฉันเริ่มไหลพรากออกมาใส่เสื้อไซโตะ

 

                      "คุณพ่อ  คุณแม่ พี่ชายเมล พี่ฟ้า อิหนู ชายเล็ก แอนอยากกลับบ้านแอนไม่อยากเป็รอย่างงี้นะแอนคิดถึงทุกคนแล้ว แอนสัญญาจะไม่โดดเรียนแล้ว แอนอยากกลับบ้าน" ฉันกลัวมากน้ำตาฉันเริ่มไหลเป็นเหมือนลำธานสายน้อยไหลไม่มีที่สิ้นสุดบนใบหน้าจนแฉะไปหมด

 

                      "แอนนี่... อย่าได้ร้องเลยนะ ฉันขอร้อง" จู่ๆร่างของไซโตะก็มีการเปลี่ยนแปลงผมที่เคยมีสีแดงเช่นดอกกุหลาบแดงตอนนี้กลายมาเป็นผมสีท้องฟ้ารัตติการแล้วนัยตาที่เคยแดงตอนนี้ก็กลายเป็นสีรัตติการยามราตรีเหมือนเส้นผมที่เปลี่ยนแปลงและวาวเหมือนมาหมู่ดาวอยู่ในตาคู่นี้  และริมฝีปากของเขาประกบกับปากฉันอย่างนุ่มนวล มันหวานและนุ่มนี้ฉันไม่เคยสัมผัส ทำให้น้ำตาฉันที่เคยไหลเพราะความกลัวตอนนี้หยุดไหลและมีความรู้สึกที่ยากจะอธิบายได้ 

 

                       และเมื่อเขาสัมผัสได้ว่าน้ำตาหยุดไหลแล้วก็ปลดจูบจากฉันและมือเขาข้างหนึ่งมาเช็ดน้ำตาที่ยังเหลือบนใบหล้าฉัน "เธออยู่กับฉันต้องปลอดภัยอย่าร้องไห้อีกนะ" สิ้นคำพูดเขาก็กอดร่างของฉันอย่างอ่อนโยน

 

                       วิ้งๆ◇แสงของวัตถุบางอย่างมาสะท้อนใส่ตาฉัน "ไซโตะนั่นอะไร" ฉันชี้นิ้วไปยังวัตถุปริศนา และวัตถุนั้นเริ่มลอยมาหาพวกเราขึ้นเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่หน้าพวกเรา

 

                        มันเป็นแหวนคู่ที่มีโซ่ทองเส้นเล็กๆควงแหวนทั้งสองไว้อันแรกเป็นสีรัตติการมีลักษณะครึ่งวงกลมใหญ่น่าจะเหมาะกับผู้ชาย อีกอันสีเหลืองอ่อนเหมือนอย่างกับพระจันทร์ฉันคว้ามันมาดูและจู่ๆโซ่ก็สลายไป 

 

                         "ฉันคิดว่ามันอาจต้องการให้เรานะ" ไซโตะพูดขึ้นและมองมาที่ตาฉัน

 

                         "เอ่อ...นั่นสินะ" อายจังตอนนี้หน้าเราแดงรึปล่าวเนี่ย(พึ่งอายเหรอ)

 

                        "ใส่ดูมั้ย" ไซโตะยื่นหน้าเข้ามากระซิบข้างหูฉัน และทำไมต้องกระซิบด้วยเนี่ย!!

 

                         เมื่อไซโตะพูดจบก็หยิบแหวนสีเหลืองดวงจันทร์ใส่ที่นิ้วนางซ้ายฉัน (ทำไมต้องนิ้วนี้) 

 

                         "ใส่ให้ฉันบ้างสิ "ไซโตะโอบเอวฉันและยกมือซ้ายให้สวมแหวน

 

                        "อย่าใส่ผิดนิ้วล่ะไม่งั้นจะลงโทษ" 

 

                         "จะให้ใส่นิ้วไหนล่ะ" ฉันถาม

 

                         "นิ้วนาง" คำสั้นๆนี้ฉันถึงกับทำอะไรไม่ถูกดวกตาฉันจ้องไปที่มือที่เรียวยาวของเขา

 

                         'งับ'  "กรี๊ด!!! ทำอะไรของนายปล่อยนะเจ็บ" จู่ๆก็มากัดที่คอทำไมแล้วทำไมถึงกอดฉันเนี่ย(พึ่งคิดถึงเรื่องนี้เหรอ โอ้แม่เด็กน้อย)

 

                         "ฉวม แหน ห้าย ก่อ ฉิ (สวมแหวนให้ก่อนสิ) " ไซโตะมองมาที่ฉัน

ไม่รอช้าฉันก็สวมเข้าไปที่นิ้วนางมือซ้ายเขา "สวมแล้วๆ หยุดกัดก่อนสิเจ็บนะตาบ้า"

 

                         "เด็กดีมาก" เขาลูบหัวฉันอย่างเอ็นดู

 

                         ทันใดก็มีแสงออกมาจากแหวนที่ใส่ทั้งสองและแสงได้รวมตัวกันเกิดสิ่งที่คลายๆกับกระจกขึ้น...ไม่คล้ายและเหมือนเลยแหละ แต่กระจากแทนที่จะสะท้อนให้เห็เราแต่กลับเป็นทางเดินของสถานที่แห่งหนึ่ง มีเสียงนกร้องจากกระจกและทันใดนั้นกระจกก็ดูดตัวฉันกับไซโตะเข้าไป  

 

 

 

 ~~~~~ติดตาม ตอน ต่อ ไป~~~~~

hi! hi! คิดถุงกันบ้างอ๊ะปล่าวเอ่ย สงกรานต์นี้ขอให้มีความสุขกันทั่วหน้านะจ๊ะๆ รักนะ จุ๊บุ จุ๊บุ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา