The Death Records บันทึกตาย

          วันรุ่งเช้าต่อมา ชายหนุ่มก็แต่งตัวพร้อมที่จะไปเรียนอย่างกับทุกๆวัน แต่วันนี้มีสิ่งที่หน้าสนใจดึงดูดเขาไว้ นั่นก็คือ ข่าวการตายของรุ่นพี่อันธพาลคนนั้นที่ปรากฏอยู่ในรายการข่าวโทรทัศน์

         “ดูจากที่หน่วยชันสูตรศพตรวจสอบแล้วนะคะ พบสาเหตุมาว่าชายคนนี้หน้าจะตายด้วยอาการหัวใจหยุดเต้นเฉียบพัน และดูจากศพหน้าจะตายเมื่อเร็วๆนี้ นี่เองคะ”เสียงผู้ประกาศข่าว

          เมื่อชายหนุ่มได้ฟังข่าวจนจบ แทนที่ชายหนุ่มจะมีอาการกลัวๆสั่นๆหรือแสดงออกทางสีหน้าเมื่อได้ฆ่าคน กลับทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อย่างกับว่าจิตใจของชายหนุ่มได้เปลี่ยนเป็นคนละคนยังไงอย่างงั้น ในระหว่างที่กำลังเดินทางไปโรงเรียนอยู่นั้น ชายหนุ่มได้เอ่ยปากถามปีศาจตนนั้นว่า

   “ตอนที่ได้เจอกับนายครั้งแรก นี่นายพยายามจะบอกฉันใช่ไหมเรมว่ากล้องนั้นสามารถฆ่าคนได้ ?”

         ปีศาจตนนั้นตอบกลับไปว่า “พวกมนุษย์อาจจะคิดว่านั้นเป็นการฆ่า แต่สำหรับข้าแล้วนั่นเป็นการสูบกินวิญญาณเพื่อต่อชีวิตของข้าต่างหากละ”

         ชายหนุ่มตอบกลับด้วยความสงสัย “อ้อ นั่นก็แสดงว่า คนที่ตายก็เหมือนกับร่างไร้วิญญาณสินะเพราะโดนดูดกลืนวิญญาณเข้าไป พวกเขาคิดไปเองว่าศพนั่นเกิดจากการหยุดทำงานของร่างกายกะทันหัน ทำให้นักชันสูตรศพตรวจสอบพบว่าเป็นการหยุดเต้นของหัวใจนั่นเองสินะ เพราะหัวใจไม่ทำงาน”

ปีศาจตนนั้นตอบกลับไปว่า “เรียวมะ แกเป็นมนุษย์ที่หน้าสนใจดี แถมยังไม่พอยังฉลาดอีกต่างหาก”

“ฮ่าฮ่าฮ่า” ชายคนนั้นหัวเราะด้วยสีหน้ายิ้มแย้มและพูดว่า “ไม่อยากจะคุยนะเรมฉันหนะสอบได้ที่หนึ่งของโรงเรียนนะจะบอกให้” ชายคนนั้นพูดต่อไปอีกว่า “เรม ตั้งแต่มีนายเข้ามาในชีวิตฉันฉันรู้สึกว่า ฉันเริ่มมีความหวังขึ้นมานิดๆแล้วหละ”

        ในระหว่างที่ชายหนุ่มกำลังเรียนเหมือนปกติ เขาได้ยินเพื่อนร่วมชั้นพูดถึงรุ่นพี่ที่ตายไปเมื่อวันก่อนต่างคนต่างแสดงความคิดเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า

 “คนเลวๆตายไป ก็ไม่มีใครสนใจหรอก ออกจะดีใจซะด้วยซ้ำ”

        หลังจากที่ใช้เวลากับการเรียนหนังสือจนได้เวลากลับบ้าน ในระหว่างเดินทางกลับบ้านชายหนุ่มได้ถามปีศาจตนนั้นเกี่ยวกับกล้องสูบวิญญาณว่า

“แล้วถ้าสมมุติว่าฉันถ่ายรูปผ่านรูปอีกทีหนึ่งละ และทำตามกฎทุกอย่าง ผลยังจะออกมาตามเดิมรึป่าว เรม?”

ปีศาจตนนั้นก็ตอบกลับไปว่า“ใช่สิ เรียวมะ ผลยังคงเป็นไปตามกฎทุกอย่าง”

ชายหนุ่มตอบกลับมาว่า “หึ ให้มันได้อย่างงี้สิ เรม ชั้นเริ่มจะมีอะไรทำ สนุกๆแล้วสิ”

        ชายหนุ่มยิ้มด้วยแววตาที่แสนชั่วร้าย หลังจากกลับบ้าน เขาได้คิดทำในสิ่งที่คนธรรมดานั้น ไม่มีทางทำได้ และเขาคิดว่ามีแค่ชั้นเท่านั้นที่จะทำได้ นั้นคือการพิพากษาจากพระเจ้า ตอนนี้เขาคิดว่าการทดสอบประสิทธิภาพของกล้องสูบวิญญาณตามที่ปีศาจตนนั้นได้กล่าวไว้ ก็เป็นเรื่องที่ดี เขาจึงเริ่มทดลองโดยการถ่ายภาพจากในรูป ของสมุดรวมรุ่น ระดับ ป.6 และพิจารณาประวัติส่วนตัวของเหยื่อคนแรกว่า สมควรอยู่หรือไม่ หลังจากตรวจสอบประวัติทางอินเทอร์เน็ตเส็จเรียบร้อย  เขาเริ่มลงทันโดยการเขียนชื่อของคนรู้จักในหลังรูปที่ถ่ายมาแล้ว คนๆนั้นตอนนี้ได้เป็นนักเรียนเทคนิค ซึ้งดูจากประวัติแล้ว ชายคนนี้ไม่สมควรอยู่อีกต่อไป เนื่องจากมีคดียกพวกตีกันอยู่บ่อยๆ เพื่อไม่ให้เป็นปัญหาต่อสังคมอีกต่อไป เขาจึงเริ่มตัดไฟตั้งแต่ต้นลมก่อนที่ไฟมันจะลามไปมากกว่านี้

        คนที่ 2 เป็นคนที่ชอบแกล้งเพื่อนตอนเด็กๆ เพื่อพิสูจว่ารูปใบหนึ่งสามารถบันทึกการตายได้มากกว่าหนึ่งคน

        คนที่ 3 เป็นอาชญากรที่อยู่ในเรือนจำ โดยใส่ชื่อลงในรูปใบเดิม แต่ไม่มีหน้าของเหยื่ออยู่ในรูป

        คนที่ 4 เป็นอาชยากรที่พ้นคดีการข่มขืนมาหลายคดีแล้ว แต่วันพรุ่งนี้ผู้เสียหายจะทำการสู้คดีและเริ่มขึ้นศาลในเวลา 9.00 AM เขาถ่ายรูปของเหยื่อจากในเว็บไซต์

        คนที่ 5 เป็นอาชยากรที่ตำรวจกำลังคุมตัวสอบปากคำ ซึ้งได้ถ่ายรูปใหม่จากการถ่ายทอดสดทางทีวี

        หลังจากเขียนชื่อและกำหนดเวลาตายเรียบร้อยแล้ว วันรุ้งขึ้นทัดมาหลังจากที่ชายหนุ่มได้เข้าเรียนตามปกติและเลิกเรียนกลับบ้านอย่างกับทุกวัน ชายหนุ่มได้เปิดเว็บไซต์ข่าวต่างๆเพื่อหาผลที่จะเกิดขึ้น ตามที่ข่าวได้ระบุไว้

        เหยื่อรายแรก คือเด็กนักเรียนเทคนิค ได้ตายขณะกำลังชกต่อยกับเพื่อนร่วมห้อง ดูจากการชันสูตรศพหน้าจะเกิดจากอาการหัวใจหยุดเต้นเฉียบพัน ชายหนุ่มได้ระบุเวลาตาย 10.00 AM ในวันที่ 1/4/2016 ซึ้งก็เป็นไปตามที่ระบุไว้

        เหยื่อรายที่ 2 ตายขณะกำลังเรียนหนังสือ ซึ้งมีการถามคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ผู้ให้การบอกว่า “ตอนแรกผมนึกว่าเพื่อนของผมแอบงีบในคาบวิชาคณิตศาสตร์ซะอีก เพราะเพื่อนผมชอบแอบงีบในวิชาคณิตศาสตร์อยู่เป็นประจำ แต่พออาจารเข้าไปปลุกเพื่อนผม เค้าก็ตายซะแล้ว” พูดด้วยเสียงสั่นๆ ชายหนุ่มได้ระบุเวลาตาย 10.00 AM ในวันที่ 1/4/2016 ซึ้งก็เป็นไปตามที่ระบุไว้ และที่ทำให้ชายหนุ่มรู้ความสามารถของกล้องสูบวิญญาณได้มากขึ้นก็คือ สามารถเขียนชื่อของคนที่จะตายได้มากกว่าหนึ่งคน

        เหยื่อรายที่ 3 ไม่มีข่าวหรือเหตุการณ์ตาย ซึ้งมันก็ทำให้ชายหนุ่มรู้ว่า ถ้าเขียนชื่อแต่ไม่มีหน้าของเหยื่ออยู่ในรูปเหตุการณ์ก็จะไม่เกิดขึ้น

        เหยื่อรายที่ 4 อาชยากรคดีข่มขืนตายขณะที่กำลังให้การทนายความ ในเวลา 10.00 AM ของวันนั้นซึ้งการระบุเวลาตาย 10.00 AM ในวันที่ 1/4/2016 ซึ้งก็เป็นไปตามที่ระบุไว้  มันทำให้ชายหนุ่มรู้ว่าการถ่ายรูปผ่านเว็บไซต์และทำกฎทุกอย่างเหยื่อก็ยังคงตายตามเดิม

        เหยื่อรายที่ 5 อาชยากรตายคาห้องขัง ในเวลาประมาณ 10.00 AM ซึ้งก็เป็นไปตามที่ระบุไว้คือ  10.00 AM ในวันที่ 1/4/2016 มันทำให้ชายหนุ่มรู้ว่าการถ่ายรูปผ่านวิดีโอหรือทีวีและทำกฎทุกอย่างเหยื่อก็ยังคงตายตามเดิม

        ชายหนุ่มเสยาะยิ้มและพูดกับปีศาสตนนั้นว่า “ กล้องสูบวีญญาณเนี้ย มันมีวิธีการใช้หลายวิธีเหมือนกันนะ เรม ”

*ถ้าเขียนชื่อหลังรูปผิดหรือไม่มีหน้าของผู้ที่จะตายในรูปก็จะถือว่าเหตุการณ์นั้นจะไม่เกิดขึ้น *

*สามารถเขียนชื่อหลังรูปได้มากกว่าหนึ่งคน แต่ชื่อจะต้องตรงกับหน้าของผู้ที่จะตายในรูปด้วย

มิเช่นนั้นจะไม่เกิดผลแต่อย่างใด*