Knack imagine
9.3
เขียนโดย ลอร์
วันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2559 เวลา 17.46 น.
3 บท
3 วิจารณ์
5,380 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 2 เมษายน พ.ศ. 2559 18.19 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) ตอนที่ 3
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเจคและลอชยังคงเดินเล่นกันอยู่ในห้างสรรพสินค้า เจคสังเกตเห็นว่าลอชดูท่าทางแปลกๆไปอีกแล้ว
ลอชกำลังคิดถึงเรื่องที่ลอยด์พูดกับเขาเมื่อซักครู่ที่บอกว่า
“ถ้าอยากรู้อะไรเพิ่มก็มาเจอกันที่ร้าน”
ลอชสงสัยว่ามันจะเป็นกับดักหรือป่าว เพราะการที่คนนอกเห็นความลับของพวกที่ทำงานแบบนี้แล้วจะปล่อยไปเฉยๆนั้นมันเป็นไปไม่ได้ แต่ว่าถ้าพวกนั้นคิดว่าปล่อยไปไม่ได้จริงๆคงจะฆ่าเขาไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ลอชเดินคิดเรื่องนี้อยู่ตลอดทาง
“ลอช นายเป็นอะไรอีกแล้ววะ?” เจคเรียกลอชอยู่บ่อยครั้งแต่ดูเหมือนลอชจะไม่ได้ยินเลย
เจคตบไปที่บ่าของลอชหนึ่งทีเพื่อเรียกสติลอชกลับมา ลอชตกใจสะดุ้งเล็กน้อยและถามเจคกลับไปว่า
“มีอะไรหรอ?”
[ก็เรียกตั้งนานแล้วก็เอาแต่เดินก้มหน้าคิดอะไรไม่รู้ สรุปนายมีปัญหาอะไรไหนบอกมาสิ?]
“ไม่มีอะไรหรอก….”
[จะไม่มีอะไรได้ไงวะ ตอนแรกก็ดีๆอยู่เลยนี่เงียบอีกละ?]
ลอชรู้ดีว่าถ้าบอกเรื่องที่เกิดขึ้นกับเจคไปเจคจะต้องไม่อยู่เฉยๆแน่นอน เขาจึงพยายามเปลี่ยนหัวข้อสนทนาและทำตัวอย่างเป็นปกติที่สุด แต่ถึงยังงั้นเจคก็ดูออก
เจคคิดว่าลอชคงมีปัญหาใหญ่มากๆจนบอกใครไม่ได้เลยคิดว่าจะไปสืบหาด้วยตัวเองจะดีกว่า
ทั้งคู่เดินเล่นกันจนถึงเย็น ทั้งสองจึงแยกย้ายกันกลับบ้าน
ลอชไม่รู้ว่าตัวเองคิดยังไงแต่ตัดสินใจเดินกลับหอพักทางตรอกที่เกิดเรื่องเมื่อคืนอีกครั้ง บรรยากาศยังคงชวนขนลุกเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน แต่ครั้งนี้ไม่มีใครตามเขามา ลอชเดินจนถึงทางออกของตรอกแต่ก็ไม่พบกับใครซักคน เขาจึงรีบเดินกลับขึ้นมาบนห้อง
ลอชเปิดประตูเข้ามาภายในห้องก็พบว่าข้าวของของเขาถูกรื้อออกมาทั้งหมด มีใครบางคนเข้ามาในห้องของเขาเพื่อค้นหาอะไรบางอย่าง ลอชพยายามตรวจดูว่ามีอะไรหายไปบ้างแต่ทุกอย่างอยู่ครบหมด แม้แต่เงินสำรองที่เขาเก็บไว้ที่หัวเตียงก็ถูกรื้อออกมาแต่กลับไม่ได้ถูกขโมยไปเลยซักบาทเดียว
เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งก็นึกถึงเรื่องสร้อยคอของเขาขึ้นมาได้ ลอชสงสัยว่าคนที่เข้ามาในห้องของเขาจะต้องการสร้อยคอนั่นอย่างแน่นอน ลอชนั่งลงที่ข้างเตียงและนึกถึงเรื่องสร้อยเส้นนั้น เขาพยายามประติดประต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืน แต่จู่ๆไฟในห้องก็ดับลง ทุกอย่างเงียบสงบ ลอชพยายามค้นหาไฟฉายที่อยู่ในลิ้นชักข้างๆหัวเตียง
แต่จู่ๆก็มีใครบางคนยืนอยู่ตรงระเบียงห้องของเขาเป็นผู้หญิงที่ใส่ผ้าคลุมสีแดง และกำลังจ้องมาที่ลอช
“เธอเป็นใคร…..ต้องการอะไร?”ลอชถามออกไปอย่างกล้าๆกลัวๆ
[สร้อยนั่นอยู่ที่ไหน?]ผู้หญิงปริศนาถามกลับไปด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น
“ผมทำหายไปแล้ว….”
[ถ้าโกหกไม่จบแค่เจ็บตัวนะ?]
ลอชรู้ทันทีว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้พูดเล่นอย่างแน่นอนเพราะจากเหตุการณ์เมื่อคืนที่การฆ่ากันเป็นเรื่องปกติของพวกนี้แล้ว คงไม่มีอะไรที่คนพวกนี้จะไม่กล้าทำอีกแล้วล่ะ
หญิงปริศนาเดินตรงเข้ามาหาลอช ลอชหยิบเครื่องช็อตไฟฟ้าช็อตไปที่ท้องของหญิงคนนั้น
แต่ว่า
ดูเหมือนเธอจะไม่รู้สึกอะไรกับเครื่องช็อตไฟฟ้าเลย เธอหัวเราะออกมาเบาๆและกระซิบข้างหู ลอชว่า
“ของแค่นี้ทำอะไรชั้นไม่ได้หรอก…ลืมไปชั้นชื่อว่าวิกิ ยินดีที่ได้รู้จักนะ”
ลอชผลักวิกิออกและรีบวิ่งไปที่ประตู ลอชวิ่งหนีลงมายังชั้นล่างของหอพักและวิ่งไปซ่อนตัวอยู่ที่หลังเสา
ลอชมองไปรอบๆก็รู้สึกแปลกใจเพราะไม่มีแม้แต่เงาคนอยู่แถวนี้เลย อย่างกับว่าตอนนี้มีแค่เขากับวิกิอยู่ที่นี่สองคนเท่านั้น
วิกิเดินลงมาตามทางบันไดและพูดกับลอชว่า
“ก็แค่ส่งสร้อยฝังเพชรนั่นมาก็จบแล้วแท้ๆ จะเอาชีวิตมาทิ้งเพื่ออะไร?”
[ผมทำหายไปแล้วจริงๆ....ช่วยเชื่อผมทีเถอะ] ลอชพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่น
จู่ๆวิกิก็โผล่มายืนอยู่ข้างๆเสาที่ลอชกำลังซ่อนตัวราวกับหายตัวมายังไงอย่างงั้น ลอชพยายามจะวิ่งหนีแต่วิกิจับแขนของลอชไว้ได้ เธอดึงลอชเข้ามาและล็อกคอเอาไว้ไม่ให้หนีไปไหน
วิกิเอามือซ้ายแตะไปที่หน้าผากของลอชและพูดว่า
“งั้นขอดูหน่อยนะ”
ลอชรู้สึกเหมือนโดนไฟช็อตเบาๆที่หัวของเขา ลอชรู้สึกเหมือนขาดสติไปช่วงหนึ่ง
“อย่างงี้นี่เองเจอยัยเฟรีนเล่นงานมาสินะ” วิกิพึมพำออกมา และยังคงทำบางอย่างกับลอชอยู่
“โอเคเข้าใจละ เพชรหายไปแล้วจริงๆสินะ…” วิกิพูดจบก็ผลักลอชออก เธอยืนมองลอชอยู่ครู่หนึ่งก็หันหลังกลับไปและพูดออกมาว่า
“พลังของนายน่ะ…ถ้าหากได้รับการพัฒนาอย่างถูกต้องคงเป็นพลังที่น่ากลัวอย่างหนึ่งเลยละนะ”เธอพูดจบอยู่ดีๆก็หายไปจากตรงนั้นเฉยๆ
ลอชเริ่มได้สติขึ้นมาก็มึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ดูเหมือนลอชจะลืมเรื่องเมื่อซักครู่ไปเกือบทั้งหมดเลย
เขาจำได้แค่ว่าวิกิยืนอยู่ข้างหน้าต่าง และเครื่องช็อตไฟฟ้าใช้ไม่ได้ผลกับเธอเท่านั้น
ลอชเดินกลับไปที่ห้องก็พบว่าข้าวของทุกอย่างถูกจัดเก็บเป็นระเบียบเหมือนเดิมทุกอย่าง
----
ในค่ำคืนที่เงียบสงบ มีรถขนของคันหนึ่งกำลังวิ่งอยู่บนถนนสายหลักที่ตรงเข้ามาสู่เมืองฟิวเจอร์เนียร์ รถคันนี้มีสีดำ เป็นรถตู้ที่มีขนาดเหมือนกับรถตู้ทั่วๆไป ภายในรถมีผู้ชายสามคนนั่งอยู่ภายใน และที่เบาะหลังมีกระเป๋าบรรจุของอยู่สองใบ
“ใกล้จะถึงรึยัง?” ชายคนที่นั่งข้างคนขับถามขึ้นมา
[ใกล้แล้วละ] คนขับตอบกลับไป
“ในกระเป๋านี่มันมีอะไรวะ…ดูผู้ว่าจ้างจะต้องการมันมากๆเลยนะ”
[สงสัยเรื่องของพวกนั้นเดี๋ยวก็โดนเก็บหรอก]
รถแล่นมากได้ซักพัก
“ฉับ!”
จู่ๆก็รู้สึกเหมือนมีอะไรผ่านกึ่งกลางของรถไปเป็นเส้นตรง ทุกคนในรถเงียบกริบ ทุกคนต่างมองหน้ากันด้วยความตกใจ
รถตู้คันนี้เริ่มแยกออกเป็นสองส่วน ชายในรถทั้งหมดเริ่มโหวกเหวกโวยวาย เบื้องหน้าของพวกเขาปรากฏเป็นหญิงสาวภายใต้ผ้าคลุมสีแดงที่กำลังยืนอยู่กลางถนน
รถทั้งสองส่วนแยกออกไปตกอยู่ที่ข้างทาง กระเป๋าสัมภาระทั้งสองใบกระเด็นออกมาจากรถ
ชายทั้งหมดที่อยู่ในรถรีบกระโดดหนีออกมาจากรถก่อนที่รถจะเกิดระเบิดขึ้น
ตู้ม! รถตู้เกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงแต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
“ถ้าอยากรอดชีวิตก็ทิ้งกระเป๋านั่นไว้ซะ!” วิกิตะโกนบอกกับชายทั้งสาม
ชายทั้งสามวิ่งหนีออกไปข้างทางอย่างไม่คิดชีวิต
วิกิเดินหยิบกระเป๋าทั้งสองใบขึ้นมาและเทสิ่งที่อยู่ข้างในออกมา
ภายในกระเป๋าทั้งสองใบมีเพชรพลอยจำนวนมากบรรจุอยู่ภายใน วิกิยื่นมือทั้งสองข้างออกไปและใช้พลังพิเศษกับเพชรพวกนั้น รอบๆเพชรพลอยเกิดเป็นคลื่นบางอย่างขึ้น เพชรพลอยทั้งหมดถูกแรงดึงดูดกดทับจนแตกสลายหายไปหมด
“ไม่มีสินะ…..”วิกิพึมพำออกมาและเหลือบไปเห็นกล้องวงจรปิดที่เสาไฟฟ้าข้างทาง เธอถอนหายใจหนึ่งครั้ง และใช้พลังไฟฟ้าปิดการทำงานของกล้องวงจรปิด
[รถคันฝั่งนู้นก็ดูเหมือนจะไม่มีเหมือนกัน] ครูซปรากฏตัวขึ้นมาทางด้านหลังของวิกิ ครูซใส่ชุดคลุมขนสัตว์ที่ดูคล้ายกับหมาป่า มีผมสีดำ ดูน่าเกรงขาม
[ดูเหมือน “แอนติคอร์”ของจริงตอนนี้ในเมืองจะมีอยู่แค่ชิ้นเดียวนั่นแหละ]
“อย่างงั้นสินะ…..”วิกิคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอเงยหน้ามองไปที่ดวงจันทร์ด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์
[จะเอายังไงละเจ๊….]
“พรุ่งนี้ไปที่ D-café สงสัยต้องไปคุยกับยัยจานี่ซักหน่อยแล้วละ”
[จะแค่คุยแน่เหรออออ?] ครูสหัวเราะออกมาเล็กน้อย
------
อีกด้านหนึ่งของเมืองในตรอกๆหนึ่งมีผู้ชายคนหนึ่งที่ดูดีมีฐานะกำลังวิ่งหนีอะไรบ้างอย่างอยู่ ที่คอของเขามีสร้อยเพชรสวมอยู่
“อั้ก…”
ชายคนนั้นถูกถังขยะข้างทางพุ่งชนจนล้มลงไปกองกับพื้น เลือดที่หัวไหลออกมาเล็กน้อย เขาเอามือไปจับที่เลือดและกรีดร้องออกมา
“ขอสร้อยนั่นหน่อยได้รึป่าวละ” พวกเฟรีนเดินออกมาจากความมืดและพูดกับชายคนนั้น
[ได้ๆเอาไปเลย ปล่อยชั้นไปเถอะนะ!] ชายคนนั้นโยนสร้อยคอให้กับเฟรีนและอ้อนวอนขอชีวิตด้วยสีหน้าที่กลัวแบบสุดขีด น้ำตาไหลพราก และเหงื่อท่วมตัว
เฟรีนหยิบสร้อยคอขึ้นมาและเอาไปส่องกับดวงจันทร์แต่ไม่พบอะไร
“ชิ….ไม่ใช่งั้นหรอ” เฟรีนใช้พลังพิเศษทำลายสร้อยคอเส้นนั้นทิ้ง และเดินหายไปในความมืด..
---------
ในตอนเช้าลอชเปิดรายการข่าวช่วงเช้าดู ข่าวกำลังรายงานถึงเรื่องรถขนของที่กำลังขนของไปส่งที่พิพิธภัณฑ์เกิดระเบิดขึ้นและของภายในรถถูกขโมยไป และอีกหลายๆข่าวที่เกี่ยวกับอัญมณี เขานั่งดูไปพลางคิดเรื่องล็อคเก็ตเส้นนั้นของเขาไป เขาเริ่มจะประติดประต่อเรื่องราวได้บ้างแล้ว เขาคิดว่ามีหลายฝ่ายต้องการอัญมณีแบบเดียวกับที่เขาเคยมีอยู่ เขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
ลอชวางแผนที่จะไปคาเฟ่ในวันนี้ เพื่อจะถามเรื่องราวทั้งหมดกับพวกจานี่ แต่เขาก็ยังคงหวั่นๆอยู่เหมือนกัน เพราะเขายังคงติดภาพการฆ่ากันของผู้มีพลังพิเศษคืนนั้นอยู่
ลอชนั่งดูรายการอยู่นานพอสมควรก็ตัดสินใจไปที่คาเฟ่เพื่อถามเรื่องราวทั้งหมดกับพวกจานี่
เขาเดินมาถึงหน้าร้านแล้ว ลูกค้าภายในร้านยังคงเยอะไม่แพ้วันอื่นๆ ลอชยืนทำใจอยู่นานพอสมควรก็ตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปภายในร้าน
จานี่รู้สึกตกใจเล็กน้อยที่เห็นหน้าลอชเพราะเขาไม่คิดว่าลอชจะกล้ากลับมาที่นี่อีก จานี่เรียกให้ลอชไปคุยกันที่หลังร้าน
ลอชนั่งลงที่โซฟา ตอนนี้ข้างหน้าของเขาคือจานี่หัวหน้าองค์กรด้านมืดของเมือง สมองของลอชในตอนนี้มันตื้อไปหมดคิดอะไรไม่ออก ความจริงแล้วก่อนหน้านี้ลอชเตรียมคำถามเพื่อจะรัวใส่พวก CODE-D ไว้พอเจอกัน แต่พอมาถึงตอนนี้เขากลับพูดอะไรไม่ออกเลย
จานี่ถอนหายใจหนึ่งครั้งและบอกว่า
“มาเข้าร่วมองค์กรกับพวกชั้นเถอะนะ!” จานี่ยืนขึ้นและตีทุบโต๊ะเสียงดัง
ลอชรู้สึกอึ้งกับสิ่งที่จานี่พูดออกมา
แต่จู่ๆก็มีใครบางคนเปิดประตูเข้ามาทำให้ทุกคนที่อยู่ในห้องสะดุ้งกันเล็กน้อย
“ฮ้ายยยย♪ จานี่เพื่อนเลิฟไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”วิกิและครูซเปิดประตูเข้ามาอย่างกะทันหัน
ทุกคนในห้องมองวิกิกันเป็นตาเดียว วิกิรู้สึกหน้าแตกนิดหน่อยที่ทั้งห้องกำลังเงียบสงบกันหมด
ลอชหันไปเห็นวิกิก็ตกใจเป็นอย่างมาก วิกิเห็นดังนั้นก็ตกใจไม่แพ้กัน
“เอ๋!!!!!!!” วิกิและลอชร้องออกมาเสียงดังพร้อมๆกัน
วิกิและลอชปรับความเข้าใจกันเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ดูเหมือนว่าลอชจะเริ่มยอมรับพวก CODE-D ได้แล้ว ในใจลอชคิดว่า พวก CODE-D ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรแบบที่เราคิดนี่หว่า พวกนี้ก็แค่เด็กมัธยมธรรมดาๆกลุ่มหนึ่งเท่านั้น
พวกจานี่และพวกวิกิเป็นเพื่อนสนิทกันมานานแล้ว พวกเขามักแลกเปลี่ยนข้อมูลกันอยู่เสมอ
ทุกๆคนปรับความเข้าใจกับลอชใหม่ทั้งหมด เกี่ยวกับเรื่องอันตรายที่ลอชจะต้องเจอหลังจากนี้ และอธิบายเกี่ยวกับเรื่องพลังพิเศษที่ลอชมี ลอชเล่าเรื่องสมัยเด็กเกี่ยวกับเรื่องแปลกๆที่เขามักเจอก่อนมาที่เมืองนี้ให้พวกจานี่ฟัง จานี่ได้ยินดังนั้นก็เริ่มเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมา
จานี่บอกกับลอชว่า
“อัญมณีในล็อคเก็ตนั่นของนายมันคือ แอนติคอร์ เป็นอัญมณีชนิดพิเศษที่มีคุณสมบัติยับยั้งพลังของผู้มีพลังพิเศษทุกรูปแบบได้ นั่นเลยทำให้นายใช้พลังพิเศษไม่ได้ไงละ ตอนนี้มีหลายฝ่ายกำลังต้องการอัญมณีนั่นมาวิเคราะห์ส่วนประกอบเพื่อทำบางอย่าง ส่วนพวกเราต้องการมันมาวิเคราะห์เพื่อหาทางป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต”
ลอชเข้าใจทุกอย่างที่จานี่พูดกับเขา ในใจของลอชเริ่มผ่อนคลาย จากตอนแรกที่กดดันเป็นอย่างมาก
“สรุปแล้ว นายจะมาอยู่กับพวกเราใช่มั้ย?”จานี่ถามกลับไปที่ลอชอีกครั้ง
ลอชคิดอยู่ครู่หนึ่ง ถ้าที่จานี่พูดมาทั้งหมดเป็นความจริง หมายความตอนนี้สิ่งที่เขาควรทำคือการเข้าร่วมกับพวก CODE-D น่าจะดีกับตัวของเขามากที่สุด แต่เขาก็ยังกังวลเกี่ยวกับเรื่องงานที่พวกจานี่ทำเพราะมันไม่ใช่งานธรรมดา มันเป็นงานด้านมืดที่ผิดกฎหมาย
จานี่บอกกับลอชว่า
“ถ้านายได้มาเห็นความจริงของโลกนี้ทุกอย่างเดี๋ยวนายก็จะเข้าใจทุกอย่างเอง”
ลอชยังคงเป็นกังวลอยู่เล็กน้อย เพราะเขาไม่เคยต่อสู้หรือใช้ปืนมาก่อน จานี่ได้ยินดังนั้นก็หัวเราะออกมา
“นี่นายคิดว่าพวกเราฆ่าคนกันเป็นงานอดิเรกรึไง 55555+ พวกเราก็มีงานปกติที่ไม่ใช่งานแบบนั้นเหมือนกัน ส่วนเรื่องการต่อสู้เดี๋ยวลอยด์จะเป็นคนสอนเอง”
ลอยด์กำลังทำกาแฟตามออเดอร์ที่ลูกค้าสั่งอยู่หน้าร้านจึงไม่ได้เข้าร่วมวงสนทนาด้วย เขาจามออกมาหนึ่งครั้งและคิดในใจว่า “ใครมันนินทาตูวะ”
ลอชเริ่มรู้สึกอุ่นใจและตกลงกับข้อเสนอที่จานี่มอบให้
“เห้ยพวกแก จะคุยกันไปทั้งวันเลยมั้ย….ลูกค้าเต็มร้านแล้วโว้ยย”ลอยด์ตะโกนมาจากหน้าร้าน ทุกคนในห้องรีบลุกขึ้นและไปช่วยลอยด์ทำงานกันหมด เหลือเพียงวิกิ ครูซ และลอชนั่งอยู่ในห้องเท่านั้น
วิกิมองไปที่ลอชและหัวเราะออกมาและพูดว่า
“นายเนี้ยโชคดีจริงๆนะ”
[ยังไงหรอ?]
“ก็ถ้าคืนนั้นพวกที่นายเจอไม่ใช่พวกจานี่ นายคงไม่ได้มานั่งอยู่ตรงนี้หรอก”
ลอชก้มหน้าลง
“ยัยนั่นน่ะแข่งแกร่งอย่าไปดูถูกเชียวละ….เอาละทุกคนไปดื่มกาแฟกันดีกว่า♪……..”
----------
เจคกำลังนั่งเล่นเน็ตอยู่ในห้องส่วนตัว เขาเลื่อนหาข้อมูลไปเรื่อยๆก็ไปสะดุดกับเว็บไซต์เว็บหนึ่งเข้า ในเว็บนั้นมีหัวข้อเขียวไว้ว่า “ลับสุดยอด” เขากดเข้าไปอ่านก็พบกับเรื่องแปลกๆที่น่าจะเกินความจริงอยู่หลายเรื่อง ทั้งเรื่องตำนานแวมไพร์ผีดูดเลือด เวทย์มนต์ พลังพิเศษ…และเขาก็ได้ไปสะดุดตากับชื่อ ชื่อหนึ่งเข้า “ATE” เจคกลืนน้ำลายและกดเข้าไปดูในลิ้งค์นั้น
เว็บไซต์อธิบายว่า “ATE คือหน่วยลับพิเศษของรัฐบาล พวกเขาทำงานเกี่ยวกับการสืบหาผู้ที่อยู่เหนือธรรมชาติ พวกเขาจะจับตัวพวกนี้ไปทำการทดลองบางอย่าง เพื่อค้นหาเหตุผลว่าทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้ ปัจจุบันหน่วย ATE สามารถจับกุมผู้มีพลังพิเศษได้จำนวน 3 คน และกำลังทำการทดลองบางอย่างที่ถูกปิดเป็นความลับ ปล.ถ้ามีข้อมูลเพิ่มเติมจะรีบอัพลงเว็บไซต์นี้ทันที”
เจครู้สึกงงกับเรื่องที่เขาอ่านอยู่ เขาหัวเราะออกมาและคิดในใจว่า
“ไร้สาระน่า ผู้มีพลังพิเศษ หรอ? ถ้ามีจริงๆคงรู้กันหมดทั้งโลกแล้วมั้ง….”
ลอชกำลังคิดถึงเรื่องที่ลอยด์พูดกับเขาเมื่อซักครู่ที่บอกว่า
“ถ้าอยากรู้อะไรเพิ่มก็มาเจอกันที่ร้าน”
ลอชสงสัยว่ามันจะเป็นกับดักหรือป่าว เพราะการที่คนนอกเห็นความลับของพวกที่ทำงานแบบนี้แล้วจะปล่อยไปเฉยๆนั้นมันเป็นไปไม่ได้ แต่ว่าถ้าพวกนั้นคิดว่าปล่อยไปไม่ได้จริงๆคงจะฆ่าเขาไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ลอชเดินคิดเรื่องนี้อยู่ตลอดทาง
“ลอช นายเป็นอะไรอีกแล้ววะ?” เจคเรียกลอชอยู่บ่อยครั้งแต่ดูเหมือนลอชจะไม่ได้ยินเลย
เจคตบไปที่บ่าของลอชหนึ่งทีเพื่อเรียกสติลอชกลับมา ลอชตกใจสะดุ้งเล็กน้อยและถามเจคกลับไปว่า
“มีอะไรหรอ?”
[ก็เรียกตั้งนานแล้วก็เอาแต่เดินก้มหน้าคิดอะไรไม่รู้ สรุปนายมีปัญหาอะไรไหนบอกมาสิ?]
“ไม่มีอะไรหรอก….”
[จะไม่มีอะไรได้ไงวะ ตอนแรกก็ดีๆอยู่เลยนี่เงียบอีกละ?]
ลอชรู้ดีว่าถ้าบอกเรื่องที่เกิดขึ้นกับเจคไปเจคจะต้องไม่อยู่เฉยๆแน่นอน เขาจึงพยายามเปลี่ยนหัวข้อสนทนาและทำตัวอย่างเป็นปกติที่สุด แต่ถึงยังงั้นเจคก็ดูออก
เจคคิดว่าลอชคงมีปัญหาใหญ่มากๆจนบอกใครไม่ได้เลยคิดว่าจะไปสืบหาด้วยตัวเองจะดีกว่า
ทั้งคู่เดินเล่นกันจนถึงเย็น ทั้งสองจึงแยกย้ายกันกลับบ้าน
ลอชไม่รู้ว่าตัวเองคิดยังไงแต่ตัดสินใจเดินกลับหอพักทางตรอกที่เกิดเรื่องเมื่อคืนอีกครั้ง บรรยากาศยังคงชวนขนลุกเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน แต่ครั้งนี้ไม่มีใครตามเขามา ลอชเดินจนถึงทางออกของตรอกแต่ก็ไม่พบกับใครซักคน เขาจึงรีบเดินกลับขึ้นมาบนห้อง
ลอชเปิดประตูเข้ามาภายในห้องก็พบว่าข้าวของของเขาถูกรื้อออกมาทั้งหมด มีใครบางคนเข้ามาในห้องของเขาเพื่อค้นหาอะไรบางอย่าง ลอชพยายามตรวจดูว่ามีอะไรหายไปบ้างแต่ทุกอย่างอยู่ครบหมด แม้แต่เงินสำรองที่เขาเก็บไว้ที่หัวเตียงก็ถูกรื้อออกมาแต่กลับไม่ได้ถูกขโมยไปเลยซักบาทเดียว
เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งก็นึกถึงเรื่องสร้อยคอของเขาขึ้นมาได้ ลอชสงสัยว่าคนที่เข้ามาในห้องของเขาจะต้องการสร้อยคอนั่นอย่างแน่นอน ลอชนั่งลงที่ข้างเตียงและนึกถึงเรื่องสร้อยเส้นนั้น เขาพยายามประติดประต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืน แต่จู่ๆไฟในห้องก็ดับลง ทุกอย่างเงียบสงบ ลอชพยายามค้นหาไฟฉายที่อยู่ในลิ้นชักข้างๆหัวเตียง
แต่จู่ๆก็มีใครบางคนยืนอยู่ตรงระเบียงห้องของเขาเป็นผู้หญิงที่ใส่ผ้าคลุมสีแดง และกำลังจ้องมาที่ลอช
“เธอเป็นใคร…..ต้องการอะไร?”ลอชถามออกไปอย่างกล้าๆกลัวๆ
[สร้อยนั่นอยู่ที่ไหน?]ผู้หญิงปริศนาถามกลับไปด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น
“ผมทำหายไปแล้ว….”
[ถ้าโกหกไม่จบแค่เจ็บตัวนะ?]
ลอชรู้ทันทีว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้พูดเล่นอย่างแน่นอนเพราะจากเหตุการณ์เมื่อคืนที่การฆ่ากันเป็นเรื่องปกติของพวกนี้แล้ว คงไม่มีอะไรที่คนพวกนี้จะไม่กล้าทำอีกแล้วล่ะ
หญิงปริศนาเดินตรงเข้ามาหาลอช ลอชหยิบเครื่องช็อตไฟฟ้าช็อตไปที่ท้องของหญิงคนนั้น
แต่ว่า
ดูเหมือนเธอจะไม่รู้สึกอะไรกับเครื่องช็อตไฟฟ้าเลย เธอหัวเราะออกมาเบาๆและกระซิบข้างหู ลอชว่า
“ของแค่นี้ทำอะไรชั้นไม่ได้หรอก…ลืมไปชั้นชื่อว่าวิกิ ยินดีที่ได้รู้จักนะ”
ลอชผลักวิกิออกและรีบวิ่งไปที่ประตู ลอชวิ่งหนีลงมายังชั้นล่างของหอพักและวิ่งไปซ่อนตัวอยู่ที่หลังเสา
ลอชมองไปรอบๆก็รู้สึกแปลกใจเพราะไม่มีแม้แต่เงาคนอยู่แถวนี้เลย อย่างกับว่าตอนนี้มีแค่เขากับวิกิอยู่ที่นี่สองคนเท่านั้น
วิกิเดินลงมาตามทางบันไดและพูดกับลอชว่า
“ก็แค่ส่งสร้อยฝังเพชรนั่นมาก็จบแล้วแท้ๆ จะเอาชีวิตมาทิ้งเพื่ออะไร?”
[ผมทำหายไปแล้วจริงๆ....ช่วยเชื่อผมทีเถอะ] ลอชพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่น
จู่ๆวิกิก็โผล่มายืนอยู่ข้างๆเสาที่ลอชกำลังซ่อนตัวราวกับหายตัวมายังไงอย่างงั้น ลอชพยายามจะวิ่งหนีแต่วิกิจับแขนของลอชไว้ได้ เธอดึงลอชเข้ามาและล็อกคอเอาไว้ไม่ให้หนีไปไหน
วิกิเอามือซ้ายแตะไปที่หน้าผากของลอชและพูดว่า
“งั้นขอดูหน่อยนะ”
ลอชรู้สึกเหมือนโดนไฟช็อตเบาๆที่หัวของเขา ลอชรู้สึกเหมือนขาดสติไปช่วงหนึ่ง
“อย่างงี้นี่เองเจอยัยเฟรีนเล่นงานมาสินะ” วิกิพึมพำออกมา และยังคงทำบางอย่างกับลอชอยู่
“โอเคเข้าใจละ เพชรหายไปแล้วจริงๆสินะ…” วิกิพูดจบก็ผลักลอชออก เธอยืนมองลอชอยู่ครู่หนึ่งก็หันหลังกลับไปและพูดออกมาว่า
“พลังของนายน่ะ…ถ้าหากได้รับการพัฒนาอย่างถูกต้องคงเป็นพลังที่น่ากลัวอย่างหนึ่งเลยละนะ”เธอพูดจบอยู่ดีๆก็หายไปจากตรงนั้นเฉยๆ
ลอชเริ่มได้สติขึ้นมาก็มึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ดูเหมือนลอชจะลืมเรื่องเมื่อซักครู่ไปเกือบทั้งหมดเลย
เขาจำได้แค่ว่าวิกิยืนอยู่ข้างหน้าต่าง และเครื่องช็อตไฟฟ้าใช้ไม่ได้ผลกับเธอเท่านั้น
ลอชเดินกลับไปที่ห้องก็พบว่าข้าวของทุกอย่างถูกจัดเก็บเป็นระเบียบเหมือนเดิมทุกอย่าง
----
ในค่ำคืนที่เงียบสงบ มีรถขนของคันหนึ่งกำลังวิ่งอยู่บนถนนสายหลักที่ตรงเข้ามาสู่เมืองฟิวเจอร์เนียร์ รถคันนี้มีสีดำ เป็นรถตู้ที่มีขนาดเหมือนกับรถตู้ทั่วๆไป ภายในรถมีผู้ชายสามคนนั่งอยู่ภายใน และที่เบาะหลังมีกระเป๋าบรรจุของอยู่สองใบ
“ใกล้จะถึงรึยัง?” ชายคนที่นั่งข้างคนขับถามขึ้นมา
[ใกล้แล้วละ] คนขับตอบกลับไป
“ในกระเป๋านี่มันมีอะไรวะ…ดูผู้ว่าจ้างจะต้องการมันมากๆเลยนะ”
[สงสัยเรื่องของพวกนั้นเดี๋ยวก็โดนเก็บหรอก]
รถแล่นมากได้ซักพัก
“ฉับ!”
จู่ๆก็รู้สึกเหมือนมีอะไรผ่านกึ่งกลางของรถไปเป็นเส้นตรง ทุกคนในรถเงียบกริบ ทุกคนต่างมองหน้ากันด้วยความตกใจ
รถตู้คันนี้เริ่มแยกออกเป็นสองส่วน ชายในรถทั้งหมดเริ่มโหวกเหวกโวยวาย เบื้องหน้าของพวกเขาปรากฏเป็นหญิงสาวภายใต้ผ้าคลุมสีแดงที่กำลังยืนอยู่กลางถนน
รถทั้งสองส่วนแยกออกไปตกอยู่ที่ข้างทาง กระเป๋าสัมภาระทั้งสองใบกระเด็นออกมาจากรถ
ชายทั้งหมดที่อยู่ในรถรีบกระโดดหนีออกมาจากรถก่อนที่รถจะเกิดระเบิดขึ้น
ตู้ม! รถตู้เกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงแต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
“ถ้าอยากรอดชีวิตก็ทิ้งกระเป๋านั่นไว้ซะ!” วิกิตะโกนบอกกับชายทั้งสาม
ชายทั้งสามวิ่งหนีออกไปข้างทางอย่างไม่คิดชีวิต
วิกิเดินหยิบกระเป๋าทั้งสองใบขึ้นมาและเทสิ่งที่อยู่ข้างในออกมา
ภายในกระเป๋าทั้งสองใบมีเพชรพลอยจำนวนมากบรรจุอยู่ภายใน วิกิยื่นมือทั้งสองข้างออกไปและใช้พลังพิเศษกับเพชรพวกนั้น รอบๆเพชรพลอยเกิดเป็นคลื่นบางอย่างขึ้น เพชรพลอยทั้งหมดถูกแรงดึงดูดกดทับจนแตกสลายหายไปหมด
“ไม่มีสินะ…..”วิกิพึมพำออกมาและเหลือบไปเห็นกล้องวงจรปิดที่เสาไฟฟ้าข้างทาง เธอถอนหายใจหนึ่งครั้ง และใช้พลังไฟฟ้าปิดการทำงานของกล้องวงจรปิด
[รถคันฝั่งนู้นก็ดูเหมือนจะไม่มีเหมือนกัน] ครูซปรากฏตัวขึ้นมาทางด้านหลังของวิกิ ครูซใส่ชุดคลุมขนสัตว์ที่ดูคล้ายกับหมาป่า มีผมสีดำ ดูน่าเกรงขาม
[ดูเหมือน “แอนติคอร์”ของจริงตอนนี้ในเมืองจะมีอยู่แค่ชิ้นเดียวนั่นแหละ]
“อย่างงั้นสินะ…..”วิกิคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอเงยหน้ามองไปที่ดวงจันทร์ด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์
[จะเอายังไงละเจ๊….]
“พรุ่งนี้ไปที่ D-café สงสัยต้องไปคุยกับยัยจานี่ซักหน่อยแล้วละ”
[จะแค่คุยแน่เหรออออ?] ครูสหัวเราะออกมาเล็กน้อย
------
อีกด้านหนึ่งของเมืองในตรอกๆหนึ่งมีผู้ชายคนหนึ่งที่ดูดีมีฐานะกำลังวิ่งหนีอะไรบ้างอย่างอยู่ ที่คอของเขามีสร้อยเพชรสวมอยู่
“อั้ก…”
ชายคนนั้นถูกถังขยะข้างทางพุ่งชนจนล้มลงไปกองกับพื้น เลือดที่หัวไหลออกมาเล็กน้อย เขาเอามือไปจับที่เลือดและกรีดร้องออกมา
“ขอสร้อยนั่นหน่อยได้รึป่าวละ” พวกเฟรีนเดินออกมาจากความมืดและพูดกับชายคนนั้น
[ได้ๆเอาไปเลย ปล่อยชั้นไปเถอะนะ!] ชายคนนั้นโยนสร้อยคอให้กับเฟรีนและอ้อนวอนขอชีวิตด้วยสีหน้าที่กลัวแบบสุดขีด น้ำตาไหลพราก และเหงื่อท่วมตัว
เฟรีนหยิบสร้อยคอขึ้นมาและเอาไปส่องกับดวงจันทร์แต่ไม่พบอะไร
“ชิ….ไม่ใช่งั้นหรอ” เฟรีนใช้พลังพิเศษทำลายสร้อยคอเส้นนั้นทิ้ง และเดินหายไปในความมืด..
---------
ในตอนเช้าลอชเปิดรายการข่าวช่วงเช้าดู ข่าวกำลังรายงานถึงเรื่องรถขนของที่กำลังขนของไปส่งที่พิพิธภัณฑ์เกิดระเบิดขึ้นและของภายในรถถูกขโมยไป และอีกหลายๆข่าวที่เกี่ยวกับอัญมณี เขานั่งดูไปพลางคิดเรื่องล็อคเก็ตเส้นนั้นของเขาไป เขาเริ่มจะประติดประต่อเรื่องราวได้บ้างแล้ว เขาคิดว่ามีหลายฝ่ายต้องการอัญมณีแบบเดียวกับที่เขาเคยมีอยู่ เขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
ลอชวางแผนที่จะไปคาเฟ่ในวันนี้ เพื่อจะถามเรื่องราวทั้งหมดกับพวกจานี่ แต่เขาก็ยังคงหวั่นๆอยู่เหมือนกัน เพราะเขายังคงติดภาพการฆ่ากันของผู้มีพลังพิเศษคืนนั้นอยู่
ลอชนั่งดูรายการอยู่นานพอสมควรก็ตัดสินใจไปที่คาเฟ่เพื่อถามเรื่องราวทั้งหมดกับพวกจานี่
เขาเดินมาถึงหน้าร้านแล้ว ลูกค้าภายในร้านยังคงเยอะไม่แพ้วันอื่นๆ ลอชยืนทำใจอยู่นานพอสมควรก็ตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปภายในร้าน
จานี่รู้สึกตกใจเล็กน้อยที่เห็นหน้าลอชเพราะเขาไม่คิดว่าลอชจะกล้ากลับมาที่นี่อีก จานี่เรียกให้ลอชไปคุยกันที่หลังร้าน
ลอชนั่งลงที่โซฟา ตอนนี้ข้างหน้าของเขาคือจานี่หัวหน้าองค์กรด้านมืดของเมือง สมองของลอชในตอนนี้มันตื้อไปหมดคิดอะไรไม่ออก ความจริงแล้วก่อนหน้านี้ลอชเตรียมคำถามเพื่อจะรัวใส่พวก CODE-D ไว้พอเจอกัน แต่พอมาถึงตอนนี้เขากลับพูดอะไรไม่ออกเลย
จานี่ถอนหายใจหนึ่งครั้งและบอกว่า
“มาเข้าร่วมองค์กรกับพวกชั้นเถอะนะ!” จานี่ยืนขึ้นและตีทุบโต๊ะเสียงดัง
ลอชรู้สึกอึ้งกับสิ่งที่จานี่พูดออกมา
แต่จู่ๆก็มีใครบางคนเปิดประตูเข้ามาทำให้ทุกคนที่อยู่ในห้องสะดุ้งกันเล็กน้อย
“ฮ้ายยยย♪ จานี่เพื่อนเลิฟไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”วิกิและครูซเปิดประตูเข้ามาอย่างกะทันหัน
ทุกคนในห้องมองวิกิกันเป็นตาเดียว วิกิรู้สึกหน้าแตกนิดหน่อยที่ทั้งห้องกำลังเงียบสงบกันหมด
ลอชหันไปเห็นวิกิก็ตกใจเป็นอย่างมาก วิกิเห็นดังนั้นก็ตกใจไม่แพ้กัน
“เอ๋!!!!!!!” วิกิและลอชร้องออกมาเสียงดังพร้อมๆกัน
วิกิและลอชปรับความเข้าใจกันเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ดูเหมือนว่าลอชจะเริ่มยอมรับพวก CODE-D ได้แล้ว ในใจลอชคิดว่า พวก CODE-D ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรแบบที่เราคิดนี่หว่า พวกนี้ก็แค่เด็กมัธยมธรรมดาๆกลุ่มหนึ่งเท่านั้น
พวกจานี่และพวกวิกิเป็นเพื่อนสนิทกันมานานแล้ว พวกเขามักแลกเปลี่ยนข้อมูลกันอยู่เสมอ
ทุกๆคนปรับความเข้าใจกับลอชใหม่ทั้งหมด เกี่ยวกับเรื่องอันตรายที่ลอชจะต้องเจอหลังจากนี้ และอธิบายเกี่ยวกับเรื่องพลังพิเศษที่ลอชมี ลอชเล่าเรื่องสมัยเด็กเกี่ยวกับเรื่องแปลกๆที่เขามักเจอก่อนมาที่เมืองนี้ให้พวกจานี่ฟัง จานี่ได้ยินดังนั้นก็เริ่มเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมา
จานี่บอกกับลอชว่า
“อัญมณีในล็อคเก็ตนั่นของนายมันคือ แอนติคอร์ เป็นอัญมณีชนิดพิเศษที่มีคุณสมบัติยับยั้งพลังของผู้มีพลังพิเศษทุกรูปแบบได้ นั่นเลยทำให้นายใช้พลังพิเศษไม่ได้ไงละ ตอนนี้มีหลายฝ่ายกำลังต้องการอัญมณีนั่นมาวิเคราะห์ส่วนประกอบเพื่อทำบางอย่าง ส่วนพวกเราต้องการมันมาวิเคราะห์เพื่อหาทางป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต”
ลอชเข้าใจทุกอย่างที่จานี่พูดกับเขา ในใจของลอชเริ่มผ่อนคลาย จากตอนแรกที่กดดันเป็นอย่างมาก
“สรุปแล้ว นายจะมาอยู่กับพวกเราใช่มั้ย?”จานี่ถามกลับไปที่ลอชอีกครั้ง
ลอชคิดอยู่ครู่หนึ่ง ถ้าที่จานี่พูดมาทั้งหมดเป็นความจริง หมายความตอนนี้สิ่งที่เขาควรทำคือการเข้าร่วมกับพวก CODE-D น่าจะดีกับตัวของเขามากที่สุด แต่เขาก็ยังกังวลเกี่ยวกับเรื่องงานที่พวกจานี่ทำเพราะมันไม่ใช่งานธรรมดา มันเป็นงานด้านมืดที่ผิดกฎหมาย
จานี่บอกกับลอชว่า
“ถ้านายได้มาเห็นความจริงของโลกนี้ทุกอย่างเดี๋ยวนายก็จะเข้าใจทุกอย่างเอง”
ลอชยังคงเป็นกังวลอยู่เล็กน้อย เพราะเขาไม่เคยต่อสู้หรือใช้ปืนมาก่อน จานี่ได้ยินดังนั้นก็หัวเราะออกมา
“นี่นายคิดว่าพวกเราฆ่าคนกันเป็นงานอดิเรกรึไง 55555+ พวกเราก็มีงานปกติที่ไม่ใช่งานแบบนั้นเหมือนกัน ส่วนเรื่องการต่อสู้เดี๋ยวลอยด์จะเป็นคนสอนเอง”
ลอยด์กำลังทำกาแฟตามออเดอร์ที่ลูกค้าสั่งอยู่หน้าร้านจึงไม่ได้เข้าร่วมวงสนทนาด้วย เขาจามออกมาหนึ่งครั้งและคิดในใจว่า “ใครมันนินทาตูวะ”
ลอชเริ่มรู้สึกอุ่นใจและตกลงกับข้อเสนอที่จานี่มอบให้
“เห้ยพวกแก จะคุยกันไปทั้งวันเลยมั้ย….ลูกค้าเต็มร้านแล้วโว้ยย”ลอยด์ตะโกนมาจากหน้าร้าน ทุกคนในห้องรีบลุกขึ้นและไปช่วยลอยด์ทำงานกันหมด เหลือเพียงวิกิ ครูซ และลอชนั่งอยู่ในห้องเท่านั้น
วิกิมองไปที่ลอชและหัวเราะออกมาและพูดว่า
“นายเนี้ยโชคดีจริงๆนะ”
[ยังไงหรอ?]
“ก็ถ้าคืนนั้นพวกที่นายเจอไม่ใช่พวกจานี่ นายคงไม่ได้มานั่งอยู่ตรงนี้หรอก”
ลอชก้มหน้าลง
“ยัยนั่นน่ะแข่งแกร่งอย่าไปดูถูกเชียวละ….เอาละทุกคนไปดื่มกาแฟกันดีกว่า♪……..”
----------
เจคกำลังนั่งเล่นเน็ตอยู่ในห้องส่วนตัว เขาเลื่อนหาข้อมูลไปเรื่อยๆก็ไปสะดุดกับเว็บไซต์เว็บหนึ่งเข้า ในเว็บนั้นมีหัวข้อเขียวไว้ว่า “ลับสุดยอด” เขากดเข้าไปอ่านก็พบกับเรื่องแปลกๆที่น่าจะเกินความจริงอยู่หลายเรื่อง ทั้งเรื่องตำนานแวมไพร์ผีดูดเลือด เวทย์มนต์ พลังพิเศษ…และเขาก็ได้ไปสะดุดตากับชื่อ ชื่อหนึ่งเข้า “ATE” เจคกลืนน้ำลายและกดเข้าไปดูในลิ้งค์นั้น
เว็บไซต์อธิบายว่า “ATE คือหน่วยลับพิเศษของรัฐบาล พวกเขาทำงานเกี่ยวกับการสืบหาผู้ที่อยู่เหนือธรรมชาติ พวกเขาจะจับตัวพวกนี้ไปทำการทดลองบางอย่าง เพื่อค้นหาเหตุผลว่าทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้ ปัจจุบันหน่วย ATE สามารถจับกุมผู้มีพลังพิเศษได้จำนวน 3 คน และกำลังทำการทดลองบางอย่างที่ถูกปิดเป็นความลับ ปล.ถ้ามีข้อมูลเพิ่มเติมจะรีบอัพลงเว็บไซต์นี้ทันที”
เจครู้สึกงงกับเรื่องที่เขาอ่านอยู่ เขาหัวเราะออกมาและคิดในใจว่า
“ไร้สาระน่า ผู้มีพลังพิเศษ หรอ? ถ้ามีจริงๆคงรู้กันหมดทั้งโลกแล้วมั้ง….”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ