Knack imagine
9.3
เขียนโดย ลอร์
วันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2559 เวลา 17.46 น.
3 บท
3 วิจารณ์
5,384 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 2 เมษายน พ.ศ. 2559 18.19 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) ตอนที่ 1
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเช้านี้เป็นวันที่อากาศชื้นเป็นพิเศษ เพราะช่วงนี้เข้าสู่ช่วงฤดูฝนแล้ว และฝนที่ตกลงมาปรอยๆตลอดวันทำให้ในตอนเช้าเป็นอะไรที่ขี้เกียดตื่นแบบสุดๆ ลอชมองไปที่นาฬิกาข้างๆหัวเตียง ตอนนี้เป็นเวลา 8.30 เขาลุกขึ้นนั่งข้างๆเตียงหยิบหูฟังขึ้นมาเปิดเพลงฟังเพื่อให้รู้สึกสดชื่น
ลอชเป็นเด็กจากต่างเมืองที่เข้ามาเรียนต่อที่ฟิวเจอร์เนียร์ เมืองนี้เป็นเมืองขนาดใหญ่เทคโนโลยีค่อนข้างจะล้ำยุคกว่าเมืองอื่นๆ ซึ่งแน่นอนว่าหากเป็นเมืองใหญ่แล้ว ค่าครองชีพ ค่าใช้จ่ายจะต้องสูงตามแน่นอน
ฐานะทางครอบครัวของลอชอยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งการที่เข้ามาอยู่ในเมืองนี้ทำให้ค่าใช้จ่ายในอนาคตคงจะไม่พอแน่ๆ ถึงจะพยายามประหยัดยังไง ก็ควรจะมีเงินสำรองไว้เผื่อเหตุการณ์ฉุกเฉินด้วย ลอชคิดในใจ
“ถ้าไอพลังประหลาดที่เรามีมันช่วยอะไรบ้างก็ดีสินะ”ลอชพูดกับตัวเอง และลุกขึ้นจากเตียงเพื่อเดินไปอาบน้ำเตรียมตัวเพื่อจะไปกินข้าวเช้า
จริงๆแล้วตั้งแต่เกิดมามักมีเหตุการณ์แปลกๆเกิดขึ้นกับเขาเสมอ เช่นกระดาษในห้องที่ไม่มีแม้แต่ลมพัดเข้ามาลอยหรือปริวได้เอง หน้าต่างที่ปิดล็อคแน่นหนาถูกลมจากที่ไหนซักแห่งพัดอย่างแรงทำให้หน้าต่างหลุดออกมา ทั้งๆที่ข้างนอกไม่มีลมเลย ในตอนแรกลอชคิดอยู่เสมอว่าตัวของเขาจะต้องมีอะไรพิเศษแน่นอน
แต่พักหลังมานี้เหตุการณ์ประหลาดทั้งหลายก็ไม่เกิดขึ้นอีกเลย เขาจึงได้แต่คิดว่ามันคงเป็นเรื่องบังเอิญละมั้ง
“มนุษย์เราจะมีอะไรแบบนั้นได้ยังไงนี่มันปี 2565 แล้วนะ….” ลอชพูดกับตัวเองขณะที่กำลังอาบน้ำ
ลอชลงมาด้านล่างของหอพักเพื่อไปกินข้าวเช้าที่ร้านอาหารครอบครัวที่อยู่ใกล้ๆ ร้านนี้ไม่ใหญ่โตมากนักเขาจึงคิดว่าราคาคงจะไม่แพงหรอก ลอชเข้าไปนั่งภายในร้านเขาเปิดเมนูขึ้นมาเพื่อเลือกสั่งอาหาร
“ข้าวผัดไก่ 70 บาท……เชี่ยไมแพงจังว่ะ”ลอชพึมพำกับตัวเอง แต่จะให้ลุกออกจากร้านไปตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วละ พนักงานทำท่าเหมือนกับมองดูถูกลอชว่ามีเงินมากินที่นี่จริงๆหรอ ไม่มีซักคนเลยที่มารับออเดอร์ของลอชที่โต๊ะ
ลอชมองไปที่พนักงานทั้งสี่คนที่กำลังยืนมองลอชอยู่จากเคาน์เตอร์
“สงสัยไม่มีเงินกินแน่ๆเลยว่ะ เป็นแค่เด็กมัธยม มาคนเดียวด้วย” พนักงานคนหนึ่งยืนกระซิบกับเพื่อนอีก 3 คน ลอชพอจะอ่านปากออกจึงเดินไปสั่งอาหารด้วยสีหน้ากวนบาทาแบบสุดๆ
“เอาข้าวผัดไก่ ไก่เยอะๆ ข้าวน้อยๆ น้ำเปล่าอีกแก้วนึง แล้วก็เอาเค้กช็อคโกแลตมาให้ด้วยชิ้นนึง โอเคนะครับ?” ลอชพูดจบก็เดินหันหลังกลับไปนั่งที่โต๊ะด้วยท่าทางป๋าแบบสุดๆ ทำให้พนักงานทั้ง 4 คนอึ้งอยู่ซักพักแล้วก็ไปทำอาหารตามออเดอร์ให้
ลอชหยิบกระเป๋าเงินขึ้นมานับจำนวนเงิน
“น่าจะพอละมั้งประหยัดอีกนิดละกัน เฮ้อออออ…” ลอชถอนหายใจและเหลือบไปเห็นป้ายรับสมัครพนักงานอยู่ข้างนอกร้าน
ความจริงเขาสนใจงาน part-time มานานแล้ว แต่ไม่รู้จะไปสมัครที่ไหนดี
เขาเคยลองโทรถามเพื่อนเก่าสมัยเด็กของเขาที่อยู่ที่เมืองนี้ว่าให้ช่วยหางานให้หน่อย นี่ก็อาทิตย์นึงแล้วเขาก็ยังไม่ติดต่อกลับมา ลอชนั่งกินอาหารที่พนักงานนำมาเสริฟไปพลางคิดเรื่องงานไปว่าจะเอายังไงดี
เมื่อทานอาหารเสร็จลอชเดินไปจ่ายเงินที่หน้าเคาน์เตอร์ พนักงานก็ยื่นใบเสร็จให้ 220 บาทแพงชิหาย….. ลอชได้แต่คิดในใจเงียบๆแต่ไม่แสดงสีหน้าออกมา เขารีบจ่ายเงินและเดินออกมาจากร้าน เขามองไปที่ป้ายรับสมัครพนักงานที่ติดอยู่ที่กำแพง มีใบรับสมัครติดอยู่เต็มไปหมด คงมีซักทีแหละที่ว่างและรับเราเข้าทำงาน ลอชคิดอยู่ครู่นึงและเดินไปตามร้านต่างๆที่มีการติดใบสมัครไว้
ลอชเดินหามานานพอสมควรแต่ไม่มีที่ไหนรับเลยเพราะเต็มหมดแล้ว เหลืออยู่เพียงร้านเดียวซึ่งเป็นร้านกาแฟเบเกอรี่ที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่นัก ลอชเป็นพวกที่ชอบทานเบเกอรี่อยู่แล้วจึงสนใจที่นี่เป็นพิเศษแต่ถึงอย่างงั้นก็ต้องเผื่อใจไว้อยู่ดีเพราะคิดว่าที่นี่ก็คงจะเต็มอีกเหมือนกัน
ลอชเดินมาถึงหน้าร้าน ร้านนี้เป็นร้านที่ไม่ใหญ่โตมากนัก เป็นห้องสองห้องที่ต่อกันใต้ตึกแห่งหนึ่ง เป็นร้านที่ตกแต่งคล้ายๆร้านกาแฟทั่วไป แต่ที่สะกิดตาอย่างมากก็คือจำนวนคนในร้านที่เยอะเป็นพิเศษ ในใจลอชคิดว่าร้านนี้คงจะเป็นร้านที่ป็อปปูล่าในหมู่วัยรุ่นละมั้ง
“ยินดีต้อนรับครับบบ”พนักงานในร้านพูดขึ้นมาทันทีที่ลอชเปิดประตูเข้าไป เขาเดินไปที่หน้าเคาน์เตอร์และสอบถามพนักงานเกี่ยวกับเรื่องที่รับสมัครพนักงาน part-time
“จานี่ จานี่ มีคนมาสมัครงานน่ะให้เข้าไปเลยมั้ย”
[อ่าเข้ามาเลย] เสียงผู้หญิงคนนึงดังขึ้นจากหลังร้าน
ลอชเปิดประตูเดินเข้าไปยังหลังร้านก็พบกับเด็กผู้หญิงผมยาวสีทอง ที่กำลังนั่งดูรายการโทรทัศน์อยู่ที่โซฟา
จานี่เดินไปบอกให้ลอชนั่งรอที่โซฟา ส่วนเขาเดินไปชงกาแฟมาให้ลอชลองชิมดู ลอชมองไปที่จานี่และคิดในใจว่า เด็กคนนี้เป็นเจ้าของร้านหรอ? เพราะดูยังไงก็เป็นแค่เด็กม.ต้นคนนึงเท่านั้น
จานี่ส่งกาแฟให้ลอชและถามเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวเล็กน้อย และส่งใบสมัครเพื่อให้ลอชกรอก ลอชกวาดตามองไปรอบๆใบสมัครก็ต้องตกใจกับค่าแรงที่จะได้รับ มันดูสูงเกินกว่าจะเป็นเงินเดือนของพนักงาน part-time
“คือผมจะมาทำแค่ part-time นะครับ” จานี่ทำหน้ามึนงงเล็กน้อยและบอกว่า
[อยากได้เงินน้อยๆรึไง?] ลอชไม่พูดอะไรและกรอกใบจะสมัครจนเสร็จ
“อ่าวนี่เรียนอยู่ที่ควอสหรอ?”จานี่ถามลอชไปพลางอ่านใบสมัครไปเรื่อยๆ ลอชพยักหน้าและหยิบกาแฟขึ้นมาชิมดู
“หอมจัง”ลอชพึมพำออกมา และถามเกี่ยวกับงานที่เขาจะต้องทำ จานี่มองไปที่ร็อคเก็ตที่ลอชใส่ ดูเหมือนจานี่จะสนใจร็อคเก็ตอันนั้นเป็นพิเศษ เธอมองอยู่ซักพักและเดินพาลอชไปแนะนำตัวกับคนอื่นๆ
ดูเหมือนว่าทุกๆคนจะเป็นนักเรียนมัธยมเหมือนกันหมดทุกคน คนแรกมีชื่อว่าแคลร์ เธอมีผมสั้นสีน้ำตาล ผิวขาวภายนอกดูอ่อนโยน คนที่สองชื่อว่าลอยด์ ลอชคิดในใจว่าลอยด์นี่ดูคบยากไปซักหน่อยเพราะดูจากภายนอกลอยด์ดูเป็นพวกมืดมนน่ากลัวๆอยู่นิดหน่อย จานี่แนะนำลอชให้ทั้งสองคนรู้จักและพาลอชไปสอนชงกาแฟ ทุกๆคนในร้านให้การต้อนรับลอชเป็นอย่างดี จึงทำให้ลอชรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาเล็กน้อย
ถึงเวลาเลิกงาน ลอช เดินกล่าวลาทุกคนในร้าน เพื่อที่จะกลับไปที่หอพัก เขานึกขึ้นได้ว่าลืมซื้อของใช้ประจำเดือนเช่น สบู่ ยาสีฟัน เขาจึงตรงไปที่ร้านสะดวกซื้อที่อยู่ใกล้ๆ
“ลอชก็ดูขยันไม่เลวนะ ชั้นว่า” จานี่พูดกับเพื่อนอีกสองคนที่กำลังช่วยกันบดเมล็ดกาแฟอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์
[ถ้าเจ้านั่นไม่เจอแบบคนที่แล้วละนะ] ลอยด์พูดขึ้นมาด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์ แคลร์ท่าทางเป็นห่วงลอชเล็กน้อย เขาหันไปมองที่จานี่และพูดเกี่ยวกับงานบางอย่างที่ได้รับมอบหมายมา
“มีงานใหม่เข้ามาคืนนี้น่ะ เชอร์รี่โทรมาบอกชั้นไว้แล้วละ” จานี่เดินหันหลังเข้าไปที่หลังร้าน “เตรียมพร้อมแล้วละ……..”
ลอชกำลังเลือกซื้อของใช้อยู่ในร้านสะดวกซื้อ เข้ามองไปที่ชั้นวางร่มและคิดว่าจะซื้อร่มดีรึป่าว เพราะช่วงนี้เริ่มเข้าฤดูฝนควรจะมีร่มติดมือมาด้วยเวลาออกจากบ้าน เขามองไปนอกร้านก็เห็นว่าข้างนอกฝนเริ่มตกหนักขึ้นเรื่อยๆ เค้าจึงตัดสินใจหยิบร่มมานึงคัน จ่ายเงินและเดินออกไปจากร้าน ลอชยืนรอฝนหยุดพักใหญ่ แต่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตกเลย เขามองไปที่นาฬิกาข้อมือ ตอนนี้ 20.00 แล้ว ลอชยืนรออีกซักพักและเปิด GPS ขึ้นมาเพื่อที่จะให้พาเดินกลับหอ
“ไอน้องเนรคุณเล่นตูอีกแล้ว”ลอชหัวเราะแหะๆออกมาด้วยความเซง (เนรคุณมาจากคำว่า navigater) GPS มักจะพามาทางลัดที่คนปรกติไม่ค่อยจะผ่านมาเท่าไรนัก ทางที่ลอชยืนอยู่นั้นเป็นตรอกมืดๆที่ดูวังเวงไม่น่าไว้ใจ ถึงจะหันหลังกลับไปตอนนี้มันก็ไม่ทันแล้วเพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน จึงจำใจเดินตาม GPS อย่างไม่เต็มใจนัก เขาหยิบหูฟังขึ้นมาเปิดเพลงเพื่อคลายความกังวล
“ฮืมมมมมมมม….” เสียงเมโลดี้ของเพลงดังขึ้นในความเงียบ เป็นดนตรีที่หลอนใช้ได้เลยในสถานการณ์แบบนี้ “เพลงเชี่ยไรมาตอนนี้วะ”ลอชดึงหูฟังออกอย่างรวดเร็วและรีบเดินต่อไป เขาเดินมาถึงทางแยกที่มีสองทางให้เดินไป เขาคิดอยู่ครู่นึงและตัดสินใจเดินไปทางซ้ายโดยนึกแค่ว่า ขวาร้ายซ้ายดี ลอชเดินมานานพอสมควร
เขารู้สึกได้ว่ามีใครบางคนกำลังเดินตามหลังเขามาอยู่ เขาไม่มีความกล้าพอที่จะหันหลังกลับไปมอง ได้แต่เพิ่มสปีดความเร็วในการเดินขึ้นเท่านั้น เขาเดินไวขึ้นเรื่อยๆจนเกือบจะวิ่งแล้วแต่เสียงฝีเท้าด้านหลังยังคงดังขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ในหัวของลอชมีแต่ความกลัว เขาหยิบไม้กางเขนขึ้นมากำไว้ที่หน้าอกและคิดในใจ “ผีร้ายจนออกไปๆๆๆ” พูดซ้ำๆแบบนี้ไปเรื่อยๆ
"อั๊ก!"
ลอชล้มลงนอนกองที่พื้น ดูเหมือนมีบางอย่างตกลงมาจากดานฟ้าของตึก
“เงียบๆ” เสียงผู้หญิงฟังดูคุ้นเคยดังขึ้นข้างๆหูของลอช
เธอจับมือลอชและพาวิ่งไปอย่างรวดเร็ว ลอชที่กำลังตกใจก็วิ่งอย่างไม่คิดชีวิต เขามองไปที่ผู้หญิงคนนั้นก็ทำให้รู้ทันทีว่าคือจานี่นั่นเอง
จานี่พาลอชมาหลบอยู่ตรงมุมลับสายตาเอามือปิดปากลอชไว้เพื่อไม่ให้เขาส่งเสียงดังออกมา จานี่มองออกไปจากจุดลับสายตา เห็นผู้ชายสองคนที่ถืออาวุธปืนไรเฟิล ที่กำลังยืนมองหาทั้งสองคนอยู่
"สองคนนั้นยังไม่ไป ขอให้อยู่อย่างสงบด้วย” แคลร์พูดกับจานี่ผ่านวิทยุสื่อสาร
จานี่พยักหน้าและหันกลับไปหาลอชที่กำลังอยู่ในสภาพกลัวสุดขีด
“ถ้าอยากรอดก็ทำตามที่ชั้นพูดซะ” ลอชได้ยินดังนั้นก็หยักหน้า ดูเหมือนเขายังสามารถคุมสติได้อยู่
ผู้ชายสองคนนั้นยังคงยืนอยู่ที่เดิมและหันมองซ้ายมองขวาอยู่ตลอดเวลา
จานี่หยิบอะไรบางอย่างออกจากกระเป๋าและโยนไปที่ผู้ชายทั้งสองคน บึ้ม! ระเบิดควันทำให้ควันลอยท่วมตรอกไปหมด จานี่กำมือของลอชไว้แน่น และรีบอาศัยช่วงชุลมุลพาลอชวิ่งหนีออกมา
ดูเหมือนระเบิดควันจะไม่ทำให้ผู้ชายสองคนนั้นตกใจแตกอย่างใด เขาเล็งปืนไปที่จานี่และลอชที่กำลังวิ่งอยู่ในควันและยิงออกไปอย่างไม่ลังเล กระสุนเฉี่ยวไหล่ขวาของลอชไปนิดเดียวไป ทำให้ลอชตกใจตัวสั่นเป็นอย่างมาก ตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยโดนไล่ยิงแบบนี้มาก่อน เสียงลั่นไกลของปืนจริงๆเขายังไม่เคยได้ยินเลยด้วยซ้ำ ลอชเริ่มเหงื่อแตกแต่ก็ยังวิ่งแบบไม่คิดชีวิต
ผู้ชายคนที่สามปรากฏตัวขึ้นด้านหน้าของเด็กทั้งสองคน ทั้งสองหยุดวิ่งอย่างเลี่ยงไม่ได้ ตอนนี้ทั้งหน้าและหลังถูกปืนสามกระบอกกำลังจ่อเล็งมาอยู่ ถ้าคิดจะต่อสู้ลอชคงโดนยิงเป็นรังผึ้งแน่ๆ จานี่ยืนคิดอยู่ครู่นึง
เขาหลับตาลงซักพักและลืมตาขึ้นดวงตาของจานี่เลืองแสงนิดหน่อย อยู่ๆก็เกิดคลื่นเสียงความถี่แปลกๆขึ้นโดยรอบ ผู้ชายคนที่อยู่ด้านหน้าของทั้งสองคนล้มสลบไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ ผู้ชายทั้งสองคนระดมยิงกระสุนใส่เด็กทั้งสองแต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล มีบาเรียไฟฟ้าบางอย่างแผ่อยู่รอบๆตัวเด็กทั้งสอง
ลอชที่ไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อ นอกจากโดนไล่ฆ่าแล้วยังมาเจออะไรแปลกๆแบบนี้อีก แต่เขาไม่ได้สนใจสิ่งที่จานี่ทำเลยแม้แต่น้อย เขาทำได้เพียงยืนก้มหน้ารอรับชะตากรรมของตัวเองเท่านั้น
จานี่พุ่งเข้าหาชายทั้งสองเธอจับคอเสื้อของชายคนแรกและตีเข่าอย่างแรงเข้าไปที่ท้องของชายคนนั้นพร้อมแย่งปืนมาจากมือของเขาและโยนชายคนนั้นออกไปข้างทาง จานี่เล็งปืนไปที่ชายอีกคน ในบรรยากาศที่เคร่งเครียด ชายคนที่สามที่กำลังสลบอยู่ จู่ๆก็ฟื้นขึ้นมาจับลอชล็อคคอไว้แล้วเล็งปืนไว้ที่ท้ายทอยของลอช
จานี่ไม่มีทางเลือกจึงจำใจทิ้งปืนลงที่พื้นและยกสองข้างขึ้นเหนือหัวตามที่ชายคนที่สามสั่ง
ชายคนที่สามเอามือไปจับที่สร้อยร็อคเก็ตที่คอของลอช ดูเหมือนที่จ้องเล่นงานลอชคงจะเป็นเพราะสร้อยนี่แหละ เขาเอามือดึงสร้อยร็อคเก็ตออกมาจากคอของลอช เขายกร็อคเก็ตขึ้นไปส่องกับแสงของดวงจันทร์ ถึงฝนจะตกหนักแต่เมฆฝนไม่ได้บังดวงจันทร์เลยแม้แต่น้อย ภายในสร้อยคอปรากฏอักขระแปลกๆที่เขียนด้วยอักษรแปลกๆที่ไม่สามารถอ่านให้เข้าใจได้
จานี่อาศัยจังหวะนี้ปล่อยระเบิดแสงออกจากแขนเสื้อ และอาศัยช่วงนี้เข้าไปเอาตัวลอชออกมา เธอสั่งให้ลอชรีบวิ่งหนีไปให้เร็วที่สุด ลอชที่ไม่รู้จะทำยังไงได้แต่เพียงวิ่งหนีตามที่จานี่สั่งเท่านั้น จานี่พยายามที่แย่งสร้อยร็อคเก็ตนั่นมาด้วยกำลังของเขา ดูเหมือนผู้ชายทั้งหมดจะสู้จานี่ไม่ได้เลย
“พลังงานเหลืออีก 25% ขอแค่ถ่วงเวลาให้เจ้านั่นหนีไปได้ก็พอแล้ว” จานี่พูดกับตัวเองและมองไปที่ชายทั้งสามคนที่ยืนอยู่ต่อหน้า
“ชั้นละไม่อยากจะสู้กับสัตว์ประหลาดอย่างพวกแกเลยจริงๆ” ชายคนคนแรกพูดขึ้นมาและเล็งปืนไปที่จานี่
จานี่โยนอุปกรณ์บางอย่างออกมาจากกระเป๋าสองอัน ทั้งสองอันนั้นปรากฏออกมาเป็นหุ่นยนต์ขนาดเล็กที่สามารถลอยได้มีหูแมวเหมือนกับที่ติดอยู่บนหัวของจานี่ เธอหยิบปืนสั้นสองกระบอกขึ้นมาจากกระเป๋า และเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้กับชายทั้งสามคน
ลอชที่กำลังวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตจู่ๆก็หยุดวิ่งแล้วคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ จานี่เป็นแค่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนนึงจะไปสู้กับทั้งสามคนนั้นได้ยัง ลอชกำลังคิดวางแผนว่าจะช่วยจานี่ยังไงดี เขาตัดสินใจหยิบท่อที่วางอยู่ข้างๆทางและหันหลังกลับวิ่งไปเพื่อช่วยจานี่ด้วยสภาพที่เหมือนคนบ้า
ชายทั้งสามไม่มีใครสู้จานี่ได้ จานี่จัดการสองคนได้แล้วเหลืออีกคนเดียว
“พลังงานเหลืออีก 10%” จานี่พึมพำออกมา จู่ๆลอชก็โผล่ออกมาจากด้านหลังฟาดท่อเหล็กใส่ที่ชายคนที่เหลือ ชายคนนั้นหลบได้และยิงปืนใส่ไปที่ลอชอย่างไม่ลังเล แต่กระสุนเบี่ยงไปทางอื่นไม่โดนตัวลอช
ลอชนั่งลงที่พื้นเนื้อตัวสั่นระริก เหงื่อแตกพรากเหมือนคนที่ไม่มีสติอยู่กับตัวอีกแล้ว
“ทำบ้าอะไรน่ะบอกให้หนีไปไง” จานี่ที่กำลังสนใจลอชอยู่นั้น ผู้ชายคนนั้นอาศัยช่วงนี้ยิงปืนไปที่ลอชอีกครั้ง กระสุนพุ่งเข้าไปที่หัวของลอชทันที
เจคกำลังนั่งช่วยพ่อทำงานเอกสาร เจคเป็นเพื่อนสมัยเด็กของลอชและเป็นคนแนะนำให้ลอชเข้ามาเรียนที่ควอส พ่อของเจคเป็นตำรวจระดับสูง สังกัดหน่วยพิเศษที่เรียกว่า ATE เป็นหน่วยที่เป็นความลับคนนอกไม่มีทางรู้ว่าหน่วยนี้ทำงานเกี่ยวกับอะไร
เจคนั่งเตรียมเอกสารไปพลางคิดถึงเรื่องที่ลอชขอให้หางาน part-time ให้ไป เขานึกขึ้นมาได้ว่าลอชขอร้องให้ช่วยหามาอาทิตย์นึงแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้ติดต่อกลับไปหาเพื่อนรักของเขาเลย เจคหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรไปหาลอชแต่ดูเหมือนจะไม่สามารถติดต่อลอชได้
เขารู้สึกสงสัยว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ ปกติแล้วลอชไม่เคยที่จะปิดโทรศัพท์หรือปล่อยให้แบตหมดเลย “มันเป็นอะไรรึป่าววะ?” เจคพึมพำออกมากับตัวเอง
“มีอะไรหรอลูก?” พ่อของเจคถามกลับไปที่เขาอย่างสงสัย เจคส่ายหน้าและก้มหน้าช่วยงานเอกสารของพ่อต่อไป
หลายครั้งที่เขาพยายามถามพ่อเกี่ยวกับงานที่พ่อของเขากำลังทำ แต่เขาก็ได้คำตอบอยู่แค่อย่างเดียวคือ “เป็นความลับ” เจคไม่ใช่พวกที่จะยอมอะไรง่ายๆ หลังจากที่ช่วยงานเสร็จ เขากลับไปที่ห้องเปิดเว็บไซต์เพื่อค้นหาเกี่ยวกับตำรวจหน่วย “ATE” ที่แปลกก็คือไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับหน่วยงานนี้อยู่เลยแม้แต่นิดเดียว
เขาเริ่มสงใสว่าพ่อเขาเป็นตำรวจจริงๆรึป่าว แต่ก็มีหลายครั้งที่เพื่อนร่วมงานของเขามาทานข้าวที่บ้าน ทุกคนดูเป็นคนน่าเชื่อถือ และใจดีกับเจคอย่างมาก ถึงจะสงสัยในงานของพ่อแต่เขาก็ทำได้เพียงแค่สงสัยต่อไปแค่นั้น…..
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ