memodream : ความฝันแห่งความทรงจำ
-
เขียนโดย edelweissness
วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2559 เวลา 22.12 น.
1 ตอน
1 วิจารณ์
3,390 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2559 22.25 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) บทนำ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความณ ห้วงอวกาศอันเวิ้งว้าง
เหล่าหมู่ดาวพร่างพราวตา สาดส่องแสงเข้าปีกผีเสื้อน้ำเงินเข้มดุจความดำมืดมิดของอวกาศ รวบรวมพลังดั่งสายน้ำไหล ระยิบระยับแวววาวราวสายน้ำต้องแสงจันทร์ยามค่ำคืน พาร่างบางล่อยลอย หลบเลี้ยวซ่อกแซ่กอุกกาบาตอันร้อนระอุจากพลังแห่งความมืดรัตติกาล
เฟี้ยวววว... ตูมมมม ตูม ตูม บึ้มมมมมมมมมมมมมมม
“ฟอลลิ่ง โคเมต เรฟโวลูชั่น ! (falling comet revolution)”
บึ้มมมมมมมมมมมมมมมม
“เจ้าทำอะไรข้าไม่ได้หรอก ฮ่า ๆ”
“ฮึ่ยย แข็งแกร่งอะไรอย่างนี้ งั้นต้องเจอแบบนี้ ดวงดาวเอ๋ย… สุกสกาวพร่างพราวตา… แสงแห่งความหวัง… ลาวาเดือดดาล… เผาไหม้บรรลัยกัลป์… เหือดแห้งเป็นจุล… อินเฟรมโม่ ชูตติ้ง สตาร์ ! (inflame shooting star)”
“แรงเหมือนกันนี่ แต่เจ้าก็ทำอะไรข้าไม่ได้อยู่ดี เพราะข้าคือเจ้า เจ้าคือข้า”
ดาวเคราะห์น้อยลูกไฟยักษ์เข้าพุ่งชนร่างบาง แต่กลับหมุนตัวหลบเลี่ยงได้อย่างหวุดหวิด หันหลังกลับทันควัน พลังน้ำแข็งรอบตัวเข้าหันปลายแหลมดั่งใบมีดสู่ร่างมืดแสยะยิ้ม ใบหน้ามืดมนมองต่ำราวเหยียดหยาม ท่อนน้ำแข็งปลายแหลมกลับกระเด็นในทันที
“หุบปาก ! แอบโซลูทไอซี่ โคเมต!(absolute icy comet)”
“เจ้าจะทำอะไร !” ข้าโดนเจ้าจับตัวได้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
ร่างบางถูกรัดด้วยเส้นผมดำขลับเงางามราวปีกแมลงทับ ขยับร่างกายไม่ได้ดั่งใจหมาย ร่างบางสบนัยน์ตาดำขลับ กัดฟันกรอดอย่างเจ็บแค้น สกัดกั้นพลังแห่งแสงสว่างชั่วนิจนิรันดร์ ความมืดคืบคลานเข้าหาคริสตัลเทอร์คอยส์กลางอก ร่างมืดแสยะยิ้มแฝงด้วยความชั่วร้าย กอดอกเหนือหัวร่างบางราวผู้ชนะ
“ข้าบอกแล้วว่าเจ้าทำอะไรข้าไม่ได้” แย่แล้ว ! ดิ้นยังไงก็ไม่หลุด เพราะเจ้านี่… เป็นร่างด้านมืดของข้านี่นา
“หึหึ ข้าจะกลืนเจ้ายังไงดีล่ะ” ร่างด้านมืดกำลังเข้าครอบงำข้า เป็นไปไม่ได้ ! ข้ายอมไม่ได้เด็ดขาด ตราบใดที่ข้ายังมีพลังนี้อยู่ ข้าต้องจัดการกับเจ้าซะ ! ปีกแห่งแสงของข้า จงขยายซะ !
ปีกผีเสื้อน้ำเงินเข้มสยายสง่างาม เปล่งแสงอบอุ่นชวนฝัน เข้าทอแสงร่างมืดให้มืดบอด เส้นผมดำขลับลื่นไหลดั่งสายน้ำ อิสระภาพเพียงชั่วขณะ ร่างบางล่องลอยขึ้นเหนือหัวร่างมืด อ้าแขนสองข้างราวโอบกอด
“เป็นไปไม่ได้ ! เจ้าไปเอาพลังมาจากไหน !”
“ตราบใดที่ดวงดาวทั้งหมดในจักรวาลแห่งนี้ยังไม่หมดไป ข้าก็จะฟื้นพลังได้ไม่สิ้นสุด ! หลับไหลชั่วนิรันดร...”
ร่างมืดหายตัวและปรากฎกายด้านหลังของร่างบาง เข้ารัดกุมด้วยแขนเรียวเล็ก ผมดำขลับดั่งปีกแมลงทับเข้าพันตัวราวมัมมี่ ปิดหูปิดตาร่างบางดูดกลืนพลังแห่งแสง ร่างบางไม่สนใจใยดี กลับท่องบทยืดยาวต่ออย่างใจเย็น ใบหน้าร่างดำฝืนทนอดกลั้นด้วยพลังแห่งแสงที่ดูดกลืน เป็นเสมือนดาบสองคมเข้าจ้องทำร้าย นัยน์ตาดำขวางด้วยจิตอาฆาต
“เจ้า ! หยุดนะ ! ถ้าเจ้าใช้พลังนี่ เจ้าก็จะโดนไปด้วย” เจ้าผิดเองที่ไม่กลืนกินข้าจากด้านหลังที่เจ้าอยู่ตอนนี้ จบกันซะที ร่างมืดของข้า
“... วิญญาณบริสุทธิ์… สลายดั่งเถ้าธุลี… หลับไหลชั่วกัปกาล… เวลาไม่สิ้นสุด… ไม่อาจย้อนคืน… หลับไหลชั่วนิรันดร์… จงหายไปซะ ! อีเธอร์นอล เดธ ! (eternal death)”
“เจ้าทำอะไร !” ร่างมืดยื่นมือเข้ากำคริสตัลเทอร์คอยส์กลางอกไว้แน่น และใช้อำนาจมืดเข้าห้อมล้อม ทำให้มันแปดเปื้อน หมอกสีดำเข้าคืบคลานกลางใจคริสตัล ดูดกลืนสีสันสวยงามแตกออกจนหมองหม่น
“อึก ! เจ้า... คิดจะทำอย่างนี้... ซินะ อึก ! งั้นข้าคง... ต้อง ใช้... วิธีนี้” ดีที่ข้าวางแผนไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ไม่มีเวลามากมายนัก ! ข้าต้องนำส่วนนั้นออกมา และโยนมันไปยังโลกมนุษย์ !
ร่างบางกุมคริสตัลเทอร์คอยส์กลางอกสู่ด้านหน้า เปล่งแสงสีขาวบริสุทธิ์ บีบกดจนแตกออกเป็นเจ็ดส่วน หยิบเศษคริสตัลน้ำเงินจุมพิศบนริมฝีปากชมพูมุกสั่นระรัว ก่อนจะพุ่งออกไปราวสะเก็ตดาวตก
“เมมโมรี่ ขอให้เจ้าไปยังโลกมนุษย์อย่างปลอดภัย ไปซะ !” แค่ส่วนนี้เท่านั้นที่ข้าต้องรักษาไว้ ในเมื่อข้าไม่สามารถตายได้ ข้าได้แต่หลับไหลไปชั่วกาล จนกว่าเจ้าจะกลับมาหาข้าอีกครั้ง อึก !
“เจ้ายังมีไม้ตายซ่อนไว้อีกรึ ข้าจะเอาเมมโมรี่ของเจ้า”
มือสกปรกโสโครกของเจ้าหวังจะคว้าเศษเสี้ยวคริสตัลสีน้ำเงินเข้มดวงกลมให้แปดเปื้อนด้วยอำนาจมืด ไม่สำเร็จหรอก ! เพราะยังไงเจ้าก็คือร่างมืดของข้า เจ้ากับข้าใช้ร่างเดียวกัน เจ้าก็เป็นดั่งเงาของข้า เงากับร่างเนื้อยังไงก็ต้องติดกันเป็นของธรรมดา เจ้าไปไกลกว่าตัวข้าไม่ได้อีกแล้ว ข้าจะทำการผนึกเจ้าเดี๋ยวนี้ !
“เจ้าไม่มีทางทำได้ตราบใดที่ข้ายังอยู่ ! เจ้าเป็นข้าน่าจะรู้ดีที่สุด กลาสซีล ! (glass seal)”
ข้าขอให้เจ้าปลอดภัย จนกว่าจะถึงวันที่เจ้าสามารถกลับมาหาข้าได้ ดวงดาวทุกดวงในจักรวาลจะคอยคุ้มครองและชี้นำทางให้กับเจ้ามาหาข้า ตอนนี้ข้าต้องขอลา...
เจ้าหญิงผนึกร่างมืดไว้กับตัวเอง สร้างแท่นน้ำแข็งเพื่อผนึกตัวเองอยู่บนแท่นนั้น และสร้างเกราะน้ำแข็งเพื่อขังตัวเองอีกชั้น ครอบแท่นน้ำแข็ง แล้วยังคงลอยเคว้งคว้างอยู่ในอวกาศนั้น ถ้าไม่ใช่พลังสัญชาตญาณการกลับบ้านของเจ้าหญิงเอง จึงทำให้ร่างเจ้าหญิงกลับไปยังโลกของนางโดยอัตโนมัติ น้ำแข็งขนาดใหญ่ที่บรรจุร่างเจ้าหญิงเข้าไปยังปราสาทน้ำแข็ง ซึ่งเป็นสวนของนาง และก้อนน้ำแข็งมุ่งตรงเข้าไปยังส่วนลึกที่สุดของสวนนั้น ไม่มีใครสามารถเข้าไปยังสวนแห่งนี้ได้เพราะความหนาวยะเยือกติดลบพันองศา จึงทำให้สถานที่แห่งนี้เสมือนป่าช้าในสายตาประชาชนของนาง
เมมโมรี่... ข้าหวังพึ่งเจ้า...
.
.
.
“นี่มันอะไรกัน ! ชั้นใต้ดินขององค์กรเรามีขยะมากถึงขนาดนี้เลยเรอะ... ข้าต้องกำจัดซะหน่อย”
ชายหนุ่มในชุดทหารพันเอก หลงย่างเท้าเข้ามายังสถานที่รกร้างแห่งหนึ่ง เบื้องหน้าปรากฎดอกไม้ขนาดใหญ่ยักษ์ที่ภายในบรรจุเด็กทารกเพศหญิงนอนหลับสนิทอย่างสบาย ใบหน้าซีดเผือดเมื่อสบตา ชายหนุ่มจึงตัดสินใจที่จะกำจัด คาดว่าจะเป็นภัยกับเมมโมรี่ ออฟ ดิ เอิร์ธ (Memory of the earth) ตามตำนานร้อยปีจะมีมาเกิดหนึ่งคน ซึ่งมีอำนาจมหาศาลอย่างที่องค์กรทุกแห่งบนโลกต้องการ
ชายหนุ่มง้างดาบคาดเอวหวังเข้ากำจัดเด็กน้อย ปรากฎร่างหญิงสาวซีดจางปกป้องเด็กน้อยไว้
“ได้โปรดเถอะ เจ้าทำลายเด็กคนนี้ไม่ได้ ! นางคือสิ่งที่พวกเจ้าตามหามาร่วมร้อยปี” หญิงสาวซีดจางสลายกลายเป็นหมอกห่อหุ้มร่างเด็กน้อย และยกร่างนั้นขึ้นมายังอ้อมแขนของชายหนุ่ม ใบหน้าจิ้มลิ้มจ้องมองสายตาแข็งกร้าว เข้าหลอมละลายหัวใจแข็งดั่งหินผา เขาจึงตัดสินใจที่จะเลี้ยงดูเด็กทารกนี้ และเรียกตัวเองว่าพ่อ
ชายหนุ่มชุดดำปริศนายืนแอบหลบอยู่มุมอับและเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด แววตาสีดำขลับขวางและดุร้ายราวเสือจ้องขย้ำเหยื่อ จ้องมองแผ่นหลังตรงหน้าด้วยใจอันชั่วร้าย
“ต้องกำจัด เมมโมรี่รุ่นถัดไป”
.
.
.
…ความฝัน คือ ห้วงแห่งความสุขที่สร้างมาจากจิตใต้สำนึก
แต่เพียงเราไม่สามารถจับต้องหรือมีความรู้สึกร่วมไปได้
แต่… ความฝันครั้งนี้กลับเจ็บปวด รวดร้าว ทิ่มแทงหัวใจ และโหยหา
ทำไม… มันคืออะไร หรือนี่คือ…
เหล่าหมู่ดาวพร่างพราวตา สาดส่องแสงเข้าปีกผีเสื้อน้ำเงินเข้มดุจความดำมืดมิดของอวกาศ รวบรวมพลังดั่งสายน้ำไหล ระยิบระยับแวววาวราวสายน้ำต้องแสงจันทร์ยามค่ำคืน พาร่างบางล่อยลอย หลบเลี้ยวซ่อกแซ่กอุกกาบาตอันร้อนระอุจากพลังแห่งความมืดรัตติกาล
เฟี้ยวววว... ตูมมมม ตูม ตูม บึ้มมมมมมมมมมมมมมม
“ฟอลลิ่ง โคเมต เรฟโวลูชั่น ! (falling comet revolution)”
บึ้มมมมมมมมมมมมมมมม
“เจ้าทำอะไรข้าไม่ได้หรอก ฮ่า ๆ”
“ฮึ่ยย แข็งแกร่งอะไรอย่างนี้ งั้นต้องเจอแบบนี้ ดวงดาวเอ๋ย… สุกสกาวพร่างพราวตา… แสงแห่งความหวัง… ลาวาเดือดดาล… เผาไหม้บรรลัยกัลป์… เหือดแห้งเป็นจุล… อินเฟรมโม่ ชูตติ้ง สตาร์ ! (inflame shooting star)”
“แรงเหมือนกันนี่ แต่เจ้าก็ทำอะไรข้าไม่ได้อยู่ดี เพราะข้าคือเจ้า เจ้าคือข้า”
ดาวเคราะห์น้อยลูกไฟยักษ์เข้าพุ่งชนร่างบาง แต่กลับหมุนตัวหลบเลี่ยงได้อย่างหวุดหวิด หันหลังกลับทันควัน พลังน้ำแข็งรอบตัวเข้าหันปลายแหลมดั่งใบมีดสู่ร่างมืดแสยะยิ้ม ใบหน้ามืดมนมองต่ำราวเหยียดหยาม ท่อนน้ำแข็งปลายแหลมกลับกระเด็นในทันที
“หุบปาก ! แอบโซลูทไอซี่ โคเมต!(absolute icy comet)”
“เจ้าจะทำอะไร !” ข้าโดนเจ้าจับตัวได้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
ร่างบางถูกรัดด้วยเส้นผมดำขลับเงางามราวปีกแมลงทับ ขยับร่างกายไม่ได้ดั่งใจหมาย ร่างบางสบนัยน์ตาดำขลับ กัดฟันกรอดอย่างเจ็บแค้น สกัดกั้นพลังแห่งแสงสว่างชั่วนิจนิรันดร์ ความมืดคืบคลานเข้าหาคริสตัลเทอร์คอยส์กลางอก ร่างมืดแสยะยิ้มแฝงด้วยความชั่วร้าย กอดอกเหนือหัวร่างบางราวผู้ชนะ
“ข้าบอกแล้วว่าเจ้าทำอะไรข้าไม่ได้” แย่แล้ว ! ดิ้นยังไงก็ไม่หลุด เพราะเจ้านี่… เป็นร่างด้านมืดของข้านี่นา
“หึหึ ข้าจะกลืนเจ้ายังไงดีล่ะ” ร่างด้านมืดกำลังเข้าครอบงำข้า เป็นไปไม่ได้ ! ข้ายอมไม่ได้เด็ดขาด ตราบใดที่ข้ายังมีพลังนี้อยู่ ข้าต้องจัดการกับเจ้าซะ ! ปีกแห่งแสงของข้า จงขยายซะ !
ปีกผีเสื้อน้ำเงินเข้มสยายสง่างาม เปล่งแสงอบอุ่นชวนฝัน เข้าทอแสงร่างมืดให้มืดบอด เส้นผมดำขลับลื่นไหลดั่งสายน้ำ อิสระภาพเพียงชั่วขณะ ร่างบางล่องลอยขึ้นเหนือหัวร่างมืด อ้าแขนสองข้างราวโอบกอด
“เป็นไปไม่ได้ ! เจ้าไปเอาพลังมาจากไหน !”
“ตราบใดที่ดวงดาวทั้งหมดในจักรวาลแห่งนี้ยังไม่หมดไป ข้าก็จะฟื้นพลังได้ไม่สิ้นสุด ! หลับไหลชั่วนิรันดร...”
ร่างมืดหายตัวและปรากฎกายด้านหลังของร่างบาง เข้ารัดกุมด้วยแขนเรียวเล็ก ผมดำขลับดั่งปีกแมลงทับเข้าพันตัวราวมัมมี่ ปิดหูปิดตาร่างบางดูดกลืนพลังแห่งแสง ร่างบางไม่สนใจใยดี กลับท่องบทยืดยาวต่ออย่างใจเย็น ใบหน้าร่างดำฝืนทนอดกลั้นด้วยพลังแห่งแสงที่ดูดกลืน เป็นเสมือนดาบสองคมเข้าจ้องทำร้าย นัยน์ตาดำขวางด้วยจิตอาฆาต
“เจ้า ! หยุดนะ ! ถ้าเจ้าใช้พลังนี่ เจ้าก็จะโดนไปด้วย” เจ้าผิดเองที่ไม่กลืนกินข้าจากด้านหลังที่เจ้าอยู่ตอนนี้ จบกันซะที ร่างมืดของข้า
“... วิญญาณบริสุทธิ์… สลายดั่งเถ้าธุลี… หลับไหลชั่วกัปกาล… เวลาไม่สิ้นสุด… ไม่อาจย้อนคืน… หลับไหลชั่วนิรันดร์… จงหายไปซะ ! อีเธอร์นอล เดธ ! (eternal death)”
“เจ้าทำอะไร !” ร่างมืดยื่นมือเข้ากำคริสตัลเทอร์คอยส์กลางอกไว้แน่น และใช้อำนาจมืดเข้าห้อมล้อม ทำให้มันแปดเปื้อน หมอกสีดำเข้าคืบคลานกลางใจคริสตัล ดูดกลืนสีสันสวยงามแตกออกจนหมองหม่น
“อึก ! เจ้า... คิดจะทำอย่างนี้... ซินะ อึก ! งั้นข้าคง... ต้อง ใช้... วิธีนี้” ดีที่ข้าวางแผนไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ไม่มีเวลามากมายนัก ! ข้าต้องนำส่วนนั้นออกมา และโยนมันไปยังโลกมนุษย์ !
ร่างบางกุมคริสตัลเทอร์คอยส์กลางอกสู่ด้านหน้า เปล่งแสงสีขาวบริสุทธิ์ บีบกดจนแตกออกเป็นเจ็ดส่วน หยิบเศษคริสตัลน้ำเงินจุมพิศบนริมฝีปากชมพูมุกสั่นระรัว ก่อนจะพุ่งออกไปราวสะเก็ตดาวตก
“เมมโมรี่ ขอให้เจ้าไปยังโลกมนุษย์อย่างปลอดภัย ไปซะ !” แค่ส่วนนี้เท่านั้นที่ข้าต้องรักษาไว้ ในเมื่อข้าไม่สามารถตายได้ ข้าได้แต่หลับไหลไปชั่วกาล จนกว่าเจ้าจะกลับมาหาข้าอีกครั้ง อึก !
“เจ้ายังมีไม้ตายซ่อนไว้อีกรึ ข้าจะเอาเมมโมรี่ของเจ้า”
มือสกปรกโสโครกของเจ้าหวังจะคว้าเศษเสี้ยวคริสตัลสีน้ำเงินเข้มดวงกลมให้แปดเปื้อนด้วยอำนาจมืด ไม่สำเร็จหรอก ! เพราะยังไงเจ้าก็คือร่างมืดของข้า เจ้ากับข้าใช้ร่างเดียวกัน เจ้าก็เป็นดั่งเงาของข้า เงากับร่างเนื้อยังไงก็ต้องติดกันเป็นของธรรมดา เจ้าไปไกลกว่าตัวข้าไม่ได้อีกแล้ว ข้าจะทำการผนึกเจ้าเดี๋ยวนี้ !
“เจ้าไม่มีทางทำได้ตราบใดที่ข้ายังอยู่ ! เจ้าเป็นข้าน่าจะรู้ดีที่สุด กลาสซีล ! (glass seal)”
ข้าขอให้เจ้าปลอดภัย จนกว่าจะถึงวันที่เจ้าสามารถกลับมาหาข้าได้ ดวงดาวทุกดวงในจักรวาลจะคอยคุ้มครองและชี้นำทางให้กับเจ้ามาหาข้า ตอนนี้ข้าต้องขอลา...
เจ้าหญิงผนึกร่างมืดไว้กับตัวเอง สร้างแท่นน้ำแข็งเพื่อผนึกตัวเองอยู่บนแท่นนั้น และสร้างเกราะน้ำแข็งเพื่อขังตัวเองอีกชั้น ครอบแท่นน้ำแข็ง แล้วยังคงลอยเคว้งคว้างอยู่ในอวกาศนั้น ถ้าไม่ใช่พลังสัญชาตญาณการกลับบ้านของเจ้าหญิงเอง จึงทำให้ร่างเจ้าหญิงกลับไปยังโลกของนางโดยอัตโนมัติ น้ำแข็งขนาดใหญ่ที่บรรจุร่างเจ้าหญิงเข้าไปยังปราสาทน้ำแข็ง ซึ่งเป็นสวนของนาง และก้อนน้ำแข็งมุ่งตรงเข้าไปยังส่วนลึกที่สุดของสวนนั้น ไม่มีใครสามารถเข้าไปยังสวนแห่งนี้ได้เพราะความหนาวยะเยือกติดลบพันองศา จึงทำให้สถานที่แห่งนี้เสมือนป่าช้าในสายตาประชาชนของนาง
เมมโมรี่... ข้าหวังพึ่งเจ้า...
.
.
.
“นี่มันอะไรกัน ! ชั้นใต้ดินขององค์กรเรามีขยะมากถึงขนาดนี้เลยเรอะ... ข้าต้องกำจัดซะหน่อย”
ชายหนุ่มในชุดทหารพันเอก หลงย่างเท้าเข้ามายังสถานที่รกร้างแห่งหนึ่ง เบื้องหน้าปรากฎดอกไม้ขนาดใหญ่ยักษ์ที่ภายในบรรจุเด็กทารกเพศหญิงนอนหลับสนิทอย่างสบาย ใบหน้าซีดเผือดเมื่อสบตา ชายหนุ่มจึงตัดสินใจที่จะกำจัด คาดว่าจะเป็นภัยกับเมมโมรี่ ออฟ ดิ เอิร์ธ (Memory of the earth) ตามตำนานร้อยปีจะมีมาเกิดหนึ่งคน ซึ่งมีอำนาจมหาศาลอย่างที่องค์กรทุกแห่งบนโลกต้องการ
ชายหนุ่มง้างดาบคาดเอวหวังเข้ากำจัดเด็กน้อย ปรากฎร่างหญิงสาวซีดจางปกป้องเด็กน้อยไว้
“ได้โปรดเถอะ เจ้าทำลายเด็กคนนี้ไม่ได้ ! นางคือสิ่งที่พวกเจ้าตามหามาร่วมร้อยปี” หญิงสาวซีดจางสลายกลายเป็นหมอกห่อหุ้มร่างเด็กน้อย และยกร่างนั้นขึ้นมายังอ้อมแขนของชายหนุ่ม ใบหน้าจิ้มลิ้มจ้องมองสายตาแข็งกร้าว เข้าหลอมละลายหัวใจแข็งดั่งหินผา เขาจึงตัดสินใจที่จะเลี้ยงดูเด็กทารกนี้ และเรียกตัวเองว่าพ่อ
ชายหนุ่มชุดดำปริศนายืนแอบหลบอยู่มุมอับและเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด แววตาสีดำขลับขวางและดุร้ายราวเสือจ้องขย้ำเหยื่อ จ้องมองแผ่นหลังตรงหน้าด้วยใจอันชั่วร้าย
“ต้องกำจัด เมมโมรี่รุ่นถัดไป”
.
.
.
…ความฝัน คือ ห้วงแห่งความสุขที่สร้างมาจากจิตใต้สำนึก
แต่เพียงเราไม่สามารถจับต้องหรือมีความรู้สึกร่วมไปได้
แต่… ความฝันครั้งนี้กลับเจ็บปวด รวดร้าว ทิ่มแทงหัวใจ และโหยหา
ทำไม… มันคืออะไร หรือนี่คือ…
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ