Bellzebub สงครามกิลล์ ณ โลกคู่ขนาน
10.0
เขียนโดย โกโก้ใส่ไข่มุก
วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2559 เวลา 12.21 น.
2 chapter
0 วิจารณ์
4,231 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2559 12.28 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) CHAPTER 2 BEEL (100%)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความCHAPTER 2
BEEL
“ ฉันตัดสินใจแล้วว่าฉันจะไปเข้าคอมมิวนิตี้ของคนอื่น ”
ในวันนี้ก็เป็นอีก 1 วันที่พวกเรา 3 คนเพื่อนสนิทมานั่งรวมตัวกันอยู่ในซอกแห่งหนึ่งของเมืองทางตะวันออกในโลกคู่ขนาน ทั้งที่ปกติแล้วจะมีแค่พวกเราเพียง 3 คนเท่านั้น แต่วันนี้กลับมีแขกไม่ได้รับเชิญที่ไม่คุ้นหน้าคุ้นตาเข้ามานั่งอยู่ที่นี่อีก 1 คน ซึ่งนอกจากโซเลสแล้วก็มีฉันกับราอุลที่กำลังนั่งจ้องหน้าชายผู้มาเยือนใหม่ด้วยความสงสัย ผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างโซเลสเป็นใครกัน?
“ ล..แล้วตัดสินใจจะเข้าคอมมิวนิตี้ไหนเหรอครับ? ^^ ”
ราอุลที่นั่งเงียบอยู่ครู่หนึ่งถามขึ้นทันทีเมื่อไม่มีใครพูดอะไร นั่นทำให้โซเลสยิ้มย่องออกมาด้วยความมั่นใจ นี่คงไม่ได้ไปสมัครที่คอมมิวนิตี้ไหนไปแล้วใช่ไหมนะ ฉันฝากคุณราเชลไปแล้วด้วยสิ
“ ฉันจะไปสมัครเข้าคอมมิวนิตี้ของจอมมาร นี่ล่ะคือคำตอบของฉัน ”
โซเลสพูดออกมาเสียงดังพร้อมกับยืนขึ้นเต็มความสูง ทำให้ฉันกับราอุลและผู้ชายที่นั่งอยู่อีกคนซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใครต้องเงยหน้ามองโซเลสที่กำลังยืนอยู่ สุดท้ายก็จะเข้าคอมมิวนิตี้ของจอมมารสินะ บางทีอาจจะเหมาะก็ได้ ถ้าเป็นคอมมิวนิตี้ของจอมมารเบลเซบับล่ะก็นะ
“ อืม ตัดสินใจได้ก็ดี แล้วนายจะเข้าคอมมิวนิตี้ของจอมมารคนไหนล่ะ เขามีตั้ง 2 คนนี่ ”
“ เบลเซบับแน่นอน ฉันไม่มีทางเข้ากับพวกหัวรุนแรงอย่างคอมมิวนิตี้ของลูซิเฟอร์หรอก ”
“ พูดอะไรระวังปากหน่อย ถ้ามีคนของคอมมิวนิตี้นั้นอยู่แถวนี้จะจบไม่สวยเอานะ ”
เมื่อฉันพูดออกไปแบบนั้นโซเลสก็หุบปากลงโดยแทบจะทันที แสดงว่าก็ยังรักตัวเองอยู่ งั้นคงไม่ต้องเป็นห่วงอะไรมาก
“ เอ่อคือ.. ขอโทษนะครับ แต่คุณผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงนั้นเนี่ย.. ใครเหรอครับ? ^^’’ ”
ราอุลยกมือถามขึ้นด้วยความสงสัย ฉันจึงหันไปมองหน้าผู้ชายที่เข้ามานั่งเงียบไม่ยอมพูดอะไรด้วยสายตาเรียบเฉยพร้อมกับสังเกตไปด้วยในตัว เขาเป็นผู้ชายเจ้าของเรือนผมสีขาวหม่นยาวถึงกลางหลัง กับดวงตาสีแดงคมกริบที่ดูไม่น่าไว้ใจอย่างน่าประหลาด ทั้งที่เขายังไมได้ทำอะไร แต่ทำไมฉันถึงได้รู้สึกกังวลแบบนี้กัน
“ หือ? อ้อ! หมอนี่ชื่อ เบล เราเจอกันระหว่างทางน่ะ เห็นว่ายังไม่มีคอมมิวนิตี้เหมือนกันก็เลยชวนมาด้วย ”
“ เขาไม่มีคอมมิวนิตี้เหรอครับ? ”
“ ไม่รู้สิ ก็ไม่เห็นจะมีตราสัญลักษณ์เลยนี่ ”
โซเลสว่าและยิ้มออกมาอย่างไร้ข้อกังวง มีเพื่อนเป็นคนมองโลกในแง่ดีเกินไปแบบนี้เนี่ยก็ลำบากเหมือนกันแฮะ ทั้งที่ไม่รู้จักมักคุ้นแต่กลับพามาด้วยถึงที่นี่ จะใจกว้างยังไงมันก็ต้องมีขอบเขตไม่ใช่หรือไง?
“ ไม่มีตราสัญลักษณ์ก็ใช่ว่าจะไม่มีคอมมิวนิตี้ อาจจะแค่เอาสัญลักษณ์ออกเฉยๆก็ได้นี่ ”
“ เจ้าอย่าคิดอะไรที่มันดำมืดแบบนั้นสิลูเคีย เป็นผู้หญิงแท้ๆ -3- ”
โซเลสพูดและเบ้ปากใส่ข้าอย่างต้องการจะสั่งสอน ทั้งที่แนวคิดของข้าเอาความเป็นจริงเป็นหลักแต่มาหาว่าดำมืดแบบนี้แสดงว่าโซเลสยังเป็นเด็กนัก ข้าคิดและมองหน้าโซเลสด้วยความไม่พอใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป
“ ฮะๆ ทั้ง 2 คนอย่าเพิ่งเคืองกันไปเลยนะดีกว่านะครับ ยังไงตอนนี้เราก็คุยกับเขากันก่อนดีกว่า เห็นนั่งเงียบอยู่ตั้งนานแล้วด้วย ^^’’ ”
ราอุลที่เห็นว่าชายตรงหน้าที่นั่งเงียบอยู่นั้นไม่ยอมพูดอะไรเอาแต่ยิ้มเพียงอย่างเดียวก็เสนอให้พวกเราทุกคนหันไปสนใจเขาบ้าง สมแล้วที่เป็นราอุล หันเหสถานการณ์ได้ดีจริงๆ
“ สวัสดี ฉันชื่อ เบล จากนี้ก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วย ^__^ ”
ชายหนุ่มผู้มีนามว่า เบล พูดออกมาด้วยรอยยิ้มสดใส ทำไมกันนะ ทั้งๆที่เขาก็ยิ้มอยู่ แต่ฉันกลับรู้สึกว่ามันเป็นรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยอะไรบางอย่าง อา.. แย่แล้ว ฉันจะคิดมากไปมากกว่านี้ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นฉันคงเครียดจน..
“ ..เบลสินะ.. นายเป็นตัวอะไรล่ะ? ”
“ หืม? ”
เบลเอียงคอลงทันทีด้วยความสงสัยเมื่อฉันถามออกไปแบบนั้น นี่เขาไม่เข้าใจคำถามของฉันเหรอ?
“ ก็อย่างที่รู้กันว่าในโลกคู่ขนานแห่งนี้มีอะไรหลายอย่างอยู่รวมกันปะปนไปหมด ทั้งภูตผี วิญญาณ ปีศาจ จอมมาร เทพเจ้า นายก็ต้องเป็นอะไรสักอย่างในอะไรพวกนี้ใช่ไหมล่ะ? ”
“ อ้อ.. ฉันเป็น.. ปีศาจ หรือเปล่านะ? ช่างเถอะ แล้วพวกเธอล่ะเป็นอะไรกัน ทำไมถึงได้ดุเหมือนมนุษย์กันจังล่ะ หรือว่าจะเป็นปีศาจสายพันธุ์ใหม่กันอย่างนั้นเหรอ? ”
เบลพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม แต่ภายใต้รอยยิ้มนั้นก็รู้สึกได้ถึงความใคร่สงสัย ดูเหมือนว่าผู้ชายคนนี้ก็คงจะพอรู้เรื่องอะไรอยู่บ้าง แต่ก็คงจะไม่ได้รู้อะไรเยอะขนาดนั้นสินะ เพราะขนาดเรื่องพื้นฐานขนาดนี้ยังไม่ค่อยจะรู้เรื่องเลย..
“ ฉันเป็นครึ่งมนุษย์กับซาตาน ชื่อ ลูเคีย โดยปกติแล้วฉันต้องอาศัยอยู่ที่โลกมนุษย์ แต่เพราะได้เชื้อของซาตานมามากกว่าก็เลยต้องมาอยู่ที่นี่กับพ่อ ส่วนหมอนี่ชื่อ โซเลส เป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งหมาป่า แล้วก็หมอนี่ ชื่อ ราอุล เป็นครึ่งคนครึ่งเทพ พวกเราล้วนแต่มีเชื้อทางเทพหรือปีศาจมากกว่ามนุษย์ก็เลยต้องมาอยู่ที่นี่ ถึงจะบอกว่ามีเชื้อมนุษย์แต่ก็มีแค่ 1 ใน 100 เท่านั้น ดังนั้นจะเรียกว่าพวกเราเป็นปีศาจไปเลยก็ได้ ”
“ ..ครึ่งเทพ กับ ครึ่งซาตาน.. มาเป็นเพื่อนกันแบบนี้ไม่เป็นไรเหรอ? ^^ ”
เบลถามออกมาด้วยรอยยิ้ม ฉันกับราอุลจึงหันมามองหน้ากันเล็กน้อย นั่นสินะ ถ้าพูดกันตามความเป็นจริงแล้วฉันกับราอุลเป็นเพื่อนกันไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่มันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรถึงได้เป็นเพื่อนกันมาอยู่ตลอด ความจริงแล้วมันผิดไหมนะ?
“ ไม่เป็นไรหรอกครับ ถึงจะเป็นประเภทที่ดูเข้ากันไม่ได้ แต่พวกเราก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันนะครับ ”
ราอุลพูดออกไปด้วยรอยยิ้มหลังจากที่ชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ฉันสังเกตเห็นราอุลเหงื่อตกเล็กน้อย แต่ก็คงจะสรุปให้มันเป็นแบบนั้นไป เพราะว่าความจริงพวกเราก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แถมฉันกับราอุลก็มีปัญหากันแทบจะนับครั้งได้ ไม่สิ เรียกว่าไม่เคยเลยจะดีกว่า เพราะโดยปกติแล้วราอุลมักจะเป็นคนที่ยอมคนอื่นอยู่เสมอ ก็เลยไม่ค่อยมีปัญหากับใคร ดังนั้นพวกเราก็เลยคบกันได้ล่ะมั้ง..
“ หืม.. งั้นเหรอ? ”
เบลพูดและจ้องฉันกับราอุลไม่วางตา แต่เรื่องนั้นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือเขาดูน่าสงสัยเกินกว่าที่จะไว้ใจได้ อีกทั้งยังทำตีเนียนเข้ามาถามนู่นถามนี่อีก หวังว่านี่คงจะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับการรับสมาชิกเข้าคอมมิวนิตี้ของจอมมารเบลเซบับที่ฉันขอไปหรอกนะ
“ เอาล่ะ หยุดคุยเรื่องหยุมหยิมไว้แต่เพียงเท่านี้ เรามาช่วยกันหาหนทางที่เราจะได้เข้าไปในคอมมิวนิตี้ของจอมมารเบลเซบับกันดีกว่า ”
โซเลสพูดขึ้นเป็นการทุกการสนทนาที่กำลังดำเนินการอยู่ ทำให้ฉันที่ยืนจ้องหน้าเบลไม่วางตาต้องหันไปสนใจโซเลสแทน บางทีฉันควรจะบอกเขาว่าฉันไปขอร้องคนในคอมมิวนิตี้ของจอมมารเอาไว้ให้แล้ว แต่ถ้าบอกไปเจ้าพวกนี้ก็คงจะเฉื่อยแฉะและรอผลกันอย่างเดียว ดังนั้นก็ให้ทำตัวให้กระฉับกระเฉงเอาไว้ก่อนเพื่อเพิ่มโอกาสในการตรวจสอบก็แล้วกัน
“ ผมคิดว่าเราควรเข้าไปคุยกับเขาที่คอมมิวนิตี้โดยตรงครับ ”
“ อืม.. การพุ่งเข้าชนก็เป็นสิ่งที่ดีอยู่หรอกนะ แต่คอมมิวนิตี้ของเบลเซบับน่ะมีคนคอยคุ้มกันแน่นหนา เข้าไปไม่ได้ง่ายขนาดนั้นหรอก ”
“ งั้นก็ไปเผาคอมมิวนิตี้แล้วล่อให้เบลเซบับออกมาเป็นไง? ”
“ ทำแบบนั้น โดนฆ่าแน่ ”
ทำไมไอ้เจ้าพวกนี้มันถึงได้โง่กันแบบนี้นะ ทั้งๆที่ที่นี่คือโลกคู่ขนานแต่กลับคิดอะไรธรรมดากันอย่างกับอยู่ในโลกมนุษย์ ถ้าอยากจะมีคุณสมบัติพบกับจอมมารจริงมันก็มีอีกวิธีหนึ่งไม่ใช่หรือไง
“ ตีมังกร.. ”
เมื่อฉันพูดขึ้นไปแบบนั้น ทุกคนก็หันมามองหน้าฉันกันเป็นตาเดียว
“ ในโลกคู่ขนานแห่งนี้มีการรวมกลุ่มกันเป็นทีมโดยที่ไม่ใช่คอมมิวนิตี้อยู่ การสร้างทีมนั้นก็ไม่ได้ยุ่งยากเหมือนกับการสร้างคอมมิวนิตี้ ไม่จำเป็นต้องมีคนครบและไม่จำเป็นต้องมีใบรับรองความสามารถ แค่ไปลงชื่อเข้าแข่งขันและติดสัญลักษณ์เป็นสีเดียวกันเอาไว้ที่เสื้อก็ถือว่าเป็นทีมเดียวกัน โดยปกติแล้วเขามักจะมีกันทีมละ 4 คน จุดประสงค์ก็เพื่อการทำภารกิจ และสิ้นสุดที่การตีมังกร แต่ก็นะ ไม่ได้มีแค่ปาร์ตี้เดียวที่อยากจะไปตีมังกร ดังนั้นการโจมตีทีมของคนอื่นก็เป็นส่วนหนึ่งในเกมเช่นกัน ”
“ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการที่อยากจะเข้าคอมมิวนิตี้ของจอมมารล่ะ? ”
“ ..ท้ายที่สุดแล้ว จะมีเพียงทีมเดียวเท่านั้นที่ได้เข้าไปประทะกับมังกร ทีมใดที่สามารถจัดการมังกรได้.. จะได้รับพรวิเศษคนละ 1 ประการจากคอมมิวนิตี้อพอลโล่ แน่นอว่าจะขออะไรก็ได้ อย่าว่าแต่ขอเข้าคอมมิวนิตี้ของจอมมารเลย ขนาดขอให้คืนชีพคนที่ตายไปแล้วขึ้นมาใหม่ก็ยังได้ แล้วแบบนี้จะไม่ไปตีมังกรกันเหรอ? ”
ฉันพูดและดันแว่นขึ้นเล็กน้อยให้พอเป็นพิธี โซเลสกับราอุลจึงหันมามองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมายทันทีที่ได้ฟังในสิ่งที่ฉันพูด ดูเหมือนว่าจะเข้าใจแล้วสินะ
“ ยอดเลย! นี่ฉันไม่เคยรู้เลยนะเนี่ยว่ามีกิจกรรมอะไรแบบนี้อยู่ด้วย ”
“ นั่นสิครับ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน คุณลูเคียเนี่ยรอบรู้จังเลยนะครับ ”
“ ความจริงแล้วมันก็ไม่ใช่สิ่งที่อายุอย่างพวกเราควรจะรู้หรอก แต่ฉันเคยไปนั่งเชียรพ่อที่ข้างสนาม ก็เลยรู้น่ะ ”
เมื่อฉันพูดออกไปแบบนั้นทุกคนก็หันมามองหน้าฉันกันอีกครั้ง ทำไม? ฉันพูดอะไรไม่ดีออกไปหรือไง?
“ ขอประทานโทษนะครับท่านลูเคีย แต่พ่อของท่านเนี่ยเป็นซาตานใช่ไหมครับ? ”
“ ใช่ ”
“ เอ่อคือว่านะลูเคีย พวกเราน่ะสู้มังกรที่ขนาดซาตานยังอยากเข้าไปสู้ด้วยไม่ได้หรอก มันสูงเกินไป ใช่ไหมเบล? ”
โซเลสพูดและหันไปขอคำตอบสมทบจากเบล ซึ่งเบลก็พยักหน้ากลับมาให้โดยแทบจะทันทีแบบไม่ต้องคิด นั่นสินะ พวกเรายังเป็นมือใหม่อยู่ จะให้ไปสู้กับมังกรระดับที่พ่อสู้เลยมันก็คงจะไม่ดี แต่นอกจากทางนี้แล้วก็ไม่มีทางอื่น แล้วจะให้ทำยังไงล่ะ?
“ งั้นก็ไปสู้กับอย่างอื่นที่ไม่ใช่มังกรสิครับ มีไหมล่ะครับคุณลูเคีย? ”
ราอุลถามขึ้นด้วยความสงสัย ฉันจึงทำท่าครุ่นคิดเล็กน้อย นั่นสินะ ถ้าไม่ตีมังกรล่ะก็..
“ ถ้าจำไม่ผิด นอกจากมังกรแล้วก็ยังมีไอ้นั่นอยู่นี่ ฉันว่าพวกนายน่าจะรู้จักนะ ถ้ำของพวกจอมมารน่ะ ”
“ ถ้าไอ้นั่นฉันรู้จักนะ ไอ้ที่มี 2 ถ้ำแล้วแยกออกเป็นถ้ำคอมมิวนิตี้ของลูซิเฟอร์กับถ้ำคอมมิวนิตี้ของเบลเซบับใช่ไหม? ”
เบลพูดออกมาด้วยท่าทีสนอกสนใจไม่น้อย ซึ่งก็เป็นอีกครั้งที่โซเลสกับราอุลหันมามองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย นี่เจ้า 2 คนนี้มันไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยสินะ
“ ใช่ ไอ้นั่นแหละ ที่ว่าถ้าเคลียร์ได้จะได้อะไรมาสักอย่าง แล้วสามารถยื่นผ่านเข้าไปหาจอมมารได้ แต่ต้องไปให้ถูกถ้ำนะ อยากเข้าคอมมิวนิตี้ของเบลเซบับก็ต้องไปเข้าถ้ำเบลเซบับ ไม่ใช่ไปเข้าถ้ำลูซิเฟอร์ล่ะ ”
“ แล้วมันอยู่ที่ไหนล่ะไอ้ถ้ำนั่นน่ะ ”
โซเลสถามออกมาด้วยความสงสัย ซึ่งราอุลเองก็ดุท่าว่าจะสงสัยเช่นกันจึงได้หันมามองหน้าฉันอย่างต้องการคำตอบ นี่มั่นใจนะว่าอยากจะเข้าคอมมิวนิตี้ของจอมมาร ไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง
“ ข้างคอมมิวนิตี้ของจอมมารพวกนั้น มีถ้ำอยู่ตรงนั้นแหละ เราสามารถเข้าไปได้โดยที่พวกที่เฝ้าอยู่หน้าประตูคอมมิวนิตี้ไม่ว่าอะไร ขอบอกเอาไว้ก่อนเลยนะว่าฉันไม่รู้ว่าข้างในมันมีอะไรบ้าง ดังนั้นถ้าอยากจะเข้าไปก็ต้องคิดให้ดี ว่าไงล่ะ จะเข้าไปไหม? ”
ฉันถามและมองหน้าของ 3 คนที่นั่งอยู่ในซอกนี้ด้วยความจริงจัง เจ้าพวกนั้นจึงลอบมองหน้ากันอย่างชั่งใจ ก่อนที่ราอุลจะตอบออกมา
“ ผมว่าลองไปดูก็ไม่เสียหายนะครับ ยังไงเราก็ไม่มีทางเลือกอยู่แล้วนี่ ”
“ อืม มันก็ยังดีกว่ามานั่งอยู่แบบนี้แหละ เราไปกันเถอะลูเคีย ”
โซเลสกับราอุลตัดสินใจและหันมาพูดกับฉันด้วยความแน่วแน่ งั้นก็หมายความว่าจะไปที่ถ้ำนั่นแล้วเอาของที่ก็ไม่รู้ว่าคืออะไรนั่นกลับมาสินะ
“ ถ้าอยากไปก็ได้อยู่หรอก เดี๋ยวฉันเขียนแผนที่ให้ก็แล้วกัน ”
ฉันพูดและหยิบกระดาษกับปากกาที่ใส่ไว้ข้างกระเป๋าออกมาเพื่อเขียนแผนที่ถ้ำให้กับพวกโซเลส แต่กลับถูกมือของราอุลจับเอาไว้เสียก่อน
“ อ..เอ่อ.. คุณลูเคียไม่ได้จะไปด้วยกันเหรอครับ? ”
“ เรื่องสิ ฉันไม่ได้อยากเข้าคอมมิวนิตี้สักหน่อย เดิมทีนี่มันก็ไม่ใช่เรื่องของฉันเลยนะ ช่วยขนาดนี้ก็ดีแค่ไหนแล้ว ”
“ เฮ้ย.. เอาจริงดิ.. ป่านนี้แล้วเนี่ยนะ ทั้งที่เธอช่วยหาหนทางให้ตั้งขนาดนั้นแต่กลับมาบอกเอาตอนนี้ว่าไม่ไปด้วยเนี่ยนะ? ไหนตอนที่ฉันบอกว่าจะตั้งคอมมิวนิตี้ยังเห็นดีเห็นงามด้วยอยู่เลย ”
“ ใครว่าฉันเห็นดีเห็นงาม พวกนายอยากสร้างฉันก็แค่จะเข้าด้วยเพราะไม่อยากเรื่องมากอยู่คนเดียว แต่จะให้เข้าคอมมิวนิตี้ของจอมมารน่ะไม่เอาหรอก ฉันขี้เกียจต่อสู้ -__-^ ”
ฉันพูดออกไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย ราอุลกับโซเลสจึงเงียบขึ้นมาทันที เฮอะ ไอ้พวกน่ารำคาญพวกนี้ ฉันช่วยตั้งขนาดนี้แล้วยังจะให้ฉันไปด้วยอีก บ้าหรือไง
“ ..ไม่อยากเข้าคอมมิวนิตี้ของจอมมาร หรือว่ากลัวกันแน่ เธอคงจะกลัวที่จะเข้าไปในถ้ำของจอมมารใช่ไหมล่ะ? ^^ ”
กึก..
คำพูดของเบลทำให้ฉันชะงักมือที่กำลังเขียนแผนที่อยู่ลงโดยแทบจะทันที กลัวเหรอ? ฉันเป็นถึงลูกสาวของซาตานผู้ยิ่งใหญ่ แล้วทำไมฉันจะต้องกลัวด้วย คนที่ต้องกลัวน่ะมันทางนั้นต่างหาก
“ ก็ได้ ถ้านายพูดแบบนั้นฉันก็จะไปด้วย นายจะได้รู้ว่าไม่ควรมาแหย่ลูกสาวซาตานอย่างฉัน ”
“ แล้วฉันจะรอดูนะคุณลูกครึ่งซาตานผู้มืดมน ^^ ”
เบลพูดออกมาด้วยรอยยิ้มแสนซน ก็ดี.. ฉันก็อยากจะรู้นักว่าปากแบบนี้จะมีความสามารถแค่ไหน แล้วเราจะได้เห็นกันไอ้คนน่าสงสัย - -*
BEEL
“ ฉันตัดสินใจแล้วว่าฉันจะไปเข้าคอมมิวนิตี้ของคนอื่น ”
ในวันนี้ก็เป็นอีก 1 วันที่พวกเรา 3 คนเพื่อนสนิทมานั่งรวมตัวกันอยู่ในซอกแห่งหนึ่งของเมืองทางตะวันออกในโลกคู่ขนาน ทั้งที่ปกติแล้วจะมีแค่พวกเราเพียง 3 คนเท่านั้น แต่วันนี้กลับมีแขกไม่ได้รับเชิญที่ไม่คุ้นหน้าคุ้นตาเข้ามานั่งอยู่ที่นี่อีก 1 คน ซึ่งนอกจากโซเลสแล้วก็มีฉันกับราอุลที่กำลังนั่งจ้องหน้าชายผู้มาเยือนใหม่ด้วยความสงสัย ผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างโซเลสเป็นใครกัน?
“ ล..แล้วตัดสินใจจะเข้าคอมมิวนิตี้ไหนเหรอครับ? ^^ ”
ราอุลที่นั่งเงียบอยู่ครู่หนึ่งถามขึ้นทันทีเมื่อไม่มีใครพูดอะไร นั่นทำให้โซเลสยิ้มย่องออกมาด้วยความมั่นใจ นี่คงไม่ได้ไปสมัครที่คอมมิวนิตี้ไหนไปแล้วใช่ไหมนะ ฉันฝากคุณราเชลไปแล้วด้วยสิ
“ ฉันจะไปสมัครเข้าคอมมิวนิตี้ของจอมมาร นี่ล่ะคือคำตอบของฉัน ”
โซเลสพูดออกมาเสียงดังพร้อมกับยืนขึ้นเต็มความสูง ทำให้ฉันกับราอุลและผู้ชายที่นั่งอยู่อีกคนซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใครต้องเงยหน้ามองโซเลสที่กำลังยืนอยู่ สุดท้ายก็จะเข้าคอมมิวนิตี้ของจอมมารสินะ บางทีอาจจะเหมาะก็ได้ ถ้าเป็นคอมมิวนิตี้ของจอมมารเบลเซบับล่ะก็นะ
“ อืม ตัดสินใจได้ก็ดี แล้วนายจะเข้าคอมมิวนิตี้ของจอมมารคนไหนล่ะ เขามีตั้ง 2 คนนี่ ”
“ เบลเซบับแน่นอน ฉันไม่มีทางเข้ากับพวกหัวรุนแรงอย่างคอมมิวนิตี้ของลูซิเฟอร์หรอก ”
“ พูดอะไรระวังปากหน่อย ถ้ามีคนของคอมมิวนิตี้นั้นอยู่แถวนี้จะจบไม่สวยเอานะ ”
เมื่อฉันพูดออกไปแบบนั้นโซเลสก็หุบปากลงโดยแทบจะทันที แสดงว่าก็ยังรักตัวเองอยู่ งั้นคงไม่ต้องเป็นห่วงอะไรมาก
“ เอ่อคือ.. ขอโทษนะครับ แต่คุณผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงนั้นเนี่ย.. ใครเหรอครับ? ^^’’ ”
ราอุลยกมือถามขึ้นด้วยความสงสัย ฉันจึงหันไปมองหน้าผู้ชายที่เข้ามานั่งเงียบไม่ยอมพูดอะไรด้วยสายตาเรียบเฉยพร้อมกับสังเกตไปด้วยในตัว เขาเป็นผู้ชายเจ้าของเรือนผมสีขาวหม่นยาวถึงกลางหลัง กับดวงตาสีแดงคมกริบที่ดูไม่น่าไว้ใจอย่างน่าประหลาด ทั้งที่เขายังไมได้ทำอะไร แต่ทำไมฉันถึงได้รู้สึกกังวลแบบนี้กัน
“ หือ? อ้อ! หมอนี่ชื่อ เบล เราเจอกันระหว่างทางน่ะ เห็นว่ายังไม่มีคอมมิวนิตี้เหมือนกันก็เลยชวนมาด้วย ”
“ เขาไม่มีคอมมิวนิตี้เหรอครับ? ”
“ ไม่รู้สิ ก็ไม่เห็นจะมีตราสัญลักษณ์เลยนี่ ”
โซเลสว่าและยิ้มออกมาอย่างไร้ข้อกังวง มีเพื่อนเป็นคนมองโลกในแง่ดีเกินไปแบบนี้เนี่ยก็ลำบากเหมือนกันแฮะ ทั้งที่ไม่รู้จักมักคุ้นแต่กลับพามาด้วยถึงที่นี่ จะใจกว้างยังไงมันก็ต้องมีขอบเขตไม่ใช่หรือไง?
“ ไม่มีตราสัญลักษณ์ก็ใช่ว่าจะไม่มีคอมมิวนิตี้ อาจจะแค่เอาสัญลักษณ์ออกเฉยๆก็ได้นี่ ”
“ เจ้าอย่าคิดอะไรที่มันดำมืดแบบนั้นสิลูเคีย เป็นผู้หญิงแท้ๆ -3- ”
โซเลสพูดและเบ้ปากใส่ข้าอย่างต้องการจะสั่งสอน ทั้งที่แนวคิดของข้าเอาความเป็นจริงเป็นหลักแต่มาหาว่าดำมืดแบบนี้แสดงว่าโซเลสยังเป็นเด็กนัก ข้าคิดและมองหน้าโซเลสด้วยความไม่พอใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป
“ ฮะๆ ทั้ง 2 คนอย่าเพิ่งเคืองกันไปเลยนะดีกว่านะครับ ยังไงตอนนี้เราก็คุยกับเขากันก่อนดีกว่า เห็นนั่งเงียบอยู่ตั้งนานแล้วด้วย ^^’’ ”
ราอุลที่เห็นว่าชายตรงหน้าที่นั่งเงียบอยู่นั้นไม่ยอมพูดอะไรเอาแต่ยิ้มเพียงอย่างเดียวก็เสนอให้พวกเราทุกคนหันไปสนใจเขาบ้าง สมแล้วที่เป็นราอุล หันเหสถานการณ์ได้ดีจริงๆ
“ สวัสดี ฉันชื่อ เบล จากนี้ก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วย ^__^ ”
ชายหนุ่มผู้มีนามว่า เบล พูดออกมาด้วยรอยยิ้มสดใส ทำไมกันนะ ทั้งๆที่เขาก็ยิ้มอยู่ แต่ฉันกลับรู้สึกว่ามันเป็นรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยอะไรบางอย่าง อา.. แย่แล้ว ฉันจะคิดมากไปมากกว่านี้ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นฉันคงเครียดจน..
“ ..เบลสินะ.. นายเป็นตัวอะไรล่ะ? ”
“ หืม? ”
เบลเอียงคอลงทันทีด้วยความสงสัยเมื่อฉันถามออกไปแบบนั้น นี่เขาไม่เข้าใจคำถามของฉันเหรอ?
“ ก็อย่างที่รู้กันว่าในโลกคู่ขนานแห่งนี้มีอะไรหลายอย่างอยู่รวมกันปะปนไปหมด ทั้งภูตผี วิญญาณ ปีศาจ จอมมาร เทพเจ้า นายก็ต้องเป็นอะไรสักอย่างในอะไรพวกนี้ใช่ไหมล่ะ? ”
“ อ้อ.. ฉันเป็น.. ปีศาจ หรือเปล่านะ? ช่างเถอะ แล้วพวกเธอล่ะเป็นอะไรกัน ทำไมถึงได้ดุเหมือนมนุษย์กันจังล่ะ หรือว่าจะเป็นปีศาจสายพันธุ์ใหม่กันอย่างนั้นเหรอ? ”
เบลพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม แต่ภายใต้รอยยิ้มนั้นก็รู้สึกได้ถึงความใคร่สงสัย ดูเหมือนว่าผู้ชายคนนี้ก็คงจะพอรู้เรื่องอะไรอยู่บ้าง แต่ก็คงจะไม่ได้รู้อะไรเยอะขนาดนั้นสินะ เพราะขนาดเรื่องพื้นฐานขนาดนี้ยังไม่ค่อยจะรู้เรื่องเลย..
“ ฉันเป็นครึ่งมนุษย์กับซาตาน ชื่อ ลูเคีย โดยปกติแล้วฉันต้องอาศัยอยู่ที่โลกมนุษย์ แต่เพราะได้เชื้อของซาตานมามากกว่าก็เลยต้องมาอยู่ที่นี่กับพ่อ ส่วนหมอนี่ชื่อ โซเลส เป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งหมาป่า แล้วก็หมอนี่ ชื่อ ราอุล เป็นครึ่งคนครึ่งเทพ พวกเราล้วนแต่มีเชื้อทางเทพหรือปีศาจมากกว่ามนุษย์ก็เลยต้องมาอยู่ที่นี่ ถึงจะบอกว่ามีเชื้อมนุษย์แต่ก็มีแค่ 1 ใน 100 เท่านั้น ดังนั้นจะเรียกว่าพวกเราเป็นปีศาจไปเลยก็ได้ ”
“ ..ครึ่งเทพ กับ ครึ่งซาตาน.. มาเป็นเพื่อนกันแบบนี้ไม่เป็นไรเหรอ? ^^ ”
เบลถามออกมาด้วยรอยยิ้ม ฉันกับราอุลจึงหันมามองหน้ากันเล็กน้อย นั่นสินะ ถ้าพูดกันตามความเป็นจริงแล้วฉันกับราอุลเป็นเพื่อนกันไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่มันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรถึงได้เป็นเพื่อนกันมาอยู่ตลอด ความจริงแล้วมันผิดไหมนะ?
“ ไม่เป็นไรหรอกครับ ถึงจะเป็นประเภทที่ดูเข้ากันไม่ได้ แต่พวกเราก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันนะครับ ”
ราอุลพูดออกไปด้วยรอยยิ้มหลังจากที่ชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ฉันสังเกตเห็นราอุลเหงื่อตกเล็กน้อย แต่ก็คงจะสรุปให้มันเป็นแบบนั้นไป เพราะว่าความจริงพวกเราก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แถมฉันกับราอุลก็มีปัญหากันแทบจะนับครั้งได้ ไม่สิ เรียกว่าไม่เคยเลยจะดีกว่า เพราะโดยปกติแล้วราอุลมักจะเป็นคนที่ยอมคนอื่นอยู่เสมอ ก็เลยไม่ค่อยมีปัญหากับใคร ดังนั้นพวกเราก็เลยคบกันได้ล่ะมั้ง..
“ หืม.. งั้นเหรอ? ”
เบลพูดและจ้องฉันกับราอุลไม่วางตา แต่เรื่องนั้นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือเขาดูน่าสงสัยเกินกว่าที่จะไว้ใจได้ อีกทั้งยังทำตีเนียนเข้ามาถามนู่นถามนี่อีก หวังว่านี่คงจะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับการรับสมาชิกเข้าคอมมิวนิตี้ของจอมมารเบลเซบับที่ฉันขอไปหรอกนะ
“ เอาล่ะ หยุดคุยเรื่องหยุมหยิมไว้แต่เพียงเท่านี้ เรามาช่วยกันหาหนทางที่เราจะได้เข้าไปในคอมมิวนิตี้ของจอมมารเบลเซบับกันดีกว่า ”
โซเลสพูดขึ้นเป็นการทุกการสนทนาที่กำลังดำเนินการอยู่ ทำให้ฉันที่ยืนจ้องหน้าเบลไม่วางตาต้องหันไปสนใจโซเลสแทน บางทีฉันควรจะบอกเขาว่าฉันไปขอร้องคนในคอมมิวนิตี้ของจอมมารเอาไว้ให้แล้ว แต่ถ้าบอกไปเจ้าพวกนี้ก็คงจะเฉื่อยแฉะและรอผลกันอย่างเดียว ดังนั้นก็ให้ทำตัวให้กระฉับกระเฉงเอาไว้ก่อนเพื่อเพิ่มโอกาสในการตรวจสอบก็แล้วกัน
“ ผมคิดว่าเราควรเข้าไปคุยกับเขาที่คอมมิวนิตี้โดยตรงครับ ”
“ อืม.. การพุ่งเข้าชนก็เป็นสิ่งที่ดีอยู่หรอกนะ แต่คอมมิวนิตี้ของเบลเซบับน่ะมีคนคอยคุ้มกันแน่นหนา เข้าไปไม่ได้ง่ายขนาดนั้นหรอก ”
“ งั้นก็ไปเผาคอมมิวนิตี้แล้วล่อให้เบลเซบับออกมาเป็นไง? ”
“ ทำแบบนั้น โดนฆ่าแน่ ”
ทำไมไอ้เจ้าพวกนี้มันถึงได้โง่กันแบบนี้นะ ทั้งๆที่ที่นี่คือโลกคู่ขนานแต่กลับคิดอะไรธรรมดากันอย่างกับอยู่ในโลกมนุษย์ ถ้าอยากจะมีคุณสมบัติพบกับจอมมารจริงมันก็มีอีกวิธีหนึ่งไม่ใช่หรือไง
“ ตีมังกร.. ”
เมื่อฉันพูดขึ้นไปแบบนั้น ทุกคนก็หันมามองหน้าฉันกันเป็นตาเดียว
“ ในโลกคู่ขนานแห่งนี้มีการรวมกลุ่มกันเป็นทีมโดยที่ไม่ใช่คอมมิวนิตี้อยู่ การสร้างทีมนั้นก็ไม่ได้ยุ่งยากเหมือนกับการสร้างคอมมิวนิตี้ ไม่จำเป็นต้องมีคนครบและไม่จำเป็นต้องมีใบรับรองความสามารถ แค่ไปลงชื่อเข้าแข่งขันและติดสัญลักษณ์เป็นสีเดียวกันเอาไว้ที่เสื้อก็ถือว่าเป็นทีมเดียวกัน โดยปกติแล้วเขามักจะมีกันทีมละ 4 คน จุดประสงค์ก็เพื่อการทำภารกิจ และสิ้นสุดที่การตีมังกร แต่ก็นะ ไม่ได้มีแค่ปาร์ตี้เดียวที่อยากจะไปตีมังกร ดังนั้นการโจมตีทีมของคนอื่นก็เป็นส่วนหนึ่งในเกมเช่นกัน ”
“ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการที่อยากจะเข้าคอมมิวนิตี้ของจอมมารล่ะ? ”
“ ..ท้ายที่สุดแล้ว จะมีเพียงทีมเดียวเท่านั้นที่ได้เข้าไปประทะกับมังกร ทีมใดที่สามารถจัดการมังกรได้.. จะได้รับพรวิเศษคนละ 1 ประการจากคอมมิวนิตี้อพอลโล่ แน่นอว่าจะขออะไรก็ได้ อย่าว่าแต่ขอเข้าคอมมิวนิตี้ของจอมมารเลย ขนาดขอให้คืนชีพคนที่ตายไปแล้วขึ้นมาใหม่ก็ยังได้ แล้วแบบนี้จะไม่ไปตีมังกรกันเหรอ? ”
ฉันพูดและดันแว่นขึ้นเล็กน้อยให้พอเป็นพิธี โซเลสกับราอุลจึงหันมามองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมายทันทีที่ได้ฟังในสิ่งที่ฉันพูด ดูเหมือนว่าจะเข้าใจแล้วสินะ
“ ยอดเลย! นี่ฉันไม่เคยรู้เลยนะเนี่ยว่ามีกิจกรรมอะไรแบบนี้อยู่ด้วย ”
“ นั่นสิครับ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน คุณลูเคียเนี่ยรอบรู้จังเลยนะครับ ”
“ ความจริงแล้วมันก็ไม่ใช่สิ่งที่อายุอย่างพวกเราควรจะรู้หรอก แต่ฉันเคยไปนั่งเชียรพ่อที่ข้างสนาม ก็เลยรู้น่ะ ”
เมื่อฉันพูดออกไปแบบนั้นทุกคนก็หันมามองหน้าฉันกันอีกครั้ง ทำไม? ฉันพูดอะไรไม่ดีออกไปหรือไง?
“ ขอประทานโทษนะครับท่านลูเคีย แต่พ่อของท่านเนี่ยเป็นซาตานใช่ไหมครับ? ”
“ ใช่ ”
“ เอ่อคือว่านะลูเคีย พวกเราน่ะสู้มังกรที่ขนาดซาตานยังอยากเข้าไปสู้ด้วยไม่ได้หรอก มันสูงเกินไป ใช่ไหมเบล? ”
โซเลสพูดและหันไปขอคำตอบสมทบจากเบล ซึ่งเบลก็พยักหน้ากลับมาให้โดยแทบจะทันทีแบบไม่ต้องคิด นั่นสินะ พวกเรายังเป็นมือใหม่อยู่ จะให้ไปสู้กับมังกรระดับที่พ่อสู้เลยมันก็คงจะไม่ดี แต่นอกจากทางนี้แล้วก็ไม่มีทางอื่น แล้วจะให้ทำยังไงล่ะ?
“ งั้นก็ไปสู้กับอย่างอื่นที่ไม่ใช่มังกรสิครับ มีไหมล่ะครับคุณลูเคีย? ”
ราอุลถามขึ้นด้วยความสงสัย ฉันจึงทำท่าครุ่นคิดเล็กน้อย นั่นสินะ ถ้าไม่ตีมังกรล่ะก็..
“ ถ้าจำไม่ผิด นอกจากมังกรแล้วก็ยังมีไอ้นั่นอยู่นี่ ฉันว่าพวกนายน่าจะรู้จักนะ ถ้ำของพวกจอมมารน่ะ ”
“ ถ้าไอ้นั่นฉันรู้จักนะ ไอ้ที่มี 2 ถ้ำแล้วแยกออกเป็นถ้ำคอมมิวนิตี้ของลูซิเฟอร์กับถ้ำคอมมิวนิตี้ของเบลเซบับใช่ไหม? ”
เบลพูดออกมาด้วยท่าทีสนอกสนใจไม่น้อย ซึ่งก็เป็นอีกครั้งที่โซเลสกับราอุลหันมามองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย นี่เจ้า 2 คนนี้มันไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยสินะ
“ ใช่ ไอ้นั่นแหละ ที่ว่าถ้าเคลียร์ได้จะได้อะไรมาสักอย่าง แล้วสามารถยื่นผ่านเข้าไปหาจอมมารได้ แต่ต้องไปให้ถูกถ้ำนะ อยากเข้าคอมมิวนิตี้ของเบลเซบับก็ต้องไปเข้าถ้ำเบลเซบับ ไม่ใช่ไปเข้าถ้ำลูซิเฟอร์ล่ะ ”
“ แล้วมันอยู่ที่ไหนล่ะไอ้ถ้ำนั่นน่ะ ”
โซเลสถามออกมาด้วยความสงสัย ซึ่งราอุลเองก็ดุท่าว่าจะสงสัยเช่นกันจึงได้หันมามองหน้าฉันอย่างต้องการคำตอบ นี่มั่นใจนะว่าอยากจะเข้าคอมมิวนิตี้ของจอมมาร ไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง
“ ข้างคอมมิวนิตี้ของจอมมารพวกนั้น มีถ้ำอยู่ตรงนั้นแหละ เราสามารถเข้าไปได้โดยที่พวกที่เฝ้าอยู่หน้าประตูคอมมิวนิตี้ไม่ว่าอะไร ขอบอกเอาไว้ก่อนเลยนะว่าฉันไม่รู้ว่าข้างในมันมีอะไรบ้าง ดังนั้นถ้าอยากจะเข้าไปก็ต้องคิดให้ดี ว่าไงล่ะ จะเข้าไปไหม? ”
ฉันถามและมองหน้าของ 3 คนที่นั่งอยู่ในซอกนี้ด้วยความจริงจัง เจ้าพวกนั้นจึงลอบมองหน้ากันอย่างชั่งใจ ก่อนที่ราอุลจะตอบออกมา
“ ผมว่าลองไปดูก็ไม่เสียหายนะครับ ยังไงเราก็ไม่มีทางเลือกอยู่แล้วนี่ ”
“ อืม มันก็ยังดีกว่ามานั่งอยู่แบบนี้แหละ เราไปกันเถอะลูเคีย ”
โซเลสกับราอุลตัดสินใจและหันมาพูดกับฉันด้วยความแน่วแน่ งั้นก็หมายความว่าจะไปที่ถ้ำนั่นแล้วเอาของที่ก็ไม่รู้ว่าคืออะไรนั่นกลับมาสินะ
“ ถ้าอยากไปก็ได้อยู่หรอก เดี๋ยวฉันเขียนแผนที่ให้ก็แล้วกัน ”
ฉันพูดและหยิบกระดาษกับปากกาที่ใส่ไว้ข้างกระเป๋าออกมาเพื่อเขียนแผนที่ถ้ำให้กับพวกโซเลส แต่กลับถูกมือของราอุลจับเอาไว้เสียก่อน
“ อ..เอ่อ.. คุณลูเคียไม่ได้จะไปด้วยกันเหรอครับ? ”
“ เรื่องสิ ฉันไม่ได้อยากเข้าคอมมิวนิตี้สักหน่อย เดิมทีนี่มันก็ไม่ใช่เรื่องของฉันเลยนะ ช่วยขนาดนี้ก็ดีแค่ไหนแล้ว ”
“ เฮ้ย.. เอาจริงดิ.. ป่านนี้แล้วเนี่ยนะ ทั้งที่เธอช่วยหาหนทางให้ตั้งขนาดนั้นแต่กลับมาบอกเอาตอนนี้ว่าไม่ไปด้วยเนี่ยนะ? ไหนตอนที่ฉันบอกว่าจะตั้งคอมมิวนิตี้ยังเห็นดีเห็นงามด้วยอยู่เลย ”
“ ใครว่าฉันเห็นดีเห็นงาม พวกนายอยากสร้างฉันก็แค่จะเข้าด้วยเพราะไม่อยากเรื่องมากอยู่คนเดียว แต่จะให้เข้าคอมมิวนิตี้ของจอมมารน่ะไม่เอาหรอก ฉันขี้เกียจต่อสู้ -__-^ ”
ฉันพูดออกไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย ราอุลกับโซเลสจึงเงียบขึ้นมาทันที เฮอะ ไอ้พวกน่ารำคาญพวกนี้ ฉันช่วยตั้งขนาดนี้แล้วยังจะให้ฉันไปด้วยอีก บ้าหรือไง
“ ..ไม่อยากเข้าคอมมิวนิตี้ของจอมมาร หรือว่ากลัวกันแน่ เธอคงจะกลัวที่จะเข้าไปในถ้ำของจอมมารใช่ไหมล่ะ? ^^ ”
กึก..
คำพูดของเบลทำให้ฉันชะงักมือที่กำลังเขียนแผนที่อยู่ลงโดยแทบจะทันที กลัวเหรอ? ฉันเป็นถึงลูกสาวของซาตานผู้ยิ่งใหญ่ แล้วทำไมฉันจะต้องกลัวด้วย คนที่ต้องกลัวน่ะมันทางนั้นต่างหาก
“ ก็ได้ ถ้านายพูดแบบนั้นฉันก็จะไปด้วย นายจะได้รู้ว่าไม่ควรมาแหย่ลูกสาวซาตานอย่างฉัน ”
“ แล้วฉันจะรอดูนะคุณลูกครึ่งซาตานผู้มืดมน ^^ ”
เบลพูดออกมาด้วยรอยยิ้มแสนซน ก็ดี.. ฉันก็อยากจะรู้นักว่าปากแบบนี้จะมีความสามารถแค่ไหน แล้วเราจะได้เห็นกันไอ้คนน่าสงสัย - -*
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ