เทพป่วน กับ เด็กเป๋อ
เขียนโดย นิกซ์
วันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2559 เวลา 15.08 น.
แก้ไขเมื่อ 19 มีนาคม พ.ศ. 2560 23.27 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) บทที่ 4 เจ้าชาย เด็กเป๋อ และ เทพบุตร
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหลังจากที่เดินเที่ยวกันมาทั้งวัน มอร์แกนกับมาอีมก็หยุดพักที่สวนสาธารณะ เวลานี้ก็เย็นมาก ผู้คนบางตา มอร์แกน นำสมุดเล่มเล็กมาจดบางอย่าง มาอีม ชะโงกหน้าดูด้วยความอยากรู้
“เจ้าจดอะไรน่ะ”
“ไม่บอก”
“เจ้าไม่คิดจะพักบ้างรึไง”
“ชั้นไม่ได้อยู่สุขสบายเหมือน พวกเทพบนสวรรค์นะ สำหรับชั้น มนุษย์ขืนวันๆเอาแต่กินนอน ไม่ทำงานหรือทำอะไรที่เป็นประโยชน์อะไรเลย ก็ไม่ต่างจากหมูหรอกนะ”
นี่เป็นอีกครั้งที่ มาอีม รู้สึกอึ้งในคำพูดของ เด็กสาวที่ภายนอกดูเป๋อๆ ใช่ผู้ที่เอาแต่กินนอน ย่อมไม่ต่างจากหมู
มาอีมเหม่อมองบนท้องฟ้าในยามเย็น
“คิดถึงสวรรค์รึ”
“นิดหน่อย”
“กลับกันเถอะ”
“ก็ดี”
พอมอร์แกน กลับมาถึงหอพักก็อาบน้ำเปลี่ยนชุดเป็นชุดนอน เธอเปิดตู้เย็นหยิบแซนวิซแฮมไข่ ที่ทำไว้เมื่อเช้าออกมากินพร้อมนมสดหนึ่งกล่อง มันเป็นมื้อที่เรียบง่าย แต่ได้ประโยชน์ ทำให้เธอมีแรงทำโปรเจคต่อ
มาอีม มองเด็กสาวที่กำลังพิมพ์งานพลางดูหนังสือเล่มหนา “ทำอะไรรึ”
“งาน โปรเจคของมหาลัย และจะเตรียมการสอนในวันพรุ่งนี้”
“นอนพักเถอะ เธอเหนื่อยมาทั้งวันนะ”
“ไม่ล่ะ นี่เป็นหน้าที่และงานของชั้น ถ้าชั้นไม่ทำ ชั้นก็ไม่มีเงินมาซื้อข้าวกิน และจ่ายค่าเทอมน่ะสิ”มอร์แกนร่ายยาวในขณะที่ตาสีฟ้ายังไม่ล่ะจากหน้าจอคอม สำหรับเธอนั้นเรื่องการแยกประสาทสัมผัสถือเป็นเรื่องง่ายๆ
“พ่อแม่เธอล่ะ” “เสียแล้ว เมื่อห้าปีก่อนเพราะอุบัติเหตุ”
“ไม่มีญาติเหรอ”
“ไม่มี พวกเค้าตัดขาดจากชั้น โชคยังดีที่พ่อแม่มีเงินประกันไว้ แต่ชั้นก็ต้องทำงานพิเศษน่ะ ไม่งั้นไม่พอกินหรอก”
มาอีม อดสงสารไม่ได้ เธอคนนี้ยืนหยัดด้วยลำแข้งของตนเอง งานนี้ทำเอาเค้าเริ่มรู้สึกผิดแล้วสิ ที่จะมาป่วนให้เธออู้งาน เค้าเอ่ยอย่างห่วงใย
”พักสักนิดเถอะ พรุ่งนี้มีอะไรรึเปล่า”
“มีตอนเย็นๆน่ะ ไปสอนหนังสือ”
“เหรอ…”ในหัวของมาอีมเริ่มคิดแผนบางอย่างให้เธออู้งานได้แล้ว
ห้าทุ่ม
มอร์แกนตั้งนาฬิกาปลุกเวลาหกโมงเช้าตามปกติ ก่อนจะนอน เธอเอ่ยถามมาอีม
“มาอีม นายจะนอนตรงไหน?”
“บนนี้แหละ”เทพบุตรหนุ่มลอยตัวนอนบนอากาศข้างๆเตียงเล็กๆของมอร์แกน
“ราตรีสวีสดิ์”
“ราตรีสวัสดิ์”
เวลาผ่านไป มาอีมแสร้งทำเป็นนอนนิ่งๆ รอ…รอจนได้ยินลมหายใจสม่ำเสมอของสาวร่างท้วมที่หลับสนิทบนเตียงเล็กๆ
เทพบุตรหนุ่มเอ่ยเสียงแผ่ว“ดูๆไปแล้ว ก็น่ารักดี แต่ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้เจ้าต้องตื่นสาย”
ว่าแล้วเทพบุตรมาอีมก็จัดการเลื่อนเวลาปลุกเสีย
หกโมงเศษๆ
มาอีม ตกใจสุดขีด ที่จู่ๆมอร์แกนก็ลืมตาตื่นขึ้น เทพบุตรหนุ่มขยี้หัวอย่างขัดใจ
มอร์แกนไม่ได้สังเกตใบหน้าของเทพบุตรหนุ่ม เธอหาววอดๆก่อนจะบิดขี้เกียจสามสี่ที พอเธอหันหน้าไปดูเทพบุตรที่มา ป่วนเธอให้อู้งาน กำลังขยี้หัวอย่างขัดใจ
“เป็นอะไรไป ทำไม หงุดหงิดแบบนั้น”
มาอีม พูดไม่ออก มอร์แกนมองนาฬิกาที่ตั้งอยู่บนหัวนอน
“อ้าว ทำไมมันปลุกแปดโมงได้ล่ะเนี่ย”
มาอีมนิ่งเงียบ ในขณะที่เด็กสาวเกาหัวแกร็กๆ”สงสัยจะเบลอล่ะมั้ง”
เทพบุตรหนุ่มลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก ดีที่เธอเซ่อไม่รู้ว่าเค้าแอบเลื่อนเวลาปลุกไป
“ว่าแต่ทำไมเจ้าถึงตื่นเช้าได้ล่ะเนี่ย”
มอร์แกนลุกขึ้นไปหยิบน้ำจากตู้เย็นมาดื่มอึกหนึ่งก่อนจะตอบ”สงสัย คงเป็นเพราะ เคยชินล่ะมั้ง”
“เคยชิน”นี่นางต้องตื่นเช้าขนาดนี้แทบทุกวันเชียวหรือ นางช่างต่างจากเค้าที่เป็นเทพบุตรอยู่บนสรวงสวรรค์ที่จะหลับหรือตื่นในยามใดก็ได้ ยกเว้นยามทำงาน”ข้าว่าบางครั้งเจ้าควรจะพักผ่อนให้เต็มที่นะ”
“ขอบใจนะ ที่เป็นห่วง”เด็กสาวยิ้มให้อย่างจริงใจ
มาอีมคิดในใจ…ยัยนี่มันจะเซ่อไปไหนฟะเฮ้ย…
หลังจากที่มอร์แกนล้างหน้าแปรงฟันแล้ว เธอก็เริ่มทำมื้อเช้าทันที ที่แสนจะเรียบง่ายแต่ได้ประโยชน์ อันได้แก่ ไข่ดาว เบคอน ขนมปังปิ้ง และสลัดผัก ตลบท้ายด้วยกาแฟ จากนั้น มอร์แกนก็ลงมือทำมื้อเที่ยง และเย็นเก็บไว้ทันที อันได้แก่ มักกะโรนีชีส และ สลัดผัก
มาอีม มองอาหารเช้าที่แสนน่าทานด้วยตาเป็นประกาย เค้าอยากจะรู้เหลือเกินว่า อาหารที่กลิ่นหอมยั่วยวนใจนี้จะอร่อยสักแค่ไหน จะอร่อยสู้ของกินบนสวรรค์ได้รึไม่
มอร์แกนที่กำลังดื่มกาแฟพลางอ่านหนังสือพิมพ์ที่เพิ่งไปหยิบมาจากหน้าห้อง เริ่มสังเกตว่าโดนจ้องมอง เธอรู้ทันทีว่า มาอีม อยากจะกินอาหาร
เด็กสาวขมวดคิ้ว”ถามจริง พวกเทวดาสามารถกินอาหารมนุษย์ได้ด้วยเหรอ”
มาอีมที่กำลังจ้องมองอาหาร เงยหน้าขึ้นมา”น่าจะนะ พวกเราไม่จำเป็นต้องกินก็ได้ พวกเราเป็นอมตะ จนกว่าเวลาบนสวรรค์จะหมดลง”
มอร์แกนจิ้มเบคอนยื่นให้”กินสิ”
“จะดีเหรอ”
“แค่เบคอน ชิ้นเดียวไม่เป็นไรหรอก ชั้นยังมีของกินอีกเยอะ”
มาอีมอ้าปากกินเบคอน แสนอร่อย สีหน้าของเทพบุตรหนุ่มนั้นกำลังเคี้ยวเบคอนอย่างเอร็ดอร่อยและมีความสุข”อร่อยจัง อาหารบนโลกมนุษย์ไม่นึกว่าจะอร่อยขนาดนี้”
พอมอร์แกนกินไข่ดาวไปคำหนึ่ง มาอีมก็อ้าปากรอ…
เด็กสาวจึงตัดสินใจแบ่งอาหารเช้าของตนแบบครึ่งๆ ให้กับ เทพบุตรที่อ้าปากรอ
เธอป้อนไข่ดาวให้ จากนั้นเธอกินกินมื้อเช้าส่วนของตัวเองสลับกับการป้อนเทพบุตรหนุ่ม
หลังจากล้างจาน อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ มอร์แกน แต่งกายด้วยชุดสบายๆเป็นเสื้อยืดแขนยาวสีเหลืองอ่อน สวมเสื้อคลุมสีเขียวไข่กาทับ คู่กับรองเท้าผ้าใบสีดำ ผมสีน้ำตาลรวบเป็นหางม้า จากนั้นเธอก็สะพายกระเป๋า
“จะไปไหนอ่ะ”
“ห้องสมุด”
“ไปทำไมอ่ะ “
“หาความรู้เพิ่ม”
มอร์แกนเดินทางไปยังห้องสมุดของมหาลัยโดยมีเทพบุตรเจ้าปัญหาตามมาติดๆ ถึงแม้ว่าจะรู้สึกรำคาญ ที่เทพบุตรหนุ่ม พยายามชวนพูดคุยตลอดเวลา
เด็กสาวมองซ้ายแลขวาเห็นว่าไม่มีใครจึงเอ่ยเสียงแผ่วโดยไม่ได้ล่ะสายตาจากหนังสือ”หุบปากซะ”
มาอีมเมื่อได้ยินคำพูดออกจากปากเด็กสาว เค้าต้องชะงัก รู้สึกเหมือนกับว่ามีใบหน้าของใครบางคนทับซ้อน ใบหน้าของเธออยู่
ช่วงเที่ยง
มอร์แกนไปที่สวนสาธารณะของมหาลัย แล้วเลือกมุม เงียบๆที่เป็นที่ประจำของเธอ มื้อเที่ยงที่เธอห่อมาด้วยนั้นมี มักกะโรนีชีส และแอปเปิ้ลเขียวดูน่ากิน
มาอีม มองอาหารที่เย็นชืดแล้วอย่างหน่ายใจ”เจ้ากินอาหารเย็นชืดแบบนี้ทุกวันเลยรึ”
“ไม่นะ ถ้าอยู่ห้องพักก็จะอุ่นได้ แต่เย็นแบบนี้ก็ไม่ได้ทำให้เสียรสชาตินะ”
“อ้าๆ”
เด็กสาวพยายามกลั้นขำกับกิริยาที่ไม่ต่างจากเด็กน้อยที่รอให้แม่ป้อนข้าวให้
เธอตักมักกะโรนีให้คำหนึ่งป้อนมาอีม
มักกะโรนีที่มอร์แกนทำนั้น มาอีมเคี้ยวไปอย่างเอร็ดอร่อย เพราะไม่นึกว่า อาหารที่เย็นชืดจะอร่อยขนาดนี้ ถ้ายังร้อนๆจะอร่อยขนาดไหน
มอร์แกนจึงแบ่งมื้อเที่ยงของตนเป็นสองส่วน เท่าๆกัน เพราะเธอรู้ดีว่าพ่อเทพบุตรจอมอู้ต้องอ้าปากขอให้ป้อนอีกแน่ๆ
มาอีมที่อร่อยกับอาหารมนุษย์ เห็นว่า เด็กสาวต้องทำงาน หากแบ่งอาหารให้กับเค้าแล้ว นางจะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนไปทำงานเล่า
“ไม่ต้องป้อนข้าหรอก ข้าแค่อยากลองกินดูว่าอร่อยแค่ไหนก็เท่านั้น”
“เหรอ”
“ใช่”มาอีมหันหลังให้
มอร์แกนยักไหล่ก่อนจะลงมือกินอาหารจนหมด
ขณะที่มอร์แกนกำลังกัดกินแอปเปิ้ลอยู่นั้น “นี่ๆบนสวรรค์น่ะ สบายไหม”
“สบายสิ แต่เทพบุตรเทพธิดาทั้งหลายก็มีหน้าที่ของตน หากใครละเลย หน้าที่จะต้องโดนลงโทษ หากกระทำผิดก็ถูกลงโทษเช่นเดียวกัน”
“เหรอ”
มอร์แกนนั่งพักท้องอยู่นานพอสมควร ก็มองนาฬิกา “ใกล้เวลาแล้ว “
เด็กสาวจึงเก็บกล่องข้าว แล้วสะพายกระเป๋าเดินทางไปทำงาน สอนพิเศษโดยมีมาอีม บินตามมาติดๆ
พอเด็กสาวเดินทาง มาถึงหอพักสุดหรู มอร์แกนคิดเลยว่าถ้าไม่กระเป๋าหนักจริง คงไม่สามารถเช่าอยู่ได้แน่
มาอีม มองดูที่ๆมอร์แกน มานั้น ช่างแตกต่างกับที่ๆเธออยู่เสียเหลือเกิน
พอเด็กสาวติดต่อผู้ว่าจ้าง จากนั้น ก็มีอาลี ผู้ว่าจ้างคอยนำทางเธอไปยังที่ๆคนที่เธอต้องสอนอยู่
มอร์แกนแสนจะนิ่งเฉยกับที่อยู่อันแสนหรูหราซักเท่าไหร่
“ถึงแล้วครับ”
พออาลีเปิดประตู ก็พบชายหนุ่มรูปหล่อ ผมดำ ผิวแทนเข้ม ตาสีดำ รูปร่างผอมสูงในชุดสูท ราคาแพง ที่ปลดกระดุมเสื้อหลายเม็ด เค้ากำลังดื่มไวท์ พลางโอบไหล่สาวสวยผมทองยาวสยาย หุ่นสะบึ๋ม ในชุดวาบหวิวสีแดงสด
มอร์แกนพอจำได้ เค้าคือ เจ้าชายฟาริค แห่งประเทศอิมาริค ที่อยู่ในตะวันออกกลาง ที่เลื่องชื่อเรื่อง แร่ธาตุต่างๆ เค้าเป็นนักศึกษาที่มาศึกษาที่ฮาร์วาร์ด หากแต่เค้าอยู่แค่ปีสอง
เธอหันไปหาอาลี”คุณคงพาชั้นมาผิดห้องล่ะมั้ง”
“ไม่ผิดหรอกครับคุณมอร์แกน นี่คือเจ้าชายฟาริค โอเวนรีค คนที่คุณต้องสอนน่ะครับ ”ชายชราเอ่ยขึ้น
ชายหนุ่มมองมาที่คนที่จะทำหน้าที่สอน พลางแบะปากถาม“นี่อาลี อย่าบอกนะว่า ยัยเด็กเป๋อนี่ เป็นคนสอนชั้น”
หน้าของมอร์แกนหงิกกลง ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นแย้มยิ้ม จากนั้นก็จัดการจิกนิ่มๆ”เป๋อแล้วไง เป๋อแล้วฉลาดกว่านายก็แล้วกัน”
หญิงสาวที่เป็นคู่ควงผุดลุกขึ้นเงื้อมือหมายจะตบหน้า ยัยเด็กเป๋อ”ปากดีนะ”
มอร์แกนจับมือของสาวสวยไว้ ก่อนจะออกแรงบีบเล็กน้อยและสำหรับหญิงสาวที่โดนจับแขนไว้ มันไม่น้อยเลย”คิดจะทำอะไรเหรอคะ ป้าถุงกาแฟ?”
“แกว่าอะไรนะ”
“ป้าถุงกาแฟไง นี่ป้าไม่รู้เรอะ อกตู้มๆที่ไปเสริมมาน่ะ พอแก่ไปมันก็จะหย่อนยานเหมือนถุงกาแฟยังไงล่ะ”
“นี่แก!”
หญิงสาวเงื้อมือจะตบหน้าเด็กปากเสีย ก็โดนคว้ามือไว้อีกข้าง
มอร์แกนแสยะยิ้ม”บอกไว้ก่อนนะป้า ชั้นไม่เคยทำใครก่อน หึหึ อยากสิรีโคนหลุดออกนอกเต้าไหม ป้า”ว่าแล้ว เธอก็ผลักหญิงสาวจนล้มก้นจ้ำเบ้า
อาลีเห็นท่าไม่ดีจึงรีบห้าม” คุณเมเดน หยุดเถอะครับ “
พอมอร์แกนหันหน้าไปคุยกับอาลีด้วยสีหน้าเรียบเฉย”อาลี ชั้นขอไม่รับงานนี้นะค่ะ เพราะดูแล้ว เค้าไม่อยากเรียน หาคนอื่นมาสอนเถอะคะ ขอตัว”
เด็กสาวตั้งท่าจะหันกลับ หญิงสาวที่ล้มก้นจ้ำเบ้าก้ลุกขึ้นจะตบมอร์แกนหากแต่เด็กสาวจับมือข้างนั้นไว้ได้ “นี่ป้า ชั้นว่าจะไม่ทำแล้วนะ นี่น่ะคือการสั่งสอน”
มอร์แกนกำหมัดแน่น แล้วชกเข้าที่ท้องของหญิงสาวเต็มแรง
ใบหน้างามที่ตกแต่งเครื่องสำอางสีจัดนั้นบิดเบี้ยวเพราะความจุกปนเจ็บปวด เธอทรุดลงกับพื้น
เจ้าชายฟาริค ตัวสั่นเพราะความกลัว …หน้าเป๋อๆแต่พิษสงรอบตัวเลย…
อาลีพยายามกล่อมเด็กสาว”ขอร้องล่ะครับรับงานนี้เถอะ งั้นเราเพิ่มค่าตอบแทนสามเท่าเลยนะครับ “
มอร์แกนมองคนที่เธอจะต้องสอนที่ตอนนี้หน้าซีดเป็นไก่ต้ม
“ดูท่า เค้าคงไม่อยากจะเรียนกับชั้นนะค่ะ อีกอย่างเกิดสอนไปสอนมา ชั้นอาจจะ อดทนไม่ไหว สะบันหน้าเค้าก็ได้ ขอตัวก่อน”
ฟาริคถอนหายใจแต่ก็ไม่วายแขวะ”ใครเค้าอยากจะเรียนกับเด็กเป๋ออย่างเธอกัน”
มอร์แกนเอ่ยขึ้น”ใครเค้าอยากจะสอน คนไม่ได้เรื่องกันล่ะ เสียเวลา อาลี”เด็กสาวเว้นช่วงอยู่ครู่ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา”ชั้นยังมีโปรเจคที่ต้องทำ ในปีสุดท้ายนะ หาคนอื่นสอนเถอะ นักศึกษาปริญญาโท ปีสุดท้ายอย่างชั้นไม่ได้มีเวลาว่างมากนักหรอกนะค่ะ”
ฟาริคตาโต”ธะ…เธอเรียนอยู่ชั้นไหนคณะไหน ยัยเด็กเป๋อ”
มอร์แกนไม่สนใจเดินกลับไปทันที ด้วยความเอือมระอา ให้ตายสิ มันเสียเวลาเธอจริงๆ
เจ้าชายหนุ่มวิ่งขวางหน้าเด็กสาว”ตอบคำถามชั้นก่อนสิ”
มอร์แกนตอบด้วยความรำคาญ”ชั้นชื่อ มอร์แกน เมเดน จบปริญญาตรีจากมหาลัยฮาร์วาร์ด คณะรัฐศาสตร์ ตอนนี้กำลังศึกษาต่อปริญญาโทปีสุดท้าย คณะวิทยาศาสตร์ มหาลัยฮาร์วาร์ด”
เจ้าชายฟาริคตะลึง ไม่นึกว่ายัยเด็กที่เค้าว่าป้ำๆเป๋อๆนั้น จะมีดีกรีดีขนาดนี้
“อายุเธอเท่าไหร่กันแน่”
“สิบแปด”
เสียงหวานเอ่ยขึ้น”ก็ดีกรีดี ขนาดนี้ยังไงล่ะ พี่ถึงให้มาสอนแก ฟาริค”
ทั้งคู่หันไปทางต้นเสียง ก็พบกับหญิงสาวหุ่นเซ็กซี่ ในชุดสูทสุดหรู ผมสีดำดัดลอนปรายๆ ตาสีดำฉายแววมั่น ใบหน้าตกแต่งด้วยเครื่องสำอางอย่างประณีต รวมๆแล้วเธอคือสาวสวยสุดมั่น
ฟาริคเอ่ยขึ้น”พี่ฟารี”
ฟารียิ้มน้อยๆก่อนจะอธิบายสรรพคุณของครูสอนพิเศษน้องชายตัวดี”เธอคนนี้ ถือว่าเป็นรุ่นพี่ของแกเลยนะฟาริค เคารพเค้าหน่อยสิ เด็กคนนี้นอกจากบุ๋นแล้วเรื่องบู๊ได้ยินมาว่า เคยเป็นแชมป์มวยด้วยนะ นี่รู้มั้ย ฟาริค กว่าพี่จะหาคนที่เก่ง และสามารถคุมแกได้เนี่ย ยากนะ ขอโทษเค้าเลย เดี๋ยวนี้”
เจ้าชายฟาริคเอ่ยขึ้น“เรื่องสิพี่”
ฟารีเอ่ยเสียงเรียบ“เดี๋ยวนี้”
หากแต่ผู้เป็นน้องชาย ยังคงนิ่งเฉย ฟารีจึงต้องใช้ไม้ตาย”งั้นพี่คงต้องบอกกับท่านพ่อล่ะนะว่า เราตกหลายวิชา แถมยังเอาแต่เสเพล ท่านพ่อจะคิดยังไงน้า….ขนาดพี่อุตส่าห์หาครูสอนพิเศษดีๆเก่งๆมาแล้วกลับปากเสียใส่เค้าแบบนี้เนี่ย”
สีหน้าของฟาริค ซีดลง ฟารียิ้มเยาะ”ถ้าท่านพ่อรู้ว่า แกเรียนแย่ขนาดนี้ มีหวังโดนส่งกลับบ้านแน่ๆ”
“ก็ได้ๆครับ ผมยอมแล้ว”
“ดี..”หญิงสาวหันมาหาเด็กสาวที่ยืนอยู่นิ่งๆ”ส่วน มอร์แกน เธอช่วยสอนน้องชายชั้นด้วยนะจ๊ะ อ้อ ชั้นอนุญาตให้เธอสั่งสอนเค้าได้เลยนะ และถ้าช่วยให้น้องชายได้คะแนนดีแล้วล่ะก็ ชั้นจะจ่ายค่าแรงเพิ่มอีก ห้าเท่า ดีไหมจ๊ะ”
มอร์แกนหรี่ตามองมาที่เจ้าชายหัวดื้อ “ขอปฏิเสธคะ พอดีชั้นไม่ได้เห็นแก่เงินหรอกนะค่ะ เพียงแต่ หากเจ้าชายยังไม่ดิ้นรนขวนขายที่จะเก่งขึ้น ต่อให้เทวดามาสอน ก็ไม่เก่งขึ้นหรอกคะ”
เจ้าชายฟาริคเริ่มมีน้ำโห”ยัยนี่!!”
มอร์แกนยิ้มน้อยๆ”ถ้าเจ้าชาย ทำคะแนนได้ดี ชั้นจะสละที่คั่นหนังสือที่มีลายเซ็นของวีด้าให้เอามั้ย”
“ที่คั่นหนังสือที่มีลายเซ็นของวีด้า เธอมีมันได้ยังไง ของแบบนั้นมีแค่สองอันนะ อันหนึ่ง อเล็กซานดร้า ชิโนเวล เป็นเจ้าของ อีกอัน วีด้า เป็นคนเก็บไว้แล้วเธอ..”
“เผอิญว่าชั้น เคยรับงานช่วยตอบจดหมายให้กับวีด้าน่ะ เธอเลยให้ที่คั่นหนังสือนี้มา”ใช่แล้ว มอร์แกนทำไมจะไม่รู้ ก็เธอคือวีด้านี่นา ตอนที่ทำการประมูลเพื่อการกุศลเมื่อสามวันก่อน ที่คั่นหนังสือที่ลายเซ็นของเธอ ถือว่าได้ช่วยในการกุศลอย่างมาก โดยที่คั่นหนังสือที่มีลายเซ็นต์ของเธอมีแค่สองอัน อันหนึ่งใช้ในงานประมูลอีกอันเธอขอเก็บไว้เป็นที่ระลึก
อีกอย่างที่เธอรู้ว่า ที่คั่นหนังสือของเธอเป็นที่ต้องการของเจ้าชายองค์นี้ก็เพราะว่า ในรายชื่อผู้ประมูล ก็มีชื่อเจ้าชายฟารีค อยู่ด้วย เธอยังจำได้
เด็กสาวจึงหยิบที่คั่นหนังสือออกมาจากกระเป๋าสะพาย”นี่ไง ชั้นไม่ได้โม้”
ฟาริคมองดูที่คั่นหนังสือในมือเล็กๆของเด็กสาว “ได้ ถ้าชั้นสามารถ สอบได้คะแนนดีไม่มีตก ที่คั่นหนังสือนั่น ต้องเป็นของชั้นนะ”
“ตกลง เรื่องค่าจ้าง ที่มาสอนทุกวันต้องมากกว่าที่เสนอสามเท่า ด้วยนะ อ้อ ถ้าจะเรียนกับชั้น ต้องมีกฎด้วย”
“กฎ?”ฟารี ฟารีคและอาลีเลิกคิ้ว
“ใช่ กฎ 3 ข้อที่ชั้นจะตั้งไว้ให้ปฏิบัติตาม ข้อแรก ก่อนที่ชั้นจะมาสอน คุณจะต้องพร้อมเรียน ข้อที่สอง ในระหว่างเรียน คุณห้ามเปิดโทรศัพท์มือถือโดยเด็ดขาด และสุดท้าย ระหว่างเรียนคุณสามารถขอพักได้แค่หนึ่งครั้ง เป็นเวลาสามสิบนาที โดยที่ชั้นจะตั้งใจสอนคุณอย่างเต็มที่ นะ เริ่มพรุ่งนี้ ขอตัวก่อน”
ฟารีร้องห้าม”เดี๋ยวก่อนสิ”
“ถ้าจะให้สอนตอนนี้ ชั้นว่า สมองน้องชายของคุณคงรับความรู้ไม่ได้แล้ว ก็เล่นดื่ม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างไวท์ น่ะ ไว้พรุ่งนี้เถอะ อ้อ ถ้าสมองโปร่งแล้ว เอาชีทพวกนี้ไปอ่านทำความเข้าใจก่อนแล้วก็ช่วยทำแบบฝึกหัดในนี้ด้วยนะค่ะ”ว่าแล้วเด็กสาวก็นำเอกสารส่งให้กับอาลี
ฟารีมองเด็กสาวด้วยสายตาชื่นชม” น้องสาว ชั้นว่าเราไปดื่มชากันหน่อยดีไหมจ๊ะ”
“อย่าดีกว่าค่ะ ชั้นมีงานที่ต้องทำอีก ขอตัวก่อน”มอร์แกนรีบวิ่งออกไปทนทีโดยที่มีมาอีม บินตามมาติดๆ
มาอีมอยู่ในเหตุการณ์อย่างเงียบๆมาโดยตลอด นึกสงสัยบางสิ่งจึงเอ่ยกับมอร์แกนว่าอยากกลับที่พัก
เด็กสาวกลับมายังห้องพัก เธอวางกระเป๋า แล้วทิ้งตัวลงบนเตียง”เหนื่อยจังไม่คิดว่าจะได้ออกแรงหลังกินข้าวแบบนั้น
“นี่ๆ สิรีโคนคืออะไรเหรอ”
มอร์แกนเอียงคอ”อ๋อ นั่นน่ะคือสิ่งที่พวกผู้หญิงบนโลกมนุษย์ใช้เพิ่มขนาดหน้าอกของตัวเองยังไงล่ะ”
สีหน้าของมาอีมดูตกตะลึงก่อนจะถามต่อ”พวกผู้หญิงหรือแม้แต่เจ้าก็เสริมด้วยรึ”
“บางคนย่ะ ของชั้นมันธรรมชาติ”ว่าแล้วเด็กสาวก็เอนหลัง”ขอนอนก่อนล่ะนะ”
ว่าแล้วเด็กสาวก็หลับตาลง มาอีมมองร่างที่หลับใหลอย่างเอ็นดู นิ้วเรียวงามลูบแก้มยุ้ยๆของเด็กสาวอย่างเบามือ”ใครจะนึกว่า หน้าแบบนี้จะเก่งสุดๆไปเลย”
...ทำไมนะ คนที่เกิดมาเก่งสารพัดอย่างนางต้องลำบาก อาศัยอยู่ในที่ๆคับแคบแบบนี้ด้วย...ยิ่งคิดมาอีมก็รู้สึกเวทนา ถึงแม้เด็กสาวคนนี้จะสูญเสียครอบครัวแต่เเธอนี้กลับเข้มแข็งและยืนหยัดได้ด้วยตัวเองแบบนี้ เค้ขอนับถือเลยทีเดียว
ทางสวรรค์
ฟารันและมาเอลกำลังมองดูมาอีมอยู่ มาเอลส่ายหน้า”จริงๆเลยนะท่านฟารัน ให้มาเอลไปอยู่กับเอวารีน แบบนี้มันจะไม่ลำบากเธอรึ?”
“ไม่หรอกมาเอล ข้าว่าเป็นการดีเสียอีกนะ อย่าห่วงเลย เอวารีนในชาตินี้ มีสติปัญญาที่ดีเลิศ นางต้องสามารถให้บทเรียนแก่มาอีมได้แน่ๆ”
เทพอาวุโส ยิ้มน้อยๆ พลางเฝ้ามองเทพบุตรตกสวรรค์กับอดีตเทพธิดา “ต่อไป พวกเจ้าจะต้องเจอกับอะไรต่อไปนะ มาอีม”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ