ป่วนรักนายจิตป่วย
5.9
เขียนโดย wimon
วันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2559 เวลา 18.36 น.
6 ตอน
4 วิจารณ์
8,952 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 20.22 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) จับกลุ่ม
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 6 จับกลุ่ม
ฮือออออเมื่อยจัง…ผมพลิกตัวไปอีกด้าน
"อะไรเนี่ยร้อนชะมัด" ผมค่อยๆลืมตาขึ้นดูสิ่งที่อยู่ข้างๆตัวแต่แล้วผมก็ต้องตกใจกับสิ่งที่ผมเห็น
เฮ้ยยย! ผมร้องสุดเสียง
“งืม…มีอะไรเสียงดังแต่เช้าเลย” เคย์ทำหน้าลึมสะลือ พลางเอามือขยี้หัวอย่างเสียอารมณ์
“น่ะ…น่ะ…นาย ทำไมมาอยู่ในท่าแบบนี้หาาา” ครับ ตอนนี้ตัวผมได้โดนเคย์นอนทับอยู่ด้านบน จะให้ผลักออก แค่ขยับยังยากเลย
“หือ…ก็ไม่เห็นจะต้องร้องตกใจเหมือนเสียตัวเลยนี่น่า” ฮึ่ม แล้วไอ้ที่มาทับแบบนี้มันก็เหมือนไม่ใช่หรอ ผมใช้แรงที่มีอยู่ผลักเคย์ออกไปจนตกเตียง
“โอ้ย ผลักฉันทำไมเนี่ย”
“ลุกได้แล้ว เดียวจะไปเรียนสายนะ” ผมออกจากห้องทันทีก่อนที่เคย์จะด่าผมไล่หลังตามมา
ผมใช้เวลาไม่มากในการจัดการธุระส่วนตัว แต่ที่จะทำให้ผมสายก็เป็นเพราะเจ้าบ้าเคย์ ที่เอาแต่นอนสบายใจเฉิบอยู่ในห้อง
“จะลุกได้รึยัง” ผมตะโกนถาม
“ไม่ไปเรียนได้ไหมอ่า” ผมชักเริ่มหงุดหงิดเดินตรงรี่ไปที่ห้องและเปิดประตูด้วยความโมโห
ปั้ง!
“จะบ้ารึไง รีบๆแต่งตัวแล้วลงไปกินข้าวได้แล้ว จะสายแล้วรู้ไหม” ไม่ทันที่เคย์จะพูดต่อ ผมก็เข้าใจสาเหต
“ทำไงดี ลืมเอาชุดนักเรียนมา ก็คิดว่าเมื่อวานเป็นวันศุกร์” เจ้าบ้านี่ ซื่อบื้อชะมัด ผมรีบเดินไปเปิดตู้ หยิบชุดของผมส่งให้โซมะ
“เอาของฉัน ใส่ไปก่อนแล้วกัน เร็วเข้าเถอะจะสายแล้วนะ”
“แต่ชื่อ...”
“เออช่างมันเถอะ ไปแต่งตัวได้แล้ว”
และแล้ววันนี้ผมก็มาถึงโรงเรียน แต่มันสายเกินไป ร้อยวันพันปีผมไม่เคยมาถูกลงโทษด้วยเรื่องการมาสายเลยสักครั้ง แล้วนี่อะไรกัน เพราะเจ้าบ้านั่นแท้ๆ แถมยังไม่สำนึกผิด เอาแต่ลอบยิ้มให้อยู่นั่นแหละ
“พวกเธอ รู้ไหมการมาสายมันเป็นพฤติกรรมที่แย่” เสียงของรุ่นพี่คณะกรรมการนักเรียน คาซึมะ เรน
“ครับ/ค่ะ” พวกเราก็ตอบกลับไปตามระเบียบ
“เอาหล่ะ และวันนี้ผมขอตรวจเครื่องแบบไปด้วยเลยแล้วกัน” แย่แล้วสิ เจ้าพวกคณะกรรมการนักเรียนเกิดคึกมาตรวจอะไรวันนี้หะ ผมพยายามหาวิธีเอาตัวรอดจากการถูกลงโทษเพิ่ม แต่มันช้าไปแล้ว
“นี่พวกเธอ ทำไมถึงชื่อกับสกุลเหมือนกัน” สายตาที่ดูดุดันของรุ่นพี่ ชวนขนลุกชะมัด
“ครับผมอิจิ เคย์ ผมเอาเสื้อของคุณ โซมะมาใส่เองครับ” เคย์รีบตอบอย่างรวดเร็ว
“มีเหตุผลไหมล่ะ ฉันเป็นคนที่ชอบรับฟังเหตุผลก่อนที่จะลงโทษ”
“พอดีเสื้อของผมถูกกิ่งไม้เกี่ยวระหว่างทาง เป็นทางผ่านบ้านของโซมะพอดี เลยขอยืมเสื้อของโซมะก่อนน่ะครับ” เคย์ตอบด้วยน้ำเสียงที่มั่นคง แต่ถึงยังไงมันก็ไม่มีน้ำหนักน่าเชื่อถือเท่าไหร่
“อืม ฉันจะไม่ลงโทษพวกนายแล้วกัน เอาล่ะไปวิ่งรอบสนามสองรอบแล้วกันเพราะพวกเธอมีโทษมาสาย” รอดแหะ เหตุผลแบบนี้เนี่ยนะ เจ้าเคย์ยักคิ้วหลิ่วตาใส่ผมเป็นการบอกนัย ๆ ว่า ฉันเจ๋งใช่ไหมล่ะ ผมทำเป็นเมินและออกวิ่งไปก่อน
หลังจากผมกับเคย์ถูกทำโทษเสร็จ จึงทำให้เข้าห้องเรียนช้ากว่าเพื่อน ๆ เล็กน้อย แต่จากการสำรวจด้วยสายตาของผมแล้วสถานการณ์แบบนี้ มีการจับกลุ่มเกิดขึ้นแน่ ๆ และเป็นอย่างที่ผมคิดไม่มีผิด อาจารย์ประจำชั้นแบ่งกลุ่มออกเป็นห้ากลุ่ม และในกลุ่มต้องมีห้าคน แน่นอนพวกผมที่ขึ้นมาช้าก็ได้ประกลบเข้ากับเพื่อนที่เหลือจากการจับกลุ่มกันเอง ซึ่งในกลุ่มของผมมี ผมเอง เคย์ เซย์จิ ฮานะ ริกะ นอกจากฮานะแล้ว ผมก็ไม่ค่อยคุ้นเท่าไหร่ รู้แต่เพียงว่า เซย์จิเป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว นิสัยค่อนข้างขี้อาย ผลการเรียนไม่ค่อยมีอะไรโดดเด่น ส่วนริกะ นิสัยติดหรู ค่อนข้างหยิ่งทะนงในตัวเองจึงไม่ค่อยมีเพื่อน ก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่สองคนนี้จะไม่มีกลุ่ม จะแปลกก็ ฮานะ หัวหน้าคนเก่ง ที่เพียบพร้อมไปหมดอย่างกับเจ้าหญิงเนี่ยแหละ
“เอาหล่ะๆ จับกลุ่มกันเสร็จเรียบร้อยก็ช่วยนั่งลงและเงียบ ๆ กันหน่อย” คุณครูสาวประจำชั้นเริ่มอธิบายเกี่ยวกับการจับกลุ่มครั้งนี้ การจับกลุ่มครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อ เป็นการจัดกลุ่มในวันเข้าค่าย มันเป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งของโรงเรียนนี้ การเข้าค่ายของพวกเรานั้นไม่มีกฎระเบียบอะไรมากมาย เป็นการทดสอบให้นักเรียนได้ลองใช้ชีวิตกันเองเป็นเวลา หนึ่งสัปดาห์ โดยมีเงินจำกัดในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ฟังดูแล้วน่าสนุกนะครับ แต่ไม่เลย มันเป็นการทดสอบการใช้ชีวิตด้วยตนเอง และ ทดสอบจิตใจ สำหรับผมมันแย่ มาก ๆ รุ่นพี่ปีที่แล้วก็มีหลายคนที่ไม่ผ่านกิจกรรมนี้ และกิจกรรมนี้เองก็เปรียบเสมือนการสอบเลื่อนขั้นของ ม.ต้น ใครที่ไม่ผ่านเท่ากับว่าไม่มีสิทธิ์ในการเรียนต่อที่นี่ ส่วนจุดประสงค์หลักคงเป็นการกระตุ้นให้เราสามารถโตเป็นผู้ใหญ่ได้อย่างเข้มแข็ง ฟังดูแล้วมันก็ดูไร้สาระนะครับ
“เอาล่ะ คงไม่มีปัญหาอะไรนะ อีกสองสัปดาห์ทางโรงเรียนจะมีหนังสือส่งไปที่บ้าน ให้ผู้ปกครองรับรู้ ถ้ามีปัญหาอะไร มาถามครูที่ห้องพักครูได้ทุกเมื่อนะจ๊ะ" หลังจากนั้นคุณครูก็ปล่อยให้พวกเราปรึกษาหารือกันภายในกลุ่ม
"ยังไง ๆ พวกเราก็สนิทกันไว้เนอะ” ผมพูดพร้อมกับยิ้มเจื่อน ๆ“เอาน่า ๆ เริ่มต้นด้วยการไปกินข้าวกลางวันด้วยกันไหม ” เคย์พูดอะไรออกมาน่ะ
“ฉันห่อข้าวกล่องมาน่ะ ฉันไม่กินหรอกข้าวโรงอาหาร สกปรกจะตายไป” ริกะสาวน้อยผู้หญิงทะนงเริ่มแผงฤทธิ์
“ผม…ก็ห่อข้าวมาพวกคุณจะกิน…ของผม ก็ได้นะ…”เซย์จิหยิบกล่องข้าวออกมาจากกระเป๋าพร้อมยื่นให้กับผม
“นายกินเถอะ เดียวพวกฉันลงไปซื้อข้างล่างขึ้นมากินดีกว่า” ผมดันกล่องข้าวคืน ส่วนเคย์อาสาทีจะลงไปซื้ออาหารด้านล่าง ไม่นานนักเคย์ก็เดินขึ้นมาพร้อมกับถุงใบใหญ่
“อะนี่ ชาเขียวกับขนมปังใส้ถั่วแดงของโซมะ แล้วนี่นมสตอร์เบอรี่กับขนมปังใส้ครีมของคุณฮานะ”
“ขอบคุณนะเคย์” คุณฮานะกล่าวขอบคุณพร้อมรอยยิ้ม พวกเราลงมือรับประทานอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย โดยมีเคย์เป็นคนสร้างบรยากาศให้ดูสนุกตลอดเวลา แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล เซย์จิที่ปกติจะเงียบอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ดูเหมือนเริ่มจะกลัวเคย์ ส่วนคุณริกะคุณหนูผู้หยิ่งทะนงก็ยังคงเชิดหน้าลอยตาต่อไปไม่สนใจ เป็นเรื่องยากจริง ๆ ที่จะสร้างบรรยากาศให้เกิดมิตรภาพ
ฮือออออเมื่อยจัง…ผมพลิกตัวไปอีกด้าน
"อะไรเนี่ยร้อนชะมัด" ผมค่อยๆลืมตาขึ้นดูสิ่งที่อยู่ข้างๆตัวแต่แล้วผมก็ต้องตกใจกับสิ่งที่ผมเห็น
เฮ้ยยย! ผมร้องสุดเสียง
“งืม…มีอะไรเสียงดังแต่เช้าเลย” เคย์ทำหน้าลึมสะลือ พลางเอามือขยี้หัวอย่างเสียอารมณ์
“น่ะ…น่ะ…นาย ทำไมมาอยู่ในท่าแบบนี้หาาา” ครับ ตอนนี้ตัวผมได้โดนเคย์นอนทับอยู่ด้านบน จะให้ผลักออก แค่ขยับยังยากเลย
“หือ…ก็ไม่เห็นจะต้องร้องตกใจเหมือนเสียตัวเลยนี่น่า” ฮึ่ม แล้วไอ้ที่มาทับแบบนี้มันก็เหมือนไม่ใช่หรอ ผมใช้แรงที่มีอยู่ผลักเคย์ออกไปจนตกเตียง
“โอ้ย ผลักฉันทำไมเนี่ย”
“ลุกได้แล้ว เดียวจะไปเรียนสายนะ” ผมออกจากห้องทันทีก่อนที่เคย์จะด่าผมไล่หลังตามมา
ผมใช้เวลาไม่มากในการจัดการธุระส่วนตัว แต่ที่จะทำให้ผมสายก็เป็นเพราะเจ้าบ้าเคย์ ที่เอาแต่นอนสบายใจเฉิบอยู่ในห้อง
“จะลุกได้รึยัง” ผมตะโกนถาม
“ไม่ไปเรียนได้ไหมอ่า” ผมชักเริ่มหงุดหงิดเดินตรงรี่ไปที่ห้องและเปิดประตูด้วยความโมโห
ปั้ง!
“จะบ้ารึไง รีบๆแต่งตัวแล้วลงไปกินข้าวได้แล้ว จะสายแล้วรู้ไหม” ไม่ทันที่เคย์จะพูดต่อ ผมก็เข้าใจสาเหต
“ทำไงดี ลืมเอาชุดนักเรียนมา ก็คิดว่าเมื่อวานเป็นวันศุกร์” เจ้าบ้านี่ ซื่อบื้อชะมัด ผมรีบเดินไปเปิดตู้ หยิบชุดของผมส่งให้โซมะ
“เอาของฉัน ใส่ไปก่อนแล้วกัน เร็วเข้าเถอะจะสายแล้วนะ”
“แต่ชื่อ...”
“เออช่างมันเถอะ ไปแต่งตัวได้แล้ว”
และแล้ววันนี้ผมก็มาถึงโรงเรียน แต่มันสายเกินไป ร้อยวันพันปีผมไม่เคยมาถูกลงโทษด้วยเรื่องการมาสายเลยสักครั้ง แล้วนี่อะไรกัน เพราะเจ้าบ้านั่นแท้ๆ แถมยังไม่สำนึกผิด เอาแต่ลอบยิ้มให้อยู่นั่นแหละ
“พวกเธอ รู้ไหมการมาสายมันเป็นพฤติกรรมที่แย่” เสียงของรุ่นพี่คณะกรรมการนักเรียน คาซึมะ เรน
“ครับ/ค่ะ” พวกเราก็ตอบกลับไปตามระเบียบ
“เอาหล่ะ และวันนี้ผมขอตรวจเครื่องแบบไปด้วยเลยแล้วกัน” แย่แล้วสิ เจ้าพวกคณะกรรมการนักเรียนเกิดคึกมาตรวจอะไรวันนี้หะ ผมพยายามหาวิธีเอาตัวรอดจากการถูกลงโทษเพิ่ม แต่มันช้าไปแล้ว
“นี่พวกเธอ ทำไมถึงชื่อกับสกุลเหมือนกัน” สายตาที่ดูดุดันของรุ่นพี่ ชวนขนลุกชะมัด
“ครับผมอิจิ เคย์ ผมเอาเสื้อของคุณ โซมะมาใส่เองครับ” เคย์รีบตอบอย่างรวดเร็ว
“มีเหตุผลไหมล่ะ ฉันเป็นคนที่ชอบรับฟังเหตุผลก่อนที่จะลงโทษ”
“พอดีเสื้อของผมถูกกิ่งไม้เกี่ยวระหว่างทาง เป็นทางผ่านบ้านของโซมะพอดี เลยขอยืมเสื้อของโซมะก่อนน่ะครับ” เคย์ตอบด้วยน้ำเสียงที่มั่นคง แต่ถึงยังไงมันก็ไม่มีน้ำหนักน่าเชื่อถือเท่าไหร่
“อืม ฉันจะไม่ลงโทษพวกนายแล้วกัน เอาล่ะไปวิ่งรอบสนามสองรอบแล้วกันเพราะพวกเธอมีโทษมาสาย” รอดแหะ เหตุผลแบบนี้เนี่ยนะ เจ้าเคย์ยักคิ้วหลิ่วตาใส่ผมเป็นการบอกนัย ๆ ว่า ฉันเจ๋งใช่ไหมล่ะ ผมทำเป็นเมินและออกวิ่งไปก่อน
หลังจากผมกับเคย์ถูกทำโทษเสร็จ จึงทำให้เข้าห้องเรียนช้ากว่าเพื่อน ๆ เล็กน้อย แต่จากการสำรวจด้วยสายตาของผมแล้วสถานการณ์แบบนี้ มีการจับกลุ่มเกิดขึ้นแน่ ๆ และเป็นอย่างที่ผมคิดไม่มีผิด อาจารย์ประจำชั้นแบ่งกลุ่มออกเป็นห้ากลุ่ม และในกลุ่มต้องมีห้าคน แน่นอนพวกผมที่ขึ้นมาช้าก็ได้ประกลบเข้ากับเพื่อนที่เหลือจากการจับกลุ่มกันเอง ซึ่งในกลุ่มของผมมี ผมเอง เคย์ เซย์จิ ฮานะ ริกะ นอกจากฮานะแล้ว ผมก็ไม่ค่อยคุ้นเท่าไหร่ รู้แต่เพียงว่า เซย์จิเป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว นิสัยค่อนข้างขี้อาย ผลการเรียนไม่ค่อยมีอะไรโดดเด่น ส่วนริกะ นิสัยติดหรู ค่อนข้างหยิ่งทะนงในตัวเองจึงไม่ค่อยมีเพื่อน ก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่สองคนนี้จะไม่มีกลุ่ม จะแปลกก็ ฮานะ หัวหน้าคนเก่ง ที่เพียบพร้อมไปหมดอย่างกับเจ้าหญิงเนี่ยแหละ
“เอาหล่ะๆ จับกลุ่มกันเสร็จเรียบร้อยก็ช่วยนั่งลงและเงียบ ๆ กันหน่อย” คุณครูสาวประจำชั้นเริ่มอธิบายเกี่ยวกับการจับกลุ่มครั้งนี้ การจับกลุ่มครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อ เป็นการจัดกลุ่มในวันเข้าค่าย มันเป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งของโรงเรียนนี้ การเข้าค่ายของพวกเรานั้นไม่มีกฎระเบียบอะไรมากมาย เป็นการทดสอบให้นักเรียนได้ลองใช้ชีวิตกันเองเป็นเวลา หนึ่งสัปดาห์ โดยมีเงินจำกัดในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ฟังดูแล้วน่าสนุกนะครับ แต่ไม่เลย มันเป็นการทดสอบการใช้ชีวิตด้วยตนเอง และ ทดสอบจิตใจ สำหรับผมมันแย่ มาก ๆ รุ่นพี่ปีที่แล้วก็มีหลายคนที่ไม่ผ่านกิจกรรมนี้ และกิจกรรมนี้เองก็เปรียบเสมือนการสอบเลื่อนขั้นของ ม.ต้น ใครที่ไม่ผ่านเท่ากับว่าไม่มีสิทธิ์ในการเรียนต่อที่นี่ ส่วนจุดประสงค์หลักคงเป็นการกระตุ้นให้เราสามารถโตเป็นผู้ใหญ่ได้อย่างเข้มแข็ง ฟังดูแล้วมันก็ดูไร้สาระนะครับ
“เอาล่ะ คงไม่มีปัญหาอะไรนะ อีกสองสัปดาห์ทางโรงเรียนจะมีหนังสือส่งไปที่บ้าน ให้ผู้ปกครองรับรู้ ถ้ามีปัญหาอะไร มาถามครูที่ห้องพักครูได้ทุกเมื่อนะจ๊ะ" หลังจากนั้นคุณครูก็ปล่อยให้พวกเราปรึกษาหารือกันภายในกลุ่ม
"ยังไง ๆ พวกเราก็สนิทกันไว้เนอะ” ผมพูดพร้อมกับยิ้มเจื่อน ๆ“เอาน่า ๆ เริ่มต้นด้วยการไปกินข้าวกลางวันด้วยกันไหม ” เคย์พูดอะไรออกมาน่ะ
“ฉันห่อข้าวกล่องมาน่ะ ฉันไม่กินหรอกข้าวโรงอาหาร สกปรกจะตายไป” ริกะสาวน้อยผู้หญิงทะนงเริ่มแผงฤทธิ์
“ผม…ก็ห่อข้าวมาพวกคุณจะกิน…ของผม ก็ได้นะ…”เซย์จิหยิบกล่องข้าวออกมาจากกระเป๋าพร้อมยื่นให้กับผม
“นายกินเถอะ เดียวพวกฉันลงไปซื้อข้างล่างขึ้นมากินดีกว่า” ผมดันกล่องข้าวคืน ส่วนเคย์อาสาทีจะลงไปซื้ออาหารด้านล่าง ไม่นานนักเคย์ก็เดินขึ้นมาพร้อมกับถุงใบใหญ่
“อะนี่ ชาเขียวกับขนมปังใส้ถั่วแดงของโซมะ แล้วนี่นมสตอร์เบอรี่กับขนมปังใส้ครีมของคุณฮานะ”
“ขอบคุณนะเคย์” คุณฮานะกล่าวขอบคุณพร้อมรอยยิ้ม พวกเราลงมือรับประทานอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย โดยมีเคย์เป็นคนสร้างบรยากาศให้ดูสนุกตลอดเวลา แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล เซย์จิที่ปกติจะเงียบอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ดูเหมือนเริ่มจะกลัวเคย์ ส่วนคุณริกะคุณหนูผู้หยิ่งทะนงก็ยังคงเชิดหน้าลอยตาต่อไปไม่สนใจ เป็นเรื่องยากจริง ๆ ที่จะสร้างบรรยากาศให้เกิดมิตรภาพ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5.7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ