สลับร่างข้ามกาล
เขียนโดย nightshadow
วันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2559 เวลา 13.42 น.
แก้ไขเมื่อ 16 มีนาคม พ.ศ. 2559 05.17 น. โดย เจ้าของนิยาย
9) การตอบโต้ที่นิ่มนวลแต่บาดลึก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความยุคอดีต แพรวาและหลวงเรืองฤิทธิ์ได้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้พระยาราชปกรณ์กับคุณหญิงกลีบผกาฟัง แพรวาเล่าทุกอย่างตั้งแต่การพบกันในความฝันของเธอและผกากรอง รวมถึงเรื่องที่เธอในตอนนี้ไม่ใช่ผกากรองบุตรสาวของพวกท่าน โดยหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงเรื่องที่เธอเป็นคนจากยุคอนาคต เพราะเธอคิดว่าหน้าประวัติศาสตร์ มันก็จะเป็นไปตามครรลองของมันอยู่อย่างเดิม เธอมาอยู่ที่นี่ ถึงเธอจะรู้ประวัติศาสตร์ล่วงหน้าเธอก็ไม่คิดจะไปยุ่งเกี่ยวหรือแสดงตัวเป็นผู้รู้ เพราะพวกเขาในอดีตถึงยังไงก็ต้องรับมือกับความเปลี่ยนแปลง ด้วยตัวของพวกเขาเองอยู่แล้ว การบอกอนาคตล่วงหน้า อาจทำให้ทุกคนที่นี่รู้สึกเกร็งและกังวลกับอนาคตที่จะเกิดขึ้น ดังนั้นในตอนนี้เธอจึงสนใจแต่เฉพาะเรื่องของตัวเธอกับผกากรองในขณะนี้ก่อน
"โธ่เอ้ย..แม่ผกากรอง ลูกหนอลูกป่านนี้จะไปอยู่ที่ใดกันล่ะเวรกรรมอะไรนี่" คุณหญิงกลีบผกาเปรยด้วยน้ำเสียงห่วงใยบุตรสาวคนเล็ก แพรวาตัดสินใจบอกเล่าเรื่องที่เธอ เคยได้พูดคุยกับผกากรองให้คุณหญิงกลีบผกาได้รับรู้เพื่อเป็นการปลอบมารดาของเด็กสาว "ผกากรองเธอเป็นเด็กสาวที่สดใสร่าเริงและน่าัรักมากเลยค่ะ ตอนที่แพรได้พบกับเธอเป็นครั้งแรกนั้น ผกากรองเล่าให้แพรฟังว่า เธอนึกน้อยใจที่ถูกบิดามารดาของเธอว่ากล่าวเกี่ยวกับความไม่สมเป็นกุลสตรีของเธอ เธอรู้สึกว่าตัวเธอไม่เป็นที่ต้องการของพ่อแม่ ก่อนนอนผกากรองได้เข้าไปในห้องพระเพื่อสวดมนต์ขอพรในเรื่องที่เธอไม่สบายใจ และพบนาฬิกาโบราณตั้งอยู่บนพาน เธอจึงหยิบมันมาอธิฐานต่อหน้าองค์พระภายในห้อง ว่าขอให้ช่วยนำทางเธอไปให้พ้นจากเรื่องที่ไม่สบายใจที่เป็นอยู่ แล้วเมื่อเธอเข้านอนก็ฝันว่าเธอกำลังเล่นกับลูกของบ่าวไพร่ภายในเรือน เธอเห็นแสงสีขาวสว่างปรากฏขึ้นมาเธอก็เลยเดินเข้าไปในแสงสีขาวนั้น แล้วเธอก็มาโผล่ที่ห้องนอนของแพร เธอเห็นนึกแปลกใจกับสถานที่และสงสัยว่าแพรเป็นใคร เธอจึงส่งเสียงและสะกิิดให้แพรตื่น และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของการพบกันระหว่างแพรกับผกากรองค่ะ"
พระยาราชปกรณ์ที่ได้รับฟังเรื่องราวอยู่ข้างกันก็กล่าวเปรยขึ้น
"นาฬิกาโบราณในห้องพระอย่างนั้นรึ... นาฬิกาเรือนนั้นเป็นสิ่งของที่ฉันได้รับมาจากพระอาจารย์ที่ฉันเคารพนับถือ ท่านพระอาจารย์ปลั่ง ท่านบอกว่ามีอำนาจลึกลับของการเชื่อมโยง บุคคลที่อยู่ต่างห้วงเวลาและมีชะตาต้องกันให้สามารถพบกันได้ ฉันก็รับเอามาบูชาไว้ในห้องพระโดยไม่ได้คิดอะไร ไม่นึกเลยว่า มันจะนำทางให้แม่ผกากรองได้พบกับแม่แพรวา หล่อนกับบุตรสาวของฉันคงมีชะตาต้องกันนั่นแหละ เรื่องนี้เอาไว้พรุ่งนี้ พวกเราค่อยไปปรึกษาเรื่องนี้กับพระอาจารย์ปลั่งกันที่วัด ตอนนี้ฉันว่าแม่แพรไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปียกเสียก่อนเถอะ เดี๋ยวจะปอดชื้นไปเสีย แล้วก็มาทำแผลให้เรียบร้อย
มันเกิดเรื่องขึ้นได้อย่างไร ที่นี่เป็นเรือนของฉันใครมันจะหาญกล้ามาทำร้ายบุตรสาวของฉันได้กัน" ในขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ผกามาศที่เพิ่งมาบนเรือนก็ทักเสียงดัง "มีเรื่องอะไรกันอีกล่ะเจ้าคะ คงเป็นแม่ผกากรองเจ้าปัญหาก่อเรื่องอะไรอีกตามเคยล่ะสิท่า อิฉันว่ามันก็แค่การเรียกร้องความสนใจของเด็กมีปัญหาคนหนึ่ง อิฉันว่าทุกคนอย่าไปสนใจแม่ตัวปัญหาให้มากจะดีกว่านะเจ้าคะ"
หลวงเรืองฤิทธิ์รู้สึกไม่ชอบใจ กับคำกล่าวของแม่ผกามาศจึงเอ่ยค้านขึ้น "ทำไมหล่อนถึงกล่าวเยี่ยงนั้นล่ะแม่ผกามาศ แม่ผกากรองเป็นน้องสาวแท้ๆของหล่อนนะ" ผกามาศส่งเสียงกระฟัดกระเฟียดอย่างไม่พอใจพร้อมกับเถียงขึ้นนำเสียงขุ่น "ฮึ มันน่าแปลกนักนะเจ้าคะ อิฉันเป็นพี่สาวยังไม่ใส่ใจแม่ผกากรองเท่าคุณหลวงเลย เพราะคงเห็นว่าคุณหลวงสนใจจึงชอบทำตัวก่อเรื่อง เพราะอยากเรียกร้องความสนใจจากคุณหลวงล่ะสิเจ้าคะ"
แพรวาที่นั่งฟังคำโต้เถียงของทั้งสองคนก็พูดเสริมขึ้นว่า "มันน่าแปลกจริงอย่างที่คุณพูดนะคะ คุณหลวงไม่ใช่คนในครอบครัวยังมีใจเป็นห่วงผกากรองแต่คุณผกามาศที่เป็นพี่สาวแท้ๆ นอกจากไม่ใส่ใจแล้วยังคิดอกุศลกับน้องสาวของตัวเองด้วย ฟังคำพูดของคุณผกามาศแล้ว ฉันรู้สึกเหมือนว่าคุณกำลังอิจฉาน้องสาวของตัวเอง ที่ได้รับความสนิทสนมเอ็นดูจากคุณหลวงเลยนะคะ" ผกามาศที่ได้ยินคำพูดแทงใจดำของอีกฝ่าย ก็ส่งเสียงโวยวายดังลั่น "กรี๊ด!! แม่ผกากรอง พูดอะไรของหล่อน! ฉันหรือจะอิจฉาเด็กมีปัญหาอย่างหล่อน ฉันเหนือกว่าหล่อนทุกอย่างมีอะไรให้อิจฉากัน" แพรวายิ้มพร้อมกับส่ายหน้าด้วยกิริยาเหมือนผู้ใหญ่มองเด็ก "คุณผกามาศรู้ตัวหรือเปล่าคะ ว่าคุณผกามาศในตอนนี้ก็เหมือนเด็กเช่นเดียวกัน เพราะคนที่เป็นผู้ใหญ่ จะไม่มาส่งเสียงกรีดร้องลั่นเรือนเมื่อได้ยินคำพูดที่ไม่ถูกใจหรอกค่ะ เพราะหากไม่เห็นด้วยกับคำพูดของใครก็ควรจะพูดกันด้วยเหตุและผล โดยเฉพาะคุณผกามาศเป็นพี่สาวและยังเป็นบุตรสาวของพระน้ำพระยา ยิ่งไม่สมควรแสดงกิริยาในแบบนี้เลยค่ะ" ผกามาศรู้สึกเหมือนกับโดนคำพูดของแพรวากรีดเฉือน ที่แม้จะเป็นเพียงคำพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานราบเรียบ แต่กลับสร้างความเจ็บใจอับอาย จนเธอโต้เถียงไม่ได้รีบเดินหนีไปให้พ้นจากสายตาของทุกคนอย่างแค้นใจ หลวงเรืองฤิทธิ์ยิ้มชอบใจกับการโต้ตอบแบบนิ่มนวล แต่กลับบาดลึกไปถึงใจของแม่แพรวายิ่งนัก จนอยากที่จะจับสังเกตุและทำความรู้จักกับแม่แพรวาให้มากยิ่งขึ้น
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ