สลับร่างข้ามกาล
เขียนโดย nightshadow
วันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2559 เวลา 13.42 น.
แก้ไขเมื่อ 16 มีนาคม พ.ศ. 2559 05.17 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) สองสาวที่เกิดผิดยุค
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความยุคอดีต รศ. 102
"โอ๊ยเจ๊บ...เบาๆสิเจ้าคะคุณแม่" เสียงเด็กสาวโอดครวญในขณะที่ผู้เป็นมารดากำลังทำแผลที่ได้จากวีรกรรมของความซุกซนครั้งล่าสุด ผู้เป็นมารดาส่ายศรีษะอย่างอ่อนใจ "ไม่ต้องร้องเลยเชียวนะ แม่ผกากรอง แม่ละเหนื่อยใจกับเราเสียจริงๆ โตจนจะใกล้วัยออกเรือนเข้าไปทุกทีแล้ว ยังจะซนเป็นลิงเป็นค่างอยู่ได้ การบ้านการเรือนก็ไม่สนใจ ดูสิอายคุณหลวงเรืองฤิทธิ์ท่านไหมล่ะนั่น" คุณหญิงกลีบผกาว่ากล่าวบุตรสาว แล้วหันมาเอ่ยขอบคุณกับคุณหลวงหนุ่มตรงหน้า
"อิฉันต้องขอบพระคุณ คุณหลวงเรืองมากนะเจ้าคะ ที่ช่วยแม่ตัวดีมาได้" "ไม่เป็นไรหรอกขอรับ โชคดีที่แม่ผกากรองปีนต้นไม้ไม่สูงเท่าไรนักจึงไม่เป็นอะไรมาก น้องก็แค่ซนไปตามภาษาเด็กนั่นแหละขอรับ" ผกามาศที่นั่งมองทุกคน ที่สนใจแต่น้องสาวจนไม่ได้สนใจเธอ ก็กล่าวกระทบด้วยความหมั่นไส้ "เด็กอะไรกันเจ้าคะ แบบนี้อีกหน่อยพอถึงวัยออกเรือนก็คงขายไม่ออก คุณหลวงอย่าใส่ใจกับแม่ผกากรองเลยนะเจ้าคะ อิฉันทำขนมเสร็จใหม่ๆลองชิมดูนะเจ้าคะ"
หลวงเรืองฤิทธิ์ทำหน้าลำบากใจ ใช่ว่าเขาจะดูไม่ออกว่าแม่ผกามาศคิดอย่างไรกับเขา แต่เขาไม่ได้มีใจรักชอบฉันชู้สาวกับหล่อนเลยแม้แต่น้อย แม้กระทั่งความรักในแบบพี่ชายน้องสาวคนสนิท เหมือนกับแม่ผกากรองเขาก็ไม่ได้มีให้ แต่ครั้นจะปฏิเสธน้ำใจก็กลัวจะมองหน้ากันไม่ติด เพราะเขารู้จักมักคุ้นกับบ้านของพระยาราชปกรณ์ ไปมาหาสู่กันอยู่บ่อยๆ หลวงเรืองฤิทธิ์ปฏิเสธอย่างสุภาพ "ต้องขอโทษแม่ผกามาศด้วยนะ เสียดายจริง แต่ฉันเพิ่งได้ทานอาหารมาจากบ้าน ยังอิ่มท้องอยู่เลยเอาไว้วันหลังก็แล้วกันนะ" หลวงเรืองฤิทธิ์ปฏิเสธอย่างไม่ให้เสียน้ำใจ และตรงเข้าไปดูการทำแผลของผกากรอง โดยไม่สนใจกับท่าที ที่โมโหกระฟัดกระเฟียดของผกามาศเลยแม้แต่น้อย เขารู้สึกสนิทชิดเชื้อ ได้แบบถึงเนื้อถึงตัวกับแม่ผกากรองได้อย่างเป็นปกติ เพราะเธอเป็นเด็กสาวน่ารักซุกซน และแม้ว่าจะก๋ากั่นเกินหญิง แต่จิตใจแสนบริสุทธิ์จนเขานึกเอ็นดูอย่างน้องสาว และก็รู้ว่าแม่ผกากรองก็รู้สึกนับถือเขาแบบพี่ชายเช่นกัน จึงทำให้คบหาและสนิทกันได้โดยไม่ลำบากใจเหมือนแม่ผกามาศ
------------------------------------------------------------------------------------
ยุคปัจจุบัน พ.ศ. 2559
แพรวานั่งทำขนมกลีบลำดวนอยู่ในครัว ในขณะที่กำลังสาระวนกับการทำขนมตรงหน้า ก็มีท่อนแขนแกร่งของใครบางคนฉวยโอกาสเข้ามาโอบกอดและหอมแก้มของเธอ แพรวาสะดุ้งและเมื่อหันไปเห็นก็พบว่าเป็น อานนท์คนรักหนุ่มของเธอเอง แพรวาทำสีหน้าอย่างนึกปราม และต่อว่าเสียงขุ่น "นนท์อย่าทำแบบนี้กับเราเลยนะ เราเป็นผู้หญิงส่วนเธอเป็นผู้ชาย แล้วเราก็อยู่กันในนี้กันลำพัง มันไม่งาม" อานนท์ละแขนออกห่างจากคนรักสาว พร้อมกับทำสีหน้าเบื่อหน่าย "โธ่แพร...จะห้ามเราทำไม เราเป็นคนรักกันนะเดี๋ยวนี้การกอดกัน หอมแก้มกันมันธรรมดาจะตายไป" แพรวาท้วงอย่างไม่เห็นด้วย "ถึงเป็นคนรักกันก็จริงแต่พวกเรายังไม่ได้แต่งงานกันนะ พวกเราควรให้เกียรตซึ่งกันและกัน " อานนท์แหงนหน้าขึ้นมองเพดานด้วยความเบื่อหน่าย ก่อนจะล้อกึ่งประชดกลับไป " ก็ได้ขอรับ แม่แพรวา กระผมนายอานนท์ จะทำตัวเป็นสุภาพบุรุษเป็นคนรักที่แสนดีให้แม่แพรวาได้ภูมิใจ กระผมต้องขอโทษด้วยนะขอรับ แม่แพรวากระผมคงต้องกลับก่อนนะขอรับ เพราะตอนนี้พวกเราอยู่กันเพียงลำพังสองคน เดี๋ยวแม่แพรวาจะเสื่อมเสียเกียรตเอาได้ ไปก่อนล่ะนะขอรับ"
ว่าแล้วชายหนุ่มก็ออกไปจากบ้านด้วยอารมณ์สุดเซ็งกับคนรักสาว ที่เขาและเพื่อนๆต่างพากันอดคิดไม่ได้ว่าคนรักของเขาน่าจะเกิดผิดยุค ถ้ามีใครบอกเขาว่าแพรวาเป็นสาวยุคอยุธยา หรือไม่ก็ยุครัตนโกสินทร์หลงมายุคปัจจุบันล่ะก็ เขาจะเชื่อทันทีเลย
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ