ปลูกรักในรั้วใจ

10.0

เขียนโดย อิสวารายา

วันที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 15.26 น.

  39 ตอน
  0 วิจารณ์
  38.40K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 เมษายน พ.ศ. 2559 15.03 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

39) เปิดรั้วใจ...เยี่ยมบ้านอิสวารายา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
เปิดรั้วใจ...เยี่ยมบ้านอิสวารายา
 
สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านแฟนพันธ์แท้ที่น่ารักทุกท่าน ก่อนอื่นเลยอิสวารายาต้องขอบอกว่า “ขอบคุณ” จากเบื้องลึกของหัวใจจริงๆ ที่ให้การต้อนรับและติดตามอ่าน “ปลูกรักในรั้วใจ” มาจนถึงตอนอวสาน ที่น่าปลื้มใจอีกประการ คือ มีแฟนนักอ่านบางท่านติดตาม รอคอย รออ่านนวนิยายเรื่องนี้มาตั้ง 9 ปี อิสวารายาขอบคุณอย่างลึกซึ้งจริง ๆ ค่ะ
 
บางท่านอาจจะคิดว่า เอ...นิยายเรื่องนี้ทำไมเขียนจบเร็วจัง เพราะเริ่มโพสต์ลงเวบเมื่อเดือนกุมภาพันธ์นี่เอง แถมยังมีจำนวนตอนตั้งสามสิบกว่า ก็อย่างที่อิสวารยาได้เขียนไว้ในบทนำว่า “ปลูกรักในรั้วใจ” ถูกเขียนมาตั้งแต่ปี 2007 หรือ พ.ศ. 2550 ตอนนั้นผู้เขียนเพิ่งจะเรียนจบมหาวิทยาลัยเองค่ะ พอเขียนมาจนใกล้จะถึงบทอวสานก็เป็นอันต้องหยุดพักยาวนานไปถึง 9 ปีทีเดียว
 
วันดีคืนดีได้ลองเสิร์ชหานิยายเรื่องนี้ในกูเกิ้ลก็ยังเห็นคนถามหาอยู่ เลยลองกลับมาเปิดคอมพ์ดูตอนที่เขียนค้างไว้ ก็เลยเกิดความรู้สึกผิดว่าเราทรยศต่อแฟน ๆ นักอ่านที่ติดตามมาตั้งแต่แรกที่ไม่ยอมเขียนให้จบ ตอนแรกก็ว่าจะไม่กลับมาเขียนต่อเพราะคิดว่าทิ้งเวลาผ่านไปนานมาก คนอ่านเก่า ๆ คงลืมไปหมดแล้ว แต่ปรากฏว่ายังมีคอมเม้นต์ถามหาอยู่ ดังนั้นก็เลยเริ่ม rewrite เรื่องใหม่ตั้งแต่แรกเพื่อให้ทันกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป พอเริ่มโพสต์ตอนแรก ๆ ลงเวบ ก็ปรากฏว่ามีกระแสตอบรับที่ดี บางท่านเขียนคอมเม้นต์ว่าอยากอ่านต่อ บางท่านบอกว่าขอลองอ่านดูก่อนแล้วก็ปรากฏว่าติดหนึบ บางท่านมาเปิดเจอเอาตอนหยุดสงกรานต์แล้วอ่านยาว ๆ ช่วงวันหยุดรวดเดียวจบก็มีที่สำคัญ ทุกท่านให้กำลังอิสวารายาดีมากจนมีกำลังใจเขียนต่อจนจบ
 
มาพูดถึงเนื้อหานิยายกันบ้าง
 
มีหลายท่านชื่นชอบสำนวนการเขียนซึ่งติดออกจะเป็นภาษาที่ ‘ล้าสมัย’ ต่างกับนวนิยายในยุคปัจจุบัน คำบางคำเป็นศัพท์สมัยก่อน สำนวนบางอย่างเด็กรุ่นใหม่ก็อาจไม่เคยได้ยิน คารมของตัวละครบางทีก็ฟังดูลิเก แต่ด้วยความที่อิสวารายาเกิดมาในยุคที่นิยายเล่มละ 12 บาทกำลังเฟื่องฟู ก็เลยชื่นชอบและติดกับลักษณะการเขียนแนวนั้น และโดยความเห็นส่วนตัวแล้วคิดว่ามัน ‘ไพเราะ’ และละมุนละไมต่ออารมณ์มากทีเดียว
 
ในส่วนของการใช้บรรยายโวหารและพรรณนาโวหาร ในทำนองเดียวกัน...อิสวาราชอบอ่านนิยายของนักเขียนเก่า ๆ เช่น จามรี พรรณชมพู ชลาลัย วลัย นวาระ (คนเดียวกันแต่คนละนามปากกา) ฯลฯจนซึมซับการเขียนบรรยายฉากต่าง ๆ รวมทั้งอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครที่ละเอียดมากจนเราอ่านแล้วเห็นภาพและอินไปกับตัวอักษร ดังนั้นเวลาเขียนงานของตัวเองจึงเน้นเก็บรายละเอียดให้ครบที่สุด เพื่อที่เวลาถ่ายทอดออกมาเป็นตัวหนังสือแล้วผู้อ่านจะได้เห็นภาพและรู้สึกตาม
 
ยิ่งตัวละครแต่ละตัวมีบุคลิกต่างๆ กัน ดังนั้นเวลาเขียนบรรยายต้องมีสมาธิดีๆ แล้วบรรยายลักษณะนิสัย รูปลักษณ์ภายนอกและภายใน รสนิยมส่วนตัว ให้ชัดเจนเพื่อดึงความเป็นเอกลักษณ์ในตัวละครตัวนั้น อย่างเวลาท่านผู้อ่านนึกถึงเทียมภพ ก็จะจินตนาการตามได้เลยว่าหน้าตาเป็นยังไง นิสัยเป็นยังไง
 
อีกเรื่องหนึ่งที่ท่านผู้อ่านเขียนมาในคอมเม้นต์ส่วนใหญ่ ก็คือ ความรู้สึกอบอุ่นไปกับความสัมพันธ์ของตัวละคร พลอตของเรื่องเน้นความผูกพันในครอบครัว  จุดนี้อิสวารายาก็ต้องออกตัวก่อนเลยว่า ตนเองเติบโตมาในครอบครัวที่อบอุ่น ถึงจะเป็นลูกคนเดียวแต่ก็มีลูกพี่ลูกน้องทั้งหญิงชายหลายคนที่รักกันเหมือนพี่น้องแท้ ๆ และแน่นอนว่าผู้เขียนเป็นน้องคนเล็ก จึงถ่ายถอดอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิดของแทนดาวนางเอกของเรื่องได้เป็นอย่างดี จึงอยากหยิบยกความรักความผูกพันในครอบครัวมาเป็นแก่นหลักของเรื่อง
 
แต่ก็อย่างที่บอกค่ะ ในเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป พลอตเรื่องธรรมดาไม่หวือหวา ไม่มีฉากรักร้อนแรง แถมใช้ภาษาโบราณอาจไม่เป็นที่นิยมแล้ว แต่อิสวารายาก็ค่อนข้างมั่นใจว่า จะยังมีผู้อ่านชื่นชอบแนวนี้อยู่ แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ มีท่านผู้อ่านมากมายติดตามและให้กำลังใจกัน
 
บางท่านก็มีติติงมาว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ ‘นิยายรักอบอุ่น ที่จะทำให้ละมุนหัวใจ’ เสียแล้ว เพราะบางช่วงบางตอนก็มีดราม่าเข้มข้นบีบคั้นหัวใจจนผู้อ่านบางท่านสูดจมูกเสียน้ำตากันเลยทีเดียว นี่ขนาดว่าอิสวารายาแก้ไขจากต้นฉบับเดิมแล้วนะเพราะของเดิมมันดราม่ากว่านี้อีก อย่างเรื่องของของชลธีกับเปรยุตาตามฉบับเดิมนั้น สองคนนี้มีอะไรกันจริง ๆ คือ ปรางทั้งมอมเหล้าทั้งวางยาปลุกเซ็กส์พระเอกเราเลยทีเดียว แล้วพี่ชลก็แหม..ผู้ชายอ่ะนะ ถูกยั่วขนาดนั้นจะไม่เผลอไผลก็คงเป็นไปไม่ได้ แต่พอผู้เขียนกลับไปอ่านบทนี้ก็รู้สึกว่าพลอตแนวนี้มันเกร่อไปหน่อย ก็เลยปรับแก้เป็นแค่วางยาแล้วถ่ายรูปลงข่าว แค่นี้พระเอกนางเอกของเราก็กลุ้มจิตจะแย่ดราม่าอีกช่วงก็คงเป็นตอนที่พี่น้องทะเลาะกัน พี่หมากตีแทนดาวแรงมาก ทะเลาะกันแรงมาก ส่วนตอนที่จะถูกข่มขืนนั้น คนใจร้ายคนนั้นคือเวทิวุฒิ รุ่นพี่ที่ตามจีบแทนดาวในช่วงแรก ๆ ที่ร่วมมือกับปลายเดือน แต่อิสวารายาเปลี่ยนใจให้คนอื่นเป็นคนร้ายแทน เพราะว่าพี่เวนั้นควรไปจากชีวิตนางเอกเราแบบดี ๆ ก็เลยไม่ดึงแกกลับมาเข้าฉากอีก
 
ความดราม่าในเรื่องนี้ส่วนใหญ่เกิดจากความ ‘ไม่พอดี’ ของตัวละคร เช่น เทียมภพที่รักน้องมากเกินไปจนกระดิกตัวไปไหนไม่ได้ ปลายเดือนที่มีอคติกับคนรอบข้างจนเกินไป ชลธีที่ใจเย็นเกินไปจนเกือบจะเสียทีคนเรียบร้อยแต่ร้ายลึกอย่างเปรมยุตา แทนดาวเองก็มัวแต่งอแงไม่รู้จักคิดในตอนแรก แต่ท้ายสุดแล้วตัวละครทุกตัวต่างก็รู้ข้อบกพร่องของตัวเองและปรับปรุงแก้ไขได้ในที่สุด
 
รู้จักกับตัวละคร
ในส่วนของตัวละครหลักและรองในเรื่องนี้ก็ไม่มีความสัมพันธ์สลับซับซ้อนอะไรมาก ไม่มีใครตามหาทายาทที่หายสาบสูญหรือแก่งแย่งมรดกกัน ทุกตัวละครมีที่มาที่ไปชัดเจนเข้าใจง่าย ไม่มีปริศนาอะไรเลยค่ะ อิสวารายาพูดถึงตัวละครต่าง ๆ โดยจะแยกเป็นครอบครัวไปนะคะ
 
ครอบครัว “ทวีกิจไพศาล”
ตระกูลนี้ทำกิจการค้าขายเฟอร์นิเจอร์ แรกเริ่มเดิมทีนั้นก็ขายของของชำในตึกแถวเล็ก ๆ แล้วต่อมาเริ่มรับเอาเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน เครื่องเรือนต่างๆ ที่ทำจากไม้มาขายจนได้ขยับขยายกิจการเรื่อย ๆ เติบโตขึ้นเป็นบริษัททวีกิจ ผู้ผลิตและส่งออกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านเจ้าของแบรนด์ ยูนีค นอกจากนี้แล้ว เทียมภพทายาทคนโตยังมีบริษัท Draw your Dream Design ที่ร่วมหุ้นกับเพื่อน รับตกแต่งออกแบบภายในและภายนอกครบวงจร
 
บรรพบุรุษ – คุณกอบกิจ (ถึงแก่กรรม) คุณลำเภา (ปู่และย่า)
บิดา-มารดา – คุณเที่ยงธรรม คุณดวงทิพย์
บุตร – เทียมภพ (หมาก) อายุ 35 ปี
ธิดา - แทนดาว (ใบพลู)อายุ 23 ปี
บิดา - มารดา – คุณเที่ยงแท้ คุณระริน
ธิดา – ปลายเดือน (สีผึ้ง)อายุ 29 ปี
 
เทียมภพ หรือ พี่หมากขาวีนของเราเป็นคนเจ้าชู้ (นิสัยคล้ายกับหนึ่งในพี่ชายของผู้เขียนค่ะ) รูปหล่อพ่อรวยครบสูตร ความที่เป็นลูกชายคนโตบวกกับนิสัยใจร้อน ขี้โมโหก็เลยมีอำนาจ คนใต้อาณัติจะกลัวและเกรงคุณหมากมากกว่าบิดาอย่างคุณเที่ยงธรรมเสียอีก แถมยังหวงน้องสาวมากเกินมนุษย์ปรกติ แต่สิ่งที่ทุกคนรวมถึงผู้เขียนสัมผัสได้ตั้งแต่แรกก็คือ เทียมภพเป็นคนที่รักครอบครัวมาก ถึงจะเจ้าสำราญหรือสำมะเลเทเมายังไงแต่ครอบครัวต้องมาก่อนเสมอ ยิ่งพอคุณพ่อป่วย เขาก็ต้องเป็นเสาหลักของครอบครัว อยู่บ้านก็จะเป็นพี่ใหญ่ของน้อง ๆ อยู่ที่บริษัทก็จะเป็นท่านประธานที่พนักงานทั้งรักและเกรงไปพร้อมๆ กัน
 
เชื่อว่าหลายคนคงซาบซึ้งกับความรักที่เทียมภพมีต่อน้องสาวนะคะ เพราะสิ่งเดียวที่เขารักและหวงแหนมากเท่าชีวิตก็คือ แทนดาว น้องสาวคนเดียว ของขวัญจากฟากฟ้าที่มารดามอบให้ในวันเกิด สำหรับเขาแล้ว...แทนดาวเหมือนลูกมากกว่า ทุกอย่างที่ทำให้ล้วนมาจากความรัก ตามใจ หวงสุด ๆ เรียกว่าไม่เคยต้องให้น้องสาวทำอะไรหรือตัดสินใจอะไร เขาจะเป็นคนดูแล กำกับและจัดหาให้เองเสร็จสรรพ พอน้องเริ่มโตและเค้าความงามผุดผาดเริ่มเปล่งประกาย วิญญาณพี่ชายขาโหดก็เข้าสิง เขาตราหน้าผู้ชายทุกคนที่มาจีบน้องสาวว่าคือศัตรู ดังนั้นหนุ่ม ๆ ทั้งหลายที่กล้ำกรายเข้ามาก็มีอันต้องระเห็จถอยไป บางคนว่าง่ายก็จากไปแบบไม่มีริ้วรอย แต่บางคนอยาก ‘ลองดี’ อยากเล่นของสูง ก็ต้องจากไปแบบเลือดตกยางออก
 
ในด้านชีวิตส่วนตัว ใครจะเชื่อว่าผู้ชายที่มี ‘ครบ’ อย่างเทียมภพจะเคยถูกผู้หญิงปฏิเสธ ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คือ เปรมยุตา ผู้ซึ่งเป็นทั้งเพื่อนเก่าและแฟนเก่าของเพื่อน ถึงจะเจ้าชู้ขนาดไหนแต่เปรมยุตาเป็นรักแท้ ๆ รักแรกก็ว่าได้ เคยถึงขั้นขอเปรมยุตาเป็นแฟนดื้อ ๆ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าหล่อนยังคบกับชลธี แต่พอสาวเจ้าปฏิเสธก็เลยเสียเซลฟ์ว่าทำไมเปรมยุตาไม่เลือกคบคนรูปหล่อพ่อรวยอย่างตน
 
ต่อมา เมื่อโชคชะตาฟ้าลิขิตนำพาให้มาพบรมย์นลินซึ่งไม่ใช่ผู้หญิงในอุดมคติทุก ๆ ด้าน ความรักแบบไม่รู้ตัวก็ค่อย ๆ เกิดขึ้นในหัวใจของชายเจ้าชู้เงียบ ๆ แต่ในเมื่อรมย์นลินเป็นน้องสาวคู่อริก็เลยทำไม่ดีด้วยในตอนแรก ท้ายสุด...เทียมภพได้ทำการ ‘หักหาญ’ รมย์นลินแบบไม่น่าให้อภัย แต่ทว่าความรักระหว่างทั้งคู่ได้ก่อตัวขึ้นมาเงียบ ๆ นานแล้ว จึงลงเอยกันแบบไม่มีใครเจ็บปวด เว้นเสียจากเกือบถูกชลธียิงตายที่ไปปู้ยี่ปู้ยำน้องสาวเขา
 
ในตอนท้าย เทียมภพได้รับบทเรียนว่า การปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลย่อมทำให้เกิดเรื่องวุ่นๆ หลายครั้ง การหน้ามืดตามัวหลงในความรักทำให้ต้องผิดใจกับเพื่อน การรักน้องและเลี้ยงดูแบบผิด ๆ เกือบทำให้ต้องเสียแทนดาวไป ดังนั้นท่านผู้อ่านก็จะเริ่มสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของพี่หมากในช่วงหลัง ๆ ว่า ใจเย็นสุขุมขึ้น มีเหตุมีผลมากกว่าเดิม
 
แทนดาว หรือ ใบพลู บุตรสาวคนเล็กของทวีกิจไพศาล ถ้าจะให้อธิบายลักษณะนิสัยของตัวละครนี้ ก็ต้องบอกว่า หน้าตาสะสวย จิ้มลิ้มพริ้มเพรา นิสัยสนุกสนานร่าเริง ขี้ประจบฉอเลาะ และด้วยความที่เป็นน้องเล็กก็ได้รับการเอาอกเอาใจมากเป็นพิเศษ ชีวิตประหนึ่งเจ้าหญิงน้อยในกรงฝังเพชร ทุกอย่างในชีวิตขึ้นอยู่กับพี่ชายเท่านั้น ต้องถามพี่หมากก่อน แล้วแต่พี่หมากตลอดจนติดเป็นนิสัยคิดอะไรเองไม่เป็น ทำอะไรเองไม่ได้ งอแงและขี้งอน
 
แทนดาวมีพรสวรรค์พิเศษทางด้านดนตรี ซึ่งความถนัดนี้ขัดกับความต้องการของพี่ชายอย่างมาก เพราะเทียมภพต้องการให้น้องสาวมาช่วยกิจการครอบครัวมากกว่าไป ‘เต้นกินรำกิน’ แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้บีบบังคับหรือขัดขวาง เพียงแต่จะคอยบ่นให้ได้ยิน จนตอนหลังก็เลิกบ่นไปเองเพราะอย่างไรเสีย ถึงไม่เล่นดนตรี แทนดาวก็ไม่มีหัวในการทำงานบริหารผู้คนอยู่ดี
 
ด้วยความที่พี่ชายรักและหวงมาก แทนดาวถึงถูกตีกรอบอย่างเข้มงวด อะไร ๆ ที่ควรจะได้เรียนรู้ ได้ทำตามวัยก็ถูกลิดรอนไปเสียหมด จนบางครั้งก็ทำให้รู้สึกอึดอัดและโกรธคนเกิดก่อนอยู่บ่อย ๆ แต่ท้ายสุดแล้วเวลามีเรื่องอะไรก็ต้องวิ่งโร่ไปหาพี่ทุกครั้ง แบบนี้ใคร ๆ จึงเห็นว่าไม่รู้จักโต เทียมภพก็ยิ่งไม่กล้าปล่อยให้ไปไหนมาไหนเอง ตรงนี้คิดว่าท่านผู้อ่านก็คงรู้สึกเหมือนกับผู้เขียนว่า ตัวละครนี้ช่างอ่อนแอ น่ารำคาญเสียเหลือเกินใช่ไหมคะ แต่ก็เข้าใจว่าแทนดาวถูกเลี้ยงมาให้เป็นแบบนี้จริง ๆ
 
ในมุมส่วนตัว สาวช่างฝันอย่างแทนดาวก็เหมือนเด็กสาววัยรุ่นทั่ว ๆ ไป ที่ชื่นชอบดารา อ่านนิยาย มีความรักแบบเด็ก ๆ (แอบปลื้มเวทิวุฒิ รุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัย) แต่อย่างที่บอกว่า พี่ชายหวงมากก็เลยถูกปิดกั้นเรื่องหัวใจ แทนดาวไม่เคยมีเพื่อนผู้ชายที่สนิท ๆ ด้วยเลย เพราะพี่ชายให้เรียนโรงเรียนหญิงล้วนมาตลอด ทั้งยังคอยไปรับไปส่งเองจนแทบไม่มีโอกาสปลีกตัวไปไหน พอเข้ามหาวิทยาลัยก็เรียกว่าแทบจะตามติดยี่สิบสี่ชั่วโมง ขนาดว่า...ถ้าโทรหาแล้วไม่รับสาย ในเวลาไม่ถึงชั่วโมง แทนดาวก็จะเห็นลูกน้องของพี่ชายหรือเจ้าตัวมาเดินเกร่รออยู่ใต้ตึกคณะ ดังนั้นพอมี ‘ชายแปลกหน้า’ อย่างชลธีที่สามารถฝ่าด่านกำแพงหินศิลาแลงเข้ามาใกล้ชิดได้ มีหรือที่หญิงสาวจะไม่หวั่นไหว
 
แทนดาวเองก็ได้เรียนรู้ความบกพร่องของตัวเอง ความที่ไม่เคยต้องพบกับความผิดหวังเสียใจ พอเจอกับตัวก็ถึงกับโซซัดโซเซ เอะอะก็งอน เอะอะก็โกรธ เอะอะก็เลิกคบ ไม่ทันคิดตริตรองหาเหตุหลให้ถ้วนถี่แล้วก็มานั่งเสียอกเสียใจเป็นวรรคเป็นเวร ร้องไห้อาศัยน้ำตาอย่างเดียว จนเมื่อเทียมภพตัดสินใจ ‘ปล่อย’ ให้ลองใช้ชีวิตด้วยตัวเอง แทนดาวก็เลยเริ่มหัดที่จะใช้สติและความคิดรอบคอบมากขึ้น แรก ๆ อาจจะติดขัดอยู่ไม่น้อย แต่เมื่อเวลาผ่านไปแทนดาวก็พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า เติบและเข้มแข็งกว่าที่ใคร ๆ คิด
 
ปลายเดือน หรือ สีผึ้ง สาวสวยที่ครบเครื่องไปเสียทุกอย่าง เรียกว่าถ้าจะหาผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบทั้งภายนอกและภายในก็ต้องบอกว่าปลายเดือนคนนี้เอง แต่ในความเพียบพร้อมกลับมีบางอย่างที่ ‘ขาด’ ปลายเดือนเป็นคนที่ภายนอกดูใจดี มีความเป็นผู้ใหญ่ แต่จิตใจลึก ๆ กลับมีปมว่าคนในครอบครัวรักน้องสาวคนเล็กมากกว่า ความอิจฉาน้องจึงเกาะกินจิตใจมาตั้งแต่เด็ก ยิ่งพอผู้ชายที่ตนหมายปองกลับไปชอบน้องสาว ก็ยิ่งเพิ่มความเกลียดเข้าไปอีก
 
แต่...อย่างที่ผู้เขียนบรรยายไว้ว่า ท้ายที่สุดแล้วเลือดก็ย่อมข้นกว่าน้ำ ถึงจะแสดงออกว่าไม่ถูกคอกับน้องสาว แต่ลึก ๆ แล้วปลายเดือนก็ยังมีความห่วงใยแทนดาวอยู่มาก อย่างบางครั้งก็เข้ามาช่วยดูแลเรื่องส่วนตัวที่พี่ชายอย่างเทียมภพไม่ค่อยจะรู้เรื่อง ซื้อขนมของโปรดมาให้หรือปกป้องในยามถูกรังแก แต่จุดพีคที่สุดก็คงจะเป็นตอนที่ร่วมมือกับเปรมยุตาหลอกน้องมาให้คนชั่วทำมิดีมิร้าย แต่ว่าปลายเดือนก็ทำไม่ได้แล้วยังตั้งใจจะกลับไปช่วย
 
เรื่องหัวใจ ตั้งแต่ต้นเรื่องอิสวารายาก็เกริ่นไว้แล้วว่าเฮียบุ้งแอบรักสีผึ้ง แต่ว่าด้วยความที่ฝ่ายหญิงตั้งสเปคผู้ชายไว้สูง เฮียบุ้งก็เลยไม่อยู่ในสายตา แต่อย่างไรก็ดี ความผิดหวังในรักครั้งแล้วครั้งเล่าก็ทำให้ปลายเดือนได้ทบทวนว่า ยศถาบรรดาศักดิ์มันเป็นเพียงแค่ส่วนประกอบภายนอก จนเริ่มรู้สึกดี ๆ กับเฮียบุ้งและยอมรับในความรักที่อีกฝ่ายมอบให้ในที่สุด
 
ครอบครัว “ธาราพิศุทธิ์”
นามสกุล ธาราพิศุทธิ์ เป็นนามสกุลของคุณตา ชลธีไม่ได้ใช้นามสกุลของคุณพ่อ พื้นเพเป็นคนใต้ ตระกูลนี้ครอบครองกิจการสารพัด ทั้งประมง สวนยาง สวนปาล์ม ฟาร์มมุก เดินเรือ ห้องเย็นและอีกบานตะไท คุณวารีได้รับมรดกที่ดินในจังหวัดระยองก็ย้ายครอบครัวมาสร้างรีสอร์ทเคียงธารา  พอชลธีเติบโตขึ้นก็หันมาจับธุรกิจจำพวกอสังหาริมทรัพย์ จนปัจจุบันเป็นประธานกรรมการในเครือ ธารา เรสสิเด้นท์ คอร์ป มีโครงการในมือมากมาย ที่มีชื่อเสียงก็อาทิ โรงแรม The Prestige Thara คอนโดมิเนียมธารารมณ์ บ้านจัดสรรธาราทาวน์ และบรรดาตึกแถวห้องเช่าต่าง ๆ ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด
 
บรรพบุรุษ – คุณกระแส คุณจิต (ตากับยาย)
บิดา มารดา – คุณประจิม (ถึงแก่กรรม) คุณวารี
บุตร – ชลธี (ชล) อายุ 35 ปี
ธิดา - รมย์นลิน, บุตรบุญธรรม(แฟง) อายุ 29 ปี
 
ชลธี หรือ ชล หนุ่มหน้านิ่ง ผิวสีทองแดง นิสัยสงบเยือกเย็นสุขุมคัมภีรภาพ ถ้าจะให้บรรยายลักษณะภายนอกของหนุ่มใต้คนนี้ก็ให้นึกภาพหนุ่มตะวันออกกลาง คม เข้ม แต่ถึงจะเป็นคนใต้ อิสวารายาก็ไม่ได้กำหนดคาแรกเตอร์ให้ชลธีเป็นนายหัวเจ้าของเหมืองอะไรเทือกนั้น ชลธีเป็นหนุ่มเมืองหลวงมาดนักธุรกิจที่ดูจริงจังกับทุกเรื่อง ความจริงแล้วเขาไม่ใช่คนเคร่งเครียดหรือเสือยิ้มยากอย่างที่ใคร ๆ เห็น ท่านผู้อ่านจะสังเกตได้ว่า เวลาที่เขาอยู่กับครอบครัวหรือว่าแทนดาวนางเอกของเรา ก็จะเปลี่ยนเป็นคนละคน
 
ถ้าจะถามว่าชีวิตใครดราม่าที่สุด อิสวารายาก็ต้องบอกว่าชลธีพระเอกของเรานี่แหละ ท่านผู้อ่านอาจคิดว่าหล่อรวยอย่างนี้จะมีปมอะไรได้ไง ถ้าใครจับได้ก็จะรู้ว่าอิสวารายาซ่อนความรันทดในชีวิตของพี่ชลเอาไว้อย่างแยบยล เพื่อต้องการสื่อว่า ถึงชีวิตจะเจอกับอุปสรรคขวากหนาม บางอย่างไม่เป็นอย่างที่หวัง แต่ก็ไม่ควรย่อท้อต่อโชคชะตา อย่างตัวพระเอกของเรา ถึงจะเกิดมาในครอบครัวที่คุณตามีฐานะก็จริง แต่ว่าคุณแม่กลับตกลงปลงใจเลือกแต่งงานกับคุณพ่อซึ่งผู้ชายธรรมดาค่อนไปทางจน คุณตาก็เลยไม่ชอบเขยคนนี้ พอแบ่งมรดกกัน คุณวารีก็ได้ที่ทางในจังหวัดระยองในขณะที่พี่น้องคนอื่น ๆ อยู่ทางใต้กันหมด ดูเถอะว่า...คุณตาไม่ชอบเขยคนนี้ขนาด ‘เนรเทศ’ ให้ไปอยู่ไกลจากพี่น้อง
 
ยัง...ยังไม่พอ พอเริ่มบุกเบิกสร้างรีสอร์ทยังไม่ทันเสร็จดีคุณพ่อก็มาเสียชีวิต ลำบากสิคะ ชีวิตวัยรุ่นที่กำลังสนุกสนานไปตามวัยต้องมารับบทบาทหัวหน้าครอบครัว ต้องเลี้ยงน้อง ดูแลกิจการ ที่สำคัญที่สุดคือ ชลธีต้องตัดใจเบนเข็มชีวิตมาเรียนการท่องเที่ยวและโรงแรม จากที่ตอนแรกผู้เขียนบรรยายไว้ว่าชลธีอยากเป็นนักบินด้วยความมุมานะและกล้าเสี่ยง ไม่นานชลธีก็เริ่มขยับขยายรีสอร์ทและหันมาจับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่ยังเรียนไปไม่จบด้วยซ้ำ
 
แต่แหม...วัยรุ่นคนเดียวจะมีกำลังเงินในการลงทุนทำธุรกิจใหญ่ ๆ ขนาดนี้ได้อย่างไร หลายท่านอาจจะคิดว่ามันเป็นไปได้หรือ อิสวารายาต้องบอกว่า...ได้ค่ะ อย่างที่บอกว่าคุณตาเป็นคนมีฐานะ ถึงจะรังเกียจลูกเขยอย่างไรก็ยังรักหลาน อีกทั้งชลธีก็เป็นหลานชายคนแรก ก็เลยอุปถัมภ์ค้ำชูกันตามอัตภาพ เงินทองไม่กี่บาท ทำไมจะให้หลานไม่ได้...เนอะ
 
ทีนี้...ท่านผู้อ่านคงอยากรู้ว่า ชลธีเข้ามาพัวพันกับบ้านทวีกิจไพศาลได้อย่างไร ในเนื้อหาบอกแค่ว่าเขามาร่วมหุ้นกับทวีกิจ ก็ฟังดูธรรมดา ไม่มีอะไร แต่จริงๆ แล้วเป็นเพราะว่าคุณแม่ต้องการให้พระเอกของเราเข้ามาช่วยเหลือทวีกิจที่กำลังจะล้มละลายด้วยเหตุผลที่เขาเองก็ไม่รู้ แต่แม่บอกให้ทำ...ก็ทำ คุณวารีมีอะไรกับครอบครัวนี้หรือเปล่า ? ท่านผู้อ่านจะได้รู้ไปพร้อม ๆ กันในตอนพิเศษค่ะ
 
ด้านชีวิตส่วนตัว แน่นอนว่า...พี่ชลของเรามีรักแรกกับเปรมยุตา หญิงเดียวที่รักและหมายมั่นว่าก่อร่างสร้างตัวเสร็จเมื่อไหร่จะแต่งงานด้วย รักมากถึงขนาดสักชื่อย่อเอาไว้บนท่อนแขน (แต่สุดท้ายก็ลบออกเพราะไม่อยากน้องพลูเห็น) แต่แล้วเปรมยุตาก็ตัดสินใจ ‘ทำลาย’ ทุกสิ่งอย่างแม้กระทั้งเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองเพราะความกังวลในเรื่องฐานะของคนรักว่าจะเลี้ยงดูครอบครัวไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ชลธีจึงผิดหวัง ช้ำใจ ทุกข์ระทมแทบเสียผู้เสียคน ท่านผู้อ่านคงนึกภาพตามได้ใช่ไหมคะ อิสวารายาได้บรรยายความรู้สึกของพระเอกตอนถูกทิ้งว่าเจ็บเจียนตายขนาดไหน ด้วยเหตุผลนี้ พระเอกของเราก็เลยกลายเป็นคนที่เงียบขรึม มุงานลูกเดียว ไม่เคยจริงจังหรืออยากแต่งงานผู้หญิงคนไหนอีกเลยจนกระทั่งมาพบนางเอกเป็นไงคะ...ชีวิตพระเอกของเรานี่ดราม่ากว่าใครทั้งหมดเชียว
 
ส่วนตอนเจอน้องพลูและได้รู้ว่าเป็นน้องสาวของเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด จากที่เอ็นดูในความน่ารักสดใสและมองโลกในแง่ดีบวกกับความสงสารที่ว่าเห็นนางเอกถูกเลี้ยงอยู่ในกรงแคบ ๆ ก็เลยเกิดความรู้สึกลึกซึ้งขึ้นทีละเล็กละน้อย แต่ด้วยความแตกต่างแห่งวัยก็เลยทำอะไรไม่ค่อยถนัดนัก ท่านผู้อ่านคงทราบถึงข้อนี้ดีใช่ไหมคะ ว่าพี่ชลของเราต้องระงับจิตระงับใจขนาดไหนไม่ให้ทำอะไรรุ่มร่ามกับนางเอกของเรา ทีนี้พอเกิดเรื่องเข้าใจผิดตอนไปเที่ยวตรัง ความเป็นสุภาพบุรุษผสานกับความต้องการลึก ๆ ในจิตใจ ชลธีเลยตัดสินใจเดินเข้าไปหาคุณเที่ยงธรรมพ่อของนางเอกแบบแมน ๆ แล้วขอลูกสาวคนเล็กกับท่านตรง ๆ จากนั้นก็ช็อควงการด้วยการประกาศหมั้นแบบสายฟ้าแลบในงานเซ็นสัญญา
 
เหตุการณ์ต่อจากนั้น อิสวารายาเชื่อว่าท่านผู้อ่านคงจะได้ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไปกับวิธีการเกี้ยวสาววัยกระเตาะของหนุ่มมาดนิ่งที่ตีหน้าตายแต่ร้ายลึกนัก ชอบทำเซอร์ไพรส์น้องพลูอยู่เรื่อย ส่วนน้องพลูของเราก็ขยันงอนพี่ชลเสียจริง ยิ่งมีสาว ๆ เข้ามาพัวพันยิ่งงอแงเข้าไปอีก แต่พี่ชลก็มีวีธี ‘จัดการ’ และ ‘สั่งสอน’ น้องพลูของเราให้ค่อย ๆ เติบโตมีเหตุมีผลขึ้น ถ้าจะพูดถึงความโรแมนติกนี่ต้องยกให้พี่ชลเขาเลยค่ะ เชื่อว่าหลายท่านฟินฉีกหมอนขาดไปหลายใบแล้วแน่ ๆ ขยันทำเรื่องหวาน ๆ กับนางเอกเหลือเกิน ยิ่งพอตอนขอเป็นแฟนแล้วเนี่ย...พี่ชลก็เริ่มซุกซน เผลอเป็นกอด เป็นหอมเชียวแหละ ถ้าจะบอกว่าชอบฉากฟินตอนไหนมากที่สุด อิสวารายาขอบอกว่าชอบตอนขอเป็นแฟนด้วยช็อดก็แลตมากที่สุด ยังจำกันได้ไหมคะ?
“will you be my girl”
“I will”
 
 
รมย์นลินหรือ แฟง บุตรสาวบุญธรรมที่คุณวารีรับมาเลี้ยง นิสัยก็เป็นกุลสตรีไทย เรียบร้อย เจียมเนื้อเจียมตัว หน้าตาไม่ถึงขั้นสวยจัดแต่ก็น่ามอง ในเนื้อหาผู้เขียนไม่ได้บอกว่าใครคือพ่อแม่ที่แท้จริงของแฟง บอกเพียงแค่ว่าเป็นลูกกำพร้า ผู้อ่านบางท่านอาจจะรอดูว่าจะมีอะไรหักมุมเกี่ยวกับชีวิตของรมย์นลินเหมือนละครโทรทัศน์หรือไม่ แต่อิสวารายาไม่ต้องการให้ชีวิตของแฟงต้องซับซ้อนเกินจริงขนาดนั้น รมย์นลินเป็นเด็กกำพร้าจริง ๆ ไม่ได้เป็นลูกเศรษฐีที่หายสาบสูญไป พ่อแม่ของแฟงยกลูกให้คุณวารีตั้งแต่ลืมตาโลกได้เพียงวันเดียวเพราะความไม่พร้อม พูดง่าย ๆ คือ ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดมาด้วยซ้ำ
 
ความไม่รู้หัวนอนปลายเท้าของตัวเองอาจจะฟังดูเป็นปมด้วยใช่ไหมคะ แต่สำหรับรมย์นลินแล้ว...เธอไม่เคยมีปมกับเรื่องนี้ค่ะ เพราะว่าทั้งแม่และพี่ชายต่างให้ความรักและเลี้ยงดูมาเหมือนสายเลือดแท้ ๆ รมย์นลินได้รับการอบรม ปลูกฝังแต่สิ่งดี ๆ จากคุณวารีจนเติบโตมาเป็นคนดีมีคุณภาพ ซึ่งตัวละครของรมย์นลินเนี่ย...อิสวาราตั้งใจจะสื่อว่า คนเราเลือกที่จะเป็นคนดีได้ ไม่ว่าชาติกำเนิดจะเป็นใครมาจากไหน
 
เรื่องราวความรักของรมย์นลินฟังดูคล้ายนิยาย ที่แอบไปหลงรักรุ่นพี่แล้วก็ฝังใจมาจนทุกวันนี้ รมย์นลินเองก็เหมือนมีกรรมเนอะ ชอบใครไม่ชอบ...ดันไปชอบเทียมภพ คนเจ้าชู้ขนาดนั้นย่อมรายล้อมไปด้วยสาว ๆ สวย ๆ คงไม่มามองผู้หญิงเรียบ ๆ จืด ๆ แน่ แต่เพราะพรหมลิขิตไว้แล้ว วันหนึ่งพี่แฟงของเราก็ได้มาเป็นครูสอนเปียโนให้แทนดาว ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ในช่วงแรกก็ไม่มีอะไร แต่พอเทียมภพรู้ว่ารมย์นลินเป็นน้องสาวของศัตรูปุ๊บ....องค์ลงทันทีสิคะ รมย์นลินเลยถูกจัดเข้าพวกศัตรูไปด้วย เชื่อว่าหลายท่านคงจะเกลียดพี่หมากเข้ากระดูกที่ทำตัวแย่ ๆ กับรมย์นลิน แต่สุดท้าย...ความดีก็เอาชนะทุกอย่างได้จริง ๆ ค่ะ
 
ครอบครัว“เกียรติกิจวัฒนา”
ตระกูลของคุณหลี ครอบครัวนี้มีส่วนสำคัญที่ทำให้ทวีกิจเจริญเติบโต ดังนั้นทุกคนจึงให้ความเคารพและวางคุณหลีในตำแหน่งญาติผู้ใหญ่ที่มีความสำคัญ ลูกหลานทวีกิจรักคุณหลีเหมือนแม่คนที่สอง ส่วนลูก ๆ ของท่านก็สนิทสนมกันเหมือนพี่น้องแท้ ๆ ครอบครัวนี้เป็นครอบครัวเชื้อสายจีนค่อนข้างใหญ่พอสมควร มีกิจการหลายอย่างที่ลูกชายทั้งสี่คนรับผิดชอบต่างกันไป
 
บิดา มารดา – คุณธง คุณหลี
เฮียเบิ้ม บุรนันท์ – บุตรชายคนโตเจ้าของภัตตาคารอาหารจีน มีลูกชาย 3 คน
เฮียบิ๊ก วิบูลกิจ – บุตรชายคนที่สอง ทำกิจการร้านเพชรและอัญมณีต่างๆ มีลูกสาวคนเดียว
เฮียเบ้ง วิบูลเกียรติ – บุตรชายคนที่สาม ทำกิจการรับเหมาก่อสร้าง แต่งงานแล้วแต่ยังไม่มีลูก
เฮียบุ้ง บุรินทร์ – บุตรชายคนที่สี่ สานต่อกิจการร้านทอง ยังโสด แอบชอบปลายเดือนมาตั้งแต่เด็ก
 
จะขอพูดถึงเฮียบุ้งผู้น่าสงสารของเราหน่อยนะคะบุรินทร์ อายุรุ่นราวคราวเดียวกับพี่หมากของเรา นิสัยก็เป็นคนเรียบง่าย เป็นพ่อค้าขายทอง ไม่ถนัดออกงานสังคม ซื่อ ๆ แอบรักปลายเดือนมานานมาก ทั้งสองครอบครัวก็ลุ้นให้ลงเอยกันแต่ว่าฝ่ายหญิงดูจะไม่ค่อยถูกใจเฮียบุ้งนัก แต่ด้วยหัวใจที่มั่นคงในรัก บุรินทร์ก็ยังคงรอคอย ถึงจะต้องทนเจ็บเมื่อเห็นผู้หญิงที่ตนรักมีแฟนคนแล้วคนเล่า เฮียบุ้งเป็นตัวอย่างของคนที่มั่นคงในความรักมากจริง ๆ นับถือค่ะ
 
คนต่อไปนี่ไม่พูดถึงไม่ได้เชียวค่ะ นายแพทย์อชิตะ รัษฎากร หรือ หมออชิ  อายุ 33 ปี แพทย์ประจำโรงพยาบาลประชาเวช ใจดี ใจเย็นมากถึงมากที่สุด รักและเอ็นดูแทนดาวมากแต่แอบเสียใจที่ฝ่ายหญิงมีคู่หมายแล้ว แต่คุณหมอก็ทนเสียงเรียกร้องในหัวใจไม่ไหว เลยทำเนียน ‘จีบ’ น้องพลูเสียเลย ความเนียนแบบเหนือชั้นของหมอไม่ต้องบรรยายอะไรมาก แต่ละอย่างนี่...ผู้เขียนยังต้องยอม อย่างตอนแรกหลายท่านก็คงคิดเหมือนอิสวารยาว่าคุณหมอต้องชอบรมย์นลินแน่ ๆ ที่ไหนได้...กว่าที่ใครจะรู้ตัวก็เกือบตีค่ายแตกแย่งตัวนางเอกไปได้เสียแล้ว ร้ายน่าหยิกจริง ๆ
 
ตัวละครนี้อิสวารายาเพิ่มเข้ามาเพื่อสั่งสอนพระเอกของเราโดยเฉพาะเลยค่ะ ชลธีเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูงจนน่าหมั่นไส้ คิดว่าอย่างไรเสียแทนดาวก็ต้องเป็นของตัวอยู่วันยันค่ำก็เลยใจเย็นไปเรื่อย ผู้เขียนเลยสร้างหมออชิให้มาทานอำนาจ ความฉลาดรอบคอบและสุขุมของคุณหมอแว่นทำให้ชลธีเสียท่าหลายหน แถมยังมีแทนดาวเป็นเดิมพันอย่างนี้ด้วยแล้ว...พี่ชลของเราดีดเป็นกุ้งเต้นเลยค่ะ แต่สุดท้ายแล้วคุณหมอก็ยอมเดินออกไปจากวิถีความรักของทั้งคู่แบบแมน ๆ เหลือเพียงความเป็นพี่ชายให้สาวน้อย แต่คุณหมอก็ยังตัดใจไม่ขาดเสียทีเดียวนะ อย่างตอนที่บรรยายความในใจคุณหมอว่า จะรอจนกว่าจะพบผู้หญิงที่มีลักษณะนิสัยและการมองโลกคล้าย ๆ แทนดาว ซึ่งข้อนี้เป็นการอธิบายสเป็กผู้หญิงของคุณหมอได้ชัดเจนเลยว่า ชอบคนที่ร่างเริงสดใสและมองโลกในแง่ดี ก็น่าอยู่หรอกค่ะ...หน้าที่การงานของหมออชิตะเจอแต่เรื่องเครียด ๆ ทั้งนั้น คุณหมอมาดเนิร์ดแว่นหนาของเราย่อมต้องการแฟนที่สนุกสนานเข้าไว้ อยู่ใกล้ ๆ แล้วสดชื่นอะไรทำนองนี้
 
ผู้อ่านหลายท่านอยากให้เขียนเรื่องของอชิตะกับแทนขวัญ อิสวารายาตั้งใจจะเขียนแทรกลงไปในตอนพิเศษค่ะ แต่บอกก่อนว่าไม่ละเอียดถึงขั้นแต่งงาน แต่รับรองว่าฟินแน่ ๆ ระดับหมออชิซะอย่าง...แทนขวัญเตรียมตกบ่วงเสน่ห์หนุ่มมาดเนิร์ดคนนี้ได้เลย
 
สุดท้ายคือนางร้ายในคราบนางเอกของเรื่องเปรมยุตา นางคือแฟนเก่าของชลธีและยังเป็นคนที่เทียมภพแอบตกหลุมรักด้วยเช่นกัน เนื้อหาในนิยายบรรยายว่า เปรมยุตาเป็นคนสวยหมดจด สวยมากจริง ๆ ค่ะ ขนาดจะทำให้เพื่อนรักสองคนฆ่ากันตายเชียวล่ะ เปรมยุตารักชลธีมากนะคะ ดูได้จากการที่ไม่เลือกคบเทียมภพที่มีทุกอย่างพร้อมกว่า แสดงว่าจิตใจของนางดีในระดับหนึ่งเชียวแหละที่รักในตัวตนของผู้ชายคนหนึ่งมากกว่าฐานันดร
 
แต่ในที่สุดพอเกิดความ ‘พลาดพลั้ง’ เปรมยุตากลับกลัวที่จะมีอนาคตร่วมกับชลธี นางตัดสินใจทำบาปเพื่ออนาคตของตัวเอง โดยอ้างว่าไม่ต้องการให้ลูกลำบาก ตอนนั้นพี่ชลเหมือถูกฆ่าตายทั้งเป็นเลยค่ะ เสียทั้งลูก ทั้งผู้หญิงที่รักหมดทั้งใจ น่าสงสารมาก อิสวารายาว่าเป็นเรื่องโง่จริง ๆ นะ ขนาดชลธีออกตัวว่าพร้อมจะรับผิดชอบขนาดนั้นก็น่าจะเชื่อกันกันมั่งนะ ถ้าเปรมยุตาไม่ใจร้อน ป่านนี้คงได้เป็นคุณผู้หญิงธาราพิศุทธิ์สบายไปแล้ว แต่อิสวารยาก็รู้สึกเห็นใจนางนิด ๆ นะ เนื่องจากผลของการทำบาปในอดีตทำให้หล่อนมีลูกไม่ได้อีก แถมยังเจอแต่มรสุมชีวิตตลอด ๆ ตัวละครนี้สะท้อนให้ปัญหาบางอย่างที่เกิดขึ้นในสังคมจริง ๆ นั่นคือการตังครรภ์ไม่พึงประสงค์และการทำแท้ง
 
พอวันหนึ่งทั้งคู่โคจรกลับมาพบกันอีก เปรมยุตาที่ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตครอบครัวก็คิดเอาเองว่า ชลธียังมีเยื่อใยกับตนก็เลยคิดคุ้ยเขี่ยถ่านไฟเก่า (ตอนแรกพี่ชลก็ทำตัวให้เขาคิดแบบนั้นจริง ๆ นี่)แต่พอรู้ว่าอดีตคนรักกำลังจะตกร่อง
ปล่องชิ้นกับสาวโลกสวยอย่างนางเอกก็เกิดอาการหวงก้าง ไม่ยอมเสียไปง่าย ๆ พยายามงัดอุบายสารพัดสร้างสถาน การณ์ให้ทั้งคู่เข้าใจผิดกันเรื่อย ๆ หนักข้อเข้าก็หยิบยืมมือคนอื่นมาช่วยด้วย แต่ผลสุดท้าย...ทุกอย่างมันกลับไปไม่เป็นไปตามที่หวัง คนทำผิดก็ต้องได้รับบทลงโทษไปตามระเบียบ
 
ตัวละครหลักๆ ที่อยากพูดถึงก็มีเพียงเท่านี้ค่ะ เห็นไหมคะว่า...ไม่ได้ซับซ้อน ชิงรักหักสวาทอะไรกันมากมาย คิดเสียว่าเป็นนิยายอ่านเล่นนอกเวลาเพลิน ๆยามว่าง ส่วนนิยายเรื่องต่อไป อิสวารายาได้วางพลอตเอาไว้แล้วพร้อม ๆ กับตอนเริ่มเขียน “ปลูกรักในรั้วใจ” แต่ยังไม่ได้เขียนเนื้อเรื่องเสียที ตั้งใจว่าจบเรื่องนี้แล้วจะเขียนต่อแต่ก็เว้นมาตั้ง 9 ปีแน่ะ น่าจะลงตอนแรกในเดือนมิถุนายน อ้อ...แย้มนิด ๆ ว่าจะมีตัวละครจาก “ปลูกรักในรั้วใจ” เข้าไปอยู่ในเนื้อเรื่องด้วย แต่จะเป็นใครและมีบทบาทอย่างไร ต้องรอติดตามอ่านนะคะ
 
บางท่านอาจขัดใจว่า ทำไมตอนอวสานไม่มีฉากแต่งงานของพี่ชลกับน้องพลู อิสวารายาอยากเรียนว่า เพราะอยากเขียนให้อิงกับต้นฉบับเดิมที่ตัดจบแค่สองคนนี้กลับมาเข้าใจกันและสัญญาว่าจะแต่งงาน อีกทั้งน้องพลูยังต้องเรียนต่อด้วยก็เลยจบแค่นี้ แต่พอผู้เขียนลองเข้าไปอ่านโดยสมมุติว่าตัวเองเป็นผู้อ่าน ก็รู้สึกว่าอยากเห็นฉากแต่งงานและชีวิตครอบครัวหลังจากนั้น ก็เลยแตกตอนพิเศษออกมา ซึ่งจะได้อ่านพร้อม ๆ กันเร็ว ๆ นี้นะคะ
 
 
ก่อนปิดรั้ว อิสวาราขอแจ้งข่าวเรื่องออกรูปเล่มนิดนึง ขอเวลา rewrite เนื้อหาให้สมบูรณ์กว่านี้แล้วจะส่งต้นฉบับให้สำนักพิมพ์พิจารณาค่ะ รวมตอนพิเศษเข้าไปด้วยแน่นอน ถ้ามีอะไรคืบหน้าอย่างไรจะแจ้งให้ทราบเป็นระยะ ระหว่างนี้ท่านผู้อ่านสามารถเข้ามาอ่านย้อนหลังได้เหมือนเดิม แต่ว่าหลังจาก rewrite แล้ว อิสวารายาขออนุญาตปิดการอ่านฟรี คือพูดง่าย ๆ ว่าเก็บตังค์อ่ะค่ะ  แต่ว่าก็อีกนานค่ะ กว่าจะเรียบเรียงแก้ไขเสร็จเพราะเนื้อหาค่อนข้างยาวมาก...
 
ขอบคุณท่านผู้อ่านอีกครั้งที่เปิดรั้วเข้ามาเยี่ยมชมนะคะ
 
อิสวารายา
24 พ.ค. 2559

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา