[Kai x Aichi Vanguard] Badly Love รักทรมานสีชมพู
7.7
เขียนโดย SayaTaeru
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 19.41 น.
4 chapter
0 วิจารณ์
11.64K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 19.35 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) บทที่ 1 สาวน้อย กับคนข้างห้อง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเมื่อไอจิเดินทางมาถึงตัวเมือง เด็กสาวก็ตัดสินใจเดินเข้ามาที่หอพัก แล้วก็ทำการล็อคอินชื่อที่เคยลงเอาไว้ก่อนหน้านี้ หลังจากนั้น เธอก็เดินเข้ามาที่ห้องพักของเธอที่อยู่ชั้นสอง มันเป็นห้องเช้าราคาถูกที่ไม่ได้หรูหราอะไรมากมาย สำหรับไอจิแล้ว มันก็พอกับฐานะของเธอดี
ครืด…
ไอจิลากกระเป๋ามาจนถึงหน้าห้องตัวเองที่เป็นห้อเลขที่ 27 นั่นเอง เมื่อเธอเหลือบมองไปที่ห้องทางด้านขวาซึ่งเป็นห้องที่ 26 และทางด้านซ้ายที่เป็นห้องที่ 28 นั้นก่อนจะเดินเข้าไปในห้องของเธอ พลางขบคิดว่าเธอควรจะทำอะไรให้กับคนข้างห้องดี…
กิ้ง...ก่อง
เสียงกดกริ่งดังขึ้นมา ไอจิวางของทุกอย่างเอาไว้ในห้องก่อนจะเดินออกมาที่หน้าประตู เมื่อเธอมองเห็นว่าตรงหน้าของเธอนั้นว่างเปล่า ไอจิแอบทำแก้มป่องเล็กน้อย มีใครมาแอบกดกริ่งเธอเล่นกันนะ !
ไอจิคิดพลางกลับเข้าไปในห้องอย่างหัวเสียเล็กน้อย สองขาเรียวเล็กขาวเนียนนั้นค่อย ๆ ก้าวไปจนถึงจุดหมายคือตำแหน่งที่เธอวางสัมภาระเอาไว้นั่นเอง
ไอจิจัดแจงตกแต่งห้องเล็กน้อยโดยการเอาของใช้ส่วนตัวของเธอไปวางเอาไว้ตามจุดที่เธอคิดว่าเหมาะสมดีแล้ว
เธอใช้เวลาไป 3 ชั่วโมงในการจัดการกับสัมภาระทั้งหมด ไอจิปาดเหงื่อแล้วก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงอย่างหมดแรง เตียงนุ่ม ๆ ทำให้ไอจิรู้สึกผ่อนคลายก่อนจะเผลอหลับไปในที่สุด….
เวลา 18 : 00 น.
ไอจิค่อย ๆ ปรือตาตื่นขึ้นมา เด็กสาวมองนาฬิกาก็ตกใจเล็กน้อย นี่เธอเผลอหลับไปอย่างนั้นหรอ เด็กสาวลุกขึ้นมาจากเตียงก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าเงินที่ตนวางเอาไว้ตรงโต๊ะข้างเตียงของเธอนั่นเอง
มือเรียวบาวสวยสีขาวนั้นค่อย ๆ แง้มประตูออกไปช้า ๆ เมื่อเปิดออกไปได้ไม่กว้างมากนัก สายตาของเธอก็ดันไปประสานกับสายตาของเด็กหนุ่มคนหนึ่งเข้า
เขาเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดีมาก ที่มีรูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาวซีดราวกระดาษ แขนเรียวยาวข้างขวานั้นล้วงกระเป๋าเอาไว้ ส่วนมือข้างซ้ายก็ถือกระเป๋าสีดำขนาดครึ่งศอก ที่บางราวกับไม่ค่อยมีอะไรอยู่ในนั้น ดวงเนตรสีเขียวมรกตคู่งามนั้นทอประกายเล็กน้อยเชิงสงสัยเพราะเขาไม่เคยเห็นไอจิ ไม่นานนักริมฝีปากสีแดงสดก็ค่อย ๆ ขยับออกมา
"เธอเป็นใคร..."เสียงทุ้มต่ำแสนมีเสน่ห์ดังขึ้น ไอจิเลิกคิ้วพลางกระพริบตาปริบ ๆ พลางเอ่ยชื่อ
"ซะ...เซนโด ไอจิค่ะ..." ไอจิเอ่ยขึ้นมาพลางหลบตาอีกฝ่ายด้วยความเขินอาย เด็กหนุ่มหน้าตาดีคนนั้น มองเด็กสาวตั้งแต่หัวจรดเท้าเพื่อสำรวจโดยคร่าว ๆ
"เซนโด...ไอจิงั้นหรอ..." เด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคนนั้นเอ่ยทวนชื่อเด็กสาวพลันขายาว ๆ นั้นก็ก้าวเข้ามาหาเด็กสาวใกล้ ๆ จนไอจิเผลอถอยหลังเข้าห้องไป
"ถ้าเป็นเธอ น่าจะจำสิ่งนี้ได้..." เด็กหนุ่มคนนั้นค่อย ๆ ยื่นอะไรบางอย่างเข้ามาใกล้ ๆ ไอจิ เด็กสาวมองของสิ่งนั้นพลางเบิกตากว้าง
มันคือกำไลข้อมือที่เป็นสแตนเลสของเด็กที่มันแลดูเล็กมากเมื่อมันอยู่ในฝ่ามือกว้างของไค ไอจิพยักหน้าทั้งน้ำตาก่อนจะกุมแหวนวงหนึ่งที่เป็นรูปมังกรสีน้ำเงินนั้นเอาไว้แนบอก
"...ฮึก..."ไอจิสะอื้นพลางยิ้ม ๆ ออกมาที่มุมปาก
"ย้ายกลับมาเมื่อไหร่..." เด็กหนุ่มคนนั้นเอ่ยถามพลางใช้แขนข้างหนึ่งค้ำที่ขอบประตูเอาไว้ ไอจิแหงนหน้าขึ้นมามองอีกฝ่ายพร้อมปาดน้ำตาที่หางตา
"บ่ายวันนี้ค่ะ...ไคคุง" ไอจิขานชื่ออีกฝ่ายออกมา ไคยิ้ม ๆ ที่มุมปาก พร้อมแววตาแสนอ่อนโยน และแลดูหวานเยิ้มแต่ก็จางหายไปอย่างรวดเร็ว
เด็กหนุ่มขมวดคิ้วเครียด แววตาแสนหวานฉ่ำนั้นแปรเป็นแววตาแสนกร้าวขึ้นมาเสียดื้อ ๆ พร้อมกับคำตะคอก “ไปให้พ้น ! แล้วอย่าหาว่าฉันไม่เตือน และอย่ามาทำดราม่าที่ ‘เกิดเรื่องอย่างนั้น’ ขึ้นมาจริง ๆ”
สิ้นคำของไค เด็กหนุ่มก็รีบเดินกลับไปทางเดิมที่คนใช้มันเดินทางมาหมายจะเข้าห้องของตน ไอจิมองตามอย่างสงสัย
...ไคคุงเป็นอะไรไป ? …
เอี๊ยด…!!!
โครม !!
เสียง ๆ หนึ่งดังขึ้นมาในโสตประสาทของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ไม่ว่าเขาจะหลับตามันกี่ครั้งก็ไม่เคยเลยที่จะไม่ฝันถึงมัน อดีตแสนโหดร้ายที่พรากทุกสิ่งของเขาไป ครอบครัวที่แสนอบอุ่น รอยยิ้ม ตัวตนเดิมของเขา และ...ชีวิตที่แสนจะสุขสบาย
ไคค่อย ๆ ปรือตาขึ้นมาช้า ๆ เขามานั่งอยู่ที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง แต่เขานั้นก็เผลอหลับไปวูบหนึ่ง เขาสะดุ้งตื่นขึ้นมาหลังจากที่ฝันถึงเหตุการณ์นั้น ไคยอมรับว่าเขาในสมัยนั้นมีคนที่ชอบอยู่คนหนึ่ง หลังจากเกิดเหตุการณ์นั้น เขาก็ไม่ได้พบกับเธออีกเลยตั้งแต่นั้นมา…
ดังนรกชัง หรือสวรรค์แกล้ง ลุงของเขาที่ได้รับเงินของพ่อแม่ของเขาไปเพราะอายุของเขายังไม่ถึงก็ขับไล่เขาออกไปอน่างไม่ใยดี ตั้งแต่นั้นมา ตัวเขาก็ต้องกระเสือกกระสนทำงานอย่างหนักจนสามารถยึดทรัพย์สินที่เป็นมรดกของพ่อแม่ของเขาคืนมาจนได้ครบทุกบาททุกสตางค์ แต่...เขาก็ต้องใช้ชีวิตอย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ เพราะดูท่าลุงของเขาจะไม่พอใจน่าดู
เขาเลือกที่จะอยู่ในอพาร์ทเม้นโทรม ๆ เพื่อที่จะหลบซ่อนจากสายตาของลูกน้องของลุง เขายอมไปเรียนที่โรงเรียนฮิตซุย ระดับม.ปลาย และเพราะไม่เหลือใครให้ต้องปกป้องอีกจึงได้ไม่ระแวดระวังอะไรมากนัก แต่…
แต่...เด็กหญิงคนที่เขาแอบชอบเมื่อตอนเด็ก ๆ ก็ดันย้ายมาอยู่ที่เมืองนี้ แถมเหมือนกับสวรรค์แกล้งซ้ำสอง เธอก็ดันย้ายมาอยู่ที่ห้องข้าง ๆ ของเขา…
“บัดซบ !”ไคอุทานออกมาเบา ๆ พอให้ตัวเองได้ยิน เขาวางเงินลงบนโต๊ะแล้วก็เดินออกจากร้านคอมฟี่ช็อปไปอย่างอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก เด็กหนุ่มเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วก็หมายจะเดินกลับไปที่อพาร์ทเม้นของเขาแต่…
ซ่า…
ฝนก็ดันตกลงมาอย่างหนักในขณะที่เขากำลังเดินอยู่กลางแจ้งที่ฟุตพาร์ทที่ข้างทางนั้นไม่มีที่ร่มหรืออะไรเลย แต่ในตอนนี้เด็กหนุ่มไม่ได้กังวลอะไรเกี่ยวกับสุขภาพของตนอีกต่อไป เขาจึงได้เดินต่อไปเพื่อจะได้ไม่เสียเวลา
พรึ่บ !
พลันเสียงอะไรบางอย่างก็ดังขึ้น ก่อนที่สายฝนจะหยุดตกใส่เขา สิ่งที่แวบเข้ามาในสายตาของเขาก็คือร่มสีใสแบบใช้แล้วทิ้งคันหนึ่งที่มาช่วยบังฝนให้เขา ไคกรอกตามองคนที่เข้ามาช่วยกางร่มให้เขา
“ไคคุง...ตามหาแทบแย่”ไอจิเอ่ยขึ้นมาอย่างโล่งอก ในฐานะเพื่อน และคนที่เคยรู้จักสมัยวัยเยาว์ เธอไม่ต้องการที่จะเห็นเขาต้องเจ็บปวดไปมากกว่านี้อีกแล้ว
“...เกะกะน่า”ไคเอ่ยออกมาแล้วก็ทำท่าจะเดินออกจากร่ม
“อยะ...อย่าออกจากร่มนะคะ เดี๋ยวก็เป็นหวัด..”
“หนวกหูน่า !! ได้ยินไหม ว่าเกะกะน่ะ !!”เมื่อโดนไคตะคอกใส่ ไอจิก็ผงะไปเล็กน้อย เมื่อเห็นดังนั้น ไคก็รีบวิ่งหนีออกมาจากบริเวณนั้น เด็กสาวยืนมองร่างของเด็กหนุ่มที่รีบวิ่งหนีออกไปคล้ายรังเกียจเธอด้วยแววตาแสนโศกเศร้า สงสัย และรู้สึกผิดต่อเด็กหนุ่มเป็นอย่างมาก
“ไคคุง...ขอโทษนะคะ”
เด็กหนุ่มที่รีบวิ่งออกมาจากเด็กสาวก็ยังคงวิ่งฝ่าฝนต่อไปโดยที่ไม่ได้สนใจเลยว่าร่างกายของตัวเขาเองนั้นจะวิ่งได้อีกนานแค่ไหน ? และเขาจะได้เจอกับพวกของลุงของเขาไหม ? แต่ที่แน่ ๆ คือตอนนี้เขานั้นอยากจะวิ่งหนีไปให้ไกล ๆ จากทุกสิ่ง...รวมถึงไอจิด้วย
จู่ ๆ ขาของเขาก็เกิดอ่อนแรงขึ้นมากระทันหัน เขาหายใจหอบออกมาไม่หยุด เพราะอาการเหนื่อยที่กลางสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง เขากำมือแน่น ทั้ง ๆ ที่เขานั้นไม่เหลืออะไรให้กังวลอีกแล้ว ทั้งที่เขานั้นเตรียมพร้อมที่จะตายอยู่แล้วทุกวันแต่…
ไอจิกลับเดินทางกลับมาที่เมืองนี้ สิ่งสุดท้ายที่เขารู้สึกอาทร สิ่งที่เขารัก ไคยอมรับว่าความรู้สึกที่เขามีต่อไอจิตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันนั้นไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลย เขายอมรับว่าตอนที่ได้เห็นหน้าไอจิเขาก็จำเธอได้ และเขาก็อยากจะปรี่เข้าไปหาเธออย่างสุดหัวใจ เป็นไปได้สูงว่าอาจเป็นคนสุดท้ายที่ไคนั้นเปรียบเสมือนว่าเธอเป็นแก้วที่งดงาม เปราะบาง หากแต่เขานั้นไม่อาจเอื้อมมือไปหา เพราะรักเช่นนั้นจึงจำต้องผลักไส
ถ้าหากว่ามีสปายเข้ามาในแวดวงของเขา คน ๆ นั้นจะต้องรู้แน่ ๆ ว่าเขานั้นรู้สึกยังไงกับไอจิ หากว่าไอจิหายไป...ชีวิตนี้เขาคงจะไม่เหลืออะไรให้ยึดเหนี่ยวอีกต่อไป ใครจะรู้ เขาอาจตรอมใจตายไปเลยก็ได้ หากเขาตาย...ทรัพย์สินมันจะมาตกอยู่ที่ลุงของเขาทั้งหมด…อันที่จริงเขาไม่ได้เสียดายเงินหรอก แต่เขาคงจะยอมไม่ได้หากว่าสูยเสียเธอไป
เพราะแบบนั้นเขาก็หงุดหงิดแทบตายที่ไอจิย้ายมาอยู่ที่ห้องข้าง ๆ ของเขา ไคพยายามไม่กลับอพาร์ทเม้น กะจะค่อยกลับเอาตอนดึก ๆ ตอนไอจิหลับก่อนโน่น แต่...ไอจิก็ดันออกมาตามหาเขา และเจอจนได้ ไม่ทราบว่านรกชิงชังอะไรเขานักหนา…
เด็กหนุ่มจำใจเดินกลับไปที่อพาร์ทเม้นเพื่อกลับไปตั้งหลัก เมื่อเดินมาถึงที่หน้าห้องที่ 26 เขาก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นไอจิกับเด็กหนุ่มอีกคนที่เป็นเจ้าของห้องที่ 26 นี้กำลังคุยกันอย่างสนิทสนม ไคเผลอถอยหลังอย่างเสียศูนย์
ไอ้หวงน่ะหวง ไอ้หึงน่ะหึง แต่...
เหงื่อเม็ดโตของไคไหลลงมาอาบแก้มไม่ขาด เพราะคนตรงหน้าของเขาคือ สึซึงาโมริ เร็น!!
“อ๊ะ !! ไคคุงคะ...ดูสิเปียกโชกหมดเลย...เอ่อ...เป็นอะไรไปหรอคะ ? หน้าซีดเชียว”จู่ ๆ ไอจิก็เข้ามาใกล้ ๆ เขาพร้อมกับสำรวจเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะหันมาสังเกตที่สีหน้าของไคที่ซีดเป็นไก่ต้ม แถมยังมีเหงื่อไหลออกมาอีก เมื่อได้สติ เด็กหนุ่มก็ผลักร่างของไอจิอย่างแรงจนเด็กสาวชนกำแพงเสียงดัง ปึ่ก
ไคจ้องตาเร็นแวบหนึ่งก่อนจะเดินเข้าไปในห้องของเขาเงียบ ๆ ไอจิเหม่อมองร่างสูงที่เดินหายเข้าไปในห้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างเศร้าศร้อย ไม่นานเร็นก็เอื้อมมือมาสัมผัสที่บ่าเล็ก ๆ ของเธอเชิงให้กำลังใจ
“ไม่เป็นไรหรอก...ฉันน่ะเป็นเพื่อนของไค เดี๋ยวฉันไปคุยให้เอง”เร็นว่าพลางขยิกตาให้เด็กสาวเชิงหยอกล้อกึ่งหว่านเสน่ห์ ก่อนจะเคาะประตูห้องของไคแล้วก็ขานว่า ‘ฉันเอง’ ก่อนที่ร่างของเร็นจะหายเข้าไปในห้องของไค
--------------------------------------------------------------------------
ตอนแรกค่ะ... // ไม่ทราบว่าชอบกันไหมอะ ; [] ;
ไคอาจเป็นคนที่ปกปิดความรู้สึกของตัวเองนิดหน่อยนะคะ เป็นเพราะปมในอดีตที่ทุกคนในครอบครัวนั้นตายไปหมดแล้วด้วย.. // อันนี้ไม่นับลุงของไคนะคะ
ส่วนไอจิเองก็สงสัยว่าทำไมไคถึงได้เปลี่ยนไปได้มากถึงขนาดนี้ แต่ก็ยังพยายามที่จะสานสัมพันธ์กับไคเหมือนในอดีตให้ได้ ...
ครืด…
ไอจิลากกระเป๋ามาจนถึงหน้าห้องตัวเองที่เป็นห้อเลขที่ 27 นั่นเอง เมื่อเธอเหลือบมองไปที่ห้องทางด้านขวาซึ่งเป็นห้องที่ 26 และทางด้านซ้ายที่เป็นห้องที่ 28 นั้นก่อนจะเดินเข้าไปในห้องของเธอ พลางขบคิดว่าเธอควรจะทำอะไรให้กับคนข้างห้องดี…
กิ้ง...ก่อง
เสียงกดกริ่งดังขึ้นมา ไอจิวางของทุกอย่างเอาไว้ในห้องก่อนจะเดินออกมาที่หน้าประตู เมื่อเธอมองเห็นว่าตรงหน้าของเธอนั้นว่างเปล่า ไอจิแอบทำแก้มป่องเล็กน้อย มีใครมาแอบกดกริ่งเธอเล่นกันนะ !
ไอจิคิดพลางกลับเข้าไปในห้องอย่างหัวเสียเล็กน้อย สองขาเรียวเล็กขาวเนียนนั้นค่อย ๆ ก้าวไปจนถึงจุดหมายคือตำแหน่งที่เธอวางสัมภาระเอาไว้นั่นเอง
ไอจิจัดแจงตกแต่งห้องเล็กน้อยโดยการเอาของใช้ส่วนตัวของเธอไปวางเอาไว้ตามจุดที่เธอคิดว่าเหมาะสมดีแล้ว
เธอใช้เวลาไป 3 ชั่วโมงในการจัดการกับสัมภาระทั้งหมด ไอจิปาดเหงื่อแล้วก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงอย่างหมดแรง เตียงนุ่ม ๆ ทำให้ไอจิรู้สึกผ่อนคลายก่อนจะเผลอหลับไปในที่สุด….
เวลา 18 : 00 น.
ไอจิค่อย ๆ ปรือตาตื่นขึ้นมา เด็กสาวมองนาฬิกาก็ตกใจเล็กน้อย นี่เธอเผลอหลับไปอย่างนั้นหรอ เด็กสาวลุกขึ้นมาจากเตียงก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าเงินที่ตนวางเอาไว้ตรงโต๊ะข้างเตียงของเธอนั่นเอง
มือเรียวบาวสวยสีขาวนั้นค่อย ๆ แง้มประตูออกไปช้า ๆ เมื่อเปิดออกไปได้ไม่กว้างมากนัก สายตาของเธอก็ดันไปประสานกับสายตาของเด็กหนุ่มคนหนึ่งเข้า
เขาเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดีมาก ที่มีรูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาวซีดราวกระดาษ แขนเรียวยาวข้างขวานั้นล้วงกระเป๋าเอาไว้ ส่วนมือข้างซ้ายก็ถือกระเป๋าสีดำขนาดครึ่งศอก ที่บางราวกับไม่ค่อยมีอะไรอยู่ในนั้น ดวงเนตรสีเขียวมรกตคู่งามนั้นทอประกายเล็กน้อยเชิงสงสัยเพราะเขาไม่เคยเห็นไอจิ ไม่นานนักริมฝีปากสีแดงสดก็ค่อย ๆ ขยับออกมา
"เธอเป็นใคร..."เสียงทุ้มต่ำแสนมีเสน่ห์ดังขึ้น ไอจิเลิกคิ้วพลางกระพริบตาปริบ ๆ พลางเอ่ยชื่อ
"ซะ...เซนโด ไอจิค่ะ..." ไอจิเอ่ยขึ้นมาพลางหลบตาอีกฝ่ายด้วยความเขินอาย เด็กหนุ่มหน้าตาดีคนนั้น มองเด็กสาวตั้งแต่หัวจรดเท้าเพื่อสำรวจโดยคร่าว ๆ
"เซนโด...ไอจิงั้นหรอ..." เด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคนนั้นเอ่ยทวนชื่อเด็กสาวพลันขายาว ๆ นั้นก็ก้าวเข้ามาหาเด็กสาวใกล้ ๆ จนไอจิเผลอถอยหลังเข้าห้องไป
"ถ้าเป็นเธอ น่าจะจำสิ่งนี้ได้..." เด็กหนุ่มคนนั้นค่อย ๆ ยื่นอะไรบางอย่างเข้ามาใกล้ ๆ ไอจิ เด็กสาวมองของสิ่งนั้นพลางเบิกตากว้าง
มันคือกำไลข้อมือที่เป็นสแตนเลสของเด็กที่มันแลดูเล็กมากเมื่อมันอยู่ในฝ่ามือกว้างของไค ไอจิพยักหน้าทั้งน้ำตาก่อนจะกุมแหวนวงหนึ่งที่เป็นรูปมังกรสีน้ำเงินนั้นเอาไว้แนบอก
"...ฮึก..."ไอจิสะอื้นพลางยิ้ม ๆ ออกมาที่มุมปาก
"ย้ายกลับมาเมื่อไหร่..." เด็กหนุ่มคนนั้นเอ่ยถามพลางใช้แขนข้างหนึ่งค้ำที่ขอบประตูเอาไว้ ไอจิแหงนหน้าขึ้นมามองอีกฝ่ายพร้อมปาดน้ำตาที่หางตา
"บ่ายวันนี้ค่ะ...ไคคุง" ไอจิขานชื่ออีกฝ่ายออกมา ไคยิ้ม ๆ ที่มุมปาก พร้อมแววตาแสนอ่อนโยน และแลดูหวานเยิ้มแต่ก็จางหายไปอย่างรวดเร็ว
เด็กหนุ่มขมวดคิ้วเครียด แววตาแสนหวานฉ่ำนั้นแปรเป็นแววตาแสนกร้าวขึ้นมาเสียดื้อ ๆ พร้อมกับคำตะคอก “ไปให้พ้น ! แล้วอย่าหาว่าฉันไม่เตือน และอย่ามาทำดราม่าที่ ‘เกิดเรื่องอย่างนั้น’ ขึ้นมาจริง ๆ”
สิ้นคำของไค เด็กหนุ่มก็รีบเดินกลับไปทางเดิมที่คนใช้มันเดินทางมาหมายจะเข้าห้องของตน ไอจิมองตามอย่างสงสัย
...ไคคุงเป็นอะไรไป ? …
เอี๊ยด…!!!
โครม !!
เสียง ๆ หนึ่งดังขึ้นมาในโสตประสาทของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ไม่ว่าเขาจะหลับตามันกี่ครั้งก็ไม่เคยเลยที่จะไม่ฝันถึงมัน อดีตแสนโหดร้ายที่พรากทุกสิ่งของเขาไป ครอบครัวที่แสนอบอุ่น รอยยิ้ม ตัวตนเดิมของเขา และ...ชีวิตที่แสนจะสุขสบาย
ไคค่อย ๆ ปรือตาขึ้นมาช้า ๆ เขามานั่งอยู่ที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง แต่เขานั้นก็เผลอหลับไปวูบหนึ่ง เขาสะดุ้งตื่นขึ้นมาหลังจากที่ฝันถึงเหตุการณ์นั้น ไคยอมรับว่าเขาในสมัยนั้นมีคนที่ชอบอยู่คนหนึ่ง หลังจากเกิดเหตุการณ์นั้น เขาก็ไม่ได้พบกับเธออีกเลยตั้งแต่นั้นมา…
ดังนรกชัง หรือสวรรค์แกล้ง ลุงของเขาที่ได้รับเงินของพ่อแม่ของเขาไปเพราะอายุของเขายังไม่ถึงก็ขับไล่เขาออกไปอน่างไม่ใยดี ตั้งแต่นั้นมา ตัวเขาก็ต้องกระเสือกกระสนทำงานอย่างหนักจนสามารถยึดทรัพย์สินที่เป็นมรดกของพ่อแม่ของเขาคืนมาจนได้ครบทุกบาททุกสตางค์ แต่...เขาก็ต้องใช้ชีวิตอย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ เพราะดูท่าลุงของเขาจะไม่พอใจน่าดู
เขาเลือกที่จะอยู่ในอพาร์ทเม้นโทรม ๆ เพื่อที่จะหลบซ่อนจากสายตาของลูกน้องของลุง เขายอมไปเรียนที่โรงเรียนฮิตซุย ระดับม.ปลาย และเพราะไม่เหลือใครให้ต้องปกป้องอีกจึงได้ไม่ระแวดระวังอะไรมากนัก แต่…
แต่...เด็กหญิงคนที่เขาแอบชอบเมื่อตอนเด็ก ๆ ก็ดันย้ายมาอยู่ที่เมืองนี้ แถมเหมือนกับสวรรค์แกล้งซ้ำสอง เธอก็ดันย้ายมาอยู่ที่ห้องข้าง ๆ ของเขา…
“บัดซบ !”ไคอุทานออกมาเบา ๆ พอให้ตัวเองได้ยิน เขาวางเงินลงบนโต๊ะแล้วก็เดินออกจากร้านคอมฟี่ช็อปไปอย่างอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก เด็กหนุ่มเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วก็หมายจะเดินกลับไปที่อพาร์ทเม้นของเขาแต่…
ซ่า…
ฝนก็ดันตกลงมาอย่างหนักในขณะที่เขากำลังเดินอยู่กลางแจ้งที่ฟุตพาร์ทที่ข้างทางนั้นไม่มีที่ร่มหรืออะไรเลย แต่ในตอนนี้เด็กหนุ่มไม่ได้กังวลอะไรเกี่ยวกับสุขภาพของตนอีกต่อไป เขาจึงได้เดินต่อไปเพื่อจะได้ไม่เสียเวลา
พรึ่บ !
พลันเสียงอะไรบางอย่างก็ดังขึ้น ก่อนที่สายฝนจะหยุดตกใส่เขา สิ่งที่แวบเข้ามาในสายตาของเขาก็คือร่มสีใสแบบใช้แล้วทิ้งคันหนึ่งที่มาช่วยบังฝนให้เขา ไคกรอกตามองคนที่เข้ามาช่วยกางร่มให้เขา
“ไคคุง...ตามหาแทบแย่”ไอจิเอ่ยขึ้นมาอย่างโล่งอก ในฐานะเพื่อน และคนที่เคยรู้จักสมัยวัยเยาว์ เธอไม่ต้องการที่จะเห็นเขาต้องเจ็บปวดไปมากกว่านี้อีกแล้ว
“...เกะกะน่า”ไคเอ่ยออกมาแล้วก็ทำท่าจะเดินออกจากร่ม
“อยะ...อย่าออกจากร่มนะคะ เดี๋ยวก็เป็นหวัด..”
“หนวกหูน่า !! ได้ยินไหม ว่าเกะกะน่ะ !!”เมื่อโดนไคตะคอกใส่ ไอจิก็ผงะไปเล็กน้อย เมื่อเห็นดังนั้น ไคก็รีบวิ่งหนีออกมาจากบริเวณนั้น เด็กสาวยืนมองร่างของเด็กหนุ่มที่รีบวิ่งหนีออกไปคล้ายรังเกียจเธอด้วยแววตาแสนโศกเศร้า สงสัย และรู้สึกผิดต่อเด็กหนุ่มเป็นอย่างมาก
“ไคคุง...ขอโทษนะคะ”
เด็กหนุ่มที่รีบวิ่งออกมาจากเด็กสาวก็ยังคงวิ่งฝ่าฝนต่อไปโดยที่ไม่ได้สนใจเลยว่าร่างกายของตัวเขาเองนั้นจะวิ่งได้อีกนานแค่ไหน ? และเขาจะได้เจอกับพวกของลุงของเขาไหม ? แต่ที่แน่ ๆ คือตอนนี้เขานั้นอยากจะวิ่งหนีไปให้ไกล ๆ จากทุกสิ่ง...รวมถึงไอจิด้วย
จู่ ๆ ขาของเขาก็เกิดอ่อนแรงขึ้นมากระทันหัน เขาหายใจหอบออกมาไม่หยุด เพราะอาการเหนื่อยที่กลางสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง เขากำมือแน่น ทั้ง ๆ ที่เขานั้นไม่เหลืออะไรให้กังวลอีกแล้ว ทั้งที่เขานั้นเตรียมพร้อมที่จะตายอยู่แล้วทุกวันแต่…
ไอจิกลับเดินทางกลับมาที่เมืองนี้ สิ่งสุดท้ายที่เขารู้สึกอาทร สิ่งที่เขารัก ไคยอมรับว่าความรู้สึกที่เขามีต่อไอจิตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันนั้นไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลย เขายอมรับว่าตอนที่ได้เห็นหน้าไอจิเขาก็จำเธอได้ และเขาก็อยากจะปรี่เข้าไปหาเธออย่างสุดหัวใจ เป็นไปได้สูงว่าอาจเป็นคนสุดท้ายที่ไคนั้นเปรียบเสมือนว่าเธอเป็นแก้วที่งดงาม เปราะบาง หากแต่เขานั้นไม่อาจเอื้อมมือไปหา เพราะรักเช่นนั้นจึงจำต้องผลักไส
ถ้าหากว่ามีสปายเข้ามาในแวดวงของเขา คน ๆ นั้นจะต้องรู้แน่ ๆ ว่าเขานั้นรู้สึกยังไงกับไอจิ หากว่าไอจิหายไป...ชีวิตนี้เขาคงจะไม่เหลืออะไรให้ยึดเหนี่ยวอีกต่อไป ใครจะรู้ เขาอาจตรอมใจตายไปเลยก็ได้ หากเขาตาย...ทรัพย์สินมันจะมาตกอยู่ที่ลุงของเขาทั้งหมด…อันที่จริงเขาไม่ได้เสียดายเงินหรอก แต่เขาคงจะยอมไม่ได้หากว่าสูยเสียเธอไป
เพราะแบบนั้นเขาก็หงุดหงิดแทบตายที่ไอจิย้ายมาอยู่ที่ห้องข้าง ๆ ของเขา ไคพยายามไม่กลับอพาร์ทเม้น กะจะค่อยกลับเอาตอนดึก ๆ ตอนไอจิหลับก่อนโน่น แต่...ไอจิก็ดันออกมาตามหาเขา และเจอจนได้ ไม่ทราบว่านรกชิงชังอะไรเขานักหนา…
เด็กหนุ่มจำใจเดินกลับไปที่อพาร์ทเม้นเพื่อกลับไปตั้งหลัก เมื่อเดินมาถึงที่หน้าห้องที่ 26 เขาก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นไอจิกับเด็กหนุ่มอีกคนที่เป็นเจ้าของห้องที่ 26 นี้กำลังคุยกันอย่างสนิทสนม ไคเผลอถอยหลังอย่างเสียศูนย์
ไอ้หวงน่ะหวง ไอ้หึงน่ะหึง แต่...
เหงื่อเม็ดโตของไคไหลลงมาอาบแก้มไม่ขาด เพราะคนตรงหน้าของเขาคือ สึซึงาโมริ เร็น!!
“อ๊ะ !! ไคคุงคะ...ดูสิเปียกโชกหมดเลย...เอ่อ...เป็นอะไรไปหรอคะ ? หน้าซีดเชียว”จู่ ๆ ไอจิก็เข้ามาใกล้ ๆ เขาพร้อมกับสำรวจเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะหันมาสังเกตที่สีหน้าของไคที่ซีดเป็นไก่ต้ม แถมยังมีเหงื่อไหลออกมาอีก เมื่อได้สติ เด็กหนุ่มก็ผลักร่างของไอจิอย่างแรงจนเด็กสาวชนกำแพงเสียงดัง ปึ่ก
ไคจ้องตาเร็นแวบหนึ่งก่อนจะเดินเข้าไปในห้องของเขาเงียบ ๆ ไอจิเหม่อมองร่างสูงที่เดินหายเข้าไปในห้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างเศร้าศร้อย ไม่นานเร็นก็เอื้อมมือมาสัมผัสที่บ่าเล็ก ๆ ของเธอเชิงให้กำลังใจ
“ไม่เป็นไรหรอก...ฉันน่ะเป็นเพื่อนของไค เดี๋ยวฉันไปคุยให้เอง”เร็นว่าพลางขยิกตาให้เด็กสาวเชิงหยอกล้อกึ่งหว่านเสน่ห์ ก่อนจะเคาะประตูห้องของไคแล้วก็ขานว่า ‘ฉันเอง’ ก่อนที่ร่างของเร็นจะหายเข้าไปในห้องของไค
--------------------------------------------------------------------------
ตอนแรกค่ะ... // ไม่ทราบว่าชอบกันไหมอะ ; [] ;
ไคอาจเป็นคนที่ปกปิดความรู้สึกของตัวเองนิดหน่อยนะคะ เป็นเพราะปมในอดีตที่ทุกคนในครอบครัวนั้นตายไปหมดแล้วด้วย.. // อันนี้ไม่นับลุงของไคนะคะ
ส่วนไอจิเองก็สงสัยว่าทำไมไคถึงได้เปลี่ยนไปได้มากถึงขนาดนี้ แต่ก็ยังพยายามที่จะสานสัมพันธ์กับไคเหมือนในอดีตให้ได้ ...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ