อุ่นรักในกองบิน

7.7

เขียนโดย chinchang

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 20.02 น.

  2 chapter
  0 วิจารณ์
  4,610 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 00.54 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) ไอ้แม็ค

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          ภูตะวันกับลูกน้องท่านผู้การซึ่งเป็นสารวัตทหารยศจ่าอีก 1 คนซึ่งกำลังจะเข้ามาเอาบันไดเพื่อที่จะใช้ปีนขึ้นไปแกะเอาสายไฟกลุ่มนึ่งซึ่งกำลังมีปัญหาว่าไฟซ็อตอยู่ลงมาจากต้นไม้ที่มันแขวนอยู่ก็ถึงกับนิ่งอึ้งจนแทบช็อคไปกับภาพตรงหน้าทันที เพราะแม้ว่าแสงไฟในห้องจะไม่สว่างนักและทั้งคู่ก็มองเห็นติณภพณ์จากแค่เพียงทางด้านหลังเท่านั้น แต่ทั้งคู่ก็พอจะมองเห็นว่ายังมีผู้หญิงอีกคนอยู่ในห้องนั้นด้วย และยิ่งจากมุมที่ทั้งคู่ยืนกันอยู่ก็เลยยิ่งดูเหมือนกับว่าติณภพณ์นั้นกำลังยืนกอดจูบกับหญิงสาวคนนั้นอยู่ภายในห้องเก็บของ

 

          “ไอ้แม็ค”

 

           ภูตะวันร้องเรียกชื่อของลูกพี่ลูกน้องของตนออกมาเสียงดังด้วยความตกใจ ส่วนชายหนุ่มที่เมื่อสักครู่เพิ่งจะหันหน้ามาเจอกับญาติผู้พี่ของตนเข้าก็ถึงกับรีบผละตัวออกมาจากหญิงสาวซึ่งตนจับยึดไว้เมื่อสักครู่ ก่อนที่เขาจะร้องขึ้นด้วยความตกใจเช่นกันว่า

 

          “ไอ้ภู”

 

           แต่แล้วก่อนที่ทุกคนจะทันได้พูดหรือทำอะไรกันมากกว่านั้น วินชญาซึ่งเพิ่งจะถูกปล่อยตัวให้เป็นอิสระก็ยกมือขึ้นมาตบหน้าของชายหนุ่มอย่างเต็มแรงจนเขานั้นถึงกับหน้าหันไปเลย ก่อนที่หญิงสาวจะรีบวิ่งหนีออกไปจากที่ตรงนั้นทันที ทำให้ทั้งภูตะวันและคุณอาสารวัตทหารที่ยืนอึ้งกันอยู่ก็ถึงกับอ้าปากค้างหนักเข้าไปอีก

 

          ติณภพณ์ซึ่งรู้สึกชาหน้าข้างซ้ายไปทั้งแถบก็เลยรีบละล่ำละลักกล่าวปฎิเสธขึ้นว่า

 

          “เห้ย ๆ เดี๋ยวนะไอ้ภู มันไม่ใช่แบบที่แกคิดนะเว่ย”  

 

 

          เมื่อหญิงสาววิ่งหนีออกจากห้องไป ติณภพณ์ก็เพียงแค่หันมาอธิบายให้ภูตะวันกับลูกน้องของบิดาที่ยืนอึ้งอยู่ตรงนั้นฟังว่าเขาแค่แกล้งวินชญาเล่นเท่านั้นและมันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนกำลังเข้าใจ ก่อนที่เขาจะผลุนผลันวิ่งตามหญิงสาวออกไปโดยที่ไม่ได้สนใจจะฟังคำที่ภูตะวันเรียกเขาไว้เลยแม้แต่น้อย ส่วนภูตะวันก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งกับคำพูดของติณภพณ์เพราะเขาก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่าถ้าแกล้งกันเล่น ๆ แล้วทำไมน้องชายของเขาถึงได้โดนตบซะจนหัวแทบจะหลุดขนาดนั้น

 

          แต่อย่างไรก็ตามเขาก็คงต้องไปสอบถามเอาความจากไอ้เจ้าน้องชายตัวดีของเขาทีหลัง เพราะในตอนนี้เขาคงทำได้แค่เพียงหันไปพูดขอร้องจ่าสหัสว่าให้ท่านช่วยเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับด้วย เพราะถ้ามีใครรู้เรื่องงามหน้าแบบนี้เข้า คุณลุงซึ่งเป็นอดีตท่านผู้การคนล่าสุดรวมถึงตัวติณภพณ์เองซึ่งเป็นถึงนายทหารนั้นก็คงจะเสียชื่อหนักมาก

 

          เมื่อคิดได้ดังนั้นเขาก็รีบหันไปกำชับกำชากับสารวัตทหารท่านนั้นถึงเรื่องนี้และตัวจ่าสหัสเองก็ยอมรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะไม่แพร่งพรายถึงเรื่องที่ได้เห็นเมื่อสักครู่นี้ออกไปให้ใครฟัง

 

 

          เมื่อวินชญาวิ่งออกมาจนเกือบจะถึงที่ในงาน เธอก็รีบปรับสีหน้าให้ดูเป็นปกติขึ้น ก่อนที่จะค่อย ๆ ทำเป็นเดินเนียน ๆ กลับไปยังซุ้มก๋วยเตี๋ยวอีกครั้ง ส่วนติณภพณ์ซึ่งรีบตามออกมาทีหลังก็พยายามจะหาโอกาสเข้าไปขอพูดคุยปรับความเข้าใจกับหญิงสาว แต่เพราะตอนนั้นมีคนอยู่ในงานค่อนข้างเยอะ แถมคนรู้จักหลายคนยังเดินเข้ามาพูดคุยทักทายและแถมบางคนก็ยังสอบถามชายหนุ่มว่าหน้าของเขาไปโดนอะไรมา เขาก็เลยได้แต่บอกไปว่า

 

          “อ๋อ ผมแพ้ตัวบุ้งที่เกาะอยู่บนใบไม้ตอนที่เดินลอดใต้ต้นไม้มาน่ะครับคุณป้า”

 

          แต่คุณป้าท่านนั้นก็ยังแอบแซวเขาแบบขำ ๆ ว่า

 

          “แหม รอยแดงขึ้นชัดซะขนาดนี้ ถ้าเราไม่บอกนี่ป้าก็นึกว่าเราโดนตบมาเลยนะคะเนี่ยลูก ฮ่าๆๆ”

 

          ก็ใช่น่ะสิป้า โดนตบมาตะกี้เอง ว่าแต่ป้าเถอะ ไปเป็นหมอดูมั้ย ดูแม้น แม่น

 

          ชายหนุ่มแอบนึกในใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

  

 

          ในงานทั้งคู่ก็เลยได้แต่แอบจ้องหน้ากัน วินชญามองหน้าเขาด้วยสายตาไม่พอใจ ส่วนชายหนุ่มก็พยายามจะส่งสายตาในเชิงขอโทษขอโพยมาให้ แต่เพราะติณภพณ์เองก็ไม่อยากทำให้ผู้คนในงานรู้สึกผิดสังเกตมากนัก เขาจึงได้แต่ทำทีเหมือนว่าจะเดินเข้าไปสั่งก๋วยเตี๋ยวกับหล่อนเพื่อจะที่จะหาทางพูดคุยด้วย ส่วนวินชญานั้นก็รู้สึกแอบนึกโมโหอีกฝ่ายอยู่ในใจเป็นอย่างมากที่ชายหนุ่มทำตัวเหมือนกับว่าเขาไม่ได้รู้สึกสำนึกผิดอะไรกับเรื่องเมื่อสักครู่นี้ เมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้ เธอจึงรีบออกปากขอป้าแม้นกลับบ้านก่อนโดยอ้างว่าเธอรู้สึกปวดหัว

 

          ติณภพณ์จึงพยายามจะเดินตามหญิงสาวออกจากงานไปแถว ๆ ที่จอดรถข้างคลองชลประทานขนาดเล็กนอกรั้วบ้าน

 

          “มิว พี่ขอโทษ เมื่อกี้พี่แค่จะแกล้งเราเล่นเอาคืนเรื่องเมื่อตอนบ่ายเฉย ๆ จริง ๆ พี่ก็กำลังจะปล่อยเธอไปอยู่แล้วด้วย แต่มันเกิดบังเอิญดันมีคนเปิดประตูเข้ามาซะก่อน”

 

          ด้วยความโกรธหญิงสาวก็เลยไม่ยอมพูดยอมจากับเขาสักคำไม่ว่าเขาจะพร่ำพูดอธิบายสักเท่าไหร่ก็ตาม จนชายหนุ่มนั้นก็เริ่มทนไม่ไหว เขาจึงรีบคว้าข้อมือของหญิงสาวเอาไว้

 

          “นี่เธอก็ตบฉัน แล้วฉันก็ขอโทษเธอแล้วไง จะโกรธอะไรกันนักกันหนาฮะ”

 

          “ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ” วินชญาพยายามสะบัดแขนออกจากการฉุดรั้งของร่างสูง

 

            แต่แล้วจู่ ๆ ก็มีเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น

 

          “พี่แม็คคะ”

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา