7Swords

9.6

เขียนโดย จิ้งจอกมายา

วันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 23.29 น.

  31 chapter
  3 วิจารณ์
  28.70K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 23.40 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

12) Horse

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่ 12 Horse

 

ไลโอซ่าร์และลิมพาเนียเดินโอบกอดกันไปยังห้องนอน ความตั้งใจที่จะบอกภรรยาเรื่องที่เขาได้ทรยศเธอนั้นหายลับไปจากใจ แม้ว่าเขาจะเสียใจแต่ ไลโอซ่าร์นั้นเตือนตัวเองว่าเขาบอกเธอตอนนี้ไม่ได้....

เมื่อถึงห้องนอนไลโอซ่าร์พาเธอไปนั่งลงที่เตียง เขายืนอยู่และจับมือทั้งสองของลิมพาเนียไว้

“ท่านยิ้มอะไร?” ลิมพาเนียถามเขาทั้งๆที่เธอก็ยังคงยิ้มอยู่

“ข้าดีใจ..... ดีใจมากจริงๆ.....” ไลโอซ่าร์ก้มลงและจูบหน้าผากภรรยา “พักผ่อนเถอะ ลิมพาเนีย..... ข้าขอไปอาบน้ำให้สบายตัวเสียหน่อย.....”

“ให้ข้าทำแผล -- ”

“ไม่เป็นไรๆ” เขาบอกพลางดึงมือกลับและยกมือขึ้นลูบแก้มภรรยา “เจ้าต้องพักผ่อนให้มากๆ รู้มั้ย?”

“ท่านก็เช่นกันค่ะ” เธอบอกและยอมนอนลงแต่โดยง่าย ไลโอซ่าร์มองเธออยู่ชั่วครู่ก็จูบหน้าผากของเธอและห่มผ้าให้ ก่อนจะเดินออกมาปิดประตูช้าๆ

ไลโอซ่าร์โดนผลักไปข้างๆและดึงตัวไว้ติดกำแพง เขามองร่างที่เล็กกว่านั้นกำลังประชิดแนบติดกับเขา

“อย่า -- ” ไลโอซ่าร์กระซิบ

“อย่าอะไรล่ะ” เลดี้โรสกระซิบกลับ “เมื่อตะกี้เจ้าไม่เห็นปฏิเสธเลยนี่?”

“ไม่ใช่ตรงนี้ -- ” ไลโอซ่าร์มีสีหน้าทั้งโกรธและยุ่งยากใจ “เราไปคุยกันที่อื่น -- ”

“ไม่..... เราต้องคุยกันตรงนี้....”

“โรส......!!” ไลโอซ่าร์กระซิบอย่างร้อนรน

“อ้อ.... ยินดีด้วยนะ -- สำหรับ เบโอวูล์ฟตัวน้อยๆ” เธอกระซิบด้วยใบหน้าที่อยู่ห่างจาก ไลโอซ่าร์เพียงคืบเดียว

ไลโอซ่าร์ผลักเธอออกไป เขามองไปซ้ายขวาก่อนจะคว้าข้อมือของเลดี้โรสและดึงเธอไปยังห้องข้างๆ ก่อนจะผลักเธอให้นั่งลงกับเก้าอี้อย่างไม่ใยดี เขาก้มตัวลงไปจับเท้าแขนทั้งสองข้างและยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้เธออย่างข่มขวัญและพูดด้วยน้ำเสียงน่ากลัวว่า

“ถ้าเจ้าแตะครอบครัวข้าแม้เพียงปลายนิ้ว.....”

“แล้วเจ้าจะทำไมหรือ?” เลดี้โรสเชิดหน้า เธอไม่มีท่าทีกลัวเขาเลยสักนิด “หรือเจ้าไม่แยแสว่าจะต้องเป็นศัตรูกับราชา....?”

“ถ้ามันจำเป็นข้าก็จะทำ!!”

“ทำไมเจ้าถึงไม่จูบนางล่ะ?” เลดี้โรสเปลี่ยนเรื่อง “ข้าเห็นว่าเจ้าไม่จุมพิตนาง..... ทำไมล่ะ? กลัวนางจะได้กลิ่นผู้หญิงอื่นจากเจ้าล่ะสิ?”

“ข้าไม่อยากให้นางติดความสกปรกจากข้าต่างหากล่ะ..... -- ” ไลโอซ่าร์พูดอย่างใจร้าย

“อ้อ.... ข้าสกปรกงั้นสิ?” เลดี้โรสเอ่ยเสียงสะท้าน แต่ไลโอซ่าร์ไม่ตอบอะไร ริมฝีปากของนางสั่นระริก ไลโอซ่าร์เบือนหน้าหนีราวกับไม่อยากมองภาพของนางที่เหมือนกำลังจะร้องไห้

แต่เลดี้โรสคว้าคอของเขามาและจุมพิต แต่คราวนี้ไลโอซ่าร์ขัดขืน เขาดิ้นจนหลุด ก่อนจะผุดตัวลุกขึ้นยืน “พอเสียที โรส!!”

“เจ้าสกปรกแล้ว......” นางพูดทั้งรอยยิ้มและน้ำตาเสียงสะอื้นกระซิบอย่างแผ่วเบา “เจ้ายังกล้าจะอุ้มทารกที่บริสุทธิ์นั้นด้วยมือสกปรกของเจ้าเหรอ? มือที่จับต้องคนสกปรกอย่างข้านี่?”

“ฟังนะโรส.... หากเจ้าแค้นข้าก็จงทำกับข้าคนเดียว อย่าเอาไปลงกับลิมพาเนียหรือลูกๆของข้า -- ” ไลโอซ่าร์เอ่ยอย่างอดทนอดกลั้น “ข้าจะไม่มีวันยอมให้ใครก็ตามมาแตะต้องครอบครัวข้า -- ไม่มีวัน!!”

แล้วไลโอซ่าร์ก็กระชากประตูเปิด ย่ำเท้าโครมออกจากห้องไป ทิ้งให้เลดี้โรสนั่งมองประตูและร้องไห้เงียบๆอยู่ในห้องนั้น

 

ตกรุ่งเช้า ตอนสายๆคนรับใช้ก็เข้ามาปรนนิบัติเลดี้โรสในห้อง นางเองก็ยิ้มแย้มแจ่มใสทักทายกับทุกๆคนที่นางเจออย่างสุภาพอ่อนหวาน ทุกคนต่างก็รู้สึกประทับใจที่บุตรีขุนนางชั้นสูงแบบนางช่างน่ารักและไม่ถือตัวเลย

“อรุณสวัสดิ์ค่ะ เลดี้..... -- ” ลิมพาเนียเอ่ยทักทายเลดี้โรสเมื่อเธอเดินออกประตูห้องรับรอง “มื้อเช้าเตรียมเรียบร้อยแล้วค่ะ.....”

“โอ..... ขอบคุณมาก ลิมพาเนีย เจ้าไม่น่าลำบากมาหาข้าเลย” เลดี้โรสพูดเมื่อเห็นลิมพาเนียยืนคอยนางอยู่หน้าห้อง เธอยืนมือให้ลิมพาเนียจับเพื่อให้เดินนำไปสู่ห้องโถง

“ไม่ได้ลำบากอะไรเลยค่ะ” ลิมพาเนียบอก “แขกของเรา เราต้องดูแลอย่างดีที่สุดสิคะ?”

“ชาวไวท์ฟอร์ทช่างน่ารัก มีเสน่ห์เสียจริงๆ” เลดี้โรสเอ่ยพร้อมด้วยรอยยิ้มสดใสเมื่อลิมพาเนียพานางเข้าไปนั่งเก้าอี้ตัวที่นางเคยนั่งเมื่อวานตอนค่ำ

“อรุณสวัสดิ์ค่ะ ลอร์ดเบโอวูล์ฟ” เธอเอ่ยทักไลโอซ่าร์อย่างเป็นกันเองด้วยรอยยิ้มดุจตะวันฉาย

“อรุณสวัสดิ์ เลดี้โรส.....” ไลโอซ่าร์เอ่ยพลางค้อมหัวหน่อยและยิ้มตอบอย่างมีมารยาท

และพวกเขาก็นั่งรับประทานอาหารเช้ากันอย่างสนิทสนมดังเช่นเย็นวาน......

 

“ไลโอเนล” ไลโอซ่าร์เรียกลูกชายตัวจ้อยที่กำลังจะวิ่งไปห้องครัว

“ครับ ท่านพ่อ....?” เด็กน้อยเดินเข้ามาหาพ่ออย่างว่าง่าย

“ตอนเช้า.... พ่อเห็นลูกอยู่กับ นักบวชจากแซงจัวรี่ใช่หรือเปล่า...?”

“ใช่ครับ” ไลโอเนลเดาน้ำเสียงของพ่อเขาไม่ออก แต่พยายามนิ่งๆไว้

“แล้วลูกเตะ ที่กระโดดยันกำแพงแล้วหมุนเตะนั่น..... ลูกคงเรียนจากนักบวชนั่น -- ใช่มั้ย?” ไลโอซ่าร์ถามลูกตรงๆ เด็กน้อยเอามือไขว้หลังเขาก้มหน้าลงและเขี่ยเท้าข้างหนึ่งไปมา

“ลูกขอโทษครับ -- ” เด็กน้อยพูดด้วยน้ำเสียงเล็กๆ เขาแน่ใจแล้วว่าตัวเองต้องโดนดุแน่

“เฮ้.... ลูกจะขอโทษทำไมกัน?” ไลโอซ่าร์ย่อตัวลงจนใบหน้าอยู่ระดับเดียวกับลูกชายเขาส่งยิ้มให้เด็กน้อย

“ท่าน -- ท่านพ่อไม่ดุเหรอครับที่ลูกเรียนวิชาต่อสู้จาก นักบวชฮาน?” เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นและมองพ่ออย่างแปลกใจ

“นักบวชฮานเป็น -- พระนักรบสินะ? ใช่มั้ยลูก?”

“ใช่ครับๆ” ไลโอเนลพยักหน้าอย่างกระตือรืนร้น “นักบวชฮานสอนเก่งมากเลยครับท่านพ่อ แล้วท่านก็ชมลูกด้วยว่าลูกมีพรสวรรค์ -- ”

“เยี่ยมมากลูกพ่อ” ไลโอซ่าร์เอ่ยพลางขยี้หัวลูกชายเบาๆอย่างรักใคร่ “เออนี่แนะ..... -- พ่อชักอยากเจอ นักบวชฮานแล้วสิ?”

“ทำไมเหรอครับ?” เด็กน้อยถามทั้งที่ยังฉีกยิ้มอยู่

“ก็.... หลายๆอย่างนะ” ไลโอซ่าร์ยักคิ้วให้กับลูกชาย “ลูกช่วยบอกให้นักบวชฮาน มาเจอพ่อคืนนี้ได้มั้ย?”

“ได้เลยครับ” ไลโอเนลยืดอกและทุบกำปั้นลงบนอกเบาๆ

“อ้อ.... เรื่องนี้เป็นความลับระหว่างเรานะ” ไลโอซ่าร์ชูหมัดยื่นให้ลูกชาย

“สัญญาลูกผู้ชาย” ไลโอเนลยกหมัดน้อยๆมาชนกับหมัดของพ่อเขาเบาๆที่มีผ้าพันแผลพันอยู่ แล้วทั้งสองพ่อลูกก็ยิ้มให้กัน

 

เลยถึงยามเย็นของอีกวัน.....

พ็อตเทอร์รี่บางส่วนก็กลับเข้าสู่สภาวะปกติ ยังคงค้าขายกันอย่างเป็นปกติ เรคัสซึ่งเสร็จจากสอบสวนพวกโจรสลัดแล้ว เขาก็แยกจากลูกชายและมุ่งหน้าไปที่ร้านเหล้าขาประจำ โดยบอกว่าอยากดื่มอะไรก่อนพักผ่อน

ที่นั่น เขาก็พบกับบิมโบที่พยักหน้าส่งยิ้มกว้างให้เขาก่อนจะพยักพเยิดให้ขึ้นไปชั้นบน เรคัสเดินตามขึ้นไป โดยไม่ได้สังเกตว่ามุมมืดๆมุมหนึ่งมี เอริค โคล์ดี้ และ ทหารที่ไม่ยอมถอดหมวกเกราะออกมองตามเขาจนลับสายตา

เรคัสเดินตามบิมโบซึ่งหายลับไปในห้องๆหนึ่งและเมื่อเข้าไปในนั้นก็เห็นว่า เอเคลเซธอยู่ในนั้นกำลังนั่งจัดการอาหารของเขา

“เชิญเลยๆ ท่านเรคัส ข้าเพิ่งจะตื่นพอดีเลย -- ”เขารินไวน์และส่งให้เรคัส ต่างกับบิมโบที่เปิดขวดเหล้าและยกซดอย่างอารมณ์ดี

“ข้าว่าข้าคงพลาดอะไรหลายๆอย่างไปสินะ” เรคัสเอ่ยอย่างไม่ไว้ใจเมื่อเห็นจิ้งจอกแห่งไวท์ฟอร์ทกับพ่อค้าทาสอยู่ด้วยกันแบบนี้โดยไม่แสดงท่าทีแปลกใจที่เห็นเขา ราวกับกำลังรอเขาอยู่

*“Hold your horse….” เอเคลเซธบอกพลางดื่มไวน์ของเขา **“We were awaited our main dish”

 

 

*“Hold your horse….” Akelzeth’s Quote: “ดึงม้าของท่านไว้ก่อน”

เป็นสำนวนแปลว่า ให้ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งใจร้อนควบเตลิดเร็วไปแบบม้าที่วิ่งเร็ว

**“We were awaited our main dish” Akelzeth’s Quote: “เรากำลังรอมื้อหลักของเราอยู่เลย”

เป็นการเปรียบเปรย หมายถึงการรอคุยเรื่องสำคัญกันอยู่นั่นเอง

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา