The Water's Pure Heart: ดวงใจของสายน้ำ

-

เขียนโดย Valentinlover

วันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 22.14 น.

  56 ตอน
  0 วิจารณ์
  51.94K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 10.14 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) รหัสปลดล๊อก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
         
“อะไร...” ฮ้อยถาม
จุ๊ยถอนหายใจเฮือก
“อย่าพูดเลยแม่งเศร้า”
เพื่อนมองหน้ากัน เพราะตอนนี้จุ๊ยจ้องโทรศัพท์นิ่ง ดวงตาที่เคยแจ่มใสเป็นนิตย์หม่นลงอย่างเห็นได้ชัด
“เป็นอะไรจุ๊ย  บอกกูสิกูช่วยได้” อัศวะบีบไหล่จุ๊ย
“ไม่.. มึงก็ช่วยกูไม่ได้ ใครก็ช่วยกูไม่ได้” จุ๊ยเอาโทรศัพท์มากอดแนบอก
“เฮ้ยอะไรวะมึง นี่กูเป็นเพื่อนมึง ตั้งแต่หมอยยังขึ้นไม่เต็ม จนตอนนี้สังคังกินจนไข่ดำไปหมดแล้ว  มึงไม่บอกกูแล้วมาว่ากูช่วยมึงไม่ได้” ฮ้อยเอามือไสหัวจุ๊ยแรงๆ
แต่จุ๊ยก็ยังส่ายหน้านัยน์ตาเศร้า
เพื่อนมองหน้ากัน
“คือ..ว่า” จุ๊ยมองโทรศัพท์ เพื่อนขยับเข้ามาโดยเฉพาะอัศวะกอดคอเอี่ยวหน้ามาจนชิด
“มันไม่ได้บอกรหัสปลดล็อกโทรศัพท์  แล้วกูจะใช้ยังไง”
เงียบกริบไปชั่วขณะ  อัศวะคนแรกที่ถอนหายใจดังเฮือก
ก่อนฮ้อยจะตบหัวจุ๊ยดังป๊าบ
“ไอ้สัตว์กูก็นึกว่าอะไร”
จุ๊ยคลำหัวป่อยๆแต่หัวเราะคิกคัก
 
ตอนเที่ยงเดฟกำลังนั่งกินข่าวกับเพื่อนร่วมห้อง  เงยหน้ามาเห็นจุ๊ยกำลังเดินมา  ถึงกับวางช้อนแล้วปรี่มาหาก่อนจุ๊ยจะมาถึงโต๊ะด้วยซ้ำ
ว่าแล้วก็โอบเอว
“จุ๊ยมาหาผมหรือครับ”
จุ๊ยมองหน้า  เขากำลังจะออกปากด่า แต่เปลี่ยนใจตอบ
“ครับเดฟ”
เดฟเป็นฝ่ายนิ่งไปเอง
ถอยห่างออกไปนิดหน่อย เพื่อพินิจจุ๊ยให้เต็มตา  ก่อนจะเอามือมาอังหน้าผาก
“จุ๊ยโดนต่อยจนไข้ขี้นรีเปล่าครับ เดี่ยวผมจะพาไปห้องพยาบาล”
แล้วก็ทำท่าจะโอบประคองจุ๊ยไป
“เฮ้ยไม่ต้อง  กูปกติดี” จุ๊ยแกะมือของเดฟออก
มองหน้าตาขวาง
แต่เดฟกลับยิ้มชอบใจ
“เออ...ค่อยเหมือนจุ๊ยที่รักของผมหน่อย” แล้วก็เข้ามากอดเอวเหมือนเดิม
จุ๊ยกรอกตาขึ้นบน ถอนหายใจแต่ก็ยอมให้กอด
“คือกูอยากให้มึงช่วยหน่อย”
 
“เอาเบอร์โยชิ” ทวนคำแล้วทำหน้างง
จุ๊ยเอากิ่งไม้แห้งที่ตกอยุ่ในสวนหย่อมหน้ามาหัก
“จะเอาไปทำไมครับ” เดฟจ้องหน้า
จุ๊ยเอาเศษไม้โปรยบนหัวของเดฟ เดฟก็ปัดออกทำหน้าจริงจัง
“จุ๊ยจะเอาเบอร์ไปทำไมครับ  บอกก่อนไม่งั้นผมจะไม่ให้”
จุ๊ยหักไม้อีกแล้วโปรยอีก
“มีธุระจะถามเขานิดหน่อย”
เดฟก็ปัดอีก
“ธุระอะไรครับ  หรือว่าจุ๊ยจะโทรไปด่ามัน หรือจะไปนัดมันมาต่อยหลังโรงเรียน”
“โหไม่ไหวมั้ง” จุ๊ยส่ายหัว
“มันตัวสูงกว่ากูตั้งครึ่งหัว แถมโตกว่าด้วย”
แล้วก็หักไม้อีก  แต่คราวนี้เดฟไม่ให้โปรย คว้ามือจุ๊ยมาได้ก่อน
กุมมือไว้แล้วจ้องตา
“บอกมาก่อน ไม่งั้นไม่ให้”
จุ๊ยถอนหายใจ
“คือ.. กูได้ไอ้นี่มาจากมัน”
แล้วก็ล้วงโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง
“โทรศัพท์” เดฟทำหน้างง
“ก็โทรศัพท์สิ  เหลี่ยมๆอันบางๆ เป็นที่ทับกระดาษมั้ง” จุ๊ยตอบประชด
“แต่มันไม่ได้ให้รหัสปลดล็อกกู แล้วกูจะใช้ยังไง กูก็เลยจะไปโทรถามมัน”
เดฟทำหน้าฉุกคิด
“ทำไมมันให้โทรศัพท์จุ๊ย”
“ก็ไม่รู้  เอาไว้ให้มันโทรมาหากูได้มั้ง” จุ๊ยตอบ
“จุ๊ยรู้จักมันตอนไหน” เดฟซักอีก
“ก็นานแล้วหล่ะ เคยเจอกันโดยบังเอิญ คุยกัน อะไรอย่างนี้ล่ะ แต่เจอแค่หนเดียวนะ  จุ๊ยเองก็จำมันไม่ได้ในตอนแรกจนเมื่อเช้ามันมาขอโทษแล้วก็เล่าถึงความหลัง ถึงได้นึกออก” จุ๊ยเล่าไปตามท้องเรื่อง
“แน่นะ” เดฟยังทำหน้าไม่ไว้ใจ
“ไม่ใช่จุ๊ยนอกใจผมนะ”
“เฮ้ยบ้า กูจะนอกใจมึงได้ไง “ จุ๊ยทำท่าเขิน เอามือเอื้อมไปเหมือนจะแตะแก้ม  แต่กลายเป็นตบหัน
“กูไม่ได้เป็นอะไรกับมึง”
แต่เดฟหันกลับมายิ้มแป้น
“โอเค  ผมเชื่อจุ๊ย”
แล้วก็หยิบโทรศัพท์ตัวเองมากดหาหมายเลขของโยชิ
จุ๊ยลอบถอนหายใจมองกิริยาดี๊ด้าของเดฟ  ทำปากอ่านได้ว่า
แม่งท่าจะบ้า...
 
โยชินั่งฟังผู้จัดละครชื่อดังเล่าถึงงานใหม่ที่กำลังจะเซ็นสัญญาอย่างตั่งใจ  แต่จู่ๆโทรศัพท์ก็ดัง เขาก็เลยกดปุ่มไม่รับสาย  แล้วฟังต่อ  ไปได้สักพักมันก็ดังอีก  โยชิเอาออกมาดูเห็นเป็นหมายเลขไม่คุ้นตาก็เลยกดวาง  แล้วก็ปิดเสียงทิ้ง
“ตามนี้ล่ะ ถ้าสงสัยอะไรก็ถามมานะ  พี่จะอธิบาย” ผู้จัดละครหนุ่มรักชาย ช้อนสายตาขณะส่งบทให้
โยชิยิ้มแบบทิ้งเสน่ห์ตอบว่าครับ
แรกๆมันฝืนมากๆ กับการยิ้มแบบนั้น  แต่พออยู่ในวงการนานวัน เขาก็รู้ว่ามันได้ผล โดยเฉพาะกับการทำให้งานสะดวกขึ้น
เขาออกจากห้องของผู้จัดละครซึ่งอยู่ภายในอาคารของสถานีโทรทัศน์
พี่ก้องผู้จัดการส่วนตัวหนุ่มก็ถาม
“ใครโทรมาน่ะโยชิ โทรมาตั้งหลายครั้ง”
“เป็นพวกผู้จัดหรือตัวแทนบริษัทหรือเปล่าถึงได้มีหมายเลขนี้ของโยชิ”
โยชิเอาโทรศัพท์มาดู
ก็เห็นว่ามีมีสคอลอยู่เกือบสิบสาย เป็นหมายเลขเดิม
“ไม่รู้สิตื้อน่าดูเลย แต่ผมไม่รู้จักนะ” โยชิตอบ
หมายเลขนั้นโทรเข้ามาอีก โยชิก็วางสายอีก
ก้องชะเง้อมองหน้าจอ
แล้วเขาก็ขมวดคิ้ว..
“นี่มันเบอร์เดฟใช่ไหมน่ะ  สเตฟานไง” ผู้จัดการกล่าวพร้อมบอกชื่อตามบทบาทที่เล่นด้วยกัน
 
 
“ไม่รับ” เดฟส่ายหัว
จุ๊ยเอาโทรศัพท์ที่ได้มา มาดู  กดให้เห็นรูปล็อกหน้าจอที่เป็นรูปของโยชิเอง
“เอาโทรศัพท์ให้กูหาพ่อมึงหรอ ไม่ให้รหัสปลดล็อกแล้วกูใช้ได้ไหมไอ้ควาย”
เดฟรู้สึกบางอย่างที่โทรศัพท์ เขาขยับนิ้วบนหน้าจอ
“โถ... ไอ้หอกนี่กูจะโทรหาเพื่อถามรหัสปลดโทรศัพท์หรอก ไม่ได้จะโทรไปจีบมึง  ควายเอ้ย  นึกว่าหล่อตายห่าล่ะ” จุ๊ยยังด่าต่อเนื่อง
“เราขอโทษ... คือเราไม่เมมเบอร์ของเดฟไว้เครื่องนี้  ก็เลยจำไม่ได้”
เสียงนั้นผ่านลำโพงมา
จุ๊ยหันขวับมา
 
เดฟยืนเอาเอวพิงกับขอบผนังกันตกของช่องบันไดมองจุ๊ยเอาโทรศัพท์มากดนั่นกดนี่พลางคุยกับโยชิด้วยโทรศัพท์ของเขา
อะไรหนอทำให้เดฟชอบจุ๊ยอย่างจริงจัง  แดดยามสายที่ต้องบนผิวค่อนข้างขาว  ใบหน้าที่ไม่ได้หล่อเหลาจนสะดุด มีแค่ดวงตาที่สดใสเป็นประกายที่พอจะโดดเด่นบ้าง และประดับรอยยิ้มไว้เสมอแทบไม่เคยจางหายไป  แต่แค่นั้นก็ทำให้หัวใจของเดฟพองโตทุกครั้งที่มองเห็น  จุ๊ยจะรู้ไหมว่าเขาไม่ได้ล้อเล่นกับการที่เข้าหาจุ๊ย  เขาจริงจัง... ทุกการกอด ทุกการสัมผัส.. เขาทำไปตามหัวใจ
“ทำไมมึงไม่รู้จักแอ๊ปหน่อย  ไอ้จุ๊ยมันก็กลัวมึงสิวะ  มึงก็แมนๆ  ถ้าจะทำเข้าไปหามันอย่างปกติ ผู้ชาย ก็ไม่โดนมันถีบ มันด่าแล้ว” นั้นคือการแนะนำของอ๊อดเพื่อนสนิทของจุ๊ย
“ไม่เป็นไรผมชอบ”
เดฟไม่ต้องการปฏิเสธตัวเอง  เขาไม่ต้องการหลอกลวงเพื่อเข้าใกล้จุ๊ย  แถมสุดท้ายเมื่อเผยความในใจจุ๊ยอาจเกลียดเขาไปเลยก็ได้
“อีกอย่างมึงไม่อายเหรอวะ  มึงเปิดเผยตัวเป็นเกย์แบบนี้  มีผลกับงานแสดงของมึงด้วยไหม  เพราะมึงออกจะหล่อแต่ได้รับบทรองตลอด”
“ก็ไม่แคร์หรอก... ขอแค่ผมได้ทำอะไรอย่างที่อยากทำ  ผมชอบผู้ชายผมก็แสดงความชอบออกมาเลย  ทำไมต้องปิดบัง  ก็ผมเป็นของผมอย่างนี้  จะให้ผมไปทำเป็นผู้ชายแท้ชอบผู้หญิง  แต่แอบอยากกินผู้ชายด้วยกัน  อันนั้นมันโกหกตัวเองรึเปล่า” เขาตอบไปอย่างนั้น
 
จุ๊ยเดินกลับมาแล้วยื่นสงโทรศัพท์ให้  เดฟรับเครื่องกลับ
“เรียบร้อย”
“อืม” จุ๊ยตอบ
“ทำไมนานจังครับ”
“ก็มันสอนกูให้ลบข้อมูล สอนให้สมัครไลน์ สมัครเฟสบุ๊ค ก็เลยนาน” จุ๊ยตอบ แล้วหยิบโทรศัพท์มาเลื่อนหน้าจอดู
“ผมขอแอตจุ๊ยนะ” ว่าแล้วก็ชะโงกดูชื่อแอคเคาร์ของจุ๊ย
“Water Purelove เหรอ ทำไมล่ะ”
“ก็ชื่อกูแปลว่าน้ำ ทั้งชื่อจริงและชื่อเล่นเลย” จุ๊ยตอบ  แล้วก็เอาโทรศัพท์เก็บ
“ขอบใจนะ” แล้วจุ๊ยก็ตบบ่าของเดฟ แล้วหันหลังจะเดินลงบันได
ทันใด
เดฟดึงตัวจุ๊ยให้หันกลับ 
จุ๊ยไม่รู้ตัวจึงไม่ได้ขัดขืน  เขาตกในอ้อมกอดของเดฟ
แล้วเดฟก็ประกบริมฝีปากกับเขาอย่างรวดเร็ว
“ปากจุ๊ยหวานมากเลย ไม่เหมือนกับเวลาจุ๊ยด่าเลย” เดฟบอกตอนที่ผละออกแล้ว
จุ๊ยยืนตัวแข็งทื่อ
เดฟก็เลยหอมอีกฟอดแล้วเดินลงบันไดไป
พอสติคืนมา
“ไอ้เดฟ มึงขโมยจูบกู” เขาวิ่งตามลงบันไดไป
“ยอมแพ้ยอมแพ้  ให้จูบคืนก็ได้”
“พ่อมึง ใครอยากจะจูบ  มาให้กูเตะซะดีๆ”
“โอ้ยเบาๆสิจุ๊ยอย่าทำแรง เดี่ยวก้นช้ำ โอ๊ย... เสียว”
“เสียวพ่อมึง  นี่ถีบสักอีกที”
 
 
 
 
“สะอาดแล้วน๊าลุง” จุ๊ยยิ้มแป้นให้พัดลมตัวเก่าแก่
แล้วเขาก็ปีนลงมา พอลงมาจึงได้เห็นว่าหลิวยืนอยู่
“จุ๊ยคุยกับพัดลมรู้เรื่องด้วยเหรอ”
“ก็... ไม่รู้เหมือนกันนะ  อาจรู้ก็ได้ วันก่อนกำลังทำบัญชี  พัดลมมันคราง แล้วจุ๊ยรำคราญเลยสัญญาว่าจะเช็ดให้  เท่านั้นหล่ะเงียบเลย” จุ๊ยตอบแล้วก้มลงเอาผ้าซักน้ำในถัง
หลิวมองพัดลม
“ถ้าอย่างนั้นก็สั่งให้เปิดเองให้ดูหน่อยสิ”
จุ๊ยเงยหน้ามองหลิว  ก่อนจะมองพัดลม
“ลุงจ้า ร้อนจัง ติดหน่อยสิ” เขากล่าวเสียงหวาน
แล้วพัดลมก็ค่อยๆหมุนช้าๆ
ทั้งจุ๊ยและหลิวตกใจมองหน้ากัน
“เช็ดเสร็จแล้วก็เปิดสิ  อากาศมันร้อน” ป๊าเดินออกมาพร้อมหนังสือพิมพ์แล้วนั่งลงที่โต๊ะบัญชี
จุ๊ยถอนหายใจโล่งอก 
“นึกว่าผีพัดลมหลอกซะแล้ว”
จุ๊ยเอาผ้าห่มนวมที่เปียกพาดกับราวโดยมีหลิวช่วย
“นี่ของใคร” หลิวถาม
“ของจุ๊ยเหรอ”
“ของเฮีย” จุ๊ยตอบแล้วหันไปเอาปลอกหมอนมาหนีบใกล้กัน
“นี่จุ๊ยต้องซักผ้าพวกนี้ให้ด้วยเหรอ  โตๆกันแล้วนี่นะ” หลิวทำหน้าหงุดหงิด
“ก็ถ้าจุ๊ยไม่ทำ ป๊าก็ทำ  จุ๊ยก็เห็นว่ามันไม่มีอะไร  แค่เอาใส่เครื่องซักผ้า  ยังไงจุ๊ยก็ต้องซักของจุ๊ยอยู่แล้ว” จุ๊ยตอบแล้วก็ก้มลงไปหยิบปลอกหมอนมาหนีบ
“จุ๊ยนี่ อภิชาตบุตร อภิชาตนุชา เลยนะ”  หลิวกล่าว
จุ๊ยแปลกหูหันมา
“ไอ้อภิชาตบุตรเคยได้ยิน แต่อภิชาตนุชานี่มันอะไร”
“ก็อภิชาต อนุชาไง แปลว่าน้องที่ดี” หลิวเฉลย
“แล้วยังเป็นอภิชาตเชษฐาด้วย”
จุ๊ยหนีบปลอกหมอนอีกใบแล้วมองหน้าหลิว
“แปลว่า... “
หลิวยิ้มเหมือนท้าทาย
“รู้น่า” แล้วจุ๊ยก็สาดน้ำในกระป๋องไปบนต้นโบ๊ยเซียนที่ปลูกไว้
“แปลว่าหลานชายที่ดี”
หลิวถอนหายใจ
“นี่ภาษาไทยนะจุ๊ย... แล้วอย่างนี้จะเอาอะไรไปสอบ”
“โถเค้าแกล้งหรอก  รู้หรอกน่าว่าแปลว่าอะไร”
หลิวส่ายหน้าไม่เชื่อ
“แปลว่าพี่ชายที่ดี” แล้วจุ๊ยก็เดินมาใกล้ๆ
“แต่จุ๊ยอยากเป็นอภิชาตภัสดามากกว่า”
หลิวหน้าแดงก่ำ  ถึงขนาดต้องเดินหนี
“บ้า... ไม่เอาล่ะหลิวมีงานต้องทำอีก” แล้วเธอก็ปีนข้ามกำแพงกั่นไป  หันมามองจุ๊ย
แต่จุ๊ยยืนเกาหัว...
“อะไร  แค่บอกว่าจะเป็นเพื่อนที่ดี  เขินทำไม”
หลิวนิ่ง
“บ้าเหรอ... แปลผิดอีกแล้ว”
“ผิดอะไร... “จุ๊ยแสดงความมั่นใจ
“บิดาแปลว่าพ่อ มารดาแปลว่าแม่  บุตรแปลว่าลูก อนุชาก็น้อง” จุ๊ยนับนิ้ว
“เชษฐาแปลว่าน้อง เพื่อนก็... “ แล้วจุ๊ยก็นิ่งไปเอง
“เออออวะ  เพื่อน มิตร... โอยจำผิดโทษๆ”
หลิวทำหน้าเซ็ง
“ตกภาษาไทยแหง่”
“เออ แล้วภัสดาแปลว่าอะไร” จุ๊ยนึก
“โอย” หลิวทนไม่ไหว
“ยืนคิดไปเถอะ ไปรีดผ้าดีกว่า”
“อ้าว..” จุ๊ยจะเรียกรั้ง เพราะเขากะจะบอกหลิวเรื่องโทรศัพท์มือถือ  แต่หลิวเดินเข้าประตูที่เปิดทิ้งไว้ไปเสียก่อน
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา