The Water's Pure Heart: ดวงใจของสายน้ำ
เขียนโดย Valentinlover
วันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 22.14 น.
แก้ไขเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 10.14 น. โดย เจ้าของนิยาย
30) ความจริงจากปากออย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ออยตัดสินใจไม่เข้าเรียนในวันนี้ เธอจึงกลับมาที่พัก
เธอนั้งลงเตียงนอนที่ว่างเปล่า แต่เมื่อคืนก่อนนั้นยังมีจุ๊ยนอนอยู่และเธอก็กอดเขาไว้จากด้านหลังร่าง สัมผัสแนบชิดโดยไร้อาภรณ์ภายใต้ผ้าห่ม...
จะว่าไปแม้จุ๊ยต้องทำตามใจเธอเพื่อแลกเปลี่ยนสัญญาว่าเธอจะไม่บอกเรื่องนี้กับ หลิว แต่จุ๊ยก็ดีกับเธอไม่น้อยเหมือนกัน เวลาอยู่ด้วยกันแม้จุ๊ยจะไม่ค่อยสนใจว่าเธอทำอะไรอยู่แต่ก็ตอบรับทุกครั้ง ที่เธอเรียก ถ้ามาค้างเขาก็จะปรุงอาหารเข้าให้เธอไว้ก่อนไปทุกครั้ง แล้วยังเก็บเอาเสื้อผ้าของเธอลงไปใส่เครื่องชักผ้าหยอดเหรียญแล้วเอามาตาก ให้ด้วย
เธอนึกถึงคำพูดของแม่ที่เล่าว่าพ่อของเธอก็ไม่ได้รักใคร่อะไรกันกับแม่มาก่อน ต่างคนต่างมารู้จักกันเพราะผู้ใหญ่แนะนำ แต่พอผ่านเวลาไปก็จะรักกันไปเอง เธอก็จะใช่สิ่งเดียวกันกับจุ๊ย
เธอจับจุดของจุ๊ยได้จากคำพูดของหลิวที่เล่าให้เธอฟังเกี่ยวกับตัวจุ๊ย
จุ๊ยมีจุดอ่อนตรงเป็นคนที่ขี้สงสาร และอีกอย่างที่เป็นจุดอ่อนคือเขาไม่ค่อยปฏิเสธคนอื่นแม้จะไม่เต็มใจ
ดังนั้นในวันที่กลับจากหัวหินเธอจึงต้องสวมบทบาทน่าสงสาร เอาภาพที่สะสมไว้ของจุ๊ยให้เขาดู แล้วก็บรรยายความรู้สึกของเธอต่อเขา ปรากฏว่าได้ผลชะงัด จุ๊ยท่าทีอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
แล้วโจมตีต่อมาด้วยการให้สัญญาว่าถ้าจุ๊ยคบกับเธอต่อไป ไม่บอกเรื่องนี้กับหลิว เพราะเธอรู้ว่านี่คือความกังวลใหญ่ของจุ๊ย เธอก็ไม่รู้หรอกว่าจริงๆแล้วจุ๊ยคิดกับหลิวอย่างที่หลิวคิดกับจุ๊ยหรือไม่ แต่แน่ๆคือถ้าอะไรทำให้หลิวเดือดร้อนเจ็บปวด จุ๊ยจะไม่ยอมแน่นอน เพราะอย่างน้อยที่สุดคือเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาแต่เด็กๆ
แต่จะว่าไปแล้ว ถึงจุ๊ยจะอยู่กับเธอ เธอก็ไม่แน่ใจว่าเธอจะสามารถจะชนะใจเขาได้โดยง่าย
เพราะสองเดือนนิดๆที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ที่มีเกิดจากการเริ่มก่อนของเธอที่รุกเข้าหาจนจุ๊ยทานไม่ได้ แล้วตอบสนองเธอออกมา ไม่มีสักครั้งที่จุ๊ยจะเข้าหาเธอก่อน... มันแสดงว่าใจของจุ๊ยยังไม่ได้อยู่กับเธอ ที่เธอมีคือตัวของเขาเท่านั้น ซึ่งเธอก็ต้องอดทนต่อไป
แต่ตอนนี้อาวุธของเธอคือสิ่งที่เธอไม่คาดคิด เธอสังเกตว่าประจำเดือนไม่มาได้ระยะหนึ่งแล้ว จึงไปทดลองซื้อชุดตรวจครรภ์ แล้วก็ได้พบว่าเธอตั้งครรภ์แน่นอน
แต่ถ้าถามว่าแน่ใจหรือไม่ว่าเป็นลูกของจุ๊ย เธอไม่แน่ใจนักหรอก ...
แต่ตราบใดที่จุ๊ยเป็นสุภาพบุรุษพอ ไม่ได้เจ้าชู้ประตูดินอย่างไอ้ฮาร์ท เขาก็คงไม่ทำอะไรที่เกินเลยไปกว่าสอบถาม ดังนั้นวันนี้เธอจึงตัดสินใจบอกไปตรงๆว่าเธอท้อง แม้จะไม่มั่นใจในปฏิกิริยาของจุ๊ย แล้วมันก็ได้ผล จุ๊ยตอบรับโดยดีด้วยการสัญญาว่าจะไปบอกกับครอบครัว โดยไม่บ่ายเบี่ยงสักคำ
เธอคิดถูกแล้วที่เลือกจุ๊ยไม่ใช่ไอ้ฮาร์ท เพราะขนาดจับได้คาหนังคาเขาขนาดนั้น มันก็ยังไม่ยอมกับเลิกกับเธอโดยดี แล้วยิ่งมารู้เรื่องจุ๊ยก็ถึงขนาดมาอาละวาดที่มหาวิทยาลัย
พอคิดถึงตรงนี้ออยก็รู้สึกผิดขึ้นมาเมื่อเห็นเนติ ผู้ชายที่เธอทอดกายให้โดยไม่ตั้งใจตอนเสียใจกับเรื่องของฮาร์ท ออกมาปกป้องเธอทั้งที่เขานั้นปกติหัวอ่อนไม่สู้คน แถมเคยเป็นเพื่อนสนิทกับฮาร์ทด้วย
เธอไม่คิดว่าเซ๊กซ์แค่ไม่กี่ครั้ง และเป็นความสัมพันธ์แค่ช่วงราวๆเดือน จะทำให้เขากล้าต่อกรกับฮาร์ทที่เคยเป็นเพื่อนและทั้งที่รู้ก็รู้ว่าแข็ง แรงกว่าเขา
พอคิดมาต่อตรงนี้ ความกังวลก็เกิดอีก
เดฟดันมาเห็นเหตุการณ์นั้น เดฟอันตรายมากที่สุดคนหนึ่ง แม้เรื่องเล่าของเดฟที่เธอได้ฟังจากหลิวจะเป็นเหมือนเรื่องขำขัน แต่ก็ลืมไม่ได้ว่าเดฟคือเพื่อนที่คบกันมายาวนานที่สุดคนหนึ่งของจุ๊ย แล้วก็อย่างที่ฮาร์ทพูดคือ จุ๊ยแปลกๆกับกรณีเดฟ ยิ่งที่จุ๊ยออกไปหาเดฟคืนนั้น แม้เธอไม่เห็นว่าทำอะไรกันบ้าง เพราะอยู่ไกลมาก จะไปใกล้กว่านี้ก็ไม่กล้า แต่อย่างหนึ่งที่รู้คือ คือเขาอยู่กับเดฟจนกระทั้งเช้า
ตอนนี้เดฟรู้เรื่องฮาร์ทแค่บางส่วน แต่เธอก็เกรงเดฟจะสืบต่อ เพราะด้วยอำนาจเงินกับชื่อเสียงที่เดฟมี คงไม่ยากที่จะรู้ว่าเรื่องทั้งหมดเป็นมาอย่างไร
แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นขัดความคิดของเธอ
เธอหยิบมาดูเป็น หมายเลขของจุ๊ย
จุ๊ยเทข้าวต้มที่มีหมูสับตับและปลาลงในชามแล้วยกมาให้ที่ชุดรับแขก
“เฮียฝากมาบอกว่าดีต่อคนท้องใหม่ๆ เพราะช่วยเรื่องอาการแพ้ท้องได้” จุ๊ยกล่าว
ออยยิ้มจนหน้าบาน
ความกังวลใจของเธอหายไปจนสิ้น
“กินสิ กินเยอะๆ แม่แข็งแรงเด็กก็จะแข็งแรงนะ” จุ๊ยบอกแล้วก็เอนหลังกับโซฟาแล้วหยิบสวิทต์มาเปิดโทรทัศน์
ออยตักขึ้นมาดมๆ ชิมคำหนึ่งก็พอใจในรสชาติใช้ได้ ก็เลยกินต่อ
“จุ๊ยได้เจอเดฟหรือเปล่า”
จุ๊ยหันมามองหน้าเธอ
“ทำไมเหรอ ออยเจอมันเหรอ แล้วมันทำอะไรออยหรือเปล่า” จุ๊ยถามแบบต่อเนื่อง
“อ้อ เปล่าไม่มีอะไร แค่ถามเฉยๆ พอดีเมื่อกี้ก่อนออกมาเห็นเขาเดินไปกับผู้ชายคนหนึ่ง ไม่รู้ใครหน้าเข้มๆ หล่อไม่เบาเลยหล่ะ” เธอตอบแล้วกินต่อ แต่ลอบสังเกตอาการของจุ๊ย
จุ๊ยก็ไม่ได้ว่าอะไรดูทีวีต่อไป
จนสักครู่เธอกินเสร็จ จุ๊ยก็เอาชามไปล้างที่ส่วนครัวให้
“ออยพรุ่งนี้เฮียให้ไปหาหน่อย เฮียอยากจะคุยก่อนที่จะไปพบป๊า พอดีพรุ่งนี้เฮียเขาจะไปติวกับรุ่นพี่เขาที่คลินิกของรุ่นพี่เขา แล้วเขาจะค้างที่นั้นเลย ก็เลยอยากให้เราไปหาจะได้คุยกันก่อน” จุ๊ยบอกตามที่ตี้บอกเล่ามา
“ทำไมที่ต้องคลินิก” ออยรู้สึกแปลกๆ
“ก็เฮียเขาเป็นหมอนี่ จะติววิชากันก็ต้องที่คลินิก” จุ๊ยตอบ
ก่อนออกไปจุ๊ยยังตามเก็บข้าวของที่ออยหยิบออกมาแล้วยังไม่ได้เก็บเข้าที่
“ถ้าแพ้ท้องมากไม่ไหวจริงๆ ก็โทรตามจุ๊ยนะ วันนี้จุ๊ยต้องกลับบ้านแล้วหล่ะ เพราะไม่ได้ทำความสะอาดบ้านหลายวันป่านนี้รกเป็นรังหนูไปแล้วมั้ง” แล้วเขาก็ยิ้มออกมา
รอยยิ้มที่ทำให้หน้าของผู้ชายธรรมดาอย่างจุ๊ยดูสว่างและสดใส
แล้วเขาก็เปิดประตูออกไป
ออยมองรอบตัว ห้องที่ไม่มีจุ๊ยเหมือนจะเงียบเหงาลงทันที
ทำไมจุ๊ยแสนดีนัก และทำไมที่ใดก็ตามที่จุ๊ยไปอยู่จะมีความสุขติดตามไป..
ใจหนึ่งก็อยากจะครอบครองเขาไว้เพียงคนเดียว แต่อีกใจก็บอกตัวเองว่าเธอกำลังผิดต่อจุ๊ยหลายต่อหลายอย่าง
จุ๊ยกลับถึงบ้านตอนเย็นก็เริ่มต้นทำความสะอาดบ้านไปที่ละส่วน ไล่ลงมาจากชั้นบนสุดจนลงมาถึงข้างล่าง
ระหว่างกำลังจัดการกับขี้หนูที่อยู่ใต้ตู้โชว์สินค้า ก็สังเกตเห็นว่าป๊ากำลังทาน้ำมันที่หลัง
“ปวดหลังเหรอครับ” จุ๊ยถามเมื่อโกยขี้หนูออกมาใส่ถุงเรียบร้อย
“เอ้อ.. ตอนยกของตอนเช้า คงก้มผิดท่าไปหน่อย” ป๊าตอบ
“ให้เฮียดูรึยังครับ” จุ๊ยถามแล้วถอดหน้ากากอนามัย
“ไม่ต้องหรอก แค่ปวดนิดหน่อยๆ ก็ทาน้ำมันเอาได้” ป๊าตอบแล้วก็นั่งดูทีวีต่อ
จุ๊ยมองไปรอบๆ
“ถ้าบ้านเรามีผู้หญิงสักคนก็ดีนะครับ อย่างน้อยเวลาผมต้องไปเล่นดนตรี จะได้มีคนดูแลป๊า”
บิดาส่งเสียหึ
“ไอ้ คิดมันก็ดี แต่ลื้อจะหวังให้ผู้หญิงเดี่ยวนี้มาทำงานบ้าน ก็ผิดไปแล้วหล่ะ ดูอย่างลูกสะใภ้ร้านข้าวมันไก่สิ วันๆอั๊วเห็นอีเอาแต่แต่งตัว สับไก่ยังไม่ขาด จะทำงานบ้านให้ แปะมุ๊ยบ่นจะตายแล้วลื้อไม่ถามดู”
จุ๊ยไม่ตอบ เพราะไม่รู้ว่าจะตอบอะไร แล้วก็เดินเอาขี้หนูไปทิ้งหน้าบ้าน
เขาอยากจะบอกเรื่องของออย เพราะยังไงก็ต้องบอก แต่พอเอาเข้าจริงก็ไม่กล้าปริปากออกไป...
แต่เขาก็ยังพอเบาใจได้ เพราะยังไงพี่ชายของเขาก็คงหาวิธีบอกแทนเขาได้แน่ๆ
หมวกแก็ปที่สวมไว้บนกล่องโซบราโนแซกโซโฟนยังคงอยู่ที่เดิมอย่างเดิม เขาหยิบมันมาสวมแล้วก็เปิดกล่องเอาแซกโซโฟนตัวนั้นออกมา
วันนี้จุ๊ยนึกอยากเล่นเพลงนั้น
เพลงสุดท้ายเจ้าของแซกโซโฟนตัวนี้ใช้มันเล่น
“จริงเหรอวะ” อ๊อดถามออกมา ทำหน้าเหมือนโลกจะแตกวันนี้
“เอ็งแน่ใจเหรอจุ๊ย” ฮ้อยก็ถามย้ำ
จุ๊ยพยักหน้าช้าๆ
“ก็ตามนั้น ต่อไปพวกมึงก็คงต้องรำคราญออยมากขึ้นอีกนิด เพราะเธอคงจะมาหากูบ่อยๆ”
อ๊อดส่ายหัวดุกดิก
“ไอ้จุ๊ยเอ้ย... มีเพจเป็นของตัวเอง มีคนไลก์เป็นหมื่นๆ มีทั้งผู้หญิงผู้ชายมาชอบ เสือกมาตกม้าตายเพราะผู้หญิงคนนี้”
จุ๊ยตบหัวอ๊อดเบาๆ
“มึงอย่าพูดแบบนั้น พูดอย่างนั้นเขาเสียหาย”
ฮ้อยถอนหายใจกอดคอจุ๊ย
“เอาวะ ถ้าลูกมึงออกมา กูจะช่วยเลี้ยงเอง”
คลินิก ของพี่หมอวัฒน์คือสถานที่ซึ่งพี่ชายนัดจุ๊ยให้พาออยไป หมอวัฒน์รุ่นพี่ของทั้งตี้และจุ๊ยเนื่องจากเขาก็เคยเรียนโรงเรียนเดียวกัน แม้จุ๊ยจะไม่เข้าเรียนไม่ทันพี่วัฒน์จบการศึกษา แต่ก็รู้จักกันดีเพราะพี่วัฒน์เคยอาศัยอยู่ในย่านเดียวกับครอบครัวจุ๊ยมา ก่อน
พอเข้าไปตอนนั้น คลินิกปิดแล้วแต่หมอวัฒน์กับเฮียตี้นั้งคุยกันอยู่ในห้องตรวจ พอเห็นจุ๊ยกับออยเดินเข้าไป
วัฒน์ก็ทักทายตามปกติ แล้วก็ขอตัวออกไปบอกว่าจะไปเตรียมอุปกรณ์
“อุปกรณ์อะไรค่ะ” ออยถาม
“อ้าวนี่ยังไม่ได้บอกเหรอว่า พี่จะทำอัลต้าซาวน์ให้ จะได้กำหนดอายุครรภ์ได้ แล้วจะทำเรื่องฝากครรภ์” พี่วัฒน์ตอยออย แล้วตบบ่าจุ๊ย
“คุณพ่อนี่ไม่ไหวเลยนะ บอกกล่าวคุณแม่หน่อยสิครับ”
พูดจบก็เดินออกไป
จุ๊ยสังเกตสายตาของออยที่แปรไปอย่างชัดเจน
“นั่งก่อนสิ” ตี้กล่าว แล้วชี้ที่เก้าอี้
ออยหันมามองหน้าจุ๊ยก่อนจะนั่งลง
เฮียตี้เหมือนกำลังแสดงละครในบทหมอ ซึ่งจริงๆแล้วเขาก็เป็นนักเรียนหมอนั้นละ
แต่ กริยาที่นิ่งสงบ เขียนอะไรอยู่สักครู่ จุ๊ยรู้สึกว่ามันผิดไปจากปกติ เขาเริ่มสงสัยว่าพี่ชายมีจุดประสงค์อื่นนอกจากจะตรวจครรภ์เพื่อความปลอดภัย
“ก็ต้องถามเบื้องต้นนะ” เขาถามแต่ตาไม่ได้มองหญิงสาว
“ออยรู้ตัวว่าประจำเดือนไม่มาเมื่อไหร่”
“ก็เมื่อวานนี้” เธอตอบ
“ไม่ใช่สิ... เมื่อเดือนก่อนไม่สังเกตเหรอว่าตัวเองประจำเดือนไม่มา” ตี้เงยมองหน้าเธอ
ปกติ แววตาของพี่ชายจะค่อนข้างดุอยู่แล้ว ยิ่งเวลาเงยขึ้นมองจากอาการอ่านหรือเขียนหนังสือ ทำให้จุ๊ยเองก็อดรู้สึกไม่ได้ว่าออยน่าจะตกใจ
“ก็... ออยมีปัญหานี้มาก่อน ออยก็คิดว่าไม่มาเพราะสาเหตุอื่น ก็เลยไม่สนใจ” ออยตอบ
แรงกดดันเริ่มมากขึ้นจนเธอเผลอบีบมือที่ประสานบนตักแน่น
“ไอ้ การที่ประจำเดือนไม่มานี่ มันหลายสาเหตุนะ อย่างหนึ่งคือเครียด ซึ่งก็อาจเป็นไปได้เพราะเรียนหนังสือหนัก อีกอย่างในอีกหลายสาเหตุคือ การรับประทานยาคุมกำเนิดเป็นประจำ” คำพูดของตี้เรียบๆ ตกท้ายเหมือนเน้นย้ำ
ออยไม่ตอบโต้อะไร ตี้จึงสรุป
“ถ้าออยบอกอย่างนี้แปลว่าออยค่อนข้างมั่นใจว่า น่าจะท้องประมาณสองเดือน”
ออยมองหน้าจุ๊ย ตอนนี้จุ๊ยกำลังจ้องหน้าพี่ชายตัวเองอยู่
“เหม่เอ็งนี่เชื้อแรงดีนะ เปิดปุ๊บติดปั๊บ” ตี้หันมากล่าวกับจุ๊ยด้วยรอยยิ้ม
“เอ้าเรียบร้อย” พี่วัฒน์เดินลงมาจากชั้นสอง
“อุปกรณ์พร้อม เชิญคุณแม่ได้แล้วครับ”
ออยไม่ขยับนั่งเม้มปาก
“ไม่ตรวจไม่ได้เหรอ ออยรู้สึกไม่ค่อยสบายนะจุ๊ย มันรู้สึกเหมือนจะแพ้ท้อง”
จุ๊ยหันมามองหน้าเธอ กำลังจะตอบ
“ตรวจสิ สำคัญมากนะ การกำหนดอายุครรภ์นี่ ยิ่งเธอต้องเรียนหนังสือ จะได้รู้ว่าช่วงไหนที่เธอต้องลายาวๆเพื่อคลอด” ตี้กล่าวขัด
“แล้วมันจะเห็นอะไรหล่ะพี่ อายุท้องสองเดือนนี่” จุ๊ยถามกับหมอวัฒน์
“ก็ นี่ไงพี่เลยจะเตรียมทำอุลตร้าซาวน์ที่ช่องคลอดแทน แต่อาจลำบากหน่อย เพราะต้องขึ้นขาหยั่ง แต่เดียวพี่จะถ่ายรูปมาให้ดู จุ๊ยจะได้เห็นหน้าลูกครั้งแรก หรือจะรอเข้าไปดูตอนมาตรวจครั้งหน้าก็ได้นะ เพราะจะเปลี่ยนเป็นทำที่หน้าท้องแทน” เขาตอบ
“ส่วนอาการแพ้ ไม่ต้องห่วง เดี่ยวพี่จัดยาให้” พูดตรงนี้นักเรียนหมอกับนายแพทย์ก็มองหน้ากัน
ออยรู้สึกผิดปกติอย่างมาก
เธอจึงตัดสินใจถามออกไป
“พวกพี่ไม่เชื่อใช่ไหมว่าออยท้องกับจุ๊ย”
จุ๊ยจับแขนออยเพราะตอนนี้เธอกำมือแน่นจนแขนสั่น
“ก็ไม่ใช่นะ ที่เราทำเพื่อความปลอดภัยของเธอเองนะ ออย อย่างน้อยเธอก็มีสามีเป็นน้องของว่าที่นายแพทย์” ตี้กล่าวอย่างใจเย็น
“ก็อย่างที่บอก ตรวจซะ พี่วัฒน์จะได้กำหนดอายุครรภ์แล้วกำหนดวันคลอดได้คร่าวๆ สะดวกต่อเธอจะได้ทำเรื่องลาเรียน”
จุ๊ยก็เลยจับมือเธออย่างอ่อนโยน เพราะตอนนี้เธอกำลังร้องไห้
“เอา น่าออย เฮียเขาหวังดี อย่าคิดแบบนี้สิ ตรวจก็ตรวจสิ ไม่เห็นเป็นไรไม่ใช่เหรอ ดีเสียอีกมีรูปไปให้ป๊าดู ป๊าอาจใจอ่อนไม่เอ็ดเราตอนไปบอกท่านก็ได้นะออย”
พี่วัฒน์กอดอก
“ก็ตามใจแล้วกัน” พี่วัฒน์กล่าว แล้วมองหน้าตี้ในเชิงให้จัดการเอง
พี่วัฒน์เดินออกไปแล้ว
ตี้จึงกล่าว
“เธอไม่ตรวจแต่ไอ้จุ๊ยต้อง” แล้วตี้ก็หยิบขวดใบเล็กและหนังสือปลุกใจออกมาวางบนโต๊ะ
จุ๊ยมองหน้าพี่ชาย
“เฮ้ยอะไรน่ะเฮีย”
“วันนี้ยังไม่ได้มีอะไรกันใข่ไหม” ตี้ถามโดยไม่ได้สนใจหน้าตาของจุ๊ยเลยว่ากำลังพิศวงขนาดไหน
“เฮียให้เวลาเอ็งสิบนาที เก็บอสุจิมา เฮียจะตรวจ”
จุ๊ยปล่อยมือจากออย ลุกขึ้นยืน
“นี่เฮียจะทำอะไรกันแน่ ถ้าจะเล่น มันก็แรงไปแล้วนะ”
เขาเหลือบตามองออยที่ปาดน้ำตาอย่างน่าสงสาร
“จุ๊ย” พี่ชายลุกขึ้นเผชิญหน้า
“ตอนเฮียเรียนเรื่องระบบสืบพันธุ์เคยขอของนาย กับของซัวใช่ไหม จำได้หรือเปล่า”
จุ๊ยจำได้ เพราะตอนนั้นเขาขำก๊ากในตอนแรก แต่พอเฮียทำท่าจริงจังมากก็เลยยอมทำให้
“อสุจิของไอ้ซัวน่ะ พ่อพันธุ์อย่างดีเลย เฮียเลยขอไปแค่ครั้งเดียว แต่ของเอ็ง ตอนหลังเฮียมาขออีกรอบใช่ไหม” ตี้กล่าวแล้วถามอีก
จุ๊ยก็พยักหน้า
“เฮียก็ไม่ได้บอกเอ็งสินะ ขอโทษที.. “ ตี้ถอนหายใจ
“ตอน นั้นผลตรวจออกมา บอกว่าเอ็งเป็นหมัน แต่เฮียไม่ได้บอกเอ็งเพราะกลัวเอ็งจะรู้แล้วไปเที่ยวซุกซนเพราะคิดว่ายังไง ก็คงไม่ทำให้สาวท้องได้”
จุ๊ยอึ้ง รู้สึกเหมือนโดนตบหน้าอย่างแรง
“แต่ ของอย่างนี้มันอาจคลาดเคลื่อนกันได้ เฮียอาจจะเก็บรักษาอสุจิของเอ็งไม่ดีพอ ดังนั้นวันนี้เฮียเลยต้องการเชื้อสดๆ และคำยืนยันจากนายแพทย์วิชาชีพสูตินารี” ตี้กล่าวอย่างเยือกเย็นลงอีกครั้ง
จุ๊ยหันไปมองหน้าออย เธอมองหน้าจุ๊ยกลับมาด้วยแววตาที่เหมือนจะมองส่งเขาไปออกรบหรืออะไรก็ตามที่แสนเศร้า
“โอเค..” เขากล่าวออกมาอย่างลำบากในลำคอ เพราะเหมือนมีก้อนอะไรไปอุดตันในนั้น เอื้อมหยิบกระปุกเล็ก และหนังสือ
“รอเดี่ยวนะเฮีย”
แต่พอจุ๊ยจะออกไป
“ไม่ต้องหรอกจุ๊ย..”ออยลุกขึ้น ปาดน้ำตา แต่มันก็ไหลออกมาอีก
“เราไม่ได้ท้องกับจุ๊ย”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ