The Water's Pure Heart: ดวงใจของสายน้ำ
-
เขียนโดย Valentinlover
วันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 22.14 น.
56 ตอน
0 วิจารณ์
51.99K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 10.14 น. โดย เจ้าของนิยาย
17) ขอเป็นเพื่อนอย่างเดิมได้ไหม
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความพอถึงเวลาใกล้จะเช้า ก็เหลือแค่เพลงคลอเบาๆเท่านั้นที่ยังเล่นอยู่ แล้วจากเกือบร้อยคนก็ลากลับไปบ้าง เมาจนต้องขอตัวไปนอนที่ห้องซึ่งเดฟเตรียมไว้บ้าง นอนกลิ้งอยู่กลางบ้านบ้าง จนแอลอีดีทีวีที่เปิดทิ้งไว้เป็นฝ่ายดูคนหลับกันหมด
แม้จุ๊ยจะกินเหล้าอย่างระวังตัวแต่เพราะอาการง่วงจึงผล็อยหลับไป ตื่นมาพบว่าเขาโดนทั้งอ๊อดและฮ้อยกอดก่ายเขาอยู่
ดันพวกมันออกไป แล้วหันมองนาฬิกาบนฝาก็เห็นเป็นเวลาตีสี่แล้ว
“ตายๆ กลับบ้าน กลับบ้าน” เขาบอกกับตัวเอง
แต่พอล้างหน้าล้างตา แล้วออกมาจากตัวบ้าน เขาก็เห็นเดฟนั่งกอดเข่าตามองดาวอยู่คนเดียวริบสระว่ายน้ำ
จุ๊ยมองอยู่เขานาน ก่อนจะเดินเข้าไป
“ไม่ง่วงเหรอ กินไปตั้งเยอะ”
เดฟรู้ตัวอยู่ตั่งแต่ตอนจุ๊ยออกจากบ้านแล้วจึงตอบ
“พวกนั้นมันคออ่อน ผมปาร์ตี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร แค่นี้ไม่มีปัญหาหรอกครับ”
จุ๊ยนั่งลงข้างๆ
“ทำไมมึงชอบดูดาวจัง”
“ก็มันสวย” เดฟตอบ
“ดูดาวแล้วก็จินตนาการเป็นรูปนั้นรูปนี้สนุกดีออก”
ในแสงเงาแบบนี้เดฟยังคงดูดี ด้วยตาน้ำตาลอ่อนเป็นประกาย สันจมูกโด่ง ริมฝีปากบางได้รูป
“คิดถึงเนอะ” เดฟกล่าวออกมา
“จำได้รึเปล่าว่าเราคุยกันครั้งแรกในท้องฟ้าจำลอง”
จุ๊ยพยักหน้า
“ตอนนั้นนายยังเป็นผุ้ชายอยู่เลย”
เดฟยิ้ม
“ตอนนี้ผมก็ยังเป็นผู้ชาย แต่เป็นผู้ชายที่ชอบผู้ชายด้วยกันก็เท่านั้นเอง”
เดฟเปิดเผยความเป็นเกย์ หลังจากมีเรื่องลือกันสนั่นกองร้อยลูกเสือเรื่องที่เดฟสุดหล่อมีความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมหมู่ในเต้นท์ แทนที่เดฟจะโกรธ เขากลับแสดงตัว และยักไหล่ต่อเสียงครหาอย่างไม่ยี่หระ
แต่ปัญหาของจุ๊ย คือปีต่อมา เขาก็ประกาศไปทั่วโรงเรียนว่าหมายตาจุ๊ย แถมแสดงอาการให้เห็นอย่างเปิดเผยว่าชอบจุ๊ย
“ทำไมมึงถึงชอบกูวะ กูถามจริงๆ อย่ากวนตีนนะ” จุ๊ยตัดสินใจถามออกไป
เดฟหัวเราะดังหึ หันไปหยิบแก้วที่เหลือแค่น้ำที่ละลายมาจากน้ำแข็ง มาไกวดู
“คำตอบนี้จุ๊ยต้องถามตัวเอง เพราะตัวจุ๊ยเองทำให้ผมชอบจุ๊ย”
จากในบ้านก้องภพมองกำลังมองออกไปข้างนอก
“แอบดูมันทำไม” ฮ้อยกล่าวแล้วดึงก้องภพให้นอนลง
“ให้กูกอดหน่อยกูหนาว”
“เฮ้ยเดี่ยวไอ้จุ๊ยก็โดนไอ้เดฟปล้ำหรอก ปล่อยมันไว้สองคนอย่างนั้น”
“ไม่มีทาง” ฮ้อยกล่าวเสียงหนักแน่น
“ให้กูปล้ำมึงยังมีโอกาสมากกว่าเลย”
ก้องภพทานแรงดึงไม่ไหว
“กอดอย่างเดียวนา ห้ามไซร้ห้ามสี”
“เออ”
จุ๊ยนิ่งไป ถอนหายใจแล้วมองไปทางอื่น
“กูขอโทษถ้าสิ่งที่กูทำมันทำให้มึงคิดเลยเถิด กูก็แค่”
“อย่าครับอย่าพูดอย่างนั้น มันเจ็บ” เดฟตัดบท
แล้วก็มองลงไปในสระน้ำ
“ผมขอมโนไปว่าจุ๊ยทำไปเพราะมีใจให้ผม แค่นั้นผมก็พอใจ”
“แล้วมึงรู้ได้ไงว่ามันเดฟมันไม่มีทางปล้ำไอ้จุ๊ย” ก้องภพถาม
“พวกกูเคยลองมาแล้ว” อ็อดตอบแทน
“อ้าวยังไม่หลับเหรอ”
“ไอ้จุ๊ยมันลุกเลยตื่น” อ๊อดตอบ
“ลองอะไร ที่ว่าลอง” ก้องภพถามเข้าเรื่อง
“คือปีที่แล้ว” ฮ้อยเล่า
“เราก็ไปกินฉลองกันที่วงชนะ ตอนนั้นไอ้จุ๊ยมันเจอของแสลงของมัน คือน้ำแดงกระทิง มันเลยเมาแอ๋ไปเลย พวกเราเห็นไอ้เดฟมันคอยพยาบาลมัน ก็เลยแกล้งทิ้งมันไว้สองต่อสอง แล้วกะจะเข้ามาทำให้เดฟตกใจตอนจะลักหลับไอ้จุ๊ย”
อัศวะที่นอนอยู่ใกล้ๆก็พลิกตัวมาฟัง
“ทำไมมึงต้องทำอย่างนี้ มึงมีบ้านใหญ่โต มีคนชื่นชอบ เป็นดารา มึงมีทุกอย่างที่เด็กวัยรุ่นทั่วประเทศอยากมี ทำไมมึงต้องชอบคนธรรมดาอย่างกู มึงดู กูนี่ กูมีอะไร นอกจากวิชาดนตรีกับหำ กูก็ไม่มีอะไร มึงชอบอะไรกู ถ้าจะบอกว่ามึงชอบเสียงแซคของกู มึงก็ไม่ต้องทำขนาดนี้ ถ้าจะบอกว่ามึงชอบหำ ...” จุ๊ยร่ายยาวเหยียด แล้วก็เงียบไปนิดหนึ่งก่อนจะกล่าวต่อ
“มึงก็มีโอกาสตั้งหลายที แต่มึงก็ไม่ทำ”
“มันไม่แค่ไม่ทำอะไรจุ๊ย พอไอ้จุ๊ยอ้วกราดมันก็พาไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้อย่างดี ไอ้จุ๊ยจะอุบาทว์ยังไงเวลานั้นมันก็ไม่รังเกียจเลยสักนิด” อ็อดกล่าวต่อจากฮ้อย
“เขาอาจรู้ก็ได้ว่าพวกมึงแกล้ง ก็เลยแอ๊บ” ก้องภพแย้ง
“มึงพูดเหมือนไอ้จุ๊ย” ฮ้อยว่า
“หลังจากนั้นมันยังมีอีก เพราะไอ้จุ๊ยมันลองใจเองเลย แกล้งชวนไปกินเหล้า แล้วก็แกล้งเมาหลับคาร้าน แล้วก็แกล้งขอไปนอนบ้านมัน แกล้งอ้วก แกล้งกระทั่งฉี่ราด ปรากฏว่ามันก็ยังดูแลไอ้จุ๊ยอย่างดี เหมือนเป็นแม่ไอ้จุ๊ย ไม่ใช่คนที่แอบมาชอบ”
ก้องภพถึงกับอึ้ง อัศวะก็รู้สึกอย่างนั้น
“พวกเราถึงได้รู้ว่า แม่งไอ้เดฟมันโคตรจะรักไอ้จุ๊ย แถมความรักของมันนี่โคตรจะบริสุทธิ์ “ อ็อดว่าแล้วหงายมองเพดาน แล้วตาของเขาก็ลอย
“ถ้ามึงเจอใครที่รักมึงได้เท่านี้ มึงจะทำยังไง”
“ใครว่า ผมก็ทำอยู่ทุกวัน ผมก็ปล้ำจุ๊ย แล้วก็บีบช้างน้อยจุ๊ยทุกวัน” เดฟตอบแต่ไม่มองมา ทว่าจุ๊ยจ้องเขาเขม็ง โดยเดฟที่ยังมองลงไปในสระน้ำ โมโหก็เลยฉุนเฉียวดึงเดฟมาเผชิญหน้า
“พอทีเถอะเดฟ มันทำให้กูลำบากใจ มึงช่วยเลิกดีกับกู เลิกทำเหมือนกับกูเป็นสิ่งมีค่ากับมึงได้ไหม”
เสียงของจุ๊ยดังพอสมควรเลยในยามดึก
ทั้งคู่เงียบจ้องตากันนาน
จุ๊ยเป็นฝ่ายหลบตาก่อน นั่งลงข้างๆเดฟ
“กูอาจมีเพื่อนหลายคน แต่สำหรับคนที่กูแคร์มากมีกันแค่ไอ้อ็อด ไอ้ฮ้อย ไอ้ปอ ไอ้ตั้ม ไอ้อัส แล้วก็มึง”
จุ๊ยมองพื้นที่ว่างเปล่า
“กูแคร์ความสัมพันธ์ของพวกเรามาก กูบอกตามตรง แม้มึงจะยังไงกับกู กูก็ไม่เคยคิดจะรังเกียจมึงเลย แต่กู...”
แล้วเขาก็หันมามองหน้าเดฟ
“สิ่งที่กูลำบากใจไม่ใช่การที่มึงลวนลามกู แต่เป็นความรักของมึงต่างหากไอ้เดฟ กูรู้ว่ามึงรักกูมากแค่ไหน นั้นหล่ะที่ทำให้กูลำบากใจ”
เดฟก้มหน้า
“ผมเข้าใจ จุ๊ย”
“มึงเข้าใจอะไร” แล้วจุ๊ยก็จับหน้าของเดฟเงยขึ้นมาเผชิญหน้า
“มึงเข้าใจอะไรกูเดฟ มึงไม่เข้าใจหรอก... มึงไม่เข้าใจว่า ถ้ากูต้องเสียพวกมึงไปอีกสักคนเดียว กูจะเจ็บปวดมาก กูกลัวเดฟกูกลัวที่สูญเสียความรู้สึกดีๆของเรา และความเป็นเพื่อนของเรา”
แล้วจุ๊ยก็ดึงเดฟเข้ามากอด
“อย่าเลยนะ เราอย่าล้ำเส้นของความเป็นเพื่อนเลยนะ เพราะกูกลัว กูกลัวว่าพอเราล้ำไปแล้ว เราจะไม่สามารถกลับมายืนที่เดิมได้อีก ไม่ต้องการเสียมึงไปอีกคน”
กอดไว้อย่างนั้นนานพอสมควร
เดฟหลับตาลง
“จุ๊ยครับ ถ้าอย่างนั้นเรายิ่งต้องเป็นเหมือนเดิม ผมจะเป็นคนเดิมที่คอยไล่จับจุ๊ยต่อไป ผมจะเป็นคนเดิมที่คอยตามตื้อจุ๊ยต่อไป เพราะทำอย่างนั้นแล้วผมกับจุ๊ยถึงจะเป็นคนเดิม และเหมือนเดิม เพราะถ้าผมเลิกทำอย่างนั้น ก็แปลว่าเราไม่เหมือนเดิม จุ๊ยก็ช่วยทำให้เหมือนเดิม ไล่เตะไล่ต่อยผมเหมือนเดิม ทุกอย่างให้เป็นเหมือนเดิม เพราะเราเท่าอย่างนั้นแล้วเราก็ยังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนไป ดังนั้นเราต้องทำตัวให้เหมือนเดิม”
“ผม จะไม่ทิ้งจุ๊ยไปไหน จนกว่าจุ๊ยจะทิ้งผมไปเอง ผมสัญญา แต่ถึงจุ๊ยจะทิ้งผมไป ผมก็ยังจะเป็นเพื่อนของจุ๊ยตลอดไป ผมสัญญาครับเพื่อนรักของผม”
พอได้ฟังจุ๊ยก็ไม่อาจลืมตาได้อีก เขาหลับตาลง และยิ่งกอดเดฟแน่นมากขึ้น กอดเอาไว้อย่างนั้นเนิ่มนาน
แม้จะรีบแคไหน แต่จุ๊ยคิดว่าคงก็ไม่มีทางจะไปทันเที่ยวบินที่เดินทางในเวลาหกโมงครึ่งได้เลย ดังนั้นเขาจึงนั่งเงียบตลอดทางที่เดฟขับรถด้วยความเร็วไปสนามบิน
“เฮ้ยผมขอโทษ ผมทำให้จุ๊ยเสียเวลา” เดฟกล่าวแต่ทั้งมือและตาจับอยู่กับถนน
จุ๊ยถอนหายใจรับชะตากรรมของตัวเอง
“ก็คงโดนหลิวเฉ่งเอาแหง่ๆตอนที่เขากลับมาตอนปิดเทอม”
เดฟเงียบ
“ตกลงจุ๊ยชัวร์กับคนนี้แล้วเหรอ”
จุ๊ยหันมามองหน้าเดฟ
“หมายถึงอะไร”
เดฟเหลือบมองจุ๊ยนิดนึง
“ก็เลือกผู้หญิงคนนี้แน่นอนแล้วใช่ไหม”
จุ๊ยเงียบไป แล้วก็ถอนหายใจ
“เราเป็นเพื่อนกันนานมากเลยเดฟ กูรู้จักเขาตั่งแต่เด็กๆ ถ้าลำดับความสำคัญ ผุ้หญิงในชีวิตกู นอกจากแม่กับน้องสาว ก็มีเขานี่ล่ะสำคัญมาก”
“ถ้าอย่างนั้น ยังไงล่ะ บอกรักแล้วคบกันเป็นทางการแล้วหรือยัง” เดฟถามต่อ
“ยัง”
“อ้าว” เดฟถึงกับหันมามองหน้าตรงๆ แต่รีบกลับไปมองถนน
“เอาน่า... เรายังเด็กไม่ใช่เหรอเดฟ เรายังต้องเจอกันอีกคนอีกมาก หลิวเขาไปต่างประเทศอาจเจอคนที่ใช่กว่ากู หรือกูเองก็อาจดักดานอยุ่ในประเทศแล้วเจอคนที่ใช่ก่อนเขา หรือเราอาจพบว่าความจริงแล้วเราเป็นเพื่อนกันอย่างเดิมดีทีสุด... “
จุ๊ยมองออกไปนอกหน้าต่าง
“ให้เวลาบอกเราเองดีกว่า ส่วนเราก็แค่รอให้มันถึงเวลาที่เหมาะสมและเราเองก็เหมาะสมดีกว่าไหม”
เดฟเงียบก่อนจะถอนหายใจแรงๆ
“ผมไม่เข้าใจจุ๊ย” เขากล่าว
“ผมไม่รู้ว่าทำไมจุ๊ยไม่ชัดเจนลงไป... ทำแบบนี้แล้วได้อะไร หรือว่าจริงๆแล้วจุ๊ยมีอะไรอยู่ในใจกันแน่”
จุ๊ยหันมองหน้าเดฟ กำลังจะตอบแต่โทรศัพท์ก็ดังขึ้น
พอมองหมายเลขก็ต้องขมวดคิ้ว
“ใครวะ” แต่ก็รับสาย
“ไงค่ะคุณขี้เมา เมาอยู่ไหนล่ะ ดิฉันเข้ามาข้างในแล้วนะคะ ไม่ต้องมาแล้วค่ะสนามบิน” เสียงหลิวดังมาในสาย
“โอยหลิวจุ๊ยขอโทษ ก็พวกมันอ่ะลากจุ๊ยไปต่อ จุ๊ยไม่ได้อยากไปเลยนะ กะจะกลับบ้านไปเตรียมตัวมาส่งหลิว แต่พวกมันน่ะ” จุ๊ยกรอกเสียงอ๋อยๆ เหลือบมองหน้าเดฟ
พอดีเดฟหันมา เขาเลยส่งสัญญาณให้ชะลอรถ
ฝ่ายโน้นเหมือนจะไม่ได้โกรธอะไรมาก
“ก็ไม่ได้ว่าอะไร หลิวก็คิดอยู่แล้วว่าจุ๊ยอาจมาไม่ทัน เพราะจริงๆหลิวก็เปลี่ยนวันเดินทางขึ้นมาด้วยหล่ะ แล้วดันตรงปัจฉิมนิเทศของจุ๊ย หลิวก็คิดอยู่แล้วหล่ะว่าจุ๊ยไม่มีทางกลับมาเร็วอย่างที่ว่าได้แน่นอน ก็จุ๊ยป็อบในหมู่เพื่อนซะขนาดนั้น”
“ขอโทษด้วยน้า... “ จุ๊ยอ้อน
“แล้วยังไงก็ขอให้หลิวเดินทางโดยสวัสดิภาพนะ ดูแลสุขภาพให้ดีด้วย เขาว่ารัฐที่ไปหนาวมาก รักษาสุขภาพดีๆนะอย่าให้เป็นหวัด จุ๊ยเป็นห่วงหลิวนะ”
หลิวเงียบไป น้ำเสียงตอบกลับมาแจ่มใสอย่างเด่นชัด จนจุ๊ยเห็นรอยยิ้มของเธอในหัว
“อืม.. จะรักษาตัวอย่างดีเลยหล่ะ เพราะหลิวจะกลับมาทวงสัญญากับจุ๊ยตอนเรียนจบ หลิวไม่ยอมเป็นอะไรไปก่อนอยู่แล้ว”
จุ๊ยยิ้มกับน้ำเสียงของเธอ
“จุ๊ย.. ก็รักษาตัวแล้วก็รักษาใจให้ดี รักษาสัญญาของเราด้วยหล่ะ”
จุ๊ยเม้นปากก่อนจะตอบ
“อืม.. จุ๊ยสัญญา”
เดฟมองไปข้างหน้า เขาอยากจะหลับตาลงมากกว่าเพื่อข่มความรู้สึก แต่ก็ไม่อาจหลับตาได้
เหลือบไปก็เห็นจุ๊ยสนทนากับเธออยู่ด้วยรอยยิ้ม เป็นการแก้ตัวเรื่องเมา
ตอนนี้หัวใจของเดฟจวนจะแหลกสลาย...
เขาจู่ๆน้ำตาก็ไหลลงมา แต่เขากลัวจุ๊ยจะเห็นก็เลยรีบปาดออกอย่างรวดเร็ว
แสงตะวันที่ปลายขอบฟ้าทิศตะวันออกแตะดวงตาที่ยังเปียกชื้น
เดฟสูดลมสะกดหัวใจเอาไว้ เพลงอกหักเหงาๆดังขึ้นในใจอย่างเงียบๆ
จุ๊ยยังคุยโทรศัพท์ต่อไป โดยมองที่หน้าต่างประตูข้าง..
เงาสะท้อนของเดฟเห็นได้ชัดจากตรงนี้ และตั้งแต่เมื่อกี้เขาก็กำหมัดไว้แน่น แน่นจนเล็บจิกลงไปบนเนื้อ...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ