The Water's Pure Heart: ดวงใจของสายน้ำ

-

เขียนโดย Valentinlover

วันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 22.14 น.

  56 ตอน
  0 วิจารณ์
  52.04K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 10.14 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

15) ความในใจของวาทิต

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
        
แต่เดฟที่เดินพ้นไปได้สักระยะแล้วก็หันมาส่งยิ้มให้อย่างเท่ห์ก่อนจะชูมือบอกไอเลิฟยูเป็นภาษามือ
ตั้มมองตามหลังเดฟไป
“กูว่าทั้งโรงเรียนนิ  ถ้าจะมีใครที่ไม่ค่อยหมาไอ้จุ๊ยกัดก็คงเป็นไอ้เดฟนี่หล่ะ คือไม่ได้โดนมันแขวะมันแซว แต่โอนอัดอย่างเดียว... น่วมเป็นกระสอบซ้อมมือ”
“ไหนมึงว่ามึงจะเคลียร์กับมัน” ก้องภพทวงคำพุดของจุ๊ยเอง
จุ๊ยกอดอก
“ก็มันหาเวลาไม่ได้เลยนี่หว่า... มึงก็รู้ว่ามัน...” แล้วจุ๊ยขยี้หัวที่ผมเริ่มจะยาวกว่าเดิมแรงๆจนยุ่งขี้โบ้ชี้เบ้
“โอยย... แม่งก็ดีกับกูเหลือเกิน... บางทีกูก็หวั่นไหวนะเว้ยบอกตามตรง”
อ็อดส่ายหัว
ก่อนจะหันไปเห็นอะไรบางอย่าง
“มีอีกคนที่มึงต้องเคลียร์ โน่นเดินมาโน่นแล้ว”
วาทิตกำลังเดินตามอาจารย์ไปยังหน้าเวที
จุ๊ยสงบท่าทีลง 
กับวาทิตเขารู้สึกอยากทะนุถนอม  เพราะความที่มีเรือนร่างบอกบางและนิสัยน่ารัก
“น้องเขาก็เป็นเหรอวะ” ก้องภพถาม
“เปล่า..”จุ๊ยปฏิเสธ
“มึงรู้ได้ไง” ฮ้อยโผล่มาข้างหลัง  แล้วนั่งลง ฮ้อยออกไปรับน้องม.สี่กับม.ห้าที่มาร่วมงานในฐานะตัวแทนตามคำสั่งอาจารย์
“กูดูออกจุ๊ย น้องเขาชอบมึงแน่นอน... ว่าแต่มึงเถอะเวลามึงสอนน้องเขานี่หน้าแทบจะติดกัน  ไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยเหรอ  แล้วไม่คิดจะร่ำลากันเป็นกิจลักษณะหน่อยเหรอ”
“ก็ลาไปแล้วไง เมื่อสองวันก่อน”
จุ๊ยหมายถึงตอนเข้ามาซ้อมวันอาทิตย์ครั้งสุดท้ายของเขา อ็อดและฮ้อย
ซึ่งทั้งสามสหายและเพื่อนสมาชิกวงโยธวาทิตม.หกถอยออกไปจากชมรมเพื่อทุ่มเทให้กับการเรียนก็มาพร้อมกันและกล่าวอำลา
สามสหายตัดสินใจเลือกอู๊ดเป็นหัวหน้าวงคนต่อไป และมอบหมายตำแหน่งคนดูแลฝึกสอนน้องใหม่ในแต่ละเครื่องดนตรีต่อไปด้วย
 
“พวกกูลากันเรียบร้อยแล้ว”
จุ๊ยหันไปมองหน้าวาทิตอีกครั้ง
 
“พี่จุ๊ยครับ” วาทิตกล่าวหลังจากเก็บแซกโซโฟนตัวใหม่เอี่ยมลงกล่อง
“หือ” จุ๊ยขาน
“วันนี้เราผมเรียนกับพี่จุ๊ยเป็นวันสุดท้ายใช่ไหมครับ” วาทิตกล่าวเสียงค่อยๆเบาลง
“เฮ้ยบ้า  พี่ยังมีชีวิตอยู่ยังไม่ตาย  วาก็เหมือนกัน  วันไหนติดขัดตรงไหน อยากได้คำแนะนำก็ไปหาพี่ก็ได้  พี่ยินดีจะสอน  หรือไม่พี่ก็อาจจะมาบ่อยๆ เผื่อเราหรือน้องคนอื่นอยากจะถาม” จุ๊ยตอบแต่ยังไม่ได้หันไปมองหน้าวาทิตก็เลยไม่รู้ว่าวาทิตทำอะไรตอนนั้น
พอหันไปก็เห็นวาทิตถือซีดีที่มีปกเป็นรูปศิลปินแจ๊สหลายคน
“ผมอยากจะให้พี่ครับ  ขอบคุณที่สอนผมครับ”
จุ๊ยรับซีดีมา
“ขอบใจ  ที่จริงพี่ก็แค่สอนไปตามหน้าที่  พี่จะไปแล้วก็ส่งทอดตัวแทนไว้บ้าง  เอาไว้ช่วยไอ้อู๊ดมัน”
วาทิตนิ่งไปอีกเหมือนมีอะไรจะพูด
“มีอะไรเหรอ  หน้าตาอึดอัดอยากจะพูดอะไรกับพี่รึเปล่า”
แล้ววาทิตก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ
“ผมชอบพี่ครับ”
จุ๊ยรู้สึกเหมือนถูกแรงปะทะจากเสียงนั้น  จริงๆแล้วตอนที่จุ๊ยตัดสินใจเลือกวาทิตจากกลุ่มเด็กม.สี่ ทั้งที่ตัวเล็กบอบบาง  เพราะวาทิตมีวิธีการเปล่งลมที่แปลกกว่าคนอื่น
พอวาทิตพูดออกมาแบบนี้  เขาก็ใช้การหายใจแบบนั้นออกมาโดยไม่รู้ตัว  เสียงจึงก้องไปทั่วบริเวณ
“พี่ ก็ชอบเรานะ เราเป็นเด็กดี” จุ๊ยตอบออกไปเพราะไม่รู้จะตอบอะไรดีกว่านั้นเพื่อทำลายบรรยากาศน่าอึดอัดที่ เกิดจากความเงียบหลังวาทิตบอกออกมาแล้ว
“ไม่ใช่ครับ” วาทิตก้มหน้า  มีเกล็ดน้ำตาอีก
“ผมชอบพี่แบบผู้ชายชอบผู้หญิง  ผมรู้ครับว่าผมไม่ควรชอบพี่ แต่ผมก็ชอบพี่ไปแล้ว  ผมไม่ได้คาดหวังอะไร แค่หวังให้พี่รู้เอาไว้ก็พอ”
จุ๊ยมองหน้าเด็กที่ตัวเองใช้เวลาด้วยมาร่วมปีเต็มๆ
“วา” เขากล่าวออกมาแล้วดึงร่างเล็กๆเข้ามา
“พี่เป็นผุ้ชาย  เราเป็นผู้ชาย  วาจะชอบพี่แบบผุ้ชายชอบผู้หญิง ได้ยังไง  วาจะให้พี่เป็นผู้ชาย วาเป็นผู้หญิงก็ไม่ได้หรือกลับกันก็ไม่ได้  เพราะเราเป็นผู้ชายทั้งคู่”
วาทิตเริ่มสะอื้น
“แต่ผมชอบพี่จริงๆ  เวลาพี่อยุ่ใกล้ๆหัวใจผมมันจะเต้นแรงมาก  เวลาพี่ยิ้มให้ผม ผมจะรู้สึกว่าตัวมันจะลอย ผมรู้สึกจริงๆ”
จุ๊ยเอื้อมมือดึงตัววาทิตเข้ามา  แล้วเขาก็ทำในสิ่งที่ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองทำไปอย่างนั้น  คือจูบลงที่หน้าผากของวาทิต
“วา..โลกนี้มีความรักอยู่แบบหนึ่งที่มันน่าประทับใจและยั่งยืนมาก  คือความรักระหว่างพี่กับน้อง  เราจะเป็นแบบนั้นได้ไหม  วากอดพี่ได้ หอมแก้มพี่ก็ได้  แต่เป็นในแบบพี่กับน้อง  แบบนั้นไม่ดีกว่าเหรอ  เราก็รักกันแบบนั้นดีกว่า  เพราะพี่อยากได้น้องน่ารักๆอย่างวามากกว่าแฟนผู้ชายตัวเล็กๆ”
วาทิตน้ำตาร่วงเหมะ แต่แล้วเขาก็ปาดน้ำตาออก
“ที่จริงผมก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้  แต่ถ้าไม่พูดออกไปผมต้องอกแตกตายแน่ๆ”
จุ๊ยยิ้มแล้วขยี้หัวก่อนจะดึงวาทิตมากอด
“ขอกอดหน่อยสิน้องของพี่”
แล้วเขากับวาทิตก็เดินคู่กันออกจากโรงเรียน ไปกินข้าว แถมไปดูหนัง แล้วเขายังไปส่งวาทิตถึงหน้าบ้านก่อนจะแยกจากกันด้วยรอยยิ้ม
“ผมเรียกพี่ว่าเฮียได้ไหม” วาทิตถามก่อนจะเข้าบ้าน
“ทำไมหล่ะเราคนจีนเหรอ”
วาทิตพยักหน้า
“เอาสิตี๋วา” จุ๊ยจับหัววาทิตอีก
“ครับเฮียจุ๊ย” วาทิตตอบ
 
แล้วเหมือนวาทิตจะรู้ตัว  เขาหันมาเห็นจุ๊ยก็ยิ้มแล้วโบกมือ  เรียกเขาด้วยการขยับริมฝีปากว่าเฮีย
จุ๊ยยิ้มและยกมือตอบ  ก่อนจะส่งสัญญาณว่าให้มานั่งนี่
แต่วาทิตชี้ไปทางอาจารย์แล้วเดินตามไป
“อ้าวนั้นน้องมันด่ามึงทำไมวะ” ไอ้อ๊อดถาม
“มันด่ามึงว่าเหี้ยรึเปล่าวะ”
จุ๊ยหันมอง 
“เปล่ามันเรียกกูว่าเฮีย  แต่ถ้ามึงน่ะ” แล้วเขาก็ขยับไปใกล้ๆหน้าอ๊อด
“ไอ้เหี้ย”
อ๊อดต้องหลับตาเพราะเหี้ยนั้นมาพร้อมน้ำลาย
อ็อดถลันลุกปลุกปล้ำทั้งจับมือจุ๊ยที่พยายามปัดป้อง
“มึงสิเหี้ยๆๆไอ้สัตว์เหี้ยของมึงนี่น้ำลายเต็มหน้ากู เหี้ยๆๆ”
อัศวะส่ายหัวขณะตัวเขาก็โดนสองคนเบียดดันจนโอนไปเอนมา

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา