เงารักในพายุ
เขียนโดย nightshadow
วันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2559 เวลา 15.44 น.
แก้ไขเมื่อ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 02.08 น. โดย เจ้าของนิยาย
18) หญิงใบ้นิสัยแปลกกับบุรุษชั่วช้้า
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเสวี่ยไป๋กำลังฝึกวรยุทธ โดยใช้ดาบกวัดแกว่งไปมาด้วยความแข็งแกร่งดุดันรวดเร็วพริ้วไหว ซึ่งมีทั้งความแข็งแกร่งและพริ้วไหวรวดเร็วประสานกับกระบวนท่าร่ายรำที่สวยงาม ราวกับนกนางแอ่นโผบินด้วยเพลงดาบที่ได้รับการถ่ายทอดจากอาจารย์ด้วยความตั้งใจ เพื่อฝึกปรือฝีมือเพิ่มเติมความแข็งแกร่งด้วยเพราะรับรู้ดีว่า เป้าหมายที่นางต้องต่อสู้ด้วยนั้น คือจอมมารฝ่ายอธรรมของยุทธภพ ซึ่งเป็นคู่ปรับเก่าที่มีฝีมือในระดับเดียวกันกับอาจารย์ของนาง ดังนั้นจึงจะหยุดฝีมืออยู่กับที่ไม่ได้ จากนั้นก็ฝึกซ้อมการใช้วิชาหุ่นแทนตัว ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิชาที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากนางแอ่นเหินลม หย่งคังที่เพิ่งมาหาเสวี่ยไป๋ ได้เห็นก็เฝ้ามองการร่ายรำกวัดแกว่งเพลงดาบที่มีทั้งความแข็งแกร่ง และท่วงท่าที่งดงามพริ้วไหวด้วยประกายตาชื่นชม เขาเคยได้ยินชื่อเสียงของจอมยุทธหญิง ฉายานางแอ่นเหินลมมาจากอาจารย์ผู้ฝึกสอน ตอนที่เขายังเด็กอายุสิบสอง เคยไปเล่าเรียนวรยุทธนอกวังอยู่หลายปีจนโตเป็นหนุ่ม และก็ได้ยินเรื่องของนางแอ่นเหินลมมาจากอาจารย์ของเขา ว่าเป็นเพลงดาบแข็งแกร่งพริ้วไหวงดงาม และเมื่อเป็นเสวี่ยไป๋มาใช้วิชานี้ ก็ทำให้งดงามราวกับนางฟ้าที่กำลังร่ายรำ จนไม่อาจละสายตาได้ เมื่อเพลงดาบจบลงเสวี่ยไป๋ลดดาบลง ข้างลำตัว หย่งคังจึงออกไปหา "เพลงดาบของเจ้างดงามเสียจนข้าละสายตาไปไม่ได้เลย" เสวี่ยไป๋มองไปยังชายหนุ่มด้วยใบหน้าเย็นชาไร้รอยยิ้ม แต่เพียงชั่วครู่ก็ขมวดคิ้วเอ่ยขึ้นในใจ 'มีคนสะกดรอยตามท่านมา ...ท่านน่าจะรู้ตัวดีอยู่แล้ว คิดจะเล่นอะไรอีก' หย่งคังเดินเข้ามาสวมกอด เข้าทางด้านหลังของเสวี่ยไป๋แขนโอบรัดร่างบาง เอาคางเกยบริเวณไหล่ของนางเอ่ยด้วยน้ำเสียงค่อยเปื้อนรอยยิ้ม "คนของเหม่ยลี่ส่งมาน่ะ อยากรู้อะไรข้าก็จะให้นางรู้ ความจริงข้าอยากจะให้นางมาเห็นด้วยตาของนางเองด้วยซ้ำ" กล่าวจบก็ก้มหน้าประทับจมูกไปที่แก้มนวล สูดหอมกลิ่นอันเย้ายวนอย่างชื่นใจ
เสวี่ยไป๋รับฟังคำบอกกล่าวของหย่งคังด้วยความเอือมระอากับนิสัยของอีกฝ่าย พลางนึกตำหนิอย่างเรียบเรื่อยเฉยชา 'หึ ชายโฉดหัวใจของท่านทำด้วยอะไร นางคือหญิงสาวที่มอบรักให้กับท่านด้วยใจจริงนะ ต่อให้ไม่รักก็ไม่ควรทำร้ายจิตใจนาง หัวใจของสตรีที่รักท่าน ไม่ใช่สิ่งที่ท่านจะอาศัยความได้เปรียบเอามาเป็นของเล่นสนุกให้กับตัวเอง ในฐานะที่เป็นหญิงด้วยกันข้าชังพฤติกรรมของท่าน' "นางรักข้าก็เรื่องของนางสิข้าไม่ได้รักนางนี่นา นางเป็นคู่หมายที่เสด็จพ่อเสด็จแม่หมั้นหมายทางการเมือง นางอาจได้ชื่อว่าเป็นหญิงงามแต่ก็งามแค่ภายนอกเท่านั้น จิตใจของนางโหดเหี้ยมเจ้าคิดเจ้าแค้นผิดกับท่าทีที่เสแสร้งทำเป็นอ่อนหวานจิตใจดีเป็นแม่พระที่แสดงออก ให้ผู้คนได้เห็น" 'คนเราอุปนิสัยจะเป็นอย่างไรอยู่ที่การอบรมเลี้ยงดูและสภาพแวดล้อม แต่สิ่งที่ข้าเห็นคือความรักที่นางมีให้ท่านเป็นของจริง ถ้าเทียบกับข้าแล้ว ข้าก็แค่หญิงที่จำต้องเอาตัวเข้าแลกเพื่อใช้ประโยชน์จากท่าน ส่วนนางคือหญิงที่รักท่านจากใจจริง ข้าไม่นับเป็นอะไรกับท่านมากไปกว่าเรื่องของผลประโยชน์ต่างตอบแทน แต่นางต่อให้ท่านจะปฏิเสธอย่างไร นางก็คือคนที่ท่านจะต้องแต่งงานและใช้ชีวิตกับนางไปทั้งชีวิต ต่อให้ไม่รักอย่างไรก็ไม่ควรรังแกนางจนเกินไป ท่านเองก็ไม่ได้เป็นคนดีเลิศมาจากไหนก่อนที่ท่านจะนึกตำหนิข้อเสียของนาง ท่านควรมองตัวเองก่อน เพราะท่านก็คือชายที่ชั่วช้าเห็นแก่ตัว โหดเหี้ยมไร้หัวใจและทำทุกอย่างตามใจตัวเอง มันก็ยิ่งไม่เลวร้ายกว่านางอีกหรือ'
"หึๆ...เจ้าเนี่ยช่างแปลกจริงๆเลยนะ หญิงอื่นมีแต่จะอยากยึดข้าเป็นของตัวเองด้วยกันทั้งนั้น แต่เจ้าทั้งที่ข้ารักหลงใหลเจ้า แต่กลับเป็นนายหน้า่ช่วยพูดให้ข้าไปมีใจให้หญิงอื่นเสียนี่ ข้าน้อยใจนะ"
'ข้าก็พูดไปตามเหตุผล แล้วข้าก็ไม่เคยคิดจะเป็นเจ้าของท่านด้วย ถ้าให้บอก ตามตรง หากไม่จำเป็นที่ต้องพึ่งท่านเรื่องอาจารย์ เพราะข้าไม่เคยมีประสบการณ์หรือรู้เรื่องราวในยุทธภพมาก่อน ข้าคงไม่ข้องเกี่ยวกับท่านแน่ เพราะท่านเป็นบุรุษ ประเภทที่ข้าเกลียดชังที่สุดและมีคู่หมายอยู่แล้ว ข้าก็แค่หญิงใบ้ที่ไร้หัวใจที่ไม่เคยคิดจะมอบรักให้กับบุรุษคนใด และยังอาศัย ประโยชน์จากท่านอีก เหตุใดท่านจึงดื้อดึงนัก'
หย่งคังอุ้มร่างของเสวี่ยไป๋พร้อมกระซิบคำข้างหู "เจ้าก็เพิ่งบอกเองไม่ใช่หรือ ว่าข้าคือบุรุษที่ชั่วช้าเห็นแก่ตัวโหดเหี้ยมน่ะ ข้าเป็นอย่างที่เจ้าว่าจริงๆนั่นแหละ ข้าจะรักหรือไม่รักใครมันอยู่ที่ใจข้า คนที่ไม่รักข้าก็ไม่จำเป็นต้องสนใจใยดี และข้าจะไร้หัวใจสำหรับคนอื่น แต่ข้ามีหัวใจสำหรับเจ้าไม่ว่าเจ้าจะต้องการมันหรือไม่ สำหรับข้าเจ้าคือนางฟ้าใบ้เทพธิดาหิมะที่ข้ารัก และในเมื่อชะตาได้ลิขิตให้ข้าได้พบและเชยชมเจ้า ข้าก็มีสิทธิ์ที่จะรักเจ้า และข้าก็ไม่ยอมให้เจ้าสลัดข้าทิ้งแน่" หย่งคังอุ้มเสวี่ยไป๋หายเข้าไปในบ้านโดยมีสายตาของผู้สะกดรอยตามเฝ้ามองภาพที่เห็น เพื่อนำกลับไปรายงานให้นายหญิงของตนทราบ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ