เงารักในพายุ

เสวี่ยไป๋นั่งผสมสมุนไพรนานาชนิด  ทั้งยาที่มีสรรพคุณเกี่ยวกับการรักษาและที่เป็นยาพิษ อยู่ในบ้านหลังใหญ่โอ่อาในตัวเมือง  นางอยู่บนเขาร่วมกับอาจารย์หญิงมานานสิบปีทำให้นางได้เรียนรู้ วิชาเกี่ยวกับสมุนไพรชนิดต่างๆมาจากอาจารย์จนสามารถหาสมุนไพรมาผสมบรรจุลงในขวด เพื่อเลือกมาใช้ประโยชน์ เพราะคราวนี้นางอาจจะต้องนำความรู้ ในส่วนนี้ที่เคยได้รับการถ่ายทอดเอามาใช้มากขึ้นกว่าเดิม ในขณะนี้นางได้ย้ายที่พักจากบนเขาเมฆาที่อยู่ในป่าลึกมาอยู่ในตัวเมือง เพื่อให้ง่ายต่อการสืบข่าวและเคลื่อนไหวงานใหญ่ โดยนางให้หย่งคังเป็นผู้จัดการหาที่พักให้กับนาง  ในตอนแรกหย่งคังอยากให้นางไปอยู่ในวังกับเขามากกว่า แต่นางปฏิเสธเพราะไม่อยากเข้าไปอยู่ในวังที่มีแต่กฏระเบียบนางอาศัยอยู่กับอาจารย์ในป่าเขา จึงไม่ถนัดที่จะต้องเข้าไปอยู่ในกฏระเบียบของสาวชาววัง  และนางไม่ได้อยากเอาตัวเข้าไปพัวพันกับการเมืองในราชสำนักโดยตรง  และการที่นางมีความจำเป็นต้องเอาตัวเข้ามาเกี่ยวข้องกับ เจ้าชายสูงศักดิ์ที่นางแสนจะชิงชังด้วยเรื่องของอาจารย์   และนางก็รู้ดีว่าเขามีคู่หมายอยู่ก่อนแล้ว      และด้วยสายตาของหญิงด้วยกันก็ดูออก         ว่าเจ้าหญิงเหม่ยลี่ที่มีสถานะเป็นคู่หมายและไม่ช้าก็เร็วคงได้แต่งงานกัน      นั้นแสดงความเป็นเจ้าของและหวงแหนหย่งคังมาก   การเข้าไปอยู่ในวังของนางจึงเท่ากับเข้าไปเป็นเป้านิ่งให้อีกฝ่าย    ที่ถนัดในเรื่องการเล่นละครตบตาเป็นหญิงสาวสูงศักดิ์แสนดี  นางไม่ได้กลัวเกรงกับเหม่ยลี่แต่อย่างใด    แต่เพราะนางไม่อยากเข้าไปสร้างปัญหาที่ไม่จำเป็นเพิ่ม 

และแม้ว่าจะอยู่นอกวัง   แต่ความลับไม่มีในโลก              สักวันเหม่ยลี่ก็ต้องรู้ความสัมพันธ์ของนางกับหย่งคัง                ซึ่งนางก็เตรียมพร้อมรับมือไว้แล้ว  ความรู้สึกที่นางมีให้หย่งคังยังคงเต็มไปด้วยความชิงชัง    แต่ก็รับรู้ได้ว่าเขานั้นหลงใหลนางมากแค่ไหน          นางไม่ได้รู้สึกหวั่นไหวกับการเอาอกเอาใจและขยันเอ่ยคำรักให้นางได้ยินของหย่งคังเลยแม้แต่น้อย              ตั้งแต่เล็กจนโตประสบการณ์ที่ตัวนางเองได้รับ        รวมถึงเรื่องราวร้ายๆที่อาจารย์ได้พบเจอในวัยสาวเกี่ยวกับความรักชายหญิงนั้น     ทำให้นางไม่เคยศัทธราในความรักของชายหญิงโดยเฉพาะไม่คิดเอาใจ               ไปให้ความสำคัญกับบุรุษที่เห็นแก่ตัว     สามารถทำลายหญิงที่มอบรักให้กับตนเองได้อย่างเลือดเย็น เพื่อหญิงอีกคนโดยไม่เห็นค่าความรักที่หญิงสาวมอบให้                         และหย่งคังก็เป็นชายที่เต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัว      เอาแต่ใจและสนใจแต่ความรู้สึกของตัวเองเท่านั้น          ซึ่งคือบุรุษประเภทที่นางสุดแสนเกลียดชัง ดังนั้นร้อยพันคำรักที่เอ่ยกับนาง         และการดูแลเอาใจใส่ที่เขามีต่อนางจึงไม่มีค่าอะไรสำหรับนางเลย          แต่นางก็ยังคงต้องใช้ประโยชน์จากเขาอยู่ ดังนั้นนางจึงตัดสินใจใช้ประโยชน์จากความลุ่มหลงที่เขามีให้มาเป็นประโยชน์กับนางในเรื่องของอาจารย์    นางไม่สนหัวใจและความรักของเขา แต่ตราบใดที่เขาเป็นที่พึ่งเพียงหนึ่งเดียวของนาง         นางก็จะเก็บเขาไว้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่           แต่นางไม่ได้หลอกลวงเขาหรอกนะ  นางเปิดเผยความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมาว่านางรู้สึกและเห็นค่าเขาเป็นอะไร  และในเมื่อเขาสมัครใจที่จะยอมให้นางใช้ประโยชน์        เพื่อแลกกับการได้ใกล้ชิดและร่วมสวาทกับนาง       นางก็ตกลงใจรับความต้องการของเขาเพื่อแลกกับการช่วยเหลือที่เขาจะต้องร่วมมือกับนางในเรื่องอาจารย์            

เสวี่ยไป๋เก็บขวดสมุนไพรนานาชนิดเข้าไว้ในตู้ที่มีหลายชั้น       และมานั่งดื่มสมุนไพรที่มีผลในการคุมกำเนิด        นางไม่ต้องการจะให้มีเรื่องผิดพลาดใดขึ้นมา  ตัวนางในตอนนี้ยังต้องคิดและอาจต้องพัวพันกับการต่อสู้         และที่สำคัญนางไม่อยากให้หย่งคังเป็นบิดาของลูกนาง       ชายผู้นั้นคือชายที่นางเกลียดชังที่มอบกายเพื่อผลประโยชน์เท่านั้น  นางไม่มีทางยอมรับชายชั่วช้าเห็นแก่ตัว   อย่างเขามาเป็นบิดาของลูกของนางเป็นอันขาด       ต่อให้เขาจะทำดีและเอาอกเอาใจนางสักเพียงใด           มันก็ไม่เคยมีความสำคัญต่อนาง  บุรุษผู้นี้ไม่มีค่าสำหรับหัวใจของนาง           เป็นแค่บุรุษที่นางจะใช้ประโยชน์จากเขาเท่านั้น          เคยได้ยินว่าสตรีหากว่าได้ตกเป็นของบุรุษใด  แล้วก็มักหวั่นไหวและมีใจมอบให้กับบุรุษผู้นั้น     แต่ความรู้สึกนั้นไม่ได้เกิดขึ้นกับนาง และในทุกครั้งที่ได้ร่วมสัมพันธ์สวาทกับเขา             นางปรารถนาเพียงอยาก มอบความเจ็บปวดทุกข์ทรมานให้กับเขาเท่านั้น                มีเพียงความใคร่อันป่าเถื่อนเท่านั้นที่นางจะสนองให้กับเขา                     ในเมื่อเขาชื่นชอบมันนัก นางก็จะสนองให้เขาอย่างสมใจ      นางไม่เคยต้องการความรักจากชายผู้นั้น แต่ก็ต้องเตรียมใจไว้รับมือกับหญิงอื่นที่มีใจให้กับเขาเอาไว้         เพราะแม้ว่านางจะนึกเห็นใจและสงสารหญิงสาวที่มอบใจให้กับชายที่ไม่คู่ควร         แต่ก็ไม่ได้หมายความว่านางจะต้องยอมให้ตัวเองเป็นผู้ถูกกระทำโดยไม่ปกป้องตัวเอง