The School โรงเรียนที่ถูกปิดตาย!!!

-

เขียนโดย LadyDark

วันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2559 เวลา 16.08 น.

  9
  1 วิจารณ์
  11.69K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 18 มกราคม พ.ศ. 2559 16.38 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) Day 1 วันอันสงบสุข [จุดเริ่มต้น] 100%

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

วันที่ 1 : วันอันสงบสุข [จุดเริ่มต้น]

[1 วันก่อนเกิดเหตุ]

               

                จิ้บๆ! จิ้บๆ!

                เสียงนาฬิกาปลุกตามธรรมชาติที่หาได้ยากในตัวเมืองแบบนี้ บ่งบอกว่าวันนี้อากาศดีแค่ไหน  อ๊าาา ~ ขี้เกียจตื่นไปโรงเรียนจริงๆ เลยยยย

                เช้าๆ แบบนี้ทีไร ฉันยังอยากจะนอนต่อแท้ๆ แต่พวกนกน้อยแสนน่ารักนี้สิ ชอบร้องจิ้บๆ ปลุกให้ตื่นยังไม่พอ ยังแถมท้ายการจิกกับกระจกหน้าต่างห้องฉันอีก  -_- เช้านี้เป็นเช้าวันอังคารที่แสนขี้เกียจแท้! จะว่ายังไงดีละ...ทั้งๆ ที่โรงเรียนอื่นเค้าปิดกันหมด แต่โรงเรียนฉันดันเปิดเรียนซะนี้  ไม่รู้ว่าจะทำสวนกระแสไปเพื่ออะไรกัน -^-

                “ตื่นได้แล้วเด็กๆ เจ็ดโมงแล้ววว!!~  ไม่ไปโรงเรียนกันใช่มั้ย!!” เอาอีกแล้ว มุขนี้ทั้งปีอ่ะแม่ฉัน  มาปลุกทีไรเป็นต้องบอกว่าเจ็ดโมงแล้วตลอด เชื่อสิว่าเวลามันไม่ถึงเจ็ดโมงแน่ๆ (แต่ว่าบางทีมันก็เลยเจ็ดโมงจริงๆ อ่ะนะ) ฉันลุกออกจากเตียงอย่างเซ็งๆ เพื่อจะตรงไปจัดการธุระส่วนตัวที่ห้องน้ำพลางเหลือบมองนาฬิกาบนหน้าจอมือถือตัวเองไปด้วย

                06 : 30 A.M.

                หกโมงครึ่งอยู่เลย =_=

                “ให้มันได้งี้สิ เฮ้อออ” ฉันบ่นกับตัวเองก่อนจะถอดหายใจเบาๆ ก่อนจะรีบจัดการธุระส่วนตัวให้เสร็จโดยเร็วก่อนที่จะไปโรงเรียนสายวันแรก

 

ณ โรงเรียนเซนต์โจชัว (Saint Joshua School)

 

     วันนี้เป็นวันเปิดภาคเรียนที่สองของโรงเรียนชื่อดังของเมือง ระหว่างทางที่เดินไปยังห้องพักครูนั้น นักเรียนของที่นี้ต่างมองฉันพร้อมกับหันไปกระซิบคุยกัน แต่ก็ยังไม่วายหันกลับมามองฉันอีกอยู่ดี

     “ดูสิ นักเรียนใหม่แหละ” เสียงกระซิบกระซาบจากนักเรียนหญิงสองคนตรงทางเดิน ลอยเข้าหูฉันพอดี ท่าทีสนใจของนักเรียนที่นี่ทำเอาฉันแอบตื่นเต้นแล้วสิ

[ห้องพักครู]

     ฉันหยุดเดินตรงหน้าห้องที่มีป้ายแขวนบอกไว้ว่า “ห้องพักครู”

      ก๊อกๆ

      ฉันเคาะประตูก่อนจะเปิดเข้าไป สิ่งแรกที่ฉันเห็นคือผู้หญิงแก่ๆ คนนึ่งที่ดูท่าทางแล้วคงจะเนี้ยบมาก กำลังก้มอ่านกระดาษอะไรสักกอย่างอยู่

     “เอ่อ...หนูเป็น...” ฉันพูดอ้ำอึ้งด้วยความประหม่ายังไม่ทันจบประโยค ดวงตาใต้แว่นหนาก็ตวัดมามองพร้อมกับพูดตัดบทฉันทันที

     “เธอคือมิสเซรีน นักเรียนใหม่ถูกมั้ย”

     “ค่ะ” ฉันตอบพลางพยักหน้ารับเบาๆ

     “ฉันชื่อแมรี่ ตั้งแต่วันนี้ เป็นครูประจำชั้นของเธอ เอาละ ตามฉันมา เราจะไปห้องเรียนของเธอกัน” มิสแมรี่แนะนำตัวอย่างรวดเร็วก่อนจะ ก้าวเดินออกไปหลังพูดจบประโยค โดยไม่สนใจฉันที่กำลังทำหน้าตาเอ๋อๆ อยู่

[11-C]

     มิสแมรี่เดินนำฉันมา ออกจะหยุดลงหน้าประตูห้อง ฟังจากเสียงที่ดังออกมานอกห้องแล้ว ฉันก็เดาได้เลยว่าห้องนี้ต้องมีพวกช่างเม้าส์อยู่เยอะแน่ๆ  นี่ขนาดมิสแกยังไม่ได้เปิดประตูนะ ถ้าเปิดเสียงจะดังขนาดไหนเนี่ย

     แอ๊ด...

     ความฝืดของประตูตอนมิสแมรี่เปิด สร้างเสียงลากยาวออกมา ผิดคาด...ทั้งๆ ที่ก่อนเปิดประตูห้องเสียงคนคุยกันออกดังแท้ๆ  แต่พอมิสแมรี่เปิดประตูเข้าไปเท่านั้นแหละ คนทั้งห้องก็พร้อมใจกันเงียบเลย ไม่ใช่แค่เงียบธรรมดานะ เงียบแบบเงียบมากๆ เงียบจนทั้งห้องได้ยินเสียงรองเท้าของมิสแมรี่ตอนเดินเข้าไปในห้องเลยอ่ะ

     ตึก...ตึก...ตึก

     “มีนักเรียนเข้ามาใหม่ เอ้า เข้ามาแนะนำตัวตรงนี้” มิสแมรี่เดินไปหยุดพูดอยู่กลางห้อง  โดยที่ประโยคหลังหล่อนหันมาเรียกให้ฉันเข้าไปแนะนำตัว

     “HI! ทุกคน!! ^^ ฉันชื่อเซรีน พึ่งย้ายจากเมืองเบสฟลู ยินดีที่ได้รู้จักนะ”

     “...”

     “ที่นั่งของเธอแถวที่สามติดหน้าต่างนะ” มิสแมรี่พูดขึ้นมาหลังจากฉันแนะนำตัวเสร็จแล้ว คนในห้องก็ยังเงียบเหมือนเคย ฉันเริ่มสงสัยแล้วสิ ว่าที่เงียบกันเนี่ย เงียบเพราะอะไรกัน

     “โฮมรูมวันนี้ฉันไม่ว่าง เพราะงันอยู่กันในห้องเงียบๆ ด้วย” พูดเสร็จมิสแมรี่ก็เดินออกจากห้องไป แล้วทั้งห้องก็กลับสู้สภาวะเดิมคือ...

     “นี่เจสซี่ เธอถอยชุดใหม่มาหรอ สวยนะย๊ะ!!

     “เฮ้ อเล็กซ์ เมื่อคืนแกได้ดูบอลมั้ยวะ”

     “ดอล์ตันเอาหนังสือฉันคืนมานะ!!

     “ฯลฯ”

     คนในห้องจับกลุ่มคุยกันทันทีที่เห็นมิสแมรี่จากห้องออกไปแล้ว เสียงพูดคุยเสียงดังกระหึ่ม และเหมือนจะดังกว่าเดิมมากๆ ด้วยสิ 

     ฉันเดินมายังที่นั่งของตัวเองตามที่มิสแม่รี่บอก ดีจังแหะ ได้ที่นั่งติดหน้าต่าง มีวิวสวยๆ ดูแก้เบื่อตอนเรียนแล้วสิฉัน ที่นั่งที่นี้จัดเป็นโต๊ะคู่

     “เอ่อ...หวัดดีจ้ะ” เสียงทักทายแรกดังขึ้น หลังจากฉันนั่งลงเพียงไม่กี่นาที

     “HI หวัดดี ^^” ฉันหันกลับไปเพื่อตอบรับไมตรีที่ถูกหยิบยื่นให้ เจ้าของเสียงทักทำเอาฉันตะลึ่งไปเลย คนอะไรสวยอย่างกะว่าเป็นนางฟ้าตกสวรรค์อย่างนั่นแหละ ดวงหน้าหน้าห้อมลอบด้วยผมสวยยาวเป็นลอน จมูกโด่งเป็นสันรับกันดีกับคิ้วโก่งได้รูปสวย ตาคมดูระยิบระยับ ริมฝีปากอวบอิ่มสีพีช ผิวสีแทนสุขภาพดีทำให้คนตรงหน้าฉันดูฮอตไม่เบา ดูเหมือนว่าเธอคนนี้จะเป็นเจ้าของโต๊ะข้างๆ ที่ตอนแรกฉันนึกว่าไม่มีคนนั่งอีกด้วย เพราะเจ้าหล่อนนั่งลงโต๊ะข้างฉันทันที หลังจากที่ฉันทักกลับไป

     “ฉันชื่อคาเรน ยินดีที่ได้รู้จักนะเซรีน^_^” คาเรนแนะนำตัวให้ฉันรู้จัก พร้อมกับยื่นมือมาให้จับ ฉันยิ้มรับและยื่นมือไปจับมือคาเรนไว้แล้วตอบกลับอย่างดีใจ

      “ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันนะคาเรน แล้วก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ ><

 

[เลิกเรียน]

               

                เลิกเรียนสักที =3= ดูเหมือนว่าที่โรงเรียนนี้การเรียนการสอนเค้าจะช้ากว่าที่โรงเรียนเก่าฉันอยู่มาก เพราะเนื้อหาที่เรียนกันไปและเตรียมจะขึ้นเรียนนั้น ฉันล้วนแล้วแต่เรียนจบคลอสไปแล้วทั้งนั้น  (หรือว่าที่โรงเรียนฉันสอนเร็วเกินไปกันแน่นะ) เอาเถอะ! จะยังไงก็ช่าง วันนี้ฉันมีนัดกับคาเรนไปเที่ยวรอบเมืองด้วยสิ เหมือนมันจะเป็นวัฒนธรรมของที่นี่ละมั้ง ที่ต้องพาเพื่อนใหม่เที่ยวรอบเมือง

     “เซรีน เดียวเราเดินไปห้องบี กันหน่อยนะ จะไปชวนเพื่อนฉันอีกคนนะ” ทันทีที่เก็บของกันเสร็จคาเรนก็ทักขึ้นก่อนจะลากแขนฉันเดินออกไปที่หน้าห้องบีทันที ฉันว่าโรงเรียนนี้ไม่วุ่นวายดีนะ เพื่อนในห้องเป็นกันเองมากๆ เลย ทุกคนทำราวกลับว่าฉันไม่ใช่คนที่พึ่งย้ายมาใหม่ แต่เป็นคนที่อยู่ที่นี่มานานแสนนานพร้อมกับพวกเขา ทุกคนก็แอบตื่นเต้นกับเรื่องที่ฉันเล่าในเมืองเบสฟลูที่ฉันย้ายมาถึงประเพณีวิ่งจับกบของโรงเรียนอ่ะนะ ฮ่าๆ

     “โย่ววรอนานกันมั้ยเอ่ย?? ” หลังจากยืนรอหน้าห้องบี ได้สักพัก ก็มีร่างสูงเพรียวกระโดดเข้ามาทักอย่างสดใส เธอคนนี้ก็เป็นสาวสวยหุ่นดีคล้ายกับคาเรน แต่ให้ความรู้สึกเป็นสาวเซ็กซี่แทนสาวหวานแบบคาเรน

     “สักพักนะ นี่เซรีน นักเรียนใหม่ที่พึ่งย้ายมาห้องฉัน” คาเรนเริ่มแนะนำฉันให้กับเพื่อนสุดสวยของเธอรู้จัก

      “ว้าวว~ สวยจังเลย >< หวัดดีฉันชื่อชาลอต ยินดีที่ได้รู้จักน๊าาา ^^” ฉันแอบเขินเบาๆ ตอนชาลอตเอ่ยชมฉัน ฉันยื่นมือไปจับกับมือของชาลอตแล้วตอบกลับเสียงใสเหมือนกันว่า

      “จ้าาา ยินดีที่ได้รู้กันเหมือนกันนะ ^^

      “เอาละสาวๆ ฉันว่ารีบไปกันเลยดีมั้ย เดียวจะกลับดึกกันเปล่าๆ” เมื่อเห็นว่าฉันและชาลอตรู้จักกันเรียบร้อยแล้ว คาเรนก็ออกความเห็นให้รีบไปก่อนที่จะเสียเวลาไปกว่านี้ 

      “OKAY!  LET’S GO!! ^o^

 

[20 : 48 P.M.]

       ตอนนี้ฉันกลับมาถึงบ้านแล้วเรียบร้อย ฉันก็ได้ของกลับมาบ้านตั้งหลายอย่าง ทั้งเสื้อผ้าและเครื่องประดับ อ้อ! แถมหนังสือกลับมาอ่านเล่นอีกสี่ห้าเล่ม  วันนี้ทั้งกิน เล่น ช้อปกันกระหน่ำเลย  ฉันพึ่งจะรู้เมื่อตอนเย็นนี่เองว่าชาลอตเป็นลูกสาวของศัลยแพทย์ชื่อดัง ส่วนคาเรนเองก็เป็นลูกสาวของดีไซน์เนอร์สาวดาวรุ่งที่ตอนนี้กำลังดังมากๆ เลยด้วย แอบตกใจนะเนี่ย

       พรุ่งนี้เป็นวันสถาปนาโรงเรียน นักข่าวทั่วเมืองจะพากันมาถ่ายทอดสดพิธีสถาปนา ซึ่งฉันต้องไปแต่เช้า (ฉันต้องไปตอนหกโมงสี่สิบห้าอ่ะ!) ถ้าไม่รีบนอนตอนนี้มีหวังหน้าโทรมเป็นศพแน่ๆ ยิ่งมีเพื่อนสาวแสนสวยอย่างคาเรนและชาลอตด้วย ฉันไม่อยากดับยามเมื่อเดินข้างสองคนนี้นะ ห้าววว ไปนอนดีกว่า

 

[ขณะนั้นเอง...]

    “เฮ้ย! มันวิ่งไปทางนั้นแล้ว! เร็ว!! วิ่งไปดักมันไว้!” เสียงโหวกเหวกโวยวายดังขึ้นท่ามกลางตอกเล็กๆ แคบๆ แห่งหนึ่ง พร้อมกับกลุ่มคนที่วิ่งไล่ตามหลังของชายหนุ่มคนนึ่ง ซึ่งดูจากเส้นทางแล้วเขากำลังวิ่งตรงไปที่ตึกวิจัยของเมืองนี้

     “ มันวิ่งเข้าไปในตึกนั้นแล้ว! ตามมันไปเร็ว!!” ชายหนุ่มอีกคนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวโจกของกลุ่มตะโกนเสียงดังขึ้น เมื่อเห็นว่าเป้าหมายของตัวเองวิ่งหายเข้าไปในตึกแล้ว

     “บ้าเอ๊ย! มันวิ่งเร็วชิบหายเลย”

     “หาๆ ไปเหอะน่า ยังไงมันก็อยู่ในนี้แหละ เฮ้ย! ได้ยินมั้ยไอ้ลูกหมา แกไม่รอดแน่” เสียงสถบดังๆ ภายในกลุ่มนั้นสร้างความหวาดกลัวแก่ผู้ที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างดี เมื่อรู้ตัวว่าตัวเองคิดผิดมากที่วิ่งเข้ามาหลบในตึกวิจัยแห่งนี้

     “ฉันจะทำยังไงดี...จะทำยังไงดี...” ใครจะไปคิดละว่าเวลานี้ยามจะไม่อยู่กัน เขาได้แต่เฝ้าครุ่นคิดกับตัวเองไปมา เมื่อพบว่าทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดไว้เลยสักนิด  ตึกวิจัยแห่งนี้เป็นตึกที่พ่อแม่ของเขาทำงานอยู่ และในตอนแรกที่เขาถูกไล่ต้อนมา เขาคิดว่าที่แห่งนี้ ที่ที่เขาหนีมานั้นจะปลอดภัยจากพวกนั้น... 

      แก๊ก!

      เสียงของไม้เบสบอลเหล็กลากพื้นนั้นทำให้เขารู้สึกเย็นสันหลังทันที ไม่ใช่ ขอให้ไม่ใช่อย่างที่คิดเถอะ...เขาได้แต่ภาวนาในใจขอให้สิ่งที่ได้ยินนั้นไม่ใช่อย่างที่เขาคิด ความหนาวเย็นเริ่มกัดกินหัวใจที่เริ่มอ่อนล้าเมื่อต้องพบกับความจริงที่ว่า...

      “ไงไอ้ลูกหมา เล่นซ้อนแอบสนุกมั้ย!?

สิ่งที่เขาคิดมาทั้งหมดนั้น ล้วนแล้วแต่คิดผิดทั้งนั้น!!

 

<<พิมพ์ผิดตรงไหนก็ขอโทษด้วยนะค่ะ แล้วก็ขอขอบคุณรีดทุกท่านที่สละเวลาเข้ามาอ่านนะฮ้าบบบบบ>>

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา