Soul and Head เเด่สมองสู่วิญญาณ (Y)
3) one question
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
One Question
รถไฟความเร็วสูงขับเคลื่อนไปอย่างเงียบเชียบ ไม่มีเสียงเครื่องยนตร์มาให้กวนใจ ตามสวัสดิการของรัฐเพื่อประชาชน ถึงอย่างนั้นผู้โดยสารทุกคนในขบวน407ก็ไม่ชื่นชอบสิ่งที่รัฐเสนอให้มากนัก พวกเขาหวังแค่ว่าจะเดินทางไปถึงเร็วที่สุดก็พอช่างน่าเสียดายที่รัฐไม่สามารถเสนอสิ่งข้อนี้ให้แก่ประชาชนได้เลย….
เดรวานคือหนึ่งในผู้โดยสาร เขาคาดคะเนเวลาจากสถานีไปจนถึงเมืองตอนใต้ราวๆสามชั่วโมง แต่ทุกอย่างผิดคาด ตอนนี้พวกเขานั่งรถไฟมาห้าชั่วโมงแล้ว คลาดเคลื่อนจากการเดาสูงมาก มันทำให้เลนส์หงุดหงิดก่อนออกไปทำธุระ ปล่อยให้เขานั่งจมจ่อในห้องผู้โดยสารหมายเลข12คนเดียว เดรวานได้ยินเสียงเด็กร้องมาจากห้องผู้โดยสารตรงข้าม เขาไม่พูดอะไรแค่ทำเสียงฮึดฮัดในคอเฉยๆ ให้ตาย…นี่ไงคือสาเหตุที่เขาหัวตัน
จากสิ่งที่เขาคิดเอาไว้เรื่องผู้เบื้องหลัง เดรวานคาดว่าคำตอบเขาต้องถูกต้อง แต่สิ่งที่ยากคือเหตุผลของความช่วยเหลือ ทำไหมต้องช่วยคนอย่างเขาด้วยล่ะ? มันต้องมีอะไรมากกว่านั้น
เสียงร้องของเด็กทำให้เส้นสติเดรวานขาดผึงเขาลุกออกจากห้องโดยสารมุ่งออกไปอีกโบกี้หนึ่ง
ถ้ายังมีเสียงรบกวนล่ะก็เขาคิดอะไรไม่ออกแน่….ให้ตายสิ
ถ้าเขามีความทรงจำอะไรๆก็ง่ายขึ้น…จะว่าไปเลนส์ก็หายไปตั้งสามสิบนาทีแล้ว และดูเหมือนพ่อหนุ่มตาฟ้าจะลืมไปว่าต้องคืนความจำให้เขา เดรวานถอนหายใจ..ยังไงซะ กึ่งคนก็ไม่สามารถเลี่ยงได้หรอก เขาจะต้องรู้ให้ได้แม้ต้องตอบคำถามอีกกี่ข้อก็ตาม
ชายหนุ่มผมดำเดินผ่านห้องผู้โดยสารที่ขนาบสองข้างทางในโบกี้ที่หนึ่ง(เลนส์กับเขาอยู่โบกี้ที่สอง) มีเสียงพูดคุยดังมาจากห้องโดยสาร เขาจับใจความได้บางส่วนว่าผู้โดยสารไม่พอใจกับการเดินทางล่าช้าถึงแม้ทางรัฐจะไม่เก็บตังค์ค่าอาหารเพิ่ม แต่มันก็ยังคงไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น มีบางห้องคุยเรื่องเมื่อกลับถึงบ้าน ส่วนบางห้องก็หลับถึงแม้จะยังไม่ปิดไฟ
เดรวานขมวดคิ้วเล็กน้อย บางทีเขาก็คงต้องเพิ่มการล่าช้าของรถไฟไปในการแก้ปัญหาอีกข้อหนึ่งแล้วกัน
ไม่นานสองขาก็พานักวิทยาศาสตร์มาถึงล็อบบี้ ณ โบกี้แรกของรถไฟ มีผู้โดยสารวัยฉกรรณ์สองสามคน กับวัยชราอีกห้าคน มีบาร์เหล้าอยู่มุมซ้ายบาร์เทนเดอร์แบบเครื่องจักรกำลังประจำที่อยู่ มีจอทีวีขนาดใหญ่อยู่ติดพนัง มีชุดโซฟาและชั้นหนังสืออยู่มุมขวา และมีโต๊ะหมากกรุกอยู่ตรงกลาง อ่า…นั้นไม่ใช่แค่โต๊ะหมากรุกหรอก บางครั้งมันอาจจะเป็นโต๊ะพนันในเสี้ยววินาทีก็ได้ เขาเรียกมันว่าโต๊ะอเนกประสงค์
เดรวานตรงไปที่บาร์เหล้า เขาคิดว่าตอนนี้ต้องเล่นบทคนปกติไม่ใช่อัจฉริยะ ถึงแม้อยากจะตรงไปอ่านหนังสือกับพวกคนแก่ก็ตาม แต่นั้นจะเป็นการสร้างพยานและเขาก็ไม่หวังจะให้คนบอกตำรวจว่าเห็นผู้ชายวัยฉกรรจ์มาอ่านหนังสือแทนที่จะพักผ่อนเถอะ เพราะไอ้หนังสือเหล่านั้นมันเป็นงานอดิเรกของเขา
แน่นอนเลยว่ามันจะบ่งชี้ว่าเดรวานเป็นคนที่ทางรัฐต้องการตัว
เดรวานนั่งตรงเก้าอี้หัวล้านที่ต่อเป็นแถวหน้ากระดาน ถัดจากมือซ้ายเขาเป็นชายหนุ่มผมทองสว่างผิวสีแดงดูก็รู้ว่ามีเชื้อสายชนเผ่าประจำทวีปนี้ ผู้ชายคนนั้นมีแก้วเหล้าในมือและเหลือเพียงครึ่งเดียว หน้าตาเขาดูเศร้าและใส่โค้ทสีดำ
อยู่ในช่วงไว้ทุกข์แน่ๆเดรวานได้แต่คิด
“จะรับอะไรไหม” เสียงนั้นไม่ใช่เสียงชายผิวแดง เดรวานหันไปมองหุ่นยนตร์จำลองบาร์เทนเดอร์ที่มีชีวิตราวกับคนจริงๆ กล่าวกับเขา ด้วยเสียงที่ไม่ดูติดขัดเลย นักวิทยาศาสตร์คงจะพอใจกับผลงานชิ้นนี้แน่ๆ
“เบียร์อย่างอ่อนหนึ่ง” เอาเถอะยังไงเขาก็ไม่คิดจะทำลายสุขภาพตัวเองหรอก ว่าแล้วก็แอบเอามือทาบไว้ที่อก สัมผัสถึงสิ่งที่นูนออกมาถูกมือ เขาสัญญาว่าจะไม่ให้กึ่งคนมันทำอะไรตามใจชอบอีก…
เพราะมันเจ็บจนเขาไม่อยากมองหน้าเลนส์ไปช่วงหนึ่งเลยล่ะ…
“ทำไหมรถไฟมันช้านักนะ” คนข้างตัวเดรวานเริ่มพูดเมื่อหุ่นยนตร์หันไปทำงาน คนตาเขียวแค่หันไปมองหนุ่มผิวแดงนิดๆ เขามีท่าทีกระฟัดกระเฟียดดูเหมือนจะรีบไปที่ไหนสักแห่ง และคงอึดอัดพอดูแต่น่าแปลกที่ชายหนุ่มเลือกระบายออกมากับคนแปลกหน้า อาจจะเพราะน้ำเมาในมือทำให้สมธภาพในการใช้สมองด้อยลง
และเขาคงไม่เป็นอย่างนั้นไปอีกราย….
“ทำไหมๆๆๆผมไม่เข้าใจ” คราวนี้ดูเหมือนเขาจะอารมณ์ร้ายกว่าเดิม เริ่มมีการทำร้ายร่างกายตัวเอง เดรวานก็เริ่มระวังตัว “ตอบผมสิ” เขาหันมาขอความเห็นคนตาเขียวที่รับเบียร์ต่อจากหุ่นยนตร์
ตาของเขาแดงก่ำเหมือนสีผิว คงร้องไห้มาแน่ๆและหน้าตาก็ดูโกรธเกรี้ยวเหมือนยักษ์ คนผมดำคิดว่าชายหนุ่มต้องลุกขึ้นมาเขย่าคอเขาแน่ ให้ตายสิ…อย่างนี้ไงเขาจึงเกลียดน้ำเมา
“ผมไม่รู้” นี้เป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับคนๆนี้แล้วล่ะ
ชายหนุ่มดูเหมือนจะผ่อนคลายเมื่อมีคนรับฟัง เขาหันกลับไปกระดกเหล้าเข้าปากต่อโดยไม่พูดอะไร เช่นเดียวกับเดรวานที่ละสายตามาจิบเบียร์ในมือ เอาตรงๆเขาก็ยังนึกไม่ออกถึงสาเหตุที่รถไฟช้ากว่ากำหนด พ่อหนุ่มห้องแล็บได้แต่ถอนหายใจ
ในเวลาไม่นานความเงียบก็ห้อมล้อมรอบตัวเดรวาน กับคนในห้อง มีแต่เสียงรายการทีวีที่ดังอย่างต่อเนื่องเพราะไม่มีใครคิดจะปิด และด้วยเหตุนี้เดรวานจึงให้ความสนใจมันเต็มทีแทนผู้ชายที่อยู่ข้างตัว
เขาได้ยินเสียงผู้ประกาศข่าวหญิงรายงานถึงความคืบหน้าของโครงการบ้านใหม่สำหรับทุกคน โครงการนี้เป็นของรัฐบาลเพื่ออำนวยให้แก่ประชาชนที่เกิดความเสียหายต่อที่พัก ให้มีที่อยู่อาศัยและหนึ่งในนั้นอาจเป็นมิสแกร์นเจ้าของอพาธเม้นที่เขาเคยซุกหัวนอนด้วยก็ได้
มันทำให้รู้สึกผิดทุกทีเมื่อคิดถึงเรื่องนี้
“ที่นั้นสบายดี ยังไงรัฐบาลก็ดูมีความรับผิดชอบบ้าง”คนที่เงียบไปนานพูดขึ้น เขาหมุนแก้วในมือไปมา ยิ้มน้อยๆบนหน้าสีแดง เดรวานชำเลืองไปมองชายหนุ่มเล็กน้อย ดูเหมือนหมอนี่จะฟังข่าวเหมือนเขา คนตาเขียวยกเบียร์มาจิบ “ดูเหมือนหมดตังค์ไปเยอะพอดูเลยนะนั้น”
คนๆนี้น่าสนใจ พ่อหนุ่มแล็บคิด เขาเลิกคิ้วเมื่อได้ฟังคำนั้นและเพราะอะไรไม่รู้แต่เขาอยากรู้สิ่งเหล่านี้มากขึ้น คำถามจึงหลุดจากปากเขาไปอย่างไม่ตั้งใจ
“แล้วที่นั้นสบายอย่างไรล่ะ” ชายหนุ่มผิวแดงหันมาจ้องหน้าเขา ตาจ้องตา ความเงียบโรยตัวสักพักก่อนเขาจะตอบด้วยน้ำเสียงที่ดูตื่นเต้น สำหรับคนเมาเดรวานจะไม่ถือสาหาความอะไรแล้วกันที่ ถือซะว่าได้ข้อมูลฟรีๆ
“ที่นั้นสบายมาก ผมอยู่ที่นั้นมาสองสามอาทิตย์หลังจากที่บ้านผมโดนถล่มและก็ย้ายไปอยู่กับญาติทางตอนเหนือ ผมจำได้ลางๆว่าแถวนั้นมีทุ่งหญ้ากว้างไปหมด บ้านก็มีฮีดเดอร์และเครื่องปรับอากาศชนิดพิเศษ มีหุ่นยนต์ดูแลทุกครัวเรือน ภรรยากับลูกสาวผมชอบมันมาก เราเหมือนลืมสงครามที่โอบล้อมเราเอาไว้เลย เหมือนกับเราหลุดไปอีกโลกหนึ่งก็ไม่ปาน” เขาหยุดพักสักครู่หนึ่งสีหน้าดูเศร้าเมื่อพูดถึงตรงนี้ ถ้านั้นเป็นความจริงเดรวานก็หมดห่วงเรื่องมิสแกร์น
เขารอสักพักชายหนุ่มก็พูดต่อ “ตอนที่ผมจะย้ายบ้าน ลูกสาวผมร้องไห้ไม่อยากไป ภรรยาผมก็เหมือนกัน แต่เธอไม่พูดอะไรไม่พูดเลย…ฮึก เธอจูบลาผมก่อนจะไปทำงาน แล้วๆ….อึก” คำพูดเขาขาดห้วนลงเรื่อยๆ แทนด้วยเสียงสะอื้นและน้ำตา
มันไหลออกมาเอง ถึงแม้ว่าเดรวานจะมองมันแต่ก็ไม่สามารถหยุดมันไม่ให้ไหลได้เลย
“ฮือๆๆๆ เธอตาย ถ้าผมฉุดคิดสักนิด อึก เราก็จะได้อยู่ด้วยกันไปจนแก่เหมือนที่พูดไว้ไง ฮือ..อึก” คนผิวแดงกรีดร้องด้วยน้ำตานองหน้า เดรวานได้แต่เฝ้ามองไม่มีการปลอบหรือคำพูดใดหลุดจากปาก จนกว่าเขาจะได้ข้อมูลที่น่าพอใจ ถึงแม้ผู้ชายคนนี้จะร้องไห้ปานใด จนกว่าเขาจะสลบลง เดรวานจะไม่ปล่อยชายหนุ่มไปง่ายๆแน่
“แล้วเธอตายยังไง” เป็นคำถามที่จี้จุดคนที่ร้องโวยวายอย่างมาก เขาหยุดคร่ำครวญ ดวงตาดูดุร้ายก่อนจะพูดเสียงดัง แม้กระทั่งหุ่นยนต์ยังเกิดอาการตกใจ
“เธอตายเพราะระเบิด….ระเบิดที่โรงงานนิวเคลียร์บ้าบอนั้นไง!!”
โรงงาน…นิวเคลียร์
เดรวานช็อคกับคำตอบเขามือไม้อ่อนถึงขนาดทำแก้วเบียร์หล่นมือแต่ก็รับทัน ชายหนุ่มรู้สึกถึงความชื้นเหงื่อตามขมับและแขนของเขา
ถ้าเป็นโรงงานนิวเคลียร์ทางตอนเหนือ….มีที่เดียว
และเลนส์ก็ไปรบที่นั้น….
ระเบิดนั้นเกิดขึ้นได้ไง ทำไหมเขาไม่ทราบข่าว หรือมันจะอยู่ในช่วงที่ความจำเขาหายไป ทำไหมเลนส์ไม่บอกเขา แล้วเลนส์ตายไหม….ไม่สิเลนส์รอดออกมาได้ไง ใครเป็นคนช่วยสร้างเครื่องจักรให้
แต่ในใจลึกๆของเดรวาน เขากลัวว่าเลนส์จะไม่กลับมาที่สุด
และถ้าเลนส์ไม่กลับมาสภาพผู้ชายคนนี้ก็ไม่ต่างกับเขาเลย
ชายหนุ่มผิวแดงสงบสติอารมณ์ได้แล้วเขาไม่มองหน้าเดรวาน ไม่กรีดร้องอีก เดรวานมองเขาเงียบๆและนี้เป็นครั้งแรกที่เขาคิดจะล่าถอย ข้อมูลตรงนี้พอแล้ว เขาจะไปเก็บข้อมูลกับครึ่งคนต่อล่ะ
“คุณนะ รู้อะไรไว้ซะ” แต่ก่อนจะไปเดรวานวางมือบนไหล่ชายหนุ่ม “จงจำไว้นะว่าคุณยังมีลูกสาวอยู่ เพราะฉะนั้นแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนร้อยเท่า แล้วคุณจะไม่เสียใจ…ภรรยาคุณไม่ได้จากไปไกลหรอก เธอยังอยู่ในใจคุณกับลูกเสมอ จำเธอไว้เธอก็มีความสุขแล้ว”
หนูท่อ เดินจากเขาไปโดยไม่หันหลังอีก จึงไม่ได้เห็นสีหน้าของคนที่เขาพึ่งเทศน์ไป “อ้อ…ถ้ารับกับชะตารักบัดซบนี้ไม่ได้ก็กระโดดรถไฟตายซะ จะได้ไม่อยู่เป็นขยะสังคม” และต้องจิกกัดนิดๆตามประสงค์ ไม่สนใจสายตาสอดรู้สอดเห็นของคนแก่ว่างงานในขณะที่เท้ากำลังจะก้าวออกจากล็อบบี้ เขาได้สัมผัสถึงลมหายใจเบื้องหลังไม่ได้หันไปแต่ได้ยินชัดเจน “ขอบคุณ ที่เรียกสติผม ยังไงลูกสาวผมก็รออยู่ที่ฟลอริด้า และผมกำลังไปหาเธอ”
เป็นครั้งแรกที่เดรวานรู้สึกว่าชายหนุ่มผิวแดงไม่ดูอันตรายและดูจะรักครอบครัวมาก เข้มแข็งไม่อ่อนแอ ชายหนุ่มจึงลอบยิ้มแล้วตอบเขาไป”ด้วยความยินดี”
ก่อนประตูล็อบบี้จะปิดลงพร้อมร่างเดรวานที่หายไปเบื้องหลังของประตู
เสียงตามห้องผู้โดยสารสองข้างโถงเดินของโบกี้แรกเริ่มเงียบลงมีห้องสองสามห้องที่ปิดไป แต่เขาก็ยังเดินต่อพร้อมกับคิดอะไรบางอย่างเงียบๆ เรื่องของเลนส์การระเบิดนั้น ทำให้เขาใจวูบ เดรวานควรจะถามเลนส์เกี่ยวกับเรื่องนี้ดีไหม สมองเขาโดนตีจนเลอะเรือนไปหมด เขาแอบกลัวนิดๆว่าเลนส์จะตายไหม บวกกับทำไหมเลนส์ไม่อยู่ในกรมทหาร..
เขาน่าจะคิดได้ เลนส์อาจจะโดนปลดนานแล้ว เนื่องจากบาดเจ็บสาหัส แต่ใครกันเป็นคนต่อเครื่องจักร
ให้ตายสิ!เขาอยากเพิ่มรอยหยักในสมองเป็นพันเส้นในตอนนี้
ไม่รู้มาก่อนว่าการเดินคิดเรื่อยเปื่อยก็สามารถมาถึงที่หมายได้เร็วขนาดนี้ ไม่นานสองขาของเดรวานก็พาเขามาอยู่หน้าห้องโดยสารที่เขาโดนทิ้งไว้คนเดียว ข้างในมีเงาใหญ่และหนาของใครบางคนอยู่ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใคร
เดรวานเปิดประตูเข้าไปก่อน จ๊ะเอ๋ กับเลนส์พอดี
หนุ่มกึ่งคนอยู่ในโค้ทอันเดียวกับเมื่อเช้า(เดรวานไม่เข้าใจว่ามันอาบน้ำบ้างรึเปล่า)นั่งทอดกายอยู่บนโซฟาหนังสีแดงเลือดหมู และเป็นตัวเดียวกับที่เขานั่งก่อนออกไปหาเรื่องหนุ่มช้ำรักนั้น เลนส์หรี่ตามองเขาที่เข้ามาแบบไร้มารยาทแล้วทำไหมต้องมีในเมื่อห้องนี้ก็ของเขาเช่นกัน
เดรวานทำตัวไม่สนใจกึ่งคนปิดประตูก่อนเดินไปนั่งโซฟาตรงข้ามกับของไซบอกหนุ่ม เลนส์ละความสนใจจากเขาเรียบร้อยแล้ว เดรวานจ้องพ่อหนุ่มตาฟ้านิ่ง ทบทวนสมองตัวเองให้ดี เขาตัดสินใจแล้วว่าการบอกเลนส์ถึงเรื่องโรงงานนิวเคลียร์ไม่ได้เป็นสิ่งที่ดีนัก นั้นจะทำให้มีคำถามต่อมาแน่ว่าเขาไปรู้มาได้ไงและคงเป็นเรื่องยากถ้าเขาบอกว่า ไปหาเรื่องคนมาให้ตอบอ่ะนะ สู้เขารู้ด้วยตัวเขาเองดีกว่า
“ความทรงจำฉันตามที่สัญญา” เดรวานก้มหน้าลงน้ำเสียงกดดัน ทำให้เลนส์ที่พยายามเมินเจ้าหนูท่อต้องหันมามอง
ให้ตายสิ…เขาไปคุยธุระสำคัญแปปเดียว(?)กลับมาหนูท่อก็หนีหายไปแล้ว ตอนแรกคาดว่าจะไปอาบน้ำที่ไหนได้ก็คงไปหาข้อมูลมาปวดหัวเขาแน่ๆ แถมตอนนี้ยังมาทวงความจำที่เขายังไม่พร้อมจะให้อีก…
“เดี๋ยวสิ คำตอบของฉันล่ะ “ เดรวานเม้มปากกลอกตาไปมา ให้ตายเขาเกลียดหมอนี่ตรงนี้แหละ ไม่ใช่เขาไม่มีคำตอบแต่มันยังไม่มั่นใจต่างหากล่ะ เลนส์มองดูอาการอย่างนั้นแล้วลอบยิ้มในใจ
เวลาที่เดรวานเป็นต่อเขา เป็นเวลาที่หนุ่มตาฟ้าชอบที่สุด
“ว่าไง” เพิ่มแรงกดดันนิดๆจะได้รีบตอบ คนตาเขียวกลอกตาอีกครั้ง “ฉันไม่อยากให้คนข้างนอกได้ยินหรอกนะ” ดวงตามองที่ประตูก่อนกลับมามองหน้าไซบอก เป็นเชิงให้จัดการ เลนส์มองกิริยานั้นอย่างหมั่นไส้ ลมหายใจแรงถอนออกมาก่อนจะลุกไปที่หน้าประตู และคงไม่รู้ถึงรอยยิ้มตรงมุมปากของคนผมดำด้านหลัง
อุปกรณ์ที่มีลักษณะเป็นปุ่มเล็กถูกกด มันขึ้นสีแดงจ้าเหมือนแสงดาว ก่อนจะส่งเสียงน้อยๆ หลังจากนั้นเลนส์ก็กลับมานั่งที่ของเขา (ไม่ต้องให้ดาเดรวานดูออกว่าเป็นเครื่องเก็บเสียงแบบหายากของรัฐบาล)“เอาล่ะทีนี้ตอบได้ยัง”
“นายไปได้ของเจ๋งๆอย่างนั้นจากที่ไหน” เดรวานพยักเพยิดไปที่อุปกรณ์ตัวเล็กนั้น ที่จริงเขาจะถามนานแล้ว มันคาใจตั้งแต่ซิมส์ประหลาดในอกเขา และความลับที่ปิดซ่อนเอาไว้
“คำตอบฉันอยู่ในคำตอบนาย “ นี้คือคำตอบหรือ เดรวานกลืนน้ำลาย ยังไงตอนนี้เขาก็อยู่ในสถานะเป็นรองให้เลนส์อยู่แล้ว ทางที่ดีควรจะต้องรีบตอบคำถามของเจ้าพระคุณมนุษย์เหล็กก่อนแล้วล่ะ
“ฉํนยังไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ “ เดรวานหยุดสักพักก่อนพูดต่อ
“ใช่เจน รึเปล่า”
เลนส์เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้รับคำตอบ เขาไม่เคยจะรู้ว่าเดรวานจะไม่มั่นใจในการคาดคะเนตัวเอง แต่มาลองคิดดีๆ แบบนี้แหละคือสเน่ห์ของพ่อหนุ่มก่อนเป็นอัจฉริยะ ทำเป็นไม่มั่นใจแต่ก็ถูกหมดทุกข้อ
และข้อนี้ก็เหมือนกัน อย่างกับรู้อนาคตเลนส์รู้ได้ว่าต่อจากนี้คือการหาเหตุผลมาอ้างความคิดของตนเอง
และมันก็ไม่ผิดคาด
“เอาง่ายๆนะ นอกจากนายฉันก็ไม่สนิทกับใครเลย ยกเว้นเจนไว้คน ยัยนี้เป็นคนฉลาดมากด้วย ทุกๆอย่างมันชี้ไปที่เธอ ถ้าฉันโดนล่าจริงๆเจนต้องรู้ เป็นไปได้สูงที่เธอจะร่วมมือ แถมยัยนั้นอยู่สายพันธุกรรมแล้วด้วย ทุกอย่างมันลงล็อคเป๊ะ”
เดรวานกอดอกไประหว่างพูด เสริมมาดของเขาให้ดูดี จนเลนส์ละสายตาไม่ได้ มันเหมือนกับเมื่อก่อนตอนที่เขาเจอพ่อหนุ่มคนนนี้ครั้งแรก ท่านี้เขาเห็นมาจนชินตาแล้วแต่ก็ชอบอยู่ดี
“แต่ที่ฉันไม่แน่ใจ…ทำไหมเจนต้องช่วยฉัน” เจนฉลาดพอที่จะไม่เอาชีวิตตัวเองมาเสี่ยง เดรวานเอามือกุมคางอย่างลืมตัวเหมือนทุกครั้งที่เขาชอบคิดหาวิธีทอลองเคมี โดยลืมอีกชีวิตในห้องไปโดยปริยาย
เลนส์ยกยิ้ม “ บางทีเหตุผลมันอาจจะใช้หลักการมาช่วยไม่ได้หรอกนะ”
เดรวานเหมือนได้สติ เขาเหลือบตามองเลนส์ วางมือบนตัก ให้ตายเถอะ…เขาลืมได้ไงว่าเลนส์ก็อยู่ในห้อง ก่อนที่ชาหนุ่มจะฉุดคิด เขาแบมือต่อหน้ากึ่งคน กระดิกนิ้ว เรียกรอยย่นของหน้าใต้หน้ากากของอีกคนเป็นอย่างนี้
“แปลว่าฉันตอบถูกตามสัญญา” คนผมดำไม่รู้หรอกว่าตัวเองตอนนี้ดูกวนแค่ไหน
เลนส์ละสายตาไปทางอื่น….บางทีเขาก็ต้องใช้สมองเหมือนกัน แค่ใครจะรู้ว่าอยู่ใกล้คนฉลาดนานๆความฉลาดก็ออสโมซิสมาหาเขาเพื่อเพิ่มรอยยักในสมองได้ด้วย
“โอเค..งั้นถอดเสื้อ”
.
.
.
…………………………………………………………………..
บู๊แล้วคะ
555555555555555555555555555555
บ้าเหรอ กาขอตัดตรงนี้ออกก่อนแล้วกันนะ เพราะถ้าจะเขียนลามไปบู๊กาว่าสิบหน้าก็ไม่พอ ขอจบคำถามข้อสุดท้ายเดรวานก่อน ตอนหน้าจะได้สู้กันดุเดือดแน่นอน
ก็แอบเปิดความลับไปอีกหนึ่งกันอีกตามเคย
พร้อมตัวละครเอกที่มีความสำคัญมากๆก็มากับเขาแล้ว น้องเจนหลานรักของยายนั้นเอง
ตอนหน้าจะได้เห็นแม่นางออกโรงหรือไม่ก็มาลุ้น
พร้อมฉากเปลือยท่อนบนของเดรวาน (อะไรๆคิดขึ้น)
……………………………………………………………………………..
ท้ายหน่วยการเรียนรู้
Q : ท่านการิอ่านอยากเขียนโนเด็กบ้างไหม
กา : กามิบังอาจคะ เพื่อนอ่านเยอะกลัวสาวเจ้าใจแตกกันไป
Q : แน่ใจเหรอ หรือว่าเขียนไม่เป็น
กา : สารภาพกาเด็กดีไม่เคยอ่านนนนนน ขอให้ขี้รั่ว
อีกาได้ขี้รั่วแล้ววันนี้///////////////
….
.
.
………………….คำถาม ตอบด้วยน่า………………………….
คุณจะเลือกอยู่ข้างในระหว่าง วิทยาศาสตร์ กับ ไสยศาตร์
ตอนนี้ยังตอบกันไม่ได้จะเปลี่ยนเมื่อไหร่ก็ได้น่ะ ตอบกันด้วยยยย
ปล #ทีมคริส #ทีมกา #ทีมเพื่อนรักฮาร์ดคอ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ