Soul and Head เเด่สมองสู่วิญญาณ (Y)

8.9

เขียนโดย galaxy

วันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2559 เวลา 18.14 น.

  3 chapter
  9 วิจารณ์
  6,118 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) one question

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     

One Question

รถไฟความเร็วสูงขับเคลื่อนไปอย่างเงียบเชียบ ไม่มีเสียงเครื่องยนตร์มาให้กวนใจ ตามสวัสดิการของรัฐเพื่อประชาชน ถึงอย่างนั้นผู้โดยสารทุกคนในขบวน407ก็ไม่ชื่นชอบสิ่งที่รัฐเสนอให้มากนัก พวกเขาหวังแค่ว่าจะเดินทางไปถึงเร็วที่สุดก็พอช่างน่าเสียดายที่รัฐไม่สามารถเสนอสิ่งข้อนี้ให้แก่ประชาชนได้เลย….

 เดรวานคือหนึ่งในผู้โดยสาร เขาคาดคะเนเวลาจากสถานีไปจนถึงเมืองตอนใต้ราวๆสามชั่วโมง แต่ทุกอย่างผิดคาด ตอนนี้พวกเขานั่งรถไฟมาห้าชั่วโมงแล้ว คลาดเคลื่อนจากการเดาสูงมาก มันทำให้เลนส์หงุดหงิดก่อนออกไปทำธุระ ปล่อยให้เขานั่งจมจ่อในห้องผู้โดยสารหมายเลข12คนเดียว เดรวานได้ยินเสียงเด็กร้องมาจากห้องผู้โดยสารตรงข้าม เขาไม่พูดอะไรแค่ทำเสียงฮึดฮัดในคอเฉยๆ ให้ตาย…นี่ไงคือสาเหตุที่เขาหัวตัน

 จากสิ่งที่เขาคิดเอาไว้เรื่องผู้เบื้องหลัง เดรวานคาดว่าคำตอบเขาต้องถูกต้อง แต่สิ่งที่ยากคือเหตุผลของความช่วยเหลือ  ทำไหมต้องช่วยคนอย่างเขาด้วยล่ะ? มันต้องมีอะไรมากกว่านั้น

 เสียงร้องของเด็กทำให้เส้นสติเดรวานขาดผึงเขาลุกออกจากห้องโดยสารมุ่งออกไปอีกโบกี้หนึ่ง

ถ้ายังมีเสียงรบกวนล่ะก็เขาคิดอะไรไม่ออกแน่….ให้ตายสิ

ถ้าเขามีความทรงจำอะไรๆก็ง่ายขึ้น…จะว่าไปเลนส์ก็หายไปตั้งสามสิบนาทีแล้ว และดูเหมือนพ่อหนุ่มตาฟ้าจะลืมไปว่าต้องคืนความจำให้เขา เดรวานถอนหายใจ..ยังไงซะ กึ่งคนก็ไม่สามารถเลี่ยงได้หรอก เขาจะต้องรู้ให้ได้แม้ต้องตอบคำถามอีกกี่ข้อก็ตาม

ชายหนุ่มผมดำเดินผ่านห้องผู้โดยสารที่ขนาบสองข้างทางในโบกี้ที่หนึ่ง(เลนส์กับเขาอยู่โบกี้ที่สอง) มีเสียงพูดคุยดังมาจากห้องโดยสาร เขาจับใจความได้บางส่วนว่าผู้โดยสารไม่พอใจกับการเดินทางล่าช้าถึงแม้ทางรัฐจะไม่เก็บตังค์ค่าอาหารเพิ่ม แต่มันก็ยังคงไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น มีบางห้องคุยเรื่องเมื่อกลับถึงบ้าน ส่วนบางห้องก็หลับถึงแม้จะยังไม่ปิดไฟ

 เดรวานขมวดคิ้วเล็กน้อย บางทีเขาก็คงต้องเพิ่มการล่าช้าของรถไฟไปในการแก้ปัญหาอีกข้อหนึ่งแล้วกัน

ไม่นานสองขาก็พานักวิทยาศาสตร์มาถึงล็อบบี้ ณ โบกี้แรกของรถไฟ มีผู้โดยสารวัยฉกรรณ์สองสามคน กับวัยชราอีกห้าคน มีบาร์เหล้าอยู่มุมซ้ายบาร์เทนเดอร์แบบเครื่องจักรกำลังประจำที่อยู่ มีจอทีวีขนาดใหญ่อยู่ติดพนัง มีชุดโซฟาและชั้นหนังสืออยู่มุมขวา และมีโต๊ะหมากกรุกอยู่ตรงกลาง อ่า…นั้นไม่ใช่แค่โต๊ะหมากรุกหรอก บางครั้งมันอาจจะเป็นโต๊ะพนันในเสี้ยววินาทีก็ได้ เขาเรียกมันว่าโต๊ะอเนกประสงค์

เดรวานตรงไปที่บาร์เหล้า เขาคิดว่าตอนนี้ต้องเล่นบทคนปกติไม่ใช่อัจฉริยะ ถึงแม้อยากจะตรงไปอ่านหนังสือกับพวกคนแก่ก็ตาม แต่นั้นจะเป็นการสร้างพยานและเขาก็ไม่หวังจะให้คนบอกตำรวจว่าเห็นผู้ชายวัยฉกรรจ์มาอ่านหนังสือแทนที่จะพักผ่อนเถอะ เพราะไอ้หนังสือเหล่านั้นมันเป็นงานอดิเรกของเขา

แน่นอนเลยว่ามันจะบ่งชี้ว่าเดรวานเป็นคนที่ทางรัฐต้องการตัว

เดรวานนั่งตรงเก้าอี้หัวล้านที่ต่อเป็นแถวหน้ากระดาน ถัดจากมือซ้ายเขาเป็นชายหนุ่มผมทองสว่างผิวสีแดงดูก็รู้ว่ามีเชื้อสายชนเผ่าประจำทวีปนี้ ผู้ชายคนนั้นมีแก้วเหล้าในมือและเหลือเพียงครึ่งเดียว หน้าตาเขาดูเศร้าและใส่โค้ทสีดำ

อยู่ในช่วงไว้ทุกข์แน่ๆเดรวานได้แต่คิด

“จะรับอะไรไหม” เสียงนั้นไม่ใช่เสียงชายผิวแดง เดรวานหันไปมองหุ่นยนตร์จำลองบาร์เทนเดอร์ที่มีชีวิตราวกับคนจริงๆ กล่าวกับเขา ด้วยเสียงที่ไม่ดูติดขัดเลย นักวิทยาศาสตร์คงจะพอใจกับผลงานชิ้นนี้แน่ๆ

“เบียร์อย่างอ่อนหนึ่ง” เอาเถอะยังไงเขาก็ไม่คิดจะทำลายสุขภาพตัวเองหรอก ว่าแล้วก็แอบเอามือทาบไว้ที่อก สัมผัสถึงสิ่งที่นูนออกมาถูกมือ เขาสัญญาว่าจะไม่ให้กึ่งคนมันทำอะไรตามใจชอบอีก…

 เพราะมันเจ็บจนเขาไม่อยากมองหน้าเลนส์ไปช่วงหนึ่งเลยล่ะ…

“ทำไหมรถไฟมันช้านักนะ” คนข้างตัวเดรวานเริ่มพูดเมื่อหุ่นยนตร์หันไปทำงาน คนตาเขียวแค่หันไปมองหนุ่มผิวแดงนิดๆ  เขามีท่าทีกระฟัดกระเฟียดดูเหมือนจะรีบไปที่ไหนสักแห่ง และคงอึดอัดพอดูแต่น่าแปลกที่ชายหนุ่มเลือกระบายออกมากับคนแปลกหน้า อาจจะเพราะน้ำเมาในมือทำให้สมธภาพในการใช้สมองด้อยลง

และเขาคงไม่เป็นอย่างนั้นไปอีกราย….

“ทำไหมๆๆๆผมไม่เข้าใจ” คราวนี้ดูเหมือนเขาจะอารมณ์ร้ายกว่าเดิม เริ่มมีการทำร้ายร่างกายตัวเอง เดรวานก็เริ่มระวังตัว “ตอบผมสิ” เขาหันมาขอความเห็นคนตาเขียวที่รับเบียร์ต่อจากหุ่นยนตร์

 ตาของเขาแดงก่ำเหมือนสีผิว คงร้องไห้มาแน่ๆและหน้าตาก็ดูโกรธเกรี้ยวเหมือนยักษ์ คนผมดำคิดว่าชายหนุ่มต้องลุกขึ้นมาเขย่าคอเขาแน่ ให้ตายสิ…อย่างนี้ไงเขาจึงเกลียดน้ำเมา

“ผมไม่รู้” นี้เป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับคนๆนี้แล้วล่ะ

ชายหนุ่มดูเหมือนจะผ่อนคลายเมื่อมีคนรับฟัง เขาหันกลับไปกระดกเหล้าเข้าปากต่อโดยไม่พูดอะไร เช่นเดียวกับเดรวานที่ละสายตามาจิบเบียร์ในมือ เอาตรงๆเขาก็ยังนึกไม่ออกถึงสาเหตุที่รถไฟช้ากว่ากำหนด พ่อหนุ่มห้องแล็บได้แต่ถอนหายใจ

ในเวลาไม่นานความเงียบก็ห้อมล้อมรอบตัวเดรวาน กับคนในห้อง มีแต่เสียงรายการทีวีที่ดังอย่างต่อเนื่องเพราะไม่มีใครคิดจะปิด และด้วยเหตุนี้เดรวานจึงให้ความสนใจมันเต็มทีแทนผู้ชายที่อยู่ข้างตัว

เขาได้ยินเสียงผู้ประกาศข่าวหญิงรายงานถึงความคืบหน้าของโครงการบ้านใหม่สำหรับทุกคน โครงการนี้เป็นของรัฐบาลเพื่ออำนวยให้แก่ประชาชนที่เกิดความเสียหายต่อที่พัก ให้มีที่อยู่อาศัยและหนึ่งในนั้นอาจเป็นมิสแกร์นเจ้าของอพาธเม้นที่เขาเคยซุกหัวนอนด้วยก็ได้

มันทำให้รู้สึกผิดทุกทีเมื่อคิดถึงเรื่องนี้

“ที่นั้นสบายดี ยังไงรัฐบาลก็ดูมีความรับผิดชอบบ้าง”คนที่เงียบไปนานพูดขึ้น เขาหมุนแก้วในมือไปมา ยิ้มน้อยๆบนหน้าสีแดง เดรวานชำเลืองไปมองชายหนุ่มเล็กน้อย ดูเหมือนหมอนี่จะฟังข่าวเหมือนเขา คนตาเขียวยกเบียร์มาจิบ  “ดูเหมือนหมดตังค์ไปเยอะพอดูเลยนะนั้น”

คนๆนี้น่าสนใจ พ่อหนุ่มแล็บคิด เขาเลิกคิ้วเมื่อได้ฟังคำนั้นและเพราะอะไรไม่รู้แต่เขาอยากรู้สิ่งเหล่านี้มากขึ้น คำถามจึงหลุดจากปากเขาไปอย่างไม่ตั้งใจ

 “แล้วที่นั้นสบายอย่างไรล่ะ” ชายหนุ่มผิวแดงหันมาจ้องหน้าเขา ตาจ้องตา ความเงียบโรยตัวสักพักก่อนเขาจะตอบด้วยน้ำเสียงที่ดูตื่นเต้น สำหรับคนเมาเดรวานจะไม่ถือสาหาความอะไรแล้วกันที่ ถือซะว่าได้ข้อมูลฟรีๆ

“ที่นั้นสบายมาก ผมอยู่ที่นั้นมาสองสามอาทิตย์หลังจากที่บ้านผมโดนถล่มและก็ย้ายไปอยู่กับญาติทางตอนเหนือ               ผมจำได้ลางๆว่าแถวนั้นมีทุ่งหญ้ากว้างไปหมด บ้านก็มีฮีดเดอร์และเครื่องปรับอากาศชนิดพิเศษ มีหุ่นยนต์ดูแลทุกครัวเรือน ภรรยากับลูกสาวผมชอบมันมาก เราเหมือนลืมสงครามที่โอบล้อมเราเอาไว้เลย  เหมือนกับเราหลุดไปอีกโลกหนึ่งก็ไม่ปาน” เขาหยุดพักสักครู่หนึ่งสีหน้าดูเศร้าเมื่อพูดถึงตรงนี้  ถ้านั้นเป็นความจริงเดรวานก็หมดห่วงเรื่องมิสแกร์น

เขารอสักพักชายหนุ่มก็พูดต่อ “ตอนที่ผมจะย้ายบ้าน ลูกสาวผมร้องไห้ไม่อยากไป ภรรยาผมก็เหมือนกัน แต่เธอไม่พูดอะไรไม่พูดเลย…ฮึก  เธอจูบลาผมก่อนจะไปทำงาน แล้วๆ….อึก” คำพูดเขาขาดห้วนลงเรื่อยๆ แทนด้วยเสียงสะอื้นและน้ำตา

มันไหลออกมาเอง ถึงแม้ว่าเดรวานจะมองมันแต่ก็ไม่สามารถหยุดมันไม่ให้ไหลได้เลย

“ฮือๆๆๆ เธอตาย ถ้าผมฉุดคิดสักนิด อึก เราก็จะได้อยู่ด้วยกันไปจนแก่เหมือนที่พูดไว้ไง ฮือ..อึก” คนผิวแดงกรีดร้องด้วยน้ำตานองหน้า เดรวานได้แต่เฝ้ามองไม่มีการปลอบหรือคำพูดใดหลุดจากปาก จนกว่าเขาจะได้ข้อมูลที่น่าพอใจ ถึงแม้ผู้ชายคนนี้จะร้องไห้ปานใด จนกว่าเขาจะสลบลง เดรวานจะไม่ปล่อยชายหนุ่มไปง่ายๆแน่

“แล้วเธอตายยังไง” เป็นคำถามที่จี้จุดคนที่ร้องโวยวายอย่างมาก เขาหยุดคร่ำครวญ ดวงตาดูดุร้ายก่อนจะพูดเสียงดัง แม้กระทั่งหุ่นยนต์ยังเกิดอาการตกใจ

“เธอตายเพราะระเบิด….ระเบิดที่โรงงานนิวเคลียร์บ้าบอนั้นไง!!”

โรงงาน…นิวเคลียร์ 

เดรวานช็อคกับคำตอบเขามือไม้อ่อนถึงขนาดทำแก้วเบียร์หล่นมือแต่ก็รับทัน ชายหนุ่มรู้สึกถึงความชื้นเหงื่อตามขมับและแขนของเขา

ถ้าเป็นโรงงานนิวเคลียร์ทางตอนเหนือ….มีที่เดียว

และเลนส์ก็ไปรบที่นั้น….

ระเบิดนั้นเกิดขึ้นได้ไง ทำไหมเขาไม่ทราบข่าว หรือมันจะอยู่ในช่วงที่ความจำเขาหายไป ทำไหมเลนส์ไม่บอกเขา แล้วเลนส์ตายไหม….ไม่สิเลนส์รอดออกมาได้ไง ใครเป็นคนช่วยสร้างเครื่องจักรให้

 แต่ในใจลึกๆของเดรวาน  เขากลัวว่าเลนส์จะไม่กลับมาที่สุด

และถ้าเลนส์ไม่กลับมาสภาพผู้ชายคนนี้ก็ไม่ต่างกับเขาเลย

ชายหนุ่มผิวแดงสงบสติอารมณ์ได้แล้วเขาไม่มองหน้าเดรวาน ไม่กรีดร้องอีก เดรวานมองเขาเงียบๆและนี้เป็นครั้งแรกที่เขาคิดจะล่าถอย ข้อมูลตรงนี้พอแล้ว เขาจะไปเก็บข้อมูลกับครึ่งคนต่อล่ะ

“คุณนะ รู้อะไรไว้ซะ” แต่ก่อนจะไปเดรวานวางมือบนไหล่ชายหนุ่ม “จงจำไว้นะว่าคุณยังมีลูกสาวอยู่ เพราะฉะนั้นแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนร้อยเท่า แล้วคุณจะไม่เสียใจ…ภรรยาคุณไม่ได้จากไปไกลหรอก เธอยังอยู่ในใจคุณกับลูกเสมอ จำเธอไว้เธอก็มีความสุขแล้ว”

หนูท่อ เดินจากเขาไปโดยไม่หันหลังอีก จึงไม่ได้เห็นสีหน้าของคนที่เขาพึ่งเทศน์ไป                   “อ้อ…ถ้ารับกับชะตารักบัดซบนี้ไม่ได้ก็กระโดดรถไฟตายซะ จะได้ไม่อยู่เป็นขยะสังคม” และต้องจิกกัดนิดๆตามประสงค์ ไม่สนใจสายตาสอดรู้สอดเห็นของคนแก่ว่างงานในขณะที่เท้ากำลังจะก้าวออกจากล็อบบี้ เขาได้สัมผัสถึงลมหายใจเบื้องหลังไม่ได้หันไปแต่ได้ยินชัดเจน                      “ขอบคุณ ที่เรียกสติผม ยังไงลูกสาวผมก็รออยู่ที่ฟลอริด้า และผมกำลังไปหาเธอ”

เป็นครั้งแรกที่เดรวานรู้สึกว่าชายหนุ่มผิวแดงไม่ดูอันตรายและดูจะรักครอบครัวมาก เข้มแข็งไม่อ่อนแอ  ชายหนุ่มจึงลอบยิ้มแล้วตอบเขาไป”ด้วยความยินดี”

ก่อนประตูล็อบบี้จะปิดลงพร้อมร่างเดรวานที่หายไปเบื้องหลังของประตู

เสียงตามห้องผู้โดยสารสองข้างโถงเดินของโบกี้แรกเริ่มเงียบลงมีห้องสองสามห้องที่ปิดไป แต่เขาก็ยังเดินต่อพร้อมกับคิดอะไรบางอย่างเงียบๆ เรื่องของเลนส์การระเบิดนั้น ทำให้เขาใจวูบ เดรวานควรจะถามเลนส์เกี่ยวกับเรื่องนี้ดีไหม สมองเขาโดนตีจนเลอะเรือนไปหมด เขาแอบกลัวนิดๆว่าเลนส์จะตายไหม บวกกับทำไหมเลนส์ไม่อยู่ในกรมทหาร..

เขาน่าจะคิดได้ เลนส์อาจจะโดนปลดนานแล้ว เนื่องจากบาดเจ็บสาหัส แต่ใครกันเป็นคนต่อเครื่องจักร

ให้ตายสิ!เขาอยากเพิ่มรอยหยักในสมองเป็นพันเส้นในตอนนี้

ไม่รู้มาก่อนว่าการเดินคิดเรื่อยเปื่อยก็สามารถมาถึงที่หมายได้เร็วขนาดนี้ ไม่นานสองขาของเดรวานก็พาเขามาอยู่หน้าห้องโดยสารที่เขาโดนทิ้งไว้คนเดียว ข้างในมีเงาใหญ่และหนาของใครบางคนอยู่ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใคร

เดรวานเปิดประตูเข้าไปก่อน จ๊ะเอ๋ กับเลนส์พอดี

หนุ่มกึ่งคนอยู่ในโค้ทอันเดียวกับเมื่อเช้า(เดรวานไม่เข้าใจว่ามันอาบน้ำบ้างรึเปล่า)นั่งทอดกายอยู่บนโซฟาหนังสีแดงเลือดหมู และเป็นตัวเดียวกับที่เขานั่งก่อนออกไปหาเรื่องหนุ่มช้ำรักนั้น เลนส์หรี่ตามองเขาที่เข้ามาแบบไร้มารยาทแล้วทำไหมต้องมีในเมื่อห้องนี้ก็ของเขาเช่นกัน 

  เดรวานทำตัวไม่สนใจกึ่งคนปิดประตูก่อนเดินไปนั่งโซฟาตรงข้ามกับของไซบอกหนุ่ม เลนส์ละความสนใจจากเขาเรียบร้อยแล้ว เดรวานจ้องพ่อหนุ่มตาฟ้านิ่ง ทบทวนสมองตัวเองให้ดี เขาตัดสินใจแล้วว่าการบอกเลนส์ถึงเรื่องโรงงานนิวเคลียร์ไม่ได้เป็นสิ่งที่ดีนัก นั้นจะทำให้มีคำถามต่อมาแน่ว่าเขาไปรู้มาได้ไงและคงเป็นเรื่องยากถ้าเขาบอกว่า ไปหาเรื่องคนมาให้ตอบอ่ะนะ สู้เขารู้ด้วยตัวเขาเองดีกว่า

 “ความทรงจำฉันตามที่สัญญา” เดรวานก้มหน้าลงน้ำเสียงกดดัน ทำให้เลนส์ที่พยายามเมินเจ้าหนูท่อต้องหันมามอง

ให้ตายสิ…เขาไปคุยธุระสำคัญแปปเดียว(?)กลับมาหนูท่อก็หนีหายไปแล้ว ตอนแรกคาดว่าจะไปอาบน้ำที่ไหนได้ก็คงไปหาข้อมูลมาปวดหัวเขาแน่ๆ แถมตอนนี้ยังมาทวงความจำที่เขายังไม่พร้อมจะให้อีก…

“เดี๋ยวสิ คำตอบของฉันล่ะ “ เดรวานเม้มปากกลอกตาไปมา ให้ตายเขาเกลียดหมอนี่ตรงนี้แหละ ไม่ใช่เขาไม่มีคำตอบแต่มันยังไม่มั่นใจต่างหากล่ะ เลนส์มองดูอาการอย่างนั้นแล้วลอบยิ้มในใจ

เวลาที่เดรวานเป็นต่อเขา เป็นเวลาที่หนุ่มตาฟ้าชอบที่สุด

“ว่าไง” เพิ่มแรงกดดันนิดๆจะได้รีบตอบ คนตาเขียวกลอกตาอีกครั้ง “ฉันไม่อยากให้คนข้างนอกได้ยินหรอกนะ” ดวงตามองที่ประตูก่อนกลับมามองหน้าไซบอก เป็นเชิงให้จัดการ เลนส์มองกิริยานั้นอย่างหมั่นไส้ ลมหายใจแรงถอนออกมาก่อนจะลุกไปที่หน้าประตู และคงไม่รู้ถึงรอยยิ้มตรงมุมปากของคนผมดำด้านหลัง

อุปกรณ์ที่มีลักษณะเป็นปุ่มเล็กถูกกด มันขึ้นสีแดงจ้าเหมือนแสงดาว ก่อนจะส่งเสียงน้อยๆ หลังจากนั้นเลนส์ก็กลับมานั่งที่ของเขา (ไม่ต้องให้ดาเดรวานดูออกว่าเป็นเครื่องเก็บเสียงแบบหายากของรัฐบาล)“เอาล่ะทีนี้ตอบได้ยัง”

“นายไปได้ของเจ๋งๆอย่างนั้นจากที่ไหน” เดรวานพยักเพยิดไปที่อุปกรณ์ตัวเล็กนั้น ที่จริงเขาจะถามนานแล้ว มันคาใจตั้งแต่ซิมส์ประหลาดในอกเขา และความลับที่ปิดซ่อนเอาไว้

“คำตอบฉันอยู่ในคำตอบนาย “ นี้คือคำตอบหรือ เดรวานกลืนน้ำลาย ยังไงตอนนี้เขาก็อยู่ในสถานะเป็นรองให้เลนส์อยู่แล้ว ทางที่ดีควรจะต้องรีบตอบคำถามของเจ้าพระคุณมนุษย์เหล็กก่อนแล้วล่ะ

“ฉํนยังไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ “ เดรวานหยุดสักพักก่อนพูดต่อ

“ใช่เจน รึเปล่า”

เลนส์เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้รับคำตอบ เขาไม่เคยจะรู้ว่าเดรวานจะไม่มั่นใจในการคาดคะเนตัวเอง แต่มาลองคิดดีๆ แบบนี้แหละคือสเน่ห์ของพ่อหนุ่มก่อนเป็นอัจฉริยะ ทำเป็นไม่มั่นใจแต่ก็ถูกหมดทุกข้อ

 และข้อนี้ก็เหมือนกัน  อย่างกับรู้อนาคตเลนส์รู้ได้ว่าต่อจากนี้คือการหาเหตุผลมาอ้างความคิดของตนเอง

และมันก็ไม่ผิดคาด

“เอาง่ายๆนะ นอกจากนายฉันก็ไม่สนิทกับใครเลย ยกเว้นเจนไว้คน ยัยนี้เป็นคนฉลาดมากด้วย ทุกๆอย่างมันชี้ไปที่เธอ ถ้าฉันโดนล่าจริงๆเจนต้องรู้ เป็นไปได้สูงที่เธอจะร่วมมือ แถมยัยนั้นอยู่สายพันธุกรรมแล้วด้วย ทุกอย่างมันลงล็อคเป๊ะ”

เดรวานกอดอกไประหว่างพูด เสริมมาดของเขาให้ดูดี จนเลนส์ละสายตาไม่ได้ มันเหมือนกับเมื่อก่อนตอนที่เขาเจอพ่อหนุ่มคนนนี้ครั้งแรก ท่านี้เขาเห็นมาจนชินตาแล้วแต่ก็ชอบอยู่ดี

“แต่ที่ฉันไม่แน่ใจ…ทำไหมเจนต้องช่วยฉัน”  เจนฉลาดพอที่จะไม่เอาชีวิตตัวเองมาเสี่ยง เดรวานเอามือกุมคางอย่างลืมตัวเหมือนทุกครั้งที่เขาชอบคิดหาวิธีทอลองเคมี โดยลืมอีกชีวิตในห้องไปโดยปริยาย

เลนส์ยกยิ้ม “ บางทีเหตุผลมันอาจจะใช้หลักการมาช่วยไม่ได้หรอกนะ”

เดรวานเหมือนได้สติ เขาเหลือบตามองเลนส์ วางมือบนตัก ให้ตายเถอะ…เขาลืมได้ไงว่าเลนส์ก็อยู่ในห้อง ก่อนที่ชาหนุ่มจะฉุดคิด  เขาแบมือต่อหน้ากึ่งคน กระดิกนิ้ว เรียกรอยย่นของหน้าใต้หน้ากากของอีกคนเป็นอย่างนี้

“แปลว่าฉันตอบถูกตามสัญญา” คนผมดำไม่รู้หรอกว่าตัวเองตอนนี้ดูกวนแค่ไหน

เลนส์ละสายตาไปทางอื่น….บางทีเขาก็ต้องใช้สมองเหมือนกัน แค่ใครจะรู้ว่าอยู่ใกล้คนฉลาดนานๆความฉลาดก็ออสโมซิสมาหาเขาเพื่อเพิ่มรอยยักในสมองได้ด้วย

“โอเค..งั้นถอดเสื้อ”

.

.

.

…………………………………………………………………..

บู๊แล้วคะ

555555555555555555555555555555

บ้าเหรอ กาขอตัดตรงนี้ออกก่อนแล้วกันนะ เพราะถ้าจะเขียนลามไปบู๊กาว่าสิบหน้าก็ไม่พอ ขอจบคำถามข้อสุดท้ายเดรวานก่อน ตอนหน้าจะได้สู้กันดุเดือดแน่นอน

ก็แอบเปิดความลับไปอีกหนึ่งกันอีกตามเคย

พร้อมตัวละครเอกที่มีความสำคัญมากๆก็มากับเขาแล้ว น้องเจนหลานรักของยายนั้นเอง

ตอนหน้าจะได้เห็นแม่นางออกโรงหรือไม่ก็มาลุ้น

พร้อมฉากเปลือยท่อนบนของเดรวาน (อะไรๆคิดขึ้น)

……………………………………………………………………………..

ท้ายหน่วยการเรียนรู้

Q : ท่านการิอ่านอยากเขียนโนเด็กบ้างไหม

กา : กามิบังอาจคะ เพื่อนอ่านเยอะกลัวสาวเจ้าใจแตกกันไป

Q : แน่ใจเหรอ หรือว่าเขียนไม่เป็น

กา :  สารภาพกาเด็กดีไม่เคยอ่านนนนนน  ขอให้ขี้รั่ว

อีกาได้ขี้รั่วแล้ววันนี้///////////////

….

 

.

.

………………….คำถาม ตอบด้วยน่า………………………….

คุณจะเลือกอยู่ข้างในระหว่าง วิทยาศาสตร์ กับ ไสยศาตร์

ตอนนี้ยังตอบกันไม่ได้จะเปลี่ยนเมื่อไหร่ก็ได้น่ะ ตอบกันด้วยยยย

ปล #ทีมคริส #ทีมกา #ทีมเพื่อนรักฮาร์ดคอ

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา