HOT PLAYBOY ร้อนรัก ร้ายลึก

8.7

เขียนโดย TheDaziie

วันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2559 เวลา 22.28 น.

  9 CHAPTER
  0 วิจารณ์
  11.88K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 มกราคม พ.ศ. 2559 23.19 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) CHAPTER 4 [100%] :: HOT PLAYBOY

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

CHAPTER 4

 

 

 

          "แกพูดจริงใช่ไหมโปสเตอร์ ไม่ใช่ว่าสร้างเรื่องมาหลอกย่านะ" คุณย่าหันมาถามย้ำเป็นครั้งที่สิบเห็นจะได้ขณะกำลังเดินกลับไปยังอาคารจอดรถโดยมีโปสเตอร์ลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ตามหลังไปติดๆ และมีฉันเดินอยู่ข้างเขา

          เชื่อไหม...ตอนนี้ฉันคันปากอยากบอกคุณย่าเหลือเกินว่าจริงๆ แล้วทุกอย่างเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ แต่พอเห็นสีหน้าและแววตาดุๆ ของท่านที่จ้องมองมาคำพูดเหล่านั้นก็ถูกกลืนหายลงไปในคอโดยอัตโนมัติทันที ท่าทางดุๆ แบบนี้ใครจะกล้าพูดออกไปกันล่ะ

          แล้วเดี๋ยวก่อนนะ! ทำไมไอ้หน้าหล่อแต่ชอบเลี้ยงงูไว้บนหัวต้องมาจับมือฉันแน่นขนาดนี้ด้วย คือจับตั้งแต่บอกกับคุณย่าว่าฉันเป็นแฟน (หลอกๆ) กับเขาแล้วไง และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ปล่อยมือเลยด้วย มันจะจับนานเกินไปแล้ว!

          ลองนึกภาพดูนะว่าโปสเตอร์ลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ของคุณย่าด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างหนึ่งก็จับมือฉันแน่นประหนึ่งคุณพ่อกลัวลูกสาวตัวน้อยเดินหลงกับไปนักท่องเที่ยวภายในสนามบินก็ไม่ปาน แถมพอฉันจะชักมือกลับก็ยิ่งเพิ่มแรงบีบแน่นมากขึ้นด้วย บ้าบอที่สุด!

          "โธ่คุณย่า ผมไม่สร้างเรื่องมาหลอกคุณย่าหรอกครับ เชื่อใจหลานคนนี้บ้างสิ"

          เหอะ! เชื่อใจงั้นเหรอ? ฉันว่าคนอย่างแกมันไม่น่าเชื่อใจอะไรได้เลยสักนิดมากกว่ามั้ง!

          พอคุณย่าทำหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อกับคำพูดของหลานชายตัวเอง คนตัวโตก็รีบก้าวยาวๆ ตามไปออดอ้อนผู้เป็นย่าแทบจะทันที และแทนที่เขาจะเดินไปคนเดียวกลับออกแรงลากให้ฉันเดินตามไปด้วย แถมยังทำเป็นแกว่งมือไปมาเหมือนต้องการจะให้คุณย่าเห็นยังไงยังงั้น

          ไอ้บ้านี่ต้องการอะไร มันต้องการอะรายยยยยย!

          "จับมือฉันทำไมเนี่ย ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะ!" ฉันหันไปกระซิบเสียงขุ่นถามพร้อมๆ กับดึงมือตัวเองออกจากฝ่ามือหนา แต่ร่างสูงกลับไม่ยอมให้ฉันทำแบบนั้นง่ายๆ ฉันจึงเริ่มออกอาการงี่เง่าอีกครั้ง "บอกให้ปล่อยไงเล่า!"

          "จะเสียงดังทำไมวะ เดี๋ยวคุณย่าก็จับได้กันพอดี!" โปสเตอร์รีบหันมาปรามใส่ฉันเสียงเบาพลางกระชับฝ่ามือให้แน่นขึ้นด้วย หากแต่ฉันไม่สนใจและพยายามแกะมือตัวเองให้หลุดออกจากการเกาะกุมของเขา

          แต่ไม่ว่าจะพยายามสักเท่าไหร่มันก็ไม่เป็นผล ทำไมถึงแกะยากแกะเย็นแบบนี้นะ!

          "เดินเฉยๆ ก็ได้ป่ะ ไม่เห็นต้องจับมือเลยนี่"

          "ไหนๆ ก็จับมือกันมาตั้งต้นแล้วจับอีกนิดจะเป็นไรไปวะ"

          "แต่ฉันขนลุก! แกกับฉันเป็นเพื่อนกันนะ" ฉันทำหน้ารังเกียจส่งไปให้อย่างไม่ปิดบัง

          "แล้วยังไง...เพื่อนกันแล้วยังไง" ส่วนไอ้เพลย์บอยก็หันมาถามพลางทำหน้ามึนใส่ เห็นแล้วรู้สึกมันเขี้ยวจนอยากจะยื่นมือไปตบให้เสียโฉมไปเลยจริงๆ

          "ก็ฉันไม่ชอบจับมือกับเพื่อน ฉันต้องจับมือกับแฟนเท่านั้น...เข้าใจป่ะ!"

          "ก็ตอนนี้แกเป็นแฟนฉันอยู่ แล้วฉันจับมือแกมันผิดตรงไหน!"

          อะ...ไอ้บ้า! ยังจะต่อปากต่อคำอีกนะ เดี๋ยวก็เอานิ้วจิ้มให้ตาบอดซะเลยนี่!

          "ก็..."

          "สองคนเถียงอะไรกัน!" คุณย่าที่เดินนำอยู่หันมาถามพร้อมกับทำหน้าดุๆ ส่งมาให้ ฉันกับโปสเตอร์จึงพร้อมใจกันตอบปฏิเสธเพื่อไม่ให้คุณย่าซักถามอะไรให้ยืดยาว

          "เปล่าครับ / เปล่าค่ะ"

          หลังจากนั้นฉันกับโปสเตอร์ก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกันอีก แต่ก็ยังคงจับมือกันเดินไปจนถึงรถ BMW สีดำคันหรู คุณย่าบอกให้ฉันนั่งข้างหน้ากับโปสเตอร์ ส่วนตัวท่านจะไปนั่งด้านหลังแทนโดยให้เหตุผลว่า...

          'ให้แฟนเขานั่งด้วยกันดีกว่า'

          เล่นพูดมาแบบนี้แล้วจะให้ฉันตอบยังไง ในเมื่อคัดค้านอะไรไม่ได้ฉันจึงต้องยอมไปนั่งข้างหน้ากับโปสเตอร์น่ะสิ

          ระหว่างทางกลับบ้านฉันไม่คิดจะพูดอะไรกับโปสเตอร์อีกและเอาแต่นั่งเงียบมาตลอดทาง อาจเป็นเพราะตอนนี้เริ่มดึกมากขึ้นทุกทีเลยทำให้ความง่วงกลับมาเล่นงานฉันอีกครั้ง ผิดกับคุณย่าที่ถามสารทุกข์สุขดิบหลานชายไม่หยุดจนกระทั่งรถมาจอดเทียบอยู่หน้าประตูรั้วของบ้านหลังสีครีมหลังหนึ่ง

          "ขอบใจมากนะที่อุตส่าห์ไปรับย่าเป็นเพื่อนเจ้าโปส" คุณย่าเลื่อนกระจกรถมาพูดกับฉันพร้อมกับยิ้มให้

          "ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณย่า นี่ก็ดึกมากแล้วคุณย่ากลับไปพักผ่อนดีกว่าค่ะ"

          "จ้ะ...งั้นว่างๆ ก็แวะมาหาย่าบ้างนะเฌอเอม เดี๋ยวย่าให้โปสเตอร์ไปรับ" คุณย่าส่งยิ้มให้ฉันอีกครั้ง ฉันจึงส่งยิ้มบางๆ กลับไปพลางพยักหน้าช้าๆ กับคำชวนของท่าน "เข้าบ้านไปนอนเถอะ"

          "ถึงบ้านแล้วจะโทรหานะที่รัก รอรับโทรศัพท์ด้วยล่ะ" โปสเตอร์เสนอหน้ามาพูดกับฉันแล้วยักคิ้วส่งมาให้อย่างกวนๆ นี่ถ้าไม่ติดว่าคุณย่าอยู่ในรถด้วยล่ะก็...ฉันจะพุ่งเข้าไปจิกตาหมอนี่ให้ร้องโอดครวญเลย

          ให้ตายสิ...ทำไมถึงกะล่อนแบบนี้ก็ไม่รู้!

          "อะ...อื้ม ขับรถกลับบ้านดีๆ ล่ะ"

          ใจจริงอยากจะบอกว่า 'เออ รีบไปให้พ้นๆ เลย' มากกว่าคำพูดเมื่อกี้นะ แต่เพราะมีคุณย่าอยู่ด้วยไงฉันถึงพูดแบบนั้นออกไปไม่ได้

          "ครับผม!" คนกะล่อนทำท่าตะเบ๊ะส่งกลับมาให้ก่อนจะกดเลื่อนกระจกขึ้นแล้วค่อยๆ เคลื่อนตัวออกไปจนไฟท้ายรถหายลับไปจากสายตา ฉันจึงหันหลังเดินกลับเข้าไปด้านในด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้าเกินกว่าจะบรรยาย

          "เฮ้อออออ!" ฉันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่พร้อมกับที่สองมือก็ยกขึ้นขยำเส้นผมไปมาอย่างคิดไม่ตก

          นี่สรุปว่าฉันต้องการกลายเป็นแฟน (จอมปลอม) กับโปสเตอร์นับแต่นี้ไปจนกว่าคุณย่าจะกลับนิวซีแลนด์ใช่ไหม ไม่เอานะ! ฉันไม่อยากเล่นละครหลอกลวงผู้ใหญ่แบบนี้เลย ไม่อยากเป็นแฟนกับไอ้เพลย์บอยนี่ด้วย ไม่เคยคิดอยากจะเป็นเลยสักนิดเดียว ไม่นะๆๆๆ ฮือออออ~

        ใครก็ได้ช่วยฉันที...ช่วยเฌอเอมด้วยยยยยย

 

          สองวันต่อมา...

          "ที่นี่บ้านใครฮะพี่เอม แล้วทำไมเราถึงไม่ไปโรงเรียนกันล่ะฮะ"

          เด็กชายวัยสี่ขวบซึ่งอยู่ในชุดนักเรียนของโรงเรียนนานาชาติโอลิเวียเอ่ยถามพลางกระตุกมือฉันถี่ๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมองด้วยใบหน้าซึ่งแสดงออกอย่างชัดเจนว่ากำลังสงสัยเมื่อเห็นบ้านหลังใหญ่ที่ไม่คุ้นตา

          "บ้านเพื่อนพี่เอมเองคับ"

          "แล้วเรามาทำไมกันฮะ โคลินต้องไปโรงเรียนนะ" เด็กน้อยยังคงถามด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้ว ดวงตากลมโตจ้องมองฉันอย่างต้องการคำตอบ

          "คือว่า..."

          "พี่เอมของนายพามากินอาหารเช้ากับคุณย่าก่อนไปโรงเรียนไงล่ะ" โปสเตอร์ซึ่งอยู่ในชุดนิสิตผิดระเบียบทุกตารางนิ้วเดินออกมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าฉันกับโคลิน ใบหน้ายุ่งๆ ทว่าเนียนใสราวกับผิวเด็กอ่อนบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเขาถูกปลุกให้ตื่นนอนแต่เช้าตรู่จากผู้เป็นย่าแน่ๆ

          "คุณย่าไม่ได้อยู่ไต้หวันกับปะป๊าหม่าม๊าเหรอฮะพี่เอม ทำไมคุณย่าถึงอยู่ที่นี่" เพราะคำพูดที่ไม่ได้ขยายความของโปสเตอร์ทำให้เด็กขี้สงสัยอย่างโคลินต้องเปิดปากถามอีกครั้ง ฉันจึงส่ายหน้าเบาๆ เป็นการปฏิเสธ

          "ไม่ใช่คุณย่าของเราคับโคลิน แต่เป็นคุณย่าของพี่โปสเตอร์" ฉันชี้มือไปที่ร่างสูงตรงหน้าเพื่อบอกกับโคลินว่านี่คือคนที่ฉันพูดถึงเมื่อครู่ “โคลินยกมือไหว้พี่โปสเตอร์สิคับ”

          "โคลินไม่ไหว้ได้ไหมฮะพี่เอม" เด็กน้อยกระตุกมือฉันอีกครั้ง ฉันจึงขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมโคลินถึงถามออกมาเช่นนั้น แต่พอได้ยินประโยคถัดมาฉันก็ถึงกับต้องยกมือขึ้นปิดปากตัวเองเพื่อกลั้นขำทันที "พี่คนนี้ดูไม่น่าเคารพเลย โคลินก็เลยไม่อยากไหว้"

          "อ้าวเฮ้ย! ทำไมพูดแบบนี้ล่ะไอ้ตัวเล็ก" คนถูกปรามาสเดินจ้ำอ้าวเข้ามาหาโคลินด้วยท่าทางเอาเรื่อง ก่อนจะยื่นมือมาผลักหัวตุ๊กตาตัวโปรดที่โคลินกอดอยู่เบาๆ แต่ดูเหมือนเจ้าของตุ๊กตาจะไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก

          "อย่ามาแตะต้องโพโรโระของโคลินนะ!"

          "อะไรกัน! แตะนิดแตะหน่อยก็ไม่ได้ ขี้หวงนะเราอ่ะ"

          "พี่เอมฮะ...โคลินไม่ชอบหน้าพี่คนนี้เลย" เด็กน้อยหันมาฟ้องฉันพลางทำปากมู่ทู่ ฉันจึงตวัดสายตาไปมองไอ้ตัวการอย่างนึกตำหนิ

          "เลิกแกล้งน้องชายฉันได้แล้ว ถ้าเกิดโคลินเอาไปฟ้องป๊าขึ้นมา...แกโดนเล่นงานแน่ๆ"

ฉันพูดเสียงเบาเพราะไม่อยากชี้โพรงให้กระรอกอย่างโคลินไปฟ้องป๊าว่าถูกโปสเตอร์รังแก เพราะถ้าเกิดเรื่องนี้รู้ถึงหูป๊าเมื่อไหร่ รับรองได้เลยว่าโปสเตอร์ถูกป๊าฉันเล่นงานโทษฐานที่ทำให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนขุ่นเคืองใจแน่นอน

          ทุกคนได้ยินไม่ผิดหรอกค่ะ โคลินเป็นน้องชายแท้ๆ ของฉันเอง น้องชายที่เกิดช้ากว่าฉันถึงสิบเจ็ดปี! ช่างเป็นช่วงเวลาอันยาวนานเสียจริงๆ ด้วยความที่อายุของเราสองคนห่างกันมากขนาดนี้ บรรดาเครือญาติหรือคนรอบข้างต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าโคลินคือ 'ลูกหลง' ของครอบครัว และก็พากันกังวลว่าฉันกับโคลินจะเข้ากันไม่ได้ ประมาณว่าอายุห่างกันมากเกินไปอาจทำให้มีช่องว่างระหว่างวัยอะไรทำนองนั้น

แต่เอาเข้าจริงก็ไม่เห็นเป็นอย่างที่คนอื่นๆ กังวลเลยนะ ถึงเราจะมีอายุห่างกันเกือบยี่สิบปี แต่ฉันมองว่ามันไม่ใช่อุปสรรคสำหรับเราสองคนพี่น้องสักเท่าไหร่ ฉันก็ยังเล่นกับโคลินเหมือนพี่น้องคนอื่นๆ เล่นกัน เราสนิทกันพอสมควรเลยแหละ ยิ่งเวลาอยู่บ้านโคลินก็มักจะทำตัวติดกับฉันประหนึ่งฝาแฝดอินจันก็ไม่ปาน

          "เออไม่แกล้งแล้วก็ได้" ร่างสูงโบกมือไปมาเป็นการบอกว่า 'ยอมแพ้' แต่ก็ยังไม่วายหาเรื่องให้ตัวเองโดนด่า "ว่าแต่ทำไมน้องชายแกปากคอเราะร้ายเกินเด็กอนุบาลแบบนี้วะ อ๋อ...ฉันรู้ล่ะ เพราะว่าถอดแบบมาจากแกจนหมดเลยไง"

          "แกคงไม่อยากให้ฉันร้ายแบบลาวาหรอกนะโปสเตอร์" ฉันหรี่ตาลงพร้อมกับทำหน้านิ่ง ทว่าคนตรงหน้าทำแค่เพียงยักไหล่อย่างกวนประสาทเท่านั้น หนอย...รู้จักเฌอเอมน้อยไป เดี๋ยวจะร้ายจะแรงอย่างลาวาให้ดู!

          "แกน่ะยังห่างจากไอ้ลาวาหลายขุม อย่าคิดเอาความเลวร้ายไปเทียบกับยัยนั่นเลย ทำตัวน่ารักๆ แบบนี้อ่ะดีแล้ว"

          "ฉันจะไม่ทำตัวน่ารักก็เพราะมีเพื่อนแบบแกนั่นแหละ"

          "เพื่อนอะไรกัน บอกแล้วว่าแกกับฉันน่ะเป็น..."

          "ห้ามพูดออกมานะ! ห้ามพูดคำนั้นต่อหน้าน้องชายฉันเด็ดขาด!"

          ฉันพุ่งตัวเข้าไปปิดปากโปสเตอร์อย่างลนลานเมื่อลางสังหรณ์บอกว่าเขากำลังจะพูดอะไร จะให้โคลินรู้เรื่องที่ฉันกับเขาแกล้งแสดงว่าเป็นแฟนกันเพื่อตบตาคุณย่าไม่ได้เด็ดขาด เพราะถ้าโคลินรู้...ป๊ากับม๊าก็จะรู้เรื่องนี้เหมือนกัน

          แล้วลองคิดดูว่าจุดจบเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร มันคงจบไม่สวยแน่แม้จะเป็นแค่การเล่นละครฉากหนึ่งเท่านั้นก็เถอะ

          "มากันแล้วเหรอเด็กๆ ย่าเตรียมอาหารเช้าเสร็จพอดี...มาๆ มากินกันเร็ว" คุณย่าซึ่งอยู่ในชุดสบายๆ เดินยิ้มออกมาหยุดยืนอยู่บริเวณประตูบานไม้ขนาดใหญ่ ท่านมองใบหน้าฉันครู่หนึ่งก่อนลากสายตาไปมองโคลินที่ยืนกอดตุ๊กตาและมองคุณย่าด้วยความแปลกใจ จากนั้นก็เดินเข้ามาใกล้พร้อมเอ่ยถามฉันด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น "น้องชายเหรอจ๊ะ"

          "ใช่ค่ะคุณย่า...น้องชายของเอมเอง" ฉันผละออกจากโปสเตอร์พลางตอบรับยิ้มๆ แล้วหันหน้าไปมองคนตัวเล็ก "โคลินสวัสดีคุณย่าด้วยคับ"

          "สวัสดีฮะคุณย่า"

          "หน้าตาหล่อเหลาแต่เด็กเลยนะเนี่ย แสดงว่าพ่อแม่เราสองคนต้องหน้าตาดีมากแน่ๆ"

          "หลานชายคุณย่าก็หล่อเหมือนกันนะครับ แถมยังมีเสน่ห์มากๆ ด้วย" แหม...รีบเสนอหน้าพูดขึ้นมาเชียวนะ โธ่ๆ ทำไมเด็กคนนี้ถึงขี้อิจฉานักล่ะ กลัวจะถูกแย่งความรักไปหรือยังไง?

          แต่ถึงจะพูดแบบนั้นคุณย่าก็ยังเพ่งความสนใจมาที่โคลินอยู่ดี ทำให้คนตัวโตออกอาการฟึดฟัดในทันที...

          "ป่ะ! ไปกินโจ๊กหมูร้อนๆ กันดีกว่า"

          "โคลินขอช็อกโกแลตเย็นด้วยได้ไหมฮะ"

          "ได้สิลูก เดี๋ยวย่าบอกป้าแม่บ้านทำช็อกโกแลตเย็นให้นะ"

          พูดจบคุณย่าก็จูงมือโคลินเดินเข้าไปในบ้าน ทิ้งให้ฉันกับโปสเตอร์ยืนอึ้งกันอยู่พักหนึ่งก่อนจะเป็นฉันที่ตั้งสติได้จึงรีบเดินตามทั้งสองคนเข้าไป โดยไม่คิดจะหันไปสนใจผู้ชายอีกคนซึ่งตอนนี้ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ออกมาอยู่รอมร่อแล้ว

        ขอโทษนะโปสเตอร์...แต่ฉันว่าตอนนี้แกตกกระป๋องแล้วล่ะ เพราะน้องชายฉันกำลังจะมาแทนที่แก ฮ่าๆ

 

 

TO BE CONTINUED...

 

ภาพประกอบจาก : www.tumblr.com , www.siamzone.com ฯลฯ 

 

The-Daziie's Talk

 

[16/02/2016] ตัวสร้างปัญหาและทำให้คนอื่นเดือดร้อน ไม่ใช่ใครที่ไหน...แต่เป็นโปสเตอร์จอมกะล่อน ให้ความมั่นหน้าและหน้าด้าน 10 กะโหลก! เวรกรรมของเฌอเอมต้องมาพบเจอคนแบบนี้ โถ่...น่าสงสาร เป็นเพื่อนอยู่ดีๆ กลายเป็นแฟน (หลอกๆ) ไปซะแล้ว เพราะความเห็นแก่ตัวของอีเพลย์บอยแท้ๆ เลย ฉันขอสาปแช่งให้แกตกหลุมรักเพื่อนตัวเอง เพี้ยง! 555555555555 คอมเม้นท์ + โหวตให้เค้าด้วยยยย

[18/02/2015]  โอ๊ยๆๆๆ อีเพลย์บอยโดนแย่งความรักจากคุณย่าไปแล้ว ตกกระป๋องแล้วค่า สมน้ำหน้า 5555 คุณย่ามีหลานชายคนโปรดคนใหม่แล้ว แถมโคลินยังไม่ชอบขี้หน้าอีก ควรพิจารณาตัวเองไหมคะโปสเตอร์? แต่อย่าคิดว่าจะสะเทือนผิวหนังหนาๆ นะ นางยังกะล่อนและกวนบาทาได้มากกว่านี้ รออ่านได้เลย!!! 

 

นักอ่านคนไหนสนใจสั่งซื้อนิยาย สอบถามได้ที่แฟนเพจ The-Daziie นะคะ โดยการเสิร์ชหาชื่อนี้ใน Facebook ได้เลย (จริงๆ ทำลิ้งค์ไว้แต่มันกดไม่ได้ ยังไงใครสนใจเสิร์ชหาชื่อแล้วกันเนอะ)

 

ตัวอย่างหน้าปกนิยายค่ะ

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา