HOT PLAYBOY ร้อนรัก ร้ายลึก
เขียนโดย TheDaziie
วันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2559 เวลา 22.28 น.
แก้ไขเมื่อ 7 มกราคม พ.ศ. 2559 23.19 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) CHAPTER 3 [100%] :: HOT PLAYBOY
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
CHAPTER 3
Suvarnabhumi Airport
"ถึงแล้วโว้ยเฌอเอม ตื่นๆๆๆ"
"หื้อ..." ฉันค่อยๆ ปรือตาทั้งสองข้างขึ้นอย่างช้าๆ หลังได้ยินเสียงของโปสเตอร์ที่ดังโหวกเหวกลั่นรถ ก่อนหันไปมองซ้ายมองขวาแล้วพบว่าตอนนี้เรากำลังอยู่ในบริเวณลานจอดรถตรงข้ามกับอาคารผู้โดยสารของสนามบิน
ง่วงจัง...รู้สึกว่าตอนนี้หนังตาหนักมากเหมือนมีก้อนหินขนาดยักษ์มาถ่วงไว้ยังไงยังงั้นเลย
เพราะอาการง่วงเข้าครอบงำอย่างรุนแรงฉันจึงผล็อยหลับไปหลังจากพาตัวเองขึ้นมานั่งบนรถของโปสเตอร์ที่จอดรออยู่หน้าบ้าน นอนหลับสลบไสลมาตลอดทางกระทั่งมารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนได้ยินเสียงของไอ้บ้าข้างๆ ทะลุเข้าหูนั่นแหละ
"รีบๆ ไป เสร็จธุระแล้วฉันจะได้กลับไปนอน"
"ประโยคนั้นฉันควรเป็นคนพูดมากกว่าป่ะ" ฉันหันไปจิกตาใส่โปสเตอร์เมื่อเขาพูดจาเหมือนตัวเองง่วงนอนเสียเต็มประดาทั้งที่ในแววตาของเขาไม่มีเค้าความง่วงอยู่ในนั้นเลยแม้แต่น้อย
ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะว่าไอ้บ้านี่มันกำลังกวนประสาทฉันอยู่ไงล่ะ!
"อ้าวเหรอ...ซอรี่นะ ฮี่ฮี่" หัวเราะด้วยท่าทางดัดจริตที่สุด ไม่รู้ไปจดจำท่าทางแบบนี้มาจากใคร
ฉันเลิกสนใจโปสเตอร์แล้วเริ่มออกเดินไปยังทางเชื่อมระหว่างอาคารจอดรถกับอาคารผู้โดยสาร เดินมาเรื่อยๆ กระทั่งมาหยุดอยู่บริเวณประตูทางออกของผู้โดยสารขาเข้าประเทศพลางกวาดสายตามองไปรอบๆ แม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลาดึกมากแล้วทว่าผู้คนยังหนาตาและพลุกพล่านกันอยู่เลย
ว่าแต่หมอนี่พาฉันมาสนามบินทำไมกัน?
"แล้วนี่มาสนามบินทำไม" หันไปเอ่ยถามร่างสูงซึ่งยืนอยู่ข้างๆ ด้วยความสงสัย ก็พอจะรู้นะว่ามาสนามบินคงไม่ได้มาดูหนังแน่นอน แต่ที่ถามก็เพราะอยากรู้ว่ามันเรื่องอะไรที่ฉันต้องมากับเขาด้วย
"ฉันพาแกมาเดินเล่นยามดึกแก้ง่วงมั้ง..." เขาเหลือบนัยน์ตาสีเฮเซลมามองฉันแวบหนึ่งแล้วพูดต่อ "รอดูเถอะน่า รับรอบว่าแกได้ 'เซอร์ไพรส์' แน่ๆ ว่ะ"
"ศิลปินเกาหลีจะมาหรือไงถึงบอกว่ามีเซอร์ไพรส์ หรือนิชคุณกลับไทยวันนี้?" พูดจบประกายในแววตาก็สุกใสขึ้นทันใด สารภาพเลยว่าฉันชอบนิชคุณมาก เขาเป็นผู้ชายไทยในวงบอยแบนด์เกาหลีคนแรกที่ฉันชอบและอยากเจอตัวเป็นๆ สักครั้งหนึ่ง
ทว่าพอได้ยินคำตอบจากผู้ชายปากชอบอ้อนมืออ้อนเท้าแล้วความตื่นเต้นก็ถูกแทนที่ด้วยความหมั่นไส้ซึ่งปะทุขึ้นมาเหมือนภูเขาไฟอย่างหักห้ามไม่ได้!
"นิชคุณหรือจะสู้โปสเตอร์คนหล่อ จะบอกให้นะว่าความหล่อของฉันไม่มีใครเทียบได้หรอกเว้ย"
"เทียบไม่ได้หรือไม่มีใครอยากเทียบกันแน่"
"เทียบไม่ได้สิวะ ใครๆ ก็บอกว่าฉันหล่อและมีเสน่ห์มาก ก็มีแต่แกนั่นแหละที่มองไม่เห็นความหล่อของฉัน" ทำเป็นมาสะบัดบ๊อบใส่ โธ่ๆๆ ไว้ผมให้ยาวจนถักเปียได้ก่อนเถอะค่อยมาสะบัดใส่ฉันนะไอ้เพลย์บอย...เห็นแล้วเพลียจิตอ่ะ
"จ้ะพ่อคนหล่อ มั่นหน้าเหลือเกินนะคะ ถ้ามั่นมากขนาดนั้นทำไมไม่ไปเป็นดาราให้รู้แล้วรู้รอดซะเลยล่ะ" ยิ่งคุยยิ่งหมั่นไส้นะ คำตอบว่าหมั่นแล้ว...เจอท่าทางการตอบเข้าไปยิ่งหมั่นขึ้นเป็นทวีคูณ
"แกลองคิดดูว่าถ้าฉันเป็นดาราขึ้นมา พวกณเดชน์ เจมส์จิ มาริโอ้จะได้แจ้งเกิดกันป่ะ? นี่คือเหตุผลที่ฉันขอเป็นคนธรรมดาแล้วมาเป็นเพื่อนกับพวกแกไงล่ะ ฮี่ฮี่"
ท่าทางหัวเราะแบบดัดจริตมาอีกแล้ว...ไม่ไหวแล้วนะ ฉันจะรับความหลงตัวเองของไอ้บ้านี่ไม่ไหวแล้ว!
เกิดมายี่สิบกว่าปีฉันยังไม่เค๊ยไม่เคยเห็นใครหลงตัวเองได้เท่าหมอนี่เลย และเชื่อว่าถ้าหากลาวาอยู่ด้วยกันตอนนี้ก็คงได้โดนยัยนั่นด่ากราดเพราะทนฟังอีกต่อไปไม่ได้แล้วแน่นอน
"พอๆ ฉันจะไม่คุยกับแกแล้ว ยิ่งคุยยิ่งเลอะเทอะ" ฉันเบือนหน้าหนีเมื่อโปสเตอร์ทำท่าจะพูดอะไรกลับมาอีก ขี้เกียจฟังไอ้คนข้างๆ โม้นั่นนี่ให้ฟังอีกแล้ว ปล่อยให้เขามั่นหน้าไปคนเดียวเถอะ
สบายใจก็ทำต่อไปนะโปสเตอร์นะ...
ยี่สิบนาทีต่อมา...
"มาคนเดียวไม่ได้หรือไง ทำไมต้องลากฉันออกมาด้วยฮะ!"
เพราะต้องยืนรอเป็นเวลานานความง่วงจึงเริ่มครอบงำฉันอีกครั้ง แถมยังมาพร้อมกับความงี่เง่าเต็มพิกัดเหมือนพวกเด็กน้อยงอแงเวลาง่วงนอนอีกด้วย ดังนั้นฉันจึงออกอาการฟาดงวงฟาดงาใส่โปสเตอร์ที่ยืนอยู่ข้างๆ กัน
ให้ตายสิ...ง่วงจนตาจะปิดอยู่แล้ว!
ฉันยกมือขึ้นเสยผมสีน้ำตาลเข้มเป็นลอนยาวถึงกลางหลังของตัวเองอย่างลวกๆ ยิ่งง่วงความงี่เง่าก็ยิ่งเพิ่มขึ้น นี่ถ้าไม่ติดว่าเวลานี้มันดึกเกินไปสำหรับลูกผู้หญิงที่อาจโดนล่อล่วงไปทำมิดีมิร้าย แถมรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ซึ่งดูจะปลอดภัยกว่ายานพาหนะอื่นๆ ดันปิดให้บริการไปแล้วล่ะก็...ฉันคงไม่ทนยืนอยู่ตรงนี้ให้หงุดหงิดรำคาญใจหรอก
และฉันจะไม่ยิ่งหงุดหงิดมากกว่านี้เลยนะถ้าโปสเตอร์จะสนใจคำพูดของฉันบ้าง แต่นี่ไม่เลย! ไม่สนใจไม่พอยังพูดตอบกลับมาอย่างไม่สะทกสะท้านอะไรอีกด้วย!
"เอาน่า...เดี๋ยวก็ได้กลับไปนอนแล้ว ใจร่มๆ นะ"
"ฉันล่ะเบื่อแกที่สุดไอ้เพลย์บอย!" ฉันสะบัดหน้าหนีไปอีกทาง ตั้งใจว่าจะเลิกสนใจไอ้หมอนี่สักพักแต่แล้วก็ต้องหันกลับไปทางเดิมอีกครั้งเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นแอร์โฮสเตสสาวสวยกลุ่มหนึ่งกำลังเดินออกมาจากทางออกของผู้โดยสารขาเข้าประเทศและกำลังจะผ่านหน้าไป
แววตาเป็นประกายวาววับประหนึ่งหมาป่าจ้องจะตะครุบเหยื่อบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าผู้ชายเจ้าชู้ตัวพ่อข้างๆ กำลังคิดอะไรอยู่...และฉันนี่แหละจะเป็นคนหยุดความคิด ‘เลวๆ’ ของเขาเอง
ป้าบ!
"โอ๊ยยยย! ตบหัวฉันทำไมวะ เจ็บนะเว้ย!"
ฉันไม่ลังเลที่จะฟาดมือลงบนศีรษะของผู้ชายตัวโตจนแหกปากร้องลั่นสนามบิน ขณะเดียวกันคนถูกประทุษร้ายเมื่อครู่ก็ยกมือขึ้นลูบศีรษะตัวเองพลางนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ
หัวงูดีนัก ต้องเจอตบแบบนี้ซะบ้างจะได้มีสติ!
"ก็ตบให้เจ็บไง สมน้ำหน้า...หลีสาวไม่รู้เวล่ำเวลา!"
"พูดแบบนี้อยากโดนดีใช่ไหมยัย..."
"นั่นแกกำลังทำอะไรน่ะโปสเตอร์!"
ก่อนฉันจะถูกไอ้เพลย์บอยลงโทษที่กล้าไปแตะต้องกระหม่อมบางๆ ของมันด้วยการล็อกคอจนเกือบหายใจไม่ออก น้ำเสียงเข้มๆ ของผู้หญิงก็ดังขึ้นด้านหลังจนทั้งฉันและโปสเตอร์ต้องหันไปมอง และวินาทีต่อมาคำๆ หนึ่งก็หลุดออกมาจากริมฝีปากบางของคนตัวโต
"คะ...คุณย่า!"
อะไรนะ! ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉันตอนนี้คือคุณย่าของโปสเตอร์งั้นเหรอ...ถ้าอย่างนั้นเมื่อกี้ท่านก็ต้องเห็นว่าฉันถูกโปสเตอร์แกล้งล็อกคอเต็มๆ ตาเลยน่ะสิ แล้วอย่างนี้ท่านจะคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงแบบไหนกันเนี่ย!
"ก็ย่าน่ะสิ แกคิดว่าเป็นใครกัน" คุณย่าของโปสเตอร์หรี่สายตาลงเล็กน้อยแล้วค่อยๆ เลื่อนมามองฉันที่ยังคงยืนนิ่งอยู่ในอ้อมกอดของหลานชายท่าน แต่วินาทีต่อมาฉันก็ผลักโปสเตอร์ให้ออกห่างประหนึ่งเชื้อโรคชนิดรุนแรง
"สวัสดีคร้าบคุณย่าสุดที่รักของโปสเตอร์ ขอหอมสักฟอดได้ไหมคนสวย"
ถ้าเป็นทุกครั้งไอ้เพลย์บอยคงโวยวายใส่ฉันไปแล้วที่ทำท่าทางเหมือนรังเกียจใส่อย่างชัดเจน แต่เพราะครั้งนี้มีคุณย่ายืนจ้องเขม็งอยู่ด้วยเขาจึงเลือกถลาเข้าไปกอดคนตรงหน้าพร้อมกับกดจูบลงบนแก้มของคนในอ้อมแขนแทน
"คราวนี้ฉายเดี่ยวเลยเหรอเนี่ย...เฟี้ยวเงาะชะมัด"
"เฟี้ยวเงาะอะไรของแก...ไหนตอบคำถามย่ามาซิว่าแม่หนูคนนั้นเป็นใคร" ไม่พูดเปล่าเพราะคุณย่าพยักพเยิดหน้ามาทางฉันด้วย ทำเอาฉันแอบสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะยกมือไหว้ท่านราวนางสาวไทยพร้อมเริ่มพูดแนะนำตัวเอง
"สะ...สวัสดีค่ะคุณย่า หนูชื่อเฌอเอมค่ะ"
"หนูเป็นอะไรกับโปสเตอร์จ๊ะ...แฟนหรือเปล่า?"
ฟะ...แฟนอะไรกันคะคุณย่า! ไม่ใช่นะคะ ได้โปรดอย่าเข้าใจผิด ฮืออออ
ก็ยอมรับตามตรงว่าหลานชายคุณย่าหน้าตาดี แต่ถึงเขาจะหล่อและมีเสน่ห์จนสาวน้อยสาวใหญ่ติดใจกันเป็นพรวนจนอยากจะมีไว้ครอบครอง แต่หนูคนหนึ่งล่ะค่ะที่ไม่คิดจะคว้าไอ้เพลย์บอยมาทำแฟน นิสัยก็กะล่อน ปากก็อ้อนมืออ้อนเท้าตลอดเวลา ขืนตกลงปลงใจกับหมอนี่มีแต่นรกกับนรกแน่ๆ ค่ะ
"คุณย่าคะคือหนูไม่ได้..." ฉันพยายามจะปฏิเสธกลับไปแต่จู่ๆ ท่อนแขนแข็งแรงของคนข้างๆ ก็ตวัดมาโอบรัดรอบเอวคอดกิ่ว เท่านั้นไม่พอยังรั้งร่างฉันให้แนบชิดกับร่างกำยำอีก บ้าไปแล้ว! ไอ้บ้านี่ทำอะไรของมัน ทำอะรายยยยย!
หมับ!
"ทำอะไรของแกวะ มาโอบเอวฉันทำไม!"
เพราะการกระทำในตอนนี้ของโปสเตอร์ดูจะเกินเลยมากไปและอาจทำให้คุณย่ามองฉันเป็นผู้หญิงไร้ยางอายได้ ฉันจึงต้องหันไปกระซิบถามพลางแกะมือที่เหนียวยิ่งกว่ากาวตราช้างออกอย่างทุลักทุเล
บ้าเอ๊ย! ทำไมถึงแกะไม่ออกสักที จะเหนียวแน่นเกินไปแล้วนะ!
"นิ่งไว้...แล้วทุกอย่างจะดีเอง"
"ดีกับผีน่ะสิ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!"
พูดมาได้หน้าตาเฉยว่า ‘นิ่งไว้แล้วทุกอย่างจะดีเอง’ มันจะดีได้ยังไงกันเล่า! มายืนโอบกอดกันต่อหน้าผู้หลักผู้ใหญ่แบบนี้คิดว่าดีแล้วใช่ไหมไอ้สมองกลวงเอ๊ย!
"เฉยดิวะ ไม่งั้นฉันจะจูบแกโชว์คุณย่าเลยนะ"
"...!!!"
มะ...เมื่อกี้ไอ้หมอนี่พูดว่าอะไรนะ คิดจะจูบฉันต่อหน้าคุณย่าอย่างนั้นเหรอ ไม่นะ! ฉันไม่อยากเสียจูบแรกให้เพลย์บอยตัวพ่ออย่างโปสเตอร์ และด้วยความกลัวฉันเลยหยุดดิ้นพร้อมกับหุบปากฉับทันที เรื่องอะไรจะไปยอมกันเล่า!
แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังหันไปจิกตาใส่คนตัวสูงอย่างหงุดหงิด ไม่รู้ว่าตอนนี้กำลังคิดเรื่องสารเลวอะไรอยู่ แต่ที่รู้ๆ คือฉันถูกดึงเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้เป็นแน่!
"ตกลงยังไงจ๊ะเฌอเอม หนูเป็นแฟนกับโปสเตอร์หรือเปล่า"
"หนูเป็น..."
"เป็น...?"
"เป็นแฟนผมครับ"
ขวับ!
ทั้งฉันและคุณย่าต่างก็หันขวับไปมองเจ้าของประโยคเมื่อครู่ทันที บอกเลยนะว่าถ้าพูดต่อหน้าคนอื่นฉันจะไม่รู้สึกช็อกแบบนี้เลย แต่เพราะดันพูดต่อหน้าคุณย่าของเขาไง บ้าเถอะ! พูดออกมาได้ยังไงวะ แฟนเฟินอะไรกัน! คุณย่าอย่าไปเชื่อไอ้กะล่อนนี่นะคะ มันไม่ใช่เรื่องจริงค่ะ ม่ายช่ายยยยยยยยย (กรีดร้องในใจ)
"เมื่อกี้แกว่าอะไรนะ ย่าได้ยินไม่ถนัด" คุณย่าถามออกมาอีกครั้งในขณะที่ฉันได้แต่ยืนนิ่งไม่ไหวติงเพราะช็อกเกินกว่าจะพูดหรือขยับตัวได้
"ผมบอกว่ายัยนี่เป็นแฟนผมครับ" ตอบแบบชัดถ้อยชัดทำเกินไปหรือเปล่าฮะไอ้เพลย์บอย!
"...!!!" ส่วนฉันแทนที่จะตอบปฏิเสธกลับไป กลับทำได้เพียงยืนฟังนิ่งๆ เสียอย่างนั้น
มันใช่เรื่องไหมฮะเฌอเอม!
“หลานชายของคุณย่าเปลี่ยนไปแล้วนะ ตอนนี้ผมมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้วครับ” พูดจบก็ออกแรงบีบต้นแขนฉันเบาๆ ก่อนจะหันมาถามด้วยน้ำเสียงหวานเลี่ยนจนอยากจะอาเจียนออกมาให้รู้แล้วรู้รอด "...ใช่ไหมครับที่รัก"
'ที่รัก' งั้นเหรอ...ให้ตายสิ! นี่มันเรื่องบัดซบอะไรกัน!
TO BE CONTINUED...
ภาพประกอบจาก : www.tumblr.com , www.siamzone.com ฯลฯ
The-Daziie's Talk
[27/01/2016] กล้าเอาตัวเองไปเทียบกับณเดชน์ เจมส์จิ มาริโอ้ มั่นหน้ามากจริงๆ ค่ะอีโปสเตอร์ 5555555 นักอ่านเบะปากมองบนกันเป็นแถวกับความหลงตัวเองเข้าขั้นสูงสุดของผู้ชายคนนี้ ทำใจกับมันหน่อยนะ หมั่นไส้ก็เชิญด่าได้เลยค่ะ เต็มที่เลย 555555555 อย่าลืมเม้นท์ๆ โหวตๆ ให้นิยายเรื่องนี้ด้วยนะคะ
[11/02/2015] โอ๊ยตาย! จู่ๆ ก็ถูกอีเพลย์บอยมัดมือชกให้เป็นแฟนซะงั้น หาทางเอาตัวรอดได้เก๋กู๊ดมาก (ประชด) แล้วเฌอเอมก็ตกกระไดพลอยโจรไปด้วยเลยไง เวรกรรมของนางเอก...งานเข้าโดยไม่ทันตั้งตัว งานช้างด้วย เชื่อเถอะว่านอกจากจะเจ้าเล่ห์และกะล่อนแล้ว ยังหน้าด้านหน้ามึนได้โล่ด้วย ไม่มีใครเกินผู้ชายคนนี้ชริมๆ
นักอ่านคนไหนสนใจสั่งซื้อนิยาย สอบถามได้ที่แฟนเพจ The-Daziie นะคะ โดยการเสิร์ชหาชื่อนี้ใน Facebook ได้เลย (จริงๆ ทำลิ้งค์ไว้แต่มันกดไม่ได้ ยังไงใครสนใจเสิร์ชหาชื่อแล้วกันเนอะ)
ตัวอย่างหน้าปกนิยายค่ะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ